Thursday, 2 May 2024
TodaySpecial

บุคคลที่มีความสามารถหลายรอบด้าน ทั้งการเป็นนักเขียน นักปราชญ์ และนักการเมือง จนกระทั่งเคยได้รับรางวัลศิลปินแห่งชาติมาแล้ว และในวันนี้ถือเป็นวันคล้ายวันเกิดของบุคคลท่านนี้ เขาคือ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช

ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เมื่อช่วงปี พ.ศ. 2518 ในฐานะหัวหน้าพรรคกิจสังคม แต่หากย้อนเวลากลับไปในวัยเยาว์ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช เกิดเมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2454 เป็นโอรสคนสุดท้องของ พลโท พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าคำรบ กับ หม่อมแดง (บุนนาค)

ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ถือเป็นบุคคลที่มีความสามารถหลายรอบด้าน จึงทำให้มีบทบาทหน้าที่อันหลากหลาย อาทิ เคยเป็นผู้ก่อตั้งพรรคก้าวหน้า เมื่อปี พ.ศ. 2488 เคยเป็นผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์สยามรัฐ เมื่อปี พ.ศ. 2493 นอกจากนี้ยังเคยรับบทบาทการแสดง ทั้งภาพยนตร์ไทย และต่างประเทศ มาแล้วเช่นกัน

ส่วนอีกหนึ่งบทบาทสำคัญที่นักอ่านคุ้นเคย คือการเป็นนักประพันธ์นวนิยายเลื่องชื่อ อาทิ สี่แผ่นดิน, หลายชีวิต, ไผ่แดง, กาเหว่าที่บางเพลง และอีกมากมาย ด้วยพรสวรรค์และความสามารถอันเปี่ยมล้นนี้ จึงได้รับรางวัลศิลปินแห่งชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2528

ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2538 ด้วยวัย 84 ปี ต่อมา กระทรวงวัฒนธรรมได้เสนอชื่อต่อองค์การยูเนสโก ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก ในสาขาการศึกษา วัฒนธรรม สังคมศาสตร์ และสื่อสารมวลชน โดยนับเป็นคนไทยลำดับที่ 20 ที่ถูกนำเสนอชื่อและได้รับการยกย่องในระดับนานาชาติ

วันนี้ถือเป็นวันครบรอบ 110 ปี ของอดีตนายกฯ คนที่ 13 ของเมืองไทย ผลงานและความสามารถของท่านก็ยังคงถูกกล่าวขวัญถึงอยู่เสมอ

.

ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์_ปราโมช


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

วันนี้เป็นวันสำคัญของ ‘กรุงเทพมหานคร’ เนื่องจากเป็นวันครบรอบ 239 ปี ของการสถาปนาเมืองหลวงของประเทศไทยแห่งนี้

โดยหลังจากที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงปราบดาภิเษกขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 ก็โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายราชธานีจากฝั่งธนบุรี มาที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อสถาปนาเป็นเมืองหลวงใหม่แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

ตามประเพณีโบราณของการสร้างเมืองสำคัญ จำเป็นต้องมีการยกหลักเมืองขึ้นเป็นมิ่งขวัญ ทำให้ในวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2325 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงโปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชพิธียกเสาหลักเมืองขึ้น โดยใช้ไม้ชัยพฤกษ์ทำเป็นเสาหลักเมือง ประกอบด้านนอกด้วยไม้แก่นจันทน์ มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 75 ซ.ม. สูง 27 ซ.ม. และกำหนดให้ความสูงของเสาหลักเมืองอยู่พ้นดิน 10 นิ้ว ฝังลงในดินลึก 79 นิ้ว มีเม็ดยอดรูปบัวตูมสวมลงบนเสาหลัก ลงรักปิดทอง ล้วงภายในไว้เป็นช่องสำหรับบรรจุดวงชะตาเมือง

นอกจากพระราชพิธียกเสาหลักเมืองแล้ว ยังพระราชทานนามพระนครแห่งนี้ใหม่ว่า ‘กรุงเทพมหานคร บวรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์’ ซึ่งเป็นชื่อเมืองที่ยาวที่สุดในโลก

ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้ทรงเปลี่ยนจาก ‘…บวรรัตนโกสินทร์…’ เป็น ‘…อมรรัตนโกสินทร์…’ ทั้งนี้ เสาหลักเมืองยังถูกสร้างขึ้นอีกหนึ่งต้น ในสมัยรัชกาลที่ 4 เช่นกัน เนื่องจากเสาเดิมมีการชำรุด กระทั่งเข้าสู่รัชสมัยของรัชกาลที่ 9 ในวาระกรุงเทพมหานครครบรอบ 200 ปี จึงได้มีการปรับปรุงศาลหลักเมืองทั้งสองต้น ให้มีความงดงามบริบูรณ์ เป็นมิ่งขวัญของเมือง และเป็นที่สักการะของประชาชนสืบมาจนทุกวันนี้

.

ที่มา:

https://th.wikipedia.org/wiki/กรุงเทพมหานคร,

https://news1live.com/detail/9630000041600


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

เพราะ ‘สิ่งแวดล้อม’ เป็นเรื่องของทุกคนบนโลกนี้ ยิ่งปัจจุบัน โลกมีสภาวะที่เปลี่ยนแปลงไป ส่วนหนึ่งเกิดจากการดำเนินชีวิตของพวกเราทุกคน ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของวันสำคัญในวันนี้ นั่นคือ 'วันคุ้มครองโลก' หรือ 'Earth Day'

วันคุ้มครองโลก ถูกจัดขึ้นในวันที่ 22 เมษายน ของทุกปี โดยที่มาของวันสำคัญนี้ ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ.2505 มันเริ่มต้นขึ้นจาก นายเกย์ลอร์ด เนลสัน สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ ที่ขอให้ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี้ ยกเรื่องสิ่งแวดล้อมขึ้นเป็นวาระแห่งชาติ 
ต่อมารัฐบาลสหรัฐฯ จึงได้มีการรณรงค์อย่างจริงจัง กระทั่งในปี พ.ศ.2512 สมาชิกวุฒิสภาเนลสัน ได้ผลักดันให้มีการจัดการชุมนุมประชาชนระดับรากหญ้าทั่วประเทศขึ้น เพื่อให้แสดงความคิดเห็นในปัญหาสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดกระแสความห่วงใยในวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่เป็นอยู่ของสังคมอเมริกันในขณะนั้น จนนำสู่การก่อตั้งวันคุ้มครองโลกขึ้น เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2513

สำหรับประเทศไทย วันคุ้มครองโลก เริ่มถูกพูดถึงเป็นครั้งแรก เมื่อราวปี พ.ศ.2533 ในช่วงหลังเหตุการณ์การเสียชีวิตของ สืบ นาคะเสถียร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จนทำให้เหล่าคณาจารย์และนักศึกษากว่า 16 สถาบัน รวมตัวกันจัดงาน ‘วันคุ้มครองโลก’ ขึ้นมา ทั้งนี้เพื่อให้ตระหนักถึงวิกฤติการทำลายสัตว์ป่าและป่าไม้ของชาติ รวมทั้งยังเป็นการหาทุนเข้า ‘มูลนิธิสืบนาคะเสถียร’ เพื่อใช้ในการปกป้องรักษาผืนป่า ที่เป็นมรดกของโลกอีกด้วย

สาระสำคัญของวันคุ้มครองโลก คือลดอัตราการเกิดคาร์บอนไดออกไซด์ การอนุรักษ์ผืนป่า ตลอดจนการรักษาสภาพสมดุลของทรัพยากรทางธรรมชาติ ซึ่งไม่ว่าใครก็ล้วนมีส่วนร่วมในวันคุ้มครองโลกนี้ได้ แค่เพียงร่วมมือร่วมใจกัน โลกจะสวยขึ้นหรือไม่...อยู่ที่ความมุ่งมั่นตั้งใจของเรานี่เอง

ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/วันคุ้มครองโลก


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

เอ่ยชื่อ ‘บรรหาร ศิลปอาชา’ คอการเมืองไทย รู้จักผู้ชายคนนี้เป็นอย่างดี นี่คือ อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย และอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยคนที่ 21 ซึ่งในวันนี้ ถือเป็นการรำลึกครบรอบ 5 ปี การจากไปของนักการเมืองชื่อดังคนนี้

บรรหาร ศิลปอาชา เป็นชาวจังหวัดสุพรรณบุรี เดิมชื่อว่า เต็กเซียง แซ่เบ๊ และมีชื่อเล่นว่า เติ้ง ในวัยเยาว์เจ้าตัวศึกษาชั้นมัธยมที่โรงเรียนวัฒนศิลป์วิทยาลัย แต่ต้องหยุดเรียนไป เนื่องจากภาวะสงครามโลกครั้งที่สอง จนต่อมาได้มาก่อตั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ก่อนจะเติบโตบนเส้นทางธุรกิจเคมีภัณฑ์ และก้าวสู่เส้นทางการเมืองในที่สุด

บรรหาร ศิลปอาชา ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2519 ที่จังหวัดสุพรรณบุรีบ้านเกิด จากนั้นก็ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. มาทุกสมัย ต่อมาในปี พ.ศ. 2523 ขึ้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคชาติไทย กระทั่งในปี พ.ศ.2537 จึงขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคในที่สุด

บนเส้นทางการเมือง บรรหาร ศิลปอาชา เป็นรัฐมนตรีมาแล้วหลายกระทรวง อาทิ ก.เกษตรและสหกรณ์, ก.คมนาคม, ก.อุตสาหกรรม, ก.มหาดไทย และ ก.การคลัง กระทั่งในการเลือกตั้งทั่วไป ปี พ.ศ. 2538 บรรหาร ศิลปอาชา ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทย ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่มีสมาชิกพรรคได้รับการเลือกตั้งมากที่สุด จึงได้รับสิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาล ส่งผลให้เจ้าตัวก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย โดยบริหารราชการแผ่นดินอยู่เป็นระยะเวลาราว 1 ปี 4 เดือน ก่อนจะตัดสินใจยุบสภาในเวลาต่อมา

บรรหาร ศิลปอาชา ถือเป็นนักการเมืองที่มีความโชกโชนบนสนามการเมืองไทย ตลอดจนสร้างสรรค์ผลงานต่าง ๆ เพื่อประเทศชาติมากมาย จนเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2559 เจ้าตัวเกิดภาวะภูมิแพ้และหอบหืดกำเริบ ก่อนจะถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559 ปิดตำนานนักการเมืองเจ้าของฉายา ‘มังกรเมืองสุพรรณ’ ลงด้วยวัย 83 ปี

.

ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/บรรหาร_ศิลปาชา


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

ประเทศไทยมีการจัดระเบียบการปกครองกันมากว่าร้อยปี หนึ่งในองค์กรการปกครองที่มีความสำคัญ และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศมาตลอด นั่นคือ ระบบเทศบาล โดยวันนี้ถูกยกให้เป็น ‘วันเทศบาล’ เพื่อเชิดชูและตระหนักถึงความสำคัญของหน่วยการปกครองที่มีอายุมายาวนาน

เทศบาล ถูกประกาศใช้เป็นพระราชบัญญัติเมื่อราวปี พ.ศ.2496 แต่หากสืบย้อนกลับไป รูปแบบการปกครองส่วนท้องถิ่นเกิดขึ้นอย่างเป็นระเบียบแบบแผนมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์ได้ทรงปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินของไทยขึ้นใหม่ เพื่อให้มีความทันสมัย โดยจัดให้มีการปกครองส่วนท้องถิ่นขึ้นเป็นครั้งแรกในรูปแบบสุขาภิบาล ที่สุขาภิบาลท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ.2441 ก่อนจะขยายการตั้งสุขาภิบาลออกไปในท้องถิ่นต่าง ๆ ทั่วประเทศ

ต่อมาจึงได้มีการเปลี่ยนเป็น เทศบาล โดยเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ให้บริการ แก้ไขปัญหา และตอบสนองความต้องการแก่ประชาชน แบ่งออกเป็น เทศบาลตำบล เทศบาลเมือง และเทศบาลนคร ทั้งนี้ในเทศบาลแต่ละแห่งจะมี ‘นายกเทศมนตรี’ ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารงานในท้องที่เทศบาลทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันมีเทศบาลอยู่ราว 2,500 แห่ง และมีจำนวนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวมแล้วกว่า 8,000 แห่งทั่วประเทศ

ด้วยบทบาทหน้าที่ที่คอยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้พี่น้องประชาชน ต่อมา กระทรวงมหาดไทยจึงได้ประกาศเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2532 กำหนดให้ วันที่ 24 เมษายนของทุกปี เป็นวันเทศบาล เพื่อเชิดชูการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เทศบาล ในการพัฒนาตนเอง พัฒนางาน และก้าวต่อไปอย่างมุ่งมั่น เพื่อให้บรรลุปรัชญาแห่งรากฐานประชาธิปไตยของเทศบาล นั่นคือ เป็นของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน

ที่มา: https://gorporonline.com/articles/history-of-the-municipality/

https://th.wikipedia.org/wiki/เทศบาล


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

‘สมเด็จพระนเรศวรมหาราช’ คือหนึ่งในกษัตริย์ไทยที่ถูกกล่าวขานถึง โดยเฉพาะเรื่องพระปรีชาสามารถในการรบ จนกอบกู้อิสรภาพจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งแรกได้สำเร็จ วันนี้ถือเป็นวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่พระองค์นี้

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีพระนามเดิมว่า พระองค์ดำ ขณะที่ทรงพระเยาว์ พระองค์ทรงใช้ชีวิตอยู่ที่พระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลก จนกระทั่งพระเจ้าบุเรงนองยกทัพมาตีเมืองพิษณุโลก ได้ทรงขอพระนเรศวรไปเป็นองค์ประกันที่หงสาวดี ทำให้พระองค์ต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนตั้งแต่มีพระชนมายุเพียง 9 พรรษา ไปประทับอยู่กรุงหงสาวดี 8 ปี และเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยาเมื่อพระชนมายุ 17 พรรษา ในปี พ.ศ.2115

เมื่อเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยา ทรงได้รับพระราชทานนามว่า ‘พระนเรศวร’ และโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระอุปราช ไปปกครองเมืองพิษณุโลก ด้วยทรงมีพระปรีชาสามารถด้านการรบ ทำให้ชื่อเสียงเริ่มแผ่กระจายไปในวงกว้าง

กระทั่งในปี พ.ศ.2135 พระเจ้านันทบุเรง โปรดให้พระมหาอุปราชา นำกองทัพทหารสองแสนสี่หมื่นคน หมายจะตีกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนเรศวรมหาราชจึงทรงเตรียมไพร่พล มีกำลังหนึ่งแสนคน เพื่อทำศึกครั้งสำคัญ หรือที่รู้จักกันในชื่อ สงครามยุทธหัตถี กระทั่งสามารถเอาชนะในการศึกครั้งสำคัญนี้ได้ เป็นเหตุให้ไม่มีกองทัพใดกล้ายกมารุกรานกรุงศรีอยุธยาอีกเป็นเวลานาน

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2133 กระทั่งในปี พ.ศ.2148 ขณะที่ยกทัพขึ้นไปทางเหนือ เพื่อทำศึกเมืองนายและกรุงอังวะ ทรงมีพระอาการประชวรเป็นหัวระลอก (ฝี) ขึ้นที่พระพักตร์ แล้วมีพระอาการหนักลง ก่อนจะสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 รวมเวลาการครองราชสมบัติ 15 ปี

วันนี้ถือเป็นวันครบรอบการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์ผู้ทรงมีพระปรีชาสามารถพระองค์หนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย ประชาชนชาวไทยจึงขอน้อมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงกอบกู้อิสรภาพ และสร้างบ้านเมืองให้เป็นปึกแผ่นมาจนถึงทุกวันนี้

ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/สมเด็จพระนเรศวรมหาราช


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

.

การสาธารณสุขไทยมีพัฒนาการมากว่าร้อยปี และวันนี้ก็เป็นวันสำคัญ โดยเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระราชทานกำเนิด ‘โรงพยาบาลศิริราช’ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลหลวงแห่งแรกของประเทศไทย ที่มีอายุยาวนานที่สุด

ย้อนเวลากลับไป ในปี พ.ศ.2424 เกิดอหิวาตกโรคระบาดหนัก ในครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งโรงพยาบาลชั่วคราวในที่ชุมชนขึ้นรวม 48 ตำบล ภายหลังเมื่อโรคร้ายทุเลา จึงได้ทำการปิดโรงพยาบาลลง แต่ในพระราชหฤทัยทรงตระหนักว่า การมีโรงพยาบาลนั้น จะสร้างประโยชน์สุข ให้แก่พสกนิกรได้ในระยะยาว

ต่อมา เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2429 พระองค์จึงทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะกรรมการจัดสร้างโรงพยาบาลขึ้น เพื่อดำเนินการก่อสร้างโรงพยาบาลถาวรแห่งแรก ณ บริเวณวังของกรมพระราชวังบวรสถานพิมุข ( วังหลัง) ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา

โรงพยาบาลใช้เวลาก่อสร้างอยู่ราว 2 ปี กระทั่งในวันที่ 26 เมษายน พ.ศ.2431 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพระราชพิธีเปิดโรงพยาบาลแห่งแรกนี้ และพระราชทานนามว่า ‘โรงศิริราชพยาบาล’ หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า ‘โรงพยาบาลวังหลัง’ หรือที่เรียกกันในปัจจุบันว่า ‘โรงพยาบาลศิริราช’

โรงพยาบาลศิริราช ถือเป็นโรงพยาบาลหลวงแห่งแรกของประเทศไทย และดูแลรักษาคนไทยมาเนิ่นนาน โดยช่วงหนึ่ง เมื่อสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมขุนสงขลานครินทร์ (สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก) ทรงสำเร็จการศึกษาด้านการแพทย์ และเสด็จกลับมาทำงานที่โรงพยาบาลศิริราช ก็ทรงมีการพัฒนาการรักษาพยาบาลให้เจริญรุดหน้ายิ่งขึ้น รวมถึงยังเปิดเป็นโรงเรียนแพทย์ ผลิตบุคลากรทางสาธารณสุข ออกมาเพื่อดูแลรักษาประชาชนมากขึ้นเช่นกัน

นับถึงวันนี้ โรงพยาบาลศิริราช มีอายุกว่า 133 ปี และยังคงทำหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยตลอดมา แม้กระทั่งในช่วงเวลานี้ ที่ประเทศไทยกำลังตกอยู่ในสภาวะที่มีโรคระบาดรุนแรง ศิริราชพยาบาลก็ถือเป็นหนึ่งโรงพยาบาลที่ให้การช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอด นับเป็นโรงพยาบาลที่เกิดจากจากพระราชปณิธาน และสร้างประโยชน์กับประเทศชาติอย่างแท้จริง

 

ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/โรงพยาบาลศิริราช, http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=250360


สนับสนุนข่าวโดย : แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

คลิก : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

‘ฝิ่น’ เป็นสารประกอบที่ได้จากยางของผลฝิ่น แต่เนื่องจากจัดว่าเป็นยาเสพติด วันนี้เมื่อกว่า 182 ปีมาแล้ว ในหลวงรัชกาลที่ 3 ทรงโปรดเกล้า ฯ ให้มีการพิมพ์ใบปลิวประกาศห้ามสูบและค้าฝิ่น แจกจ่ายไปตามบ้านเรือนประชาชน ถือเป็นการพิมพ์ด้วยตัวอักษรไทยเป็นครั้งแรก

ที่มาของ ‘ฝิ่น’ เกิดจากพ่อค้าชาวอังกฤษ ที่ลำเลียงสินค้าฝิ่นเข้าไปขายในประเทศจีน ต่อมาเมื่อมีชาวจีนอพยพเข้ามาสู่ประเทศไทย จึงมีชาวจีนส่วนหนึ่งนำฝิ่นติดตัวเข้ามาด้วย โดยเริ่มเข้ามาแพร่หลายตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จวบจนเข้าสู่แผ่นดินกรุงรัตนโกสินทร์ ทั้งรัชกาลที่ 1 และรัชกาลที่ 2 ก็ทรงกวดขันและออกบทลงโทษผู้ที่ใช้ยาเสพติดชนิดนี้มาโดยตลอด

กระทั่งล่วงเข้าสู่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 การค้าขายฝิ่นยังคงแพร่หลายออกไปมากขึ้น บางรายมีสถานที่ปลูกกันเป็นเรื่องเป็นราว พระองค์จึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้จ้างโรงพิมพ์ของหมอบรัดเลย์ มิชชันนารีชาวอเมริกัน ให้พิมพ์พระราชโองการขึ้น โดยเป็นประกาศเรื่อง ‘ห้ามสูบฝิ่นและค้าฝิ่น’ จัดทำเป็นใบปลิวจำนวนกว่า 9,000 ฉบับ แล้วแจกจ่ายไปตามบ้านเรือนของประชาชนทั่วประเทศ

ทั้งนี้ ใบประกาศนี้ ถือเป็นเอกสารทางราชการฉบับแรกของประเทศที่ใช้วิธีการตีพิมพ์ โดยทำการสั่งซื้อตัวพิมพ์มาจากประเทศสิงคโปร์ และผลิตออกมาโดยโรงพิมพ์ภายในประเทศเป็นครั้งแรก

ผ่านมากว่า 182 ปี นับจากวันแรกที่มีการใช้โรงพิมพ์ เพื่อตีพิมพ์ประกาศและข่าวสาร ถึงวันนี้เทคโนโลยีก้าวล้ำไปอีกมากมาย แต่ตัวอักษรแรกเริ่มที่ถูกบันทึกในการพิมพ์ ก็ยังคงเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าจดจำอยู่เสมอ


ที่มา: http://www.kingrama3.or.th

https://guru.sanook.com/26137/

วันนี้เมื่อ 71 ปีก่อน ถือเป็นวันสำคัญที่ถูกบันทึกลงในหน้าประวัติศาสตร์ชาติไทย โดยเป็นวันพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร กับ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

โดยหากย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้น ทั้งสองพระองค์ทรงพบกันเป็นครั้งแรกที่ประเทศฝรั่งเศส ในปี พ.ศ.2492 และในปีเดียวกันนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช (พระยศในขณะนั้น) ทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร (พระยศในขณะนั้น) มีโอกาสเข้าเยี่ยมพระอาการเป็นประจำ กระทั่งทรงหายประชวร ทั้งสองพระองค์ก็มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด

กระทั่งเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ.2492 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ประกอบพิธีหมั้นขึ้นในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต่อมาเมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ.2493 ทั้งสองพระองค์เสด็จนิวัติพระนคร และโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสขึ้นอย่างเรียบง่าย ณ วังสระปทุม

โดยงานพระราชพิธีถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2493 ภายในงานมีพระบรมวงศ์ศานุวงศ์ที่ใกล้ชิด ตลอดจนมีผู้ประกอบพระราชพิธีตามกฎหมาย คือ นายฟื้นบุญ ปรัตยุทธ นายอำเภอปทุมวัน เป็นนายทะเบียน รวมทั้งมีราชสักขี 2 คนคือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ณ ขณะนั้น และพลเอกมังกร พรหมโยธี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ขณะนั้น ร่วมลงนาม ภายหลังจึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนา ม.ร.ว.สิริกิติ์ ขึ้นเป็นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี

นับแต่นั้นเป็นต้นมา พระราชปณิธานและพระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่มีต่ออาณาประชาราษฎร์ ก็ได้ถ่ายทอดมายังสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และทั้งสองพระองค์ก็ทรงงานร่วมกันต่อเนื่องตลอดมามิได้ขาด


ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/พระราชพิธีราชาภิเษกสมรส_พุทธศักราช_/2493

วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันสำคัญ โดยเป็นวันคล้ายวันประสูติของ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าธีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ทรงเจริญพระชันษา 16 ปี

สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าธีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ประสูติเมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2548 เวลา 18.35 น. ณ โรงพยาบาลศิริราช เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี (ขณะดำรงพระอิสริยยศเป็นพระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร)

โดยเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2548 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชหัตถเลขาขนานพระนามว่า ‘พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ’ โดยทรงพระมหากรุณาธิคุณอธิบายพระนามว่า ผู้ทำประทีปคือปัญญาให้สว่างกระจ่างแจ้ง ผู้ทำเกาะคือที่พึ่งให้รุ่งเรืองโชติช่วง

ต่อมาเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2562 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการ สถาปนาและเฉลิมพระนามพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เป็น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร

วันนี้ถือเป็นวันคล้ายวันประสูติ ขอพระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง เป็นมิ่งขวัญต่อพสกนิกรชาวไทยสืบไป


ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ_เจ้าฟ้าธีปังกรรัศมีโชติ

 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top