Tuesday, 30 April 2024
Isan

หนองบัวลำภู - ทหารเป็นที่พึ่งของประชาชน!! ลงพื้นที่ส่งต่อความห่วงใย ความสุข เพื่อพี่น้องประชาชน

พล.ต.ณรงค์ สวนแก้ว ผบ.พล.ร.3 พร้อมด้วย พ.อ.ณรงค์ วิชญาณวรวุฒิ ผบ.ร.8 ร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน พร้อมมอบผ้าห่มกันหนาว และ เครื่องอุปโภคบริโภค ให้กับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และผู้พิการทุพพลภาพ ในพื้นที่บ้านอ่างบูรพา ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู  

สำหรับผลการดำเนินการในห้วงที่ผ่านมา หน่วยได้ลงพื้นที่มอบผ้าห่ม และเสื้อกันหนาวให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้จัดกิจกรรมอาร์มี่ เดลิเวอรรี่ ส่งมอบความสุข โดยการประกอบอาหาร จากรถครัวสนาม เพื่อนำข้าวกล่องไปแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่

 

กาฬสินธุ์ - แล้ง - ว่างงาน!! กาฬสินธุ์เดินหน้า จัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเติมความรู้ชาวบ้าน ก่อนเพาะปลูกฤดูกาลผลิตใหม่

จังหวัดกาฬสินธุ์ เดินหน้าจัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) ประจำปี 2565 เต็มพื้นที่ 18 อำเภอ เพื่อเติมความรู้เกษตรกรในช่วงหลังเก็บเกี่ยวหน้าแล้งและว่างงาน ให้มีความรู้ทุกด้าน เพื่อบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ และลดทุนการผลิต เพิ่มผลผลิต ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตำบลเขาพระนอน (ไร่ภูทองใบ) ของนางจิตตานันท์ ภูทองใบ บ้านโคกแง้ หมู่ที่ 5 ต.เขาพระนอน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์

นายดนุพงษ์ ภูตรี นายกเทศมนตรีตำบลเขาพระนอน เป็นประธานเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) ระดับอำเภอ ประจำปี 2565 โดยมีนางสาวอรนุช เกษสัญชัย หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ สำนักงานเกษตร จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตร อ.ยางตลาด ส่วนราชการในพื้นที่ ผู้บริหารท้องถิ่น เกษตรกรตำบลเขาพระนอน เข้าร่วมกิจกรรม ภายใต้มาตรการป้องกันโคตรวิด-19

ทั้งนี้ งานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) ดังกล่าว หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บูรณาการทำงานร่วมกันเพื่อสนับสนุนเกษตรกร ในสถานีเรียนรู้หลักและสถานีเรียนรู้ย่อย ภายใต้ 6 กิจกรรม ได้แก่ สถานีที่ 1 บัญชีครัวเรือน สถานีที่ 2 การรวมกลุ่ม สถานีที่ 3 ระบบการให้น้ำพืชการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า สถานีที่ 4 การขยายพันธุ์พืช สถานีที่ 5 เศรษฐกิจพอเพียง การใช้และการผลิตสารชีวภัณฑ์ และสถานีที่ 6 ปรับปรุงบำรุงดิน อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นวัตกรรมลดการเผาเศษวัสดุทางการเกษตรในพื้นที่การเกษตร

นางสาวอรนุช เกษสัญชัย หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ สำนักงานเกษตร จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การจัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) มีความสำคัญอย่างยิ่งกับพี่น้องเกษตรกรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่จะได้มีการบอกกล่าวให้พี่น้องเกษตรกร ทั้ง 18 อำเภอ ได้ทราบถึงวิธีการปฏิบัติก่อนจะมีการเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ ทำให้เกษตรกรนำองค์ความรู้ที่เหมาะสมกับพื้นที่ ไปประยุกต์ใช้ในไร่นาและสวนของตนเองได้ เช่น การบริหารจัดการเรื่องน้ำ การรวมกลุ่มแปลงใหญ่ การทำบัญชีในครัวเรือน จะทำให้เกิดการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้เป็นอย่างดี และสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้จากศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) และศูนย์เครือข่ายที่ประสบความสำเร็จ ไปใช้ในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความเข้มแข็ง และพึ่งพาตนเองได้

ด้านนายกฤษ กองอุดม ตัวแทนไร่ภูทองใบ กล่าวว่า ไร่ภูทองใบ เมื่อ 20 ปีก่อนเป็นป่าที่เสื่อมโทรมใช้ประโยชน์ไม่ได้ ตนและครอบครัวจึงได้น้อมนำหลักการพัฒนาตามแนวเกษตรทฤษฎีใหม่ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยการปลูกพืช 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง ดำเนินการตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงทำให้ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งในปัจจุบัน สามารถเป็นสถานที่เรียนรู้ของเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงได้ เช่น เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ปลูกพืชเศรษฐกิจหลักอย่างมะม่วง ที่สามารถสร้างอาชีพ และสร้างงาน และเป็นแหล่งรองรับแรงงานหลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อีกด้วย

 

ผู้ว่ากาฬสินธุ์ย้ำผู้บริหาร อปท.มุ่งทำงานบำบัดทุกข์บำรุงสุข

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ให้โอวาทผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งสายงานผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมเน้นย้ำต้องเป็นข้าราชที่มุ่งทำงานบำบัดทุกข์บำรุงสุข เป็นที่พึ่งให้กับประชาชน

วันที่ 1 มีนาคม 2565  เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมโสมพะมิตร ชั้น 4 ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์  นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์  พบปะ ให้โอวาท และแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งสายงานผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ พร้อมมอบแนวทางการปฏิบัติราชการที่ดี บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยมีนายปราชญา อุ่นเพชรวรากร รองผวจ.กาฬสินธุ์ เข้าร่วม

จังหวัดนครพนม นำร่อง ‘บ้านหนองเดิ่นพัฒนา’ แก้ปัญหายาเสพติดชุมชนยั่งยืนแบบครบวงจร

(1 มี..65) นครพนม-ที่วัดบ้านหนองเดิ่นพัฒนา หมู่ที่ 23 ตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานลงนามบันทึกความร่วมมือและเปิดโครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ปัญหายาเสพติดจังหวัดนครพนม แบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชน/หมู่บ้าน เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับคนในชุมชน ทำให้ทุกคนเข้าใจและรับรู้ถึงปัญหา โทษภัยที่เกิดขึ้นจากยาเสพติด เกิดกระบวนการป้องกันแก้ไขปัญหา การบำบัดรักษา

โดยคนในชุมชน/หมู่บ้านมีส่วนร่วมสร้างรูปแบบในการดำเนินงาน ที่นำไปสู่หมู่บ้าน/ชุมชนเข้มแข็งในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน ตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระสำคัญของชาติที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เนื่องจากส่งผลกระทบต่อความเดือดร้อนความทุกข์ยากของประชาชนและศักยภาพในการพัฒนาประเทศในอนาคต ทั้ง ด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่บ้าน/ชุมชนที่มีผู้ติดยาเสพติดอาศัยอยู่ เพราะจะมีปัญหามากกว่าที่อื่นๆ

โครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ปัญหายาเสพติดจังหวัดนครพนม แบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ จังหวัดนครพนม โดยอำเภอเมืองนครพนม ได้ร่วมกับ สถานีตำรวจภูธรเมืองนครพนม และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพิจารณาคัดเลือกหมู่บ้านเป้าหมาย คือ ‘บ้านหนองเดิ่นพัฒนา’ หมู่ที่ 23 ตำบลบ้านผึ้ง เนื่องจากเป็นหมู่บ้านที่ยังมีปัญหายาเสพติดระบาดในพื้นที่ และมีผู้ที่ต้องได้รับการบำบัดรักษาในหมู่บ้านจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน

‘กาฬสินธุ์’ แหล่งน้ำบาดาล ‘พลิกผืนดินแห้งแล้ง’ เป็น ‘แหล่งอาหาร’ สร้างรายได้ให้เกษตรกร

ชาวบ้านในตำบลนาไคร้ อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ พลิกผืนดินแห้งแล้งเป็นแหล่งอาหาร นำผลผลิตจำหน่าย สร้างรายได้เข้าครัวเรือนเดือนกว่า 20,000 บาท หลังรัฐบาลจัดโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลแก้ภัยแล้งด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน สร้างความมั่นคงด้านน้ำ ครอบคลุมพื้นที่ 760 ไร่

(2 มี..65) จากการติดตามบรรยากาศการประกอบอาชีพของประชาชน จ.กาฬสินธุ์ ในช่วงฤดูแล้ง โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตใช้น้ำชลประทาน พบว่าที่บ้านกุดหว้า ต.นาไคร้ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ มีการรวมกลุ่มปลูกพืชผักหลายชนิด ประสบความสำเร็จ หลังรัฐบาลจัดโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลแก้ภัยแล้งด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน สร้างความมั่นคงด้านน้ำ และได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ จัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแม่ศรีสุพรรณ โดยเน้นไม่ใช้สารเคมี ได้ผลผลิตบริโภคในครัวเรือน และจำหน่ายในตลาดชุมชน รวมทั้งภายในโรงพยาบาลประจำอำเภอ สร้างรายได้เข้าครัวเรือนเดือนละกว่า 20,000 บาท

นายนารอง อุทรักษ์ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 501 หมู่ 13 บ้านกุดหว้า ต.นาไคร้ อ.กุฉินารายณ์ กล่าวว่า ที่ดินทำกินเป็นที่ ส.ปก.จำนวน 23 ไร่ เดิมมีสภาพแห้งแล้ง ปลูกไม้ยูคาลิปตัส ไม่มีรายได้อื่นเสริม ต่อมาเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมารัฐบาลโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัดโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล เพื่อการเกษตรด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งส่วนราชการใน จ.กาฬสินธุ์ ได้เข้าส่งเสริมการเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านน้ำ ตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำของรัฐบาล โดยมีพื้นที่รับบริการน้ำครอบคลุมพื้นที่ 760 ไร่ เกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย 74 ครัวเรือน

นายนารอง กล่าวว่า พอมีแหล่งน้ำ ตนจึงได้ปรับเปลี่ยนการประกอบอาชีพใหม่ โดยตัดไม้ยูคาจำหน่าย จากนั้นทำการเกษตรกรรมเต็มรูปแบบ โดยปลูกพืชผักสวนครัวและพืชตามฤดูกาลเกือบทุกชนิด เพราะมีความเชื่อว่าเมื่อมีน้ำก็สามารถทำได้ทุกอย่าง ทั้งนี้ ได้รับองค์ความรู้จากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ อบต.นาไคร้ และส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งในส่วนของการใช้น้ำ การปรับปรุงคุณภาพดิน การบริหารจัดการในแปลงเกษตร โดยไม่ใช้สารเคมี จนกระทั่งประสบความสำเร็จในวันนี้ ซึ่งเป็นการปลูกเอง เก็บกินเอง และนำผลผลิตจำหน่ายในหมู่บ้าน ตลาดชุมชน และโรงพยาบาลประจำอำเภอทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ ปลูกเอง สร้างรายได้เดือนละประมาณ 20,000 บาท ที่สำคัญมีอาชีพ มีรายได้ยั่งยืน สำหรับตนภูมิใจจนน้ำตาไหล ที่สามารถเอาชนะภัยธรรมชาติที่แห้งแล้ง เป็นแหล่งอาหารและสร้างรายได้ดังกล่าว ซึ่งต้องขอขอบคุณรัฐบาลและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ที่ชุบชีวิตตนและเพื่อนเกษตรกรด้วยโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลดังกล่าว

ด้านนายจุฬา ศรีบุตรตะ ที่ปรึกษาลุ่มวิสาหกิจชุมชนแม่ศรีสุพรรณกล่าวว่า เดิมสภาพพื้นที่โซนนี้ในฤดูแล้งจะมีความแห้งแล้ง ไม่มีสามารถทำการเกษตรได้ เพราะอยู่นอกเขตชลประทาน และไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำตามธรรมชาติ จึงประสบภัยแล้งซ้ำซาก หลังจากที่รัฐบาลโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัดโครงการโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลแก้ภัยแล้งด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงลงมา สามารถบรรเทาความเดือดร้อนในพื้นที่ ทำให้เกษตรกรมีรายได้ในช่วงฤดูแล้งและตลอดปี ภาพที่เกิดขึ้นในวันนี้จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า น้ำบาดาลสามารถพลิกผืนดินที่แห้งแล้ง เป็นพื้นที่สีเขียวด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร ชาวบ้านมีอาชีพ มีรายได้ และเป็นแหล่งผลิตอาหารได้ตลอดปี

‘กาฬสินธุ์’ ยุติธรรม!! เร่งช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมในคดีอาญา

คณะอนุกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา 6 ราย จำนวนกว่า 290,000 บาท พร้อมมอบนโยบายจัดตั้งศูนย์ยุติธรรมชุมชนให้ทั่วถึง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ลดค่าใช้จ่าย และสร้างความสุขความสมานฉันท์ ป้องกันปัญหาความขัดแย้งด้านคดีความอย่างได้ผล

ที่ห้องประชุมผาเสวย ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายฯ ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา ครั้งที่ 2/2565 โดยมีนายดาระใน ยี่ภู่ ปลัด จ.กาฬสินธุ์ นายประหยัด ไม้แพ ยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการฯ ร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ ในการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายฯ ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญาดังกล่าว สำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกับคณะอนุกรรมการ ได้พิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายฯ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา โดยมีสำนวนเข้าพิจารณา 15 เรื่อง/ราย ผู้เสียหาย 15 ราย โดยผลการพิจารณางดจ่าย 3 ราย ยกคำขอ 6 ราย และจ่ายค่าตอบแทน 6 ราย โดยเป็นผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร 1 ราย ทุพพลภาพ 1 ราย ถูกทำร้ายร่างกาย 3 ราย และฆาตกรรม 1 ราย รวมเป็นเงิน 294,474 บาท

จังหวัดนครพนม มอบหนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย ฉบับสมบูรณ์ ปี 2564 ให้หน่วยงานเร่งขยายผลสู่เยาวชนและประชาชนในพื้นที่

(2 มี..65) นครพนม-ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานการมอบหนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย ฉบับสมบูรณ์ ปี 2564 ให้กับตัวแทนส่วนราชการ จำนวน 29 หน่วยงาน เพื่อนำไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้แก่ข้าราชการ พนักงานของรัฐ เด็กและเยาวชน ตลอดจนประชาชนในจังหวัดนครพนม ให้ได้เรียนรู้เพื่อสร้างความภาคภูมิใจและสำนึกในความเป็นไทย

โดยเฉพาะการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้เป็นพิเศษ เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้เกิดความรักชาติและมีความกตัญญูต่อบรรพบุรุษไทย ตามยุทธศาสตร์ชาติ (.. 2561-2580) ที่ได้กำหนดวิสัยทัศน์ว่า ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยในยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคงได้กำหนดประเด็นการพัฒนาและเสริมสร้างความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ เพื่อให้คนในชาติมีจิตสำนึกรักและหวงแหน มุ่งจงรักภักดี พร้อมธำรงรักษาไว้ซึ่ง สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยว และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งชาติ โดยปลูกฝังและสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของสถาบันหลักของชาติ รณรงค์เสริมสร้างความรักความภาคภูมิใจในความเป็นคนไทยและชาติไทย ผ่านกลไกต่างๆ รวมถึงการศึกษาประวัติศาสตร์ในเชิงสร้างสรรค์

หนองคาย-ตรวจยึดยาบ้า ยาอี ล็อตใหญ่ 2.3ล้านกว่าเม็ด มูลค่า 100 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 พันเอก มงคล หอทอง  รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี เป็นผู้แทน ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร่วมแถลงข่าวการจับกุมตรวจยึดยาเสพติด (ยาบ้า-ยาอี) 2.3 ล้านกว่าเม็ด โดยมีนายมนตร์สิทธิ์  ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในการแถลงข่าวฯ ณ หอประชุมประจักษ์ศิลปาคม ศาลากลางจังหวัดหนองคาย 

กาฬสินธุ์-ตรวจเข้มสถานบริการป้องกันการค้ามนุษย์-ยึดหลักมาตรการป้องกันโควิด

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดของคนต่างด้าวในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจเข้มสถานบริการ ร้านคาราโอเกะ เพื่อป้องกันการกระทำความผิดของคนต่างด้าว  พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการยึดหลักมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด หลังยังพบการแพร่ระบาดในพื้นที่มีผู้ป่วยรายวันเฉลี่ย 300-400 ราย 

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงกลางคืนที่ผ่านมา นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ มอบหมายให้นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ พ.อ.สุรศักดิ์  สำราญบำรุง รอง ผอ.รมน.กาฬสินธุ์ นายดาระใน ยี่ภู ปลัด จ.กาฬสินธุ์  นายเริงวิทย์  ถนอมแสง นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ นายประสงค์ จันทร์กระจ่าง ป้องกัน จ.กาฬสินธุ์ นำชุดปฏิบัติการฝ่ายปกครอง บูรณาการร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.กาฬสินธุ์ ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ทหาร เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.กาฬสินธุ์ จัดหางาน จ.กาฬสินธุ์ แรงงาน จ.กาฬสินธุ์ ออกตรวจสถานประกอบการคล้ายสถานบริการ ร้านคาราโอเกะ เพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดของคนต่างด้าว และการฝ่าฝืนมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด หลังยังพบการแพร่ระบาดในพื้นที่ มีผู้ป่วยรายวันเฉลี่ย 300-400 ราย

นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ใน จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งปัจจุบันยังไม่มีการเปิดด่านพรมแดนทางบก ในจังหวัดพื้นที่ชายแดน อาจจะทำให้เกิดการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค รวมทั้งความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการลักลอบการค้ามนุษย์

ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต การกระทำผิด การค้าประเวณี การค้ามนุษย์ การจ้างแรงงานของคนต่างด้าวในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์โดยผิดกฎหมาย นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเข้มสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ ร้านคาราโอเกะ เพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดของคนต่างด้าว และป้องกันการฝ่าฝืนมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 โดยเฉพาะการเว้นระยะห่าง จุดคัดกรอง การห้ามนั่งดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน เนื่องจากมีความเสี่ยงในการติดเชื้อ  

‘ทหารพราน’ ยึดยาบ้าและยาอีหลากสีเกือบ 2.3 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า100 ล. ริมแม่น้ำโขง

เมื่อ 2 มีนาคม 65 ที่หน้าหอประชุมประจักษศิลปาคม ศาลากลางจังหวัดหนองคาย นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ,พล...พุฒิพงศ์ มุสิกูล ผบก..จว.หนองคาย ,..มงคล หอทอง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดยาบ้า จำนวน 2,286,000 เม็ด ยาอีหลากสี จำนวน 23,867 เม็ด และระบุชนิดไม่ได้ จำนวน 1,540 เม็ด มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ที่เจ้าหน้าที่ร่วมกันตรวจยึดได้ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ปากน้ำเปบ้านน้ำเป ตำบลรัตนวาปี อำเภอรัตนวาปี จังหวัดหนองคาย

สืบเนื่องจาก ร..วิทยา สิงห์อร ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 2105 ได้รับแจ้งจากสายว่าในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ - ต้นเดือนมีนาคม 2565 จะมีการลักลอบนำยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศ ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ปากน้ำเป บ้านน้ำเป ตำบลรัตนวาปี อำเภอรัตนวาปี จังหวัดหนองคาย จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบ พ..จักรพงษ์ โพธิ์นาแค ผู้บังคับกองบังคับการควบคุมที่ 2 จึงได้ให้ กรมทหารพรานที่ 21 จัดกำลังของกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2105 และสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันลาดตระเวนเฝ้าตรวจบริเวณริมฝั่งโขงและดักซุ่มใกล้จุดที่ได้รับแจ้ง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top