Wednesday, 21 May 2025
NewsFeed

อุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดินลอดใต้แม่น้ำแห่งแรกของไทย แค่ 2 นาที เชื่อมความเจริญสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

'บิ๊กตู่' ชวนประชาชนนั่งข้ามเจ้าพระยาผ่านรถไฟฟ้าใต้ดินลอดอุโมงค์แม่น้ำเจ้าพระยา ความสำเร็จในรัฐบาลชุดนี้ ที่ใช้เวลาเพียง 2 นาที เชื่อมฝั่งธน-เกาะรัตนโกสินทร์ สู่มหานครแห่งความสุข 

(20 ส.ค.66) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เร่งผลักดันโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและขนส่งของประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยได้ติดตามทุกโครงการของรถไฟฟ้ามหานคร ให้การก่อสร้างเป็นไปตามแผนและมีความสำเร็จให้ตรงตามเวลาตามเป้าหมาย

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ทั้งนี้หนึ่งในสายรถไฟฟ้าที่เป็นเส้นทางการเดินทางและใกล้แหล่งท่องเที่ยวชุมชนเก่าคือ สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วง หัวลำโพง-บางแค เป็นโครงการเชื่อมต่อจากรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ไปฝั่งธนบุรี ความพิเศษของเส้นทางระหว่างสถานีสนามไชยกับสถานีอิสรภาพ เป็นเส้นทางผ่านอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาแห่งแรกของประเทศไทย เป็นระยะทางประมาณ 200 เมตร โดยพล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นประธานในพิธีเปิดเดินเครื่องหัวเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา (Eastbound TBM Launching Ceremony) โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายฯ สัญญา 2 ช่วงสถานีสนามไชย - สถานีท่าพระ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2558 กระทั่งแล้วเสร็จสามารถเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา

ตรงนี้เป็นเส้นทางที่สะดวกในการเชื่อมระหว่างพระนคร (เกาะรัตนโกสินทร์) ไปยังฝั่งธนบุรี และเป็นจุดแหล่งท่องเที่ยวสำคัญระดับโลกของไทย แหล่งสถานศึกษา 3 มหาวิทยาลัย (ม.ศิลปากร วังท่าพระ-ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์-คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล วังหลัง) และโรงพยาบาลขนาดใหญ่หลายแห่ง จึงทำให้เส้นทางนี้สามารถลดปัญหาการจราจร ประชาชนเดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยเป็นอย่างมาก

“โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงสถานีสนามไชย-สถานีอิสรภาพ รถไฟฟ้าจะต้องผ่านอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งใช้เวลาเพียง 2 นาที แต่ต้องก่อสร้างด้วยเทคนิคพิเศษ เนื่องจากเป็นการขุดอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีความลึกเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20 เมตร และตัวอุโมงค์รถไฟฟ้าขุดลึกลงไปจากก้นแม่น้ำอีก 10 เมตร หรือลึก 30 เมตรจากผิวดิน โดยในบางช่วงที่ลึกที่สุดจะลึกไปถึง 38 เมตรเทียบเท่าตึก 10 ชั้น โดยที่บริเวณจุดกลางแม่น้ำเจ้าพระยาจะมีความลึก 30.86 เมตรใต้ท้องน้ำและลึก 9.71 เมตรจากใต้ท้องน้ำถึงหลังอุโมงค์ พิกัดจุดกลางแม่น้ำเจ้าพระยาห่างจากสถานีสนามไชย 323.92 เมตร“ น.ส.ทิพานัน กล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายฯ นี้ ผ่านย่านเมืองเก่า รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จึงมีความตั้งใจที่จะให้มีแผนพัฒนาให้มีการออกแบบสถาปัตยกรรมที่วิจิตรทั้งภายนอกและภายในให้สอดรับกับบริบทในพื้นที่นั้นๆ ซึ่งมีความสวยงามมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมผสมเข้าไปด้วย เช่น สถานีวัดมังกร, สถานีสนามไชย, สถานีอิสรภาพ, สถานีสามยอด จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าแวะชมไปด้วย

“การเชื่อมความเจริญใต้น้ำเจ้าพระยา ขยายความเจริญสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งฝั่งธนบุรีและเกาะรัตนโกสินทร์ ฝั่งพระนคร เป็นการเชื่อมสู่มหานครแห่งความสุข เชื่อมคนสองฝั่งเมืองเข้าด้วยกันอย่างลงตัวเป็นความทันสมัยที่ไม่หลงลืมวัฒนธรรมความเป็นไทยที่จะสอดแทรกไว้ตามสถานีต่างๆ ถือเป็นวิสัยทัศน์ที่อนุมัติงบประมาณและเป็นผลงานการพัฒนาของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีความมุ่งมั่นให้ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบรถไฟฟ้าได้มากขึ้น และยกระดับเชื่อมการเดินทาง ล้อ-ราง-เรือ ได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมกับส่งเสริมการท่องเที่ยวและการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนด้วย” น.ส.ทิพานัน กล่าว

‘กระแต’ โชว์พลังเสียง-ลีลาการเต้น บนเวที ‘MUT 2023’ รอบพรีลิม ถูกใจแฟนนางงามขนาดหนัก!! ถึงขั้นยกให้เป็นศิลปินคุณภาพตัวจริง

เมื่อวานนี้ (19 ส.ค.66) เปิดฉาก Miss Universe Thailand 2023 อย่างเป็นทางการ ในรอบรันเวย์ ‘Preliminary Competition’ ลุกเป็นไฟกับการนำเข้าโชว์ด้วยสาวงามรุ่นพี่ ‘แอนนา เสืองามเอี่ยม’ Miss Universe Thailand 2022 เพื่อต้อนรับโชว์เปิดอย่างเป็นทางการของศิลปินสาวแซ่บสายแดนซ์ ‘กระแต อาร์สยาม’ และ ทีม Kathy Cosmetic เสริมทัพความปังในรอบ Swimsuits Preliminary ด้วย 53 สาวงามในชุดว่ายน้ำที่ออกแบบเป็นครั้งแรกภายใต้แบรนด์ Kathy

นอกจากการปรากฏตัวของเหล่าสาวงามจะถูกใจแฟนนางงามแล้ว การแสดงของศิลปินสาวคนนี้กับเวทีนางงามระดับโลกครั้งแรกอย่าง ‘กระแต อาร์สยาม’ ก็สร้างมนต์สะกดไม่แพ้กัน เพราะหลังจากที่โชว์ของเธอได้สะท้อนสู่สายตาแฟนนางงาม MUT 2023 ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พร้อมมอบมงสาม ปักหมุดโหวตให้ส่งศิลปินคนนี้เข้าประกวดเลยทีเดียว

เปิดตัวมาในลุคที่สวยจับใจ ทั้งคอสตูมแต่ละชุดสุดอลังการ และท่วงท่าการเต้นที่แรงดีไม่มีแผ่ว โดยเฉพาะท่าเต้นฉีกขาผ่ากลาง ก่อนลุกขึ้นมาร้องเพลงอย่างสง่างาม ที่สำคัญ คือ น้ำเสียงไม่มีแผ่ว โชว์พลังเสียงคุณภาพ จนกูรูนางงามหลายคนต่างกล่าวชมว่า นี่คือศิลปินคุณภาพตัวจริง

นี่เป็นเพียงรอบแรกเท่านั้น เพราะในรอบชุดราตรี Evening Gown ‘กระแต อาร์สยาม’ เปลี่ยนโหมดเป็นความสวยทรงพลัง ส่งให้ 53 สาวงามที่เดินโชว์ในชุดราตรีตรึงคนดูทั้งในฮอล์และทางบ้านได้อยู่หมัด ก่อนจะเปิดตัวมงกุฎจาก Mouawad โดย ‘แอนนา เสืองามเอี่ยม’ Miss Universe Thailand 2022

‘เอ ศุภชัย’ ไม่แปลกใจ ‘อั้ม’ ได้ค่าสัญญา 20 ล้าน เหมาะสมกับความทุ่มเทและตั้งใจทำงานมาโดยตลอด

เมื่อวานนี้ (19 ส.ค. 66) จากกระแสทำละครเรื่องใหม่และประเด็นเรื่องค่าตัวของ ‘อั้ม พัชราภา’ ล่าสุดผู้จัดการดาราดัง ‘เอ ศุภชัย’ ที่มางานเปิดตัวเด็กปั้นใหม่ในสังกัดตัวเอง ที่สตูดิโอ โคริเน็ตเวิร์ค จากนั้นเจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการสร้างละครเรื่องใหม่ หลังก่อนหน้านี้เจ็บตัวกับเรื่องแม่เบี้ย ขาดทุนไป 25 ล้านบาทว่า ละครเรื่อง เสน่ห์นาง ตั้งใจทำมาก มีการบทอ่านครบด้วยตัวเอง และจากประสบการณ์จากที่ขาดทุนไปหลายล้านทำให้ตอนนี้ต้องระมัดระวังควบคุมงบการทำงานมากขึ้น

“ต้องแยกซีนเอง นั่งแยกโลเคชั่นเอง คิดคอสตูมเอง นั่งคำนวณว่าถ้าขนาดนี้ ซีจีจะขนาดไหนเพราะเรื่องเบี้ยซีจีมาแค่งูแต่เรื่องใหม่มีทั้งแมงมุมทั้งงู ตะขาบ มีทุกอย่าง พี่เลย นั่งเกาหัวอยู่ค่ะว่าจะทำยังไงดีให้มันเซฟเงินมากที่สุด ที่ขาดทุนน้อยที่สุด แต่ก็ต้องขาดทุนแต่ไม่เป็นไรอยากให้ทุกคนได้เห็นสิ่งที่ดีที่สุด”

กับเรื่องแม่เบี้ย เอ ถือคติว่า เสียชื่อไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้ ซึ่งที่เสียไปกว่า 25 ล้าน ก็ไม่ได้รู้สึกเสียดาย เพราะเหมือนเป็นการให้รางวัลกับคนดู

“เพราะถ้าไม่มีคนดูในวันนี้ พี่เอก็เป็นพี่เอที่ทุกคนชื่นชมไม่ได้ เพราะอย่างงั้นเป็นรางวัลให้คนดูเขาได้ดูหนังที่ผู้จัดทุ่มสุดตัวสุดใจ”

ส่วนเรื่องนักแสดงที่เคยอ้อน ‘อั้ม พัชราภา’ ให้มาเล่นนั้น เอเผยถึงเหตุผลที่อยากร่วมงานกับอั้มว่า “พี่เอก็คิดเหมือนกันว่าทำไมรอพี่อั้ม พี่เอก็คิดว่าทำไมพี่อั้มเล่นของคนอื่นได้แต่ทำไมไม่มาเล่นของพี่เอสักเรื่อง แค่นี้เองค่ะ (ยิ้ม) แล้วพี่เอก็ไม่รู้ว่าพี่เอจะทำละครอีกกี่เรื่อง เหมือนกับไม่รู้ว่าเรื่องอาจจะเป็นเรื่องสุดท้ายของพี่เอหรือเปล่า พี่เอก็ยังไม่รู้ พี่เอก็อยากได้คนที่พี่เอรักมากๆ มาอยู่กับพี่เอ อาจจะอยู่กันแล้วทะเลาะกันบ้างหรืออะไรกันบ้างแต่พี่เอว่าเราได้อยู่ด้วยกัน”

กับเรื่องค่าตัวหลายคนมองว่าต้องสู้ เอ ยอมรับว่าไม่ได้หนักใจ พร้อมหัวเราะก่อนจะบอก “ขอให้เขาเล่นก็พอ (หัวเราะ) ค่าตัวช่องจ่าย (หัวเราะ)”

ส่วนประเด็นเรื่องข่าวค่าตัว ‘อั้ม พัชราภา’ ที่ช่อง 7 ให้ปีละ 20 ล้าน ในฐานะที่เอเป็นผู้จัดการ ก็บอกว่า ไม่ทราบรายละเอียด เพราะอั้มรับตรง “ได้ฟังครั้งแรกก็อยากส่วนแบ่งเลยเนี่ย (หัวเราะ) อยากได้ส่วนแบ่งเอามาทำละครเลย (หัวเราะ)”

พร้อมบอกอีกว่า “อยากให้พี่อั้มได้เยอะๆ เพราะพี่อั้มตั้งใจทำทุกอาชีพทุกหน้าที่ พี่เอว่ามันก็ไม่ได้แปลกเลย เพราะพี่อั้มอยู่ช่อง 7 มานานมากแล้วก็รักในความเป็นนางเอกช่อง 7 ไม่ไปไหน พี่ว่ากับความเป็นแบบนี้ถ้าเป็นบริษัทพี่เอก็ให้แบบนี้เหมือนกัน”

ขณะที่เรื่องของ ‘ปู ไปรยา’ ประกาศข่าวดีเป็นว่าที่เจ้าสาวไปแล้ว กับเอผู้เป็นคนพาปูเข้ามาวงการก็บอกว่ารู้สึกดีใจมากที่เห็นปูมีความสุข พร้อมเล่าว่าโมเมนต์ได้เจอกันอีกครั้งก็ได้ไปถึงกอดกันรู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหล

“จากตอนเด็กๆ ที่เขาอายุ 15-16 เราขวางคนโน้นขวางคนนี้ แล้วสุดท้ายคนที่หาผู้ชายมาให้ก็คือแม่ที่แนะนำให้รู้จัก พี่เอไม่ต้องโดนน้องปูทำโทษแล้วนะ เพราะว่าจากวันนึงที่เคยขวางแต่วันนี้แม่ก็เป็นคนแนะนำให้ น้องปูต้องให้อภัยพวกพี่สมัยตอนเด็กๆ ที่ขวางปูไม่ให้คุยกับคนโน้นคนนี้ คือเวลาและจังหวะตอนนั้นมันยังไม่เหมาะสม เราเป็นผู้ใหญ่เราก็เห็นว่ามันไม่เหมาะสมแต่ตอนนี้วัยและเวลาทุกอย่างมันลงตัวมากแล้ว และเห็นแววตาน้องปูที่มีความสุข เวลาเขาพูดถึงคนของเขาเนี่ยหนูนอนหลับสบายมากเลย หนูไม่ต้องเครียดไม่ต้องคิดว่าเขาไปหาคนอื่น เราเห็นแววตาในคำพูดของเขาแล้วเรารู้สึกดีใจที่เป็นความสุขจริงๆ ไม่ต้องเป็นความสุขที่ต้องวิ่งตามหาแต่เป็นความสุขที่นอนรอแล้วมาเลย”

เมื่อถามว่าย้อนกลับไป ‘ปู ไปรยา’ เป็นเด็กดื้อไหม เอ ก็เล่าว่า “ตอนเด็กๆ ทุกคนก็เป็นแบบนี้กันหมดแหละค่ะ พี่เอก็ดื้อ (ปูก็สร้างตำนานหลายอย่าง?) โอ๊ย ทุกอย่าง ถ้าวันนั้นถ้าใครดูคลิปในไอจีสตอรี่พี่เอ นางก็เล่ามาตั้งแต่สมัยที่ไปกองขึ้นรถหนีกลับบ้าน แล้วพี่เอบอก เอาไว้ในรถตู้ ปิดประตูเดี๋ยวนี้ อย่าให้หนีกลับ ตอนนี้เวลาเรามานั่งเล่าเราก็หัวเราะจากวันนึงที่เราเจอเหตุการณ์เราก็ร้องไห้วันนี้เราหัวเราะแล้ว ทุกอย่างมันผ่านมาแล้วทุกคนก็เป็นแบบนี้หมด ผ่านวัยเด็กวัยที่เอาแต่ใจตัวเอง แล้ววันนึงเราเป็นผู้ใหญ่ พี่ก็เลยบอกว่าคนบางคนเราไม่ต้องไปสอนหรอกอย่างโน้นอย่างนี้ เวลาเขาโตเขาเจออะไรเยอะๆ เดี๋ยวเขาก็กลับบ้านมาหาแม่เชิญแม่ไปงานแต่ง ก็ดีใจค่ะ”

'สำนักข่าวอิศรา' ขุดต่อ!! หุ้นใหญ่บริษัทสุราแช่ในฉะเชิงเทรา พบชื่ออดีตนายทหารยศพลเอก เป็นผู้ผลิตเบียร์ที่ 'รองอ๋อง' เชียร์

(20 ส.ค. 66) กรณี นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จ.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล และ รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ได้เผยแพร่ภาพคราฟท์เบียร์ยี่ห้อหนึ่งลงในโซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊ก และ Tik Tok แนะนำด้วยความภาคภูมิใจว่า “เอาแล้วๆๆๆๆ พิษณุโลกมีคราฟท์เบียร์ตัวแรกอย่างเป็นทางการแล้วครับ เป็นของดีพิดโลกนอกจากกล้วยตากและหมี่ซั่วครับ” กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม

สำนักข่าวอิศราตรวจสอบพบว่า ในเพจเฟซบุ๊กที่เกี่ยวข้องในกับเบียร์ยี่ห้อนี้ โพสต์ข้อความเมื่อ 9 สิงหาคม ว่า “ เรารอสิ่งนี้มาโดยตลอด ‘เครื่องดื่มคราฟพิดโลก’ ‘by Phitsanulok Brewing’ เปิดตัวที่แรกที่ร้าน Girl’s don’t cry ผลิตถูกกฎหมายทุกขั้นตอน เสียภาษีเรียบร้อย พร้อมกระจายไปให้ทุกท่านได้ลองผลิตภัณฑ์แบรนด์ท้องถิ่น ที่เราฝ่าฟันกันมากับวงการคราฟเบียร์มาตลอด 7ปี”

จากการตรวจสอบข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า PHITSANULOK BREWING ตามที่ระบุข้างต้น คือ PHITSANULOK BREWING หรือ บริษัท พิษณุโลกบรูอิ้ง จำกัด ทะเบียนวันที่ 9 ธ.ค. 2565 ทุน 1 ล้านบาท ประกอบกิจการจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ที่ตั้งเลขที่ 441/58 ซอย13 ถนนบรมไตรโลกนารถ 2 ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก นายภูวดล ศิริสินเลิศ เป็นผู้ก่อตั้งและถือหุ้นใหญ่ และเป็นกรรมการร่วมกับนายธนาบูรณ์ ตระกูลฤกษ์ชัย

ล่าสุด สำนักข่าวอิศราตรวจสอบรายละเอียดข้างกระป๋องเบียร์ยี่ห้อนี้มีข้อความระบุภาษาอังกฤษว่า

Produce By (ผลิตโดย-สำนักข่าวอิศรา) Thai Spirit Industry 71/25 Moo 5 Thakham Bangpakong Chachoengsao Thailand 24130

Distributed By (กระจายสินค้า-สำนักข่าวอิศรา) Phitsanulok Brewing co,Ltd. 441 /58 Baromtrilokanart 2 Rd. Nai-mueang Phitsanulok Thailand 65000

จากข้อมูลดังกล่าว สำนักข่าวอิศราตรวจสอบข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า ชื่อ Thai Spirit Industry คือ THAI SPIRIT INDUSTRY CO.,LTD. หรือ บริษัท ไทย สพิริท อินดัสทรี จำกัด จดทะเบียนวันที่ 1 มีนาคม 2545 ทุนปัจจุบัน 100 ล้านบาท ประกอบการ การผลิตและจำหน่าย สุราแช่ประเภทสุราผลไม้ เบียร์และอื่นๆ ที่ตั้งเลขที่ 71/25 หมู่ 5 ตำบลท่าข้าม อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา (ที่ตั้งเลขที่เดียวกันกับที่ตั้ง Thai Spirit Industry ตามที่ระบุในข้างกระป๋อง) บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันประชุม 30 เมษายน 2566 พลเอกนายหนึ่งถือหุ้น 100%

เบื้องต้น ในช่วงสายวันที่ 19 ส.ค. 66 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยังบริษัทไทย สพิริท อินดัสทรี จำกัด เพื่อขอสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับกรณีที่กระป๋องเบียร์ที่มีชื่อของบริษัทไปอยู่ในวิดีโอของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา

พนักงานบริษัทที่รับสายกล่าวว่าวันนี้เป็นวันหยุด ผู้ที่เกี่ยวข้องไม่อยู่ จึงยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ได้มีพนักงานบริษัทอีกคนติดต่อมายังสำนักข่าวอิศรา เพื่อขอยืนยันข้อมูลที่สอบถาม

โดยพนักงานบริษัทกล่าวทิ้งท้ายว่ารับทราบข้อมูลแล้ว ภายในวันจันทร์ (21 ส.ค.66) จะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนิ้ติดต่อมายังสำนักข่าว

ถ้ามีความคืบหน้า สำนักข่าวอิศรา จะรายงานเพิ่มเติมต่อไป

‘รองโฆษกรัฐบาล’ เผย 7 เดือนแรก ‘ต่างชาติ’ ลงทุนไทย พุ่ง 17%  เม็ดเงินลงทุน 58,950 ล้านบาท ทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น 9% 

(20 ส.ค. 66) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความคืบหน้าการลงทุนในประเทศไทย ช่วง 7 เดือน ปี 2566 (ม.ค.-ก.ค.) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 จำนวน 377 ราย เพิ่มขึ้น 17% เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 122 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 255 ราย เม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 58,950 ล้านบาท ลดลง 20% เกิดการจ้างงานคนไทย 3,594 คน เพิ่มขึ้น 9% โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 84 ราย เงินลงทุน 19,893 ล้านบาท สหรัฐฯ 67 ราย เงินลงทุน 3,044 ล้านบาท สิงคโปร์ 61 ราย เงินลงทุน 12,925 ล้านบาท จีน 28 ราย เงินลงทุน 11,663 ล้านบาท และเยอรมนี 16 ราย เงินลงทุน 1,298 ล้านบาท

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ส่วนการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ ในช่วง 7 เดือน ปี 2566 (ม.ค.-ก.ค.) นางสาวรัชดา กล่าวว่า มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 73 ราย คิดเป็น 19% ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมด มูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC 12,348 ล้านบาท คิดเป็น 21% ของเงินลงทุนทั้งหมด เป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่น 31 ราย ลงทุน 5,379 ล้านบาท จีน 12 ราย ลงทุน 893 ล้านบาท เกาหลีใต้ 5 ราย ลงทุน 287 ล้านบาท และประเทศอื่น ๆ อีก 25 ราย ลงทุน 5,789 ล้านบาท โดยธุรกิจที่ลงทุน เช่น บริการให้คำปรึกษาแนะนำด้านการบริหารจัดการกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมต่าง ๆ บริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่น การออกแบบเครื่องจักร เครื่องกล เครื่องมือและอุปกรณ์ บริการรับจ้างผลิตเครื่องจักร และชิ้นส่วนของเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรม บริการรับจ้างผลิตชิ้นส่วนยานพาหนะ และบริการออกแบบแม่พิมพ์โลหะสำหรับผลิตชิ้นส่วนยานยนต์

น.ส.รัชดา กล่าวว่า เฉพาะเดือน ก.ค. 2566 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจในประเทศไทย จำนวน 51 ราย เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 20 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 31 ราย เม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 10,023 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 372 คน ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่น สิงคโปร์ และสหรัฐฯ 

น.ส.รัชดา กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เน้นส่งเสริมสนับสนุนการลงทุน พร้อมอำนวยความสะดวกในทุก ๆ ด้านให้นักลงทุนชาวต่างชาติ ทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่น สนใจลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ผลจากการขับเคลื่อนนโยบาย นอกจากจะมีรายได้เข้าสู่ประเทศไทยแล้ว คนไทยยังได้รับประโยชน์จากการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาโปรแกรมแอปพลิเคชันเพื่อความปลอดภัยและการจัดการข้อมูลส่วนตัว องค์ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการพัฒนาเว็บไซต์ และ Data Analysis เพื่อการพัฒนาเว็บไซต์และวิเคราะห์ข้อมูลในการทำการตลาด และองค์ความรู้เกี่ยวกับการทดสอบสมรรถนะของรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อการวิจัยและพัฒนา

'ชุมพล กาญจนะ' ฝ่าดง ปชป.หอบหิ้ว 6 สส.เข้า รทสช. ผลงานเด่น!! ควรได้รัฐมนตรีเป็นรางวัลตอบแทนหรือไม่

เมื่อรวมไทยสร้างชาติร่วมรัฐบาล 'ชุมพล กาญจนะ' ควรเป็นรัฐมนตรี เพราะเขาจับมือกับ 'กำนันศักดิ์-พงศ์ศักดิ์ จ่าแก้ว' นายกฯ อบจ.สุราษฎร์ หอบหิ้ว สส.เข้ามาได้ถึง 6 คน จาก 7 คน ในสุราษฎร์ธานีหรือไม่?

ต้องยอมรับความจริงว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ถือเป็นสนามหิน สังเกตจากเลือกตั้งครั้งก่อน ประชาธิปัตย์ชนะยกจังหวัด 6 ที่นั่ง และมี 'สินิตย์ เลิศไกร' นั่งเป็นรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์

เลือกตั้งปี 66 พรรครวมไทยสร้างชาติก่อเกิดขึ้น เพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินหน้าต่อทางการเมือง โดย 'ชุมพล กาญจนะ' เดินออกจากประชาธิปัตย์ เข้าร่วมภารกิจกับรวมไทยสร้างชาติ ปลุกปั่นทีมสุราษฎร์ธานี จนเดินฝ่าดงประชาธิปัตย์มาได้ถึง 6 คน ซึ่งก็ถือว่าไม่ธรรมดา ถึงแม้จะอ้างว่าประชาธิปัตย์ขาลงก็ตาม แต่มีภูมิใจไทย ตามจี้ก้นอยู่เหมือนกัน จนภูมิใจไทยมาแย่งไปได้ 1 ที่นั่ง

เมื่อชุมพลหอบหิ้วชัยชนะมาให้รวมไทยสร้างชาติได้สวยงามขนาดนี้ จังหวัดเดียวได้มา 6 ที่นั่งจากที่รวมไทยสร้างชาติทั่วประเทศได้มา 36 ที่นั่ง รางวัลแห่งความสำเร็จควรจะยกให้ 'ชุมพล กาญจนะ' หรือไม่?

ชุมพล กาญจนะ ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านประสบการณ์ทางการเมืองมาโชกโชน ถือเป็นเบอร์ต้นๆ ของสุราษฎร์ธานี ไม่เสียหายอะไรหรอกถ้าเขาจะได้รับกับค่าเหนื่อย

แต่โควตานี้ ถ้าเป็นไปตามโผ ได้ตกเป็นของ 'วิทยา แก้วภารดัย' กับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นตำแหน่งที่วิทยาไม่ควรรับ เพราะเคยนั่งว่าการกระทรวงสาธารณสุขมาแล้ว

เหมือนคนที่เคยเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วมาเป็นรองนายกรัฐมนตรี คุณค่ามันด้อยลงไป เหมือนสมัยหนึ่งที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี แล้วมารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในเวลาถัดมา

แม้บางคนอาจจะแย้งว่าไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สำหรับผมถือว่า 'แปลก' และในทางการเมืองก็วิจารณ์กันได้ และวิทยาควรจะไปเอาโควตาภาคอีสาน เพราะช่วงเลือกตั้งวิทยาเป็นคนที่พรรคมอบหมายให้ดูแลภาคอีสาน

อย่างไรก็ตาม ชุมพลช่วงออกจากประชาธิปัตย์ ก็ถูกถล่มเรื่องเงิน 200 ล้าน ซึ่งข้อเท็จจริงประการใดไม่มีใครทราบ แต่ชุมพลก็ออกมาปฏิเสธเรื่องเงิน 200 ล้าน

เอาเป็นว่า ยังเป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ และทางการเมืองก็กล่าวหากันได้ แต่ยังไงซะ วันนี้ชุมพลได้หอบหิ้วความสำเร็จให้รวมไทยสร้างชาติ ในสนามสุราษฎร์ธานีแล้ว เพื่อความเป็นธรรมเขาจึงควรได้รับรางวัลสมน้ำสมเนื้อ เมื่อพรรครวมไทยสร้างชาติเข้าร่วมรัฐบาล จะเป็นรัฐมนตรีว่าการ หรือช่วยว่าการก็ไม่ว่ากัน

เพียงแต่ว่า แกนนำรวมไทยสร้างชาติ 2 คนของสุราษฎร์ธานี คือ 'ชุมพล' กับ 'กำนันศักดิ์' ไม่ลงรอยกัน เดินคนละทางกันเท่านั้นเอง โดยกำนันศักดิ์จะแพคกันกับกลุ่มลูกหมี (ชุมพร) และนายกฯ วิสุทธิ์ พัทลุง ส่วนชุมพลก็เป็นสายวิทยา

เมื่อสุราษฎร์ธานีไม่เป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน ชุมพลมีอยู่ 3...กำนันศักดิ์มีอยู่ 3...การแยกจากกันจึงไม่มีพลังอำนาจในการต่อรอง จึงอาจจะพลาดเก้าอี้รัฐมนตรี

จริงไหม 'พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค' หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ

‘น้ำตาล ชลิตา’ ชี้!! 5 ตัวเต็ง ชิงมง MUT 2023 ชาวเน็ตเตรียมจับตา หลังปีที่แล้วเคาะแม่นมาก

(20 ส.ค. 66) เรียกได้ว่าฤดูกาลประกวด ‘มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023’ (Miss Universe Thailand 2023) ใกล้จะได้รู้ผลทีไร ก็ทำเอาแฟนคลับนางงามพากันลุ้นตัวโก่งทุกที ว่าใครจะคว้ามงกุฎและเป็นตัวแทนไปแข่ง ‘มิสยูนิเวิร์ส’ ต่อไป ด้านนางงามรุ่นพี่อย่าง ‘น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์’ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 ก็ได้ออกมาวิเคราะห์ถึงผู้ชนะ เนื่องจากหลังปีที่แล้ว เธอเคาะได้อย่างแม่นยำอย่างกับตาเห็น ทำเอาแฟนนางงามต่างนับถือไปตาม ๆ กัน

โดยล่าสุด ‘สาวน้ำตาล’ ได้โพสต์คลิปวิดีโอแบบสับ ๆ ว่า 'ฟังนะ หลังดูพรีลิมฯ จบ แอนโทจับมือกับเจสซี่จบ ไม่รับทัวร์ค่ะ บาย'

เท่านั้นยังไม่พอ ‘น้ำตาล’ ยังได้โพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊กเป็นชื่อผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 จำนวน 5 คน โดยเรียงลำดับคือ 'แอนโท, เจสซี่, วีนา, เจนนี่, นลิน' ทำเอาหลายคนต่างสงสัยว่าเป็นการวิเคราะห์ถึงลำดับนางงาม TOP5 หรือเปล่า

'ช่อ' โยนบาป 'พท.' ขวางตั้งรัฐบาล เหตุไม่เอา ภท.  ทั้งที่ความเป็นจริง 'พิธา' เคยพูดเองว่าไม่เอา ภท.

(20 ส.ค. 66) มีรายงานว่า ขณะนี้มีข้อความและคำพูดของ น.ส. พรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล แชร์ว่อนเน็ต หลังไปออกรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ระบุถึงย้อนไปถึงเหตุการณ์ ครั้งที่ ‘พรรคก้าวไกล’ จัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ เป็นเพราะพรรคเพื่อไทย ไม่ต้องให้ พรรคภูมิใจไทย เข้าร่วมรัฐบาล ท้้งที่หากได้ 71 เสียงของพรรคภูมิใจไทย จะได้เสียง เกิน 376 เสียงเป็นนายกฯ ได้ทันที โดยไม่ต้องพึ่ง สว. พร้อมระบุว่า ถ้าเรื่องที่ตัวเองพูดไม่จริง ก็บอกมาว่าไม่จริง

ขณะที่ข้อเท็จจริงช่วงนั้น ผู้ที่ไม่เอาพรรคภูมิใจไทย ร่วมรัฐบาล ก็คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนทุกแขนงเมื่อวันที่ 15 พ.ค. หลังวันเลือกตั้ง 14 พ.ค. มั่นใจเสียงของ 8 พรรคเดิม ก่อนจะเพิ่มเป็น 312 เสียง เพราะเชื่อว่าในขณะนั้นจะได้เสียงสนับสนุนเป็นนายกฯได้ ก่อนถูกรัฐสภาโหวตคว่ำในเวลาต่อมา

‘ศรีสุวรรณ’ ย้ำเตือนความจำ!! ฝากถึง ‘หมออ๋อง-เจี๊ยบ’  ยังจำนโยบายพรรคตัวเองได้ไหม หรือมีไว้ให้เคลิ้มเล่นๆ 

(20 ส.ค. 66) นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีที่ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 สส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ใช้งบประมาณสำหรับเลี้ยงรับรอง เลี้ยงหมูกะทะแม่บ้านอาคารรัฐสภา จำนวน 370 คน เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา โดย นายศรีสุวรรณ ระบุว่า

"ฝากถึงหมออ๋อง กับ เจี๊ยบ จำโพสต์นโยบายของพรรคตัวเอง นโยบายนี้ได้ไหมครับ หรือมีไว้เพื่อให้ด้อมส้มเคลิบเคลิ้มเล่นๆ หรือต้องให้แจ้งความเล่นทั้งพรรคฯ เกี่ยวกับ พรบ.คอมฯ อีกกระทงดี ฐานนำเข้าข้อความอันเป็นเท็จฯ เพราะท่านทั้งสองเป็น กก.บห.ของพรรคด้วยนะครับ"

‘เต้ย จรินทร์พร’ คว้ารางวัล Global Star Media Awards สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากละครน้ำดี ‘มาตาลดา’

(20 ส.ค. 66) ละครน้ำดีแห่งปี ‘มาตาลดา’ ที่ตอนนี้ลงจอไปแล้ว แต่ก็ยังถูกพูดถึงเสมอ มีแฟนคลับตามดูย้อนหลัง และดูกันซ้ำๆ อยู่หลายรอบ ส่งผลให้ล่าสุด ละคร ‘มาตาลดา’ ได้คว้ารางวัล Global Star Media Awards โดย ‘เต้ย จรินทร์พร’ คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และ ‘เจมส์ จิรายุ’ คว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ส่วน ‘ชาย ชาตโยดม’ คว้ารางวัลนักแสดงสมทบยอดเยี่ยม

โดย ‘เต้ย จรินทร์พร’ ได้โพสต์ภาพสุดประทับใจ พร้อมเขียนข้อความว่า "Thank you so so much for the awards! มีคนรัก #มาตาลดา เต็มเลย :) เต้ยดีใจที่มีโอกาสได้เป็นคนที่ถ่ายทอดตัวละครที่ชื่อ มาตาลดา นะคะ รักมากเลย ปล. รางวัลของเป็นหนึ่งอยู่กับมาตา ส่วนของพ่อเกรซอยู่กับน้าจ๋านะคะ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top