Sunday, 2 April 2023
SPECIAL

ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองฉะเชิงเทรา แจกข้าวสาร 5,000 ถุง น้ำดื่ม 500 แพ็คให้ผู้ประสบความเดือดร้อนและกลุ่มเปาะบาง ในงานทิ้งกระจาด ประจำปี 2565

(21 ส.ค. 65) เวลา 16.00 น. ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองฉะเชิงเทรา อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา นายไมตรี ไตรติลานันท์  ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานในพิธีแจกข้าวสาร เนื่องในงานทิ้งกระจาด ประจำปี 2565 พร้อมด้วยนางจันทรรัตน์ ไตรติลานันท์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฉะเชิงเทรา ดร.รัฐสภา นพเกตุ รองนายกอบจ.ฉะเชิงเทรา โดยมี เดชาวุฐ ธีรภัทรไพศาล ประธานกรรมการศาลเจ้าพ่อหลักเมืองฉะเชิงเทรา หัวหน้าส่วนราชการ และคณะกรรมการศาลเจ้าพ่อหลักเมืองฉะเชิงเทรา ร่วมมอบข้าวสาร ถุงละ 5 กิโลกรัม จำนวน 5,000 ถุง น้ำดื่ม 500 แพ็ค พร้อมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมและให้แก่ ผู้แทนโรงเรียนและชุมชน จำนวน 13 แห่ง มารับข้าวสาร เพื่อเป็นตัวแทนของประชาชนผู้ประสบความเดือดร้อน และนำข้าวสารไปแจกจ่ายในโอกาสต่อไป ประกอบด้วย โรงเรียนเทศบาล2 พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) / ชุมชนในเขตเทศบาล  เหล่ากาชาดจังหวัดฉะเชิงเทรา / โรงเรียนก้อนแก้วราษฎร์บำรุง / โรงเรียนวัดประตูท่าไข่ / โรงเรียนบ้านวังตะเคียน / โรงเรียนนครเนื่องเขต / โรงเรียนฉะเชิงเทราปัญญานุกูล / ศูนย์ศึกษาพิเศษประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา / ผู้ใหญ่มานัส โท้เป๋า หมู่ 1 ต.บางแก้ว / ผู้ใหญ่ธนเนศ รักษานนท์ หมู่ 2ต.โสธร / คุณอัจฉรา แก้วดี ประธานชมรมบันเทิงคนแปดริ้ว  และวัดโพนงาม อ.สนามชัยเขต 

รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นประธานในพิธีแถลงผลการศึกษาหลักสูตร การบริหารความมั่นคงสำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 3

เมื่อ 19 ส.ค.65 พลเอก นเรนทร์ สิริภูบาล รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นประธานในการแถลงผลงานทางวิชาการของผู้เข้ารับการอบรมในหลักสูตร“การบริหารความมั่นคงสำหรับผู้บริหารระดับสูง” (Security Management and Leadership For Executives Program:
สวปอ.มส.SML) รุ่นที่ ๓ โดยมี พลเอก สิทธิพล นิ่มนวล ผู้อำนวยการหลักสูตรการบริหารความมั่นคงสำหรับผู้บริหารระดับสูง ให้การต้อนรับ ณ หอประชุมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ถนนวิภาวดีรังสิต

โดยมีผู้บังคับบัญชาเข้าร่วมในพิธีครั้งนี้ อาทิ พลเอก ศิราวุฒิ วงศ์ขันตี ผู้บัญชาการสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ, พลโท ไพศาล งามวงษ์วาน ผู้อำนวยการวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ เป็นต้น 

สำหรับการแถลงผลงานทางวิชาการที่จัดขึ้นนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไปให้กับผู้เข้ารับการอบรม (2) การสร้างนักบริหารรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความเข้าใจในวิธีคิดเชิงยุทธศาสตร์ความมั่นคงองค์รวม (Strategic & comprehensive security) ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ และ(3) การบริการความรู้สาธารณะด้านความมั่นคงองค์รวมและยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญมากในปัจจุบัน นับได้ว่าหลักสูตร สวปอ.มส.SML ทำหน้าที่เป็น Platform ในการสร้างและเผยแพร่อค์ความรู้ด้านความมั่นคงและยุทธศาสตร์เพื่อสังคมอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งการแถลงผลงานทางวิชาการในครั้งนี้ล้วนเป็นเรื่องที่สำคัญอยู่ในยุทธศาสตร์และนโยบายของประเทศ ผลการศึกษาได้สะท้อนผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในมิติความมั่นคงต่างๆ ของโลกและภูมิภาค โดยเฉพาะปัจจัย หรือตัวแปรที่เกิดขึ้นใหม่ๆ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาในระดับนโยบายและยุทธศาสตร์เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ของประเทศในศตวรรษนี้

“อลงกรณ์”ชงโครงการ ”เพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์”ภายใต้แผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจตะวันตกตุลาคมนี้

“อลงกรณ์”ชงโครงการ ”เพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์”ภายใต้แผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจตะวันตกตุลาคมนี้ เผย “กรกอ.” เดินหน้า10โครงการพร้อมเร่งจัดตั้งเขตส่งเสริมเกษตรอุตสาหกรรม18กลุ่มจังหวัดหวังกระจายการลงทุนกระจายโอกาสสร้างฐานเศรษฐกิจใหม่ชูระเบียงเศรษฐกิจ5ภาคทั่วประเทศ

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กรกอ.) เปิดเผยวันนี้ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กรกอ.) ครั้งที่ 3/2565 ผ่านระบบประชุมทางไกล Zoom Meeting โดยกล่าวว่า ที่ประชุมได้รับทราบ 2 ประเด็นสำคัญ คือ 

1) การขับเคลื่อนสาหร่ายพืชเศรษฐกิจใหม่ตามนโยบายอาหารแห่งอนาคต( Future Food Policy)โดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยส่งเสริมสาหร่ายทะเล(Seaweed)และสาหร่ายตั้งแต่การวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์การแปรรูปและการตลาดมีกรมประมงเป็นหน่วยงานหลักดำเนินการได้มีการจัดทำแผนพัฒนาและแผนกลยุทธ์เป็นการพัฒนาการผลิตในระดับท้องถิ่นให้เป็นผลผลิตและผลิตภัณฑ์ชุมชน( Community based product)มุ่งเน้นการผลิตสาหร่ายทะเลและสาหร่ายน้ำจืดเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ด้านเป็นอาหารคน อาหารสัตว์ อาหารเสริม เวชภัณฑ์ เครื่อง สำอางค์ และน้ำมันชีวภาพเป็นต้น ซึ่งในส่วนของกระทรวงเกษตรฯโดยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งและศูนย์เพาะเลี้ยงน้ำจืดเร่งเดินหน้าในการรวบรวมพันธุ์ การเพาะเลี้ยงและการเผยแพร่พันธ์ุ ซึ่งจะดำเนินการในพื้นที่ 50จังหวัด แบ่งเป็น 22จังหวัดชายฝั่งทะเล และ 28 จังหวัดบนบกมีองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นกว่า 2,600 แห่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายการขับเคลื่อนรวมทั้งการส่งเสริมในระดับอุตสาหกรรมภายใต้ความร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มูลนิธิเวิลด์วิว อินเตอร์เนชั่นแนล (Worldview International Foundation)มูลนิธิเวิลด์วิว ไครเมต(Worldview Climate Foundation)และศูนย์AICร่วมดำเนินการเช่นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยสงขลานัครินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีโครงการพัฒนาสาหร่ายของศูนย์ความเป็นเลิศALECของ”วว.”และบริษัทเอกชนเช่น ปตท.และบางจากกำลังวิจัยและพัฒนาต่อยอดสาหร่ายพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ซึ่งประธานและคณะได้เดินทางไปเยี่ยมชมเมื่อเร็วๆนี้โดยย้ำว่าประเทศไทยมีศักยภาพสูงมากในการผลิตสาหร่ายเพื่อใช้ในประเทศและทดแทนการนำเข้า ปัจจุบันมีการผลิตสาหร่ายทั่วโลกปีละกว่า35ล้านตันเป็นมูลค่ากว่า5แสนล้านจึงเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่และอาชีพใหม่ของไทยซึ่งคิดออฟโครงการสาหร่ายทะเลที่อำเภอบ้านแหลมจังหวัดเพชรบุรีเป็นจังหวัดแรกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

2) การรับทราบผลการประชุมหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในวาระที่ประธาน กรกอ.และคณะกระทรวงเกษตรฯ.ไปแสดงความยินดีกับนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการบริหารสอท.ชุดใหม่โดยมีมติเห็นพ้องต้องกันใน10 โครงการของ “กรกอ.”ได้แก่ 1.โครงการพัฒนาแบรนด์สินค้าเกษตร (The Brand Project) สู่เกษตรมูลค่าสูง 2.โครงการอาหารแห่งอนาคต (Future Food) 3.โครงการส่งเสริมการลงทุนเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม Made In Thailand 4.โครงการส่งเสริมสตาร์ทอัพเกษตร และ SME เกษตร 5.โครงการความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรระหว่าง สวก. AIC และสถาบันอุตสาหกรรมเพื่อการเกษตร ของ ส.อ.ท. 6.โครงการมหานครผลไม้และการพัฒนาอุตสาหกรรมผลไม้ และโครงการ Eastern Thailand Food Valley 7.โครงการส่งเสริมการลงทุนและพัฒนาสินค้าเกษตรและอาหารมาตรฐานฮาลาล 8.โครงการ Smart Agriculture Industry (SAI in the City) 9.โครงการสนับสนุนการจำหน่ายและบริโภคผลไม้ในฤดูกาลผลิตผลไม้ปี 2565 10.การฟื้นฟูและพัฒนาอุตสาหกรรมกุ้ง สินค้าประมงและปศุสัตว์ รวมทั้งระบบความเย็น (Cold Chain system) นอกจากนี้ที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารได้แก่ แนวทางและมาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารในกลุ่มจังหวัดนำร่อง โดยคณะอนุกรรมการฯ ได้แจ้งให้ทราบว่าบีโอไอ.(BOI)ได้อนุมัติเพิ่มมาตรการส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมเกษตรแล้ว ซึ่งการจัดตั้งเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารของ18 กลุ่มจังหวัดสามารถดำเนินได้ทันทีตามมาตรการใหม่ของบีโอไอ.ทั้งนี้ขอให้คำนึงถึงความพร้อมใน 3 ประเด็นหลัก คือ พื้นที่ ผู้ประกอบการ และสินค้าเกษตรที่เป็นวัตถุดิบเป้าหมาย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการจัดตั้งเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร 
 

พิธา ลงพื้นที่ ชูโมเดล “ภูเก็ต NEXT” กระจายอำนาจ สร้างการพัฒนาที่ตกถึงมือประชาชน เชื่อคนใต้พร้อมเปิดใจเลือกพรรคก้าวไกลไปสร้างประเทศไทยที่ก้าวหน้า

ทันทีที่สภาพักการประชุม ทีมพรรคก้าวไกล นำโดยพิธา ลิ้มเจริญรัตน์, รังสิมันต์ โรม, อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล พร้อมด้วยทีมงาน ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ต่อทันทีที่ จ.ภูเก็ต เพื่อเรียนรู้และค้นหาโมเดลที่จะเป็นศักยภาพการพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวหน้า กระจายความเจริญในทุกจังหวัดอย่างเต็มศักยภาพ

พิธา กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตที่ผมมาในวันนี้ สถานการณ์ต่างจากภูเก็ตที่ผมเคยมาก่อนหน้าจะเข้ามาทำงานการเมืองโดยสิ้นเชิง ภาคท่องเที่ยวที่เป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจภูเก็ตนักท่องเที่ยวหายไปกว่า 80% ในช่วงโควิดที่ผ่านมา พี่น้องเกษตรกรต้องเผชิญกับวิกฤตราคาปาล์ม-ยาง ที่แย่ตลอดยุค คสช. เมื่อราคาเริ่มขยับตัวดีขึ้นกลับถูกซ้ำเติมจากวิกฤตราคาปุ๋ยที่แพงขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่วนชาวประมงก็ยังได้รับผลกระทบเรื้อรังจากการจัดการด้วยกฎหมายที่ขาดการมีส่วนร่วมของ คสช. 

เราจำเป็นต้องกลับมาทบทวนว่าจากภูเก็ตที่เคยเติบโตมาจากดีบุก-ประมง ไปสู่ภูเก็ตที่เติบโตจากการท่องเที่ยว ในอนาคตการพัฒนาของภูเก็ตที่จะเป็น “ภูเก็ต NEXT” คืออะไร?

“คำตอบของผม อนาคตการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตอยู่ที่คน”

“ผมได้มีโอกาสเดินทางไปที่ อบต.เชิงทะเล ซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ทำงานร่วมกับคณะก้าวหน้า เราเห็นโครงการพัฒนาที่เรียบง่ายแต่ก้าวหน้า พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนได้จริง 3 โครงการ ไม่ว่าจะเป็น

1.โครงการอาคารซ่อมเรือ ตำบลเชิงทะเล ที่จะพัฒนาอาคารซ่อมเรือ ทำให้ประชาชนที่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านกว่า 100 ครัวเรือน จากเดิมที่ใช้แรงคนในการยกเรือประมงขึ้นซ่อมเปลี่ยนมาใช้เครื่องจักร ที่จะทำให้ลดการใช้แรงงานคนในการยกเรือลำใหญ่ขึ้นชายหาดเปลี่ยนมาใช้เครื่องจักรแทน

2. โครงการปรับปรุงสถานีบำบัดน้ำเสีย หาดสุรินทร์ ที่ได้นายก อบต. มาโนช พันธ์ฉลาด ที่ร่วมงานกับคณะก้าวหน้าเข้ามาปรับปรุงโครงการจากเดิมที่แบบการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานใช้งานไม่ได้จริง ให้สามารถดำเนินการได้ สามารถบำบัดน้ำเสียจากบ้านเรือนประชาชนและโรงแรมที่รองรับนักท่องเที่ยว คืนน้ำสะอาดสู่ชายหาดสุรินทร์เดือนละละ 43,000 ลูกบาศก์เมตร และในอนาคตมีแผนจะพัฒนาศักยภาพด้วยการใช้ระบบไฮโดรลิกอัดตะกอนแทนที่ระบบตาก
.
3. โครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นของ อบต. เชิงทะเล คือโครงการน้ำประปาดื่มได้ ที่ร่วมมือกับคณะก้าวหน้าปรับปรุงระบบน้ำประปาท้องถิ่นให้ประชาชนในเกาะภูเก็ตเข้าถึงน้ำประปาที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย ไม่มีการปนเปื้อนจากสารเคมีที่หลงเหลือจากการทำเหมืองแร่ ซึ่งในตอนนี้สามารถหาแหล่งน้ำดิบได้แล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณภาพน้ำและพัฒนาโครงการจัดทำระบบน้ำประปา
.
“โครงการเหล่านี้ของ อบต. เชิงทะเล ใช้เครื่องมือเครื่องจักรและเทคโนโลยี แต่ไม่ใช่เทคโนโลยีที่ซับซ้อน เป็นการลงทุนที่เรียบง่าย แต่ปรับใช้ให้เข้ากับบริบทด้วยการเข้าถึงพื้นที่จริงๆ คิดและทำจากท้องถิ่นจริงๆ ไม่ใช่โครงการลงทุนหว่านแหแบบโครงการ “ป๊อกแทงค์” แบบที่รัฐบาลทำ” พิธา กล่าว

โฆษกเพื่อไทย ไม่เห็นด้วย แนวทางเดินขบวน หวั่นเปิดช่อง ทหารยึดอำนาจ แนะรอวันเลือกตั้ง ใช้ปากกา ฆ่าเผด็จการ

21 ส.ค. 2565 – นส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคเพื่อไทยเป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทย ตอบคำถามต่างๆว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นต้นเหตุของปัญหา หากยังแก้ไขไม่ได้ ไม่มีทางประชาธิปไตยจะสมบูรณ์แบบ ต้องกำจัด 250 สว.ออกไป หากสว.ยังอยู่ จะแก้ปัญหาไม่ได้ ที่ถามว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ ยังอยู่ จะเดินหน้าอย่างไร ถ้าเป็นสมัยก่อน คงมีการลากเก้าอี้ พาคนไปเดินขบวน แต่ขอเรียนให้ทราบว่า จะไม่ทำให้การพัฒนาสมบูรณ์แบบ พัฒนาอย่างยั่งยืน เพราะจะทำให้มือที่สาม ทหารมายึดอำนาจประชาชนอีก

‘ธนกร’ วอนทุกฝ่ายรอฟังคำวินิจฉัยศาล รธน. อย่าก้าวล่วง-ชี้นำ หรือขู่ชุมนุมเคลื่อนไหวกดดัน ย้ำ นายกฯ พร้อมน้อมรับคำตัดสิน เหน็บไม่ทำพฤติกรรมเหมือนอดีตผู้นำบางคนแน่นอน

นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยยังคงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหมว่า อยากขอให้ทุกฝ่ายอย่าก้าวล่วงอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ อย่าออกมาพูดชี้นำเพื่อสร้างความสับสนให้กับประชาชน การทำให้ประชาชนสับสนเพื่อแลกกับการได้มีชื่อออกหน้าสื่อรายวันนั้น ไม่คุ้มเลย มีแต่จะทำให้บ้านเมืองขัดแย้ง วันนี้ประเทศก้าวข้ามความขัดแย้งของคนไทยด้วยกันเองมาไกลขนาดนี้แล้ว อย่าพยายามดึงกลับไปจุดเดิมอีกเลย ทางที่ดี ควรรอฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจึงจะเหมาะสมที่สุด ไม่ใช่ออกมาขู่ว่าจะชุมนุม ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการเคลื่อนไหวกดดัน ถือว่าไม่เหมาะสมและไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง ทั้งนี้ ยืนยันว่า ท่านนายกฯ เป็นชายชาติทหาร พร้อมน้อมรับคำตัดสินของศาล และจะไม่ทำพฤติกรรมเหมือนอดีตนายกฯ บางคน ที่ไม่พอใจคำตัดสินก็หนีไปต่างประเทศ แล้วให้สัมภาษณ์ด้อยค่าคำวินิจฉัยเพื่อเรียกคะแนนสงสารเป็นรายวันอย่างแน่นอน

ส่วนกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย ระบุว่า เชื่อว่าศาลจะใช้เวลาไม่นาน เพราะเรื่องการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกฯ เป็นประเด็นทางกฎหมาย ไม่มีประเด็นที่ต้องแสวงหาข้อมูลหลักฐานพยานมาพิสูจน์อะไรอีก แต่หากมีผลออกมาให้ท่านนายกฯ ทำหน้าที่ต่อ เชื่อว่าจะเกิดความวุ่นวายแน่นอนนั้น นายธนกร กล่าวว่า นายสมชัยเป็นถึงอดีต กกต. มีความรู้ทางกฎหมายเป็นอย่างดี ย่อมทราบดีว่าการออกมาพูดว่า หากให้ท่านนายกฯ ทำหน้าที่ต่อ เชื่อว่าจะเกิดความวุ่นวายนั้น เท่ากับการก้าวล่วงอำนาจศาล เข้าข่ายชี้นำอย่างชัดเจน ตนไม่อยากเห็นนายสมชัยใช้ความรู้ทางกฎหมายในลักษณะนี้ อะไรที่พูดแล้วคิดว่าตัวเองได้แต้มก็พูดหมด ไม่สนหลักการอะไรทั้งนั้น

นายกฯ ชื่นชมนักวิจัยไทย คิดค้นเครื่องตรวจโควิดจากลมหายใจ แม่นยำ ไม่เจ็บตัว ค่าใช้จ่ายในการตรวจไม่เกิน 10 บาท/คน

21 ส.ค. 2565 -นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชื่นชมความสำเร็จของนักวิจัยคนไทยที่คิดค้น “การพัฒนาระบบต้นแบบเครื่องตรวจคัดกรองผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แบบไม่เจ็บตัว” โดยการวิเคราะห์โปรไฟล์จากลมหายใจ ซึ่งเป็นผลงานที่เกิดขึ้นจากการบูรณาการความเชี่ยวชาญจากหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย สมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ โรงพยาบาลราชวิถี มหาวิทยาลัยมหิดล และภาคเอกชน สนับสนุนทุนวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

นางสาวรัชดาฯ กล่าวว่า ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นหนึ่งในปัญหาที่มีความสำคัญ และยังคงมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน หากไม่มีมาตรการหรือยุทธศาสตร์เชิงรุกในการควบคุมเชื้อโรคได้ดี อาจจะทวีความรุนแรงขึ้นได้อีกในอนาคต รัฐบาลให้ความสำคัญในการส่งเสริม สนับสนุนวิจัยนวัตกรรมอุปกรณ์ทางการแพทย์รูปแบบใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกในการคัดกรองผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งการคิดค้นต้นแบบเครื่องตรวจคัดกรองผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบไม่เจ็บตัว โดยการวิเคราะห์โปรไฟล์จากลมหายใจ ถือเป็นนวัตกรรมรูปแบบใหม่ในการตรวจคัดกรองผู้ป่วยฯ ที่ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องแยงจมูก ไม่ต้องเจาะเลือด และไม่ต้องใช้น้ำลาย วิธีดังกล่าวเป็นวิธีที่มีความไว(Sensitivity) และความจำเพาะ (specificity) สูง สามารถรู้ผลตรวจได้ภายใน 5 นาที ทำให้สามารถทำการคัดแยกผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อให้ออกมาได้อย่างรวดเร็ว สามารถเข้าสู่กระบวนการรักษาได้ทันท่วงที และลดโอกาสในการระบาดของเชื้อโควิด-19 ในวงกว้างได้ โดยมีค่าใช้จ่ายในการตรวจไม่เกิน 10 บาท/คน

นักเรียนพยาบาลทหารเรือ สร้างชื่อเสียงจากงานเขียน ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ของการประกวดเขียนเรียงความหัวข้อ “เยาวชนไทย หัวใจรักชาติ” จากสมาคมนิยมไทย

ตามที่ สมาคมนิยมไทย ได้จัดให้มีการประกวดเขียนเรียงความหัวข้อ “เยาวชนไทย หัวใจรักชาติ” และภายหลังได้มีการดำเนินการตัดสินบทเรียงความต่างๆ เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2565 ผลการประกวด นักเรียนพยาบาลทหารเรือ นฤมล แดงเปี่ยม จากวิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 โดยจะขึ้นรับรางวัล พร้อมอ่านผลงานของตนเอง ในงาน "ยุวทูตนิยมไทย ครั้งที่14"  ในวันที่ 28 สิงหาคมนี้ ที่มหาวิทยาลัยสยาม
     

‘สร้างอนาคตไทย’ ลั่น!! พร้อมเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง จัดทัพผู้สมัครครบ 400 เขตทั่วประเทศ หนุน ‘สมคิด’ นายกฯ

(21 ส.ค.65) นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย และประธานภาคกรุงเทพ กล่าวว่า ขณะนี้ทีมงานกรุงเทพของพรรคมีความพร้อมที่จะเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง โดยมีผู้แสดงความจำนงลงสมัครรับเลือกตั้งเต็มพื้นที่ครบทุกเขต

ทีมงานเดินพบปะพี่น้องประชาชน ได้รับรู้ปัญหาความเดือดร้อน โดยเฉพาะเรื่องปากท้อง เศรษฐกิจที่ทรุดต่อเนื่อง ปัญหาสิ่งแวดล้อม การจราจรที่ติดขัด และปัญหาคุณภาพชีวิตที่ตกต่ำ ประชาชนส่วนใหญ่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง  อยากให้มีการเลือกตั้ง เพื่อเปลี่ยนรัฐบาล

‘บิ๊กตู่’ ห่วงนักลงทุน แนะ พิจารณารอบด้านก่อนตัดสินใจ เตือนผู้รับงานโฆษณารีวิวสินค้าบริการเพิ่มความระมัดระวัง อาจตกเป็นผู้มีส่วนร่วมกระทำผิด

เมื่อวันที่ 21 ส.ค.น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยประชาชนที่หาช่องทางการลงทุน และเกิดกรณีการหลอกลวงกันเกิดขึ้นโดยเฉพาะผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น กรณีแชร์ออนไลน์ที่มีการหลอกให้นำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ โดยอ้างจะให้ผลตอบแทนสูง มีการบริหารการลงทุนโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ทั้งนี้ การหลอกลวงในลักษณะวงแชร์มีมายาวนานเพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบไป และขณะนี้มาอยู่ในช่องทางออนไลน์ที่เข้าถึงคนจำนวนมาก ทำให้แนวโน้มความเสียหายที่มากขึ้น นายกรัฐมนตรีจึงฝากความห่วงใยถึงประชาชาที่มองหาการลงทุน ให้พิจารณาถึงความเสี่ยงจากการลงทุนอย่างรอบด้าน ทำความเข้าใจในลักษณะความเสี่ยง พร้อมหาข้อมูลและพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ และที่สำคัญ อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาโดยง่าย โดยเฉพาะการใช้ผู้ที่มีชื่อเสียงมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เสนอผลตอบแทนสูงเกินกว่าที่ควรจะเป็น 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในส่วนของผู้รับงานโฆษณาหรือรีวิวสินค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก หรือบุคคลทั่วไปก็ขอให้พิจารณาสินค้าและบริการที่มาจ้างว่ามีโอกาสสร้างความเสียหาย หรือส่งผลกระทบต่อสังคมอย่างไรหรือไม่ อย่ามองเพียงค่าจ้างในอัตราที่สูงเท่านั้น เพราะไม่เช่นนั้นอาจกลายเป็นผู้ร่วมกระทำผิดในขบวนการฉ้อโกงประชาชนได้ 

‘หมอชลน่าน’ ฝัน ‘บิ๊กตู่’ ประกาศออกจากตำแหน่งอย่างเท่ ในคืนวันที่ 23 ส.ค. เชื่อคนจะยกย่องเป็นรัฐบุรุษ หากไม่เลือกทางนี้อาจไม่มีที่อยู่ ยันไม่ชงชื่อ ‘อุ๊งอิ๊ง’ เป็นแคนดิเดตนายกฯคนนอก ขอส่งคนในบัญชีก่อน

เมื่อวันที่ 21 ส.ค.เวลา 09.30 น.  ที่โรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพฯ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อาจต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ในส่วนของพรรคเพื่อไทย เหลือเพียง นายชัยเกษม นิติสิริ คนเดียวที่อยู่ในบัญชีนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกนายกฯตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 และ มาตรา 159 ถ้าเลือกไม่ได้ก็ดำเนินการตามมาตรา 272 ซึ่งพรรคเพื่อไทย ต้องส่งนายกฯ แคนดิเดตที่อยู่ในบัญชีของพรรคฯ แต่ยังไม่ได้ปรึกษาหารือกัน ซึ่งรายชื่อของพรรคเพื่อไทยในขณะนี้มี 3 คน แต่โดยความชอบธรรมแล้ว เมื่ออีก 2 คนไปทำหน้าที่อื่นก็เหลือเพียงนายเกษมเพียงคนเดียว ส่วนความเป็นไปได้ที่พรรคฯจะเสนอรายชื่อนายกฯคนนอกบัญชี กรณีถ้าสภาฯเลือกคนในบัญชีไม่ได้ ไม่ว่าจะเลือกกี่ครั้งก็ไม่ได้ ถึงจะเปิดช่องให้เอาคนนอกบัญชีมาเป็นนายกฯได้ หากเสียง 2 ใน 3 ของสภาฯเห็นชอบก็สามารถเลือกได้ และถ้าเลือกได้ก็จบ แต่ถ้าไม่ได้ก็ต้องเลือกอยู่อย่างนั้น ซึ่งมีความเป็นไป

เมื่อถามว่าหากต้องเสนอนายกฯคนนอกบัญชีพรรคเพื่อไทยเตรียมคนไว้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้ปรึกษาหารือกัน เพราะเรามีคนในบัญชีเราจึงต้องส่งคนในบัญชีก่อน เมื่อถามย้ำว่าจะมีการเสนอชื่อของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย เป็นแคนดิเดตนายกฯคนนอกหรือไม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่น่าจะเหมาะในสถานการณ์อย่างนี้ ส่วนชื่อของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะเหมาะกับการเป็นนายกฯคนนอกบัญชีหรือไม่ ก็ไม่ใช่หน้าที่ของพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามว่านายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ จะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยปมนายกฯ 8 ปี ในวันที่ 22 สิงหาคมตามคำร้องของฝ่ายค้าน เห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ ควรหยุดปฏิบัติหน้าที่เลยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในคำร้องของฝ่ายค้านมีคำร้อง 2 เรื่องคือ1.ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นนายกฯของพล.อ.ประยุทธ์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ และ2.ให้ศาลฯมีคำสั่งให้พล.อ.ประยุทธ์ ยุติการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกฯ ดังนั้นถ้าในวันที่ 22 สิงหาคม สภาฯส่งคำร้องไปถึงศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ซึ่งปกติศาลรัฐธรรมนูญจะประชุมทุกวันพุธ คือวันที่ 24 สิงหาคม สมมุติว่ามีการเตรียมการประชุมในวันที่ 24 สิงหาคม และถ้าศาลตั้งองค์คณะว่าจะรับคำร้องดังกล่าวหรือไม่ เราก็จะรู้ในวันดังกล่าวว่าศาลฯจะสั่งให้พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ตามคำร้องหรือไม่

 นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯครบ 8 ปีในวันที่ 23 สิงหาคม ดังนั้นในวันที่ 24 สิงหาคมก็ถือว่าเกิน 8 ปีแล้ว และหากศาลฯยังไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็ต้องรอคำวินิจฉัยอีกเดือนครึ่งอาจถึงสิ้นเดือนกันยายนถึงจะมีคำวินิจฉัย สมมุติว่าความเป็นนายกฯของพล.อ.ประยุทธ์ สิ้นสุดลง วันที่ 24 สิงหาคมนี้ และระหว่างที่รอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ในระหว่างนั้นรัฐธรรมนูญคุ้มครองว่าการกระทำใดๆในช่วงนี้ทำได้ไม่มีผลที่จะไปลบล้างการกระทำนั้น ก็เป็นไปได้ที่ศาลฯจะไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ในระหว่างรอคำวินิจฉัย แต่เหตุการณ์ที่เรากลัวคือข้อขัดแย้งทางการเมือง กระแสต่อต้านจะยิ่งแรงขึ้น ถึงตอนนั้นคือจุดวิกฤต อย่าว่าแต่พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ในประเทศไทยเลย แต่จะไม่มีที่อยู่ 

“ถ้าผมเป็น พล.อ.ประยุทธ์ ผมจะออกอย่างเท่ที่สุด เย็นวันที่ 23 สิงหาคม ผมจะออกประกาศแถลงการณ์จากสำนักนายกรัฐมนตรี เลยว่า กราบเรียน พี่น้องประชาชน ผมพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผมจะหมดวาระตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในเวลา 24 นาฬิกา ของวันนี้ ขอให้ทางรัฐสภาดำเนินการเลือกตั้งนายกฯคนต่อไปได้ อย่านี้ทุกคนก็จะปรบมือให้ นี่คือมโนธรรมสำนึกความรับผิดชอบ เคารพหลักนิติธรรม แล้ว พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ในใจพี่น้องประชาชน และกลไกลหลังจากนั้นจะดีไม่ดีหรือเลวร้ายค่อยว่ากัน ซึ่งผมฝันว่าพล.อ.ประยุทธ์จะประกาศออกจากตำแหน่งอย่างสง่างามเพราะเป็นทางที่ดีที่สุด สำหรับประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ และสถาบันตุลาการก็รอดตัวไม่ต้องวินิจฉัย” นพ.ชลน่าน 

‘ทิพานัน’ วอนเพื่อไทย หยุดปั่นกระแส 8 ปี นายกฯทำสังคมสับสน ย้ำปัญหากฎหมายให้ศาล รธน. ตัดสิน เผย ‘บิ๊กตู่’ จัดเอเปคมีแผนดำเนินงานล่วงหน้า หวังสร้างโอกาสและรายได้ตามวาระอายุรัฐบาล ไม่ใช่ข้ออ้างดำรงตำแหน่งต่อ

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงกรณีที่นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวหานายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้ช่องให้นายกฯ อยู่รักษาการต่อไปว่า สิ่งที่ท่านวิษณุได้ชี้แจงเป็นการตอบคำถามของนักข่าวตามหลักกฎหมายและอธิบายกฎหมายให้เข้าใจได้ง่าย  ส่วนที่นายสมคิดเองเออเองว่าเป็นการชี้ช่องนั้น อาจเป็นเพราะคำตอบตามหลักกฎหมายนั้นไม่ถูกใจนายสมคิดจึงแสดงความไม่พอใจในคำตอบและบิดเบือนความเห็นทางกฎหมายให้สังคมกังขาการรักษาการตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

“การปั่นกระแสสังคมที่อยู่เกิน 8 ปีไม่ได้ ในห้วงเวลานี้ เป็นปัญหาที่ต้องไปตีความตัวบทกฎหมาย ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่เป็นองค์กรอิสระและมีหน้าที่วินิจฉัย ไม่ใช่หน้าที่ของ ส.ส.เพื่อไทยหรือฝ่ายใดที่จะวินิจฉัยตีความให้สังคมสับสน” น.ส. ทิพานัน กล่าว 

น.ส. ทิพานัน กล่าวต่อว่า  ส่วนที่จะให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยไม่ต้องฟังคำวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายจากศาลรัฐธรรมนูญนั้น  แสดงให้เห็นว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไม่ต้องการเคารพกระบวนการยุติธรรมอย่างนั้นหรือ  ยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ที่มีอดีตหัวหน้าพรรค ทั้งนายทักษิณและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ละเมิดกระบวนการยุติธรรม เช่น กรณีพยายามติดสินบนตุลาการรวมถึงหลบหนีการดำเนินคดีและการลงโทษคดีทุจริตต่างๆ โดยไม่เคารพกฎหมายใช่หรือไม่

ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ให้การต้อนรับผู้บัญชาการกองเรือสหรัฐภาคพื้นแปซิฟิก ในโอกาส เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของกองทัพเรือ

      วันที่ 20 สิงหาคม 2565 พลเรือเอก สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ พร้อมด้วย พลเรือตรี สุรชัย เจริญรบ ผู้บัญชาการกองการบินทหารเรือ และคณะ ให้การต้อนรับ พลเรือเอก Samuel J. Paparo ผู้บัญชาการกองเรือสหรัฐภาคพื้นแปซิฟิก (COMPACFLT) และคณะฯ ในฐานะแขกของกองทัพเรือ ณ สนามบินอู่ตะเภา กองการบินทหารเรือ จว.ระยอง และให้การรับรองคณะฯ ณ ห้องรับรองกลางอ่าว กองบัญชาการกองเรือยุทธการ และได้เข้าเยี่ยมชมการสาธิตระบบอากาศยานไร้คนขับ (RQ-21 Blackjack) ทั้งนี้ ผบ.PACFLT ยินดีที่ได้เห็นขีดความสามารถของนักบิน และทีมสนับสนุน UAV และมั่นใจว่าจะสามารถนำ UAV มาใช้งานได้อย่างเต็มความสามารถ

      ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันความเป็นพันธมิตรที่มั่นคงและยาวนาน มีการหารือในเรื่องการประสานความร่วมมือทางทหารระหว่างกัน โดย พลเรือเอก Paparo แสดงเจตนารมณ์ ที่จะมาเยือนไทยอีกในต้นปี รวมถึงเสนอทุนการศึกษาเพิ่มเติมให้กำลังพลของกองทัพเรือไทย ได้ไปศึกษาอบรม ณ มลรัฐฮาวาย พร้อมกับโครงการความช่วยเหลือทางการทหารในด้านอื่น ๆ ที่จะมีขึ้นอีกด้วย       

'ท่านใหม่' ยก 'บัวขาว' เป็นคนไทยราชภักดี ย่อมมีสิทธิ์ที่จะเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ย่อมมีสิทธิ์โดยชอบธรรมที่จะชูพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงบนเวทีมวย เพราะศรัทธาแรงกล้า ย้ำ มีคุณค่ามากกว่าพวกสามกีบทุกตัวเลย

21 ส.ค.2565 - ม.จ.จุลเจิม ยุคล หรือ ‘ท่านใหม่’ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า ‘บัวขาว’ ยอดนักชกชาวไทย ย่อมมีสิทธิเสรีภาพในการเลือกที่จะเป็น “คนไทยราชภักดี”

“ย่อมมีสิทธิ์ที่จะเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ย่อมมีสิทธิ์โดยชอบธรรมที่จะชูพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงบนเวทีมวย เพราะศรัทธาแรงกล้า เพราะพระบารมีในหลวงช่วยให้บัวขาวเกิดพลังอัศจรรย์”

(พลังนี้เกิดขึ้นกับนักกีฬาไทยหลายคนแล้ว ลองอ่านเรื่องนี้กัน ชิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เล่าเหตุการณ์ประทับใจที่สุดในชีวิตของเขา

คือ นัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลซูซูกิ คัพ 2014 นัดที่ 2 กับทีมชาติมาเลเซีย ท่ามกลางบรรยากาศกองเชียร์หลักแสนของเจ้าถิ่น นักฟุตบอลของเราตื่นเต้น จบครึ่งแรกเราถูกนำก่อน 2-0 ตอนนั้นนักเตะไทยเดินกลับเข้าห้องอย่างหมดหวัง ทันใดนั้น พี่เกษม (จริยวัฒน์วงศ์) ผู้จัดการทีม ถือโทรศัพท์มาหาผมแล้วบอกว่า พระเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งผ่านราชเลขาธิการมาพระราชทานกำลังใจให้ทุกคนว่า พระองค์ทอดพระเนตรอยู่ ขออวยพรให้มีชัยชนะ อย่าท้อแท้”

ผล คือ ทีมไทยฮึดสู้ ยิงคืนได้ 2 ประตู แม้มาเลเซียจะทำประตู ได้ในวันนั้น 3 ประตูแต่ประตูรวมสองนัด ทีมไทยได้ 4 ประตู จึงชนะครองแชมป์ปีนั้น 4:3 ประตู ชิโก้ เชื่อว่า “พระบารมี”

เพราะอะไรก็อ่านกันเอาเองนะครับ

“เวลาแข่งขัน ผมจะนำสิ่งของ 3 อย่างติดไปด้วยทุกครั้ง 1.พระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 2.ธงประจำพระองค์ 3.ธงชาติไทย ก่อนลงสนามทุกครั้ง เราทุกคนจะร่วมกันร้องเพลง สดุดีพระมหาราชา เพื่อเป็นขวัญใจเสมือนพระองค์เสมอมาอยู่กับทีมด้วย”)

นายกฯ ยินดีไทยอันดับ 1 ของโลก ด้านสถานบริการเพื่อสุขภาพ พร้อมยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพไทยสู่มาตรฐานสากล

21 ส.ค. 2565 – นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบและยินดีที่ไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับ 1 ของโลก ด้านสถานบริการเพื่อสุขภาพ (Wellness Retreats) และอันดับที่ 2 ประเทศที่มีกิจกรรมเชิงสุขภาพที่ได้รับความนิยมมากที่สุด (Highest-rated wellness activities) พร้อมชื่นชมความร่วมมือจากทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพไทยสู่มาตรฐานสากล

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เว็บไซต์ Travel Daily News เว็บไซต์ท่องเที่ยวยอดนิยมที่สำรวจแหล่งท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ได้อ้างอิงจากผลสำรวจของ TripAdvisor และ Slingo ซึ่งคือเว็บไซต์ที่เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยว พบว่า ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับ 1 ของโลก ด้านสถานบริการเพื่อสุขภาพ (Wellness Retreats) โดยสำรวจรีวิวจากนักท่องเที่ยวในเรื่องโรงแรม รีสอร์ท กิจกรรมเชิงสุขภาพ และสปา ซึ่งประเทศไทยนับได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และไทยยังได้รับการขนานนามว่าเป็น เมืองหลวงของสปาแห่งทวีปเอเชีย รวมถึงเป็นแหล่งยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่ต้องการใช้สถานบริการเพื่อสุขภาพที่หรูหราและมีคุณภาพ

นอกจากนี้ ผลสำรวจจากเว็บไซต์ดังกล่าวยังพบว่า ประเทศไทยถูกจัดอันดับในด้านกิจกรรมเชิงสุขภาพที่ได้รับความนิยม (Highest-rated wellness activities) อยู่ในลำดับที่ 2 เป็นรองเพียงประเทศมัลดีฟส์ โดยประเทศไทยมีกิจกรรมเชิงสุขภาพ รวมไปถึงสปาให้นักท่องเที่ยวได้รับบริการจำนวน 2,673 กิจกรรม ซึ่งมีกิจกรรมเชิงสุขภาพที่อยู่ในระดับ 4 ดาวขึ้นไป จำนวน 1,952 กิจกรรม โดยกิจกรรมที่ได้รับความนิยมสูงมาจากการเล่นโยคะและพิลาทิส (Pilates)


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top