Tuesday, 30 April 2024
Isan

มุกดาหาร - “ตม.จว.มุกดาหาร ฟาดแก๊งขนแรงงานเถื่อน ลูบคม ตม.”

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต., พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.เอกมนต์ พรชูเกียรติ รอง ผบก.ตม.4 ,พ.ต.อ.วีรยศ การุณยธร รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.ปรีชา กองแก้ว รอง ผบก.ตม.4 และ พ.ต.อ.พิษณุ สิทธิฑูรย์ ผกก.สส.บก.ตม.4 พร้อมชุดสืบสวนฯร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนร้าย ดังนี้ 

ชุดสืบสวนปราบปราม ร่วมกับ สภ.คำชะอี ได้จับกุม นายยงยุทธ อายุ 23 ปี สัญชาติ ไทย พร้อมพวกรวม 2 คน ข้อหา “ร่วมกันซ่อนเร้น หรือ ช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ ให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พ้นจากการจับกุม” และ นางดวงพะไท สัญชาติ ลาว พร้อมพวกรวม 16 คน ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมของกลาง รถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดของกลางและควบคุมตัวผู้ถูกจับ ส่ง พงส.สภ.คำชะอี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันสืบสวนหาข่าวจนทราบว่า จะมีขบวนการลักลอบนำคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ในพื้นที่ จ.มุกดาหาร ทางช่องทางธรรมชาติ โดยมีรถตู้ยี่ห้อ โตโยต้า สีบรอนซ์ จะมารับคนต่างด้าวตามจุดนัดหมาย เพื่อมุงหน้าเข้ากรุงเทพฯ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันวางแผนและติดตามจนพบรถตู้คันดังกล่าว และสกัดจับรถตู้คนดังกล่าวได้ เมื่อเข้าตรวจสอบพบนายยงยุทธเป็นผู้ขับขี่ โดยมีบุคคลต่างด้าวสัญชาติ ลาว โดยสารมาด้วย 16 คน นายยงยุทธรับว่าได้รับการว่าจ้างจากชายไม่ทราบชื่อให้ขับรถตู้จาก อ.นาแก จ.นครพนม มารับบุคคลต่างด้าว สัญชาติ ลาว ที่อ.เมือง จ.มุกดาหาร โดยผู้ว่าจ้างได้ทำการติดต่อแจ้งเส้นทางและขั้นตอนรวมถึงจุดรับและตกลงจ่ายค่าจ้างให้นายยงยุทธฯ เป็นเงิน 15,000 บาท เมื่อถึงจุดหมายที่ กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงรวบรวมหลักฐานเพื่อขยายผลการจับกุมสู่ตัวการผู้ว่าจ้างต่อไป

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณอย่างยิ่ง

กาฬสินธุ์ – ปลูกแล้วกัญชาต้นแรก ถูกกฎหมาย ขอขอบคุณพรรคภูมิใจไทย ผลักดันสร้างโอกาสและรายได้ให้ประชาชน

เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2564 ที่วิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่  อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ นายสนั่น พงษ์อักษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานปลูกกัญชาถูกกฎหมายต้นแรก ให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่ มีนายพงศกร กรโสภา ผอ.รพ.สต.บ้านหนองแวงใต้, นางทศพร กรโสภา พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ รพ.สต.หนองแวงใต้, น.ส.สุภาพร คำยุธา ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่ พร้อมด้วยนายนิมิตร รอดภัย นายสถาพร ฉายประดิษฐ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ และนายยุทธนา เกียรติดำเนินงาม นายกสมาคมนักข่าวกาฬสินธุ์ และหัวหน้าศูนย์ข่าวเดลินิวส์ภาคอีสานตอนบน ร่วมเป็นสักขีพยาน

การปลูกกัญชาต้นแรกนี้ วิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่ ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายจาก องค์การอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้ส่งเมล็ดกัญชาให้กลุ่มทำการเพาะปลูก ที่ผ่านมาได้มีการอนุบาลเมล็ดพันธุ์จนเติบโตและมีความแข็งแรง จนสามารถนำไปปลูกภายในโรงเรือนตามมาตรการคุมเข้มของทาง อย. โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ และ รพ.สต.บ้านหนองแวงใต้ กำกับดูแล

นายนิมิตร รอดภัย ที่ปรึกษาวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่ ตำแหน่งนักวิชาการของวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่ กล่าวว่าการปลูกกัญชาให้มีคุณภาพตรงตามคุณภาพมาตรฐานของ อย. นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นการปลูกภายในโรงเรือนระบบปิด การปลูกจึงต้องดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอน ไม่ว่าจะเป็นการนำเมล็ดที่ได้รับมาจากทาง อย. มาเพาะจนมั่นใจว่าสามารถนำลงดินปลูก

“ในการปลูกนั้นเป็นลักษณะโรงเรือน เพื่อป้องกันศัตรูพืช มีการกางมุ้งและรดน้ำตามระยะเวลา ที่คาดว่าต้นกัญชาจะเติบโตได้นั้นจะมีระยะเวลาประมาณ 3-4 เดือน เพื่อให้มั่นใจในมาตรฐานก็ยังมีการจัดเวรยามดูแล ผ่านระบบน้ำ และกล้องวงจรปิดเพื่อป้องกันบุคคลภายนอกด้วย”

นายสนั่น พงษ์อักษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การปลูกกัญชาเท่าที่ดูจากวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่ มองดูแล้วไม่ง่าย การเพาะปลูกต้องมีความเชี่ยวชาญ เพราะสิ่งสำคัญเมื่อต้นโตแล้วก็ยังต้องมาดูว่าเป็นต้นตัวผู้หรือตัวเมีย จะมีช่อดอกหรือไม่ ซึ่งหากเกษตรกรสนใจก็ต้องศึกษาให้ถี่ถ้วนเสียก่อน และควรจะไปปรึกษาหาความรู้จากทางเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งทางจังหวัดก็พร้อมที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่ และให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายเช่นกัน

ด้าน น.ส.สุภาพร คำยุธา ประธานวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่ กล่าวว่า การได้ปลูกกัญชาถูกต้องตามกฎหมาย ต้องขอบคุณพรรคภูมิใจไทย ที่ได้ผลักดันให้สามารถปลูกกัญชาได้ถูกต้องตามกฎหมาย ที่เป็นการสร้างรายได้ให้กับประชาชน เพราะกัญชาถือว่าเป็นพืชสมุนไพรที่มีมูลค่าในตัวและทางวิสาหกิจชุมชนฯ ก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามกฎหมายในทุกขั้นตอน และในอนาคตในส่วนของ ลำต้น ใบ และราก เมื่อต้นกัญชาพร้อมที่จะตัดจำหน่าย ในส่วนผู้ที่สนใจจะนำไปแปรรูปต่อนั้น ก็สามารถติดต่อมาได้ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนพืชสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจใหม่


ภาพ/ข่าว ณัฐพงษ์  ประชากูล จ.กาฬสินธุ์

ขอนแก่น - เปิดหอพัก 26 ม.ขอนแก่น ตั้ง รพ.สนาม รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 เริ่มเข้าพักเวลา 16.00 น.วันนี้

นพ.สมชายโชติ​ ปิยวัชร์เวลา​ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จากมติกรรมการโรคติดต่อจังหวีดขอนแก่น ครั้งที่ 14/2564 เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564 ได้มอบหมายให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเตรียมการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามของจังหวัดขอนแก่น และได้มีการจัดระบบการดูแลกรณีมีผู้ป่วยจำนวนมาก ในระบบการส่งต่อคนไข้ที่ไม่มีอาการไปกักตัวดูแลในโรงพยาบาลเครือข่ายตามแผน ซึ่งขณะนี้ได้ส่งไปที่ต่าง ๆ โดยพิจารณาจากจำนวนเตียงที่สามารถรับได้ทั้งหมดแล้ว และถ้าหากมีจำนวนผู้ป่วยมากจำเป็นต้องจัดให้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม 

ทั้งนี้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นได้ร่วมประชุมการเตรียมจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ร่วมกับตัวแทนของโรงพยาบาลศรีนครินทร์​ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยได้เลือกสถานที่ที่มีความเหมาะสม คือ หอพัก 26​ ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น รองรับได้ 258 เตียง และหอประชุมพุทธมณฑลอีสาน ตำบลศิลา รองรับได้  240 เตียง ​การจัดอัตรากำลังให้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นเป็นผู้ดำเนินการในการจัดทีม รวมทั้งการสนับสนุนระบบต่าง ๆ กำหนดเปิดโรงพยาบาลสนามในวันนี้ เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ทั้งนี้รูปแบบการจัดการได้มีการนำเสนอส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการให้มีประสิทธิภาพต่อไป

ล่าสุด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อ Covid19 รายใหม่เมื่อวานนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก 31 ราย ทำให้จังหวัดขอนแก่นมีจํานวนผู้ติดเชื้อสะสมจากการระบาดในระลอกใหม่นับตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.63 – 14 เม.ย. 54 รวม 126 ราย รักษาหายแล้ว 14 ราย กำลังรักษาในโรงพยาบาล 112 ราย

ขอนแก่น - ตรวจสอบกรณีสาวนักศึกษาติดเชื้อโควิดที่ กทม. แต่ไม่ยอมกักตัว กลับขึ้นรถโดยสารปรับอากาศมาตรวจเชื้อที่ขอนแก่น ก่อนผลตรวจยืนยันว่าติดเชื้อ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 15 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชียลมีเดียและเพจต่าง ๆ ทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด เป็นนักศึกษาสาว ชาวจังหวัดขอนแก่น ที่โพสต์ข้อความและไทม์ไลน์ เกี่ยวกับการติดเชื้อโควิด-19 ของตนเองผ่านอินสตราแกรมส่วนตัว โดยข้อความระบุว่า “ไทม์ไลน์เราตั้งแต่วันที่ 1 - 5 คือสุ่มเสี่ยงมาก จนวันที่ 6 - 7 เรามีเริ่มมีอาการปวดหัวมาก+ตัวร้อน  วันที่ 8 อาการดีขึ้น วันที่ 9 กลับมาปวดหัวหนักอีกรอบ  วันที่ 10 - ปัจจุบัน ไม่มีอาการปวดหัวแล้ว หายปวดหัว  หลังจากคืนวันที่ 9 เพราะเข้านอนเร็ว+กินยา+กินน้ำเยอะ ๆ แต่อาการที่ตามมาหลังจากนี้คือ ได้กลิ่นอ่อน ๆ อ่อนมาก ๆ ถ้าไม่เอาเข้าใกล้จมูกแทบจะไม่ได้กลิ่น ส่วนรสอาหารแรก ๆ ยังรับรสอยู่ พอวันนี้ (วันที่12) ตื่นมาลิ้นรับรสยาสีฟันน้อยมาก ได้กลิ่นน้อยกว่าเดิมมาก ๆ วันนี้เลยกำลังเดินทางไปตรวจที่ จ.ขอนแก่น เพราะทางบ้านให้ไป หากพบเชื้อจริงก็จะรักษาตัวที่ ขอนแก่นเลย ในส่วนของไทม์ไลน์จะมาลงให้หลังจาก รู้ผลตรวจแล้วนะทุกคน ขอโทษที่ทำให้คนรอบข้างได้รับผลกระทบหรือเดือด ร้อนจากการกระทำของเราด้วยจริง ๆ นะ ขอโทษแบบ ขอโทษจากใจเลย” หลังจากนั้นเจ้าตัวได้มาโพสต์ข้อความ ยืนยันว่าตัวเองติดเชื้อโควิดพร้อมกับแจงรายละเอียดไทม์ไลน์ตนเอง

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ต้องขอบคุณน้องนักศึกษาที่แจ้งไทม์ไลน์เอาไว้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดได้ทราบและดำเนินการสอบสวนเชิงรุกทันที เบื้องต้นนั้นได้ทราบว่า ตัวนักศึกษารายดังกล่าวนั้นมีมาตรการส่วนบุคคลในการป้องกันโรค โดยสวมใส่แมสตลอดเวลา ก่อนจะเข้ารับการตรวจ ซึ่งคล้าย ๆ กับผู้ติดเชื้อที่สมุทรสาคร ซึ่งก็มีความรับผิดชอบต่อสาธารณะในระดับหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้ทางสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นเข้าไปตรวจสอบในเชิงลึกถึงรายละเอียดต่าง ๆ อย่างเข้มงวด หากมีความผิดในประการใดก็จะมีการดำเนินการตามกฎหมาย และขอให้ทุกคนที่พบว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือมีอาการป่วยขอให้งดเดินทางและเข้ารับการตรวจที่สถานให้บริการด้านสาธารณสุขใกล้ตัวทันทีและขอให้ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคอย่างเข้มงวดด้วย

กาฬสินธุ์ – ชาวนาสุดช้ำ โควิด-19 ชีวิตลำบาก ราคาข้าวนาปรังตกต่ำวอนรัฐช่วย

ชาวนาในอำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์สุดช้ำ ระบุทุกวันนี้ใช้ชีวิตด้วยความลำบาก เนื่องจากระมัดระวัง การได้รับเชื้อโควิด-19 หนำซ้ำนำข้าวเปลือกนาปรังไปขาย หวังนำเงินได้ไปใช้หนี้ ธกส. จ่ายค่าปุ๋ย และทำบุญช่วงเทศกาลสงกรานต์ กลับได้ราคาต่ำ ประสบปัญหาขาดทุนซ้ำซาก วอนรัฐบาลช่วยเหลือ

เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปรัง ของชาวนาในพื้นที่ใช้น้ำชลประทานลำปาว เขต ต.นาเชือก และ ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเริ่มเก็บเกี่ยวกันแล้ว  รวมทั้งสภาพความเป็นอยู่ การดำเนินชีวิตของประชาชนในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งมีการคุมเข้มความปลอดภัยอย่างเข้มข้น ตามมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อ เนื่องจากพบว่ามีการแพร่ระบาดในวงกว้างในช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์

นายปี วรรณศรี อายุ 69 ปี ชาวนาบ้านนาเชือก ต.นาเชือก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปี ของตนและชาวนาปีนี้ มีความหวังที่จะนำรายได้จากการขายข้าว มาใช้หนี้ ธกส. ชำระค่าปุ๋ยเคมี ทำบุญในเทศกาลสงกรานต์ โดยเฉพาะเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 กลับต้องรู้สึกท้อแท้ แทบสิ้นหวัง เนื่องจากราคารับซื้อข้าวยังตกต่ำ ซึ่งเป็นการตกต่ำอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ขายข้าวนาปีเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยแหล่งรับซื้อให้ราคาเพียง ก.ก.ละ 7.40.-7.50 บาทเท่านั้น ทำให้ชาวนาประสบปัญหาขายข้าวขาดทุนซ้ำซาก

นายปี กล่าวอีกว่า เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ แทนที่ตนและชาวนารวมทั้งประชาชนทั่วไปจะดีใจ ได้ทำบุญและท่องเที่ยวสงกรานต์ ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามประเพณีไทยอย่างมีความสุข กลับต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังและเต็มไปด้วยความลำบาก เนื่องจากต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 อย่าเคร่งครัด ซึ่งก็พอที่จะปรับตัวได้ เพื่อตนและคนในครอบครัว รวมทั้งทุกคนในชุมชนจะมีความปลอดภัย ไม่ติดเชื้อโควิด-19 แต่ที่ทำใจไม่ได้คือราคารับซื้อข้าวเปลือกนาปรังที่ยังตกต่ำ ทำให้ประสบปัญหาขาดทุนดังกล่าว

นายปี กล่าวเพิ่มเติมว่า ต้นทุนการผลิตของชาวนาในปัจจุบันยังสูงมาก ทั้งค่ารถไถ ค่าแรง ค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าปุ๋ยเคมี ค่าน้ำมันสูบน้ำ ถึงขั้นตอนเก็บเกี่ยวก็ยังมีค่ารถเกี่ยว ค่าขนส่ง รวมแล้วต้นทุนการผลิตข้าวสูงกว่าไร่ละกว่า 2,000 บาท ขณะที่ผลผลิตข้าวได้ไม่เกินไร่ละ 3,500 ก.ก. ขายข้าวเปลือก ก.ก.ละ 7.40-7.50 บาท ได้เงินประมาณ 2,500-2,600 บาทเท่านั้น ก็แทบจะไม่เหลืออะไร จึงอยากวิงวอนให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือชาวนา โดยปรับราคารับซื้อข้าวเปลือกให้สูงขึ้น หรือให้ดีที่สุดคือมีโครงการประกันราคาข้าวเปลือก รวมทั้งช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวด้วย เพราะขณะนี้ชาวนาเดือดร้อนมาก

ขอนแก่น - มข.ตั้งรพ.สนาม แห่งแรกของจังหวัด รองรับผู้ป่วยโควิด-19 สนับสนุนประเทศ ก้าวข้ามภาวะวิกฤต

เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2564  รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล  อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น, รศ.เพียรศักดิ์ ภักดี  รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์  ผศ.ดร.อาวุธ ยิ้มแต้  รองอธิการบดีฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งแวดล้อม  รศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น  ผศ.ดร.สมพงษ์ สิทธิพรหม  ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายรักษาความปลอดภัย  อาจารย์ณัฐสมล ธนกุลรังสฤษดิ์  ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษ  พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และบุคลากร ให้การต้อนรับ ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล  ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นพ.สมชายโชติ​ ปิยวัชร์เวลา นายแพทยสาธารณ​สุขจังหวัด​ขอนแก่น​ พร้อมด้วยคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่น เดินทางเข้ามาตรวจความพร้อมหอพักที่ 26 มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อดำเนินการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 แห่งแรกของจังหวัดขอนแก่น

ดร.สมศักดิ์  จังตระกุล  กล่าวว่า  “หอพักที่ 26 ที่ใช้เป็นโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 1 ของจังหวัดขอนแก่น  ถือว่าเป็นโรงพยาบาลสนามที่มีความพร้อมในทุกประการ ซึ่งในหลักคิดของการจัดการผู้ป่วยโควิด-19  คือการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการดูแลผู้ป่วย บริหารทรัพยากรพื้นที่ โดยสำนึกว่าทรัพยากรต่างๆนั้นเกิดมามาจากภาษีอากรของประชาชน จึงต้องบริหารจัดการให้ดีที่สุดเพื่อดูแลผู้ป่วยอย่างดีที่สุด  วันนี้โรงพยาบาลสนามแห่งนี้จะเป็นความภาคภูมิใจของความร่วมมือในทุกภาคส่วน ในการดูแล ช่วยแบ่งเบาลดภาระโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั้งหมด  หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคณาจารย์ บุคลากร น้องๆ นิสิต นักศึกษา จะเข้าใจของการที่เราต้องอยู่ร่วมกันให้ได้ในสังคมที่มีการแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ของโรคโควิด-19  ที่สำคัญคือเราจะช่วยกันบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุด สนับสนุน ในการบริหารจัดการโรคให้ลุล่วง และบรรลุวัตถุประสงค์ของทางราชการ”

ด้านรศ.นพ.ชาญชัย  พานทองวิริยะกุล  ให้ความมั่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่นว่า  “มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นหน่วยงานของรัฐที่มีทรัพยากรที่มีความพร้อมที่จะสนับสนุนภาวะวิกฤตของประเทศ และจังหวัดขอนแก่น ประกอบกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ได้สั่งการให้มหาวิทยาลัยทั่วประเทศให้นำทรัพยากรมาสนับสนุนประเทศ  มหาวิทยาลัยขอนแก่นจึงได้ร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น สาธารณสุขจังหวัด และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่น  ได้สนับสนุนโรงพยาบาลสนาม โดยนำหอพักที่ 26 ที่ปรับปรุงใหม่แล้วเสร็จพอดียังไม่มีการจัดนักศึกษาเข้าพัก เป็นโรงพยาบาลสนามมีมาตรฐาน ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข โดยร่วมมือกับโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ดำเนินการตามมาตรฐานของกระทรวงให้มีความปลอดภัย มีการกำหนดพื้นที่  มีการวางระบบกำจัดของเสียต่าง ๆ เพื่อมิให้มีผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง  ขอให้นักศึกษา และบุคลากรมีความมั่นใจว่า จะไม่มีผลกระทบในด้านความเสี่ยง  ไม่ว่าจะเป็นหอพัก  หรือบุคลากร นักศึกษาที่อยู่พื้นที่อื่นๆ  ด้วยมาตรฐานดังกล่าว โรงพยาบาลสนามที่เปิดมาแล้วทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีโรงพยาบาลสนาม 3 แห่งแรก ประเทศฝรั่งเศส อังกฤษ  สหรัฐอเมริกา หรือในประเทศไทยที่มีการเปิดที่จังหวัดสมุทรสาครมาแล้ว  ด้วยมาตรฐานเหล่านี้ ไม่พบว่ามีรายงานว่ามีประชาชนติดเชื้อโควิด-19 จากโรงพยาบาลสนามแห่งใดเลย  จึงมั่นใจว่าโรงพยาบาลสนามแห่งนี้จะไม่มีบุคลากร นักศึกษาได้รับผลกระทบ หรือติดโรค ขอให้มีความมั่นใจ เราจะได้ทุ่มเททรัพยากรไปสนับสนุนไปแก้ปัญหาของจังหวัดได้อย่างเต็มที่”

ส่วน รศ.นพ.สมศักดิ์  เทียมเก่า  รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลสนาม 1 (หอ26) กล่าวให้ความมั่นใจว่า  “สืบเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอกเดือนเมษายน 2564  มีการกระจายตัวไปเป็นอย่างมาก  จำนวนผู้ป่วยในแต่ละโรงพยาบาลมีจำนวนมาก เป็นปัญหาที่หนึ่งของโรคโควิด นอกจากจะมีจำนวนผู้ป่วยโควิดมากขึ้นแล้ว  กลุ่มผู้ป่วยโรคปกติก็ยังมีอยู่  ฉะนั้น หน้าที่ของโรงพยาบาลหลัก เช่น โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น โรงพยาบาลศรีนครินทร์  และโรงพยาบาลชุมชน ต้องรับรักษาผู้ป่วยทุกกลุ่ม  ประกอบกับผู้ป่วยโรคโควิดจำเป็นต้องนอนรับการรักษาในโรงพยาบาลนานอย่างน้อย 14 วัน หรือมากกว่านั้น เพื่อไม่ให้มีโอกาสแพร่เชื้อ  จำนวนผู้ป่วยที่มีจำนวนสะสมมากขึ้นอย่างรวดเร็ว  ทำให้ใช้จำนวนเตียงในโรงพยาบาลหลักต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก  ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยโรคอื่น ๆ ทำให้ต้องลดการให้บริการ หรือผู้ป่วยโรคอื่น ๆ ไม่สามารถเข้ารับบริการได้  ซึ่งผู้ป่วยโรคโควิดจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่  กลุ่มที่มีอาการหนัก  ที่ต้องอยู่ในห้องความดันลบ  กลุ่มที่สอง มีอาการรุนแรงปานกลาง ต้องให้ออกซิเจน กลุ่มที่สาม เป็นกลุ่มซึ่งไม่มีอาการใดๆ เลย หรือมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอเล็กน้อย  ฉะนั้นโรงพยาบาลสนามจึงมีความสำคัญในการผ่องถ่ายคนไข้จากโรงพยาบาลหลักออกมาสู่โรงพยาบาลสนาม  โดยกลุ่มผู้ป่วยที่เข้าอยู่ในโรงพยาบาลสนาม จะผ่านการดูแลรักษา วินิจฉัย  การดูแลแก้ไขปัญหาต่าง ๆ จนกระทั่งมีอาการดีขึ้น มีอาการปลอดภัย  จึงจะย้ายคนไข้ออกจากโรงพยาบาลหลักเข้าสู่โรงพยาบาลสนาม  เพื่อให้โรงพยาบาลหลักสามารถรับรักษาผู้ป่วยทั้งโรคโควิด และโรคอื่น ๆ ได้”

“หลักการของโรงพยาบาลสนามก็คือ  มีบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ว่าเป็นแพทย์เฉพาะทาง แพทย์ทั่วไป พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล เภสัชกร  หรือเรียกว่ายกโรงพยาบาล พร้อมทั้งมาตรฐานของโรงพยาบาลเพื่อควบคุมภาวะปลอดเชื้อต่าง ๆ หรือการกำจัดขยะ หรือสภาพแวดล้อมต่าง ๆ  ยกมาไว้ที่โรงพยาบาลสนามทั้งหมด ฉะนั้น ขอให้มั่นใจว่าโรงพยาบาลสนามจะมีความปลอดภัยทั้งกับผู้ป่วยเองซึ่งได้รับการรักษามาเป็นอย่างดีแล้ว และคนที่อยู่รอบข้างของโรงพยาบาลสนาม  เนื่องจากเป็นสถานที่ปิด มีการจัดทางเดินเข้าออกของรถ ผู้ป่วย ผู้มาให้บริการ เป็นทางอย่างชัดเจน จะไม่มีการเดินสวนกัน ระหว่างคนไข้ กับคนมาให้บริการ หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่นๆ  มีการกำจัดเชื้อไม่ว่าจะเป็นน้ำทิ้ง หรือขยะต่าง ๆ ให้เป็นไปตามมาตรฐานของการกำจัดขยะที่มีเชื้อโรคตามมาตรฐาน โดยความร่วมมือของสถานพยาบาล และเทศบาลเมืองขอนแก่น  โรงพยาบาลสนามมีความจำเป็นจริง ๆ ในสภาวการณ์ขณะนี้  และมีความปลอดภัยกับทุกคน และปลอดภัยกับสิ่งแวดล้อมทั้งหมด โดยจะมีบุคลากร และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำตลอดเวลา เพื่อควบคุมมาตรฐานต่าง ๆ ความปลอดภัยต่าง ๆ ให้กับผู้ป่วย บุคลากร และชุมชนที่อยู่รอบโรงพยาบาลสนามด้วย”

รศ.เพียรศักดิ์ ภักดี กล่าวถึงความห่วงใยต่อนักศึกษาและบุคลากรว่า  “การใช้หอพักที่ 26 เป็นโรงพยาบาลสนามนั้น  มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีมาตรการเข้มงวด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งต่อนักศึกษาที่พักอาศัยในหอพักที่ 3 หอพักที่ 4 บุคลากร ผู้ป่วย และเจ้าหน้าที่ โดยได้มีการดำเนินการกั้นพื้นที่ หอพักที่ 3-4 แยกออกจาก หอพักที่ 26 โดยใช้แผงเหล็กกั้น 2 และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลตลอดเวลา  มีการแยกช่องทางในการนำผู้ป่วยมาโรงพยาบาลสนามกับทางเดินของนักศึกษาที่อยู่หอพักออกจากกัน โดยเปิดช่องทางด้านหลังหอพักที่ 26 เป็นการเฉพาะสำหรับผู้ป่วย  ทั้งนี้  หอพัก 3-4 ห่างจากหอพักที่ 26 เกิน 15 เมตร ซึ่งปลอดภัยกับนักศึกษาอย่างแน่นอน”

ความร่วมมือสนับสนุนด้านการสาธารณสุขใช้หอพักที่ 26  เป็นโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 เนื่องจาก เป็นหอพักที่แยกจากหอพักอื่น ๆ อย่างชัดเจน ตรงตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด  โดยมหาวิทยาลัยขอนแก่นมีมาตรการในด้านการรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี  มีการควบคุมการเข้า-ออก  มีระบบการสื่อสารที่ดีโดยติดตั้งระบบไวไฟ (WiFi) อำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วย   เพื่อให้ประชาชนได้ก้าวข้ามผ่านพ้นวิกฤตโรคระบาดโควิด-19  เป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญควบคู่ไปกับการป้องกัน และดูแลรักษาความปลอดภัย ไม่ให้เกิดผลกระทบ และความเสี่ยงต่อนิสิตนักศึกษา บุคลากร และประชาชนรอบข้าง รวมทั้งสิ่งแวดล้อม

ขอนแก่น - โซเชียลจวกยับชาวขอนแก่น เล่นน้ำสงกรานต์ไม่สนประกาศคำสั่งห้ามเรื่องไวรัสโควิด-19 ไร้มาตรการการป้องกันโรค วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบด่วน

เมื่อเวลา 10.00 น..วันที่ 16 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆ ทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่ภาพคลิปกลุ่มชายหญิงทั้งเด็กและผู้ใหญ่กว่า 10 คน เล่นสาดน้ำสงกรานต์ในหมู่บ้าน โดยโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กพร้อมคลิปวีดีโอจำนวนหลายคลิปพร้อมข้อความระบุว่า “สงกรานต์วันสุดท้าย จ๊วดจ๊าด วันรวมญาติ(แต่ไม่ครบ) ปีหน้าว่ากันใหม่ สุขกายสบายใจกันทุกคนนะคะ ปีแรกที่ได้เล่นน้ำสงกรานต์ ถูกใจหลาย สงกรานต์ปีแรกของน้องกัปตัน” ซึ่งในคลิปนั้นปรากฏเป็นภาพของวัยรุ่นทั้งชายหญิง ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ไม่สวมใส่แมส บางรายเอาแมสไว้ที่คาง ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เต้นอยู่กลางถนน พร้อมกับสาดน้ำสงกรานต์เหมือนไม่มีประกาศคำสั่งให้งดและไม่เกรงกลัวโรคระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด

ซึ่งภายหลังผู้โพสต์มีการโพสต์ทั้งคลิปและภาพนิ่งที่เล่นน้ำสงกรานต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแชร์และแสดงความคิดเห็นถึงความไม่เหมาะสม และไร้จิตสำนึกของผู้โพสต์รวมทั้งคนที่เล่นน้ำสงกรานต์ในวันดังกล่าว อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและดำเนินคดี เพราะในขณะที่ทุกคนตระหนักถึงการป้องกันโรค แต่ยังมีคนจำนวนนี้ที่นึกถึงแต่ความสนุกความสบายของตัวเองโดยไม่สนใจว่าจะเกิดการแพร่ระยาดของโรคและขัดคำสั่งประกาศของทางเจ้าหน้าที่ที่ไม่ให้มีการเล่นสาดน้ำสงกรานต์ทุกพื้นที่

และภายหลังจากโซเชียลมีการแชร์ออกไปเป็นจำนวนมากผู้สื่อข่าวได้ทำการตรวจสอบพบว่าล่าสุดโพสต์ทั้ง 2 โพสต์นั้นถูกลบออกไปแล้ว แต่จะมีหลายเพจเฟซบุ๊กในจังหวัดขอนแก่นที่เซฟภาพไว้ทันนำมาโพสต์เพื่อให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาตรวจสอบ

กาฬสินธุ์ - ช็อคคลัสเตอร์ผับตากอากาศนศ.ติดโควิดเพิ่ม 1 ราย ไม่รอผลไทม์ไลน์ทั่วเมือง

จังหวัดกาฬสินธุ์พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 1 ราย เป็นนักศึกษาสาววิทยาลัยเทคนิคกาฬสินธุ์วัย 18 ปี ชาวตำบลกลางหมื่น อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พบเป็นคลัสเตอร์คอนเสิร์ต “ซองดูฮี” สถานบันเทิงตากอากาศ และเข้าตรวจกลุ่มเสี่ยงสูงแต่ไม่รอผลและไม่กักตัว ตรวจสอบไทม์ไลน์พื้นที่และช่วงเวลาเสี่ยงซื้อของทั่วเมือง ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อของจังหวัดกาฬสินธุ์รวม 16 ราย พร้อมออกประกาศคุมเข้มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 17 เมษายน 2564 นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อติดตามสถานการณ์และปรับแผนวางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 1 ราย เป็นคลัสเตอร์จากคอนเสิร์ต “ซองดูฮี”สถานบันเทิงตากอากาศ ทำให้ จ.กาฬสินธุ์ มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 16 ราย โดยรายล่าสุดนั้นอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเที่ยวสถานบันเทิงและได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อ แต่ระหว่างรอผลการตรวจกลับพบว่าไม่ได้กักตัวเอง และได้เดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะในตัวเมืองกาฬสินธุ์หลายแห่ง

นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 1 ราย เป็นรายที่ 16 ล่าสุดนั้น เป็นนักศึกษาหญิงของวิทยาลัยเทคนิคกาฬสินธุ์ อายุ 18 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ใน ต.กลางหมื่น อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์  ประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อจากคอนเสิร์ตซองดูฮีสถานบันเทิงตากอากาศ อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ เริ่มมีอาการป่วย 13 เมษายน 2564 ด้วยอาการไอ ปวดศีรษะ หายใจเหนื่อย

นายทรงพล กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีผู้ป่วยรายที่ 16 หรือประชาชนทั่วไปที่รู้ตัวเองว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงและเข้ารับการตรวจคัดกรอง ซึ่งระหว่างการรอผลตรวจนั้น อยากฝากเตือนจะต้องปฏิบัติตัวรับผิดชอบต่อสังคมด้วย โดยการกักตัว สังเกตอาการตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ไม่ออกไปในสถานที่ต่างๆหรือพบปะผู้คนจำนวนมาก ที่จะทำให้บุคคลอื่นเสี่ยงติดเชื้อไปด้วย ซึ่งต่อไปหากพบว่ามีกรณีบุคคลอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงและเข้าตรวจเชื้อแล้ว อยู่ระหว่างการรอผลตรวจ แต่ไม่ยอมกักตัวเอง และยังเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆอีกทางเจ้าหน้าที่อาจจะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อไป เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการติดเชื้อ

อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนโรคของเจ้าหน้าสาธารณสุข พบไทม์ไลน์ผู้ป่วยรายที่ 16 นักศึกษาอายุ 18 ปี โดยมีพื้นที่และช่วงเวลาเสี่ยงดังนี้ วันที่ 10 เมษายน 2564 ช่วงเวลา 14.00-14.15 น.ตลาดสดเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ (หน้าสภ.เมืองกาฬสินธุ์) ช่วงเวลา 23.00-24.00 น.ร้านตากอากาศ อ.นามน จ.กาฬสินธุ์, วันที่ 12 เมษายน 2564 ช่วงเวลา 11.40-11.50 น.ร้านนุชไก่สด ตลาดเกษตร อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ช่วงเวลา 12.00-12.05 น.ร้านอี้เหวินชาปั่น ตลาดเกษตร ช่วงเวลา 12.34-12.50 ร้าน KFC สาขากาฬสินธุ์พลาซ่า ช่วงเวลา 13.30-13.40 น.ร้านก๋วยเตี๋ยวแก่งนาขาม ต.นาจารย์ อ.เมืองกาฬสินธุ์, วันที่ 14 เมษายน 2564 ช่วงเวลา 16.10-16.20 น.ร้านห้องเย็นโอเล่ ต.โพนทอง อ.เมืองกาฬสินธุ์, วันที่ 15 เมษายน 2564 ช่วงเวลา 13.00-13.30 น.ร้านโกเหลียงก๋วยเตี๋ยว (วงเวียนน้ำพุ) อ.เมืองกาฬสินธุ์

ซึ่งหากประชาชนท่านใดมีประวัติเดินทางเข้าไปในพื้นที่และช่วงเวลาเสี่ยงตามที่ได้แจ้งนี้ ให้รายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านและแจ้งประวัติเพื่อประเมินความเสี่ยง หรือติดต่อที่หมายเลขโทรศัพท์ 043-019760 ต่อ 107 (กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์)

นายทรงพล กล่าวอีกว่า ล่าสุด จังหวัดกาฬสินธุ์ได้ออกคำสั่งฉบับที่ 24 การห้ามดำเนินการหรือจัดกิจกรรมหรือที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค เช่น การปิดสถานบริการ หรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2564 เป็นต้นไป โดยให้ยกเลิกคำสั่งฉบับที่ 23 ที่เดิมกำหนด ไว้ 13-26 เมษายน นอกจากนี้ ยังห้าม การใช้อาคาร หรือสถานที่ของโรงเรียน และสถาบันการศึกษาทุกประเภท เพื่อการจัดการเรียนการสอน การสอบ การอบรม หรือการทำกิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก งานประชุม งานสัมมนา ที่มีจำนวนประชาชนเข้าร่วมงานเกินกว่า 50 คน ขอให้เลื่อนไปก่อนอย่างน้อย 2 สัปดาห์ งานบวช งานแต่ง ทำได้ตามประเพณีแต่ต้องไม่มีการจัดแสดงกิจกรรมหรือมหรสพ ส่วนการจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม สามารถทำได้จนถึงเวลา 23.00 น โดยงดจำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งการห้ามบริโภคในร้าน


ภาพ/ข่าว ณับพงษ์  ประชากูล จ.กาฬสินธุ์

อุบลราชธานี - เอาไม่อยู่ ตรวจพบผู้ป่วยโควิดเพิ่ม 7 ราย รวมเป็น 102 ราย ส่วนใหญ่มีไทม์ไลน์เกี่ยวเนื่องกับสถานบันเทิง

วันที่ 17 เม.ย.64 ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี แถลงข่าวสถานการณ์โควิด - 19 จังหวัดอุบลราชธานี พบผู้ป่วยเพิ่ม 7 ราย รวมจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด - 19 รอบใหม่ 102 คน พื้นที่ที่พบผู้ป่วยรายใหม่อยู่ในอำเภอบุณฑริก อำเภอเมือง อำเภอวารินชำราบ อำเภอเขมราฐ และอำเภอม่วงสามสิบ ส่วนใหญ่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย และมีประวัติเสี่ยงที่เกี่ยวเนื่องกับสถานบันเทิงในจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งทั้งหมดเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและมีอาการไม่รุนแรง 

ผวจ.อุบลราชธานี กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดอุบลราชธานีได้กำหนดมาตรการป้องกันควบคุมโรคและปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  ได้แก่ การห้ามการดำเนินการหรือจัดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค ห้ามการใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษาทุกประเภทเพื่อจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือทำกิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก ห้ามจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนมากกว่าห้าสิบคนขึ้นไป  ปิดสถานบริการ  ผับบาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบกิจการอาบน้ำ อาบอบนวด ออกไปจนถึงวันที่ 24 เมษายน 2564 การกำหนดให้ทุกพื้นที่อำเภอและตำบลของจังหวัดอุบลราชธานีเป็นพื้นที่ควบคุม การจำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่มและบริการบริโภคในร้านอาหารทั่วไป ร้านอาหารทั่วไป ร้านข้าวต้ม รถเข็นแผงลอยจำหน่ายอาหารเปิดได้ไม่เกิน 23.00 น. การจำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ห้ามไม่ให้มีการบริโภคในร้าน ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า เปิดได้จนถึงเวลา  21.00 น. และให้จำกัดจำนวนผู้เข้ารับบริการ

ขอความร่วมมือประชาชนในจังหวัดอุบลราชธานีงดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางโดยไม่มีเหตุจำเป็น โดยเฉพาะการเดินทางไปในพื้นที่ควบคุม งดการจัดกิจกรรมสังสรรค์ อยู่บ้าน หยุดเชื้อ และให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ด้วยการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำหรือแอลกอฮอล์ รักษาระยะห่าง  ตรวจวัดอุณหภูมิ สำหรับมาตรการคัดกรองบุคคลเข้าพื้นที่ให้ผู้ที่มาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด 18 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ นครปฐม ขอนแก่น ชลบุรี เชียงใหม่ ตาก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ภูเก็ต ระยอง สงขลา สมุทรสาคร สระแก้ว สุพรรณบุรี และอุดรธานี กักตัวเพื่อดูอาการ 14 วัน และสแกนแอปพลิเคชั่นไทยชนะและฮักอุบลเมื่อเข้าพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี


ภาพ/ข่าว  กิตติภณ  เรืองแสน

ศรีสะเกษ - ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงถึง 38 รายแล้ว ผู้ว่าฯมั่นใจจะฝ่าสถานการณ์นี้ไปได้อย่างราบรื่น ขอให้ทุกคนเป็นทีมเดียวกันคือเป็นทีมศรีสะเกษ ที่จะต้องร่วมด้วยช่วยกัน

เมื่อวันที่ 17 เม.ย.64 ที่ห้องประชุมสระกำแพงใหญ่ ชั้น 4 ศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  นายวัฒนา   พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ ได้เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ศรีสะเกษ ครั้งที่ 10 /2564 ซึ่ง นพ.ทนง วีระแสงพงษ์ สาธารณสุข จ.ศรีสะเกษ และคณะได้รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19

โดยผู้ติดเชื้อโควิด 19 ระลอก 3 จ.ศรีสะเกษ มีผู้ป่วยระหว่างวันที่ 1 - 16 เม.ย.64 จำนวน 30 ราย ผู้ป่วยรายใหม่ในวันที่ 17 เม.ย. 64 จำนวน 8 รายรวมเป็นมีผู้ป่วยสะสม จำนวน 38 ราย โดยรายที่ 31 เพศชาย อายุ 45 ปี อ.เมืองศรีสะเกษ พนักงานขับรถ รับผู้ติดเชื้อรายที่ 18 รายที่ 32 เพศหญิง อายุ 29 ปี อ.เมืองศรีสะเกษ บุตร ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 22 รายที่ 33 เพศชาย อายุ 24 ปี อ.เมืองศรีสะเกษ บุตร ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 29 (ไปงานแต่งงาน) รายที่ 34 เพศชาย อายุ 21 ปี อ.เมืองศรีสะเกษ บุตร ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 30 (ไปงานแต่งงาน) รายที่ 35 เพศชาย อายุ 21 ปี อ.เมือง อาชีพ ชกมวย ที่กรุงเทพฯ รายที่ 36 เพศชาย อายุ 24 ปี เดินทางไปกรุงเทพฯ สัมผัสผู้ป่วยยืนยันรายที่ 30  รายที่ 37 เพศชาย อายุ 19 ปี อ.กันทรลักษ์ เดินทางมาจากกรุงเทพฯ และรายที่ 38 เพศหญิง อายุ 29 ปี อ.อุทุมพรพิสัย เดินทางไปกรุงเทพฯ ซึ่งเขตพื้นที่ที่เป็นพื้นที่สีแดงคือ อ.เมืองศรีสะเกษ อ.กันทรารมย์และ อ.วังหิน

โดยมี นายสำรวย เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายนพ พงษ์ผลาดิสัย ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ นายบุญประสงค์ นวลสายย์ หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ หน.ส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาเข้าร่วมประชุม

นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า การที่ยอดผู้ติดเชื้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้ ตนเคยกล่าวเอาไว้ว่าทุกคนต้องเป็นผู้เล่นด้วยกันทั้งหมดเหมือนกับฟุตบอล ทุกคนมีบทบาทอย่างยิ่งคนในสนามฟุตบอล ก็เหมือนกับพี่น้องประชาชน ถ้าพี่น้องประชาชนเล่นฟุตบอลในสนามไม่วิ่งไม่กระตือรือร้นไม่ช่วยกัน โอกาสที่จะทำประตูและมีชัยชนะก็จะเป็นไปไม่ได้

เพราะฉะนั้นพี่น้องประชาชนเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งการประพฤติปฏิบัติต่อกันในการดูแลคนที่เข้ามาในพื้นที่ คนในครอบครัวจะต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจจะไม่ใช่คนธรรมดาอาจจะมีการเจ็บการป่วยการติดเชื้อม าเราไม่ได้คิดว่าต้องการทำให้หวาดระแวง แต่ว่าอยากให้ตระหนักว่าถ้าสมมุติว่าทุกคนมีสมมุติฐานในการที่จะต้องการให้ปลอดภัยร่วมกันต่างคนต่างกลัวกันไว้ก่อน ในครอบครัวทานข้าวอาจจะแยกกันทานข้าว พูดคุยกันให้น้อยลง ใส่หน้ากากให้มากขึ้นและงดลดการที่จะไปร่วมกับกิจกรรมกับคนอื่นและปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข คิดว่าต้นทางตรงนี้จะสามารถสกัดยับยั้งได้ดี

ผวจ.ศรีสะเกษ ยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนของการเตรียมการแนวหลังก็เป็นสิ่งที่คิดว่าเรามีความพร้อมเรามีแผนหนึ่งแผนสองสถานที่หนึ่งสถานที่สองเตรียมไว้แล้ว แต่ก็ไม่อยากให้ถึงขนาดนั้นไม่ต้องการให้คนศรีสะเกษเจ็บไข้ได้ป่วย เพราะฉะนั้นเราจะต้องเป็นทีมเดียวกันไม่ใช่มีเฉพาะทีมหมอทีมพยาบาล ทีมตำรวจทีมปกครอง ประชาชนก็จะต้องเป็นทีมหนึ่งเดียวกันคือเป็นทีมศรีสะเกษที่จะต้องร่วมด้วยช่วยกันเมื่อต้นทางไม่เกิดขึ้นมาโอกาสที่จะเพิ่มขยายก็ลดน้อยลง

แต่สิ่งหนึ่งก็คือเราอย่าไปว่ากันใครติดแล้วติดมา ติดมาจากไหนบอกไปไหนมาบ้าง บอกที่หมอพยาบาลจะเข้าสอบสวนเส้นทางและไทม์ไลน์ต่าง ๆ ให้เร็วที่สุด และเราก็จะสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพราะฉะนั้นเราจะต้องเป็นทีมเดียวกันช่วยกันตนคิดว่าเราจะฝ่าสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ไปได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น


ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top