Friday, 16 May 2025
NewsFeed

‘พราวฟ้า-เสี่ยโบ๊ท’ แจ้งข่าวเศร้า ‘ลูกน้อย’ ในท้องไม่อยู่แล้ว เผย เข้าใจโชคชะตา-พยายามยิ้มสู้ ท่ามกลางแฟนคลับแห่ส่งกำลังใจ

เมื่อวานนี้ (31 มี.ค.67) ‘พราวฟ้า’ การัญชิดา คุ้มสุวรรณ นักแสดงสาวชื่อดัง และ ‘เสี่ยโบ๊ท’ ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์หนุ่มจากค่ายมวยเพชรยินดี โพสต์อินสตาแกรมแจ้งข่าวเศร้า สูญเสียสมาชิกตัวน้อยในท้อง หลังเพิ่งประกาศข่าวดีได้ไม่นาน

โดยก่อนหน้านี้ ‘พราวฟ้า’ ควง ‘เสี่ยโบ๊ท’ แจ้งข่าวดีแก่แฟน ๆ ว่ากำลังตั้งครรภ์ต้อนรับปีมังกรทองในโซเชียลมีเดียส่วนตัว อย่างไรก็ตามล่าสุดเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา จากข่าวดีดังกล่าวต้องกลายเป็นข่าวเศร้า

"ผ่านเวลามาพอสมควรที่จิตใจของพราวและพี่โบ๊ทเข้มแข็งพอที่จะบอกให้ทุกคนรับทราบว่า ลูกของเรา ไม่อยู่แล้วนะคะ" พราวฟ้า เริ่มกล่าว

"แน่นอนว่าเป็นเรื่องราว และช่วงเวลาที่ยากลำบากของเราสองคนมากที่สุด และพยายามยิ้มสู้กับโชคชะตาอย่างสุดความสามารถ ดังนั้นหากใครได้เดินผ่านเราสองคน ฝากส่งยิ้ม ให้กำลังใจเรานะคะ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่เห็นน้ำตาของใครอีก เราสองคนจะรักษาร่างกาย จิตใจ ให้เข้มแข็งมากขึ้นในเร็ววัน เพื่อที่จะมีข่าวดีอีกครั้งค่ะ"

"อย่างไรก็ตาม ขอบคุณจากใจจริง ถึงพี่ ๆ แม่ ๆ ที่ส่งความห่วงใยมาให้พราวทุกช่องทาง รวมถึงคำแนะนำต่าง ๆ ในช่วงเวลาที่รับรู้ว่าพราวมีเบบี๋ หัวใจพราวฟูทุกครั้งที่ได้รับพลังงานดี ๆ เหล่านี้ค่ะ"

"สุดท้ายอยากบอกกับลูกว่า ขอบคุณที่ทำให้แม่มีความสุข ทุกครั้งที่แม่หายใจแล้วมีหนูอยู่ด้วย เป็นอะไรที่พิเศษมาก ๆ ขอบคุณ…ที่มอบบทเรียนให้แม่ ในช่วงเวลาที่ทุกข์ที่สุด แม่ได้เห็นถึงคนที่รักแม่จริง ๆ ครั้งหน้ากลับมา ไม่ต้องกลับไปเอาของเล่นแล้วนะครับ ขอให้ลูกสุขภาพแข็งแรง แม่อยากเห็นหน้าหนูเร็ว ๆ จัง รักลูกที่สุดครับ ดวงใจแม่" นักแสดงสาวชื่อดัง ทิ้งท้าย

หลังมีการประกาศข่าวเศร้าออกไปก็มีบุคคลในวงการบันเทิง วงการมวย รวมไปถึงแฟนคลับเข้ามาคอมเมนต์ส่งกำลังใจให้ทั้งสองคนผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้

‘กัมพูชา’ เตรียมเสนอ ‘สงกรานต์กัมพูชา’ เป็นมรดกโลก หวัง!! ‘วัฒนธรรมของบรรพบุรุษ’ ได้การยอมรับในระดับสากล

หลังจากที่ ‘ประเพณีสงกรานต์ของไทย’ มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกมายาวนาน จนในปี 2566 ที่ผ่านมา ‘ยูเนสโก’ ประกาศขึ้นทะเบียน ‘สงกรานต์ไทย’ ให้เป็นมรดกโลกวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ในรายการบัญชีตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ

ล่าสุดประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ‘กัมพูชา’ ก็เตรียมเสนอ ‘สงกรานต์กัมพูชา’ หวังเป็นมรดกโลกเช่นกัน

โดยเมื่อวานนี้ (31 มี.ค. 67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ประกาศแผนเสนอรายชื่อทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ 7 รายการ และทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ 3 รายการ เพื่อขึ้นบัญชีรายชื่อมรดกโลกของยูเนสโก (UNESCO)

สถานที่ 7 แห่งที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ ได้แก่ อดีตเรือนจำเอ็ม-13 (M-13)/พิพิธภัณฑ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลสเลง/ศูนย์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เจืองแอ็ก วัดบันทายฉมาร์ สถานที่ตั้งของอังกอร์เบอเรยและพนมฎา โบราณสถานภูเขาพนมอูดง ปราสาทพระขรรค์กำปงสวาย วัดเบ็งเมเลีย และอุทยานเทือกเขาพนมกุเลน

ส่วนทรัพย์สินอีก 3 รายการที่วางแผนยื่นเสนอเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ได้แก่ สงกรานต์กัมพูชา กรอมา (Krama) ผ้าพันคอที่ทอแบบดั้งเดิม และประเพณีการแต่งงานแบบเขมร

“เราจะเสนอรายชื่อเหล่านี้เป็นมรดกโลกของยูเนสโก เพื่อให้ทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของบรรพบุรุษของเราได้รับการยอมรับและอนุรักษ์ในระดับสากล” ฮุนมาเนตกล่าว พร้อมเสริมว่าปกติแล้วการขึ้นทะเบียนจะใช้เวลาเกือบสองปี และแต่ละประเทศสามารถยื่นเสนอรายชื่อเป็นมรดกโลกของยูเนสโกได้ปีละ 1 รายการเท่านั้น

กัมพูชาจะยื่นเอกสารเพื่อขึ้นทะเบียนสงกรานต์กัมพูชาลงในรายการมรดกที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโกในปี 2025 และคาดว่าจะได้รับการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการในปี 2026

สงกรานต์เป็นคำภาษาสันสกฤตที่ใช้เรียกวันปีใหม่ตามปฏิทินทางพุทธศาสนา ซึ่งเทศกาลนี้มีการเฉลิมฉลองในหลายประเทศที่นับถือพุทธศาสนาในเอเชีย อาทิ กัมพูชา ไทย ลาว และเมียนมา

‘โซเชียลมาเลฯ’ ถาม!! ‘เหตุใด? น้ำมันในไทยแพง แต่อาหารถูก’ ตอบ!! เพราะไทยทำเกษตร-ผลิตอาหารเอง-ต้นทุนขนส่งทางถนนต่ำ

(1 เม.ย. 67) เพจ ‘World Forum ข่าวสารต่างประเทศ’ โพสต์ข้อความเรื่อง ‘ไวรัสในมาเลเซีย เกี่ยวกับค่าน้ำมันและอาหารในประเทศไทย’ โดยระบุว่า…

“ไวรัล ในมาเลเซีย 🇲🇾

**คำถาม ราคาน้ำมันในประเทศไทย ‘แพง’ แต่ทำไม อาหารถึง ‘ถูก’.......? อธิบายหน่อย

✍️จากความเห็นส่วนใหญ่ 

1.ประเทศไทย ประสบผลสำเร็จเรื่องการเกษตร ผู้ส่งออกอาหาร และวัตถุดิบ มาเลเซียต้องนำเข้า แม้แต่อาหารสัตว์ **ไทยมีพื้นที่ลุ่ม ปลูกอาหารได้ทั้งปี

2.มาเลเซีย แบ่งเป็น 2 ฝั่ง ผู้ผลิต +ต้นทุนการขนส่งไปอีกฝั่ง 

3.มาเลเซีย เสียค่าผ่านทางถนน - ไทยฟรี เมื่อคำนวนระยะจ่ายแล้วไม่ต่างกันเท่าไหร่ 

4.ในช่วงปี 2000 มาเลเซีย มุ่งเน้นไปที่ อุตสาหกรรมไฮเทค จนลืมสานต่ออุตสาหกรรมการเกษตร  ทำให้ภาคผลิตการเกษตรลดลงอย่างมาก

✍️#คุณมีความเห็นอย่างไร”

'เถาเป่า' ทดลองยิงจรวดส่งสินค้าด่วนขั้นเทพ ส่งได้ทั่วโลกภายในหนึ่งชั่วโมง แม้แต่รถยนต์

สเปซ อีพ็อก (Space Epoch) บริษัทผู้สร้างจรวดของจีน ประกาศความร่วมมือกับ ‘เถาเป่า’ แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ในเครืออาลีบาบา ทดลองส่งสินค้าตามสั่งด้วยจรวด

(1 เม.ย. 67) สตาร์ตอัปเอกชน ซึ่งมีชื่อเต็มว่า บริษัท ปักกิ่ง เซพ็อก เทคโนโลยี จำกัด (Beijing Sepoch Technology Co) ยืนยันกับโกลบอลไทมส์ สื่อของทางการจีนเมื่อวันอาทิตย์ (31 มี.ค.) ว่า จะเริ่มดำเนินการทดสอบครั้งแรกในปีนี้ ถ้าโครงการสำเร็จราบรื่น การส่งสินค้าข้ามประเทศด้วยจรวดจะสามารถทำได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ในขณะที่ตามรายงานของรอยเตอร์นั้นระบุว่า แค่ชั่วโมงเดียว

โดยการขนส่งในขั้นแรกจะใช้เซพ็อกไฮเคอร์หมายเลขหนึ่ง (Sepoch Hiker No 1) หรือ หยวนซิง - 1 ซึ่งเป็นจรวดขนส่งของเหลวขนาดกลาง ที่บริษัทเป็นผู้พัฒนา จรวดนี้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ลำตัวจรวดทำด้วยเหล็กกล้าไม่เป็นสนิม โดยเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีการผลิตทางอุตสาหกรรมร่วมกับนวัตกรรมเทคโนโลยีการรีไซเคิลทางทะเล ซึ่งช่วยลดเวลาการวิจัยและพัฒนา และลดความเสี่ยงในการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากพิสูจน์แล้วว่า ประสบความเสร็จ ก็จะช่วยตอบโจทย์บริการส่งสินค้าระหว่างประเทศ ซึ่งความต้องการของผู้บริโภคกำลังพุ่งทะยาน

จรวดมีพื้นที่บรรทุกสินค้าได้มากถึง 10 ตัน ด้วยการออกแบบให้มีปริมาตรความจุ120 ลูกบาศก์เมตร ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4.2 เมตร ซึ่งหมายความว่า นอกจากสินค้าขนาดกลางและขนาดเล็กแล้ว ยังสามารถขนส่งสินค้าขนาดใหญ่อย่างรถยนต์ หรือแม้กระทั่งรถมินิแวนได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม บริษัทสตาร์ตอัปรายนี้ยอมรับว่า การขนส่งสินค้าด้วยจรวดที่ใช้แล้วนำกลับมาใช้ใหม่อาจเป็นภารกิจที่ยากลำบากในระยะสั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีและขีดความสามารถในปัจจุบัน แต่นั่นอาจเป็น ‘การสำรวจในระยะยาวที่มีความหมาย’ บริษัทระบุ

ทั้งนี้ ในปี 2566 สเปซ อีพ็อกได้เสร็จสิ้นการทดสอบการจุดระเบิดแบบสถิตและการกู้จรวดเซพ็อกไฮเคอร์ ที่ลงจอดในทะเล โดยมีแผนทดสอบการนำจรวดลงจอดในทะเลและดำเนินการกู้ขึ้นมาเป็นเที่ยวบินแรกในเร็ว ๆ นี้ จากนั้น จึงจะทดสอบการขนส่งสินค้าด้วยจรวดเป็นครั้งแรก ซึ่งทำภายในประเทศจีนก่อน

‘ชายหนุ่ม’ ผู้ทำให้วงการติ่งยอมรับ จนสั่นสะเทือนไปทั่วทุกด้อม หลังเซลฟี่ประกบหลากคนดัง พร้อมสงสัย!! “คุณพี่เป็นใครกันแน่?”

(1 เม.ย. 67) เพจเฟซบุ๊ก ‘หนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

‘DeeChatcha’ เจ้าของช่องในติ๊กต็อก ชายหนุ่มผู้สั่นสะเทือนวงการติ่งให้สั่นสะท้านไปทุกด้อม เพราะเขาคือบุรุษผู้ประกบกับศิลปินระดับซุปตาร์ แบบคอมพลีทมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะในประเทศไทยหรือต่างประเทศ จนเป็นที่มาของคำถามที่ชาวโซเชียลอยากรู้มากที่สุดว่า ‘..คุณพี่เขาคือใคร..’

ทั้งนี้ บ้างก็บอกว่าคุณพี่เขาคือประธานบริษัทยักษ์ใหญ่สปอนเซอร์ของงานปลอมตัวมา บ้างก็บอกว่าเป็น CEO บริษัทซิเคียวลิตี้ที่คอยดูแลหาการ์ดเพื่อความปลอดภัยให้แก่บรรดาคนดัง แกเลยต้องแฝงตัวมาดูงานโดยใส่ชุดธรรมดา ๆ บ้างก็บอกว่าคุณพี่เขาคือวงในตัวจริงที่บริหารงานด้านออแกไนซ์เซอร์ระดับประเทศ และข้อสันนิษฐานอีกมากมายตามแต่ละคนจะจินตนาการ

แต่ไม่ว่าคุณพี่จะเป็นใคร คุณพี่คือตัวจริงค่ะ!

‘ก้าวไกล’ จัดก่อนเกม ศึกซักฟอก 3-4 เม.ย. นี้ ซัด!! รัฐบาล พท. รับใช้ ปชช. หรือ คนหนุนให้มีอำนาจ

(1 เม.ย. 67) เพจ ‘พรรคก้าวไกล - Move Forward Party’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า... 

7 เดือนเต็ม หลังการขึ้นบริหารประเทศของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และรัฐบาลผสมข้ามขั้วระหว่างเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เกือบครบทุกพรรค

7 เดือนที่ประชาชนที่ผิดหวังกับการจัดตั้งรัฐบาล ยังหวังว่าปัญหาเศรษฐกิจปากท้องจะดีขึ้น เชื่อว่ารัฐบาลเพื่อไทย ที่พิสูจน์ฝีมือมาแล้วในอดีต จะนำพาประเทศไทยไปข้างหน้า แก้ปัญหาของประชาชนที่หมักหมมมากว่า 10 ปีได้ แต่วันนี้

ดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่มา ค่าแรงขึ้นเป็นหย่อม ๆ ค่าไฟแพงขึ้นเรื่อย ๆ ลูกหลานยังต้องไปเกณฑ์ทหาร นักโทษคดีการเมืองยังติดคุก (และบางคนได้กลับบ้าน)

วันนี้ เกิดคำถามว่า รัฐบาลเพื่อไทย กำลังทำเพื่อใคร? เพื่อประชาชน หรือเพื่อคนที่หนุนนำให้ได้ตั้งรัฐบาล? รัฐบาลที่จัดตั้งมาโดยฝืนความต้องการของประชาชน จะรับใช้ประชาชน หรือรับใช้คนที่อนุญาตให้ตนได้กลับมามีอำนาจ?

3-4 เมษายนนี้ เชิญชวนประชาชนทุกท่านร่วมรับฟังการอภิปรายทั่วไป พรรคก้าวไกลจะนำทุกท่านไปหาคำตอบว่า รัฐบาลเพื่อใคร? ทำไมในหัวใจ ไม่ใช่ประชาชน 

สตรีในนิวยอร์ก ผวา!! ตกเป็นเป้าชกหน้าแบบไม่รู้เหตุผล ตอกย้ำความกังวลด้านอาชญากรรมในมหานครแห่งนี้ 

ผู้หญิงหลายคนทำวิดีโอลงบน TikTok เล่าว่าพวกเธอโดนทำร้ายร่างกาย ถูกคนร้ายชกใบหน้าโดยไม่เลือก ระหว่างที่กำลังเดินอยู่บนท้องถนนในนิวยอร์ก ซิตี และจนถึงตอนนี้ยังไม่ทราบเหตุผลว่าทำไม เหตุการณ์ต่อเนื่องที่โหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับปัญหาอาชญากรรมในมหานครของสหรัฐฯ แห่งนี้

เรื่องราวผู้หญิงถูกชกโดยไม่มีที่มาที่ไปถูกเปิดโปงออกมาเป็นครั้งแรกโดย ‘ฮัลลีย์ เคท’ ติ๊กต็อกสาววัย 23 ปี ที่พักอาศัยอยู่ในนิวยอร์ก โดยเธอโพสต์วิดีโอหนึ่งในวันที่ 25 มีนาคม และตอนนี้กลายเป็นคลิปไวรัล ซึ่งกล่าวอ้างว่าเธอถูกชกที่ใบหน้าขณะเดินอยู่บนท้องถนน "ฉันกำลังเดินอยู่ และผู้ชายคนหนึ่งก็เข้ามาชกเข้าที่ใบหน้าฉัน โอ้พระเจ้า มันเจ็บมาก ฉันไม่สามารถพูดได้เลย"

ในวิดีโอต่อมา เคทให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เธอกำลังมัวแต่มองโทรศัพท์ตอนที่ชายคนหนึ่งจูงสุนัขมา แล้วชกหรือไม่ก็ศอกเข้าใบหน้าของเธอ ทำให้เธอล้มฟุบไปกองกับพื้นและศีรษะของเธอกระแทกเข้ากับทางเท้า ทั้งนี้ เคท เล่าว่าเธอต้องการรักษาตัวเป็นการด่วนและเข้าแจ้งความเรื่องนี้กับตำรวจ

กรมตำรวจนิวยอร์ก ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อเหยื่อ ยืนยันกับบิสเนสอินไซเดอร์ ว่า ได้รับแจ้งความเหตุทำร้ายร่างกายจากผู้หญิงวัย 23 ปีรายหนึ่ง ซึ่งถูกทำร้ายบริเวณใบหน้าและศีรษะ จากนั้นก็ร่วงไปกองกับพื้นและได้รับบาดเจ็บ

เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยต่อว่า ชายวัย 40 ปีคนหนึ่งชื่อว่า ‘สกีโบกี สโตรา’ ถูกจับกุมและตั้งข้อหาเมื่อวันที่ 27 มีนาคม และเวลานี้ยังอยู่ระหว่างการสืบสวน

นับตั้งแต่เรื่องราวของ เคท ถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวางบนสื่อสังคมออนไลน์ ได้ปรากฏวิดีโอของสาวติ๊กต็อกอีกคน ที่เผยแพร่ก่อนหน้านั้นหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งเธอเผยว่าเธอถูกชกบนท้องถนนในนิวยอร์ก ซิตี เช่นกัน

โอลิเวีย แบรนด์ เผยว่า ชายคนหนึ่งเดินตรงเข้าหาเธอ ในเขตโนลิตา/โซโหของนิวยอร์ก และกล่าว "ขอโทษ" ก่อนชกเข้าที่ใบหน้าของเธอ พร้อมบอกว่าเธอได้แจ้งความกับตำรวจเรียบร้อยแล้ว

ในเรื่องนี้ กรมตำรวจนิวยอร์กยืนยันเช่นกันว่าได้รับแจ้งความผู้หญิงวัย 25 ปีคนหนึ่งถูกชกในวันที่ 17 มีนาคม บริเวณใกล้เคียงถนนเคนแมร์ตัดกับถนนมัลเบอร์รี และได้รับแจ้งความในฐานะคดีคุกคาม

นอกจากนี้ ผู้หญิงอีกคนใช้ชื่อบนสื่อสังคมออนไลน์ Malous228 เปิดเผยว่าเธอถูกชกเข้าที่ใบหน้าแบบไม่เลือกหน้า โดยชายคนหนึ่ง ในย่านไทม์ส สแควร์ โดยในวิดีโอที่เธอโพสต์นั้นพบเห็นชายคนหนึ่งที่เธออ้างว่าเป็นคนทำร้ายเธอกำลังเดินหนีไป

เธอบอกว่าเธอออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตนเอง หลังพบเห็นคลิปไวรัลของผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่ประสบพบเจอเหตุโจมตีแบบเดียวกัน

ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าผู้ก่อเหตุชกหน้าผู้หญิงนั้น เป็นชายคนเดียวกันหรือเป็นฝีมือของหลายคน ที่ลงมือเล่นงานเหยื่อแบบสุ่ม ๆ

‘มากายลา โตนินาโต’ สาวติ๊กต็อกอีกคนโพสต์วิดีโอภาพที่เธอมีบาดแผลบริเวณใบหน้าอย่างชัดเจน เล่าว่าเธอถูกชกแบบไม่เลือกหน้าเช่นกัน ตอนที่เธอกำลังเดินออกจากมหาวิทยาลัยเดอะนิวสคูล

ส่วนผู้หญิงรายที่ 5 ‘เซเลนา พิกานับ’ เปิดเผยผ่านติ๊กต็อกเช่นกันว่า เธอถูกชายคนหนึ่งถูกชกในย่านโซโห ขณะที่เหยื่อรายที่ 6 ‘ไกเซม เซอร์มาลี’ สาวครีเอตคอนเทนต์วัย 27 ปี ที่พักอาศัยอยู่ในเยอรมนี ให้สัมภาษณ์กับเดอะการ์เดียน ว่าเธอถูกชกบนท้องถนนในเขตโซโห ระหว่างที่เดินทางมาทำงานที่เมืองแห่งนี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์

โตนินาโต กล่าวว่านับตั้งแต่เธอเผยแพร่เรื่องราวของตนบนสื่อสังคมออนไลน์ มีผู้หญิงหลายคนได้ติดต่อเข้ามาเล่าเรื่องราวให้ฟังว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้พวกเธอเองก็ถูกชกโดยไม่เลือกหน้าในนิวยอร์ก ซิตี เช่นกัน

เหตุการณ์ชกหน้าโดยไม่เลือกหน้าเหล่านี้ กำลังสร้างความไม่สบายใจแก่บรรดาผู้หญิงในนิวยอร์ก ซิตี เป็นอย่างมาก โดยหลายคนโพสต์ข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์ แสดงความหวาดกลัวว่าจะถูกชกและเตือนคนอื่น ๆ ให้อยู่ในความระแวดระวัง

เรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลต่อปัญหาอาชญากรรมที่เพิ่มขึ้นในมหานครแห่งนี้ ตามหลังมีรายงานเกี่ยวกับเหตุโจมตีไม่เลือกหน้าในระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน และหนึ่งในนั้นถึงขั้นทำให้เหยื่อถึงแก่ความตาย

ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ประจำวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2567

📌รางวัลที่ 1 : 803481
📌รางวัลเลขท้าย 2 ตัว : 90
📌รางวัลเลขหน้า 3 ตัว : 122 , 809
📌รางวัลเลขท้าย 3 ตัว : 559 , 947
📌รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1: 803480 , 803482
 
📌รางวัลที่ 2 : 907492 , 835772 , 067061 , 538699 , 007558
 
📌รางวัลที่ 3 : 381276 , 851206 , 996526 , 709667 , 242784  
848355 , 894038 , 242227 , 950406 , 606987  

📌รางวัลที่ 4: 966683 , 317178 , 703400 , 497986 , 824960  
098288 , 563022 , 536203 , 257965, 140765  
727711 , 993776 , 681369 , 232022 , 706750  
428044 , 656650 , 987777 , 744487 , 119156  
469451 , 604221 , 018965 , 489817 , 628637  
659412 , 513767 , 198864 , 007438 , 251486  
296519 , 561189 , 609946 , 043174 , 716289  
298199 , 113573 , 637017 , 583983 , 495395  
786846 , 983847 , 085992 , 448975 , 117164  
432258 , 142436 , 207231 , 126515 , 628028  

📌รางวัลที่ 5: 569209 , 950123 , 448930 , 124075 , 454736  
902940 , 860794 , 383374 , 620277 , 197770  
136965 , 346850 , 693658 , 969410 , 444341  
657386 , 254077 , 660840 , 559366 , 790587  
807097 , 618464 , 957599 , 481752 , 049995  
071077 , 266895 , 030651 , 731380 , 247024  
138019 , 431669 , 904472 , 825033 , 009510  
343526 , 270061 , 246067 , 557468 , 431882  
977076 , 638147 , 299275 , 735524 , 350356  
815118 , 548896 , 108756 , 092432 , 886369  
446933 , 055465 , 314059 , 337627 , 304267  
174839 , 218821 , 288394 , 728738 , 516433  
993272 , 591279 , 054969 , 039746 , 345065  
861285 , 110887 , 017029 , 134947 , 255946  
954691 , 032408 , 442182 , 287751 , 005149  
349559 , 063298 , 474572 , 734763 , 186133  
867535 , 323717 , 663977 , 763105 , 190484  
190914 , 604460 , 845091 , 821216 , 430409  
751191 , 077852 , 066456 , 592785 , 258560  
219484 , 944425 , 932440 , 912914 , 368343

'กรมโรงงานฯ' รับนโยบาย 'รมว.ปุ้ย' อำนวยความสะดวกนักลงทุน  ใช้ระบบออนไลน์อนุมัติ ร.ง.4 ชู!! เร็ว โปร่งใส ดันภาค อุตฯ ไทยโตต่อเนื่อง

(1 เม.ย.67) นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากสถิติข้อมูลการออกใบอนุญาต ร.ง.4 ในปี 2565-2566 พบว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรมมีการออกใบอนุญาตให้ตั้งและขยายโรงงานที่มีขนาดใหญ่จำนวนกว่า 800 โรงงานต่อปี เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2563-2564 

โดยเฉพาะในปี 2566 ที่ผ่านมา มีการอนุญาตให้ตั้งโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ (นอกนิคมฯ) จำนวน 2,598 โรงงาน มูลค่าการลงทุนกว่า 356,140 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 23% เมื่อเทียบกับปี 2565 และเกิดการจ้างงานกว่า 106,631 คน สอดรับกับการที่บีโอไอได้รับคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนในปี 2566 มูลค่ารวม 8.5 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี โดยเมื่อพิจารณาเฉพาะมูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มีการเติบโตสูงถึง 72% จากปีก่อน

นายจุลพงษ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาตามปีงบประมาณ 2567 มีมูลค่าการลงทุนจากการอนุญาตให้ตั้งและขยายโรงงานอุตสาหกรรมนอกนิคมไปแล้วกว่า 255,586.74 ล้านบาท และหากพิจารณาเฉพาะปี 2567 ก็พบว่ามีการลงทุนตั้งและขยายโรงงานอุตสาหกรรมนอกนิคมในช่วง 3 เดือนแรกของปีแล้วกว่า 70,000 ล้านบาท

ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องภายหลังวิกฤตโควิด-19 ซึ่งเป็นผลมาจากการที่นายกรัฐมนตรีและคณะเข้าร่วมเจรจาด้านความร่วมมือกับผู้นำประเทศต่าง ๆ ตลอดจนการพบปะหารือกับภาคธุรกิจ ชักชวนการลงทุน สร้างความเชื่อมั่น จัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจและจับคู่ผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีนโยบาย Ease of doing business โดยให้หน่วยงานที่ออกใบอนุญาต พิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจ เพื่อให้การประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมในไทยได้รับความสะดวกรวดเร็ว ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวส่งผลให้เกิดการขยายตัวของการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ

นายจุลพงษ์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน กรมโรงงานอุตสาหกรรมยังได้ขับเคลื่อนนโยบายของนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่เน้นย้ำให้มุ่งยกระดับการบริหารจัดการภาครัฐเพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ และปรับปรุงกระบวนการทำงานให้เป็นดิจิทัล โดยได้สั่งการให้เร่งนำระบบอนุญาตออนไลน์ (Digital-License) ของกระทรวงอุตสาหกรรมมาใช้งานในทันที เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ประกอบการในการขอรับใบอนุญาตได้อย่างรวดเร็ว โปร่งใส และสามารถตรวจสอบติดตามได้ในทุกขั้นตอน สอดคล้องกับบริบทสังคมดิจิทัลและรองรับการลงทุนของภาคอุตสาหกรรมที่มีอัตราการลงทุนของโรงงานขนาดใหญ่ในแต่ละปีเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10-20% ตั้งแต่ปี 2563 มาจนถึงปัจจุบัน

"ปัจจุบันมีการยื่นขอรับใบอนุญาต ร.ง.4 เพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่องและอยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมโรงงานอุตสาหกรรม จำนวน 22 โรงงาน แสดงให้เห็นถึงทิศทางและแนวโน้มการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้นขอให้นักลงทุนและผู้ประกอบการมั่นใจและเชื่อมั่นว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรมพร้อมดูแลอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมในทุกมิติ และพร้อมส่งเสริมการตั้งโรงงานที่มีมาตรฐาน เพื่อรองรับการลงทุนและการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมของประเทศให้เติบโตคู่ชุมชนอย่างยั่งยืน” นายจุลพงษ์ กล่าวปิดท้าย

‘วิปรัฐบาล’ หัก ‘ฝ่ายค้าน’ ยึดคืนเวลา ‘ซักฟอก’  ดึงเวลาคืนรัฐตอบทุกประเด็นที่ฝ่ายค้านถาม

(1 เม.ย.67) ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมการประชุมวิปรัฐบาลถึงการทบทวนเวลาอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า กรอบที่ฝ่ายค้านขอมาทั้งหมดคือ 22 ชม. ฝั่งรัฐบาลรวมคณะรัฐมนตรี (ครม.) 6 ชม. เมื่อดูแล้วครม.มีเวลาชี้แจง 4 ชม. และการอภิปรายตามมาตรา 152 คือการกล่าวหารัฐบาล เมื่อฝ่ายค้านกล่าวหาก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลจะต้องตอบคำถามให้กระจ่างแจ้ง แต่ปัญหาคือเมื่อเรากลับไปดูการอภิปรายตามมาตรา 153 ของวุฒิสภาที่ผ่านมานั้น พบว่ารัฐมนตรีบางคนมีเวลาตอบแค่ 2 นาที หากได้เวลาน้อยก็จะทำให้รัฐมนตรีไม่มีโอกาสชี้แจงจะทำให้เกิดความเสียหาย หากตอบไม่ครบ ฝ่ายค้านก็จะบอกว่ารัฐมนตรีไม่กล้าตอบ หนีตอบคำถาม ดังนั้นเพื่อให้เกิดความยุติธรรม โดยต้องขอเวลาเพิ่มเพื่อให้รัฐบาลได้มีโอกาสตอบ ซึ่งจะต้องมีการเจรจากับฝ่ายค้านอีกครั้ง

“ผมมองว่าฝ่ายรัฐบาลอย่างน้อยต้องได้เวลา 10 ชม.ขึ้นไป ฝ่ายค้านก็ต้องลดลงมาจาก 22 ชม. อาจจะเหลือ 18 ชม. ก็ถือว่ามากกว่ากันเท่าตัว ฉะนั้น การอภิปรายก็เพื่อให้มีการตอบให้ประชาชนหายข้องใจ เพราะถ้าฝ่ายค้านเอาเวลาไป 22 ชม. แล้วให้รัฐบาล 4-6 ชม. ก็ไม่ได้ และเมื่อหักเวลาประท้วงแล้ว รัฐบาลก็ได้ไม่น่าจะเกิน 4 ชม. ซึ่งจะทำให้รัฐบาลไม่สามารถตอบได้ทุกประเด็นที่ฝ่ายค้านถาม” นายวิสุทธิ์ กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top