Saturday, 10 May 2025
Isan

ขอนแก่น - ทน.ขอนแก่น อัดงบ 100 ล้านบาท ซื้อวัคซีน “ชิโนฟาร์ม” 100,000 โดส ให้กับคนในชุมชน “ธีระศักดิ์” ย้ำชัดกลุ่มเป้าหมายชัดเจน ลงลึกถึงกลุ่มเปราะบาง ตามระเบียบที่กำหนด วอนต้นทางชัดเจนและเร่งจัดสรรให้กับ อปท.เร่งด่วน

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 23 มิ.ย.2564 ที่สำนักงานเทศบาลนครขอนแก่น หรือ ทน.นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ประชุมร่วมคณะทำงานด้านการจัดหาวัคซีนทางเลือก จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ตามระเบียบและข้อบังคับที่กำหนดภายหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.ขอนแก่น ได้รับทราบถึงแผนการจัดซื้อดังกล่าวจากเทศบาลฯละพิจารณาอนุญาตให้ทำการจัดซื้อตามระเบียบและขั้นตอนต่าง ๆ ในการนำมาให้บริการกับประชาชนในพื้นที่เขตเทศบาลนครขอนแก่น

นายธีระศักดิ์  ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้มีสัญญาณที่ดีที่คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดได้รับทราบและพิจารณาอนุญาตและสนับสนุนการดำเนินงานของเทศบาลฯในการจัดซื้อวัคซีนชิโนฟาร์ม จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ สำหรับการนำมาฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่เขตเทศบาลฯตามกลุ่มเป้าหมายหลักที่กำหนด โดยขั้นตอนจากนี้ไปคือการจัดส่งเอกสารเพิ่มเติมตามที่ราชวิทยาลัยฯได้กำหนดออกมา ให้แล้วเสร็จจากนั้นก็จะเข้าสู่ระเบียบของกระทรวงมหาดไทยในการที่จะพิจารณาจ่ายขาดเงินสะสม ซึ่งเทศบาลฯ จะทำการจัดซื้อวัคซีนชิโนฟาร์ม จำนวน 100,000 โดส ในการให้บริการกับประชาชนในพื้นที่ที่รับผิดชอบจำนวน 50,000 คน ประมาณการวงเงินที่ใช้จ่ายประมาณ 100 ล้านบาท

“ผู้ที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนในกลุ่มของวัคซีนทางเลือกที่เทศบาลฯจัดซื้อรวมจำนวน 50,000 คนนั้น ได้มีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายไว้ 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย ครู และบุคลากรทางการศึกษา ,กลุ่มผู้ค้าในตลาดและประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป และ กลุ่มเปราะบางไม่ต่ำกว่า 5,000 คน ทั้งหมดเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรการโรคติดต่อจังหวัดและระเบียบของราชวิทยาลัยฯ ซึ่งขั้นตอนและกระบวนการต่าง ๆ จากนี้ไปคณะทำงานจะประสานงานร่วมทุกฝ่ายเพื่อให้การดำเนินงานนั้นเสร็จสิ้น โดยคาดว่าจะได้รับการส่งมอบวัคซีนในเดือน ต.ค. ซึ่งเทศบาลฯได้ประสานการทำงานร่วมกับ รพ.ศรีนครินทร์ มข.เป็นหน่วยงานบริการทางการแพทย์ในการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเป้าหมายตามบัญชีรายชื่อที่กำหนดไว้”

นายธีระศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าวัคซีนจากราชวิทยาลัยฯชุดแรก 400,000 โดสได้มีการจัดสรรให้กับหน่วยงานต่าง ๆ แล้วแต่ยังไม่มีปรากฎรายชื่อขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดเลย จึงขอให้คณะกรรมการกลางได้พิจารณาจัดสรรวัคซีนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในลำดับต้น ๆ ด้วย เพื่อที่จะได้รับวัคซีนทางเลือกมาสนับสนุนวัคซีนหลักที่รัฐบาลจัดสรร จนนำไปสู่การให้ประชาชนทุกพื้นที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 กันให้ได้อย่างครอบคลุมตามสัดส่วนที่รัฐบาลกำหนด ขณะเดียวกันรายชื่อของผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน ในส่วนที่เทศบาลฯรับผิดชอบนอกจากการลงพื้นที่สำรวจของคณะทำงานแล้ว จะยังคงมีการประสานรายชื่อกับระบบหมอพร้อม และขอนแก่นพร้อม เพื่อดำเนินการจัดระบบการฉีดวัคซีนครอบคลุมเป้าหมายที่กำหนดต่อไป

ขอนแก่น - หอการค้าขอนแก่น ประกาศฉีดวัคซีนทางเลือกให้กับบุคลากรด่านหน้าด้านเศรษฐกิจ หลังราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จัดสรร ชิโนฟาร์ม ให้ 2,400 โดส “ชาญณรงค์” ย้ำชัด ไทยเปิดประเทศ ทุกคนต้องเตรียมพร้อม เร่งประสาน สธ. พิจารณาจุดออกพาสต์ปอร์ตวัคซีนในระดับภูมิภาค ครอบคล

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 25 มิ.ย.2564 นายชาญณรงค์  บุริสตระกุล ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้แจ้งยืนยันในการจัดสรรวัคซีนชิโนฟาร์มให้กับหอการค้าขอนแก่นแล้วจำนวน 2,400 โดส สำหรับการฉีดให้กับบุคลากรในองค์กร 1,200 คน โดยคาดว่าวัคซีนดังกล่าวนี้นั้น หอการค้าจะได้รับภายในสุดสัปดาห์นี้และเตรียมที่จะดำเนินการฉีดได้ภายในสัปดาห์หน้า โดยที่ได้มีการประสานงานร่วมกับ รพ.ราชพฤกษ์ ในการเป็นจุดให้บริการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรในองค์กรตามที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์กำหนด ทำให้ขณะนี้คณะทำงานด้านวัคซีนหอการค้า จ.ขอนแก่น จะมีการประชุมพิจารณาบุคลากรที่จะเข้ารับวัคซีนดังกล่าวเป็นการเร่งด่วนเพื่อจัดส่งรายชื่อให้กับราชวิทยาลัยฯรวมทั้ง รพ.ราชพฤกษ์ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ตามแนวทางและนโยบายที่รัฐบาลกำหนด โดยผู้ที่จะเข้ารับวัคซีนนั้นจะเน้นหนักในกลุ่มบุคลากรด่านหน้าด้านเศรษฐกิจ

“รัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนในการเปิดประเทศภายใน 120 วัน ขณะที่ มาตรการผ่อนคลาย จาก ศบค.และคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ ได้มีมติออกมาอย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์ที่คลี่คลายลงและประชาชนได้รับการฉีดวัคซีน จนนำมาสู่ภูมิคุ้มกันหมู่ที่เกิดขึ้นแล้วในหลายพื้นที่ และยังคงมีประชาชนที่รอขั้นตอนการฉีดตามการจัดสรรวัคซีนตามที่รัฐกำหนด ขณะที่แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ เมื่อทุกอย่างผ่อนคลาย ภาคธุรกิจเอกชน การค้า และการลงทุน จะต้องทำทันที

ดังนั้นการจัดสรรวัคซีนทางเลือกนั้นจะเน้นหนักไปในกลุ่มบุคลากรด่านหน้าด้านเศรษฐกิจ ที่จะต้องเดินทางติดต่อประสานงาน ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องที่เป็นสมาชิกของหอการค้าขอนแก่น กลุ่มนักธุรกิจที่จะต้องเดินทางไปต่างประเทศหลังจากการเปิดประเทศทันที กลุ่มธุรกิจขนส่งต่าง ๆ รวมไปถึงนักธุรกิจในกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับด้านการค้าการลงทุนที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนและได้รับเอกสารยืนยันในการที่จะสามารถติดต่อ สื่อสาร เจรจาธุรกิจ และการลงทุนต่าง ๆ ทำให้ในระยะนี้คือการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆของผู้ประกอบการที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้าหลังสถานการณ์ต่าง ๆ ได้คลี่คลายลง”

นายชาญณรงค์ กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้การได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม เริ่มมีอย่างแพร่หลายแล้ว ซึ่งจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่เกิดขึ้นครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วทั้งประเทศภายใต้มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด อย่างไรก็ดีหอการค้าจะมีการประสานงานร่วมกับสำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น ในการพิจารณาการออกพาสปอร์ตวัคซีนระดับภูมิภาค เนื่องจากขณะนี้การออกเอกสารดังกล่าวยังคงสามารถดำเนินการได้เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และดอนเมือง

ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดและการลดการเดินทางเข้าพื้นที่เสียง ภาคธุรกิจเอกชนพร้อมที่จะให้การสนับสนุนคณะทำงานในการออกเอกสารดังกล่าวในระดับภูมิภาค ซึ่งอาจจะเน้นไปในพื้นที่จังหวัดหลักตามขออำนาจหน้าที่ที่กระรวงต่างประเทศรับผิดชอบที่มีการออกหนังสือเดินทางหรือพาสปอรต์อยู่แล้ว ให้สามารถออกพาสปอร์ตวัคซีนได้ควบคู่กันไปด้วยตามระเบียบที่กำหนด โดยอาจจะเริ่มจากขอนแก่น-เชียงใหม่และสงขลา ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานหนังสือเดินทางรวมทั้งสถานกงสุลจากนานาประเทศอยู่แล้ว

สุรินทร์ – สองสามีภรรยาเมืองช้าง ผลิกชีวิตปลูกต้นอินทผลัม 3 ไร่ ยอดขายวันเดียวทะลุเกือบ 3 หมื่นบาท

อําเภอโนนนารายณ์ สองสามีภรรยาลาออกจากบริษัทใน กทม.นําเงินที่เก็บหอมลอมริบหันมาปลูกต้นอินทผลัมในไร่เนื้อที่ 3 ไร่ ใช้เวลาปลูกดูแลรักษาเพียง 3 ปี สามารถเก็บผลผลิตสู่ท้องตลาด เพียงเปิดไร่ให้ลูกค้ามาแวะมาชมมาซื้อเพียงวันเดียวมีลูกค้าในอําเภอ และอําเภอข้างเคียงแห่จองขายวันเดียวยอดขายทะลุเกือบ 3 หมื่นบาท

วันที่ 28 มิถุนายน 64 ช่วงเช้านี้ ผู้สื่อข่าวลงไปที่บ้านเลขที่ 69/1 หมู่ 2 บ้านระเวียง ต.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ โดยมีนายธนกฤต ไสว อายุ 48 ปีและนางชัทราณี สุขประสงค์ อายุ 40 ปี สองสามีภรรยา ได้ทําสวนอินทผลัม ในเนื้อที่ 3 ไร่ ใช้เวลาปลูกเพียง 3 ปี ก็เก็บผลผลิตส่งขายลูกค้าสั่งจองวันเดียวยอดขายทะลุเกือบ 3 หมื่นบาท

นายธนกฤต ไสว อายุ 48 ปี เจ้าของสวนเล่าว่า ตนและภรรยาเคยทํางานบริษัทในแถว กทม.ก่อนจะลาออกจากงานได้เงินมาก้อนหนึ่ง พาภรรยากลับมาอยู่บ้านแล้วหันมาทําไร่ที่พ่อแม่แบ่งมรดกให้ทํากิน 3 ไร่ โดยครั้งแรกตนและภรรยาปลูกมันสําประหลังแต่ราคามันตกตํ่าขายไม่ได้กําไรและต้นทุน จึงหันมาปลูกต้นทุเรียนแต่ก็ไม่ประสบความสําเร็จ เพราะต้นทุเรียนตายหมด

จากนั้นตนไม่หมดความพยายามได้ศึกษาพืชเศรษกิจตัวใหม่ในเน็ต จึงมีแรงจูงใจอีกครั้งพบว่าอินทผลัมคือพืชเศรษกิจตัวใหม่เหมาะสําหรับพื้นที่และอากาศบ้านเราจึงได้เดินทางไปขอดูงานที่สวนอินทผลัมในเขตอําเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา จนชื่นชอบและก็ได้สั่งซื้อเนื้อเยื้อพันธุ์บาฮีและพันธุ์อัมเดนดาฮาน มาปลูกจํานวน 150 ต้นในเนื้อที่ 3 ไร่ โดยใช้ระยะเวลาปลูกและดูแลรักษาเพียง 3 ปี ก็สามารถเก็บผลผลิตชุดแรกได้ผลโตรสชาติหวานติดลิ้น กรอบอร่อย เปิดขายในราคาลูกอินทผลัมพันธุ์บาฮี ขายกิโลละ 400 บาท

ลูกอินทผลัมพันธุ์อัมเดนดาฮาน ขายกิโลละ 600 บาท  ชึ่งทางตนได้เปิดไร่สวนอาชาผาลัมขายวันอาทิตย์ 27 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา วันเดียวมีลูกค้ามาสั่งจองและแวะมาเที่ยวชมมาซื้อที่สวนจนคึกคักตลอดทั้งวัน จนมียอดขายวันเดียวทะลุเกือบ 3หมื่นบาทเลยทีเดียว และหากท่านใดสนใจสั่งซื้อหรือจะมาดูงานชมสวนติดต่อมาได้ที่ เบอร์ 092-692-6259 (ขาว) ยินดีต้อนรับ


ภาพ/ข่าว  บุญเรือง เกสรจันทร์

สุรินทร์ - แถลงข่าวและประมูลทุเรียนเมืองช้างการกุศล สบทบทุนจัดซื้อรถยนต์รับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่

ที่ห้องประชุมช้างใหญ่ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นายสุวพงศ์ กิตติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย นางจันทร์เพ็ญ กิตติภัทย์พิบูลย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ และแพทย์หญิงดวงแก้ว  ตัณฑประภา รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ ร่วมกันแถลงข่าว กิจกรรมสาธารณกุศล การประมูลทุเรียนเมืองช้าง โดยจังหวัดสุรินทร์ได้จัดขึ้น เพื่อสมทบทุนจัดซื้อรถยนต์รับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ มอบให้แก่โรงพยาบาลสุรินทร์ โดยทุเรียนที่จะนำมาประมูลเป็นทุเรียนที่ปลูกในพื้นที่ของจังหวัดสุรินทร์เป็นต้นแรก ๆ

ในขณะเดียวกันจังหวัดสุรินทร์ ได้ขับเคลื่อนโครงการ สุรินทร์รุ่งเรือง เมืองเกษตรอินทรีย์  และกิจกรรมอีกโครงการที่สำคัญคือ การส่งเสริมการปลูกทุเรียนเมืองช้าง โดยจังหวัดสุรินทร์เริ่มมีเกษตรกรปลุกทุเรียนครั้งแรกในพื้นที่อำเภอบัวเชด มาเป็นเวลากว่า 20 ปี และปัจจุบันได้ขยายพื้นที่ปลูกในพื้นที่ 13 อำเภอ ส่วนใหญ่จะปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทอง และพันธุ์ก้านยาว ซึ่งทุเรียนเมืองช้างของจังหวัดสุรินทร์จะมีเอกลักษณ์สำคัญคือ “สีนวลดั่งงาช้าง รสสัมผัส หอมเย็น หวานละมุน

โดยในการประมูลจะจัดขึ้นจำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรกเป็นการประมูลย่อยจัดขึ้นในวันนี้ (29 มิ.ย. 64) ที่ห้องประชุมช้างใหญ่ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ โดยมีผลทุเรียนมาจาก 5 สวน  เข้าร่วมประมูลจำนวนทั้งสิ้น 13 ลูก ซึ่งสามารถประมูลลูกทุเรียนได้ในราคาตั้งแต่ลูกละ 25,000 – 110,000 บาท ได้เงินเข้าการกุศลในครั้งนี้รวมเป็นเงินกว่า 498,000 บาท โดยทุเรียนที่ประมูลได้ราคาสูงที่สุดคือ ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง จากสวน นางฉลอม  จุดาบุตร บ้านโคกกะลัน ตำบลปาสารททนง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ประมูลได้ในราคา 110,000 บาท และจะมีการประมูลทุเรียนเมืองช้างอีกครั้ง โดยจะมีการประมูลครั้งใหญ่ในงานเปิดตัวทุเรียนเมืองช้าง ในวันที่ 15 กรกฏาคม 2564 ที่บริเวณปราสาทศีขรภูมิ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์  โดยจะมีกิจกรรม การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านสุรินทร์  การจัดแสดงและจำหน่ายผลิตผลทางการเกษตร และผลิตภัณฑ์ของชุมชน และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ การประมูลทุเรียนเมืองช้าง การจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากทุเรียนเมืองช้าง และที่เป็นไฮไลท์ของงานคือการแข่งขัน ปอกทุเรียนลีลา สร้างความสนุกสนาน และให้ทุกคนรู้จักกับทุเรียนเมืองช้างในครั้งนี้ด้วย


ภาพ/ข่าว  ปุรุศักดิ์ แสนกล้า 

 

มุกดาหาร - แถลงข่าวการจัดงานมหัศจรรย์มุกดาหาร 3 พิภพ ณ วัดรอยพระพุทธบาทภู โดยงานมหัศจรรย์มุกดาหาร 3 พิภพ Miracle Mukdahan จะจัดขึ้น 3 แห่ง คือ ลานกิจกรรมแก่งกะเบา, ลานกิจกรรมสะพานมิตรภาพไทย-ลาว, และวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2564 เวลา 18.30 น นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้ร่วมแถลงข่าวจัดงานมหัศจรรย์มุกดาหาร 3 พิภพ พร้อมผู้ร่วมแถลงข่าว พระราชรัตนโมลี เจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร นายศศิพงศา จันทรสาขา รองประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดมุกดาหาร และนายกสมาคมเครือข่ายมุกดาหาร เมืองสามธรรม นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ททท. นางสาวกนกวรรณ ดุงศรีแก้ว ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครพนม และประชาชนชาวมุกดาหารเกือบ 200 คน ทั้งนี้ภายในงานยังมีการแสดงศิลปวัฒนธรรม นาฏยนาคีศรีมุกดา การแสดงศิลปวัฒนธรรมรำมวยโบราณ และฟ้อนหางนกยูง เพื่อแสดงถึงวัฒนธรรมที่สวยงามของจังหวัดมุกดาหารอีกด้วย

สำหรับการจัดงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่อประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยวเมืองสามธรรม "ย้อนตำนาน พญานาคราชออนซอนกลุ่มชาติพันธุ์ลุ่มน้ำโขงจังหวัดมุกดาหาร" และสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการพัฒนาการท่องเที่ยว เมืองสามธรรมในวิถีชีวิตลุ่มน้ำโขงจังหวัดมุกดาหารสู่ความยั่งยืน ก่อให้เกิดเส้นทางท่องเที่ยวที่หลากหลาย สำหรับนักท่องเที่ยวและบุคคลทั่วไป ที่มีความเชื่อความศรัทธา เรื่องพญานาคในลุ่มแม่น้ำโขงเชื่อมโยงกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 รวมทั้งรุ่งสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการพัฒนาการท่องเที่ยวเมือง 3 ธรรม (ธรรมะ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม) ในวิถีชีวิตลุ่มน้ำโขงจังหวัดมุกดาหารสู่ความยั่งยืนสืบไป


ภาพ/ข่าว  ชุด ฉก.พญาอินทรีย์ / เดวิท โชคชัย จ.มุกดาหาร

อุบลราชธานี - พัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าและเครื่องแต่งกายให้เป็น Premium OTOP

นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พบปะกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าและเครื่องแต่งกายให้เป็น Premium OTOP กิจกรรมที่ 3 สร้างการรับรู้ภูมิปัญญาผ้าและเครื่องแต่งกาย  ณ หอประชุมไพรพะยอม มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี

โครงการดังกล่าวกรมการพัฒนาชุมชน ได้มอบหมายให้จังหวัดอุบลราชธานี ดำเนินการ กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย ผู้ผลิต ผู้ประกอบการจากจังหวัดอุบลราชธานี ร้อยเอ็ด มุกดาหาร บึงกาฬ อำนาจเจริญ และจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 50 กลุ่ม/ราย เพื่อเผยแพร่พระอัจฉริยภาพของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ด้านการออกแบบเครื่องแต่งกายสิ่งทอและการอนุรักษ์ผ้าไทยให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ และพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ผ้าและเครื่องแต่งกายให้เป็นผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยม เป็นที่ต้องการของตลาด

พร้อมนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัด ได้กล่าวขอบคุณกรมการพัฒนาชุมชน โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนและคณะวิทยากร เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโครงการ ตลอดจนผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และได้เน้นย้ำให้ทุกภาคส่วน บูรณาการการดำเนินงานโครงการให้สำเร็จตามวัถุประสงค์ที่ตั้งไว้


ภาพ/ข่าว  กิตติภณ เรืองแสน

สุรินทร์ – เริ่มวันแรก บรรยากาศการฉีดวัคซีน "ซิโนฟาร์ม" ที่จังหวัดสุรินทร์คึกคัก ประธานหอการค้าสุรินทร์ เผยว่า ยังมีโอกาสนำเข้าวัคซีนยี่ห้ออื่น เพื่อเป็นทางเลือก

วันที่ 30 มิถุนายน 2564 ที่ ศูนย์ฉีดวัคซีน ชั้น 2 โรงพยาบาลรวมแพทย์หมออนันต์ นายเสริมศักดิ์ สีสันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยนายวีรศักดิ์ พิษณุวงษ์ ประธานหอการค้าจังหวัดสุรินทร์ และแพทย์หญิง มนัสลักษ์ อริยะชัยพาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรวมแพทย์ (หมออนันต์) เข้าสังเกตการณ์การให้กำลังใจประชาชน และทีมงานจุดฉีดวัคซีนวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์ม วันแรก ให้แก่ประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์

โดยหอการค้าจังหวัดสุรินทร์ได้สั่งจองวัคซีนซิโนฟาร์มจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จำนวน 1,200 โดส โดยกลุ่มที่ได้รับการฉีดส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคณะครูโรงเรียนเอกชน ห้างร้าน บริษัท และผู้สูงอายุ ทั้งนี้ นายนายวีรศักดิ์ พิษณุวงษ์ ประธานหอการค้าจังหวัดสุรินทร์ เผยว่า วัคซีนซิโนฟาร์ม ที่ได้รับการจัดสรรมาจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จำนวน 1,200 โดส ในล็อตแรกนี้ ได้นำมาฉีดให้กับประชาชน ภาคเอกชน ในจังหวัดสุรินทร์ ที่มีความต้องการวัคซีนทางเลือก 

โดยหอการค้าจังหวัดสุรินทร์ได้ร่วมกับโรงพยาบาลรวมแพทย์หมออนันต์ จัดตั้งเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม วัคซีนทางเลือกในครั้งนี้ ซึ่งอาจจะพอบรรเทาความต้องการ จากภาคเอกชนลงได้ไม่มากก็น้อย โดยเห็นได้ว่ามีประชาชนสนใจเข้าจองวัคซีนเป็นอีกจำนวนมาก โดยทางหอการค้าจังหวัดสุรินทร์ จะทำการสำรวจความต้องการวัคซีนทางเลือกซิโนฟาร์ม และยี่ห้ออื่น ๆ ของประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์อีกครั้ง


ภาพ/ข่าว  ปุรุศักดิ์ แสนกล้า 

กาฬสินธุ์ – บูรณาการท้องถิ่น ใส่ใจความสะอาดตามค่านิยม 11 ประการ

จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับสำนักงานท้องถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ แขวงทางหลวงชนบทกาฬสินธุ์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดกาฬสินธุ์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ และแขวงทางหลวงสกลนคร ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือรักษาความสะอาดของถนน เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณสองข้างทางให้มีความสะอาด สวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย สองคล้องกับค่านิยม 11 ประการ “ใส่ใจความสะอาด” ของผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมโสมพะมิตร ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ ชั้น 4 นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานบันทึกข้อตกลง ว่าด้วยความร่วมมือในการรักษาความสะอาดของถนน ในเขตพื้นที่รับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระหว่างแขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ แขวงทางหลวงชนบทกาฬสินธุ์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.กาฬสินธุ์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จ.กาฬสินธุ์ และแขวงทางหลวงสกลนคร โดยมีนายเลิศบุศย์ กองทอง รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ นายสนั่น พงษ์อักษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ นายปัญญา ปานแก้ว ท้องถิ่น จ.กาฬสินธุ์ นางดวงตา พายุพล ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ พ.จ.ต.สำเนียง  หวังเจริญ ผอ.กลุ่มงานส่งเสริมและพัฒนาท้องถิ่น พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน จ.กาฬสินธุ์ 151 แห่ง ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงอย่างพร้อมเพรียง

นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตามที่ตนได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติราชการด้วยค่านิยม 11 ประการ ประกอบด้วย

1.ความรู้คู่คุณธรรม

2.ปฏิบัติตามกฎหมาย

3.ใส่ใจความสะอาด

4.มีมารยาทแบบไทย

5.รักษาวินัยจราจร

6.ทรัพยากรต้องรักษา

7.รู้ค่าประชาธิปไตย

8.ครอบครัวปลอดภัย

9.ห่างไกลยาเสพติด

10.ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 

11.เคียงคู่จิตอาสา

ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 9 เดือนที่ปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ได้ร่วมกับส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ เอกชนและทุกภาคส่วน ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการบริหารราชการและพัฒนาด้านอื่นๆ เพื่อให้การพัฒนาเดินหน้า นำมาซึ่งความอยู่เย็นเป็นสุข และความอยู่ดีกินดีมาสู่พี่น้องประชาชนชาวกาฬสินธุ์

นายทรงพลกล่าวอีกว่าในส่วนของการลงนามบันทึกข้อตกลง ว่าด้วยความร่วมมือในการรักษาความสะอาดของถนนดังกล่าวนั้น เนื่องจากถนนทุกสาย ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของหลายหน่วยงาน บางสายอยู่ในความรับผิดชอบของแขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ หรือแขวงทางหลวงชนบทกาฬสินธุ์ และอยู่ในพื้นที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นหน่วยงานที่อยู่ใกล้ชิดกับถนน ดังนั้นเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการดูแลถนนร่วมกัน ในรูปแบบของการบูรณาการ ทั้งงบประมาณ รวมถึงการการปรับปรุงภูมิทัศน์ และการรักษาความสะอาด

นายทรงพลกล่าวเพิ่มเติม เพื่อให้การดำเนินโครงการถนนสะอาด เกิดการบูรณาการ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงหรือเอ็มโอยู ว่าด้วยความร่วมมือในการรักษาความสะอาดของถนน ในเขตพื้นที่รับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระหว่างแขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ แขวงทางหลวงชนบทกาฬสินธุ์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.กาฬสินธุ์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จ.กาฬสินธุ์ และแขวงทางหลวงสกลนคร ทั้งนี้ เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณสองข้างทางให้มีความสะอาด สวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย สอดคล้องกับค่านิยม 11 ประการ  ข้อที่ 3 “ใส่ใจความสะอาด” ของผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ดังกล่าว

สุรินทร์ - แม่ทัพภาคที่ 2 ตรวจเยี่ยมความพร้อมหน่วยฝึกทหารใหม่ มทบ.25,ร23.พัน 3 กำชับดูแลทหารใหม่อย่างใกล้ชิด ภายใต้มาตรการ covid-19 อย่างเคร่งครัด

วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 พลโทธเนศ วงศ์ชะอุ่ม แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย พลตรีสาธิต เกิดโภค ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 ,พลตรีอดุลย์ บุญธรรมเจริญ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พันเอกสงคราม โชคชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมรับทหารใหม่ ผลัดที่ 1 ประจำปี 2564 ณ หน่วยฝึกกองร้อยมณฑลทหารบกที่ 25 และหน่วยฝึกทหารใหม่ ร.23 พัน 3 อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์

เพื่อตรวจเยี่ยมความพร้อมการรับทหารใหม่ จำนวน 111 นาย ที่เข้ามาประจำการในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 พร้อมเยี่ยมชมการสาธิตขั้นตอนการปฏิบัติในการรับทหารใหม่ โดยเน้นย้ำการปฏิบัติต้องอยู่ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 อย่างเคร่งครัด ตลอดจนให้คำแนะนำในการปฏิบัติต่าง ๆ แก่หน่วยฝึก โดยจะมีการกักตัวทหารใหม่ จำนวน 14 วัน ก่อนเริ่มทำการฝึก  และการฝึกจะเป็นในลักษณะปิด (บับเบิ้ลเทรนนิ่งแอเรีย) มีทั้งการตรวจสอบ การคัดกรอง การกักตัวและมาตรการของการควบคุมในการพบปะ โดยจำกัดสถานที่ เพื่อลดการนำเชื้อเข้าสู่หน่วยฝึก และลดการกระจายเชื้อเข้าสู่หน่วยทหาร รวมถึงเพื่อควบคุมการติดเชื้อของหน่วยฝึก ในกรณีที่มีการแพร่ระบาด

โดยมีครูฝึกทหารใหม่ ผู้ช่วยผู้ฝึก ครูนายสิบ ให้การต้อนรับ แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เน้นย้ำผู้ฝึกทหารใหม่ ผู้ช่วยผู้ฝึก ครูนายสิบ และครูทหารใหม่ทุกนาย ให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ซึ่งการรับทหารใหม่เข้ามาในหน่วย ทุกคนมีหน้าที่ที่จะฝึกอบรม สอนทหารใหม่มีระเบียบวินัยเป็นทหารของชาติ ทั้งยังกำชับถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ที่มีความรุนแรงในปัจจุบัน ให้หน่วยฝึกปฏิบัติตามมาตรการป้องกันของกองทัพบก และกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยให้หน่วยฝึกวางแผนการปฏิบัติตามระเบียบ ปฏิบัติประจำวัน ให้มีความเหมาะสม


ภาพ/ข่าว  ปุรุศักดิ์ แสนกล้า 

นครพนม - องคมนตรี เชิญสัญญาบัตร พัดยศ ผ้าไตร พระราชทาน ถวายแด่ "พระราชมงคลวัชโรดม" พระเกจิเมืองนครพนม

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ องคมนตรี เชิญสัญญาบัตร พัดยศ ผ้าไตร พระราชทาน ถวายแด่พระราชมงคลวัชโรดม พระเกจิอายุ 101 ปี

วันที่ 4 กรกฎาคม 2564  ที่วัดโพธิ์ชัย บ้านโพนตูม หมู่ที่ 4 ตำบลก้านเหลือง อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายศุภชัย ภู่งาม องคมนตรี เชิญสัญญาบัตร พัดยศ และผ้าไตร พระราชทาน ถวายแด่พระราชมงคลวัชโรดม หรือ หลวงปู่แสง จันทวังโส อายุ 101 ปี พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดนครพนม โดยมีนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นายทวีศักดิ์ ชัยธันยาภัทร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนครพนม พลตรี สามารถ จินตสมิทธิ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 พลตำรวจตรี ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม และคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและผู้นำชุมชุมชนท้องถิ่นร่วมประกอบพิธี

พระราชมงคลวัชโรดม (แสง จันทวังโส) เป็นพระสงฆ์ที่เคร่งครัด เปี่ยมด้วยคุณธรรมและเมตตา เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน อุทิศตนรับใช้พระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีอายุ 101 ปี 80 พรรษา มีนามเดิมว่า นายแสงวงศ์ วงษ์ตาผา เกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2463 แรม 6 ค่ำ เดือน 4 ปีมะแม ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 6 บิดาชื่อนายบุญจันทร์ มารดาชื่อนางสิงห์ เป็นชาวบ้านโพนตูม ตำบลก้านเหลือง อำเภอนาแก

ท่านได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ด้วยการบรรพชาเป็นสามเณรหน้าไฟเพื่ออุทิศส่วนกุศลและส่งดวงวิญญาณให้กับคุณตาที่ล่วงลับ เมื่ออายุ 19 ปี ที่วัดศรีสำราญจิต บ้านดอนโทน หมู่ที่ 5 ตำบลก้านเหลือง มีพระครูนาครธรรมนิเทศ เจ้าอาวาสวัดศรีสำราญจิตเป็นพระอุปัชฌาย์ และเมื่อเสร็จพิธีอุทิศส่วนกุศลและส่งดวงวิญญาณแล้ว เจ้าอาวาสไม่ยอมให้ลาสิกขาและพาเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่าง ๆ ตามจังหวัดขอนแก่น จังหวัดร้อยเอ็ด จนถึงจังหวัดอุบลราชธานี และได้เข้าจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านแก้ง อำเภอเขมราฐเรื่อยมา

กระทั่งวันที่ 3 ตุลาคม 2482 ท่านอายุได้ 22 ปี จึงได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ มีพระครูบริหารเกษมรัฐ เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระอุย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระดม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ โดยหลังอุปสมบทได้มุ่งมั่นเล่าเรียนด้วยปฏิภาณไหวพริบที่ดีเลิศจนสำเร็จการศึกษาแผนกธรรม นักธรรมชั้นตรี–โท–เอก ตามลำดับ ทั้งยังได้เล่าเรียนอักขระเลขยันต์และวิทยาคมต่าง ๆ จนเชี่ยวชาญ

ท่านเป็นพระภิกษุผู้ปฏิบัติชอบตามพระธรรมวินัย คอยเทศนาธรรมโวหารโปรดญาติโยมและชาวบ้านในละแวกนั้น

หลายปีต่อมาจึงได้กลับบ้านเกิด มาจำพรรษาอยู่ที่วัดโพธิ์ชัย บ้านโพนตูม และด้วยเป็นพระที่มีความสมถะ ปฏิบัติดี มีความรู้ลึกซึ้งแตกฉาน ในช่วงที่มีผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ชุกชุม ได้นำสมุนไพรที่อยู่ในป่าลึกภูดงน้อย ตำบลก้านเหลือง มาช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้กับชาวบ้านจนหายป่วย จึงมีชาวบ้านและลูกศิษย์ที่เลื่อมใสศรัทธาจำนวนมาก แวะเวียนมากราบไหว้และทำบุญไม่ขาดสาย

ด้วยการบำเพ็ญประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาและดูแลการเจ็บป่วยของชาวบ้าน จึงได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร นามพระครูอุดมรังสี และดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย รวมทั้งเป็นเจ้าคณะตำบลก้านเหลือง

และในครั้งนี้ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น "พระราชมงคลวัชโรดม พุทธาคม ธรรมพิสิฐ มหาศณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี" พระราชาคณะชั้นราช มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 4 รูป คือ พระครูปลัด 1 พระครูสังฆรักษ์ 1 พระครูสมุห์ 1 และพระครูใบฎีกา 1


ภาพ/ข่าว  สุเทพ หันจรัส ผสข.นครพนม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top