Saturday, 10 May 2025
Isan

กาฬสินธุ์ – เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่ให้กับโรงพยาบาลสหัสขันธ์ สนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ สู้วิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลสหัสขันธ์ อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์  เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของคณะแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ที่ต้องต่อสู้กับวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019

ที่วัดพุทธาวาสภูสิงห์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ,ประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ ของมหาเถรสมาคม และประธานกรรมการอบรมประชาชนกลาง (อ.ป.ก.) มอบหมายให้พระครูสิริพัฒนนิเทศก์ รองเจ้าคณะอำเภอสหัสขันธ์ เจ้าอาวาสวัดไตรภูมิ มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลสหัสขันธ์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ โดยนายแพทย์คมกฤษ วิเศษ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสหัสขันธ์ เข้ารับมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ทั้งหมด ทั้งนี้ จะนำไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่สู้กับวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ระลอกใหม่

ในการนี้เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ได้มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้กับโรงพยาบาลสหัสขันธ์ จำนวน 6 รายการ  ประกอบด้วย สเปรย์แอลกอฮอล์ 53 ขวด  แอลกอฮอล์สำหรับเติม  24 ขวด เจลแอลกอฮอล์ 18 ขวด ทิชชู่เปียกแอลกอฮอล์ 100 ห่อ ชุด PPE 120 ชุด และหน้ากากอนามัย 10,000 ชิ้น ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของคณะแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ให้เต็มกำลัง ซึ่งเมตตานุเคราะห์ของเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ยังจะสร้างขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งมาโดยตลอด

สำหรับอำเภอสหัสขันธ์ มี 8 ตำบล 85 หมู่บ้าน ขณะนี้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 แล้ว 6 ตำบล ประกอบด้วย ต.นิคม ต.สหัสขันธ์ ต.นามะเขือ ต.โนนน้ำเกลี้ยง ต.โนนแหลมทอง และต.โนนศิลา มีผู้ติดเชื้อสะสมที่ 21 ราย


ภาพ/ข่าว  ณัฐพงษ์ ประชากูล จ.กาฬสินธุ์

ขอนแก่น - นักท่องเที่ยวแห่ชม "เจ้าทองคำ" จระเข้แสนซน สุดแสนน่ารักตะมุตะมิ ที่เลี้ยงไว้ภายในวัดดังขอนแก่น ขณะที่ทางวัดติดป้ายเตือนระวังนักท่องเที่ยว เพื่อความปลอดภัยในการเที่ยวชมอย่างเข้มงวด

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 13 มิ.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดอุดมคงคาคีรีเขต ดอนแก่นเท้า ต.นางาม อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้ มีพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามากราบไหว้และทำบุญที่วัดแห่งนี้เพื่อความเป็นสิริมงคลอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางมาตรการคุมเข้มจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด ซึ่งไฮไลท์และจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจอย่างมากคือ "เจ้าทองคำ” จระเข้แสนซนสุดเชื่อที่พระในวัดเลี้ยงไว้ภายในสระของวัด โดยมีคณะกรรมการวัดและพระสงฆ์ยืนอยู่ริมสระ เพื่อให้อาหารและกำชับให้นักท่องเที่ยวชมความซนของเจ้าทองคำในจุดที่กำหนดไว้เพื่อความปลอดภัย

ขณะที่เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมและทำบุญที่วัดต่างพากันให้อาหารเจ้ทองคำ ด้วยการใช้ไม้ไผ่ยาวประมาณ 2 เมตร พร้อมทั้งตะโกนเรียกชื่อให้มากินอาหาร ซึ่งไม่นานเจ้าทองคำก็จะมุดน้ำโผล่ขึ้นกินไก่สด ที่เสียบติดกับปลายไม้ไว้  สร้างความตื่นเต้นให้นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

พระลุน กันตะธัมโม พระลูกวัดวัดอุดมคงคาคีรีเขต กล่าวว่า เจ้าทองคำอาศัยอยู่ภายในสระของวัดมานานกว่า 10 ปี โดยมีญาติโยมนำมาถวาย ภายหลังจากจระเข้ตัวเก่าชื่อเจ้าบอดที่หลวงปู่ผาง จิตตคุตโต พระชั้นผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียง เลี้ยงไว้ได้ตายลง ซึ่งเจ้าทองคำนั้น สามารถสื่อสาร กับพระลูกวัดซึ่งเป็นพระพี่เลี้ยง ที่สามารถสัมผัสตัวและลูบที่หัวเจ้าทองคำได้อย่างคุ้นเคย สร้างความประหลาดแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาทำบุญและเข้ามาสักการะรูปเหมือนหลวงปู่ผาง อย่างมาก

"มาช่วงสถานการณ์โควิดพบว่ามีพุทธศาสนิกชนเข้ามาน้อยลงมาก แต่ยังคงมีแวะเวียนมาไม่ขาดสาย แม้ว่าเมื่อ 2 -3 ปีก่อนพระลูกวัดที่คุ้นเคยและคอยให้อาหารเจ้าทองคำจะย้ายไปจำพรรษาที่วัดอื่น แต่ทางวัดทั้งพระและญาติโดยมยังคงเลี้ยงและดูแลโดยนำอาหารโยนให้จระเข้ทุกวัน พร้อมกับคอยเตือนนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวังอย่าเข้าใกล้สระน้ำมากเพื่อความปลอดภัย"

ขอนแก่น - ส.ส.อีสาน พปชร. พร้อมรับ “ลุงป้อม” ประชุมใหญ่ พปชร.ที่ขอนแก่น “เอกราช” ระบุยังไม่มีวาระใดสอดแทรกทุกอย่างยังเป็นปกติ ปมขัดแย้งภายในไม่มี และใครที่ไม่ได้รับหนังสือเชิญประชุมไม่มีสิทธิ์นับองค์ประชุมและเข้าห้องประชุมเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยจากสถานกา

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 13 มิ.ย.2564  ที่ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ซึ่งตั้งอยู่ ตรงข้ามศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ถ.ศรีจันทร์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน พร้อมด้วย นายวัฒนา  ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ และนายเจริญ แซ่เต็ง ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประชุมร่วมคณะทำงานพรรคพลังประชารัฐในพื้นที่ในการเตรียมการตามขั้นตอนต่าง ๆ และความพร้อมในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐได้กำหนดจัดการประชุมในวันที่ 18 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.ขอนแก่น หรือ ไคซ์ โดยจะมีคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคเดินทางเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ขณะนี้การเตรียมการในระดับพื้นที่ทั้งสถานที่การประชุม สถานที่รองรับสมาชิกพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรค ที่จะทยอยเดินทางเข้ามาในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.นั้นในภาพรวมเรียบร้อยแล้ว ตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด ซึ่งคณะทำงานได้ประสานงานร่วมกันกับคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ และ สำนักงานสาธารณสุข ในการปฎิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด โดยจำกัดผู้เข้าร่วมประชุม350 คน ดังนั้นสมาชิกพรรคท่านใด ที่ไม่ได้หนังสือเชิญประชุมจากหัวหน้าพรรคฯโดยตรง จะไม่มีสิทธิ์และสามารถเข้าห้องปรดชุมที่กำหนดไว้ได้ ตามมาตรฐานคามปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด และที่สำคัญคือจะไม่มีสิทธิ์นับองค์ประชุมหรือลงมติใดๆได้ แต่ก็ได้มีการจัดสถานที่รับรองและพักคอยไว้ในจุดที่กำหนด โดยจะมีการถ่ายทอดสดมาให้กับผู้ที่มาในสถานที่ประชุมแต่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมได้ติดตามการประชุมของพรรคตามวาระในภาพรวมทั้งหมด

“ ในการประชุมดังกล่าวนี้นั้นสมาชิกพรรค ทั้ง 350 ท่านที่ได้รับหนังสือเชิญประชุม จะลงทะเบียนตามรายชื่อที่กำหนดในการประชุมใหญ่สามัญพรรคพลังประชารัฐประจำปีครั้งที่ 1/2564 ตั้งแต่เวลา 08.00-10.00 น. โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดคอยตรวจคัดกรองและดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ขณะที่การประชุมจะดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น. จากนั้นทุกคนจะเดินทางกลับทันที โดยไม่มีการลงพื้นที่หรือปฎิบัติภารกิจใดๆในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งขณะนี้การประชุมนั้นยังคงเป็นไปตามระเบียบวาระที่กำหนด โดยเฉพาะกับการแถลงนโยบายในภาพรวมของพรรค และวาระต่าง ๆ ที่จะเสนอจากสมาชิกที่จะเข้าร่วมประชุม”

นายเอกราช กล่าวต่ออีกว่า สำหรับวาระที่จะนำเสนอที่ประชุมเรื่องการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ภายในกรรมการบริหารพรรคนั้นขณะนี้ยังคงไม่มี โดยวาระการประชุมวันนี้ยังคงเป็นไปตามวาระเดิมที่พรรคกำหนด แต่หากจะมีสมาชิกท่านใดเสนอเรื่องเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมได้รับทราบและดำเนินการตามระเบียบและข้อบังคับนั้นสามารถที่จะกระทำได้ขึ้นอยู่กับกรมการบริหารพรรค ซึ่งโดยส่วนตัวนั้นไม่ได้เป็นกรรมกีบริหารพรรคไม่สามารถที่จะออกความเห็นหรือตัดสินใจใด ๆ ได้ ต้องขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ภายในพรรคเท่านั้น และขอยืนยันว่าพรรคไม่มีปัญหาขัดแย้งใด ๆ ทุกคนตั้งใจทำงานเพื่อประเทศและประชาชน และหากมีการเสนอเปลี่ยนเลขาธิการพรรค บุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งนั้นจะต้องมีคุณสมบัติที่เหนือกว่าและมากว่าเลขาธิการพรรคคนปัจจุบัน ซึ่ง กลุ่ม ส.ส.อีสานของพรรคพลังประชารัฐ พร้อมที่จะเข้าร่วมประชุมพรรคในครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียงและครบทุกคน

กาฬสินธุ์ – ผู้ปกครองยังไม่กล้าส่งลูกมาเรียน !! เปิดเทอมวันแรก เข้มมาตรการโควิด-19

บรรยากาศเปิดเทอมวันแรก หลังกระทรวงศึกษาธิการประกาศดีเดย์พร้อมกัน 14 มิถุนายน ทั่วประเทศ หลายโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์  ยังคงเข้มมาตรการป้องกันโควิด-19 โดยตั้งจุดคัดกรอง แบ่งเลขที่คู่-เลขคี่ สลับวันมาเรียน ขณะที่ยังมีผู้ปกครองบางส่วน ยังไม่กล้าส่งบุตรหลานมาโรงเรียน เนื่องจากยังไม่มั่นใจในสถานการณ์ของโรคโควิด-19

เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 14 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งหลายโรงเรียนยังคงยึดมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ทั้งการตั้งจุดคัดกรอง ให้ครูตรวจวัดอุณหภูมิเด็กนักเรียน และผู้ปกครอง บริเวณทางเข้า พร้อมทั้งให้สวมหน้ากากทุกคน ทั้งนี้หลายโรงเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนขนาดใหญ่ ที่มีนักเรียนจำนวนมาก ได้แบ่งนักเรียนออกเป็น 2 ชุด โดยแยกเลขที่คี่และเลขที่คู่อย่างละครึ่ง สลับวันกันมาเรียน เพื่อลดความแออัด

ทั้งนี้ ในภาพรวมยังมีผู้ปกครองบางส่วน ที่ยังไม่กล้าส่งบุตรหลานมาเรียน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กอนุบาล และเด็กประถม เนื่องจากยังห่วงเรื่องการติดโรคโควิด-19 เพราะยังคงมีการแพร่ระบาดอยู่ และเด็กยังไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ทำให้บรรยากาศเปิดเทอมวันแรกนี้ มีนักเรียนค่อนข้างบางตา ส่วนผู้ปกครองที่ส่งบุตรหลานมาเรียนนั้น หลายคนมีความจำเป็นที่จะต้องส่งมาเรียน แต่ก็ได้มีการป้องกันตนเองเพื่อลดความเสี่ยง โดยห่อข้าว ห่อน้ำเป็นส่วนตัวมาเป็นอาหารกลางวัน ส่วนการเดินทางทั้งรถตู้และรถโดยสารนั้น บางคันยังพบว่ามีการนั่งเบียดกันมาด้วย อย่างไรก็ตาม ในการคัดกรองหลังรถรับส่งนักเรียนและผู้ปกครองมาส่งบุตรหลานนั้น มีคณะครู เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกเท่านั้น

ด้านนายสมพงษ์ หมายเทียนกลาง อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 61 หมู่ 1 บ้านท่าอุดม ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในส่วนของการเปิดเทอมในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 นั้น โดยส่วนตัวยังไม่มั่นใจในความปลอดภัยนัก เนื่องจากในพื้นที่และจังหวัดต่าง ๆ ยังพบผู้ติดเชื้อเป็นรายวัน ทั้งรายบุคคลและกลุ่มก้อน อย่างไรก็ตาม จากการติดตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาของทางจังหวัดอย่างเข้มข้นตลอดมา ซึ่งค่อนข้างเป็นที่พอใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ให้คลี่คลายไปได้ ส่วนที่เป็นกังวลบ้างก็ตรงที่เปิดภาคเรียนให้เด็กมาโรงเรียน เนื่องจากจะเกิดความแออัดและมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับเชื้อโควิด-19

นายสมพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับวันนี้ซึ่งเป็นวันเปิดเทอมวันแรก ตนให้หลานขึ้นรถตู้ซึ่งเหมารายเดือนมาโรงเรียน ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจให้หลานนั่งรถตู้มาโรงเรียนดังกล่าว ก็ได้ตรวจสอบประวัติรถตู้คันดังกล่าวแล้วว่าอยู่ในพื้นที่  ไม่ได้เดินทางมาจากจุดเสี่ยง มีอุปกรณ์ป้องกันโควิดอย่างครบถ้วน และเด็กนักเรียนที่นั่งมาในรถไม่แออัด เพราะมีการจำกัดจำนวนผู้โดยสาร ตามมาตรการรักษาระยะห่าง เพื่อความมั่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยของทางโรงเรียน ตนจึงเดินทางมาสังเกตการณ์  และอยากสอบถามทางโรงเรียนว่าจะให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมอย่างไรบ้าง ซึ่งหลังจากได้เห็นมีการคัดกรองเด็ก และผู้ปกครองอย่างเข้มข้นแล้วก็อุ่นใจ ว่าบุตรหลานและเด็กนักเรียนจะปลอดภัยจากโควิด-19 ในช่วงเปิดเทอมนี้


ภาพ/ข่าว  ณัฐพงษ์  ประชากูล

กาฬสินธุ์ – ผู้ปกครองและกลุ่มประชาชนทั่วไปในจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนแวค และแอสตราเซเนกาเข็มแรก เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ และสร้างความมั่นใจปลอดภัยจากโรคโควิด-19

เมื่อเวลา 10.30 น.ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา หน้าศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ (หลังเก่า) นายแพทย์ประมวล ไทยงามศิลป์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ เข้าให้กำลังใจผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไป ทั้งในส่วนข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ พ่อค้า ประชาชน ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนแวคและแอสตราเซเนกา โดยมีบุคลากร แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข คอยอำนวยความสะดวก ทั้งนี้ ทุกคนต่างสวมหน้ากาก 100%  มีการตรวจคัดกรอง วัดอุณหภูมิร่างกาย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ รักษาระยะห่าง ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

นายแพทย์ประมวล ไทยงามศิลป์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในส่วนของการให้บริการฉีดวัคซีนในวันนี้ เป็นในรอบของกลุ่มประชาชนทั่วไป ซึ่งรวมไปถึงข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ พ่อค้า ประชาชน โดยเฉพาะผู้ปกครองนักเรียน ที่เริ่มเปิดภาคเรียน ที่ได้ลงทะเบียนขอจองฉีดวัคซีน ตามช่องทางแอพพลิเคชั่นหมอพร้อม และลงทะเบียนกับโรงพยาบาล สำหรับการฉีดวัคซีนในรอบวันนี้ ได้ให้บริการฉีดวัคซีนทั้งซิโนแวคสำหรับกลุ่มประชาชนทั่วไป  และแอสตราเซเนกา ในกลุ่มผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว 7 โรค จำนวน 500 ราย ซึ่งเป็นเข็มแรกของรอบนี้ อย่างไรก็ตาม นอกจากวันนี้ให้บริการฉีดในภาคเช้าและภาคบ่ายแล้ว ในวันพรุ่งนี้ยังจะจัดให้มีการฉีดวัคซีนอีกกลุ่มเป้าหมายจำนวน 600 คน

นายแพทย์ประมวลกล่าวอีกว่า สำหรับประชาชนที่ลงทะเบียนไว้ และยังรอการรับการฉีดวัคซีน ขอให้ใจเย็น ๆ รอไปสักระยะ หากได้รับการจัดสรรวัคซีนมาอีก ก็จะแจ้งให้มารับบริการฉีดวัคซีนทันที เพราะวัคซีนยังจะมีมาเรื่อยๆ และผู้ที่ลงทะเบียนไว้ก็จะได้รับการฉีดวัคซีนครบทุกคน ดังนั้น หากได้รับการแจ้งกำหนดนัดหมาย ขอความร่วมมือมาฉีดโดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ป้องกันโควิด-19 ทั้งนี้ ขอให้ความมั่นใจว่าหลังจากการฉีดวัคซีนแล้ว ไม่มีผลข้างเคียงหรือเกิดอาการไม่พึงประสงค์รุนแรงแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามผู้เข้ารับการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ปกครองที่บุตรหลานเพิ่งเปิดเทอมใหม่ ระบุว่า ก่อนหน้านี้มีความกังวลอยู่มาก เนื่องจากประชาชนทั่วไป รวมทั้งบุคลากรครู นักเรียน ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนกันเลย  ทำให้รู้สึกว่าอยู่ในภาวะเสี่ยงตลอด แม้ว่าจะปฏิบัติตนตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด แต่การดำเนินชีวิตก็เต็มไปด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากมีผู้ป่วยได้รับเชื้อเป็นรายวัน ซึ่งหลังจากเข้ารับการฉีดวัคซีน จึงรู้สึกอบอุ่นและมั่นใจมากขึ้น

สำหรับ จ.กาฬสินธุ์ ได้รับจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 รวมวัคซีนทั้งหมด 45,160 โดส ฉีดให้บุคลากรการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และผู้ประกอบอาชีพเสี่ยงไปแล้ว 32,785 โด๊ส คิดเป็นร้อยละ 72.59 ของวัคซีนที่ได้รับจัดสรร ส่วนวัคซีนที่เหลืออยู่ระหว่างการนัดหมายและจัดฉีดเพิ่มเติมต่อไป อย่างไรก็ตามประชาชนชาวกาฬสินธุ์ ผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถลงทะเบียนขอรับสิทธิ์การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในวาระแห่งชาติ "ฉีดวัคซีน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" ผ่านอสม./รพ.สต./โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือผ่าน Platform “กาฬสินธุ์พร้อม” และตรวจสอบคิวนัดหมายและประวัติการได้รับวัคซีนผ่าน Application “หมอพร้อม”

ขณะที่สถานการณ์โรคโควิด-19 ล่าสุดวันนี้ยังไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม โดยมีผู้ติดเชื้อสะสม 136 ราย  รักษาหายป่วยแล้วสะสม 109 ราย ยังคงรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 23 ราย และเสียชีวิตสะสม 4 ราย


ภาพ/ข่าว  ณัฐพงษ์  ประชากูล จ.กาฬสินธุ์

นครพนม - ชาวบ้านตื่น !! พบกรุพระพุทธรูปเก่า 200 ปี ซุกไหโบราณ แห่ส่องเลขเด็ด กว้านซื้อเกลี้ยงแผง

วันที่ 15 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน บ.วังกระแส หมู่ 10 ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ว่ามีผู้ขุดพบกรุพระพุทธรูปสมัยโบราณ ซุกอยู่ในไหขุดพบในที่นาของชาวบ้าน ขอให้มาตรวจสอบด้วยว่าเป็นพระพุทธรูปชนิดใด หลังข่าวแพร่สะพัดในโลกออนไลน์ มีบรรดาเซียนหวย แห่ไปส่องดูตัวเลขในองค์พระกันเป็นจำนวนมาก

จึงเดินทางไปที่วัดศรีรัตนวราราม พบชาวบ้าน ผู้เฒ่าผู้แก่ และคอหวยจำนวนหนึ่ง กำลังส่องดูพระพุทธรูปที่ขุดพบได้  ทางวัดได้นำใส่ในกล่องกระจกแก้วใสสี่เหลี่ยมกว้าง 40 ซ.ม. ยาว 40 ซ.ม. สูง 30 ซ.ม. ชาวบ้านที่ทยอยแห่มามุงดูส่วนใหญ่ ต่างบอกว่าอยากจะมาส่องดูตัวเลขในองค์พระหรือใต้ก้นพระ หวังไปลุ้นหวยซื้อลอตเตอรี่งวดวันที่ 16 มิ.ย. เผื่อจะได้โชคและลาภลอยตามความเชื่อ

นายธีระพงษ์  จันทร อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้าน บ.วังกระแส กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา เวลา 16.00 น. ขณะที่นายเศียร วารี วัย 53 ปี ได้ไปไถนาเนื้อที่ 5 ไร่ ห่างจากวัดราว 1 กิโลเมตร ขณะนำจอบไปขุดซ่อมแซมคูคันนา ได้ไปกระทบกับวัตถุสิ่งหนึ่งซึ่งเป็นไหแตกร้าวกระจาย พบพระพุทธรูปขนาดต่าง ๆ อยู่ภายในไหที่แตกเป็นเสี่ยง 

ด้วยความตื่นกลัวว่าจะเป็นวัตถุโบราณล้ำค่าหรือไม่ นายเศียร เจ้าของที่นา จึงรีบมาแจ้งให้ตนไปตรวจสอบดูว่าเป็นพระพุทธรูปชนิดใดกันแน่ พบว่ามีพระพุทธรูปขนาดสูง 10 ซ.ม. 7 องค์ สูง 7 ซ.ม.ราว 11 องค์ เป็นเนื้อเงินบริสุทธิ์ ใต้ฐานเป็นดินสมัยเก่าอุดแน่นอยู่  และยังพระเนื้อชินองค์เล็กอีก 2 องค์ รวมเป็น 21 องค์ บางส่วนเศียรขาดแตกหัก สภาพเปื้อนโคลนตม เบื้องต้นจึงนำน้ำมาฉีดชะล้าง

ผู้ใหญ่บ้านวัย 53 ปี กล่าวต่อว่า จึงได้ประสานไปที่สำนักงานวัฒนธรรม จ.นครพนม เพื่อให้ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบว่าเป็นพระกรุ หรือพระพุทธรูปชนิดใด สร้างในสมัยใด และประเมินมูลค่าได้หรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานดังกล่าวได้ประสานไปยังสำนักศิลปกรที่ 9 อุบลราชธานี  มาตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยล้านช้าง ปางมารวิชัย คาดว่ามีอายุเก่าแก่กว่า 200 ปี จึงได้เก็บกู้ไปเก็บรักษาไว้ที่วัดศรีรัตวนารามชั่วคราว

พระฉลอง ทินวโร อายุ 53 ปี เจ้าอาวาสวัด กล่าวว่า หลังเจ้าหน้าที่เก็บกู้จากที่นาของนายเศียร จึงได้นำตู้กระจกคล้ายตู้บริจาคเก็บรักษาไว้ เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑสถานร้อยเอ็ดมาตรวจสอบอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป พระพุทธรูปที่ขุดพบนี้คาดว่าน่าจะเป็นโบราณวัตถุ  ที่จะต้องนำไปเก็บรักษาไว้ในสถานที่อย่างดี หากเก็บไว้ที่วัดคงไม่มีกล้องวงจรปิด และอาจจะมีหัวขโมยมาโจรกรรมไปได้

ด้านนายธนิตศักดิ์ อุ่นตา วัฒนธรรม จ.นครพนม กล่าวว่า ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญจากสำนักศิลปากรที่ 9 แล้ว พบว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยเก่า มีพุทธลักษณะใกล้เคียงกับพระพุทธรูปทองคำที่ขุดพบในพื้นที่ บ.ศรีเวินชัย ต.สามผง อ.ศรีสงคราม คาดว่าสมัยก่อนเกิดศึกสงคราม ก่อนมีผู้นำมาซ่อนไว้ในไหและฝังไว้ ที่ชาวบ้านเรียกว่ากรุเงินกรุคำในสมัยโบราณ ที่มักถูกขุดพบบ่อยครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทางวัดได้นำพระพุทธรูปที่ขุดพบ 21 องค์ และชิ้นส่วนไหที่แตกมาตั้งไว้หน้ากุฏิเพื่อให้กราบไว้เป็นสิริมงคล โดยชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างทยอยแห่มาดู บางรายนำโทรศัพท์มือถือมาถ่ายซูมส่องดูตัวเลขในองค์พระ บางราย ตรวจนับเศษไหที่แตกได้ 53 ชิ้น นำตัวเลข 53 ซึ่งตรงกับอายุเจ้าอาวาสและผู้ใหญ่บ้านโดยบังเอิญ กว้านหาซื้อลอตเตอรี่ที่มีแม่ค้ามาขายในวัด หวังลุ้นโชควันหวยออกวันที่ 16 มิ.ย. จนเกลี้ยงแผงไปแล้ว  


ภาพ/ข่าว  สุเทพ หันจรัส ผสข.นครพนม

นครพนม - อบจ.นครพนม ร่วมกับ ร.3 พัน.3 ส่งมอบบ้านให้กับผู้ยากไร้ ยากจน และด้อยโอกาส ในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

ตำบลบ้านเอื้อง อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ,ร้อยเอก วันดี สีนวล นายทหารฝ่ายกิจการพลเรือน กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 ผู้แทน พันโท ศรณณัฐ นวลมณี ผบ.ร.3 พัน 3 และส่วนราชการในพื้นที่ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม

ส่งมอบบ้านเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระปรเมนทร รามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ให้กับนายทองสูรย์ ภักดี บ้านเลขที่ 83 หมู่ที่ 12 บ้านดอนถ่อน ตำบลบ้านเอื้อง อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม

การดำเนินโครงการก่อสร้างบ้านเฉลิมพระเกียรติ ฯ เป็นการบูรณาการจากทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันแสดงความจงรักภักดี โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ร่วมกับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 และองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเอื้อง อำเภอศรีสงครามฯพร้อม เป็น 3 หน่วยงานหลัก ในการขับเคลื่อนและดำเนินการก่อสร้างบ้านสำหรับประชาชนผู้ยากไร้ ยากจน และด้อยโอกาส เป็นผู้คัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสมและจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือ

กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง และองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้าง ซึ่งปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ได้กำหนดการก่อสร้างบ้านเฉลิมพระเกียรติฯ จำนวน 10 หลัง และในการส่งมอบบ้านให้กับบ้านหลังนี้เป็นหลังที่ 7 ที่ได้รับมอบบ้านให้อยู่อาศัย เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ให้คงอยู่สืบไปชั่วลูก ชั่วหลานต่อไป


ภาพ/ข่าว  สุเทพ หันจรัส ผสข.นครพนม

ขอนแก่น - พร้อมจัดประชุมใหญ่ พปชร. ตร-สธ.-ปกครอง คุมเข้มทุกมาตรการความปลอดภัย “เอกราช”ย้ำชัด สมาชิกพรรคที่ได้รับบัตรเชิญเข้าร่วมประชุมพร้อมเพรียง ใครไม่มีเอกสารยืนยันฉีดวัคซีนจัดรถตรวจหาเชื้อป้องกันโควิดถึงที่ ไม่ตอบใครจะนั่งเลขาพรรคคนใหม่ แต่มีการเปลี่ยน

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 17มิ.ย.2564 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.ขอนแก่น หรือไคซ์ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4พร้อมด้วย นายเอกราช  ช่างเหลา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ,พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น,นายศุภชัย ลีเขาสูง นายอำเภอเมืองขอนแก่น และนายโกเมศ ฑีฆธนานนท์ นายกเทศมนตรีตำบลเมืองเก่า และคณะทำงานพรรคพลังประชารัฐ ลงตรวจพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อยในขั้นตอนสุดท้ายเพื่อเตรียมความพร้อมในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีครั้งที่ 1/2564 พรรคพลังประชารัฐที่กำหนดจัดการประชุมขึ้นที่ จ.ขอนแก่นในวันพรุ่งนี้ (18มิ.ย.) 

โดยที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการติดตั้งระบบตรวจวัดอุณหภูมิและจุดคัดกรองตามมาตรฐานความปลอดัยด้านสาธารณสุขจากสถานการณ์โควิด-19อย่างเข้มงวด บริเวณทางเข้าห้องประชุม รวมทั้งการจัดเตรียมพื้นที่รับรองคณะผู้ติดตาม ส่อมวลชน รวมไปถึงสมาชิกพรรคที่จะมาร่วมในการประชุมพรุ่งนี้ไว้ในจุดที่กำหนดตามมาตรการของการเว้นระยะห่างอย่างเข้มงวดขณะที่ ศูนย์ประชุมฯได้มีการกำหนดทางเข้า-ออก ให้สามารถใช้งานได้เฉพาะประตู 2 เท่านั้น โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและการตรวจคัดกรองและตรวจวัดอุณหภูมิเบื้องต้นก่อนที่จะเข้าสู่ที่ประชุมชั้นใน ตามจุดที่กำหนด รวมทั้งการตั้งจุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 เนื่องจากในการประชุมครั้งนี้มีการตรวจเอกสารของผู้เข้าร่วมประชุมตามที่ได้รับเอกสารจากพรรคฯว่ามีการได้รับการฉีดวัคซีนหรือไม่หากไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเฉพาะผู้ที่เข้าร่วมประชุมจะต้องตรวจหาเชื้อโควิดทันที

พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานงานร่วมทุกฝ่ายเพื่อรักษาความปลอดภัยในการประชุมอย่างเข้มงวด  ทั้งในด้านของการจัดการจราจร การรักษาความปลอดภัยด้านนอกสถานที่จัดการประชุม และภายในห้องประชุม ซึ่ง ภ.จว.ขอนแก่น และ บก.สส.ภ.4ได้เตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยในการประชุมครั้งนี้ในภาพรวมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ด้านนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน กล่าวว่า ขณะนี้ภาพรวมในการเตรียมการประชุมพรรคถือว่าเราพร้อม 100% ในฐานะเจ้าภาพเจ้าของพื้นที่นั้นคณะทำงานทุกฝ่ายทำงานกันอย่างเต็มที่ในการประชุมครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นมาตรการป้องกันโควิดตามนโยบายของ ศบค. หรือการอำนวยความสะดวกเรื่องการคมนาคมการเดินทาง ที่พัก และยินดีต้อนรับ ส.ส. และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐทุกคนที่เข้ามาร่วมประชุมที่ขอนแก่น ซึ่งยืนยันว่าสมาชิกมาครบอาจจะเกินบ้างในส่วนที่เป็นส.ส. หรือในนามตัวแทนเขต ซึ่งอาจจะเกินขึ้นไปถึง 400 คน

“หากประชาชนที่ทราบว่าระดับผู้นำประเทศเข้ามาในพื้นที่ก็อาจจะมีเรื่องการยืนหนังสือ ซึ่ง ถ้าหากว่าเป็นไปได้ไม่น่าจะสะดวกเพราะเป็นกิจกรรมของพรรคแต่อย่างไรก็ตามหากพี่น้องประชาชนมีความจำเป็นเดือดร้อนจะมายื่นก็ขอให้มีการประสานมาอย่างเป็นทางการประสานมาที่ตนเองก็ได้จะลำดับความสำคัญหรือดูจังหวะที่จะสามารถแทรกได้ เพราะเป็รการประชุมในระบอบประชาธิปไตยพรรคของเราเปิดเต็มที่รับฟังทุกความเห็นต่าง ดังนั้นกลุ่มเห็นต่างจะแสดงความคิดเห็นก็ขอให้อยู่ในกรอบอย่าละเมิดสิทธิของคนอื่นความเห็นต่างถือว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย เราไม่ขัดข้องแต่ก็ขอให้อยู่ในกรอบของแต่ละฝ่าย  ในฐานะของเจ้าภาพเราก็ต้องการเห็นความรักความสามัคคีและความเรียบร้อยในการจัดงานครั้งนี้”

นายเอกราช กล่าวต่ออีกว่า ในที่ประชุมจะเน้นเฉพาะคนที่ฉีดวัคซีนแล้วเข็มหรือครบแล้วทั้ง 2 โดส เข้าสู่ห้องประชุมชั้นในแต่ถ้าใครยังไม่ผ่านการฉีดวัคซีนมาแล้วเราก็มีการตรวจหาเชื้อ หลังจากผ่านการคัดกรองเข้าไปถ้าหากว่าอุณหภูมิสูงหรือมีไข้ เราจะคัดออกมาและตรวจโควิด ในจุดที่กำหนดซึ่งจะทราบผลทันทีถือว่าเป็นมาตรฐานที่สูงกว่าศบค. กำหนด

อย่างไรก็ตามในการประชุมครั้งนี้มีความกังวลและเป็นห่วงอยู่เหมือนกันโดยเฉพาะจังหวัดขอนแก่นเราปลอดเชื้อมาหลายวันแล้วและเป็นจังหวัดที่มีความปลอดภัยสูงจึงมีการมาจัดการประชุม ดังนั้นวันนี้การเตรียมงาน ที่ยึดตามแนวนโยบายของ ศบค.ในการป้องกันการเป็นคลัสเตอร์ใหม่และพรรคได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้อย่างมาก มาตรการควบคุมและป้องกัน คณะทำงานร่วมทุกฝ่ายได้ทำการคัดกรองมาตั้งแต่ก่อนที่จะเข้ามาถึงพื้นที่ จึงอยากให้ความสบายใจกับชาวขอนแก่นว่าพรรคได้รักษามาตรการและป้องกันเต็มที่

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามประเด็นการเลือกเลขาธิการพรรคคนใหม่ จะมี้ขึ้นในการประชุมนั้น นายเอกราช ไม่ขอแสดงความคิดเห็นและขอให้เป็นมติในที่ประชุมที่ ส.ส.ของพรรคทุกคนและสมาชิกพรรคนั้นพร้อมที่จะปฎิบัติตามมติคณะกรรมการบริหารพรรคในภาพรวม

ขอนแก่น – เกาะติดหน้าจอ ลงทะเบียนรับสิทธิ์ยิ่งใช้ยิ่งได้ต่อเนื่อง พบการใช้งานไม่ยาก และมีระยะเวลาการใช้จ่ายชัดเจน วอนรัฐคลายล็อคเพิ่มวงเงินการใช้จ่ายต่อวันให้มากกว่าวันละ 5,000 บาท เพราะสินค้าจำเป็นอย่างเครื่องซักผ้า-ทีวี-ตู้เย็น ราคามากกว่าวงเงินที่กำหนด

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 22 มิ.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ของชาว จ.ขอนแก่น เพื่อรับสิทธิ์ตามมาตรการเยียวยาของรัฐบาลในการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟู้เศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้น โดยพบว่าวันที่ 2 ของการเปิดให้ลงทะเบียนนั้นยังคงมีประชาชนให้ความสนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการและขอรับสิทธิ์กันอย่างคึกคัก โดยส่วนใหญ่ไม่ได้ลงทะเบียนในวันแรกเนื่องจากเกรงว่าคนจะเยอะและทำให้ระบบนั้นคลาดเคลื่อนจึงตัดสินใจลงทะเบียนผ่านเวปไซค์ที่กระทรวงการคลังกำหนดในวันนี้แทน ซึ่งก็สามาถลทะเบียนได้ในเวลาไม่นานมากนัก

น.ส.สุนิตรา  อุไกรษา อายุ 40 ปี ชาว จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ได้ตัดสินใจเข้าร่วมลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์และใช้สิทธิ์ตามโครงการดังกล่าว เนื่องจากมีการศึกษาแล้วพบว่าเหมาะสมกับตนเองที่สุด เนื่องจากต้องการได้รับเงินคืนจากโครงการ เพื่อนำไปใช้จ่ายในด้านต่างๆเนื่องจากครอบครัวต้องการที่จะซื้อสินค้ามาใช้ในการอุปโภคและบริโภครวมไปถึงสินค้าที่จำเป็นแต่ติดที่ว่าโครงการดังกล่าวนี้นั้นจำกัดวงเงินการใช้จ่ายวันละ 5,000 บาท ซึ่งหากตนเองจะซื้อทีวี ตู้เย็น หรือเครื่องซักผ้า หรือแม้กระทั่งเครื่องปรับอากาศขนาดเล็กแม้จะจัดราคาโปรโมชั่นก็ไม่สามารถที่จะเลือกซื้อได้

“ระบบการลงทะเบียน นั้นง่ายมาก และใช้เวลาในการลงทะเบียนไม่นาน ซึ่งเป็นเพราะความคุ้นชินจากการที่ได้ศึกษาโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลและระบบการลงทะเบียน ที่มีการปรับปรุงแก้ไขและเข้าใจง่าย ซึ่งโครงการเยี่ยวยาที่รัฐบาลกำหนดออกมานั้น ยอมรับว่าสามารถที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานรากได้อย่างมาก และทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเลือกเข้าร่วมโครงการใดก็ได้เพียงโครงการเดียวตามที่ตนเองสนใจและเข้าเงื่อนไข ดังนั้นเมื่อวันนี้ได้สมัครเข้าร่วมโครงการแล้วเสร็จและรอเปิดระบบใช้งานตามระยะเวลาที่กำหนดครอบครัวก็จะไปใช้จ่ายทันที”

น.ส.สุนิตรา กล่าวต่ออีกว่า วันนี้ ศบค.ได้มีการปรับลดพื้นที่กลุ่มจังหวัด จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มากขึ้น ขณะที่หลายจังหวัดก็มีมาตรการคลายล็อค โดยเฉพาะร้านอาหาร และกลุ่มผู้ประกอบการด้านการบริการต่าง ๆ จึงขอให้ร้านต่าง ๆ และทุกกลุ่มกิจการ ได้สมัครเข้าร่วมโครงการต่าง ๆที่รัฐบาลกำหนด และขอให้ติดป้ายให้เด่นชด หรือแนะนำลูกค้าเมื่อเข้าไปใช้บริการเพื่อให้ลูกค้าที่ได้รับสิทธิ์ทุกสิทธิ์ได้ใช้จ่ายได้อย่างคล่องตัว ซึ่งจะส่งผลต่อเม็ดเงินหมุนเวียนในระดับพื้นที่ได้อย่างมากขณะที่โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ที่เข้าร่วมโครงการนั้น แม้เงื่อนไขเวลาจะคืนเงินในทุกวันที่ 7 ของเดือน แต่ระยะเวลาใช้งานของโครงการที่สิ้นสุดในช่วงปลายปีและวงเงินคืนคนละไม่เกิน 7,000 บาทนั้นเพียงพอแล้ว

 

ศรีสะเกษ - ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 ประกาศเจตจำนงสุจริตในการบริหารงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.64 ที่ห้องประชุมเพชร สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ว่าที่ ร.ต.ดร.ทวีศักดิ์ นามศรี ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 พร้อมด้วย น.ส.รุ่งอรุณ เมธาภัทรกุล นายสุเทพ ศรบุญทอง นายคำโพธิ์ บุญสิงห์ รอง ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 และบุคลากรในสำนักงาน ได้ร่วมกันประกาศเจตจำนงในการบริหารงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และเพื่อเป็นแบบอย่างให้บุคลากรทุกคนปฏิบัติงานด้วยความมุ่งมั่น ปฏิบัติงานตามภารกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม และปราศจากการทุจริต ตามโครงการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาลในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถม ศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2564 โดยมี นางวิไรรัตน์ เครื่องทอง ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ

ว่าที่ ร.ต.ดร.ทวีศักดิ์ นามศรี ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 กล่าวว่า สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 มุ่งเน้นที่จะบริหารจัดการองค์กรอย่างมีธรรมาภิบาล โดยให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อสร้างความศรัทธาและเชื่อมั่นแก่สังคมว่า สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 เป็นองค์กรธรรมาภิบาล ในฐานะผู้บริหาร สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 จึงขอประกาศเจตจำนงในการบริหารงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ พร้อมรับผิดชอบและต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ

ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 กล่าวต่อไปว่า ตนขอให้บุคลากรทุกคนมุ่งมั่นปฏิบัติงานตามภารกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม และปราศจากการทุจริตภายใต้นโยบาย ดังต่อไปนี้ ด้านความโปร่งใส คือ เปิดเผยข้อมูลการดำเนินภารกิจของหน่วยงาน รวมถึงข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้าง เปิดโอกาสให้ประชาชนหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบ และมีระบบการบริหารจัดการเรื่องร้องเรียนที่ชัดเจน ด้านความพร้อมรับผิด คือ มุ่งมั่นตั้งใจปฏิบัติราชการอย่างเต็มประสิทธิภาพภายใต้กฎหมาย ระเบียบ วิธีการที่ถูกต้อง รับผิดชอบต่อการตัดสินและการบริหารงาน และความพร้อมที่จะถูกตรวจสอบ เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นต่อ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1

ด้านความปลอดจากการทุจริต คือ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือรับสินบน ด้านวัฒนธรรมคุณธรรมในองค์กร คือ ไม่ยอมรับการทุจริตทุกประเภทและไม่เพิกเฉยที่จะดำเนินการ เพื่อยับยั้งการทุจริตในหน่วยงาน และด้านคุณธรรมการทำงานในหน่วยงาน คือ กำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานที่ชัดเจน มีความเป็นธรรมในการปฏิบัติงาน อำนวยความยุติธรรมและมีความโปร่งใสในการบริหารงานบุคคล การบริหารจัดการงบประมาณและการมอบหมายงาน ทั้งนี้ ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมดังกล่าวภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) มีจุดตรวจวัดอุณหภูมิ เจลแอลกอฮอล์ มีการเว้นระยะห่าง และสวมหน้ากากอนามัยทุกคน


ภาพ/ข่าว  ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top