ความดีที่ถูกมองข้าม เทียบมุมมองนักการเมืองที่ดีในทัศนะของคนอินเดีย ในขณะที่ไทยยังชิงอวด ‘ความเก่ง’ เหนือ ‘ความดี'

 

ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเลือกตั้งในบ้านเรา ระบอบประชาธิปไตยที่ดีจะอยู่รอดได้หรือไม่ แล้วเราคนไทยเคยนึกถึงนิยามของ ‘นักการเมืองที่ดี’ แล้วหรือยัง? ทุกวันนี้ทุกพรรคการเมืองในสนามเลือกตั้งบ้านเราล้วนแล้วแต่ขาย ‘ความเก่ง’ และแทบไม่มีพรรคการเมืองไหนขาย ‘ความดี’ เลย จึงขอนำเสนอบทความนี้ ซึ่งการกล่าวถึง นักการเมืองที่ดีในทัศนะของคนอินเดีย

ชาวอินเดียจะได้รับประโยชน์มากมายจากงานวิจัยในเรื่อง ‘ใครคือนักการเมืองที่ดี’ เพราะเราเคยถามกันไหมว่า ‘นักการเมืองที่ดีเป็นอย่างไร?’ อย่างไรก็ตาม ในประเทศอย่างเรา (อินเดีย) การถกเถียงกันเรื่องการเมืองเป็นเรื่องปกติที่แผงขายน้ำชาริมถนนและบนรถไฟ แต่เราบังเอิญหลีกเลี่ยงคำถามนี้ การอภิปรายเหล่านี้ส่วนใหญ่มีนัยยะเชิงวิพากษ์ มีการแบ่งขั้วตามอุดมการณ์ทางการเมืองที่ใคร ๆ มอบให้ และส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ว่าด้วย ‘การเลือกคนที่เลวที่น้อยกว่า’ แล้วอะไรล่ะที่ขัดขวางไม่ให้เราปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความจริงที่สำคัญของคำถาม?

ผู้คนต่างพากันคลั่งไคล้ในความคิดที่ว่า รัฐบาลปล่อยให้พลเมืองไม่มีการศึกษา เพราะมันง่ายที่จะปกครองพลเมืองที่ไร้การศึกษา แต่ในปัจจุบันด้วยความสามารถของอินเทอร์เน็ต อุปสรรคในการเข้าถึงข้อมูลได้ถูกทำลายลง และประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้เพียงแค่สัมผัสสมาร์ทโฟน สิ่งนี้น่าจะทำให้พลเมืองของประเทศหนึ่งหลงระเริงกับการคอร์รัปชั่น อัตราการเกิดอาชญากรรมสูง และทุกสิ่งที่ไม่ถูกต้องในประเทศกำลังพัฒนา เพื่อค้นหานักการเมืองที่เหมาะสมเป็นตัวแทนของพวกเขา

บางคนบอกว่า ‘นักการเมืองสมัยนี้ไม่ดีพอ’ สำหรับบางคน ‘การเมืองไม่เคยสร้างประโยชน์อะไรเลย’ และในขณะที่ยังมีคนอีกจำนวนหนึ่งบอกว่าเป็นพวกที่ ไม่ยุ่งกับการเมือง" แม้ว่าก่อนหน้านี้จะบ่งชี้ว่าผู้คนกำลังหมดความสนใจในการเมือง แต่การเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็วสู่ยุคดิจิทัลทำให้ผู้คนหันไปสนใจเรื่องการเมืองในทันที แม้ว่าจะมีทั้งเรื่องแย่และแย่กว่าก็ตาม

ระบอบประชาธิปไตยของอินเดียที่ปรารถนาจะเป็นมหาอำนาจและศูนย์กลางความรู้ของโลกได้พยายามดิ้นรนเพื่อให้ทันกับธรรมชาติของการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป คนอินเดียเคยยกย่องชื่นชมนักการเมืองรุ่นแรกที่เติบโต และเป็นผลพวงของการต่อสู้เพื่อเอกราชกับการปกครองของอังกฤษ เราบูชาเสน่ห์และวิธีการของมหาตมะ คานธี ความเรียบง่ายของศาสตรี ความมุ่งมั่นของพาเทล ความรู้และวิสัยทัศน์ของอัมเบดการ์ ความซื่อสัตย์ของชอมธารี จรัล ซิงห์ และคนอื่น ๆ เรามีชีวิตอยู่ในความถวิลหาผู้นำที่เป็นไอดอลในสมัยก่อน แต่ไม่เต็มใจที่จะพัฒนาผู้นำสำหรับอินเดียในอนาคต หากรัฐบาลชุดก่อน ๆ หรืออย่างน้อยที่สุดพรรคการเมืองได้ลงทุนเพื่อหาผู้ที่เหมาะสมลงแข่งขันในการเลือกตั้ง ประเทศจะได้ประโยชน์มากมายจากมัน แต่เราจะไปจุดนั้นได้อย่างไร?

ประเทศที่พัฒนาแล้วได้มาถึงจุดที่พวกเขาอยู่ เพราะพวกเขาเข้าใจถึงความสำคัญของการวิจัยและได้ลงทุนกับมัน เราต้องเข้าใจว่าความรู้มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ความรู้เกี่ยวกับกลไกที่ยั่งยืนในการระบุประเภทผู้สมัครรับเลือกตั้งที่เหมาะสมจะให้ผลลัพธ์ดังที่คาดหวัง แต่ในอินเดีย ทั้งประชาชนและพรรคการเมืองไม่ได้ทำงานเพื่อริเริ่มวาทกรรมว่า 'ใครเป็นนักการเมืองที่ดี' เป็นเพียงตำนานหรือสามารถกำหนดคุณลักษณะของ 'นักการเมืองที่ดี' ได้จริงหรือไม่?

งานวิจัยก่อนหน้านี้โดย ศ. Rainbow Murray (สำนักการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ วิทยาลัย Queen Mary มหาวิทยาลัยแห่ง London) ในปี ค.ศ. 2010 และ ค.ศ. 2015 และ Reuven Hazan & Gideon Rahat ในปี ค.ศ. 2010 แสดงให้เห็นว่า บรรดาพรรคการเมืองใช้เกณฑ์อัตวิสัยหลายอย่างในการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง เช่น ฝีปาก ความฉลาด และความสามารถพิเศษ พวกเขาอาจเลือกผู้สมัครตามตัวแปรที่ไม่มีความชัดเจน เช่น ความภักดีต่อพรรค ความสัมพันธ์ในครอบครัว และอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ศ. Murray ให้เหตุผลว่าการใช้ตัวแปรอื่นแทน เช่น 'ความสำเร็จทางการศึกษา' และ 'เส้นทางอาชีพ' เพื่อวัดความเก่งกาจและความสามารถพิเศษเป็นการสร้างปัญหา เนื่องจากการศึกษาที่ใช้เกณฑ์เหล่านี้อาจพบว่า เป็นการยากที่จะแยกแยะระหว่างผู้ที่ได้รับสถานะทางสังคมสูงระหว่างผู้ที่บรรลุและผู้ที่ได้รับมาโดยสิทธิพิเศษ การวิจัยของ ศ. Murray ทำให้เธอสรุปได้ว่า ผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเลือกตั้งคือ บุคคลที่มีความรู้จริง และพิสูจน์ได้สามารถจัดการปัญหา โดยเฉพาะปัญหาที่ผู้คนต้องเผชิญและอุทิศตนเพื่อจัดการกับปัญหาเหล่านั้น บุคคลนั้นควรมีทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ที่โดดเด่น และควรสามารถต่อสู้เพื่อให้ได้เหตุผลและสามารถเจรจาประนีประนอมได้เมื่อจำเป็น ซึ่งพอจะอนุมานได้ว่า คุณสมบัติที่เธอระบุสำหรับนักการเมืองที่ดีคือ ความรู้ ทัศนคติในการแก้ปัญหา ความตั้งใจในการทำงาน และทักษะในการสื่อสารและได้รับสนับสนุนที่ดี

นักจิตวิทยาองค์กรยังมีส่วนร่วมในการระบุ 'คุณลักษณะของนักการเมืองที่ดี' ศ. Jo Silvester (มหาวิทยาลัย Loughborough) ผู้นำในแวดวงนี้ได้อธิบายในบทสัมภาษณ์ที่ตีพิมพ์ใน The Psychologist ซึ่งเป็นสิ่งพิมพ์รายเดือนอย่างเป็นทางการของ British Psychological Society ว่า เธอได้แสดงความคิดเห็นแบบ 360 องศาของนักการเมืองจากสามพรรคการเมืองในสหราชอาณาจักร ซึ่งนำไปสู่การทำแผนที่ความต้องการในการพัฒนาที่สำคัญสำหรับนักการเมืองเพื่อรวบรวมมุมมองทั่วไปเกี่ยวกับผลงานทางการเมืองที่ดีและไม่ดี เธอสัมภาษณ์บุคคลจากทุกกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อพัฒนากรอบตัวชี้วัดความสามารถและพฤติกรรมที่สามารถใช้เป็นเกณฑ์การคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งดำรงตำแหน่งทางการเมือง

นอกจากนี้ การศึกษาต่างๆ พบว่า 'พื้นที่' และ 'การเข้าถึง' ของผู้สมัครมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับการตั้งค่าของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง รวมถึง Cowley (2013), Vivyan และ Wagner (2015) ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเชื่อว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งในท้องถิ่นอาจมีความเข้าใจปัญหาในท้องถิ่นดีขึ้น ซึ่งอาจช่วยให้พวกเขาจัดการกับปัญหาเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คุณสมบัติหลายประการของนักการเมืองที่ดีตามที่ระบุไว้ในงานวิจัยก่อนหน้านี้ เช่น Berkvens & Van den Boomen (2009), Silvester & Sutton (2010), Silvester (2012), Murzaeva & Akçali (2013) และ Murray (2015) มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคุณสมบัติที่ระบุไว้สำหรับการเป็นผู้นำในทฤษฎีการจัดการและสังคมสงเคราะห์ต่าง ๆ ดังนั้น คุณสมบัติของผู้นำ เช่น ความไม่เห็นแก่ตัว ความซื่อสัตย์ และวิสัยทัศน์ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อคำจำกัดความของนักการเมืองที่ดี อย่างไรก็ตาม หากไม่มีตัวชี้วัดที่สนับสนุนโดยการวิจัยสำหรับนักการเมืองที่ดี มันเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไป โดยเฉพาะในบริบทของอินเดีย เนื่องจากนักการเมืองไม่ได้ถูกมองในแง่บวกจากผู้คนจำนวนมาก การสำรวจโดย Pew Research Center ที่เผยแพร่ในปี ค.ศ. 2019 ระบุว่า 2 ใน 3 หรือ 64% ของชาวอินเดียมองว่า “นักการเมืองส่วนใหญ่เป็นคนโกง” โดยมากกว่า 50% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า “ไม่ว่าใครจะชนะการเลือกตั้ง สิ่งต่าง ๆ ก็จะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก"

การวิจัยในทิศทางนี้ในบริบทของอินเดียควรพิจารณาแนวทางหลายมิติโดยพิจารณาว่า นักการเมืองมีบทบาทหลายอย่าง ควรได้รับแรงบันดาลใจจากสาขาการจัดการสังคมสงเคราะห์และจิตวิทยา ในกรณีของสหราชอาณาจักร ศ. Silvester ได้ทำงานร่วมกับพรรคการเมืองต่าง ๆ เพื่อ "พัฒนากระบวนการคัดเลือกผู้สมัครที่มีความยุติธรรมและมีประสิทธิภาพ" ความคิดริเริ่มดังกล่าวโดยพรรคการเมืองจะช่วยพัฒนากลไกที่ยั่งยืนสำหรับพวกเขาในการสร้างกลุ่มผู้สมัครที่เหมาะสมสำหรับการสรรหาทางการเมือง

ความคิดริเริ่มที่มุ่งเน้นจะต้องดำเนินการโดยคลังความคิด องค์กรภาคประชาสังคม และสถาบันการศึกษาที่มุ่งเน้นการวิจัยในอินเดีย เพื่อระบุคุณลักษณะของนักการเมืองที่ดีจากมุมมองของพรรคการเมืองและผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จากการวิเคราะห์โดยสมาคมเพื่อการปฏิรูปประชาธิปไตย (ADR) ในปี ค.ศ. 2004 จากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 514 คน 24.3% มีคดีอาญาติดตัว ในการวิเคราะห์ในปี ค.ศ. 2019 ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณเนื่องจาก 43.5% ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 542 คนมีคดีอาญาติดตัว นอกจากนี้ 31% ของผู้สมัครจำนวน 1,064 รายที่ลงแข่งขันในช่วงแรกของการเลือกตั้งสมัชชาแห่งรัฐพิหารในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2020 มีคดีอาญาติดตัว ตามที่ ADR ตั้งข้อสังเกต

สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า ชาวอินเดียยังขาดความเข้าใจในบริบทที่ครอบคลุมเรื่องที่ว่า 'ใครเป็นนักการเมืองที่ดี' ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ เพื่อความอยู่รอดของระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อินเดียจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากความรู้ความเข้าใจจากการวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนในประเด็นนี้ ปัจจุบันอินเดียเป็นประเทศประชาธิปไตยที่มีจำนวนพลเมืองมากที่สุดในโลก

นโยบายประชานิยมขายฝันทำให้เศรษฐกิจของ ‘เวเนซูเอล่า’ พินาศล้มจมมาแล้ว

เช่นเดียวกับประเทศไทยซึ่งผู้เขียนได้กล่าวมาข้างต้นว่า ทุกวันนี้ทุกพรรคการเมืองในสนามเลือกตั้งบ้านเราล้วนแล้วแต่ขาย ‘ความเก่ง’ และแทบไม่มีพรรคการเมืองไหนขาย ‘ความดี’ เลย และขอยืนยันว่า ความสามารถหรือความเก่งของทุกพรรคการเมืองไทยนั้นอยู่ในระดับที่ไม่ได้แตกต่างกันจนเกินไป แต่ที่หายากกว่ามาก ๆ คือ พรรคการเมืองและนักการเมืองที่ดี คนไทยจึงต้องไม่หลงลมนโยบายประชานิยมขายฝัน อันได้แก่ การให้ การแจก การแถม  ทั้งหลาย ซึ่งได้ทำให้เศรษฐกิจของหลาย ๆ ประเทศในโลกนี้ อาทิ อาร์เจนติน่า หรือเวเนซูเอล่า พินาศล้มจมมาแล้ว หาคนที่ดีสุด หรือถ้าจำเป็นก็คือ คนที่เลวน้อยที่สุด มาบริหารประเทศมาทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองให้ได้ จะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดสำหรับประเทศชาติอันเป็นที่รักยิ่งของเรา

 

เรื่อง: ดร.ปุณกฤษ ลลิตธนมงคล

ที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการสมัยใหม่ อาจารย์พิเศษหลักสูตรปริญญาโทและเอก นักเล่าเรื่องมากมายในหลากหลายมิติ เป็นผู้ที่ชื่นชมสนใจในประวัติศาสตร์สงครามสมัยใหม่ตลอดจนอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ