Wednesday, 3 July 2024
เพื่อไทย

'อิ๊งค์' ขนแกนนำพาผู้สมัคร ส.ส.กทม.เพื่อไทยลุ้นจับเบอร์ เชื่อ!! ผลลัพธ์ ส.ก.ที่ผ่านมา หนุนชาวกทม. เลือก ส.ส.

(3 เม.ย.66) ที่พรรคเพื่อไทย แกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย, นายภูมิธรรม เวชยชัย, นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำ, นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้ง 33 เขต เดินทางออกจากพรรคเพื่อไทย ด้วยรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า หรือรถเมล์ EV จำนวน 2 คัน เพื่อเดินทางมารับสมัครเลือกตั้งที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร ไทย-ญี่ปุ่นฯ โดยก่อนหน้านั้นได้ถ่ายรูปร่วมกัน จากนั้นเวลา 06.35 น. แกนนำพรรคเพื่อไทย มาถึงยังสถานที่รับสมัครเลือกตั้งศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร ไทย-ญี่ปุ่นฯ โดยกองเชียร์และกลุ่มสนับสนุนพรรคเพื่อไทย เดินทางมาให้กำลังใจจำนวนมาก ต่างตะโกน “เพื่อไทยสู้ๆ”

หลังจากนั้น น.ส.แพทองธาร เดินทางมาถึง สถานที่รับสมัครส.ส.กทม. พร้อมกับให้สัมภาษณ์ถึงความคาดหวังจำนวนส.ส.ในพื้นที่กทม. ว่าเรามากันอย่างฟูลทีม ตนมาเอาใจช่วยผู้สมัครส.ส. โดยคาดหวังมาก และพื้นที่ กทม.เราทำกันเต็มที่ นอกนั้นเป็นเรื่องของประชาชนให้ออกมาใช้สิทธิใช้เสียงกัน ส่วนจำนวนส.ส.แล้วแต่ประชาชน เพราะพรรคเพื่อไทยทำอย่างเต็มที่ เมื่อถามว่าการมาสัมผัสบรรยากาศการรับสมัครส.ส.จริงครั้งแรกรู้สึกอย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่มาแบบไม่ได้ดูผ่านทีวี ก็ตื่นเต้นว่าผู้สมัครแต่ละคนจะได้เบอร์อะไร

เมื่อถามว่าภาพรวมทั้งประเทศคาดหวังกี่เก้าอี้ เป้าหมายแลนด์สไลด์ยังเหมือนเดิมหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เป้าหมายเหมือนเดิม เราสู้เต็มที่เพื่อให้ถึงเป้าหมาย 

เมื่อถามถึงผลโพลที่ดีขึ้นทำให้รู้สึกดีขึ้นหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า ขอบคุณสำหรับผลโพล ถือเป็นกำลังใจให้พรรคเพื่อไทย ตัวผู้สมัครทุกคนและทีมบริหาร แต่พรรคเพื่อไทยไม่ประมาทเพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ ดังนั้นเราต้องเดินหน้าต่อไปทุกวันมีความหมายทุกวันมีค่า เราทำอะไรได้เราทำเต็มที่แน่นอน เพื่อให้ได้มายืนเคียงข้างและรับใช้ประชาชนอีกครั้ง 

เมื่อถามว่าการเลือกตั้งส.ก.ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยได้เก้าอี้สูงสุด จะส่งผลต่อการเลือกตั้งสนามใหญ่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า มีผลสะท้อน การที่ ส.ก.ได้เยอะ ฉะนั้นเรื่องของ ส.ส.เราก็มีความมั่นใจและกำลังใจที่ดี ทีมงานก็ลงพื้นที่ตลอด เวลาตนไปช่วยหาเสียงจะทราบเลยเพราะชาวบ้านตอบรับดี จึงคิดว่ามีลุ้นถือเป็นกำลังใจที่ดี ตนก็หวังจะได้มากที่สุดฝากประชาชนช่วยกันนะ 

บรรยากาศการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส. นครนายก เขต1 ซึ่งเป็นสนามที่ถูกจับตามองมากที่สุด

เป็นที่จับตามองสองตระกูลใหญ่ บุญมา จากฝากฝั่งพรรคเพื่อไทย และกิตติธเนศวร จากฝั่งภูมิใจไทย

โดยในวันนี้ พล.ต.ต. สุรพล บุญมา หรือที่รู้จักกันในนามผู้การแดง ได้เดินทางมาที่สนามรับสมัครโรงเรียนนครนายกวิทยาคม เป็นผู้สมัครคนแรก ตั้งแต่เวลา 7 โมงเช้า 

โดยในวันนี้ได้มีการรับสมัครแบบแบ่งเขตโดยมีผู้สมัครจำนวน 8 ท่าน ได้แก่ พรรคเพื่อไทย ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ ก้าวไกล รวมไทยสร้างชาติ เสรีรวมไทย พลังประชากรไทย ประชาธิปัตย์  

ส่วนการจับเบอร์ในวันนี้นั้นสองพรรคใหญ่ที่ถูกจับตามองในเขต1 ได้แก่พล.ต.ต.สุรพล บุญมา พรรคเพื่อไทย ได้เบอร์ 3 ส่วนด้าน นาย ปิยะวัฒน์ กิตติธเนศวร จากฟังภูมิใจไทยได้เบอร์ 1 

ส่วนในเขต 2 อ.บ้านนา-อ.องครักษ์ ถูกจับตามองเช่นกัน เป็นศึกระหว่างอากับหลานตระกูลกิตติธเนศวร

โดยทางด้านนายเกรียงไกร กิตติธเนศวร จากพรรคเพื่อไทย  ได้เบอร์ 5 

ส่วนทางด้าน(อา) นายวุฒิชัย กิตติธเนศวรได้เบอร์ 1 ซึ่งในสนามเลือกตั้งจังหวัดนครนายกนั้นถูกจับตามองเป็นพิเศษคือเขตหนึ่งซึ่งเป็นผู้สมัครหน้าใหม่กันทั้งคู่

โดยแต่ละผู้สมัครได้มีกองเชียร์กว่า 300 คนมาร่วมเชียร์หน้าหอประชุมเพื่อให้กำลังใจกับผู้สมัครในวันนี้

การวิเคราะห์ 

เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรคเพื่อไทย นครนายก

ในพื้นที่จ.นครนายก การเลือกตั้งครั้งนี้แบ่งเป็น 2 เขต จากเดิมมีเพียงเขตเดียว ซึ่ง ส.ส.เก่า นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร (เสี่ยอ๋า) เดิมสังกัดพรรคเพื่อไทย การเลือกตั้งครั้งนี้ย้ายพรรคเข้ามาสู่ภูมิใจไทย ลงเลือกตั้งเขต 2 อำเภอบ้านนาและองครักษ์ ซึ่งสู้กับหลานชายตัวเอง นายเกรียงไกร กิตติธเนศวร สังกัดพรรคเพื่อไทย 

แต่สนามที่ดุเดือดคือเขต 1 อำเภอเมืองนครนายกและปากพลี ซึ่งมีผู้สมัครอย่าง พล.ต.ต.สุรพล บุญมา ผู้การแดง อดีตรองผู้บังคับการตำรวจภูธรนครนายก ซึ่งประกาศเปิดตัวเข้าสู่บ้านใหญ่ พรรคเพื่อไทย สู้ศึกกับลูกชายอดีตส.ส.อย่างเสี่ยอ๋า คือ นายปิยวัฒน์ กิตติธเนศวร สังกัดพรรคภูมิใจไทย 

‘สมศักดิ์’ เตรียมหารือ ผู้สมัคร ส.ส. แดนใต้ ‘ปลดล็อกกระท่อม-กีฬาชนวัว’ กระตุ้น ศก. ภาคใต้

(5 เม.ย.66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน กล่าวว่า ตนพร้อมด้วยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน ส.ส.พรรค และรองผอ.ศูนย์ปฎิบัติการเลือกตั้ง ได้เชิญผู้สมัคร ส.ส.พรรคในจังหวัดภาคใต้ อาทิ น.ส.บุญฑริกา ยอดสุรางค์ ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 1 เบอร์ 2, นายถาวรรัตน์ คงแก้ว ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 6 เบอร์ 1, พล.ต.ต.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 8 เบอร์ 8, น.ส.ปรมาภรณ์ บริบูรณ์ ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 10 เบอร์ 10, นายฮานาฟี หมีนเส็น ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 8 เบอร์ 8, น.ส.ชานิสรา ภูวิจิตร ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 9 เบอร์ 10 และ นายกฤษ ศรีฟ้า ผู้สมัคร ส.ส.พังงา เขต 2 เบอร์ 4 เพื่อมาหารือถึงแนวทางการนำเสนอนโยบายของพรรค ที่จะใช้สื่อสารกับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะแนวนโยบายของตนที่ได้พัฒนาส่งเสริมพื้นที่ภาคใต้มาโดยตลอด ทั้งการปลดล็อกพืชกระท่อมและกีฬาชนวัว 

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า พื้นที่ภาคใต้เป็นพื้นที่ใหม่ที่พรรคเพื่อไทยยังไม่สามารถปักธงได้ ตนจึงเข้ามาช่วยผู้สมัคร ส.ส. เพราะตลอดการเป็น รมว.ยุติธรรม ตนได้ลงพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่องจนรับทราบปัญหาและแนวทางการพัฒนา รวมถึงมีหลายนโยบายที่ได้ขับเคลื่อนจนสำเร็จไปแล้ว เช่น การปลดล็อกพืชกระท่อม ที่ทำให้ใบไม้กลายเป็นเงินสด เกิดการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนจำนวนมาก รวมถึงการผลักดันส่งเสริมกีฬาชนวัว ด้วยการร่างกฎหมายส่งเสริมปศุสัตว์ เพื่อยกระดับให้มีมาตรฐาน เพิ่มมูลค่าให้กับสัตว์ ช่วยเปิดประตูให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาชมกีฬาชนวัวได้ง่ายขึ้น เป็นอีกซอฟท์พาวเวอร์ช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวให้กับประเทศ 

ทั้งนี้ จากการหารือกับผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้นับว่าเป็นสัญญาณที่ดี หลายคนทราบถึงปัญหาและแนวทางถึงแก่น รวมถึงเข้าใจแนวทางการพูดคุยกับพี่น้องประชาชน ถ้าเราสามารถนำเสนอนโยบายให้ประชาชนเข้าใจได้ ก็จะมีโอกาสที่จะได้รับความไว้วางใจ ซึ่งในพื้นที่ภาคใต้มั่นใจว่าครั้งนี้จะสามารถปักธงได้อย่างแน่นอน เพราะโพลต่างๆ พรรคเพื่อไทยมาแรงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนว่าพี่น้องชาวภาคใต้ยอมรับนโยบาย และแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย

‘สุทิน’ กางแผนแก้ปัญหาภาคอีสานทุกมิติ พร้อมยก ‘ปัญหาน้ำ-ที่ดิน’ เป็นวาระแห่งชาติ

(5 เม.ย.66) สุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค และผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวในรายการพิเศษ เลือกตั้ง 66 เปลี่ยนใหม่หรือไปต่อ ตอนแม่ทัพอีสาน ร่วมดีเบตกับพรรคการเมืองอื่นอีกรวม 6 พรรค ดำเนินรายการโดย กิตติ สิงหาปัต เผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 วันที่ 4 เมษายน 2566 ถึงปัญหาของชาวอีสานว่าวันนี้ปัญหาของชาวอีสานสลับซับซ้อนมากขึ้น มีทั้งปัญหาเฉพาะหน้าต้องแก้ไข ปัญหาเก่าที่ค้างคาไม่เสร็จและปัญหาใหม่จากปัจจัยนอกประเทศที่มากระทบ ดังนั้น การแก้ปัญหาอีสานจะมาคิดแยกส่วนไม่ได้แต่ต้องมองทั้งระบบ คิดและขับเคลื่อนไปอย่างมียุทธศาสตร์พร้อมกัน

สุทิน คลังแสง กล่าวว่าจากคำถามของพี่น้องประชาชนที่สะท้อนมา อยู่ในนโยบายของพรรคเพื่อไทย  โดยปัญหาของภาคอีสานต้องตั้งหลักคิดดีๆ ไม่ใช่จะแก้เรื่องใดเรื่องหนึ่งยกกันขึ้นมาแล้วก็จบ อีสานมีทั้งปัญหาเฉพาะหน้า ปัญหาเก่าดั้งเดิมที่แก้ไม่เสร็จ และปัญหาใหม่ที่เราเผชิญกับโลกที่ต้องสู้ให้ได้ 

ปัญหาเฉพาะหน้าคือ วันนี้คนอีสานมีอาชีพ 2 อาชีพมากสุดคือเกษตรกรและขายแรงงาน ต้องยอมรับกัน เพราะฉะนั้น ปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องแก้คือดันราคาสินค้าเกษตรขึ้นให้มีราคาสูงทุกตัว และค่าแรงขั้นต่ำต้อง 600 บาทเป็นพื้นฐานไล่เรียงกันไป บางจังหวัดอาจสูงมากไปถึง 1 พันบาทขึ้นอยู่กับว่าเป็นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสูง ดังนั้นนี่คือปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องเอาให้คนอีสานรอดตายก่อน คือดันสินค้าราคาเกษตรขึ้น ลดราคาปัจจัยการผลิต ลดราคาปุ๋ยให้ลง และผู้ใช้แรงงานได้ค่าแรง 600 บาท

ปัญหาดั้งเดิม คือ น้ำและดิน อีสานมีทั้งปัญหาแล้งจัดและท่วมจัด รวมถึงที่ดิน เพราะคนอีสานยากจน ไม่มีที่ดินทำกิน ไม่มีเอกสารสิทธิ์ หรือบางครั้งมีเอกสารสิทธิแต่ก็เป็นดินไม่มีคุณภาพ ฉะนั้นเราต้องแก้ปัญหาน้ำและดินเชิงรุก เพื่อนำไปสู่ขั้นถัดไปคือ การสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษใหม่ เพื่อให้พี่น้องอีสาน ได้ทำงานอยู่ในบ้านเกิด ทำงานอยู่ในอีสาน ไม่ต้องอพยพไปทำงานกรุงเทพฯ หรือจังหวัดใกล้เคียง ถ้าที่กรุงเทพมีนวนคร อีสานทำไมจะมีไม่ได้ และจังหวัดที่มีสาธารณูปโภคพื้นฐานพร้อมคือขอนแก่น เป็นจังหวัดแรก จากนั้นก็มีที่อุบลราชธานี อุดรธานีในกลุ่มอีสานเหนือกลางและใต้ ทำเขตเศรษฐกิจใหม่ ดังนั้นต่อไปก็ไม่ต้องไปขายแรงงานลงไปถึงกรุงเทพ แต่สามารถทำงานในอีสานได้

เมื่อเราสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้เขาได้แล้ว สิ่งเหล่านี้จะอยู่โดดเดี่ยวลำพังไม่ได้ เพราะต้องมีการขนส่งคมนาคม ทั้งผู้โดยสารและขนส่งสินค้า เราจะทำรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยได้ทำไว้แต่ตอนนี้คาอยู่ที่ 3 กิโลเมตรยังสร้างไม่เสร็จ ทำต่อเชื่อมรถไฟฟ้าเชื่อมกับลาว จีน เวียดนาม อีกสายจะลงใต้เชื่อมไปสิงคโปร์ อีกทั้งยังจะมีรถไฟอีกเส้นที่เคยศึกษาไว้ที่โคราช นครพนม ที่เคยศึกษาไว้ ก็จะนำมาทำทั้งหมด จากนี้ก็จะเชื่อมทุกเส้นทางเข้าด้วยกัน 

กลับมาที่เรื่อง ดินและน้ำ ในภาคอีสาน ซึ่งจะคิดแยกส่วนไม่ได้ ต้องทำเป็นยุทธศาสตร์ ใช่ เราเคยมีการศึกษาโครงการโขงชีมูล เพราะตอนนั้นน้ำเต็มแม่น้ำโขง เรานำมาใช้ประโยชน์ได้เต็มที่เพราะจีนยังไม่ได้สร้างเขื่อนตอนบนแม่น้ำโขงกักน้ำ แต่ตอนนี้ จีนสร้างเขื่อนกักไว้ถ้าไปสร้างก็กลายเป็นสูบได้แต่ลม ดังนั้น เราเคยคุยตั้งแต่สมัยนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรแล้วว่า รอน้ำจากโขงไม่ได้ ดังนั้นเราจะเอาโครงการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบกลับมา เพื่อจัดการน้ำได้ทั้งหน้าฝนหน้าแล้ง

เปิดตัวขุนพล ‘พรรคใหญ่’ ชิงชัยเก้าอี้ ส.ส. กรุงเทพฯ ใครอยู่เขตไหน? ใครได้หมายเลขอะไร? อย่าจำผิด!! มา ‘ซูม’ ดูกันได้เลยจ้า

เปิดตัวขุนพล ‘พรรคใหญ่’ ชิงชัยเก้าอี้ ส.ส. กรุงเทพฯ ใครอยู่เขตไหน? ใครได้หมายเลขอะไร? อย่าจำผิด!! มา ‘ซูม’ ดูกันได้เลยจ้า

‘พท.’ เปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ตามคาด ‘อิ๊งค์-เศรษฐา-ชัยเกษม’ ชี้!! ทั้ง 3 คนแตกต่างกัน แต่ก็สามารถทำงานเพื่อประชาชนได้

(5 เม.ย.66) ที่ธันเดอร์โดม สเตเดียม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย จัดงานปราศรัยใหญ่ ภายใต้แนวคิด “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ตอน One Team for all Thais : หนึ่งทีมเพื่อไทยทุกคน” เพื่อเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 3 คนของพรรคเพื่อไทย ตามที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ได้นำชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ได้ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ โดยแคนดิเดตทั้ง 3 คน ได้เดินผ่านพรมแดงเพื่อเข้าสู่ ธันเดอร์โดม ที่มีแฟนคลับพรรคเพื่อไทยรอให้กำลังใจอยู่บริเวณอัฒจันทร์และบริเวณกลางสนามรอบเวที พร้อมกันนี้ยังมีแกนนำพรรค และว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นายสุชาติ ตันเจริญ อดีตรองประธานสภาฯ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรค 

น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ว่า “วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะประกาศให้ประชาชนทราบว่าเราพร้อม พรรคเพื่อไทยพร้อมฟูลทีม สำหรับจุดเด่นของทั้ง 3 คนนั้นไม่เหมือนกันเลย บอกแล้วว่าหากเลือกพรรคเพื่อไทยจะได้ทั้ง 3 คนไปทำงาน เมื่อถามว่าการเลือกแคนดิเดตเบอร์ 1 มาจากอะไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าใครคือเบอร์ 1 2 3 ทุกบัญชีเราเสนอชื่อเต็มหมด ไม่ว่าจะเป็นส.ส.เขต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกฯ เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด เมื่อถามถึงความชัดเจนของรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ คนที่ 1 ของพรรคเพื่อไทย เพราะอาจจะเป็นแรงดึงดูดให้ประชาชนเลือกพรรค น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า สำหรับแคนดิเดตนายกฯ 3 คนของพรรคเพื่อไทย ไม่มีใครเหมือนกันเลย แต่ไม่ว่าจะเป็นเบอร์ไหนก็ทำงานร่วมกันอยู่ดี นี่คือสิ่งสำคัญ วันนี้จะอาศัยแค่พรรคเพื่อไทย เราต้องชนะไปด้วยกัน ประชาชนต้องออกมาเลือกอนาคตของตัวเองไปพร้อมกับพรรคเพื่อไทย เมื่อถามว่ามั่นใจกว่าพรรคอื่นหรือไม่ที่มีแคนดิเดตนายกฯ 3 คน ในขณะที่พรรคอื่นมีคนเดียว น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อย่างที่บอกว่าเราเจออะไรกันมาเยอะ และเราตั้งใจกันจริง ๆ ในเรื่องนโยบาย พวกเราทั้ง 3 คนพร้อมเป็นตัวเลือกให้ประชาชน เพราะเราอยากได้นายกฯ ที่มาจากพรรคเพื่อไทย เพื่อพลักดันนโยบายของพรรคเพื่อไทยให้เป็นจริงได้”

ผู้สื่อข่าวต่างประเทศถามว่า หลังการเลือกตั้งจะไปร่วมมือกับพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เร็วเกินไปที่จะพูด ขอโฟกัสที่การเลือกตั้ง สนใจผลการเลือกตั้งของพรรคเราเป็นอันดับแรกก่อน 

เมื่อถามถึงกรณีที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ยกบทเพลงพระราชนิพนธ์มาพูด ระหว่างพิธีครบรอบวันสถาปนากระทรวงกลาโหม ว่าหากประเทศชาติขาดความรักความสามัคคี ก็ไม่อาจเกิดความสงบ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ถูกต้องประเทศชาติต้องมีความสามัคคีกัน เพราะฉะนั้นหากประชาชนเลือกมาแล้ว ก็ไม่ควรทำรัฐประหาร 

‘เพื่อไทย’ ลั่น!! ‘สร้างโอกาสใหม่ เพื่อฟุตบอลไทย’ ขอยกระดับมาตรฐานวงการทัดเทียมนานาชาติ

‘เพื่อไทย’ ประกาศแผน 100 วันแรก ดันกีฬาฟุตบอล ชูนโยบาย ‘สร้างโอกาสใหม่ เพื่อฟุตบอลไทย’ ยกระดับมาตรฐานวงการฟุตบอลไทย ส่งนักกีฬาไทยไประดับโลก

(7 เม.ย.66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายพิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะที่ปรึกษานโยบายกีฬา พรรคเพื่อไทย แถลงนโยบาย ‘สร้างโอกาสใหม่ เพื่อฟุตบอลไทย’ โดย นายพิมล กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยตั้งเป้าหมายใหญ่โดยจะยกระดับมาตรฐานกีฬาฟุตบอลไทยให้ทัดเทียมนานาชาติ สร้างนักกีฬาสมัครเล่นไปสู่นักกีฬาฟุตบอลอาชีพระดับโลกด้วยการพัฒนาสภาพแวดล้อมของวงการฟุตบอลอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างรายได้ สร้างงานอย่างมั่นคง นอกจากนักกีฬามืออาชีพ ยังมีทั้งผู้ตัดสิน ผู้ฝึกสอน นักวิทยาศาสตร์การกีฬา

ทั้งนี้ ในอดีตพรรคไทยรักไทยได้ริเริ่มโครงการ ‘สตรีท ซอคเกอร์’ (Street soccer) ทั่วประเทศ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง ได้จุดประกายให้เยาวชนที่มีใจรักในกีฬาฟุตบอลให้หันมาเล่นกีฬานี้อย่างจริงจัง นักกีฬาที่จัดอยู่แถวหน้าของการแข่งขัน ได้รับโอกาสไปฝึกซ้อมในต่างประเทศกับทีมชั้นนำ เช่น ทีมฟูแลม (Fulham F.C.) ซึ่งนโยบาย ‘สร้างโอกาสใหม่ เพื่อฟุตบอลไทย’ จะมาต่อยอดจากนโยบายนี้

‘เศรษฐา’ แจงปม ‘เป๋าตังดิจิทัล 1 หมื่นบาท’ มั่นใจ!! เศรษฐกิจโต ปีละไม่ต่ำกว่า 5%

(7 เม.ย.66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรค พท. นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานนโยบายพรรค พท. และประธานกรรมการด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรค พท. นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรค แถลงกรณีมีการตั้งข้อสงสัยกระเป๋าตังค์ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท 

นายเศรษฐา กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากที่พรรค พท. แถลงนโยบายกระเป๋าตังค์ดิจิทัลวอลเลตเป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าจะเอาเงินมาจากไหน ช่วงเวลา 8 ปีที่ผ่านมาประเทศเราบอบซ้ำมาเยอะโดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ พี่น้องประชาชนมีรายได้ลด รายจ่ายเพิ่ม จนกระทั่งอยู่ในภาวะที่เรียกว่าซึมลึก ซึมนาน ซึมยาว รัฐบาลปัจจุบันก็ค่อยๆ หยอดน้ำข้าวต้มมาเรื่อยๆ เป็นจำนวนเงินเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง ไม่ก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจที่เหมาะสม พรรค พท.เราคิดใหญ่ทำเป็น โดยจำนวนเงิน 10,000 บาทนั้น เราจะให้เป็นเงินดิจิทัล 10,000 บาทเลย ที่ต้องให้เป็นกระเป๋าตังค์ดิจิทัลไม่ให้เป็นเงินสด เพราะเทคโนโลยีสมัยใหม่เราสามารถจำกัดวิธีการใช้ได้ หากให้เป็นเงินสดก็อาจจะใช้ไปในทางอื่นที่ไม่เหมาะสม เช่น เรื่องของการพนัน ยาเสพติด การใช้หนี้นอกระบบ เทคโนโลยีจะสามารถบอกได้ว่าไปใช้อะไรบ้าง ส่วนที่มีการตั้งคำถามว่าหากเป็นหนี้สถาบันการเงิน จะสามารถนำไปใช้ได้หรือไม่ ซึ่งเป็นประเด็นที่เราต้องลงพื้นที่เพื่อสอบถามความต้องการ หากเป็นความต้องการเราก็จะนำมาพิจารณาอีกครั้ง 

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ส่วนระยะเวลาที่เราให้ใช้ภายใน 6 เดือนนั้น เพราะเราต้องการกระตุ้นให้มีการใช้จ่ายอย่างรวดเร็ว เป็นเรื่องใหญ่ที่เราต้องให้ความสำคัญ อีกเรื่องคือระยะรัศมีในการใช้ตามบัตรประชาชน 4 กิโลเมตรนั้น หากพื้นที่ไหนที่ไม่มีร้านค้า ก็สามารถขยายระยะทางออกไปได้ ส่วนคนที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ แต่บัตรประชาชนอยู่ต่างจังหวัดจะสามารถใช้ได้หรือไม่นั้น เราตอบชัดเจนว่าไม่ได้ เพราะเราอยากให้กลับไปใช้เงินที่บ้าน เพื่อที่จะไปกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ไม่ใช่มากระจุกตัวที่หัวเมืองอย่างเดียว หากภายใน 6 เดือนนั้นไม่ได้กลับไปเยี่ยมบ้านเลย เงินก็จะหายไป ฉะนั้นคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่ให้พี่น้องได้กลับไปเยี่ยมพ่อแม่ที่ภูมิลำเนาและไปกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนด้วย 

เมื่อถามว่ามีนักวิชาการมองว่าเป็นนโยบายประชานิยมสุดขั้ว พร้อมตั้งคำถามว่าเงินมาจากไหน และจะกระทบหนี้สาธารณะของประเทศ นายเศรษฐา กล่าวว่า นโยบายนี้จะทำให้ภาครัฐเก็บภาษีได้เพิ่มมากขึ้น นี่จะตอบคำถามได้ว่าเงินมาจากไหน ยืนยันว่าเม็ดเงินมาจากการจัดสรรงบประมาณ การจัดเก็บภาษี VAT ที่ได้เพิ่มมากขึ้น และการจัดเก็บภาษีนิติบุคคล รวมทั้งสวัสดิการรัฐที่ลดน้อยลง ตนไม่อยากให้ใช้คำว่าประชานิยมสุดโต่ง แต่เป็นความจำเป็นและความต้องการของพี่น้องประชาชนที่ต้องการการช่วยเหลือเวลานี้

เมื่อถามว่างบประมาณปี 67 ที่ตั้งไว้ 3.35 ล้านล้านบาท ถ้าเป็นรัฐบาลและนำเสนอนโยบายนี้ จำเป็นต้องปรับลดงบประมาณกระทรวงอื่นๆ อย่างเช่นกระทรวงกลาโหม หรืองบประมาณลงทุนหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า การจัดเก็บภาษีจะได้เพิ่มมากขึ้นกว่า 2 แสนล้าน ส่วนงบประมาณอื่นๆ นั้น จะต้องดูงบประมาณในส่วนอื่นๆ ไม่ใช่งบประมาณกระทรวงกลาโหมเท่านั้น ว่าอะไรเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน 

เมื่อถามว่าจำนวนเงินที่ได้สามารถนำไปใช้จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมันได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ได้ทั้งหมด ยกเว้นซื้อบุหรี่หรือใช้หนี้นอกระบบ 

เมื่อถามว่าร้านค้าสะดวกซื้อทั่วไปร่วมโครงการได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า สามารถเข้าร่วมโครงการได้ทั้งหมด ไม่กีดกั้นใครคนใดคนหนึ่ง เราเสมอภาคเท่าเทียม 

เมื่อถามว่าคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปสามารถใช้ได้ แล้วจะใช้งบประมารณเท่าไร นายเศรษฐา กล่าวว่า จะมีประชาชนกว่า 50 ล้านคนที่ได้รับสิทธิ์ ซึ่งจะใช้งบประมาณกว่า 5 แสนล้านบาท คาดว่าจะเริ่มโครงการได้ช่วงไตรมาส 3 หากเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งจะเริ่มได้ประมาณวันที่ 1 ม.ค.67 

เมื่อถามว่าคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ภายใน 4 ปี การเติบโตของจีดีพีเฉลี่ยร้อยละ 5 ต่อปี 

เมื่อถามว่ากรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่านโยบายนี้มองประชาชนเป็นยาจก นายเศรษฐา กล่าวว่า “ผมไม่เคยมองประชาชนเป็นยกจก เป้าหมายของของพรรค พท. คือช่วยประชาชนพ้นหลุมดำของความยากจน ถ้าเกิดว่าดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท เป็นจุดสตาร์ทให้ประชาชนลุกขึ้นเดิน ลุกขึ้นทำมาหากินได้อีกครั้งหนึ่ง ผมถือว่าเป็นการช่วยเหลือประชาชน”

‘วัน อยู่บำรุง’ โต้ ‘ปิยบุตร’ ปมจัดการรัฐประหาร ลั่น!! ไม่เชื่อก็เรื่องของคุณ ปชช.ตัดสินใจเองได้

(7 เม.ย.66) จากกรณี นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า วิพากษ์วิจารณ์พรรคเพื่อไทย  ในประเด็น ‘ผมไม่เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยกล้าจัดการรัฐประหาร’
.
ล่าสุด นายวัน อยู่บำรุง ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า "คุณไม่เชื่อ ‘เรื่องของคุณ’ ครับ นี่เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยและผู้สนับสนุน พี่น้องประชาชนตัดสินใจเองได้"


ที่มา: https://www.naewna.com/politic/722839

‘ธนาธร’ บุกกรุงเทพฯ อวดโฉมผู้สมัคร ส.ส ก้าวไกล 7 เขตรวด เชื่อ ‘ก้าวไกล-พท.’ สามารถนำพาประเทศสู่ความเป็นประชาธิปไตย

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ร่วมกิจกรรมหาเสียงกับพรรคก้าวไกลในเขตกรุงเทพมหานคร โดยเริ่มต้นแต่เช้าตรู่ที่ย่านฝั่งธนบุรี แนะนำผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งประกอบด้วย น.ส.แอนศิริ วลัยกนก เขต 25 ทุ่งครุ-ราษฎร์บูรณะ (เบอร์ 9), นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ เขต 26 บางขุนเทียน-จอมทอง (เบอร์ 11), นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ เขต 27 บางบอน-บางขุนเทียน (เบอร์ 1) และ น.ส.รัชนก ศรีนอก เขต 28 จอมทอง-บางบอน-หนองแขม (เบอร์ 4) เดินพบปะประชาชนที่ตลาดและชุมชนซอยโรงเรียนบางขุนเทียนศึกษา และขึ้นรถแห่ร่วมหาเสียงจนถึงจากบางขุนเทียนไปจนถึงสุขสวัสดิ์

ก่อนข้ามฟากจากฝั่งธนบุรี มายังเขตห้วยขวางที่ตลาดเมืองไทยภัทร และตลาดห้วยขวาง หาเสียงช่วย แรมโบ้ นายกันตพณ ดวงอำพร เขต 6 พญาไท-ดินแดง (เบอร์ 3) และ นายเฉลิมชัย กุลาเลิศ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 5 ห้วยขวาง-วังทองหลาง (เบอร์ 12) ก่อนปิดท้ายการหาเสียงของวันนี้ ที่เขตลาดกระบัง ร่วมกับ นายธีรัจชัย พันธุมาศ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 18 หนองจอก-ลาดกระบัง-มีนบุรี (เบอร์ 8) ที่ตลาด V-Market โดยการหาเสียงของพรรคก้าวไกลในพื้นที่กรุงเทพมหานครวันนี้ ได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างอบอุ่น มีประชาชนเข้ามาพูดคุย ให้กำลังใจ และขอถ่ายรูปด้วยเป็นจำนวนมาก

ระหว่างการร่วมหาเสียง สื่อมวลชนที่มาติดตามได้ถามคำถามต่อนายธนาธร ถึงสถานการณ์ทั่วไปในทางการเมืองและการเลือกตั้ง โดยเบื้องต้นได้สอบถามถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ ว่าไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งนายธนาธรระบุว่า การแบ่งเขตเช่นนี้ กำลังนำมาซึ่งความสับสนต่อทั้งประชาชนและพรรคการเมือง แต่ไม่ว่ากติกาจะเป็นแบบไหน ตนเชื่อว่าพรรคก้าวไกลก็พร้อมสู้ และเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากชาวกรุงเทพมหานคร เพราะผลงาน 4 ปีในสภาฯ เป็นที่พิสูจน์แล้วว่าพรรคก้าวไกลทำงานอย่างมุ่งมั่นคุ้มค่าภาษีประชาชน โดยต่อจากนี้ ทั้งพรรคก้าวไกลและตนจะใช้อีก 40 วันที่เหลือในการทำงานให้หนัก ให้พี่น้องประชาชนเห็นถึงความตั้งใจที่เรามีร่วมกัน

นายธนาธรยังได้ตอบคำถามสื่อมวลชน ถึงกรณีการออกแบบนโยบายด้านปากท้องทึ่แตกต่างกันไปของแต่ละพรรคการเมือง โดยระบุว่า จากวิกฤตที่ผ่านมาทั้งในทางเศรษฐกิจและการเมือง ทำให้วันนี้คนไทยอ่อนแอลงมาก ประเทศไทยจะเข้มแข็งไม่ได้เลยถ้าประเทศไทยและคนไทยยังมีหนี้ครัวเรือนที่สูงขนาดนี้ ถ้าคนไทยยังต้องทนปากกัดตีนถีบใช้ชีวิตไปวันต่อวัน วางแผนชีวิตไม่ได้ ไม่มีความมั่นคงในชีวิตต่อยอดไม่ได้ เพื่อออกจากสภาวะแบบนี้ ประเทศไทยต้องมีรัฐสวัสดิการที่ยั่งยืนเพื่อให้ประชาชนมั่นคง มีความต่อเนื่องของนโยบาย เพื่อที่จะทำให้ประชาชนสามารถ วางแผนชีวิตตัวเองและต่อยอดการทำมาหากินได้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top