‘เอ ศุภชัย’ ไม่แปลกใจ ‘อั้ม’ ได้ค่าสัญญา 20 ล้าน เหมาะสมกับความทุ่มเทและตั้งใจทำงานมาโดยตลอด

เมื่อวานนี้ (19 ส.ค. 66) จากกระแสทำละครเรื่องใหม่และประเด็นเรื่องค่าตัวของ ‘อั้ม พัชราภา’ ล่าสุดผู้จัดการดาราดัง ‘เอ ศุภชัย’ ที่มางานเปิดตัวเด็กปั้นใหม่ในสังกัดตัวเอง ที่สตูดิโอ โคริเน็ตเวิร์ค จากนั้นเจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการสร้างละครเรื่องใหม่ หลังก่อนหน้านี้เจ็บตัวกับเรื่องแม่เบี้ย ขาดทุนไป 25 ล้านบาทว่า ละครเรื่อง เสน่ห์นาง ตั้งใจทำมาก มีการบทอ่านครบด้วยตัวเอง และจากประสบการณ์จากที่ขาดทุนไปหลายล้านทำให้ตอนนี้ต้องระมัดระวังควบคุมงบการทำงานมากขึ้น

“ต้องแยกซีนเอง นั่งแยกโลเคชั่นเอง คิดคอสตูมเอง นั่งคำนวณว่าถ้าขนาดนี้ ซีจีจะขนาดไหนเพราะเรื่องเบี้ยซีจีมาแค่งูแต่เรื่องใหม่มีทั้งแมงมุมทั้งงู ตะขาบ มีทุกอย่าง พี่เลย นั่งเกาหัวอยู่ค่ะว่าจะทำยังไงดีให้มันเซฟเงินมากที่สุด ที่ขาดทุนน้อยที่สุด แต่ก็ต้องขาดทุนแต่ไม่เป็นไรอยากให้ทุกคนได้เห็นสิ่งที่ดีที่สุด”

กับเรื่องแม่เบี้ย เอ ถือคติว่า เสียชื่อไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้ ซึ่งที่เสียไปกว่า 25 ล้าน ก็ไม่ได้รู้สึกเสียดาย เพราะเหมือนเป็นการให้รางวัลกับคนดู

“เพราะถ้าไม่มีคนดูในวันนี้ พี่เอก็เป็นพี่เอที่ทุกคนชื่นชมไม่ได้ เพราะอย่างงั้นเป็นรางวัลให้คนดูเขาได้ดูหนังที่ผู้จัดทุ่มสุดตัวสุดใจ”

ส่วนเรื่องนักแสดงที่เคยอ้อน ‘อั้ม พัชราภา’ ให้มาเล่นนั้น เอเผยถึงเหตุผลที่อยากร่วมงานกับอั้มว่า “พี่เอก็คิดเหมือนกันว่าทำไมรอพี่อั้ม พี่เอก็คิดว่าทำไมพี่อั้มเล่นของคนอื่นได้แต่ทำไมไม่มาเล่นของพี่เอสักเรื่อง แค่นี้เองค่ะ (ยิ้ม) แล้วพี่เอก็ไม่รู้ว่าพี่เอจะทำละครอีกกี่เรื่อง เหมือนกับไม่รู้ว่าเรื่องอาจจะเป็นเรื่องสุดท้ายของพี่เอหรือเปล่า พี่เอก็ยังไม่รู้ พี่เอก็อยากได้คนที่พี่เอรักมากๆ มาอยู่กับพี่เอ อาจจะอยู่กันแล้วทะเลาะกันบ้างหรืออะไรกันบ้างแต่พี่เอว่าเราได้อยู่ด้วยกัน”

กับเรื่องค่าตัวหลายคนมองว่าต้องสู้ เอ ยอมรับว่าไม่ได้หนักใจ พร้อมหัวเราะก่อนจะบอก “ขอให้เขาเล่นก็พอ (หัวเราะ) ค่าตัวช่องจ่าย (หัวเราะ)”

ส่วนประเด็นเรื่องข่าวค่าตัว ‘อั้ม พัชราภา’ ที่ช่อง 7 ให้ปีละ 20 ล้าน ในฐานะที่เอเป็นผู้จัดการ ก็บอกว่า ไม่ทราบรายละเอียด เพราะอั้มรับตรง “ได้ฟังครั้งแรกก็อยากส่วนแบ่งเลยเนี่ย (หัวเราะ) อยากได้ส่วนแบ่งเอามาทำละครเลย (หัวเราะ)”

พร้อมบอกอีกว่า “อยากให้พี่อั้มได้เยอะๆ เพราะพี่อั้มตั้งใจทำทุกอาชีพทุกหน้าที่ พี่เอว่ามันก็ไม่ได้แปลกเลย เพราะพี่อั้มอยู่ช่อง 7 มานานมากแล้วก็รักในความเป็นนางเอกช่อง 7 ไม่ไปไหน พี่ว่ากับความเป็นแบบนี้ถ้าเป็นบริษัทพี่เอก็ให้แบบนี้เหมือนกัน”

ขณะที่เรื่องของ ‘ปู ไปรยา’ ประกาศข่าวดีเป็นว่าที่เจ้าสาวไปแล้ว กับเอผู้เป็นคนพาปูเข้ามาวงการก็บอกว่ารู้สึกดีใจมากที่เห็นปูมีความสุข พร้อมเล่าว่าโมเมนต์ได้เจอกันอีกครั้งก็ได้ไปถึงกอดกันรู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหล

“จากตอนเด็กๆ ที่เขาอายุ 15-16 เราขวางคนโน้นขวางคนนี้ แล้วสุดท้ายคนที่หาผู้ชายมาให้ก็คือแม่ที่แนะนำให้รู้จัก พี่เอไม่ต้องโดนน้องปูทำโทษแล้วนะ เพราะว่าจากวันนึงที่เคยขวางแต่วันนี้แม่ก็เป็นคนแนะนำให้ น้องปูต้องให้อภัยพวกพี่สมัยตอนเด็กๆ ที่ขวางปูไม่ให้คุยกับคนโน้นคนนี้ คือเวลาและจังหวะตอนนั้นมันยังไม่เหมาะสม เราเป็นผู้ใหญ่เราก็เห็นว่ามันไม่เหมาะสมแต่ตอนนี้วัยและเวลาทุกอย่างมันลงตัวมากแล้ว และเห็นแววตาน้องปูที่มีความสุข เวลาเขาพูดถึงคนของเขาเนี่ยหนูนอนหลับสบายมากเลย หนูไม่ต้องเครียดไม่ต้องคิดว่าเขาไปหาคนอื่น เราเห็นแววตาในคำพูดของเขาแล้วเรารู้สึกดีใจที่เป็นความสุขจริงๆ ไม่ต้องเป็นความสุขที่ต้องวิ่งตามหาแต่เป็นความสุขที่นอนรอแล้วมาเลย”

เมื่อถามว่าย้อนกลับไป ‘ปู ไปรยา’ เป็นเด็กดื้อไหม เอ ก็เล่าว่า “ตอนเด็กๆ ทุกคนก็เป็นแบบนี้กันหมดแหละค่ะ พี่เอก็ดื้อ (ปูก็สร้างตำนานหลายอย่าง?) โอ๊ย ทุกอย่าง ถ้าวันนั้นถ้าใครดูคลิปในไอจีสตอรี่พี่เอ นางก็เล่ามาตั้งแต่สมัยที่ไปกองขึ้นรถหนีกลับบ้าน แล้วพี่เอบอก เอาไว้ในรถตู้ ปิดประตูเดี๋ยวนี้ อย่าให้หนีกลับ ตอนนี้เวลาเรามานั่งเล่าเราก็หัวเราะจากวันนึงที่เราเจอเหตุการณ์เราก็ร้องไห้วันนี้เราหัวเราะแล้ว ทุกอย่างมันผ่านมาแล้วทุกคนก็เป็นแบบนี้หมด ผ่านวัยเด็กวัยที่เอาแต่ใจตัวเอง แล้ววันนึงเราเป็นผู้ใหญ่ พี่ก็เลยบอกว่าคนบางคนเราไม่ต้องไปสอนหรอกอย่างโน้นอย่างนี้ เวลาเขาโตเขาเจออะไรเยอะๆ เดี๋ยวเขาก็กลับบ้านมาหาแม่เชิญแม่ไปงานแต่ง ก็ดีใจค่ะ”