Tuesday, 21 May 2024
Isan

ชัยภูมิ - ชวนเที่ยวเทศกาล “มหัศจรรย์ประเพณีตีคลีไฟ” พร้อมโต้ลมหนาวชมธรรมชาติที่มอหินขาว จ.ชัยภูมิ

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายอนุชา เจริญรักษ์ นายอำเภอเมืองชัยภูมิ เผยว่า จังหวัดชัยภูมิได้ร่วมกันจัดงานเทศกาล “มหัศจรรย์ประเพณีตีคลีไฟ” ปี2564 และเทศกาลท่องเที่ยว “มอหินขาว โต้ลมหนาวที่ชัยภูมิ” ปี 2564-2565 จังหวัดชัยภูมิ ได้ประสบภัยธรรมชาติจากอุทกภัยครั้งใหญ่ และสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ประชาชนได้รับความเดือนร้อนทางสภาพกายและจิตใจ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2565 จังหวัดชัยภูมิ จึงได้อนุมัติให้จัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งนี้ยังคงมีมาตรการเข้มการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

ซึ่งในวันที่ 24 ธันวาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 15.30 น. จะมีการจัดงานเทศกาล “มหัศจรรย์ประเพณีตีคลีไฟ” ปี2564 ณ วัดแจ้งสว่าง บ้านหนองเขื่อง ตำบลกุดตุ้ม อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีที่มีการละเล่นสืบต่อกันมาเป็นระยะเวลาอันยาวนานของชาวบ้านตำบลกุดตุ้ม เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2489  “ตีคลีไฟ”  เป็นการละเล่นโดยใช้เหง้าไม้ใผ่ และท่อนไม้งิ้วเป็นอุปกรณ์ละเล่น แบ่งผู้เล่นออกเป็น 6 ทีม ทีมละ 4-12 คน ใช้กฎกติกาคล้ายกับการเล่นกีฬาฮอกกี้ เล่นในช่วงหัวค่ำเพราะลูกคลีไฟเป็นไม้งิ้วทำเป็นลูกกลม ๆ มาเผาไฟและมีน้ำหนักเบา เมื่อนำมาตีจะทำให้มองเห็นลูกคลีไฟพุ่งเป็นดวงอย่างสวยงามไม่ต่างจากไฟประทัด หรือไฟพะเนียง จังหวัดชัยภูมิได้เล็งเห็นความดีงามของประเพณีที่ประชาชนได้ร่วมกันสืบทอดมายาวนาน และมีความมุ่งหวังจะสืบทอดประเพณีให้คงอยู่และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายทั้งประชาชนทั่วไปในระดับตำบล อำเภอ จังหวัด รวมถึงขยาย ผลถึงชาวต่างประเทศให้เป็นที่รู้จักงานเทศกาล "มหัศจรรย์ประเพณีตีคลีไฟที่ชัยภูมิ" หนึ่งเดียวในโลก จึงได้ส่งเสริมและอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามมาตั้งแต่เดิมให้อยู่คู่เมืองชัยภูมิตลอดไป

และอีกเทศกาลเด่น ที่ชาวไทยและชาวต่างประเทศรู้จักกันดี ก็คือ เทศกาลท่องเที่ยว “มอหินขาว โต้ลมหนาวที่ชัยภูมิ” อำเภอเมืองชัยภูมิร่วมกับส่วนราชการ อุทยานแห่งชาติภูแลนคา องค์การบริหารส่วนตำบลท่าหินโงม กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและพี่น้องประชาชนตำบลท่าหินโงม ได้จัดงานเทศกาลท่องเที่ยวมอหินขาว

โต้ลมหนาวที่ชัยภูมิ ประจำปี 2564-2565 โดยกำหนดเปิดงานในวันที่ 25 ธันวาคม 2564 ณ บริเวณลานหินห้าแท่ง มอหินขาว อุทยานแห่งชาติภูแลนคา ตำบลท่าหินโงม อำเภอเมืองชัยภูมิ โดยแหล่งท่องเที่ยวมอหินขาว ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่มีความสวยงามแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มหินในบริเวณนี้เป็นหินทรายสีขาวเกิดจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงของโลก การผุพังและกัดเซาะของทางน้ำ ลม และแสงแดด มาเป็นเวลานานนับล้านปี จนปรากฎเป็นหินรูปทรงต่าง ๆ แปลกตา ซึ่งเป็นลักษณะเด่นทางธรณีวิทยาที่หาได้ยากมาก แหล่งท่องเที่ยว มอหินขาวได้ถูกบรรจุให้เป็นหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในโครงการ 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ปี 2565

นายอนุชา เจริญรักษ์ กล่าวอีกว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงน่าเป็นห่วงและต้องมีมาตรการการป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาด จึงอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมได้ในช่วงเวลาเช้า-ค่ำไม่เกินเวลา 19.00 น. เป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 หรือมีการตรวจคัดกรองแบบ ATK (Antigen Test) ผลเป็นลบ ไม่เกิน 72 ชั่วโมง โดยไม่อนุญาตให้มีการกางเต้นท์พักแรมในบริเวณของมอหินขาว หากต้องการพักค้างแรมหรือกลางเต้นท์นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปพักได้ที่บริเวณผาหัวนาค ซึ่งเดินทางขึ้นไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร

 

กาฬสินธุ์ - คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ตรวจกระเช้าของขวัญปีใหม่ ห้ามเอาเปรียบผู้บริโภค!! รณรงค์กระเช้าสุขภาพ

กาฬสินธุ์ - คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ตรวจกระเช้าของขวัญปีใหม่ ห้ามเอาเปรียบผู้บริโภค!! รณรงค์กระเช้าสุขภาพ

คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ลงพื้นที่ตรวจสอบฉลากสินค้า ประเภทการจำหน่ายกระเช้าของขวัญปีใหม่ และประชาสัมพันธ์การมอบกระเช้าของขวัญ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกสุขภาพ “Healthier Choice”  ในช่วงเทศกาลปีใหม่ คุมเข้มมาตรฐาน ไม่เอาเปรียบผู้บิโภค แนะเป็นสินค้าเพื่อสุขภาพ

ที่ห้างสรรพสินค้ากาฬสินธุ์พลาซา นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำ จ.กาฬสินธุ์ มอบหมายนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ และคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำ จ.กาฬสินธุ์ ตรวจสอบฉลากสินค้า ประเภทการจำหน่ายกระเช้าของขวัญปีใหม่ และประชาสัมพันธ์การมอบกระเช้าของขวัญ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกสุขภาพ “Healthier Choice”  ในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยมีนายประพันธ์ โพธิ์วันนา ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ นายศิริพงษ์ วิวัฒน์เกษมชัย พาณิชย์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำ จ.กาฬสินธุ์ เข้าตรวจสอบฉลากสินค้า ประเภทการจำหน่ายกระเช้าของขวัญปีใหม่ และประชาสัมพันธ์การมอบกระเช้าของขวัญ ในช่วงเทศกาลปีใหม่

นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์  กล่าวว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้มอบนโยบายและขอความร่วมมือให้ สคบ.ประจำจังหวัด ติดตามสำรวจและตรวจสอบการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าที่ควบคุมฉลาก ตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก เรื่องลักษณะของสินค้าที่ควบคุมฉลาก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อป้องกันมิให้ผู้ประกอบธุรกิจละเมิดสิทธิของผู้บริโภค ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องจัดทำฉลากสินค้าให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ขายสินค้าเกินราคา ไม่นำสินค้าไม่มีคุณภาพหรือสินค้าที่หมดอายุ มาบรรจุลงในกระเช้าของขวัญปีใหม่ และขอความร่วมมือผู้ประกอบธุรกิจในการแสดงฉลากสินค้า รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำมาจัดกระเช้าของขวัญว่ามีอะไรบ้าง และต้องแสดงรายการวันผลิต วันหมดอายุ ให้มีตัวอักษรที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ทั้งนี้ เพื่อผู้ที่ซื้อกระเช้าของขวัญ จะสามารถมองเห็นรายละเอียดได้ชัดเจน  

นายศุภศิษย์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ยังมีนโยบายส่งเสริมสุขภาพผู้บริโภคด้วย “สัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกสุขภาพ Healthier Choice” มุ่งเน้นให้ผู้บริโภคมีทางเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพ โดยความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน เครือข่ายที่รณรงค์ในการลดหวาน มัน เค็ม และภาควิชาการ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารที่เข้าใจง่ายสำหรับผู้บริโภค ในการเลือกซื้อหาผลิตภัณฑ์อาหารที่มีปริมาณโซเดียม น้ำตาล และไขมันต่ำลง เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดภาวะโภชนาการเกินและโรคที่เกี่ยวข้องในคนไทย

 

 

สุรินทร์ - มณฑลทหารบกที่ 25 จัดพิธีวันคล้ายวันสถาปนา มณฑลทหารบกที่ 25 ค่ายวีรวัฒน์โยธิน ครบรอบปีที่ 53

พลตรีสาธิต  เกิดโภค ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 เป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสถาปนา มณฑลทหารบกที่ 25 ค่ายวีรวัฒน์โยธิน ในพิธีประกอบด้วย พิธีสักการะอนุสาวรีย์ พลตรีหลวงวีรวัฒน์โยธิน พิธีสงฆ์และตักบาตร ณ พุทธศาสนสถาน ค่ายวีรวัฒน์โยธิน โดยมีส่วนราชการ ภาคเอกชน ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ และกำลังพล มณฑลทหารบกที่ 25 รวมทั้งครอบครัว ร่วมพิธีฯ

ซึ่งเป็นการระลึกถึงวีรกรรมอันกล้าหาญของ พลตรีหลวงวีรวัฒน์โยธิน กองทัพบกจึงได้ขอพระราชทานนามค่ายแห่งนี้ว่า “ค่ายวีรวัฒน์โยธิน” เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2511 เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังระลึกถึงคุณงามความดีอันยิ่งใหญ่ของท่าน ในการปฏิบัติการรบในสงครามมหาเอเชียบูรพา

 

 

มหาสารคาม - เรตติ้งพุ่ง!! มมส.สร้างพระพุทธเปิดโลกอีสานล้านช้าง “เปิดโลก รับทรัพย์” รุ่นแรก

กลุ่มศิษย์เก่ารวมใจ คณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) เชิญชวนศิษย์เก่า ประชาชน สั่งจองพระพุทธเปิดโลกอีสานล้านช้าง “รุ่นเปิดโลก รับทรัพย์” รุ่นแรก สมทบงบประมาณสร้างป้ายคณะและพระแท่นประดิษฐานพระพุทธเปิดโลกอีสานล้านช้าง เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมอีสาน ในโอกาสครบรอบวันสถาปนาคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ 31 กรกฎาคม 2565 เปิดตัววันแรกคึกคัก ยอดสั่งจองคนหลายองค์

เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2565 ที่คณะศิลปกรรมศาสตร์และคณะวัฒนธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย สิงห์ยะบุศย์  คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ ร่วมกับ ดร.เชวงศักดิ์ พลลาภ ศิษย์เก่าสาขาวัฒนธรรมศาสตร์ ในฐานะประธานกลุ่มศิษย์เก่ารวมใจ และตัวแทนศิษย์เก่ารวมใจ คณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม  ร่วมประชุมแนวทางการจัดสร้างป้ายคณะ และพระแท่นประดิษฐานพระพุทธเปิดโลกอีสานล้านช้าง รวมทั้งประชาสัมพันธ์เชิญชวนศิษย์เก่าและประชาชนทั่วไป สั่งจองพระพุทธเปิดโลกอีสานล้านช้าง “รุ่นเปิดโลก รับทรัพย์” รุ่นแรกด้วย

ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย สิงห์ยะบุศย์  คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ กล่าวว่า จากการที่คณะศิลปกรรมศาสตร์และคณะวัฒนธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ควบรวมเป็นคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 31 ก.ค.63 เป็นต้นมา  โดยมีอาคารวัฒนธรรมศาสตร์เป็นอาคารหลักเขตพื้นที่ในเมือง และมีพระพุทธประติมากรรมยืนปางเปิดโลก พุทธลักษณ์อีสานล้านช้างอย่างถูกต้องงดงามเป็นศูนย์รวมใจ ทั้งนี้ได้รับการอนุมัติแบบก่อสร้างป้ายคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ และพระแท่นประดิษฐานพระพุทธเปิดโลกอีสานล้านช้างเมื่อวันที่ 13 พ.ค.64 ที่ผ่านมานั้น

ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัยกล่าวอีกว่า ในการออกแบบก่อสร้างป้ายคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ดังกล่าว กลุ่มศิษย์เก่ารวมใจ คณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ เห็นว่าจะเป็นศูนย์ปูชนียสถานสำคัญ ในการร้อยความสัมพันธ์ ความผูกพัน และสร้างพื้นที่ส่วนนี้เป็นแลนด์มาร์ก หรือเป็นศูนย์กลางด้านศิลปวัฒนธรรมสำคัญของภาคอีสานด้วย จึงได้มีมติจัดสร้างพระพุทธรูปปางเปิดโลกจำลอง รุ่นเปิดโลกรับทรัพย์ รุ่นแรก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปประจำคณะ ในโอกาสครบรอบวันสถาปนาคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ 31 ก.ค.65 ทั้งนี้ เพื่อหางบประมาณสมทบการก่อสร้างให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ จึงได้ประชุมแนวทางการก่อสร้างและเชิญชวนสั่งจอง โดยมีความเชื่อว่าจะมีพุทธคุณต่อผู้ที่เคารพบูชา มีชีวิตที่เจริญรุ่งเรือง หน้าที่การงานก้าวไกล และเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เหมาะสำหรับการบูชาและมอบให้กับผู้ใหญ่และผู้ที่เคารพนับถือ สอดคล้องกับสถานการณ์สังคมปัจจุบัน

ด้าน ดร.เชวงศักดิ์ พลลาภ ศิษย์เก่าสาขาวัฒนธรรมศาสตร์ ในฐานะประธานกลุ่มศิษย์เก่ารวมใจ กล่าวว่าในการก่อสร้างป้ายคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ และจัดสร้างพระพุทธรูปปางเปิดโลกจำลอง รุ่นเปิดโลกรับทรัพย์ ดังกล่าว ได้เปิดโอกาสให้คณะศิษย์เก่า ทั้งชาว มศว. (มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ), มมส.(มหาวิทยาลัยมหาสารคาม) ตลอดจนบุคคลวงการศึกษา ชาว จ.มหาสารคาม และประชาชนทั่วไป ได้ร่วมบูชา เพื่อหางบประมาณสมทบการก่อสร้าง   

โดยเปิดเช่าบูชาองค์ยืนขนาดสูง 20 นิ้ว จำนวน 499 องค์ และเหรียญรูปไข่เนื้อทองแดง จำนวน 10,000 เหรียญ ทั้งนี้ ได้รับความเมตตาจากหลวงปู่หนูอินทร์ กิตฺติสาโร ที่ปรึกษาเจ้าคณะ จ.กาฬสินธุ์ และพระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญญโญ วัดป่าวังน้ำเย็น จ.มหาสารคาม ประกอบพิธีปลุกเสก 

ดร.เชวงกล่าวอีกว่า พระพุทธรูปปางเปิดโลกรุ่น "เปิดโลก รับทรัพย์" เพื่อหารายได้สร้างป้ายคณะและพระแท่นประดิษฐานพระพุทธรูปปางเปิดโลกอีสานล้านช้าง พระพุทธรูปประจำคณะ เป็นฝีมือของ ผศ.สันติสุข แหล่งสนาม และ ศาสตราจารย์ เข็มรัตน์ กองสุข ประติมากรคนสำคัญของประเทศไทย โดยจะประดิษฐานที่บริเวณด้านหน้าอาคารวัฒนธรรมศาสตร์ต่อไป ทั้งนี้ จะมีการประกอบพิธีเปิดป้ายและสักการะอย่างเป็นทางการ วันที่ 31 ก.ค.65 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 2 ปี ควบรวมคณะศิลปกรรมศาสตร์และคณะวัฒนธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

 

 

กาฬสินธุ์ - สหกรณ์มอบเงินชดเชยดอกเบี้ยสมาชิก แก่ปชช.ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

สหกรณ์จังหวัดกาฬสินธุ์ มอบเงินชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้เกษตรกรสมาชิกสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และประสบภัยพิบัติกว่า 4 ล้านบาท เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้เกษตรกรที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ นำไปฟื้นฟูประกอบอาชีพ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 5 มกราคม 2565 ที่ห้องประชุมสำนักงานสหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ นายวิทยา วัฒนวิเชียร สหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่สหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้ร่วมกันมอบเช็คเงินสด ซึ่งเป็นเงินชดเชยดอกเบี้ย ตามโครงการช่วยเหลือด้านหนี้สินสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 สหกรณ์ร่วมโครงการจำนวน 14 สหกรณ์ มีสมาชิกที่ได้รับเงินชดเชยดอกเบี้ยจำนวน 8,076 ราย มูลหนี้ต้นเงินรวม จำนวน 1,190,866,211.64 บาท เงินชดเชยดอกเบี้ย จำนวน 4,357,459.92 บาท

นายวิทยา วัฒนวิเชียร สหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า โครงการช่วยเหลือด้านหนี้สินสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ปีงบประมาณ พ.ศ.2565 จะจ่ายเป็น 2 งวด งวดที่ 1 คือวันนี้ จำนวน 2,178,729.94 บาท และงวดที่ 2 จะจ่ายประมาณเดือนเมษายน จำนวน 2,178,729.98 บาท ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ตามวัตถุประสงค์ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ที่จะช่วยลดภาระดอกเบี้ย และลดต้นทุนในการประกอบอาชีพการเกษตรแก่สมาชิก  และเพื่อให้สมาชิกที่ประกอบอาชีพการเกษตร มีโอกาสนำเงินส่วนที่ได้รับการช่วยเหลือไปฟื้นฟูประกอบอาชีพ ตลอดจนมีเงินทุนไว้ใช้จ่ายในครัวเรือน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้ด้วย

นายวิทยากล่าวอีกว่า สำหรับการมอบเงินชดเชยดอกเบี้ย ตามโครงการช่วยเหลือด้านหนี้สินสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ทางสำนักงานสหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้จัดมอบแล้ว 3 ครั้ง ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด ครั้งแรกในปี 2562 จัดมอบไป 6 สหกรณ์ 1.สหกรณ์การเกษตรถาวรพัฒนากาฬสินธุ์ จำกัด 2.สหกรณ์การเกษตรท่าคันโท จำกัด 3.สหกรณ์การเกษตรนามน จำกัด 4.สหกรณ์การเกษตรเมืองกาฬสินธุ์ จำกัด 5.สหกรณ์การเกษตรร่องคำ จำกัด และ6. สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนตำบลโคกสะอาด จำกัด จำนวนเงิน 3,246,202.12 บาท โดยจ่ายครบ 100%

 

กาฬสินธุ์ - ชาวนาพอใจ เงินประกันรายได้ภาพรวมถึงมือแล้ว 3,600 ล้าน

ชาวนาจังหวัดกาฬสินธุ์ พอใจเงินประกันรายได้ทำนา และเงินค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตข้าว ฤดูกาลผลิต 2564/65 ที่รัฐบาลจัดให้ ช่วยลดต้นทุนการผลิต มีเงินใช้จ่ายในการครองชีพช่วงสถานการณ์โควิด และมีเงินทุนทำนาปรัง อยากให้มีโครงการนี้ตลอดไป ในขณะที่เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ เผยภาพรวม รัฐโอนถึงมือชาวนาแล้ว 9 งวดเม็ดเงิน 3,678,654,188 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการประกอบอาชีพของประชาชนชาว จ.กาฬสินธุ์ ในช่วงฤดูแล้งและสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 พบว่าในเขตใช้น้ำชลประทานลำปาว เริ่มลงมือเพาะปลูกข้าวนาปรังกันแล้ว หลังทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว ได้ระบายน้ำมาตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2565 บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก แม้ราคาขายข้าวเปลือกนาปีที่ผ่านมาจะตกต่ำ โดยเริ่มต้นเพียงกิโลกรัมละ 5 บาท ทำให้ชาวนาหลายคนถอดใจไม่อยากทำนา เนื่องจากประสบปัญหาขาดทุน  แต่วันนี้ชาวนากลับมาทำนาด้วยความหวังใหม่อีกครั้ง  ทั้งนี้เป็นผลพวงจากการได้รับเงินส่วนต่าง หรือเงินประกันรายได้ รวมทั้งยังได้รับเงินค่าเก็บเกี่ยวอีกไร่ละ 1,000 บาท เป็นรายได้ 2 ต่อหลังจากขายข้าวเปลือกขาดทุนอีกด้วย

นายพงษ์ศักดิ์ ชินคีรี เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในส่วนโครงการที่รัฐบาลมอบให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวฤดูกาลผลิต 2564/65 มี 2 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องปีที่ 3 คือโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าเงินส่วนต่าง และโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าเงินค่าเก็บเกี่ยว  ซึ่งเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวไว้และผ่านการรับรอง จำนวน 153,884 ครัวเรือน 265,859 แปลง เนื้อที่ 1,558,244.46 ไร่ ผ่านการรับรองและได้รับการช่วยเหลือ ตัดยอดล่าสุด 9 งวด (4 ม.ค.65) จำนวน 153,544 ครัวเรือน 264,997 แปลง เนื้อที่ 1,553,351.34 ไร่

นายพงษ์ศักดิ์กล่าวอีกว่า ผลการโอนเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 2,272,155,530 บาท ขณะที่ผลการโอนเงินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว จำนวน 1,406,498,618 บาท รวมจำนวน 3,678,654,188 ล้านบาท โดยยังเหลือที่จะโอนให้อีก 2 งวด รวมที่รัฐบาลจะจัดโอนให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวทั้ง 2 โครงการทั้งหมด 11 งวด ทั้งนี้ เพื่อเป็นเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ในการลดต้นทุนการผลิต มีเงินใช้จ่ายในการอุปโภค บริโภคในครัวเรือน ซึ่งผลการดำเนินการที่ผ่านมาเกษตรกรได้รับความพึงพอใจ 100%

ด้านนายประเสริฐ ภูสิงหา อายุ 55 ปี ชาวนาบ้านหนองบัวหน่วย อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 16 ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์กล่าวว่า ตนที่พื้นที่ทำนา 19 ไร่ ขายผลผลิตข้าวนาปีได้กิโลกรัมละ 6 บาท ซึ่งขาดทุน เนื่องจากค่าปุ๋ยเคมี ค่าเก็บเกี่ยวสูงมาก จนคิดว่าในฤดูแล้งนี้ไม่อยากจะทำนาปรัง เพราะทำไปก็ขาดทุนซ้ำซาก แต่พอทางรัฐบาลจัดเงินส่วนต่างและค่าเก็บเกี่ยวให้ โดยโอนผ่าน ธ.ก.ส.ครอบครัวตนได้เกือบ  30,000 บาท ทำให้พอมีเงินใช้หนี้ปุ๋ยเคมี และชดเชยค่ารถเกี่ยวข้าว ทั้งมีเหลือพอใช้จ่ายในครัวเรือนบ้างจึงมีกำลังใจที่จะทำนาต่อไป ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลมีโครงการดี ๆ นี้ต่อเนื่องตลอดไป

 

สุรินทร์ - KI GROUP บริษัท น้ำตาลสุรินทร์ จำกัด และ บริษัท ไฟฟ้าสุรินทร์ มอบทุนสร้างโดมกีฬาอเนกประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 25 กว่าล้านบาท

ณ ห้องรับรอง มณฑลทหารบกที่ 25  KI GROUP บริษัท น้ำตาลสุรินทร์ จำกัด และ บริษัท ไฟฟ้าสุรินทร์ จำกัด โดยคุณยงยุทธ เสถียรถิระกุล กรรมการผู้จัดการ และคณะผู้บริหาร เข้าพบ พลตรีสาธิต  เกิดโภค ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 และ คณะผู้บริหารของมณฑลทหารบกที่ 25 พร้อมกับได้มอบทุนสนับสนุนการก่อสร้างโดมกีฬาอเนกประสงค์ เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติภารกิจ และใช้ประโยชน์ในกิจกรรมต่าง ๆ ด้านกีฬา ของเหล่าทหาร และ ครอบครัว รวมถึงประชาชนที่สามารถเข้าไปใช้งานร่วมกันได้ ในพื้นที่ของมณฑลทหารบกที่ 25

โดยการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์แห่งนี้ขึ้น มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 90 ตารางเมตร ได้รับการสนับสนุนทุนงบประมาณจาก KI GROUP บริษัท น้ำตาลสุรินทร์ จำกัด และ บริษัท ไฟฟ้าสุรินทร์ จำกัด เป็นเงินจำนวน 1,400,000 บาท (หนึ่งล้านสี่แสนบาทถ้วน) ทั้งนี้ในปี 2564 ที่ผ่านมา KI GROUP บริษัท น้ำตาลสุรินทร์ จำกัด และ บริษัท ไฟฟ้าสุรินทร์ จำกัด โดย คุณยงยุทธ เสถียรถิระกุล กรรมการผู้จัดการ คุณมั่นคง เสถียรถิระกุล รองกรรมการผู้จัดการ  ยังได้มอบทุนสนับสนุนกิจกรรมหลักของทางจังหวัด อย่างต่อเนื่องอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งภาคสาธารณสุข ที่สนับสนุนหน่วยงานแพทย์ในด้านการเฝ้าระวังและป้องกันโรคระบาดโควิด-19 รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ และ องค์กรเอกชน แทบทุกหน่วยงานในจังหวัดสุรินทร์ 

กาฬสินธุ์ - รณรงค์หยุด!! ‘การเผาพื้นที่เกษตร’ ร่วมทำแนวกันไฟ เดินหน้านำร่องหนุนเกษตรกร ใช้เทคโนโลยีเปลี่ยนของเสียให้มีประโยชน์

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายปกครอง องค์กรภาคเอกชน และเครือข่ายเกษตรกร รณรงค์หยุดการเผาในพื้นที่เกษตร เดินหน้านำร่องหนุนเกษตรกรใช้เทคโนโลยีเปลี่ยนของเสียให้มีประโยชน์ ลดต้นทุนการผลิต เกิดความสมบูรณ์ของดินและอินทรียวัตถุในดิน ได้ผลผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 มกราคม 2565 ที่แปลงเกษตรกร นายสุนัน มิทะรา บ้านโนนตูม หมู่ที่ 4 ต.หนองตอกแป้น อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานพิธีเปิดงานนำร่องสาธิตเทคโนโลยีการจัดการเศษวัสดุทดแทนการเผา ภายใต้โครงการส่งเสริมการหยุดเผา ในพื้นที่การเกษตร ปี 2565 โดยมีนายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ นายชานุวัฒน์ วรามิตร นายก อบจ.กาฬสินธุ์ นายอัครพงษ์ เขียวแจ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ และหัวหน้าส่วนราชการร่วมงาน

นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่างานนำร่องสาธิตเทคโนโลยีการจัดการเศษวัสดุทดแทนการเผา ภายใต้โครงการส่งเสริมการหยุดเผาดังกล่าว จัดโดยสำนักงานเกษตร จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกับอำเภอยางตลาด สำนักงานเกษตรอำเภอยางตลาด องค์การบริหารส่วนตำบลหนองตอกแป้น องค์กรภาคเอกชน และเครือข่ายเกษตรกรในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างเครือข่ายเกษตรปลอดการเผาในพื้นที่การเกษตร สร้างจิตสำนึกและการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนในการทำเกษตรปลอดการเผา รวมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรนำเอาวัสดุเหลือใช้จากการเกษตร มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการสร้างมูลค่าและเพิ่มผลผลิต

นายทรงพลกล่าวอีกว่า ปัญหาหมอกควันปกคลุมและเกิดมลพิษทางอากาศ มีสาเหตุหนึ่งมาจากการเผาในที่โล่ง ทั้งในพื้นที่ป่าและพื้นที่การเกษตร ซึ่งการเผาดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน รวมทั้งยังส่งผลเสียต่อการทำอาชีพการเกษตรโดยตรง คือทำให้ดินเสื่อมโทรม ขาดความอุดมสมบูรณ์และส่งผลให้สูญเสียทางด้านเศรษฐกิจ ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น และผลผลิตต่ำกว่าที่ควรจะเป็น

สุรินทร์ - มณฑลทหารบกที่ 25 จัดพิธีวางพวงมาลาสักการะอนุสาวรีย์พลตรีหลวงวีรวัฒน์โยธิน ผู้ก่อตั้งค่ายวีรวัฒน์โยธิน และพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล เนื่องในวันกองทัพไทย

ที่ ค่ายวีระวัฒน์โยธิน พลตรีสาธิต  เกิดโภค ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาสักการะ พร้อมกล่าวคำสดุดีต่อหน้าอนุสาวรีย์พลตรีหลวงวีรวัฒน์โยธิน ผู้ก่อตั้งค่ายวีรวัฒน์โยธิน เนื่องในวันกองทัพไทย โดยมีกำลังพลหน่วยขึ้นตรง ข้าราชการบำนาญ โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน กองกำลังสุรนารี ร้อย.23 พัน 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาที่ 54 หน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร พร้อมใจกันร่วมนำพวงมาลาวางสักการะ

ทั้งนี้เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงดวงวิญญาณ อันศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าทหารกล้า ในฐานะวีรชนผู้ทรงพระคุณอันยิ่งใหญ่ของชาติไทย โดยช่วงบ่าย เวลา 15.00 น. พลตรีสาธิต  เกิดโภค ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 เป็นประธานในพิธี ทางพุทธศาสนา และ พิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล ประจำปี 2565 เนื่องในวันกองทัพไทย

นครพนม - กอ.รมน.มุกดาหาร ร่วมประกอบพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล เนื่องใน "วันกองทัพไทย" ประจำปี 2565 ณ มณฑลทหารบกที่ 210

พ.อ.วรพรต แก้ววิจิตร รอง ผอ.รมน.จังหวัด ม.ห.(ท)/รอง ผอ.สน.ปรมน.จว.มทบ.210 ร่วมประกอบพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล เนื่องในวันกองทัพไทย ประจำปี 2565  โดยมี พล.ต.สถาพร บุญชู ผบ.มทบ.210 เป็นประธานในพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล เนื่องในวันกองทัพไทย ประจำปี 2565 โดยมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ สมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา มทบ. 210 กำลังพล มทบ.210 , ร.3 พัน.3 , ส่วนราชการภาครัฐ, ภาคเอกชน, เข้าร่วมพิธี ณ สนามหน้า บก.มทบ.210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม

โดย ผบ.มทบ.210 ได้อ่านโอวาทผู้บัญชาการทหารสูงสุด และนำกล่าวสดุดีวันกองทัพไทย พร้อมนำกำลังพลสวนสนาม และนายทหารสัญญาบัตรและนายทหารประทวนที่เข้ารับราชการใหม่ กล่าวปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล

 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top