Monday, 7 July 2025
SPECIAL

‘สมศักดิ์’ เตรียมหารือ ผู้สมัคร ส.ส. แดนใต้ ‘ปลดล็อกกระท่อม-กีฬาชนวัว’ กระตุ้น ศก. ภาคใต้

(5 เม.ย.66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน กล่าวว่า ตนพร้อมด้วยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน ส.ส.พรรค และรองผอ.ศูนย์ปฎิบัติการเลือกตั้ง ได้เชิญผู้สมัคร ส.ส.พรรคในจังหวัดภาคใต้ อาทิ น.ส.บุญฑริกา ยอดสุรางค์ ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 1 เบอร์ 2, นายถาวรรัตน์ คงแก้ว ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 6 เบอร์ 1, พล.ต.ต.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 8 เบอร์ 8, น.ส.ปรมาภรณ์ บริบูรณ์ ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 10 เบอร์ 10, นายฮานาฟี หมีนเส็น ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 8 เบอร์ 8, น.ส.ชานิสรา ภูวิจิตร ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 9 เบอร์ 10 และ นายกฤษ ศรีฟ้า ผู้สมัคร ส.ส.พังงา เขต 2 เบอร์ 4 เพื่อมาหารือถึงแนวทางการนำเสนอนโยบายของพรรค ที่จะใช้สื่อสารกับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะแนวนโยบายของตนที่ได้พัฒนาส่งเสริมพื้นที่ภาคใต้มาโดยตลอด ทั้งการปลดล็อกพืชกระท่อมและกีฬาชนวัว 

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า พื้นที่ภาคใต้เป็นพื้นที่ใหม่ที่พรรคเพื่อไทยยังไม่สามารถปักธงได้ ตนจึงเข้ามาช่วยผู้สมัคร ส.ส. เพราะตลอดการเป็น รมว.ยุติธรรม ตนได้ลงพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่องจนรับทราบปัญหาและแนวทางการพัฒนา รวมถึงมีหลายนโยบายที่ได้ขับเคลื่อนจนสำเร็จไปแล้ว เช่น การปลดล็อกพืชกระท่อม ที่ทำให้ใบไม้กลายเป็นเงินสด เกิดการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนจำนวนมาก รวมถึงการผลักดันส่งเสริมกีฬาชนวัว ด้วยการร่างกฎหมายส่งเสริมปศุสัตว์ เพื่อยกระดับให้มีมาตรฐาน เพิ่มมูลค่าให้กับสัตว์ ช่วยเปิดประตูให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาชมกีฬาชนวัวได้ง่ายขึ้น เป็นอีกซอฟท์พาวเวอร์ช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวให้กับประเทศ 

ทั้งนี้ จากการหารือกับผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้นับว่าเป็นสัญญาณที่ดี หลายคนทราบถึงปัญหาและแนวทางถึงแก่น รวมถึงเข้าใจแนวทางการพูดคุยกับพี่น้องประชาชน ถ้าเราสามารถนำเสนอนโยบายให้ประชาชนเข้าใจได้ ก็จะมีโอกาสที่จะได้รับความไว้วางใจ ซึ่งในพื้นที่ภาคใต้มั่นใจว่าครั้งนี้จะสามารถปักธงได้อย่างแน่นอน เพราะโพลต่างๆ พรรคเพื่อไทยมาแรงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนว่าพี่น้องชาวภาคใต้ยอมรับนโยบาย และแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย

‘นฤมล’ ชี้ พปชร. ปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับเลข 37 ชู นโยบาย 3700 เบี้ยสูงอายุ 3,000 สวัสดิการ 700

(5 เม.ย.66) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค พปชร. กล่าวถึงการปรับนโยบายหรือกลยุทธ์ให้เข้ากับหมายเลข 37 ว่าผู้สมัคร ส.ส.บอกจดจำง่าย เลือกพรรค พปชร.ได้อย่างน้อย 3,700 โดยมาจากนโยบายเบี้ยผู้สูงอายุ 3,000 บาท และนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 700 บาท จำง่ายๆ เลือกลุงป้อม 3700 แต่จะใช้เป็นแคมเปญใหม่หรือไม่ ตอนนี้กำลังหารือกับผู้สมัคร เพื่อบอกกับประชาชนให้จดจำได้ เข้าใจง่าย พลังประชารัฐ 3700 ตอนนี้ทุกอย่างจะผูกให้เป็นหมายเลข 37 คือ 3 นโยบายเร่งด่วน 7 นโยบายเร่งรัด 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตัวเลข 37 จะเป็นปัญหาในการหาเสียงหรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. พอใจกับเลข 37 หลายคนบอกเป็นเลขมงคล 3 บวก 7 เป็น 10 เป็นเลขที่ถูกโฉลกกับพรรคและหัวหน้าพรรค ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นเลขที่ดี และจะเป็นการสร้างการรับรู้ว่าพรรคพลังประชารัฐ 3,700  อีกทั้งหมอดูต่างๆ ยังกล่าวว่า เลข 37 เป็นเลขมงคลที่ถูกโฉลก จะทำให้ได้รับชัยชนะ

“ต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ หลังจากเห็นเลข 37 ว่าจะต้องเลือกพรรคพปชร.พลังประชารัฐ นอกจากต้องช่วยกันจำ เวลาไปคูหากาบัตรเลือกตั้ง ต้องมองหาโลโก้และชื่อพรรค เป็นการจดจำง่ายขึ้น” นางนฤมล กล่าว

เมื่อถามว่า ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต เมื่อเห็นว่าเลขพรรคมีจำนวนเยอะ และตัวผู้สมัครมีหมายเลขของตัวเอง จะมีการนัดแนะอย่างไร นางนฤมล กล่าวว่า ตอนนี้ผู้สมัครได้ขึ้นป้าย ทำคลิป ส่งมาให้ดู เป็นภาพของหัวหน้าพรรค และเลข 37 ส่วนผู้สมัครก็จะขึ้นตัวเลขของเขา เป็นการประชาสัมพันธ์คู่กัน ส่วนตัวเชื่อว่าไม่สร้างความสับสน ประชาชนก็ได้รับการชี้แจงแล้วว่าจะต้องเลือกตั้งบัตรสองใบ คนละเบอร์

ผู้สื่อข่าวถามว่า การปราศรัยในพื้นที่กรุงเทพฯ วันที่ 7 เม.ย.นี้ จะจัดขึ้นที่ไหน นางนฤมล กล่าวว่า อาจจะเป็นที่สวนเบญจสิริ จากนั้นวัน 8 เม.ย.จะเป็นเวทีใหญ่ จ.สมุทรสาคร พรรคพปชร.ได้เบอร์ 1 ทั้งสามเขต สำหรับพื้นที่ภาคใต้ ตนจะลงไปช่วยในพื้นที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ไปพูดเรื่องนโยบายให้ชาวภาคใต้ได้รับรู้กับนโยบาย 3,700 

เมื่อถามว่า พรรคพปชร.จะมีคิวเวทีปราศรัยอย่างเต็มรูปแบบหรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า จะมีการปราศรัยเวทีสุดท้ายที่กรุงเทพฯ หลังจากที่ประชุมวางไว้ เป็นวันที่ 12 พ.ค.อาจจะเป็นที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง อีกทั้ง 30 กว่าวันที่เหลือ จะมี 10 เวทีใหญ่ตามจังหวัดต่างๆ

‘วิรัช’ เชื่อ!! เลขพรรคเบอร์ 37 คนจำได้ เตรียมเดินสายหาเสียงทุกภาค ขอคะแนนเสียงจาก ปชช.

(5 เม.ย.66) นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจกรรมและปราศรัยหาเสียงพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า หลังจากพรรคได้หมายเลขพรรค 37 สำหรับหาเสียงของส.ส.บัญชีรายชื่อ แม้จะเลขสองหลักแต่เชื่อว่าประชาชนจะจำได้ จากนี้จะเริ่มเดินสายหาเสียงในแต่ละภาค โดยจะมีทั้งหัวหน้าพรรค และหัวหน้าภาค ที่รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ ลงไปช่วยกันเดินสายปราศรัยหาเสียงเพื่อขอคะแนนเสียงจากประชาชน

'พปชร.' เด้งรับ นโยบาย 5 ด้านจาก ‘P-Move’ ยัน!! พร้อมสานต่อให้เป็นนโยบายพรรค 

(5 เม.ย.66) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P- MOVE) เดินทางมายื่นหนังสือเสนอนโยบายต่อพรรคการเมือง 5 ด้าน ได้แก่ 1.ที่ดินและที่อยู่อาศัย 2.เสรีภาพ กระบวนการยุติธรรม 3.สิทธิ สถานะ และชาติพันธุ์ 4.รัฐสวัสดิการ และการกระจายอำนาจ และ 5.โครงการพัฒนาของรัฐ และสาธารณูปโภค เพื่อให้ พปชร. นำไปพิจารณากำหนดเป็นนโยบายพรรค

ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศก่อนการยื่นหนังสือ บริเวณด้านหน้าพรรค พปชร. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.พหลโยธินมาคอยดูแลความปลอดภัย เนื่องจากจำนวนผู้ยื่นหนังสือมากถึง 50 คน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีความกังวลว่าจะเกิดความชุลมุน ทําให้ต้องมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ขณะที่ประชาชนกลุ่ม P - Move ได้โบกธงสัญลักษณ์ของกลุ่มเครือข่าย พร้อมชูป้ายข้อความ อาทิ ลบล้างและปฏิรูประบบบริหารจัดการนโยบาย กฎหมาย เกี่ยวกับฐานทรัพยากร, คนไทย ไม่ไร้ สิทธิ สถานะ, ที่ดิน เสรีภาพ ประชาธิปไตย ความเป็นธรรม เป็นต้น และยังมีป้ายข้อความที่ระบุข้อเรียกร้อง และนโยบายที่ต้องการเสนอต่อพรรคการเมือง

ต่อมา นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร. ได้เดินทางมารับหนังสือจากกลุ่ม P - MOVE ตามเวลานัดหมาย โดยนายไพบูลย์กล่าวว่า ได้อ่านข้อเสนอนโยบายทั้ง 5 ด้านครบถ้วนแล้ว ทาง พปชร.มีความเห็นสอดคล้องกับข้อเสนอของกลุ่ม P- MOVE และจะนำข้อเสนอนโยบายทั้ง 5 ด้านที่เสนอมา เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายของ พปชร.ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ที่พบขณะนี้ เป็นปัญหาในเรื่องที่ดิน ทำกิน และปัญหาสิทธิ สถานะของชาติพันธุ์

นัยแห่งหมายเลข 22 แม้ 'ตู่' ชูนิ้วได้อย่างอารมณ์ดี แต่มีสัญญาณอันตรายสะเทือนพรรค รทสช.

ถึงตอนนี้พรรคการเมืองขนาดกลาง ขนาดใหญ่หลายพรรคที่จับสลากได้เบอร์ตัวเลขสองตัวประเภท เบอร์ 18 พรรคชาติไทยพัฒนา, เบอร์ 26 ประชาธิปัตย์,เบอร์ 29 พรรคเพื่อไทย ที่มึนตึ้บในวันแรกว่าจะชูนิ้วชูมืออย่างไรก็คงหาวิธีการได้แล้ว...

ต่างกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่แม้จะได้เลขสองตัว แต่เป็นเลขเบิ้ลคือ เบอร์ 22 ทำให้ลุงตู่และลุงตุ๋ยชูนิ้วโชว์นักข่าวกันอย่างอารมณ์ดี...

ไม่เพียงเท่านั้นบรรดาแฟนคลับ...พากันกระพือในสื่อโซเชียลอีกต่างหากว่า เลข 22 เป็นเลขที่ถูกโฉลกกับลุงตู่เป็นที่ยิ่ง จะทำการสิ่งใดก็ประสบผลสำเร็จ ดูอย่างวันแต่งงานก็ 22 มิถุนายน 2527, วันยึดอำนาจยุติการฆ่ากันตายเมื่อปี 2557 ก็วันที่ 22 พฤษภาคม...เป็นต้น

แต่เลข 22 อันเกี่ยวกับการจัดอันดับปาร์ตี้ลิสต์ของพรรค รทสช. ที่ 'เล็ก เลียบด่วน' กำลังจะพูดต่อไปนี้ไม่น่าจะเป็นผลบวกหรือผลดีกับลุงตู่สักเท่าใดนัก...

อันว่าผู้สมัครส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์พรรครทสช.ลำดับปลอดภัยหรือเซฟโซนที่จะได้เป็นส.ส.แน่นอนอยู่แค่อันดับ 12 หรืออย่างมากก็อาจยืดไปถึงอันดับ 15...

ดังนั้นอันดับ 15. ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้ อันดับ 16.ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู 'แม่เลี้ยงติ๊ก', อันดับ 17, เกชา ศักดิ์สมบูรณ์, อันดับ 18  คุณอ้น-ทิพานันท์  ศิริชนะ, อันดับ 19 โรจน์พิศาล  อินทรักษ์,อันดับ 20 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง  อันดับ 21 พ.อ.เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา, อันดับ 22 ชุมพล กาญจนะ บ้านใหญ่สุราษฎร์ธานี อดีต ส.ส.หลายสมัย...

เหล่านี้ต้องลุ้นกันเหนื่อย ลุ้นกันหลายรอบ...กว่าจะได้เป็นส.ส.

แต่ที่ต้องหมายเหตุเป็นพิเศษคือ ลำดับที่ 22 ชุมพล กาญจนะ ไม่มีใครคาดคิดว่าลุงตู่ลุงตุ๋ยจะจัดวางมาอยู่ในลำดับต่ำเตี้ยขนาดนี้...ถือว่าพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย

ชุมพล กาญจนะ คือ บุคคลที่ชวน หลีกภัย เคยพูดถึงว่ามีบางพรรค (ไม่ใช่รทสช.) เสนอเงิน 200 ล้าน เพื่อ กวาด ส.ส.สุราษฎร์ฯ ให้ได้ยกจังหวัด แล้วจะให้ตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งนายชุมพลไม่เอา แต่สุดท้ายก็ย้ายจากพรรคประชาธิปัตย์มาอยู่พรรคลุงตู่พร้อมลูกสาวที่เป็น ส.ส.เขต 3 สุราษฎร์ฯ...

ปิดกันไม่มิดว่าตอนนี้...ชุมพลยากที่จะทำใจได้ที่โดนใครต่อใครข้ามหัวยิ่งกว่าการด้อยค่า...จะสบตาคนในพื้นที่ จะนำทัพออกรบก็คงไม่สนุกเสียแล้ว...ลูกสาวลูกสะใภ้ที่ลงสมัครส.ส.เขตด้วยก็คงใจเหี่ยวไปด้วย...

จาก 'โรงงานยาสูบเก่า' พื้นที่กว่า 311 ไร่ สู่โครงการ 'สวนเบญจกิติ' สวนสาธาณะแห่งใหม่ ปอดใหญ่ใจกลางเมือง เพื่อประชาชนทุกคน

หากจะบอกว่า 'สวนป่าเบญจกิติ' คือสิ่งปลูกสร้างที่ช่วยเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ให้กับกรุงเทพ คงไม่ผิดไปนัก จากพื้นที่ที่ซึ่งเป็นของโรงงานยาสูบเดิม ปัจจุบันถูกปรับปรุงโฉม ให้กลายเป็น 'สวนสาธารณะ' แบบเต็มรูปแบบ มากไปกว่านั้น ยังถือเป็น 'ป่าในเมือง' หรืออาจเรียกได้ว่าเป็น 'ปอดใหญ่' ที่ช่วยสร้างสมดุลทางธรรมชาติให้กับพื้นที่กรุงเทพมหานคร

ย้อนเวลากลับไปราวปี พ.ศ.2535 กรมธนารักษ์และกระทรวงการคลัง ผู้เป็นเจ้าของที่ดินของโรงงานยาสูบ มีความตั้งใจที่จะคืนพื้นที่บริเวณดังกล่าวนี้ให้เป็นสวนสาธารณะให้กับคนเมือง โดยทำการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่โรงงานยาสูบเดิม ราว 130 ไร่ ให้กลายเป็นสวนน้ำเบญจกิติ 

กระทั่งต่อมา ได้มีการทยอยย้ายโรงงานยาสูบออกไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจนหมดสิ้น ทำให้พื้นที่เดิมอีกกว่า 300 ไร่ ได้รับการขยายสร้างให้เป็น 'สวนป่าเบญจกิติ' โดยโครงการดังกล่าวถูกสร้างขึ้นในปี 2559 ในรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กระทั่งเสร็จสมบูรณ์ในปี 2565 พร้อมเปิดให้ประชาชนได้เข้ามาใช้ประโยชน์บนพื้นที่กว่า 300 ไร่แห่งนี้

‘เพื่อไทย’ เจอชายนิรนาม ตะโกนด่า “พรรคของปลอม” ขณะ ‘แพทองธาร’ ทำพิธีสักการะก่อนสมัครปาร์ตี้ลิสต์

จากกรณีที่วันนี้ (4 เม.ย.2566) มีการรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง

ในขณะที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และแกนนำพรรคเพื่อไทย กำลังทำพิธีสักการะพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง อยู่นั้น ปรากฏว่าได้มีชายนิรนามคนหนึ่ง ลุกขึ้นมาตะโกนด่าทอ พรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า

กกต. ไฟเขียว 49 พรรค หาเสียงตามเบอร์ที่จับได้ หลังตรวจสอบเอกสารครบถ้วนแล้ว ไร้ปัญหา

กกต.ไฟเขียว 49 พรรค หาเสียงตามเบอร์ที่จับได้ หลังตรวจสอบเอกสารครบถ้วน แจงไม่มีอำนาจตรวจสอบคุณสมบัติแคนดิเดตนายกฯ เหตุกม.กำหนดให้ทำหน้าที่แค่รับแจ้ง พร้อมยันกกต.พิมพ์บัตรโหลเป็นตามกม.กำหนด 

(4 เม.ย. 66) เวลา 14.45 น. ที่อาคารไอราวัฒพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงข่าวภายหลังการรับสมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในวันแรก ว่า การรับสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อในวันนี้ หลังกกต.ได้ตรวจสอบเอกสารที่ 49 พรรคการเมืองที่มาก่อนเวลา 08.30 น. เอกสารครบและสามารถออกใบรับสมัครทั้ง 49 พรรคการเมือง มีคุณสมบัติครบแล้วได้หมายเลขตามลำดับที่จับสลากได้ โดยภาพรวมการรับสมัครงานนี้ค่อนข้างเรียบร้อย มีปัญหาอยู่บ้างคือสถานที่คับแคบ จุดรับสมัครน้อยโดยการรับสมัครในขณะนี้มีพรรคการเมืองแบบบัญชีรายชื่อจำนวน 53 พรรคการเมือง และรับแจ้งรายชื่อบุคคลซึ่งพรรคการเมืองจะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี หรือแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจำนวน 16 พรรค 20 คน

นายแสวง ยังกล่าวด้วยว่า รายชื่อผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อทั้งหมดกกต. จะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติเช่นเดียวกับส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง หากพบว่าผู้สมัครรายใดไม่มีคุณสมบัติจะไม่ประกาศรายชื่อ ซึ่งผู้ที่ไม่ได้รับการประกาศรายชื่อสามารถยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาได้ หากศาลไม่คืนสิทธิให้พรรคการเมืองก็จะเหลือจำนวนผู้สมัครเท่าที่มีอยู่ ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีกฎหมายกำหนดให้กกต.เป็นเพียงผู้รับแจ้งชื่อเท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติ

‘พิธา’ ยืนหนึ่ง!! ลงสมัครแคนดิเดตนายกฯ ก้าวไกล ย้ำ!! นโยบายพรรคชัดเจน - ทำงานคุ้มภาษี ปชช.

‘พิธา’ นำทีม ‘ก้าวไกล’ ยื่นแคนดิเดตนายกฯ หนึ่งเดียว ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ ชูจำเบอร์ ส.ส.เขตก้าวไกล-บัตรบัญชีรายชื่อจำโลโก้พรรค ย้ำเลือกพรรคก้าวไกลชัดเจน ตรงไปตรงมา ทำงานคุ้มค่าเงินภาษีประชาชน

(4 เม.ย.66) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ จำนวน 40 คน เดินทางโดยรถเมล์ NGV ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ เพื่อไปสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อและส่งรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตดินแดง กรุงเทพฯ

พิธากล่าวว่า วันนี้พรรคก้าวไกล ยื่นชื่อตนเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพียงคนเดียว พร้อมกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อจำนวน 92 คน เรามั่นใจว่าทุกคนมีความรู้ความเชี่ยวชาญที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนและความท้าทายใหม่ๆ ของประเทศ เป็นมืออาชีพพร้อมเข้าไปบริหาร เป็นคณะรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็น ด้านแรงงาน ด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ด้านการเอาจริงกับปัญหาโลกร้อน ความเท่าเทียมทางเพศ สันติภาพชายแดนภาคใต้

ภายใน 100 วันแรก รัฐบาลก้าวไกลจะขับเคลื่อนนโยบายเพื่อสร้างการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต ด้วยการจัดประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งหมด ผลักดันกฎหมายที่ก้าวหน้าทีพรรคก้าวไกลได้ริเริ่มไว้ เช่น สมรสเท่าเทียม สุราก้าวหน้า ผลักดันนโยบายหวยใบเสร็จ ปฏิวัติหลักสูตรการศึกษา รวมถึงการใช้ประโยชน์จากกองทุนส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน เป็นต้น

ส่วนในช่วงนี้ที่มีโพลสำนักต่าง ๆ ออกมาคาดการณ์จำนวน ส.ส. ที่พรรคก้าวไกลจะได้รับ ตนมีความเชื่อมั่นจากการลงพื้นที่ พรรคก้าวไกลได้รับเสียงตอบรับดีขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ บางคนอาจยังไม่เป็นที่รู้จักของประชาชนในวงกว้าง แต่เชื่อว่าหากมีโอกาสได้แสดงความคิดความเห็น แสดงวิสัยทัศน์ผ่านเวทีต่าง ๆ ผู้สมัครของพรรคก้าวไกลทุกคนไม่เป็นรองใครในวงการนั้น ๆ จะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนได้แน่นอน 

“การเมืองเป็นเรื่องของความเป็นไปได้ และทุกการเลือกตั้งคือโอกาสสร้างการเปลี่ยนแปลง พรรคก้าวไกลพิสูจน์แล้วจากการทำงานในสภาฯ ตลอด 4 ปี ว่าเรามีจุดยืนที่ชัดเจน ทำงานตรงไปตรงมา คุ้มค่าเงินภาษีประชาชน พร้อมแก้ปัญหาของประเทศที่ต้นตอ ครั้งนี้จึงมั่นใจเช่นกันว่าด้วยผู้สมัครที่เป็นคนใหม่และมีความสามารถ หากเราได้รับโอกาสจากประชาชนเป็นเสียงข้างมาก รัฐบาลก้าวไกลจะเปลี่ยนประเทศไทยได้” พิธากล่าว

ส่วนเรื่องหมายเลขพรรค พิธาเปิดเผยว่าไม่ว่าได้รับหมายเลขอะไร พรรคก้าวไกลพร้อมสู้ทุกเลข เชื่อว่าประชาชนจำโลโก้พรรคก้าวไกลได้ ขอให้ประชาชนจดจำเลขผู้สมัครเขตใบบัตรผู้สมัครเขต ส่วนในบัตรบัญชีรายชื่อให้จำโลโก้พรรค

“สิ่งที่ต้องขอย้ำไปถึงประชาชน คือการเลือกตั้งครั้งนี้มีบัตร 2 ใบ นอกจากผู้สมัครพรรคเดียวกันแต่ละเขตจะมีเบอร์ไม่เหมือนกันแล้ว ในบัตรเลือกตั้งยังไม่มีชื่อผู้สมัครด้วย จึงขอให้ประชาชนจดจำหมายเลขของผู้สมัครเขต ส่วนบัตรบัญชีรายชื่อที่เลือกพรรคนั้น เลือกเบอร์ที่มีโลโก้พรรคก้าวไกลปรากฏอยู่ เชื่อว่าประชาชนจดจำได้” พิธากล่าว

‘Thailand Spring’ ความพยายามที่ไม่มีวันสำเร็จ ตราบที่คนไทยยังยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของแผ่นดิน


‘Thailand Spring’ ไม่ใช่ทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy theory) ที่ผู้เขียน มโน จินตนาการ ขึ้นมาเอง แต่ด้วยเหตุการณ์ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองอันเป็นที่รักยิ่งของเราในห้วงเวลากว่าสิบปีที่ผ่านมา มีรูปแบบลักษณะความเป็นไปที่เป็นเช่นนั้น ซึ่งเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องจะได้นำเสนอดังต่อไปนี้

หลังจากเหตุการณ์ Arab Spring เมื่อราว 12 ปีก่อน อันเกิดจากสาเหตุมากมายหลายสาเหตุในประเทศต่าง ๆ ในตะวันออกกลาง อันได้แก่ ลัทธิอำนาจนิยม ระบอบเผด็จการ ปัญหาโครงสร้างประชากร ปัญหาพลังงานในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 2000 การทุจริตของนักการเมือง การละเมิดสิทธิมนุษยชน การว่างงาน ภาวะเงินเฟ้อ ความยากจน ฯลฯ 

โดยมีเป้าหมายคือ ลัทธิอิสลามนิยม ประชาธิปไตย การเลือกตั้ง เสรีภาพทางการค้า สิทธิมนุษยชน การเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง ฯลฯ ด้วยวิธีการในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การดื้อแพ่งขัดขืน การต่อต้านและการเดินขบวนประท้วงของประชาชน การนัดหยุดงาน การจลาจล การเคลื่อนไหวบนอินเทอร์เน็ตในสื่อสังคมออนไลน์ การประท้วงเงียบ การก่อจลาจล การเผาตนเอง การปฏิวัติ-รัฐประหาร การกบฏ และสงครามกลางเมือง ฯลฯ

ผลที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ Arab Spring ที่เกิดขึ้นในประเทศต่าง ๆ อาทิ : 

‘ตูนีเซีย’ เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ค.ศ. 2010 รัฐบาลถูกโค่นล้มเมื่อวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 2011 ทำให้ นายกรัฐมนตรี Ghannouchi ลาออก ประธานาธิบดี Zine El Abidine Ben Ali ต้องลี้ภัยไปซาอุดีอาระเบีย มีการยุบสภาการเมือง เกิดการสลายตัวของพรรค RCD ซึ่งเป็นพรรคเก่าแก่ของตูนิเซียและมีการตรวจสอบทรัพย์สินของพรรค มีการปล่อยตัวนักโทษการเมือง และมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 2011

‘อียิปต์’ เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อวันที่ 25 มกราคม ค.ศ. 2011 ประธานาธิบดี Hosni Mubarak ถูกโค่น ต่อมาภายหลังถูกตัดสินว่า มีความผิดในข้อหาคอร์รับชัน (รวมทั้งครอบครัวของเขา และอดีตรัฐมนตรีของเขา) และถูกดำเนินคดีในข้อหาสั่งการให้ปราบปรามสังหารผู้ประท้วง หน่วยสืบสวนความมั่นคงของรัฐ การยุบพรรค NDP ซึ่งเป็นพรรคเก่าแก่ของอียิปต์ การยึดทรัพย์สินให้ตกเป็นของรัฐ การยกเลิกภาวะฉุกเฉินที่ใช้มา 31 ปี  

‘ลิเบีย’ เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011 (การประท้วงครั้งใหญ่เริ่มขึ้นในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011) รัฐบาลถูกโค่นล้มเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2011 เกิดวิกฤติขึ้น Muammar Gaddafi ผู้นำเผด็จการถูกกองกำลังกบฏสังหาร เกิดการก่อจลาจลด้วยการแทรกแซงทางทหารที่ได้รับคำสั่งจากสหประชาชาติ จนกลายเป็นสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบในเวลาต่อมา  

‘ซีเรีย’ เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 2011 (การประท้วงครั้งใหญ่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 2011) ประธานาธิบดี Bashar al-Assad เผชิญหน้ากับการต่อต้านของพลเรือน ทำให้เกิด การจลาจลในเมือง เกิดการแปรพักตร์ครั้งใหญ่ของทหารจากกองทัพซีเรียและมีการปะทะกันระหว่างทหารของรัฐบาลและผู้แปรพักตร์ การก่อตัวของกองทัพซีเรียเสรีนำไปสู่สงครามกลางเมืองอย่างเต็มรูปแบบ ในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ค.ศ. 2011 เป็นต้นมา 

 

เหตุการณ์ Arab Spring มีทั้งทำเกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ เปลี่ยนแปลงปานกลาง เปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อย อาทิ ซาอุดีอาระเบีย ตามแต่ขนาดของความขัดแย้งและการประท้วง ซึ่งต่อมา Wael Ghonim ผู้นำเหตุการณ์ Arab Spring ในโลกโซเชียลของอียิปต์ ได้ออกมากล่าวว่า มีความท้าทายที่เข้าขั้นวิกฤตอยู่ 5 เรื่อง ในการเผชิญต่อสื่อสังคมออนไลน์เช่นทุกวันนี้ 

‘อนุทิน’ โพสท่าชูเบอร์ 7 เผย ถูกโฉลกมาก!! ลั่น!! ติดเบอร์ตามป้ายหาเสียงเพื่อเอาเคล็ดแล้ว 

(4 เม.ย.66) ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์หลังจากจับฉลากหมายเลขพรรคได้เบอร์ 7 ว่า เป็นเลขที่ถูกโฉลกกับตน  ส่วนเรื่องเอกสารที่บางพรรคอาจยื่นไม่ถูกต้อง และอาจทำให้เลขถูกเลื่อนขึ้น กลายเป็นเลขไม่ถูกโฉลกนั้น ก็ไม่เป็นอะไร เพราะว่าดีทุกเบอร์ แต่ตอนนี้เราได้เลขตัวเดียว พรรคอื่นหากมีปัญหาเรื่องเอกสารเลื่อนขึ้นมาก็ยังเป็นเลขตัวเดียว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ติดเบอร์ตามป้ายหาเสียงเพื่อเอาเคล็ดแล้ว จากนั้นนายอนุทิน ได้โชว์สัญลักษณ์เลข 7

เมื่อถามว่า หากได้เป็นนายกรัฐมนตรีจะเดินหน้าสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. ... ต่อหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า เดินหน้าแน่นอน เพราะร่างกฎหมายที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ เห็นชอบแล้ว มีมติเสียงข้างมากแล้ว เมื่อเรากลับเข้าสภาก็จะเสนอร่างนี้อีก ซึ่งบางคนไม่รู้ว่ากัญชามีประโยชน์ทางการแพทย์ ประเทศชาติ และประชาชน การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ที่พรรคภูมิใจไทยเข้ามาได้ส่วนหนึ่งก็เพราะนโยบายกัญชา ฉะนั้น สำหรับคนที่ไม่เข้าใจเราก็จะเดินหน้าสร้างความเข้าใจ

ส่องมุมมอง ‘พรรคการเมือง’ ในบริบทมาตรา 112 

ส่องมุมมอง ‘พรรคการเมือง’ ในบริบทมาตรา 112 
 

‘บิ๊กป้อม’ พอใจเบอร์ 37 ชี้ เป็นเลขมงคล สอดคล้อง 3 นโยบายพรรค-บัตรประชารัฐ 700 บ.

(4 เม.ย.66) ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการ กทม. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์หลังจับสลากหมายเลขพรรค ได้เลข 37 ว่า 37 ถือเป็นเลขดี บวกกันแล้วได้ 10 และไม่กังวลว่าจะเป็นเลขที่อยู่ลึกแต่ก็จำง่าย และตนพอใจ ขอให้ประชาชนเลือกหมายเลข 37 เพราะ 37 เป็นเลขดี หมายถึง 3 นโยบายหลัก และบัตรประชารัฐ 700 บาท

ผู้สื่อข่าวถามถึงความมั่นใจในการเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อจะได้ ส.ส. 20 ที่นั่ง ตามเป้าหมายหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เหมือนเดิม 

เมื่อถามว่า จะไปถึง 37 ที่นั่งหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้อนว่า “เอาให้ได้เท่าเดิมก่อน”

‘จุรินทร์’ เผย!! เตรียมจัด 4 ทัพหาเสียงทั่วประเทศ มั่นใจ!! ประชาชนจำ ‘เบอร์ 26 ปชป.’ ได้แน่นอน

(4 เม.ย.66) ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ภายในศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง (กทม.2) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งภายหลังการสมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ และจับสลากได้หมายเลข 26 ว่า ตนเชื่อว่าเมื่อถึงเวลาประชาชนจะสามารถจดจำหมายเลขได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่สนใจจะเลือกเรา เขาจะจดจำหมายเลขของพรรคเราได้ ไม่ยากอะไร ส่วนกลยุทธ์การหาเสียงหลังจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์ขณะนี้จัดไปแล้ว 4 ทัพ คือ ทัพหัวหน้าพรรค ทัพของเลขาธิการพรรค ทัพของอดีตหัวหน้าพรรค และทับของผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ ซึ่งจะตระเวนไปหาเสียงทั่วประเทศ ส่วนที่เหลือจะเป็นผู้สมัคร ส.ส. ของแต่ละเขต ซึ่งทุกคนพร้อมทำหน้าที่อยู่แล้ว

เมื่อถามถึงการขึ้นเวทีดีเบตหลังจากนี้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่ายินดีให้ความร่วมมือกับทุกเวที ยกเว้นถ้าติดภารกิจจริง ๆ ไม่สามารถแก้ได้ เช่น การไปปราศรัยในจังหวัดต่าง ๆ แล้วเดินทางกลับมาไม่ทัน ก็ไม่สามารถไปร่วมขึ้นเวทีได้ แต่จะมอบหมายผู้ที่มีศักยภาพของพรรคไปร่วมเวทีดีเบตนั้น ๆ แทน

เช็กเบอร์พรรคการเมือง เลือกตั้ง 66

เช็กเบอร์พรรคการเมือง เลือกตั้ง 66 ทั้งหมดได้ที่นี่!


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top