‘สุทิน’ กางแผนแก้ปัญหาภาคอีสานทุกมิติ พร้อมยก ‘ปัญหาน้ำ-ที่ดิน’ เป็นวาระแห่งชาติ

(5 เม.ย.66) สุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค และผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวในรายการพิเศษ เลือกตั้ง 66 เปลี่ยนใหม่หรือไปต่อ ตอนแม่ทัพอีสาน ร่วมดีเบตกับพรรคการเมืองอื่นอีกรวม 6 พรรค ดำเนินรายการโดย กิตติ สิงหาปัต เผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 วันที่ 4 เมษายน 2566 ถึงปัญหาของชาวอีสานว่าวันนี้ปัญหาของชาวอีสานสลับซับซ้อนมากขึ้น มีทั้งปัญหาเฉพาะหน้าต้องแก้ไข ปัญหาเก่าที่ค้างคาไม่เสร็จและปัญหาใหม่จากปัจจัยนอกประเทศที่มากระทบ ดังนั้น การแก้ปัญหาอีสานจะมาคิดแยกส่วนไม่ได้แต่ต้องมองทั้งระบบ คิดและขับเคลื่อนไปอย่างมียุทธศาสตร์พร้อมกัน

สุทิน คลังแสง กล่าวว่าจากคำถามของพี่น้องประชาชนที่สะท้อนมา อยู่ในนโยบายของพรรคเพื่อไทย  โดยปัญหาของภาคอีสานต้องตั้งหลักคิดดีๆ ไม่ใช่จะแก้เรื่องใดเรื่องหนึ่งยกกันขึ้นมาแล้วก็จบ อีสานมีทั้งปัญหาเฉพาะหน้า ปัญหาเก่าดั้งเดิมที่แก้ไม่เสร็จ และปัญหาใหม่ที่เราเผชิญกับโลกที่ต้องสู้ให้ได้ 

ปัญหาเฉพาะหน้าคือ วันนี้คนอีสานมีอาชีพ 2 อาชีพมากสุดคือเกษตรกรและขายแรงงาน ต้องยอมรับกัน เพราะฉะนั้น ปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องแก้คือดันราคาสินค้าเกษตรขึ้นให้มีราคาสูงทุกตัว และค่าแรงขั้นต่ำต้อง 600 บาทเป็นพื้นฐานไล่เรียงกันไป บางจังหวัดอาจสูงมากไปถึง 1 พันบาทขึ้นอยู่กับว่าเป็นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสูง ดังนั้นนี่คือปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องเอาให้คนอีสานรอดตายก่อน คือดันสินค้าราคาเกษตรขึ้น ลดราคาปัจจัยการผลิต ลดราคาปุ๋ยให้ลง และผู้ใช้แรงงานได้ค่าแรง 600 บาท

ปัญหาดั้งเดิม คือ น้ำและดิน อีสานมีทั้งปัญหาแล้งจัดและท่วมจัด รวมถึงที่ดิน เพราะคนอีสานยากจน ไม่มีที่ดินทำกิน ไม่มีเอกสารสิทธิ์ หรือบางครั้งมีเอกสารสิทธิแต่ก็เป็นดินไม่มีคุณภาพ ฉะนั้นเราต้องแก้ปัญหาน้ำและดินเชิงรุก เพื่อนำไปสู่ขั้นถัดไปคือ การสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษใหม่ เพื่อให้พี่น้องอีสาน ได้ทำงานอยู่ในบ้านเกิด ทำงานอยู่ในอีสาน ไม่ต้องอพยพไปทำงานกรุงเทพฯ หรือจังหวัดใกล้เคียง ถ้าที่กรุงเทพมีนวนคร อีสานทำไมจะมีไม่ได้ และจังหวัดที่มีสาธารณูปโภคพื้นฐานพร้อมคือขอนแก่น เป็นจังหวัดแรก จากนั้นก็มีที่อุบลราชธานี อุดรธานีในกลุ่มอีสานเหนือกลางและใต้ ทำเขตเศรษฐกิจใหม่ ดังนั้นต่อไปก็ไม่ต้องไปขายแรงงานลงไปถึงกรุงเทพ แต่สามารถทำงานในอีสานได้

เมื่อเราสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้เขาได้แล้ว สิ่งเหล่านี้จะอยู่โดดเดี่ยวลำพังไม่ได้ เพราะต้องมีการขนส่งคมนาคม ทั้งผู้โดยสารและขนส่งสินค้า เราจะทำรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยได้ทำไว้แต่ตอนนี้คาอยู่ที่ 3 กิโลเมตรยังสร้างไม่เสร็จ ทำต่อเชื่อมรถไฟฟ้าเชื่อมกับลาว จีน เวียดนาม อีกสายจะลงใต้เชื่อมไปสิงคโปร์ อีกทั้งยังจะมีรถไฟอีกเส้นที่เคยศึกษาไว้ที่โคราช นครพนม ที่เคยศึกษาไว้ ก็จะนำมาทำทั้งหมด จากนี้ก็จะเชื่อมทุกเส้นทางเข้าด้วยกัน 

กลับมาที่เรื่อง ดินและน้ำ ในภาคอีสาน ซึ่งจะคิดแยกส่วนไม่ได้ ต้องทำเป็นยุทธศาสตร์ ใช่ เราเคยมีการศึกษาโครงการโขงชีมูล เพราะตอนนั้นน้ำเต็มแม่น้ำโขง เรานำมาใช้ประโยชน์ได้เต็มที่เพราะจีนยังไม่ได้สร้างเขื่อนตอนบนแม่น้ำโขงกักน้ำ แต่ตอนนี้ จีนสร้างเขื่อนกักไว้ถ้าไปสร้างก็กลายเป็นสูบได้แต่ลม ดังนั้น เราเคยคุยตั้งแต่สมัยนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรแล้วว่า รอน้ำจากโขงไม่ได้ ดังนั้นเราจะเอาโครงการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบกลับมา เพื่อจัดการน้ำได้ทั้งหน้าฝนหน้าแล้ง

ถัดมาสุดท้าย เรื่องดิน แน่นอนว่าปัญหา ส.ป.ก. มีปัญหา ต้องเป็นโฉนด แต่ก็ไม่เท่านั้น เพราะมีเรื่องทำเลที่ดิน หลายหมู่บ้านในทั้งอำเภอ ไม่มีเอกสารสิทธิ์ทั้งที่อยู่มาตั้งแต่ปู่ย่าตาทวด บางคนมีเอกสารสิทธิ์แต่อยู่ในเขตป่าที่ทับซ้อนขึ้นมา ดังนั้น ระบบน้ำและดินต้องทำไปคู่กันและผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ

“วันนี้ พรรคเพื่อไทยขอคิดใหญ่ ทำเป็น กับพี่น้องชาวอีสาน ก็คือ เรื่องเฉพาะหน้า ราคาสินค้าเกษตรต้องขึ้น แรงงานต้องขึ้นเพื่อให้ชาวอีสานอยู่ได้ เรื่องดั้งเดิม ต้องดันเรื่องน้ำและดินเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อแก้ปัญหาให้จบ เรื่องระยะยาว สร้างเขตเศรษฐกิจใหม่ในอีสานสร้างงานสร้างรายได้ให้พี่น้องไม่ต้องเดินทางไปทำงานกรุงเทพ ดึงรถไฟฟ้าความเร็วสูงกลับมาเชื่อมขนส่งคมนาคมให้ทั้งภาคอีสานเดินทางขนส่งสินค้าบริการและท่องเที่ยวได้สะดวก เชื่อมลาว จีน เวียดนามเป็นกลางเศรษฐกิจภูมิภาค ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องรีบทำทันทีหลังเป็นรัฐบาล” สุทิน กล่าว


ที่มา: https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0SCMr1m8DfZ7THbDqJFo95gt2GgZHPD49oGdmTwABogUW5CGMB3uR19hZNdatn1T3l&id=100044569743646&mibextid=Nif5oz