Wednesday, 14 May 2025
SPECIAL

‘ปปป.’ บุกค้นคอนโดฯ ฯ สาวคนสนิท บิ๊กเขตราชเทวี พบสมุดบัญชีเงินหมุมเวียนกว่า 5 ล้านบาท เร่งสอบข้อเท็จจริง

บุกค้นคอนโดฯ สาวคนสนิท บิ๊กเขตราชเทวี คดีทุจริตเรียกเงินเลี่ยงภาษี เจอสมุดบัญชีเพียบ เงินหมุนเวียนกว่า 5 ล้าน เชิญตัวมาสอบ มีเอี่ยวด้วยหรือไม่

(6 เม.ย.66) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปปป. เข้าตรวจค้นห้องพักในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านจตุจักร กทม. หลังสืบทราบว่าเป็นห้องพักของหญิงสาวคนใกล้ชิดของ นายประมวล เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตราชเทวี ผู้ต้องหาคดีเรียกรับสินบนเพื่อเลี่ยงจ่ายภาษี ที่เพิ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. จับกุมตัวไปเมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม

ผลการตรวจค้นพบสมุดบัญชีธนาคารจำนวนหลายเล่ม พร้อมเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ นายประมวล หลายรายการ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินในสมุดบัญชีธนาคารดังกล่าว พบมีเงินหมุนเวียนเข้าออกกว่า 5 ล้านบาท จึงตรวจยึดไว้ตรวจสอบ

พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ยังเชิญตัวหญิงสาวรายนี้ มาสอบปากคำอย่างละเอียดด้วย ว่ามีส่วนรู้เห็นเป็นใจ หรือเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดร่วมกับ นายประมวล หรือไม่ต่อไป


ที่มา : https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_7600312
 

‘เต้ อิทธิเดช’ ผู้สมัคร ส.ส. ‘ภท.’ ลุยหาเสียงชูนโยบายสุขภาพ เล็งผลักดันสร้างรพ.รัฐ ยกระดับคุณภาพชีวิตขั้นพื้นฐานของปชช.

‘เต้ อิทธิเดช’ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ภูมิใจไทย ลุยหาเสียงชูนโยบายสุขภาพ เล็งผลักดันสร้างรพ.รัฐ ตอบโจทย์คนกรุงเทพฯ โซนตะวันออก

(6 เม.ย.66) นายอิทธิเดช สุพงษ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 15 คันนายาว-บึงกุ่ม (เฉพาะแขวงคลองกุ่ม) พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตลาดบุญนิยม สันติอโศก ซ.นวมินทร์ 46 และอีกหลายจุด ประชาชนได้สะท้อนปัญหาความแออัดล่าช้าของโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งปัจจุบันพื้นที่กรุงเทพฯ โซนตะวันออก มีแค่ รพ.นพรัตน์ราชธานี เพียงแห่งเดียว ทำให้ผู้ป่วยได้รับความลำบากโดยเฉพาะผู้สูงอายุ

‘สุวัจน์-กรณ์’ ถกผู้ประกอบการภูเก็ต ชูท่องเที่ยวฟื้นเศรษฐกิจ ดันภูเก็ตสู่ ‘World Class City’ สร้างรายได้ให้คนทุกกลุ่ม

‘สุวัจน์-กรณ์’ ถกผู้ประกอบการภูเก็ต ดันสู่ World Class City สร้างรายได้ให้คนทุกกลุ่ม มั่นใจ 2 ผู้สมัคร ‘เทมส์–อรทัย’ ผลักดันนโยบายทำได้จริง

(6 เม.ย.66) ที่เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า มินิ คอนเวนชั่น ฮออล์ พรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) นำโดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยนายเทมส์ ไกรทัศน์ ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต เขต 2 เบอร์ 7 และ น.ส.อรทัย เกิดทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต เขต 3 เบอร์1 ร่วมพูดคุยกับผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อแลกเปลี่ยนต่อแนวทางการพัฒนาพื้นที่ รวมถึงจัดเวทีเพื่อแสดงนโยบายของพรรค หัวข้อ ภูเก็ตแบบไหน ได้ใจคนทั้งโลก โดยมีจูรี นุ่มแก้ว ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 2 เบอร์ 8 มาร่วมสร้างแรงบันดาลให้กับผู้ประกอบการในฐานะประสบความสำเร็จจากการค้าขายออนไลน์ด้วย 

นายสุวัจน์ กล่าวว่า การฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศปัจจุบัน จะรอนักลงทุน หรือการลงทุนนั้นยาก เพราะภาวะไม่เอื้อต่อการลงทุน ทั้งปัญหาเศรษฐกิจทั่วโลก ปัญหาสงคราม ภาวะโลกร้อน และการแบ่งขั้วของประเทศต่าง ๆ ดังนั้น สิ่งที่จะฟื้นประเทศ และเศรษฐกิจได้ ตนมองว่ามีเพียงด้านการท่องเที่ยว ดังนั้นพัฒนา 1-2 ปี ให้คนรากหญ้าอยู่ได้ ต้องฟื้นฟูด้านการท่องเที่ยว โดยพื้นที่ภูเก็ต การเป็นพระเอกขี่ม้าขาวได้ ต้องได้รับการพัฒนาให้เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก และต้องสร้างคำขวัญให้ภูเก็ตเป็นที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือนก่อนตาย ตนเชื่อว่าจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวได้ ปีละ 50 ล้านคน จากปัจจุบันที่มี 12 ล้านคน

นายกรณ์ กล่าวว่า นโยบายของพรรคให้ความสำคัญกับการสร้างโอกาส สร้างรายได้ให้คนไทย โดยพรรคให้ความสำคัญกับการสร้างนโยบายให้ประชาชนมีรายได้ นำเสนอในรูปแบบของเศรษฐกิจ 7 เฉดสี สร้างรายได้ 5 ล้านล้านบาท ซี่งสามารถพัฒนาให้เข้ากับภูเก็ตเพื่อไปสู่ World Class ได้ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การสร้างธุรกิจใหม่ให้ท้องถิ่น สร้างงานใหม่เพื่อผู้สูงอายุ ขยายวีซ่ารับนักท่องเที่ยวให้อยู่ยาว ซึ่งทุกนโยบายของเราจับต้องได้จริง นอกจากนี้ การพัฒนาพื้นที่ จ.ภูเก็ต ต้องตอบสนองต่อความต้องการของคนภูเก็ตทุกคน ไม่เฉพาะผู้ประกอบการขนาดใหญ่เท่านั้น ซึ่งเรามั่นใจว่าด้วยผู้สมัครของทั้งสองคน จะสามารถกรณ์พัฒนาภูเก็ต ไปสู่ World Class ได้ นอกจากนี้ยังเสริมนายสุวัจน์ว่า ภูเก็ตไม่เพียงแต่จะมาก่อนตายเท่านั้น แต่อยากให้เป็นการมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่ จ.ภูเก็ต 

‘จุรินทร์’ นำทัพ ‘ปชป.’ ขึ้นเวทีลานคนเมือง 7 เมษายน นี้ เชื่อ!! ปราศรัยใหญ่ครั้งนี้ ช่วยปชช. เทคะแนนให้พรรค

ปชป. ปราศรัยใหญ่ครั้งแรก 7 เม.ย. ที่ลานคนเมือง ‘จุรินทร์’ นำทัพขึ้นเวที พร้อมเวทีต่อไป 23 เม.ย.ที่อนุสาวรีย์พระเจ้าตากฯ 

(6 เม.ย.66) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ดูแลกทม. เปิดเผยว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเปิดปราศรัยใหญ่ในวันศุกร์ที่ 7 เม.ย.ตั้งแต่เวลา 17.30 น. เป็นต้นไป ที่ลานคนเมือง เขตพระนคร นำการปราศรัยโดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคฯ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคฯ น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม.นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. และตน พร้อมทั้งผู้สมัคร ส.ส. กทม.ทั้ง 33 คน และผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งการปราศรัยครั้งนี้จะเป็นการปราศรัยใหญ่ครั้งแรกของพรรคฯ ส่วนครั้งต่อไปจะจัดการปราศรัยใหญ่ที่บริเวณอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช ในวันอาทิตย์ที่ 23 เม.ย. สำหรับการปราศรัยใหญ่ปิดท้ายก่อนลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง จะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 12 พ.ค.ส่วนสถานที่จัดปราศรัยจะเป็นที่ไหนนั้นกำลังพิจารณาอยู่

“พรรคปชป. เชื่อมั่นว่าเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคทั้ง 3 เวทีนี้ จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องคนไทยทั้งประเทศที่จะช่วยกันลงคะแนนเสียงสนับสนุนผู้สมัครของพรรคฯทั้งแบบบัญชีรายชื่อ และผู้สมัครแบบเขตเลือกตั้งทั้ง 400 เขต ทั่วประเทศ ให้ได้มีโอกาสทำงานในฐานะ ส.ส. เพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชนและประเทศชาติต่อไป” นายองอาจกล่าว

'โบว์' เชื่อ!! 'เพื่อไทย' ปิดเกม รอรวมเสียงตั้งรัฐบาล คาด!! กุญแจสำคัญอยู่ที่การเลือก 'พันธมิตร'

(6 เม.ย.66) คุณโบว์-ณัฏฐา มหัทธนา นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

สำหรับคอการเมือง อาจจะมีความรู้สึกหวั่นไหวกับโพสต์ล่าสุดของ อ.ปิยบุตร ที่ไม่เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะลบล้างผลพวงรัฐประหารได้ แต่สำหรับฐานเสียงทั่วไปตามจังหวัดต่างๆ การประกาศแจกคนละหมื่นของเพื่อไทยเมื่อคืนคือ การปิดเกมแล้ว จบที่คนไม่ต่ำกว่า 35% จะเลือกเพื่อไทย และ ส.ว.ส่วนใหญ่จะพยายามสกัด คนทั่วไปไม่ได้สนใจเรื่องลบล้างผลพวงรัฐประหาร

ส่วนใครอยากจะโต้ก้าวไกล ก็อาจพูดได้ว่า ไม่มีพรรคไหนที่ถ้าขึ้นมาแล้วจะทำให้ประเทศเสี่ยงต่อการรัฐประหารเท่าก้าวไกล ถ้ากลัวรัฐประหารจริง เลือกพรรคอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ก้าวไกล 

'ณัฐชา' โหมลงพื้นที่บางบอน-บางขุนเทียน หวั่นสับสนแบ่งเขตใหม่ ชี้!! ปชช. ให้การตอบรับดี พร้อมเชื่อมั่นการทำงานแบบ ‘ก้าวไกล’

(6 เม.ย.66)  นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ อดีต ส.ส.เขตบางขุนเทียน กรุงเทพ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.แบ่งเขตพื้นที่ใหม่ อย่างไรก็ตาม ไม่รู้สึกกังวล ที่ผ่านมาทำงานเข้าถึงพื้นที่และขยายไปยังพื้นที่รอบ ๆ มาตลอดอยู่แล้ว เพราะงานพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนเป็นงานเชิงประเด็นมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกัน ไม่ว่าเรื่องที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยหรือเบี้ยยังชีพคนชราที่ตนขับเคลื่อนอยู่ไม่สามารถแบ่งขาดด้วยการขีดเส้นเขตปกครองหรือมองเป็นเขตใครเขตมันได้ เมื่อลงไปจัดการแก้ปัญหาใด ๆ ก็จะพยามยามแก้ให้ครบถ้วนและครอบคลุมที่สุด

อย่างไรก็ตาม การแบ่งเขตใหม่พี่น้องประชาชนอาจยังไม่รู้ว่าเขตไหน ใครลงสมัครบ้าง ช่วงนี้จึงขยับไปแนะนำตัวในจุดใหม่ ๆ ซึ่งพบว่าเมื่อไปตั้งโต๊ะปราศรัยจุดใดพี่น้องประชาชนให้การต้อนรับเป็นอย่างดี แม้ตอนแรกพี่น้องประชาชนสะท้อนว่าการแบ่งเขตใหม่ทำให้สับสน แต่เมื่อรู้ว่าตนจะเป็นตัวแทนที่เขาเลือกไปทำงานในสภาได้ กลายเป็นยิ่งยินดีเพราะเชื่อมั่นในการทำงานแบบก้าวไกลและอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงในพื้นที่รวมถึงในระดับโครงสร้างของประเทศ

‘ฐิติกันต์’ ผู้สมัครก้าวไกลภูเก็ต ชูศิลปะโปสเตอร์วาดมือติดรถแห่หาเสียง ย้ำ!! หนุนคนทำงานศิลปะ เสริมศักยภาพภูเก็ตนอกเหนือรายได้ท่องเที่ยว

‘ฐิติกันต์’ ผู้สมัครก้าวไกลภูเก็ต ใช้โปสเตอร์วาดมือติดรถแห่หาเสียง เผยได้ไอเดียจากรถแห่หนัง เรียกเสียงตอบรับประชาชน ย้ำนโยบายก้าวไกลมุ่งส่งเสริมคนทำงานศิลปะ เสริมศักยภาพภูเก็ตนอกเหนือรายได้ท่องเที่ยว

(6 เม.ย.66) จากกระแสที่เป็นไวรัลบนโซเชียลมีเดีย กรณีรถแห่หาเสียงของ ฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต เขต 3 พรรคก้าวไกล ที่มีการนำศิลปินนักวาดโปสเตอร์ภาพยนตร์ มาวาดมือป้ายหาเสียงติดรถ แทนการพิมพ์ป้ายหาเสียงทั่วไป จนกลายเป็นหนึ่งในสีสันของการหาเสียงในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตครั้งนี้

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังฐิติกันต์ ถึงแรงบันดาลใจและที่มาของการหาเสียงในรูปแบบดังกล่าว ซึ่งฐิติกันต์ระบุว่าการทำป้ายหาเสียงโดยใช้ศิลปินวาดมือครั้งนี้ ได้จ้างให้รุ่นน้องช่างศิลป์และนักศึกษาศิลปะ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ที่เคยทำงานร่วมกัน เป็นผู้วาดให้ โดยแรงบันดาลใจจากการที่ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ได้เห็นภาพรถแห่หนังที่ใช้โปสเตอร์วาดมือเช่นนี้ วิ่งกันอยู่ทั่วไปเป็นปกติ ในโลกที่ยังไม่มีเทคโนโลยีเหมือนปัจจุบัน ต้องใช้ฝีมือคนวาดมาวาดภาพโปสเตอร์หนังติดรถ แห่ไปตามพื้นที่ต่าง ๆ แต่พอโลกพัฒนาขึ้น ทำให้คนเขียนภาพรถแห่หลายคนตกงาน ขาดรายได้ และปัจจุบันการแห่หนังแบบนี้หายไปหมดแล้ว

เมื่อการหาเสียงเลือกตั้งเริ่มต้นขึ้น ตนซึ่งสนใจนโยบายพรรคก้าวไกล ด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยเฉพาะภาพยนตร์ไทย จึงนำรูปแบบดังกล่าวมาใช้แทนการจ้างโรงพิมพ์ตามปกติ เมื่อทำแล้วปรากฏว่าหลายๆ คน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ที่ต่างเคยมีประสบการณ์เห็นภาพรถแห่หนังเป็นที่ติดตาในอดีต ก็เริ่มนึกถึงภาพบรรยากาศความทรงจำเก่าๆ ทำให้หลายคนเริ่มหันมาสนใจพรรคก้าวไกลมากขึ้น

ฐิติกันต์ยังกล่าวต่อไปว่า สิ่งนี้ยังเป็นเครื่องสะท้อนนโยบายของพรรคก้าวไกล ที่ต้องการส่งเสริมงานศิลปะ โดยเฉพาะศิลปะที่เป็นงานฝีมือคนไทย ซึ่งหลายงานทำได้ไม่แพ้ชาติใดในโลก แต่ที่ผ่านมาคนทำงานศิลปะขาดการสนับสนุนจากรัฐอย่างจริงจัง มีแต่การเน้นงานของนายทุนจนลืมมองคนตัวเล็กๆ ที่มีฝีมือและประสบการณ์แต่ขาดโอกาส ซึ่งนี่คือสิ่งที่พรรคก้าวไกลอยากเข้าไปส่งเสริมให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นหากได้เป็นรัฐบาล

‘สุวัจน์’ ปัดวิจารณ์ พท.แจกเงินคริปโต มองเป็นนโยบายคลายปัญหาปากท้อง ชี้!! อยู่ที่ปชช. ตัดสินใจ ‘กรณ์’ ย้ำไม่ลงเลือกตั้ง เหตุเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่

สุวัจน์ ปัดวิจารณ์ พท.แจกเงินคริปโต ชี้ ทุกพรรคต้องแข่งขัน นโยบาย แก้ปัญหาศก. ปากท้อง ด้าน “กรณ์” ย้ำ ไม่ลงส.ส. เหตุ ต้องการเปิดโอกาสคนรุ่นใหม่

(6 เม.ย.66) ที่จ.ภูเก็ต นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ปฏิเสธที่จะวิจารณ์ต่อกรณีที่พรรคเพื่อไทย โดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ประกาศนโยบายเติมเงินดิจิทัล  10,000 บาท ให้กับผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่า ถือเป็นนโยบายแต่ละพรรคที่จะคิด และนำเสนอให้กับประชาชน ซึ่งทุกคนพยายามคิดเพื่อช่วยเหลือประชาชน ที่ต้องชัดเจนเรื่องปากท้อง ของแพง หรือการไม่มีกำลังด้านเศรษฐกิจ ซึ่งการเลือกก็อยู่ที่ประชาชนจะตัดสินใจ 

'ไพบูลย์' รับ 5 นโยบายของ P-move ชี้!! ‘พปชร.’ ดำเนินการมาตลอด ย้ำ!! ‘ลุงป้อม’ มองปชช. คือหัวใจสำคัญการทำงาน ไม่เคยทอดทิ้ง

'ไพบูลย์' ให้คำมั่น พลังประชารัฐ ไม่ทอดทิ้งประชาชน โดยเฉพาะนโยบาย 5 ข้อ ที่ P-move ยื่นถึงพรรค ยินดีช่วยเหลือ หาแนวทางแก้ไขร่วมกัน พร้อมย้ำ ‘ลุงป้อม’ ฝากความห่วงใย เพราะประชาชนถือเป็นหัวใจหลัก ในการทำงาน

(6 เม.ย.66) นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วมเวที ‘ภาคประชาชนเสนอนโยบายต่อพรรคการเมือง’ ซึ่งขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ P-move และเครือข่ายสลัม 4 ภาค ร่วมกันจัดขึ้นที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ท่าพระจันทร์ โดยกล่าวว่า วานนี้ (5 เมษายน 2566) P-move ได้เดินทางไปที่พรรค เพื่อยื่นข้อเสนอ 5 ด้าน ประกอบด้วย การแก้ปัญหาที่ดิน ที่อยู่อาศัย ทรัพยากรและที่อยู่อาศัย ในรูปแบบโฉนดชุมชน ที่ยังมีปัญหาทั่วประเทศ / เรื่องเสรีภาพ และกระบวนการยุติธรรม ผลักดันสิทธิสถานะและคุ้มครอง กลุ่มชาติพันธุ์ประชาธิปไตยและสิทธิชุมชน สร้างรัฐสวัสดิการและการกระจายอำนาจ รวมถึงแก้ไขปัญหาโครงการพัฒนาของรัฐและสาธารณูปโภค

ซึ่งเห็นด้วยกับข้อเสนอ โดยบางเรื่องบรรจุอยู่ในนโยบายของพรรคพลังประชารัฐอยู่แล้ว และรับไปดำเนินการ เรื่องอื่น ๆ ไปเสริมเติมแต่งให้เรื่องที่ทำสมบูรณ์เพื่อประโยชน์ของประชาชน โดยหลายเรื่อง พล.อ.ประวิตร ดำเนินการมาตลอด และจะดำเนินการต่อไปให้สมกับคำว่า พรรคกับประชาชน ที่ต้องแก้ไขปัญหา และก้าวข้ามความขัดแย้ง

สำหรับนโยบายเรื่องที่ดินที่ P-move เสนอ ถือว่าสอดรับกับนโยบายของพรรค วันนี้จึงทำหนังสือตอบรับเป็นลายลักษณ์อักษร มอบให้ผู้แทน P-move พร้อมนัดหมาย ในช่วงหลังเลือกตั้ง หากได้รัฐบาลชุดใหม่เป็นที่แน่นอนแล้ว ยินดีให้เข้าพบเพื่อประชุม กำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน ให้เป็นไปตามนโยบายที่ได้ยื่นไว้ โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขข้อกฎหมายต่าง ๆ ซึ่งพรรคเห็นว่า สามารถช่วยเหลือ นำเสนอได้ โดยให้ ส.ส.ของพรรค ร่วมลงชื่อเสนอแก้ไขให้ได้ 

ซึ่งถือเป็นกระบวนการทำงานร่วมกับภาคประชาชน ที่พรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การนำของ ‘ลุงป้อม’ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคเน้นย้ำมาตลอด อีกทั้งการแก้ไขปัญหาความทุกข์ร้อนของประชาชน ถือเป็นหัวใจหลักของ ‘ลุงป้อม’ มาโดยตลอด และพรรคพลังประชารัฐ จะไม่ทอดทิ้งประชาชน

‘ครูแก้ว’ นำทีม ‘ภูมิใจไทย’ สู้ศึกเลือกตั้ง ‘นครพนม’ เชื่อผลงานเข้าตาชาวบ้าน มั่นใจชนะทั้ง 4 เขต

(6 เม.ย. 66) บรรยากาศการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดนครพนมนับวันยิ่งเข้มข้น หลังมีการเปิดรับสมัครส.ส.ทั้ง 4 เขต เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา โดยพรรคใหญ่ 2 พรรคที่มีคะแนนนิยมสูงคือ พรรคภูมิใจไทย ที่มี นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม เขต 2 เบอร์ 3 อดีต ส.ส.แชมป์เก่าเขต 1 นครพนม ที่ย้ายมาลงเขต 2 เป็นแม่ทัพ

ล่าสุด ครูแก้ว ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า แจ้งข่าวญาติพี่น้องนครพนม ภูมิใจไทยนครพนม 4 เขต
เขต 1 ครูพูนสุข โพธิ์สุ  เบอร์ 5
เขต 2 ครูแก้ว ศุภชัย โพธิ์สุ  เบอร์ 3
เขต 3 หมออลงกต มณีกาศ เบอร์ 4
เขต 4 นายชูกัน กุลวงษา เบอร์ 8

‘จุรินทร์’ ขอทวงคืนเก้าอี้ ส.ส. กทม. เชื่อคนกรุงให้โอกาส เพราะ ปชป. ไม่เคยทิ้งพื้นที่

‘จุรินทร์’ ขอคืนที่นั่ง ส.ส.กทม. ชี้กรุงเทพฯ คือลมหายใจของปชป.เตรียมเปิดปราศรัยใหญ่ที่ลานคนเมืองศุกร์นี้ ปัดวิจารณ์ นโยบายเติมเงินดิจิทัลของ ‘เศรษฐา’ 

(6 เม.ย. 66) เวลา 09.20น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงพรรคประชาธิปัตย์ครบรอบ 77 ปี ในฐานะผู้นำพรรคฯ จะนำพาพรรคฯเดินต่อไปอย่างไร ว่า อย่างน้อยที่สุดในสถานการณ์นี้ก็จะต้องนำพรรคเข้าสู่การเลือกตั้ง ขอเรียนว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมทั้งคนทั้งนโยบายและพร้อมทั้งหัวหน้าพรรคที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้มั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะได้รับเสียงตอบรับที่ดีขึ้นจากพี่น้องประชาชนทุกภาคทั่วทั้งประเทศ จากการที่ลงพื้นที่มาตลอดอย่างต่อเนื่อง และขอวิงวอนประชาชนชาวไทยทั้งประเทศโปรดช่วยสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งชาวประชาธิปัตย์จากทั่วประเทศที่มีอยู่จำนวนมากมายมหาศาล รวมทั้งคนที่เคยเลือกเรา ก็ขอให้สนับสนุนพรรคฯต่อไป ส่วนคนที่ทิ้งเราไปในคราวที่แล้ว คราวนี้ขอเรียกร้องให้กลับมาช่วยกันจับมือกับประชาธิปัตย์เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อพาพรรคฯไปสู่ความสำเร็จในการเลือกตั้ง ไม่ใช่เพื่อเราแต่เพื่ออนาคตที่ดีกว่า

เมื่อถามว่าจากการเป็นสถาบันการเมืองที่ผ่านมา 77 ปีแล้วในขณะที่พรรคอื่นล่มสลายและแปลเป็นพรรคอื่นตรงนี้จะเป็นจุดขายของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า นี่คือจุดขายสำคัญที่ตนคิดว่าถ้าประชาชนเลือกเราจะไม่ผิดหวังเพราะไว้ใจได้ ประชาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมืองที่อยู่มาตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและจะอยู่จนอนาคตเพื่อรับใช้ประชาชน ดังนั้นถ้าประชาชนเลือกประชาธิปัตย์ ครั้งหน้าประชาธิปัตย์ยังอยู่ ทำผิดทำถูกก็สามารถมาทวงทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งทวงนโยบายและความรับผิดชอบ และขอเรียนว่านโยบายในการขับเคลื่อนประเทศและหาเสียงอยู่บนพื้นฐานความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เราคิดและทำมาแล้ว และตกผลึกเพื่อที่น้องคนไทยทั้งประเทศอย่างแท้จริง

‘ธรรมนัส’ ชูสานต่อบัตรประชารัฐ 700 บาท-แก้ปัญหาที่ดินทำกิน ลั่น!! ‘พปชร.’ ขออาสาพัฒนาสร้างบ้านแปงเมืองพะเยาให้ดียิ่งขึ้น

(5 เม.ย.66) ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้นำคณะลงพื้นที่ไปพบปะประชาชนเพื่อขอคะแนนเสียงตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงค่ำ โดยเริ่มจากไปพบปะทักทายพ่อค้า แม่ค้าและประชาชนทั่วไปในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ที่ตลาดเช้าแม่นาเรือ ก่อนจะขึ้นรถแห่ทักทายประชาชนรอบตลาดแม่นาเรืออีกครั้ง จากนั้นไปพบชาวบ้านในพื้นที่บ้านแม่ต๋ำบุญโยง, ตลาดแม่กาเยื้องวัดแม่กาห้วยเคียน แล้วไปต่อที่วัดบ้านดาวเรือง (จำป่าหวาย) ตลาดเครือวัลย์ (จำป่าหวาย) และตลาดท่าวังทอง และตลาดสุวรรณเภรี เป็นต้น โดยมีพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนทั่วไปที่มาจับจ่ายซื้อสินค้า ให้การต้อนรับและมอบดอกไม้ ตลอดจนพวงมาลัยดอกดาวเรือง พวงมาลัยดอกมะลิ เพื่อเป็นกำลังใจให้ ร.อ.ธรรมนัสเป็นจำนวนมาก โดยหลายคนได้เข้ามาสวมกอด และขอถ่ายภาพเซลฟี่อีกด้วย ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัสก็ได้ร่วมถ่ายภาพอย่างเป็นกันเอง

โดย ร.อ.ธรรมนัสกล่าวกับประชาชนที่มาคอยให้กำลังใจช่วงหนึ่งว่า รู้สึกดีใจที่วันนี้ได้มาพบกับพ่อแม่พี่น้องทุกคน ถึงแม้อากาศจะร้อนแต่ก็ยังเห็นทุกคนมาคอยให้กำลังใจไม่ยอมถอย จึงรู้สึกซาบซึ้งใจและขอบคุณทุกท่านอย่างยิ่ง วันนี้จึงมาขอฝากเรื่องราวดีๆ ที่เป็นนโยบายของพรรคพลังประชารัฐเพื่อประโยชน์ของพ่อแม่พี่น้องประชาชน ทั้งเรื่องการสานต่อบัตรประชารัฐ 700 บาท เรื่องการดูแลผู้สูงอายุหรือเบี้ยยังชีพเดือนละ 3,000 บาท 4,000 บาท และ 5,000 บาท ตามช่วงอายุ 60-80 ปี นอกจากนี้เราจะดูแลทุกช่วงวัยทั้ง “แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ” รวมไปถึงแก้ปัญหาที่ดินทำกิน “มีเรา ไม่มีแล้ง มีน้ำ ไม่มีจน” เปลี่ยน ส.ป.ก.เป็นโฉนด และ คทช.เปลี่ยนเป็น ส.ป.ก.

“ช่วง 4 ปีที่ผ่านมาที่ผมเคยหาเสียงตั้งแต่ปี 2562 และได้พูดกับพี่น้องประชาชนว่า ผมจะมาทำงานรับใช้พ่อแม่พี่น้องอย่างเต็มที่หากได้เลือกผมมาเป็น ส.ส.ของพวกท่าน และผลงานของผมที่ผ่านมาก็ได้เห็นชัดเจนว่า ผมได้ทำงานพัฒนาสร้างบ้านแปงเมืองและช่วยแก้ปัญหาในทุกเรื่องอย่างเต็มที่และมีทิศทางดีขึ้น ยกตัวอย่างเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ถนนสายหลักทุกสายมีการเปลี่ยนแปลงชัดเจน จาก 2 เลน เป็น 4 เลน ช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการแก้ปัญหาเรื่องน้ำ กรรมสิทธิ์ที่ดินทำกิน และราคาพืชผลการเกษตรต่าง ๆ มาวันนี้จึงมาขอโอกาสและความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนทุกท่านเพื่อเข้าไปทำงานสานต่อและดูแลรับใช้ทุกท่าน เพื่อพัฒนาสร้างบ้านแปงเมืองของเราต่อไป อย่าลืมวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ เข้าคูหาเลือกผมเป็น ส.ส.กาเบอร์ 6 และกาเบอร์ 37 เลือกพรรคพลังประชารัฐ” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

‘พท.’ เปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ตามคาด ‘อิ๊งค์-เศรษฐา-ชัยเกษม’ ชี้!! ทั้ง 3 คนแตกต่างกัน แต่ก็สามารถทำงานเพื่อประชาชนได้

(5 เม.ย.66) ที่ธันเดอร์โดม สเตเดียม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย จัดงานปราศรัยใหญ่ ภายใต้แนวคิด “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ตอน One Team for all Thais : หนึ่งทีมเพื่อไทยทุกคน” เพื่อเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 3 คนของพรรคเพื่อไทย ตามที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ได้นำชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ได้ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ โดยแคนดิเดตทั้ง 3 คน ได้เดินผ่านพรมแดงเพื่อเข้าสู่ ธันเดอร์โดม ที่มีแฟนคลับพรรคเพื่อไทยรอให้กำลังใจอยู่บริเวณอัฒจันทร์และบริเวณกลางสนามรอบเวที พร้อมกันนี้ยังมีแกนนำพรรค และว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นายสุชาติ ตันเจริญ อดีตรองประธานสภาฯ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรค 

น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ว่า “วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะประกาศให้ประชาชนทราบว่าเราพร้อม พรรคเพื่อไทยพร้อมฟูลทีม สำหรับจุดเด่นของทั้ง 3 คนนั้นไม่เหมือนกันเลย บอกแล้วว่าหากเลือกพรรคเพื่อไทยจะได้ทั้ง 3 คนไปทำงาน เมื่อถามว่าการเลือกแคนดิเดตเบอร์ 1 มาจากอะไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าใครคือเบอร์ 1 2 3 ทุกบัญชีเราเสนอชื่อเต็มหมด ไม่ว่าจะเป็นส.ส.เขต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกฯ เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด เมื่อถามถึงความชัดเจนของรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ คนที่ 1 ของพรรคเพื่อไทย เพราะอาจจะเป็นแรงดึงดูดให้ประชาชนเลือกพรรค น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า สำหรับแคนดิเดตนายกฯ 3 คนของพรรคเพื่อไทย ไม่มีใครเหมือนกันเลย แต่ไม่ว่าจะเป็นเบอร์ไหนก็ทำงานร่วมกันอยู่ดี นี่คือสิ่งสำคัญ วันนี้จะอาศัยแค่พรรคเพื่อไทย เราต้องชนะไปด้วยกัน ประชาชนต้องออกมาเลือกอนาคตของตัวเองไปพร้อมกับพรรคเพื่อไทย เมื่อถามว่ามั่นใจกว่าพรรคอื่นหรือไม่ที่มีแคนดิเดตนายกฯ 3 คน ในขณะที่พรรคอื่นมีคนเดียว น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อย่างที่บอกว่าเราเจออะไรกันมาเยอะ และเราตั้งใจกันจริง ๆ ในเรื่องนโยบาย พวกเราทั้ง 3 คนพร้อมเป็นตัวเลือกให้ประชาชน เพราะเราอยากได้นายกฯ ที่มาจากพรรคเพื่อไทย เพื่อพลักดันนโยบายของพรรคเพื่อไทยให้เป็นจริงได้”

ผู้สื่อข่าวต่างประเทศถามว่า หลังการเลือกตั้งจะไปร่วมมือกับพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เร็วเกินไปที่จะพูด ขอโฟกัสที่การเลือกตั้ง สนใจผลการเลือกตั้งของพรรคเราเป็นอันดับแรกก่อน 

เมื่อถามถึงกรณีที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ยกบทเพลงพระราชนิพนธ์มาพูด ระหว่างพิธีครบรอบวันสถาปนากระทรวงกลาโหม ว่าหากประเทศชาติขาดความรักความสามัคคี ก็ไม่อาจเกิดความสงบ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ถูกต้องประเทศชาติต้องมีความสามัคคีกัน เพราะฉะนั้นหากประชาชนเลือกมาแล้ว ก็ไม่ควรทำรัฐประหาร 

‘กกต.’ แจง ใช้ ‘รถแห่หาเสียง-เปิดเพลงพรรค’ ได้ แต่ห้ามห้ามรื่นเริง ชี้!! ผู้ช่วยหาเสียงทำทุกอย่างได้เหมือนผู้สมัคร ย้ำห้ามทำผิดกฎหมาย

‘เลขากกต.’ แจง ‘ศรีสุวรรณ’ ร้องนักการเมืองใช้รถกระบะ-ปิกอัพแห่หาเสียงได้-เปิดเพลงพรรคได้ แต่ห้ามรื่นเริง สำหรับผู้ช่วยหาเสียงทำได้ทุกอย่างเหมือนผู้สมัคร แต่อย่าทำผิดกฎหมาย ขณะคู่สมรสนักร้อง/นักแสดง ของผู้สมัครช่วยหาเสียงได้ไม่คิดเป็นค่าใช้จ่าย

(5 เม.ย.66) นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการใช้รถแห่หาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ว่า สามารถใช้หาเสียงได้เมื่อมีผู้สมัคร หรือสมาชิกพรรค ตลอดจนแคนดิเดตนายกฯของพรรคอยู่บนรถ และสามารถเปิดเพลงหรือร้องเพลงของพรรคได้เท่านั้น แต่รถแห่ที่มีการแสดงรื่นเริงบนรถทำไม่ได้ ดังนั้นหากมีการร้องเรียนมาที่ กกต.จะต้องพิจารณาเป็นกรณี

ส่วนผู้ช่วยหาเสียงของพรรคการเมืองสามารถทำได้ทุกอย่างเหมือนกับผู้สมัคร แต่อย่าทำอะไรที่ผิดกฎหมาย และสามารถขึ้นเวทีดีเบตได้ หากพรรคส่งเป็นตัวแทน และอยากให้สื่อให้โอกาสกับทุกพรรคการเมืองได้ประชันนโยบายเวทีดีเบต ซึ่งการทำกิจกรรมของผู้ช่วยหาเสียงจะต้องคิดเป็นค่าใช้จ่ายของพรรคทั้งหมด ยกเว้นกรณีที่เป็นสามีหรือภรรยาของผู้สมัครจะถือเป็นคนเดียวกันตามกฎหมาย จึงไม่ต้องคิดรวมเป็นค่าใช้จ่ายหาเสียง ดังนั้นแม้คู่สมรสจะเป็นดารานักร้องหรือนักแสดงก็สามารถช่วยหาเสียงได้โดยไม่คิดเป็นค่าใช้จ่าย


ที่มา : https://www.naewna.com/politic/722415

‘ศุภชัย’ เผยศาลสั่งห้าม ‘ชูวิทย์’ ยุ่งเรื่องกัญชาพรรค ‘ภท.’ ชี้!! มีเจตนาบิดเบือนความเข้าใจของประชาชน

‘ศุภชัย’ เผยศาลสั่งห้าม ‘ชูวิทย์’ จ้อ-แสดงการกระทำด้วยวิธีใด ๆ เกี่ยวกับปม ‘กัญชา’ ที่เกี่ยวข้อง ‘พรรคภูมิใจไทย’ อีก

(5 เม.ย.66) นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า วานนี้ (4 เม.ย.66) พรรคภูมิใจไทย มอบอำนาจให้ตนยื่นคำฟ้องต่อศาลแพ่ง กรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กระทำละเมิดต่อ พรรคภูมิใจไทย ในการแพร่ข่าว ไขข่าว ฝ่าฝืนต่อความเป็นจริงทำให้พรรคเสียหาย เป็นการฟ้องละเมิดและเรียกค่าเสียหาย และยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว และไต่สวนฉุกเฉิน ห้ามมิให้นายชูวิทย์ ดำเนินการตามที่ถูกฟ้อง คือ การกล่าวหาบิดเบือน กับพรรคภูมิใจไทย 

ทั้งนี้ เมื่อวาน (4 เม.ย.66) หลังจากคณะตุลาการพิจารณาแล้วเห็นว่าคำร้องเป็นการร้อง ห้ามมิให้พูด อาจจะเป็นการฟ้อง ซึ่งอาจจะเป็นผลกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งคำร้องไม่เป็นการเฉพาะเจาะจง เป็นการยื่นคำร้องทั่วไป จึงยกคำร้อง แต่วันนี้พรรคภูมิใจไทย ได้ไปยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว ขอไต่สวนฉุกเฉิน อีก และมีการไต่สวนจนเสร็จสิ้นเมื่อช่วงบ่าย ออกมา

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า โดยเนื้อหามีดังนี้ วิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์แล้วข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน หลายสาขา ทั้งทางวิทยุ โทรทัศน์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งใช้เครื่องกระจายเสียงประกาศข้อเท็จจริงต่างๆ ตามคำฟ้องในที่สาธารณะ เพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่า โจทก์มีนโยบายที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และสมาชิกของโจทก์ไม่เหมาะสมที่จะได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งข้อเท็จจริง ตามที่จําเลยกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายต่อบุคคลทั่วไปนั้น ยังมิได้มีการพิสูจน์ว่าเป็นความจริงตามที่จําเลยกล่าวอ้างหรือไม่ จึงเป็นการกระทําซ้ำ และกระทําต่อไป ซึ่งการที่โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่าจําเลยกระทําละเมิด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top