Tuesday, 30 April 2024
Isan

ขอนแก่น - ญาติผู้ต้องขังยังคงเดินทางมาเยี่ยมภายในเรือนจำกลางขอนแก่นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังไม่ทราบประกาศของทางกรมราชทัณฑ์ ที่มีการประกาศงดเยี่ยมทุกเรือนจำทั่วประเทศจากสถานการณ์โควิด-19

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 6 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวไปสังเกตการณ์บริเวณหน้าอาคารเยี่ยมญาติภายในเรือนจำกลางขอนแก่น เขตเทศบาลนครขอนแก่น หลังจากกรมราชทัณฑ์ ประกาศงดเยี่ยมญาติทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา พบว่ายังคงมีญาติผู้ต้องขังทยอยมาเยี่ยมญาติที่ถูกคุมขังในเรือนจำ ซึ่งส่วนใหญ่มาเป็นครอบครัว บางครอบครัวมาจากต่างจังหวัด แต่ต้องผิดหวัง เนื่องจากเรือนจำติดประกาศงดเยี่ยมไว้ที่กระจกหน้าอาคาร ในขณะเดียวกันก็มีเจ้าหน้าที่มาอธิบาย และทำความเข้าใจการงดเยี่ยม รวมถึงแนะนำการเยี่ยมผ่านกลุ่มไลน์ ซึ่งญาติพี่น้องต่างก็เข้าใจ แต่ยังคงมีผู้สูงอายุที่ต้องการฝากเงินให้ลูก แต่ใช้แอบพลิเคชันไม่เป็น เจ้าหน้าที่จึงแนะนำวิธีใช้และเชิญเข้าร่วมกลุ่มไลน์ญาติผู้ต้องขังเรือนจำกลางขอนแก่น ซึ่งญาติพอใจอย่างมาก และเชื่อว่า เจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังปลอดภัยจากไวรัสโควิด-19 ทุกคน

นายกฤติพงษ์ แสนสุข  ผู้อำนวยการส่วนควบคุมผู้ต้องขัง เรือนจำกลางขอนแก่น เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ถึงมาตรการรับตัวผู้ต้องหาจากตำรวจ เข้าเป็นผู้ต้องขังในเรือนจำกลางขอนแก่น ในช่วงที่มีการระบาดของโควิด19 และกรมราชทัณฑ์ กำหนดมาตรการเข้ม ประกาศงดเยี่ยมญาติทั่วประเทศว่า การงดเยี่ยมผู้ต้องขังในเรือนจำกลางขอนแก่นนั้น ปฏิบัติตามนโยบายของกรมราชทัณฑ์ หลังพบเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง ที่จังหวัดนราธิวาส ติเชื้อโควิด19 ฉะนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าวกรมราชทัณฑ์ จึงประกาศงดเยี่ยมญาติทางห้องเยี่ยมญาติในเรือนจำตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

"การรับต้องผู้ต้องหาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนจะเข้ามาเป็นผู้ต้องขังในเรือนจำกลางขอนแก่นอีกว่า เรือนจำกลางขอนแก่นจะต้องทำการตรวจวัดอุณหภูมิในร่างกายให้เรียบร้อย หากอุณหภูมิเกินก็ไม่รับและต้องส่งตัวไปรักษาต่อ แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยพบผู้ต้องหาที่รับเข้ามาในเรือนจำกลางขอนแก่นมีอุณหภูมิเกิน โดยเมื่อรับเข้ามาเป็นผู้ต้องขังแล้ว ทุก ๆ คนจะต้องเข้าในพื้นที่กักตัวตามมาตรการทางสาธารณสุข โดยต้องกักตัว14 วัน ในทุก ๆ วัน จะมีเจ้าหน้าที่แพทย์และพยาบาล เข้าตรวจร่างการ วัดอุณหภูมิในร่างกายว่าปกติหรือไม่ และทุกคนจะต้องกินนอนในพื้นที่กักตัวจนครบ เมื่อครบแล้วจึงจะออกจากที่กักตัวได้ และเมื่อออกจากสถานที่กักตัวมาอยู่ร่วมกับผู้ต้องขังในแดนหญิงหรือแดนชาย ผู้ต้องขังทุกคนจะต้องใส่หน้ากากอนามัยและมีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือติดตัวทุกคน เพื่อให้ทุกคนรวมถึงเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลในเรือนจำกลางมีความปลอดภัยจากโควิด -19 กันทุกคน"

นายกฤติพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า  สำหรับอาคารสถานที่ภายในเรือนจำกลางขอนแก่น จะมีการล้างทำความสะอาดอยู่บ่อย ๆ รวมถึงยานพาหนะที่จะเข้ามาส่งสิ่งของในเรือนจำกลางขอนแก่น หรือยานพาหนะจากสถานที่อื่นที่จะเขในเรือนจำกลางขอนแก่นนั้น มาได้แค่ด้านหน้า จากนั้นเจ้าหน้าที่ของเรือนจำกลางขอนแก่น จะทำการขับรถเข้าไปภายใน รวมถึงการฉีดล้างยางรถยนต์ให้สะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด- 19 อย่างเข้มงวดด้วย

ขณะที่ นางสุเพ็ญ ทองนาคะ ผู้อำนวยการส่วนสวัสดิการผู้ต้องขัง เรือนจำกลางขอนแก่น กล่าวว่า สำหรับการงดเยี่ยม ตามที่กรมราชทัณฑ์ประกาศงดเยี่ยมผู้ต้องขังในเรือนจำนั้น เรือนจำกลางขอนแก่นก็ถือปฏิบัติเป็นนโยบายสำคัญ โดยเรือนจำกลางขอนแก่นได้มีการประกาศในเพจเฟซบุ๊กของเรือนจำกลางขอนแก่นและกลุ่มไลน์สื่อสารญาติของเรือนจำกลางขอนแก่น ให้ทุกคนได้ทราบ และเพื่อให้ญาติและผู้ต้องขังเข้าใจ เรือนจำกลางขอนแก่น ได้มีการประกาศให้ผู้ต้องขังทั้งแดนชายและแดนหญิง ได้ทราบว่า มีการระบาดของโควิด- 19ทุกคนต้องมีความปลอดภัย

"ในส่วนของกลุ่มไลน์นั้นหากญาติเข้ามาในกลุ่มไลน์ ทุกข้อความที่เคลื่อนไหว ทั้งการเยี่ยมผู้ต้องขัง และการสั่งซื้อสินค้าทางไลน์ รวมถึงการฝากเงิน และการจัดคิวเยี่ยมทางไลน์ ทุก ๆ ความเคลื่อนไหว ผบ.เรือนจำจะเห็นทุกข้อความ ส่วนการฝากเงินนั้น เรือนจำกลางขอนแก่น มีบริการฝากเงินด้วยระบบธนาคารพาณิชย์ ทำการโอนผ่านธนาคาร ซึ่งจะถึงผู้ต้องขังเช่นเดิม รวมถึงการเงินส่งทางธนาณัติก็มีบริการเช่นกัน  แต่หากพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ ที่ไม่เชี่ยวชาญหรือเล่นโซเชียลไม่เป็น ก็ขอให้ลูกหลานญาติพี่น้องคอยกำกับดูแล หรือถ้ามีโอกาสมาที่เรือนจำกลางขอนแก่น  จะมีเจ้าหน้าที่แนะนำการเข้าถึงกลุ่มไลน์ญาติผู้ต้องขัง"

นางสุเพ็ญ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การเยี่ยมญาติทางไลน์ เรือนจำกลางก็มีเครื่องมือและจอคอมพิวเตอร์ให้บริการไว้อย่างพร้อมเพรียง แต่ญาติต้องจองคิวในช่วงวันปกติ เพราะการเยี่ยมไม่มีวันหยุด ญาติสามารถพูดคุยกับผู้ต้องขังได้ในครั้’ละ 15  นาที โดยทางเรือนจำกลางขอนแก่น จะมีการจัดกลุ่มมาพูดคุยกับญาติครั้งละ 10 คน จึงยืนยันว่าการงดเยี่ยมคือไม่ได้เห็นตัวเป็นๆของญาติมายืนตรงหน้า แต่ทุกคนยังสามารถเจอกัน คุยกันได้ในไลน์ได้ทุกวัน ไม่มีวันหยุด อย่างไรก็ตามเรือนจำกลางขอนแก่น ได้ปิดประกาศและการปฏิบัติตัวของญาติไว้ที่กระจกหน้าห้องเยี่ยมญาติ ว่าญาติสามารถเยี่ยมผู้ต้องขังได้ผ่านช่องทาง Application Line,ฝากเงินให้ผู้ต้องขังผ่านทางธนาณัติ สั่งจ่าย ปณ.ศรีจันทร์ หรือ ปณ.ขอนแก่น,ฝากเงินผ่านทางธนาคารกรุงไทย หรือ Krungthai Next,ให้ญาติสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทาง Application Line ตามปกติ, ให้ญาติส่งจดหมายผ่านทาง Application Lineและจดหมายปกติ หากสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติหรือมีการเปลี่ยนแปลง เรือนจำกลางขอนแก่น จะแจ้งให้ทราบต่อไป

กาฬสินธุ์ - รำบวงสรวงฆ้องชัยใหญ่ศักดิ์สิทธิ์อธิษฐานขอความเป็นสิริมงคล

นางรำชาวอำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์สวมชุดผ้าพื้นเมืองกว่า 1,500 ชีวิต จัดริ้วขบวนรำบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์และฆ้องชัยมหามงคลขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมบูชาหลวงปู่เทพศากยมุนีศรีฆ้องชัย และเหรียญเสมารุ่นฉลองครบรอบการก่อตั้งอำเภอ 24 ปี เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมอธิษฐานขอความร่มเย็นเป็นสุขก่อนเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ ไม่ประสบปัญหาพายุฤดูร้อน และขอให้ประเทศไทยผ่านพ้นสถานการณ์โควิด-19

ที่บริเวณลานฆ้องชัยมหามงคล หน้าที่ว่าการอำเภอฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ พระครูโอภาสชยานุกูล เจ้าคณะอำเภอฆ้องชัย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายศิวัชฐ์ ระวังกุล นายอำเภอฆ้องชัย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ลานฆ้องชัยมหามงคล โดยมีพระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ เจ้าอาวาสวัดป่าวังน้ำเย็น จ.มหาสารคาม พร้อมด้วยคณะสงฆ์ ข้าราชการ ผู้นำชุมชน ประชาชน ร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก และมีมาตรการคัดกรองและป้องกันโควิด-19 ผู้เข้าร่วมงาน

ทั้งนี้หลังประกอบพิธีบวงสรวง หน้าฆ้องชัยมหามงคล พระเกจิสมณศักดิ์ 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ สวดชยันโตและปะพรมน้ำมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่สถานที่ และผู้เข้าร่วมพิธีแล้ว จากนั้นเหล่านางรำ ซึ่งแต่งกายด้วยชุดเสื้อผ้าพื้นเมืองจำนวนกว่า 1,500 ชีวิต จัดริ้วขบวนรำบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างสวยงาม และพร้อมเพียงกัน

นายศิวัชฐ์ ระวังกุล นายอำเภอฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในโอกาสปี 2564 เป็นปีครบรอบ 24 ปีการก่อตั้งอำเภอฆ้องชัย  เพื่อร่วมกันสร้างสัญลักษณ์ในโอกาสครบรอบ 24 ปีดังกล่าว คณะสงฆ์รวมทั้งข้าราชการ ผู้นำชุมชน พ่อค้า ประชาชน จึงมีมติร่วมกันจัดสร้างหลวงปู่เทพศากยมุนีศรีฆ้องชัยองค์ใหญ่ ขนาดหน้าตัก 9 เมตร สูง 21 เมตร เพื่อเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ประดิษฐานบริเวณด้านหน้าที่ว่าการอำเภอ โดยกำหนดประกอบพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อบอกกล่าวพระภูมิเจ้าที่ รุกขเทวดาทั้งหลาย เพื่อความเป็นสิริมงคลสำหรับการจัดสร้างหลวงปู่เทพศากยมุนีศรีฆ้องชัย ซึ่งทุกคนที่เข้าร่วมพิธี ต่างน้อมจิตอธิษฐานขอความร่มเย็นเป็นสุขก่อนเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ ไม่ให้ประสบปัญหาพายุฤดูร้อน และขอให้ประเทศไทยผ่านพ้นสถานการณ์โควิด-19 ไปให้ได้

นายศิวัชฐ์ กล่าวอีกว่า ในการจัดสร้างพระพุทธรูปหลวงปู่เทพศากยมุนีศรีฆ้องชัยดังกล่าว เพื่อให้พุทธศาสนิกชนทั่วไป ตลอดจนผู้มีจิตศรัทธาได้มีส่วนร่วม จึงได้มีประชาสัมพันธ์เชิญชวน ร่วมเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการจัดสร้าง โดยสั่งจองหลวงปู่เทพศากยมุนีศรีฆ้องชัย ขนาดบูชา 3 ขนาด คือ พระบูชา ขนาด 9 นิ้ว, พระบูชา ขนาด 5 นิ้ว และเหรียญบูชาเหรียญเสมา "รุ่นฉลองครบรอบการก่อตั้งอำเภอ 24 ปี” เนื้อทองเหลือง พร้อมเลี่ยมกรอบและสร้อยไมคอน ทั้งนี้ เพื่อนำรายได้ ดำเนินการจัดสร้างพระพุทธรูปหลวงปู่เทพศากยมุนีศรีฆ้องชัย และพัฒนาลานฆ้องชัย ซึ่งมีฆ้องชัยขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เส้นผ่าศูนย์กลาง 10 เมตรเป็นสัญลักษณ์ ให้เป็นสถานที่แหล่งท่องเที่ยวประจำ อ.ฆ้องชัย ที่จะสามารถดึงดูดความสนใจทั้งจากนักท่องเที่ยวทั่วไป ได้แวะเวียนมาเยี่ยมชมกันมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสร้างรายได้ให้กับประชาชนชาวฆ้องชัยได้อย่างยั่งยืน

นายศิวัชฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่าสำหรับพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธรูปหลวงปู่เทพศากยมุนีศรีฆ้องชัย กำหนดวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 พิธีเททองหล่อและพิธีวางศิลาฤกษ์พระพุทธรูปหลวงปู่เทพศากยมุนีศรีฆ้องชัย พร้อมรับวัตถุมงคลวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 24 ปีก่อตั้งเป็นอำเภอ ทั้งนี้ ผู้มีจิตศรัทธาสนใจร่วมทำบุญ และสั่งจองพระพุทธรูปและเหรนียญบูชา สามารถติดต่อได้ที่ที่ทำการปกครอง อ.ฆ้องชัย 0631870804  ธ.ก.ส.สาขาฆ้องชัย หรือโอนเงินเข้าบัญชีกองทุนสร้างพระองค์ใหญ่ หลวงปู่เทพศากยมุนีศรีฆ้องชัย และพัฒนาลานฆ้องชัย เลขที่บัญชี 020144546976

ทั้งนี้ ประวัติความเป็นมาของอำเภอฆ้องชัย จากคำบอกเล่าของบรรพบุรุษ เมื่อประมาณ 285 ปีมาแล้ว ในวันธรรมสวนะช่วงใกล้สว่างประมาณ ตี 3 หรือ ตี 4 จะมีเสียงฆ้องใหญ่ดังกังวานขึ้นมาจากหนองน้ำกุดฆ้องบึงขยอง แหล่งน้ำสาธารณะประจำ ต.ฆ้องชัยพัฒนา ซึ่งเสียงดังกล่าวคล้ายกับเสียงพระตีฆ้องตีกลอง หรือภาษาอีสานเรียกว่า “ตีกลองดึก” เพื่อเป็นสิริมงคลในการตั้งชื่อกิ่งอำเภอ ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2540 จึงได้นำเอานาม “ฆ้องชัย” จากชื่อ ต.ฆ้องชัยพัฒนา มาตั้งเป็นชื่อกิ่งอำเภอฆ้องชัย ก่อนที่จะยกฐานะเป็นอำเภอฆ้องชัยในปี 2550


ภาพ/ข่าว  ณัฐพงษ์  ประชากูล จ.กาฬสินธุ์

ขอนแก่น - ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแล้ว ชุดแรก 5,000 คน คาด 3 วันแล้วเสร็จ ขณะทีทางจังหวัดประกาศงดจัดกิจกรรมถนนช้าวเหนียว และการแสดงคอนเสริต์ต่าง ๆ เด็ดขาด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 เม.ย.2564 ที่ณ ห้องประชุมจำลอง มุ่งการดี ชั้น 4 อาคารสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รพ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 7 เป็นประธานในพิธีเปิดปฎิบัติการคิกออฟฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเขตพื้นที่ จ.ขอนแก่น ตามการได้รับการจัดสรรจากรัฐบาลชุดแรกจำนวน 10,000 โดส ที่จะเริ่มทำการฉีดตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่าขอนแก่นเป็น 1 ใน 8 จังหวัดที่ได้รับจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำมาฟื้นฟูเศรษฐกิจในระยะที่ 1 รอบเดือน เม.ย. 2564 จำนวน 10,000 โดส เป็นยี่ห้อ Sinovac (ซิโนแวค) จากประเทศจีน โดยผู้ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนนั้ย 1 ราย ต่อ 2 โดส ทำให้ในรอบนี้จะทำการฉีดวัคซีนทั้งสิ้น จำนวน 5,000 ราย โดยกำหนดให้หน่วยบริการที่มีความพร้อมดำเนินการฉีดกลุ่มเป้าหมายให้แล้วเสร็จ 9 แห่ง ในระหว่างวันที่ 7 - 9 เม.ย. 2564 ตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด คือที่ โรงพยาบาลขอนแก่น, โรงพยาบาลศรีนครินทร์, โรงพยาบาลชุมแพ ,โรงพยาบาลสิรินธร , โรงพยาบาลพล ,โรงพยาบาลบ้านไผ่ . โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกระนวน อละ โรงพยาบาลน้ำพอง โดยที่กลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับวัคซีนชุดแรก คือ กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่มีความเสี่ยงสูง

"ส่วนในเดือน มิ.ย. 2564 ขอนแก่นจะได้รับวัคซีนอีกจำนวน 200,000 โดส เป็นวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า โดยระยะที่ 2 จะนำมาฉีดให้แก่กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ซึ่งจะเน้นฉีดกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีการสำรวจและขึ้นทะเบียนไว้แล้วตามความสมัครใจ และประชาชนตามลำดับกลุ่มเสี่ยงมากเสี่ยงน้อยทั้งนี้สำหรับขั้นตอนการฉีดวัคซีนในวันนี้ ใช้ระบบเดียวกับที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กำหนดไว้  8 ขั้นตอน ประกอบด้วย ขั้นตอนที่ 1 การลงทะเบียน (ทำบัตร) ขั้นตอนที่ 2 การชั่งน้ำหนัก วัดความดันโลหิต ขั้นตอนที่ 3 การคัดกรอง ซักประวัติประเมินความเสี่ยง และลงนามในใบยินยอมการรับวัคซีน ขั้นตอนที่ 4 รอฉีดวัคซีน ขั้นตอนที่ 5 ฉีดวัคซีน ขั้นตอนที่ 6 พักสังเกตอาการ 30 นาที สแกนไลน์ "หมอพร้อม" ขั้นตอนที่ 7 ตรวจสอบก่อนกลับพร้อมรับเอกสารคำแนะนำการปฏิบัติตัวหลังการฉีดวัคซีน และขั้นตอนที่ 8 ประเมินความครอบคลุมการฉีดวัคซีนและอาการไม่พึงประสงค์ และในการฉีดวัคซีนครั้งนี้จะใช้เวลาตั้งแต่เริ่มกระบวนการลงทะเบียนขั้นตอนการฉีดวัคซีนประมาณ 5-7 นาทีต่อคน พักสังเกตอาการอีก 30 นาที ในระหว่างการสังเกตอาการจะมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำ สังเกต และสอบถามอาการผู้ได้รับวัคซีนเป็นระยะ ส่วนการประเมินผลหลังการฉีดวัคซีน แบ่งเป็นหลังการฉีดวัคซีนทันที และประเมินผลที่ระยะเวลา 1 วัน 7 วัน และ 30 วัน หลังการได้รับวัคซีน โดยบันทึกการประเมินในไลน์ หมอพร้อมอีกด้วย"

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ภายหลังจากทางจังหวัดขอนแก่นพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้น 2 ราย ทางคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่นก็ได้มีการประชุมและมีมติที่ประชุมออกประกาศคำสั่งฉบับที่ 30 เรื่องมาตรการ การเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยมีคำสั่ง 2 เรื่องประกอบด้วย 1.ให้งดการจัดคอนเสิร์ตในทุกสถานที่และทุกเขตพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2564 ถึงวันที่ 18 เม.ย.2564 และ2.เป็นเรื่องของการบังคับใช้มาตรการป้องกันโรค ให้เจ้าของ ผู้ประกอบการ หรือผู้ดูแลรับผิดชอบสถานที่กิจกรรมและกิจการต่างๆ จัดให้มีมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด และให้ผู้ใช้บริการหรือเข้าไปยังสถานที่หรือร่วมทำกิจกรรมเช่นว่านั้น ถือปฏิบัติ 6 ข้อ ประกอบด้วย การจัดบริการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย หรือคัดกรองอาการป่วยในระบบทางเดินหายใจ การให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า การอำนวยความสะดวกในการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อยหนึ่งเมตร และจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมมิให้แออัด หากมีการจัดกิจกรรมให้พิจารณาตามสัดส่วนของพื้นที่ กับผู้ร่วมกิจกรรมในพื้นที่ปิดขนาด 5 ตารางเมตรต่อคน ในพื้นที่เปิดขนาด 4 ตารางเมตรต่อคน การจัดให้มีที่ล้างมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค การจัดให้มีการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสของสถานที่ที่เกี่ยวข้องก่อนการทำกิจกรรม รวมทั้งระหว่าง และภายหลังการทำกิจกรรมด้วย และจัดให้มีการลงทะเบียนแพลตฟอร์มไทยชนะ หรือแพลตฟอร์มหมอชนะ ในการเข้าออกสถานที่สาธารณะ และสแกน QR Code รายงานตัวของจังหวัดขอนแก่น เมื่อเข้ามาในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น

" ในส่วนการตรวจบุคลาการในคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลศรีนครินทร์ รวมทั้งผู้ที่เข้ามาใช้บริการในสถานบันเทิงมาเจนต้า ผลออกมาเป็นลบ ซึ่งจะต้องมีการตรวจซ้ำเป็นรอบที่ 2 อีกครั้ง โดยทั้งหมดจะต้องมีการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน เพื่อจะมาตรวจรอบที่ 2 ต่อไป รวมทั้งจะมีการเรียกสถานประกอบการทุกแห่งในจังหวัด ได้มาทำความเข้าใจ หลังจังหวัดขอนแก่นได้ประกาศฉบับที่ 30 ออกไป เพื่อจะได้ไม่ให้มีการจัดคอนเสิร์ต รวมทั้งมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่เข้มข้นและรัดกุม"

 

บึงกาฬ - กกล.สุรศักดิ์ฯบูรณาการ ไล่จับเรือบรรทุกยาเสพติดหนีพลิกคว่ำกลางโขง

กองกำลังสุรศุกดิ์มนตรี บก.ควบคุมที่ 2 (ร.13) โดย ร้อย.ฉก.ทพ.2106 ฉก.ทพ.21 ร่วมกับหลายฝ่ายดักซุ่มริมน้ำโขงพบเรือต้องสงสัย 2 ลำติดเครื่องยนต์วิ่งข้ามน้ำโขงมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเข้ามาจอดริมตลิ่งฝั่งไทย จึงได้ส่งสัญญาเพื่อตรวจค้น แต่เรือทั้ง 2 ลำได้รีบขับแล่นหนีจะข้ามน้ำโขงกลับไป เรือลำหนึ่งได้เฉียวชนกับโขดหินที่น้ำโขงกำลังลดมาก ทำให้เรือพลิกคว่ำสิ่งของในเรือกระจายไหลตามน้ำไป รุ่งเช้า จนท.ออกเคลี่ยร์พื้นที่พบยาเสพติดทั้งยาบ้าและไอซ์จำนวนมาก

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 7 เม.ย.ที่หน้าศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ นายวราดิศร อ่อนนุช ปลัดจังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับ พ.อ.ศิวดล ยาคล้าย รองผู้บังคับการกรมทหารราบที่13 และรองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พ.ต.อ.สุกฤษณ์ ข้อร่วมคิด ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.อ.ดาบทอง อุภัยพรม ผกก.สภ.ปากคาด พ.ต.อ.วิชยานนท์ นิติกุล ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ หน่วยเรือ นรข.บึงกาฬ  ฝ่ายปกครองอำเภอบึงกาฬและปากคาด แถลงผลการตรวจยึดยาบ้าล็อตใหญ่ได้ จำนวน 1,345,540 เม็ด และยาไอซ์ 62 กิโลกรัม รวมมูลค่าของกลางทั้งสิ้น 122,643,200 บาท หลังทหาร ตำรวจ นรข.และฝ่ายปกครอง ร่วมกันตรวจยึดได้ริมแม่น้ำโขงในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ

ทั้งนี้จากการสืบทราบของ พ.อ.มงคล ห่อทอง ผู้บังคับการกรมทหารราบที่13 และรองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดข้ามน้ำโขงเข้ามาส่งมอบให้กับกลุ่มผู้ค้าชาวไทยจำนวนมาก ที่บริเวณริมน้ำโขงบ้านเวินโดน หมู่ 8 ต.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ หลังจากทางภาคเหนือมีการสู้รบกันระหว่างทหารพม่าและกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ทำให้การขนย้ายยาเสพติดเข้าไทยยากลำบาก จึงหันมาทะลักส่งเข้าไทยทางภาคอีสาน ดังนั้น ได้สั่งการให้หน่วยขึ้นตรงต่อ กกล.สุรศักดิ์มนตรี เฝ้าระวังตรวจเข้มตามแนวชายแดนริมน้ำโขง กระทั่งเวลาประมาณ 04.30 น.เช้านี้ ร.ท.บุญทัน นกกระโทก ผบ.ร้อย.ฉก.ทพ.2106 หน่วยเฉพาะกิจ ทพ.21 ได้บูรณาการร่วมกับ หน่วยเรือ นรช.รัตนวาปีและ นรข.บึงกาฬ ตร.ชุดสืบสวน สภ.ปากคาด ตร.กก.สืบสวน ภ.จว.บีงกาฬ ชุดสืบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ ตชด.244 บึงกาฬ และปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอปากคาดและอำเภอบึงกาฬ ร่วมกันลาดตระเวนทั้งบนบกและในแม่น้ำโขง เวลาดังกล่าวขณะชุดลาดตระเวนในน้ำโขงสังเกตเห็นเรือหาปลาติดเครื่องยนต์ 2 ลำแล่นข้ามน้ำโขงมาจอดใกล้ริมตลิ่ง จึงแสดงตัวขอตรวจค้น คนขับเรือพร้อมผู้โดยสารที่นั่งมาด้วยกันประมาณลำละ 3 คน เห็นท่าไม่ดีจึงได้ขับเรือเร่งเครื่องยนต์หลบหนีอย่างรวดเร็วทันที แต่เรือ 1 ใน 2 ลำเกิดแล่นพลาดท่าไปชนโขดหินห่างออกไป 150 เมตรซึ่งน้ำโขงเริ่มลดลงทุกวัน ทำให้เรือพลิกคว่ำทั้งคนและสิ่งของตกน้ำไปด้วย แต่เรืออีกลำคนขับก็แล่นวนกลับมารับเพื่อนขึ้นเรือกลับไปด้วย แต่ จนท.ก็ไม่กล้าเสี่ยงเข้าเคลียร์พื้นที่ เนื่องจากยังมืดค่ำอยู่เกรงจะได้รับอันตราย

และเช้าวันนี้ได้ร่วมกันออกลาดตะเวนตามลำแม่น้ำโขง พบกระสอบปุ๋ยสีขาวขนาดใหญ่จำนวน 2 กระสอบ ลอยเข้ามาติดริมฝั่งโขง ในพื้นที่บ้านเวินโดน ต.ปากคาด อ.ปากคาด เป็นยาบ้า 570,000 เม็ดและไอซ์ 62 กิโลกรัม ที่บ้านต้าย ต.นากั้ง อ.ปากคาด  1 กระสอบและกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พบอีก 1 กระสอบที่บริเวณลำน้ำโขง ปากห้วยหนองมุม บ้านท่าสุขสันต์ ต.ปากคาด นับยาบ้าได้ 380,000 เม็ด ค่าสุดตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัด สภ.เมืองบึงกาฬ ฝ่ายปกครองมีกำนันตำบลไคสี หมู่ที่ 2 ต.ไคสี อ.เมืองบึงกาฬ พบกระสอบปุ๋ยลอยมาติดอยู่บริเวณริมน้ำโขง ปากห้วยผาคาง อีก 1 กระสอบยาบ้า 391,540 เม็ด

ช่วงหัวค่ำก่อนหน้านี้ น.ต.วชิรวิทย์ ใจสัตย์ หน.สน.เรือบึงกาฬ ร่วมกับพวกออกลาดตระเวนบนถนสาย 212 บึงกาฬ-ปากคาด พบชายต้องสงสัยขี่รถมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อ ฮอนด้าโซนิค ทะเบียน 1 กฉ 1166 สุพรรณบุรี ขี่รถจอดอยู่บริเวณ หลักกิโลเมตรที่ 105  ท้องที่บ้านโนนยาง  ต..หอคำ  อ.เมืองบึงกาฬ  จึงยึดรถเพื่อสอบถาม แต่ชายคนดังกล่าวได้ทิ้งรถ จยย.วิ่งหลบหนีฝ่าความมืดไปได้ เข้าตรวจสอบพบยาบ้า จำนวน 4,000 เม็ดวางอยู่ข้างหลักกิโลเมตรจึงทำการตรวจยึด จึงรวมกันนำมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน รวมของกลางยาบ้า 4 รายการ จำนวน 1,345,540 เม็ด มูลค่า 107,643,200 บาท และไอซ์ 62 กิโลกรัม มูลค่า 15,000,000 บาท รวมมูลค่าของกลางทั้งสิ้น 122,643,200 บาท นำของกลางส่ง พงส.สภ.ปากคาดและสภ.บึงกาฬ สืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย


ภาพ/ข่าว  เกรียงไกร  พรมจันทร์

ขอนแก่น - ผู้ว่าฯขอนแก่นย้ำชัด ใครเดินทางมาจาก 5 จังหวัดพื้นที่เสี่ยง ต้องรายงานตัวและกักตัวที่บ้าน 14 วันทันที โดยไม่มีละเว้น

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 เม.ย. 2564 นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อและห่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้เฝ้าติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด ซึ่งขณะนี้ผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ของจังหวัดยังสะสมอยู่ที่ 16 ราย โดยรวมอาการดีขึ้นตามลำดับ ในส่วนของข่าวลือต่าง ๆ ที่ระบุว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มในพื้นที่ของจังหวัดขอนแก่นนั้น ขอให้ประชาชนรับทราบข้อมูลจากทางจังหวัดเท่านั้นเพื่อให้เป็นข้อมูลที่ไปในทิศทางเดียวกัน ขณะนี้ยังไม่มีรายงานยืนยันจากทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด หากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มทางจังหวัดจะมีการแถลงข่าวให้ทราบทันที

"คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่นยังได้ออกประกาศฉบับที่ 30 สั่งงดการจัดคอนเสิร์ตทุกพื้นที่ทั้ง 26 อำเภอของจังหวัด พร้อมทั้งมีคำสั่งให้ผู้ที่จะเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดขอนแก่นที่มาจากพื้นที่เสี่ยงทั้ง 5 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานครฯ, ปทุมธานี,นนทบุรี, สมุทรปราการ และ นครปฐม โดยในส่วนของ กรุงเทพฯ นั้น ก็จะแยกเป็นเขตพื้นที่เสี่ยงต่ำเสี่ยงสูง โดยที่เขตทองหล่อนั้นถือเป็นพื้นที่เสี่ยงสูง ในส่วนเขตอื่น ๆ ที่ไม่ปรากฏผู้ติดเชื้อก็ถือเป็นพื้นที่เสี่ยงต่ำ แต่ทั้งนี้ทุกคนที่เดินทางเข้ามาที่จังหวัดจะต้องทำการสแกนคิวอาร์โค้ดของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น เพื่อรายงานตัวและใน 5 จังหวัดพื้นที่เสี่ยงดังกล่าวจะต้องทำการกักตัว 14 วันที่บ้านตัวเองทันทีโดยไม่มีการละเว้น ส่วนประชาชนที่เดินทางมาจากพื้นที่อื่น ๆ เมื่อกลับเข้าที่พักอาศัยให้รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานในพื้นที่ คือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ อสม. และ อบต.ในแต่ละพื้นที่ที่อาศัยอยู่ทั้งหมด เพื่อเป็นไปตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19มาตรฐานปลอดภัยสูงสุด ซึ่งขณะนี้ได้รับรายงานว่าจะมีประชาชนที่เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงสูงเข้ามายังพื้นที่ 3 อำเภอของจังหวัดและขอเข้ารับการกักตัวทั้งหมดแล้ว"

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของการเดินทางออกนอกพื้นที่นั้นทางจังหวัดไม่ได้มีการห้ามแต่อย่างใด ทุกคนยังใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่ขอให้ทุกคนช่วยกันตั้งการณ์ดให้สูง การ์ดอย่าตก สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ และพกติดตัวไว้ เว้นระยะห่างทางสังคม 1-2 เมตร หลีกเลี่ยงสถานที่เสี่ยงที่มีคนรวมตัวกันเยอะ ๆ และสแกนคิวอาร์โค้ดไทยชนะในทุกสถานที่ที่เดินทางไป เพื่อให้การควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นไปด้วยความมีประสิทธิภาพ และขอให้ทุกคนอย่าตระหนกจนเกินไป ขอให้เชื่อมั่น และปฏิบัติตามประกาศในการดำเนินการของทางคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดและ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น

ยโสธร – อำเภอกุดชุม เตรียมความพร้อมเพื่อรับอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์

8 เมษายน 2564 เวลา 09.30 น ที่อาคารแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลกุดชุม อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร นายดุสิต สุทธิประภา ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายบริหารงานปกครองอำเภอกุดชุม ปฏิบัติราชการแทน นายอำเภอกุดชุม เป็นประธานเปิด โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการแพทย์เพื่อรองรับอุบัติเหตุบนท้องถนน อำเภอกุดชุม ประจำปีงบประมาณ 2564

ในการนี้แพทย์หญิงนันทิยา เข็มเพชร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกุดชุม กล่าวว่าสืบเนื่องจากอุบัติเหตุหมู่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่มีใครคาดคิด หรือเตรียมตัวมาก่อนเมื่อมีเหตุ เกิดขึ้นจึงทำให้ผู้ป่วยและญาติ มีความคาดหวังสูงในการบริการ ต้องการให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ถูกต้องและปลอดภัย รอดชีวิตและพ้นจากความพิการ ทางอุบัติเหตุ งานอุบัติเหตุเป็นงานแรกและศูนย์กลางที่ต้องเตรียมตัวรับและให้การบริการผู้ป่วยผู้บาดเจ็บต้องอาศัยความรวดเร็วถูกต้องและทันท่วงที

นอกจากจะให้บริการผู้ป่วยและญาติแล้วยังต้องประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมสถานการณ์ให้พร้อมบริการต้องจัดผู้ป่วยฉุกเฉินให้เหมาะสมทั้งในด้านบุคลากรและอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ ให้พร้อมเพื่อตอบสนองผู้ป่วยและญาติได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องปลอดภัยมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหมู่หรืออุบัติเหตุกลุ่มชนได้รับบริการและช่วยเหลือในทันท่วงที เป็นวัตถุประ​สง​ค์หลักในการในการช่วยเหลอประชาชนในช่วงเทศกาล​สงกรานต์​มีผู้เข้าร่วม​ประชุม​เป็น​บุคลากร​โรงพยาบาล​กุดชุม ​/ บุคลากร​หน่วยกู้​ชีพ / เจ้าหน้าที่​ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกุดชุม​รวมทั้งสิ้น 150​  คน


ภาพ/ข่าว  พลากร​ แก้ว​ขวัญข้า​ รายงาน 

กาฬสินธุ์ – โครงการส่งน้ำ หาดดอกเกดเขื่อนลำปาว พร้อมรับนักท่องเที่ยวสงกรานต์เข้มมาตรการโควิด

โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาวกาฬสินธุ์ ระดมทุกภาคส่วนวางมาตรการความปลอดภัย เตรียมรับนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมคุมเข้มมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 8 เมษายน 2564 ที่ห้องประชุมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว นายพิชัย ส่งสุขเลิศสันติ ปลัด จ.กาฬสินธุ์ นายฤาชัย จำปานิล ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวหรือเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ นายธนทร ศรีนาค หัวสำนักงาน ปภ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ต่าง ๆ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข กรมเจ้าท่า หน่วยกู้ภัยเมตตาธรรมกาฬสินธุ์ ผู้นำชุมชน คณะอนุกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จ.กาฬสินธุ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันประชุมเพื่อเตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวและประชาชนที่จะเดินทางมาเที่ยวยังหาดดอกเกด จุดผันน้ำเขื่อนลำปาว และบริเวณแหลมโนนวิเศษ สะพานเทพสุดา ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์

จากนั้นได้ลงพื้นที่ตรวจความพร้อม และร่วมกันวางมาตรการในการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ที่บริเวณหาดดอกเกดเขื่อนลำปาว และวางมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ตลอดจนกำชับมาตรการป้องกันการเอารัดเอาเปรียบในการจำหน่ายสินค้าและอาหารให้กับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นธรรม

นายฤาชัย จำปานิล ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวหรือเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์  กล่าวว่า สำหรับจุดผันน้ำ หาดดอกเกดเขื่อนลำปาว และบริเวณสะพานเทพสุดา อ.สหัสขันธ์ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่โดดเด่นของ จ.กาฬสินธุ์ โดยเฉพาะหาดดอกเกด ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลอีสาน ซึ่งช่วงเทศกาลมักจะมีประชาชน และนักท่องเที่ยวพาครอบครัวเดินทางมาสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ เล่นน้ำเขื่อนลำปาวคลายร้อนจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งปีนี้มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวและประชาชนเดินทางมาเที่ยวที่หาดดอกเกดและจุดผันน้ำจำนวนมาก หลังจากช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2563 ที่ผ่านมา สถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 2 แห่ง ได้ปิดบริการ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะนั้นได้แพร่ระบาดในหลายพื้นที่ ซึ่งในปีนี้เบื้องต้นได้เตรียมความพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยว แต่ก็ต้องมีการวางมาตรการป้องกันเรื่องต่าง ๆ ไว้อย่างเข้มงวด

นายฤาชัย กล่าวอีกว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องความปลอดภัยต่าง ๆ ทั้งการจัดระเบียบจราจรป้องกันอุบัติเหตุ การป้องกันอันตรายผู้เล่นน้ำ กำชับให้พ่อค้าแม่ค้าติดป้ายแสดงราคาอาหาร และขอความร่วมมือจำหน่ายในราคาเป็นธรรมไม่เอาเปรียบผู้บริโภค และยังมีการเพิ่มมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยจะต้องมีการตั้งจุดคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก และเจลล้างมือ พร้อมทั้งจะมีเจ้าหน้าที่คอยกำชับให้นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดอีกด้วย


ภาพ/ข่าว  ณัฐพงษ์  ประชากูล

บึงกาฬ - หน่วยเรือ นรข.ยึดไอซ์กลางน้ำโขง 36 กก.มูลค่า 10 ล้าน

เมื่อเวลา 07.30 น วันที่ 8 เม.ย.จากการสืบทราบของ นาวาเอกราฆพ เทวะประทีป ผบ.นรข.เขตหนองคาย ว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อส่งมอบให้กับพ่อค้าชาวไทยบริเวณริมโขงบ้านท่าไคร้ หมู่ที่ 5 ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ จึงได้สนธิกำลังกับ พ.ต.อ.สุกฤษณ์ ข้อร่วมคิด ผกก.สืบสวน ภ.จว เมืองกาฬ พ.ต.อ.เอกนรินทร์ สุวรรณทา.ผกก ตม.บึงกาฬ พ.ต.ต.นิคสัน ดียา รอง สว.สส.สภ.เมืองบึงกาฬ พ.ต.ท.พลสันต์ คมขาวผบ ร้อย ตชด.244.ร.ต.อ.ทองจันทร์ หิรัญวร รอง สว.(ป.)ตำรวจน้ำบึงกาฬ นายพงษ์ชัย ศิลปะอาชา นายด่านศุลกากรบึงกาฬ นายสมบัติ ฆ้อนทอง ผอ.ส่วนควบคุมทางศุลกากร และนายภูมินทร์ ศรีโฉม ปลัดป้องกันอำเภอเมืองบึงกาฬ นำกำลังอาสาร่วมวางแผนจับกุม

ขณะที่เจ้าหน้าที่บางส่วนได้ลาดตระเวนทางบก ที่แม่น้ำโขงมี น.ต.วชิรวิชญ์ ใจสัตว์ หัวหน้าสถานีเรือบึงกาฬ ร.ท.ประพนธ์ สิวะกุล ประจำ บก.สน.เรือบึงกาฬ ร.ต.ศกุนต์ พรมเจริญ ผค.เรือ 179 และร.ต.สัญญา จันจี ผค.เรือ ล.111 ขับเรือลาดตระเวนไปถึงกลางน้ำโขงได้เห็นชายต้องสงสัยท่าทางมีพิรุธลุกลี้ลุกลนกำลังเก็บตาข่ายดักปลากลางลำน้ำโขงอย่างรีบเร่ง จึงได้ขับเรือไปใกล้พร้อมเรียกให้หยุดเพื่อตรวจค้น แต่ชายคนดังกล่าวเกิดความตกใจจึงพายเรือขวางลำน้ำโขง ที่ไหลเชี่ยวเพื่อหันหัวเรือกลับข้ามไปเส้นเขตแดน สปป.ลาว ทำให้เรือพลิกตะแคงคว่ำ สิ่งของในเรือจึงกระจายไหลไปตามน้ำมีทั้งเป็นกระสอบปานสีขาวและถุงเล็ก 6 ถุง พร้อมกับพยุงเรือที่พลิกตะแคงข้ามเขตแดนไทย-ลาว ด้วยความชำนาญ และรอดไปได้อย่างปลอดภัย

จากนั้นเจ้าหน้าจึงตามไปเก็บกระสอบสีขาว 1 ใบและกล่องวัสดุที่ไหลไปกับน้ำด้วย 6 กล่อง นำมาตรวจเช็คที่สถานีเรือบึงกาฬ พบว่าเป็นยาเสพติดประเภท 1 คือไอซ์จำนวน 36 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาทจึงได้นำมาจัดแถลงพร้อมกับส่งของกลางดังกล่าวให้ พงส.สภ.เมืองบึงกาฬเพื่อติดตามหาตัวเจ้าของมาดำเนินคดีต่อไป


ภาพ/ข่าว  เกรียงไกร  พรมจันทร์

ขอนแก่น - ประกาศยกเลิกการจัดงานสงกรานต์ทั้งหมดจากเดิมที่จะจัดถึงวันที่ 13 เม.ย. ขณะที่ บขส.ขอนแก่น เสริมเที่ยวรถรับรองประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ คาดคนเดินทางลดลง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งล่าสุดขณะนี้ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 11 ราย ยังพักรักษาตัวอยู่ที่ในโรงพยาบาล รวมผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 25 ราย ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าวทางเทศบาลนครขอนแก่นได้ประกาศงดจัดงานประเพณีสุดยอดสงกรานต์อีสาน เทศกาลดอกคูนเสียงแคนและถนนข้าวเหนียวทั้งหมด ซึ่งจากเดิมได้มีการประกาศงดจัดเฉพาะถนนข้าวเหนียวและขบวนแห่นางสงกรานต์ ยังคงเหลือจัดกิจกรรมสืบสานประเพณี ในวันที่ 8-13 เม.ย.2564 ทำให้ล่าสุดทางเทศบาลนครขอนแก่นได้มีการประกาศยกเลิกการจัดงานทั้งหมด พร้อมทั้งยกเลิกการจัดถนนคนเดินออกไปอย่างไม่มีกำหนดจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น โดยจะได้นำเข้ามติที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่นในช่วงบ่ายวันนี้และจะมีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ขณะที่บรรยากาศภายใน บขส.แห่งที่ 3 ถ.มิตรภาพ ในเขตเทศบาลนครอขอนแก่น พบว่ามีประชาชนยังคงทยอยเดินทางมาซื้อตั๋วขึ้นรถเดินทางไปยังจังหวัดต่างๆอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดตรวจคัดกรองผู้โดยสารทุกคนที่มาใช้บริการบริเวณหน้าทางเข้าอย่างเข้มงวด ตั้งแต่การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ทุกคนจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และสแกนคิวอาร์โค้ดไทยชนะหรือลงทะเบียนในแบบฟอร์มสำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ขณะที่เจ้าหน้าที่ของสำนักงานขนส่งได้มีการตั้งจุดคัดกรองพนักงานขับรถทุกคนให้ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคและตามกฎระเบียบของทางขนส่ง ทั้งการตรวจหาสารเสพติด การตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ การตรวจสุขภาพเบื้องต้นเพื่อให้พนักงานขับรถทุกคนให้บริการประชาชนได้อย่างปลอดภัย พร้อมทั้งตรวจเช็คสภาพรถทุกคันให้มีสภาพที่พร้อมให้บริการด้วย

นายชาญชัย แซ่ลั้ง ผู้ช่วยนายสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 3 จ.ขอนแก่น  กล่าสว่า ในช่วงนี้พบว่าจำนวนผู้มาใช้บริการยังเงียบอยู่ เพราะยังไม่ใกล้วันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่ทาง บขส.เอง ก็ได้เตรียมสำรองเที่ยวรถไว้รองรับประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ไว้เพียงพอ เพื่อป้องกันปัญหาผู้โดยสารตกค้าง แต่คาดว่า สงกรานต์ปีนี้ ผู้คนคงจะเดินทางกลับมาเล่นสงกรานต์ที่บ้านลดลง และขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารทุกคนปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด

ขอนแก่น- เฝ้าระวังป้องกันอุบัติเหตุการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ผู้ว่าฯย้ำชัดมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธาณสุขต้องเข้มงวด

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 10 เม.ย.2564 บริเวณสวนประตูเมืองขอนแก่น ริม ถ.มิตรภาพ เขตเทศบาลนครขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงานในศูนย์บริการประชาชนภงตามโครงการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2564 ซึ่งเทศบาลนครขอนแก่นร่วมกับภาคีเครือข่ายได้ร่วมกันจัดขึ้นยังจุดนี้ขึ้นอย่างเป็นทางการ เพื่อลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจากการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการให้ประชาชนตระหนักถึงความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งจุดบริการดังกล่าวนี้เน้นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้สัญจรผ่านไปมาโดยมีจุดตรวจจุดบริการประชาชนที่อยู่ในความดูแลของเทศบาลนครขอนแก่น มี 2 แห่ง ซึ่งจุดนี้เป็นจุดแรก จุดที่สองอยู่บริเวณ ด้านหน้าโรงเรียนเทศบาลบ้านหนองใหญ่ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เทศบาลนครขอนแก่นปฏิบัติหน้าที่บริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมงร่วมกับเจ้าหน้าที่ของมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร์,สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่นและมูลธิสว่างขอนแก่นสามัคคีอุทิศด้วย

"ขอขอบคุณที่ทุกคนที่ได้เสียสละเวลาส่วนตัวที่จะต้องอยู่กับครอบครัวเพื่อมาปฏิบัติหน้าที่เพื่อส่วนรวมในช่วงเทศกาลเช่นนี้และได้เน้นย้ำมาตรการส่วนบุคคลในการที่จะให้บริการประชาชนในช่วงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพราะแม้จะมีประชาชนเข้ามาใช้บริการ ก็ยังคงต้องดำเนินการป้องกันที่ทางราชการกำหนด คือ การเว้นระยะห่าง บริการเจลล้างมือแอลกฮฮอร์ ตรวจวัดอุณภูมิ เพื่อความปลอดภัยกับทั้งผู้ให้บริการและผู้มาใช้บริการเอง ควบคู่ไปกับการบริการเพื่อลดความเหนื่อยล้าจากการขับขี่ยวดยานหรือบริการอื่น ๆ ที่ประชาชนได้เข้ามาใช้บริการด้วย"


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top