Monday, 20 May 2024
WEEKEND NEWS

'อิมพิเรียลเวิลด์สำโรง' มอบน้ำดื่มส่งต่อสะพานบุญ (นายกคนพิการ) เพื่อเป็นกำลังให้พี่น้องประชาชน คนพิการ คนยากไร้ คนด้อยโอกาส 

เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์สำโรง (สมุทรปราการ)’นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล’ นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย และตำแหน่งคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการด้านแรงงาน  ‘นายโกสินธ์ จินาอ่อน’ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์สยามโฟกัสไทม์  ‘นายณัฐวุฒิ เหมือนเพชร’ ผู้อำนวยการข่าวจังหวัดสมุทรปราการ (หนังสือพิมพ์สยามโฟกัสไทม์) เข้าพบ ‘นายสุรพงษ์ ปิ่นสุวรรณ’ เป็นตัวแทน ‘นายสงคราม  กิจเลิศไพโรจน์’ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ  ‘นายภิญโญ กิจเลิศไพโรจน์’ เลขานุการคณะกรรมาธิการการต่างประเทศสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับ ‘มูลนิธิกิจเลิศไพโรจน์’ ส่งมอบน้ำดื่ม จำนวน 1,200 ขวด ให้กับ ‘นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล’ นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย พร้อมคณะฯ นำไปใช้ในการดำเนินงานช่วยเหลือพี่น้องประชาชน คนพิการ คนยากไร้ คนด้อยโอกาส ผู้ประสบภัยพิบัติ และ สถานบริการฯให้การช่วยเหลือประชาชนที่กำลังต่อสู้กับสภานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัส Covid_19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในประเทศไทยและทั่วโลก ณ ขณะนี้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ และแสดงความห่วงใยให้กับพี่น้องประชาชน คนพิการ คนยากไร้ คนด้อยโอกาส และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่กำลังดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้รอดปลอดภัยจากสถานการณ์อันเลวร้ายนี้ไปได้ด้วยดี


เผาแล้ว 35 ศพ เหยื่อโควิด!! เจ้าอาวาสวัดดังแห่งบางพลี​ ประกอบพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศล เผย จะยอมเผาจนเตาพัง

วัดบางพลีใหญ่กลาง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้จัดพิธีทำบุญทักษิณานุปทานเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 โดยที่ทางวัดบางพลีใหญ่กลางเมตตารับอนุเคราะห์เผาศพให้ฟรี ไม่คิดค่าใช้จ่าย​ รวม 35 ราย

ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้)  เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นำคณะสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลาง  ร่วมประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทานเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 โดยนายฉะโอด รุ่งเรือง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางพลีใหญ่  เป็นประธานฝ่ายฆราวาส จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย 

โดยมี พ.ต.อ.รักศักดิ์  เมฆจินดา  ผกก.สภ.คลองด่าน ดร.วีร์สุดา รุ่งเรือง อดีตกำนันตำบลบางพลีใหญ่ ข้าราชการตำรวจ สภ.บางพลี เจ้าหน้าที่ อสม. และทางครอบครัวผู้เสียชีวิตที่เดินทางนำอัฐิของผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิดเข้าร่วมทำพิธีในครั้งนี้

ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้)  เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง กล่าวว่า ในวันนี้ทางวัดบางพลีใหญ่กลาง พร้อมด้วยคณะสงฆ์วัดบางพลีใหญ่กลางได้เห็นถึงความสำคัญของครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ที่เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ทางวัดบางพลีใหญ่กลางจึงได้ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทาน เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 โดยทางวัดได้รับฌาปณกิจศพเหยื่อโควิดมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายน 64 ซึ่งขณะนี้ทางวัดบางพลีใหญ่กลางได้เผาศพด้วยโรคโควิด-19 ไปแล้วรวม 35 ราย  โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ ยังกล่าวต่ออีกว่า บางวันเผา 2 ราย บางวันเผา 3 ราย ตัวเลขสูงสุดที่ทางวัดบางพลีใหญ่กลางได้รับฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิดสูงสุดอยู่ที่ 11 รายต่อวัน กระทั่งมาระยะหลังทางวัดได้รับการประสานขอความอนุเคราะห์ให้เผาศพผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง แบบว่าเผาศพกันรายวัน จนทางวัดต้องแยกเตาเผาศพไว้ 1 เตา เพื่อไว้เผาศพผู้เสียชีวิตแบบเสียชีวิตโดยธรรมชาติ ในส่วนญาติหรือครอบครัวผู้เสียชีวิตที่มาติดต่อขอให้ทางวัดช่วยเผาศพให้นั้น ทางวัดบางพลีใหญ่กลางไม่เคยเรียกร้องค่าใช้จ่ายใดๆ ทางวัดจะดูแลรับผิดชอบให้ทั้งหมดแต่หากญาติโยม หรือครอบครัวผู้เสียชีวิตจะร่วมทำบุญก็แล้วแต่ความศรัทธาหรือหากจะไม่ร่วมทำบุญทางวัดก็ไม่เรียกร้อง  เพราะถือว่าวัดคือที่พึ่งของประชาชนมีความทุกข์วัดก็รับอนุเคราะห์ ญาติโยมทุกคนใครมีความเดือดร้อนทางวัดช่วยเหลือได้ก็ยินดีให้ความช่วยเหลือ โดยที่ผ่านมามีประชาชนได้นำน้ำมันมาบริจาคให้กับทางวัด เพื่อไว้ใช้เผาศพผู้ป่วยโควิด

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้เตาเผาศพที่ใช้เผาศพโควิดอาจมีการเสื่อมสภาพได้เพราะต้องใช้ความร้อนสูงมากและเผาอยู่ตลอดแทบทุกวันก็อาจมีการเสื่อมสภาพได้เป็นธรรมดา แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา ทางวัดจะอนุเคราะห์เผาศพโควิดจนกว่าเตาเผานั้นจะพังจนไม่สามารถเผาได้  ขณะนี้วัดบางพลีใหญ่กลางมีคิวจองเผาศพโควิด-19 อยู่อีกหลายรายทางวัดก็มีความยินดีรับอนุเคราะห์ทุกราย แต่ทางวัดบางพลีใหญ่กลางจะไม่รับฌาปนกิจศพเฉพาะวันศุกร์เท่านั้น    

ที่มา: คิว-ข่าวสมุทรปราการ​ รายงาน

รวมน้ำใจคนไทย!! 'คนละไม้_คนละมือ'​ ช่วยเหลือคนพิการ คนยากไร้ คนด้อยโอกาส และบุคลากรการแพทย์ 'สู้ภัยโควิด19'

รวมน้ำใจคนไทย!! 'คนละไม้_คนละมือ'​ ช่วยเหลือคนพิการ คนยากไร้ คนด้อยโอกาส และบุคลากรการแพทย์ 'สู้ภัยโควิด19'

นางสาวภัสวรินทร์ กิตติโชคกุลพัทธ์​ นายกสมาคมส่งเสริมและพัฒนาคนพิการไทย 'คุณเมตตา มะตัน'​ (พี่ยะห์)  จิตอาสา นำน้ำสมุนไพรจำนวน 150 ขวด 'คุณยุภาพร เตสระน้อย'​ นำข้าวกล่อง จำนวน 100 กล่อง เพื่อนำไปมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ของ โรงพยาบาลแหลมฉบัง และ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา เพื่อเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ถึงแม้จะเจอสถานการเลวร้ายแต่เราคนไทยไม่ทิ้งกัน 

ต่อจากนั้นลงพื้นที่ หมู่ 8 อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นำรถเข็น Wheelchair ขนาดใหญ่พร้อมด้วยข้าวสารอาหารแห้ง ไปมอบให้คนพิการยากไร้ โดยได้ให้การแนะนำเรื่อง สิทธิสวัสดิการของคนพิการในด้านต่างๆ เพื่อนำไปพัฒนาและต่อยอด ในการดำรงชีวิตได้อย่างเข้มแข็งสืบไป

#เราไม่ทิ้งกัน
#คนละไม้_คนละมือ

'เฉลิมชัย'​ เร่งปั้น 'โลว์คอสต์แอร์คาร์โก้สินค้าเกษตร'​ ผนึก 'ภาครัฐ-เอกชน'​ ช่วยเกษตรกรขยายตลาดส่งออกทั่วโลก

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมเรื่องการพัฒนาระบบขนส่งสินค้าทางอากาศ​ (Air cargo system) ว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทำหน้าที่ประธานการประชุมและได้สั่งการให้เร่งดำเนินการพัฒนาระบบการขนส่งทางอากาศ​ (Air Cargo System) สำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร​ ซึ่งประกอบด้วยโครงสร้างและระบบ​ 3​ ส่วนสำคัญได้แก่ คาร์โก้เทอร์มินัล (Cargo Terminal), สายการบินคาร์โก้​ (Air Cargo Fleet) และศูนย์ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตร-อาหารแบบครบวงจรในคาร์โก้เทอร์มินัล

โดยร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ดำเนินการที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองและท่าอากาศยานภูมิภาคที่มีความพร้อมเช่นเชียงใหม่ ขอนแก่น หาดใหญ่ ภูเก็ต เป็นต้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารเป็นการบริหารโอกาสของประเทศไทยภายใต้วิกฤติโควิด19

ทั้งนี้สถาบันอาหารประเมินว่าในปี 2564 การส่งออกสินค้าอาหารของไทยจะมีมูลค่า 1.08-1.10 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.2-12.2% เทียบกับปีที่ผ่านแม้จะได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์โควิด 19 สะท้อนถึงศักยภาพของประเทศไทย

สำหรับศูนย์ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตร-อาหาร ณ คาร์โกเทอร์มินัลซึ่งทำหน้าที่ให้บริการตรวจสอบรับรองสินค้าเกษตรและอาหารทั้งสินค้าพืช ประมง และปศุสัตว์ตามมาตรฐานสากลจะต้องบริการด่วน​ (Express Service) แบบวันสต็อปเซอร์วิสใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อลดเวลาและค่าใช้จ่ายของภาคเอกชนทั้งนำเข้าและส่งออกเพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็นฮับการผลิตและขนส่งสินค้าเกษตรและอาหารของอาเซียน

นายอลงกรณ์กล่าวว่า ดร.เฉลิมชัยได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าได้หารือเบื้องต้นกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับโครงการแอร์คาร์โก้สินค้าเกษตร และมอบที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรเร่งประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วนต่อไปโดยเร็ว 

“นอกจากนี้ผู้ประกอบการบินได้นำเสนอสถานการณ์ของธุรกิจการบินและแนวทางการพัฒนาสายการบินขนส่งสินค้าทางอากาศในลักษณะโลคอสต์แอร์คาร์โก้โดยมุ่งเป้าหมายตลาดจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ตะวันออกกลาง ยุโรปและอเมริกาด้วยอัตราค่าบริการถูกกว่าอัตราค่าขนส่งในปัจจุบันและเห็นด้วยกับนโยบายของรัฐมนตรีเกษตรฯ​ โดยพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เนื่องจากการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารต้องการความสะดวกรวดเร็วส่งถึงลูกค้าปลายทางทั่วโลกด้วยคุณภาพและมาตรฐานระดับสากลซึ่งการขนส่งทางอากาศคือคำตอบ”

'ผบช.สตม.' นำทัพลงพื้นที่ตรวจเข้มชายแดน 3 จังหวัดชายแดนใต้ วางแผนสกัดคนหลบหนีเข้าเมือง ห่วงโควิดระบาด

4 กรกฎาคม 2564 ที่ จ.นราธิวาส พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.), พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส รอง ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.ศุภชาติ เวชพร ผกก.ตม.จว.นราธิวาส, พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3, พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ ผกก.สส.บก.ตม.1, พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.​ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ลงพื้นที่ตรวจแนวชายแดนใน อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ซึ่งมีช่องทางส่วนใหญ่เป็นช่องทางธรรมชาติที่คนต่างด้าวและชาวไทยใช้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ทหาร และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากชายแดนประเทศมาเลเซีย

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้เป็นไปตามข้อสั่งการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เน้นย้ำกำชับให้กวดขันเกี่ยวกับการหลบหนีเข้าเมือง โดยก่อนหน้านี้บริเวณ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นช่องทางที่คนไทยที่ทำงานในประเทศมาเลเซียลักลอบหนีกลับเข้าประเทศ โดยไม่ผ่านช่องทางปกติ เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพราะเพื่อนบ้านเรามีสถิติติดเชื้อค่อนข้างสูง

จากการประชุมและตรวจสอบ​ ร่วมกับ พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี และ พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา ทราบว่าสถานการณ์การลักลอบเข้าเมืองลดน้อยลงเพราะตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเพราะด้านพรหมแดนเปิดให้คนไทยข้ามแดนได้สามวันต่อสัปดาห์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา คณะของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจชายแดนช่องทางธรรมชาติ อ.เบตง จ.ยะลา และ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส และด่านผ่านแดนจุดต่างๆที่เชื่อมกับประเทศมาเลเซีย โดยมีการกำชับให้แต่ละพื้นที่เฝ้าระวังการหลบหนีเข้าแดนโดยผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด โดยกำชับให้ตำรวจ ตม. ปฏิบัติตามนโยบายปฏิบัติราชการ รวม 5 มาตรการ คือ...

1.ดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อสกัดกั้นการระบาดในพื้นที่เป้าหมายและสกัดกั้นการเคลื่อนย้ายกลุ่มเสี่ยง บังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มเสี่ยงต่อการแพร่โรค ต้องบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่

2.การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายให้เพิ่มความเข้มข้นในการสกัดกั้นและปราบปรามจับกุมคนต่างด้าว ขยายผลอย่างต่อเนื่อง

3.กำชับให้เพิ่มความเข้มในการใช้กฎหมาย กรณีคนต่างด้าวสัญชาติจีน ให้ตรวจสอบก่อนและหลังอนุญาตว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่

4.การกักตัวคนต่างด้าวให้ดำเนินการตามมาตรการเมื่อรับตัวผู้ต้องกักต้องมีการคัดกรอง

และ 5.สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดสายพันธ์ใหม่ ให้มีมาตรการมนการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด ในส่วนของเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด

ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รองบช.สตม./โฆษก สตม., พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1/รองโฆษก สตม. ร่วมกันเปิดเผยว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

ทั้งนี้ สตม. ขอเรียนให้ทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่​www.immigration.go.th

'ผู้ช่วยฯ รอย' ต่อยอดนโยบาย ผบ.ตร. จัดโครงการ นัดหมาย พงส.แจ้งความผ่าน ออนใลน์ ล่วงหน้า 11 สถานีนำร่อง เริ่มใช้แล้ววันนี้

'ผู้ช่วยฯ​ รอย'​ ต่อยอด นโยบาย ผบ.ตร. จัดโครงการ นัดหมาย พงส.แจ้งความผ่าน ออนใลน์ ล่วงหน้า  11 สถานีนำร่อง เริ่มใช้แล้ววันนี้ 

เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2564 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.,และ รักษาราชการแทน ผบช.ภ.2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการแพร่ระบาดของโรค โควิด 19  เพื่อต้องช่วยหยุดการแพร่กระจายโรคติดต่อร้ายแรง และลดความแออัดบนโรงพักในการใช้บริการที่สถานีตำรวจในพื้นที่ บช.ภ.2 รวมถึง จากแนวนโยบายและเจตนารมณ์ ของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข 
ผบ.ตร.ที่ต้องการบริการให้ประชาชนให้ได้รับความสะดวก ในการแจ้งความ จึงได้จัดทำโครงการ นัดหมาย พนักงานสอบสวนล่วงหน้า ทาง Online ในบางคดีความผิด ขึ้น เช่น คดียักยอกทรัพย์ ,คดีฉ้อโกง,คดีหมิ่นประมาท, คดี พ.ร.บ.เช็คฯ ซึ่งไม่ได้เป็นคดีเร่งด่วน #เมื่อนัดหมายวันเวลาแล้วค่อยมาพบ พนักงานสอบสวน เพื่อความสะดวกของประชาชน

ด้าน พล.ต.ต.สุรจิต ชินวรรน์ รอง ผบช.ภ.2 กล่าวว่า โครงการดังกล่าว ชื่อโครงการนัดหมาย พนักงานสอบสวนล่วงหน้า ผ่านระบบออนไลน์”เพื่อความสะดวกรวดเร็วกับพี่น้องประชาชน  นั้น เป็นวิสัยทัศน์แล้วก็นโยบายของ รรท.ผบช.ภ.2 โดยตำรวจภูธรภาค 2 ได้ใช้สถานีตำรวจ สภ.เมือง ทุก ภ.จว.และ เทศบาลเมืองพัทยา รวมเป็น 11 สภ.

ประกอบด้วย สภ.เมืองชลบุรี​สภ.พัทยา,​สภ.บางละมุง,​ สภ.แสนสุข สภ.เมืองปราจีนบุรี,​ สภ.เมืองระยอง,​ สภ.เมืองนครนายก,​ สภ.เมืองจันทบุรี,​ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา,​ สภ.เมืองตราด,​ สภ.เมืองสระแก้ว ในเวลา 10.00 น.ถึง 19.00.น. ในวันเวลาราชการใน 4 ข้อหาหลัก ก็คือคดียักยอก คดีฉ้อโกง คดีหมิ่นประมาทและคดี พ.ร.บ.เช็คฯ ต้องขอขอบคุณ ผบ.ตร.ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญเร่งรัดโครงการต่างๆเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมสามารถบริการพี่น้องประชาชนให้พึงพอใจสูงสุด 

สำหรับขั้นตอนนั้น ให้โหลดแอปพลิเคชัน หรือ สแกนคิวอาร์โค้ด ตามที่แจ้งให้ทราบ แล้วลงทะเบียน โดยกรอกข้อความรายละเอียด แล้วนัดหมาย กับพนักงานสอบสวน และมีการผ่านการตอบนัดหมาย จะมีการยืนยันระหัส โอทีพี​ (OTP) ถือว่าแล้วเสร็จการนัดหมาย สะดวก ปลอดภัย ลดความหนาแน่น โดยโครงการดังกล่าวนี้สามารถ ใช้บริการได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทั้ง 11 สถานี ซึ่งฝากว่าหากพบปัญหาหรือมีข้อเสนอแนะ ตำรวจภูธรภาค 2 น้อมรับและยินดีนำไปปรับปรุงระบบให้รองรับการบริการประชาชนให้ดีขึ้นต่อไป พร้อมทั้ง บช.ภ.2 ยังได้จัดทำคลิป แนะนำให้พี่น้องประชาชาชน เพื่อรณรงค์การใช้ประโยชน์จากโครงการดังกล่าวนี้ด้วย

'ธรรมนัส'​ รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์​ รุดมอบเตียงสนามพร้อมอุปกรณ์โรงพยาบาลสนาม​ที่ฉะเชิงเทรา

ณ​ ศาลาประชาคมเฉลิมพระเกียรติ ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางมามอบเตียงสนาม พร้องชุดเครื่องนอน จำนวน 500 ชุด ให้กับจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีนายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวต้อนรับ และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมรับมอบเตียงสนามในครั้งนี้ ได้แก่ ดร.กิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา, นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ สส.ฉะเชิงเทราเขต 2, พันเอกเฉลิม เนียมช่วย รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดฉะเชิงเทรา และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมในการรับมอบ

ทั้งนี้นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผวจ.ฉะเชิงเทรา ได้เร่งจัดหาสถานที่ตั้งโรงพยาบาลสนาม เพิ่มเติมอย่างเร่งด่วน หลังเตียงที่มีอยู่แล้ว 2 แห่งคือ รพ.สนาม มรภ.ราชนครินทร์ อ.บางคล้า 120 เตียง และ รพ.สนามศูนย์พุทธโสธรประชารักษ์ กองพลทหารพัฒนา​ อ.พนมสารคาม 160 เตียง รวม 280 เตียง เริ่มไม่พอผู้กับป่วยที่เพิ่มขึ้น 

ดังนั้นจึงได้จับมือเอกชน เร่งสร้าง รพ.สนาม รองรับผู้ป่วยเพิ่มขึ้น โดยขณะนี้มีโรงงานเอกชน ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.สนามจันทร์ อ.บ้านโพธิ์ อนุญาตให้ใช้พื้นที่ประมาณ 12,000 ต.ร.ม. อยู่ห่างจากชุมชน สามารถตั้งเตียงสนาม รองรับผู้ป่วยได้ 500 - 1,000 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ เตรียมการด้านไฟฟ้า น้ำประปา ห้องน้ำ และระบบการสื่อสาร​ โดยเตียงสนามที่ได้รับมอบในวันนี้จะทำการแจกจ่ายไปยังโรงพยาบาลสนามต่างๆ​ ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราต่อไป

จับแก๊งต้มตุ๋น!! หลอกจองฉีดวัคซีน หลังแอบอ้างเป็นบุคลากรทางการแพทย์ หลอกจองฉีด 'ซิโนฟาร์ม'​

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ​​​แจ้งยอดสุข​ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์​ ​​กิตติประภัสร์​รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ยรรยง ​​เวชโอสถ ​ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ​ผบก.ภ.จว.อุดรธานี, พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ​​ประชุม ​ผบก.สส.ภ.4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการในการดำเนินการ : บก.สส.ภ.4, กก.สืบสวน ภ.จว.อุดรธานี​ ได้จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ดังนี้... 

นายรนกร พุทธรักษา อายุ 31 ปี ที่อยู่ 86/8 ม.10 ต.ตาลเดี่ยว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี (ตามหมายจับของศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ. 131/64 ลงวันที่ 2 ก.ค.64 ) ​ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน​ ​“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นคนอื่นและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่หน้าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”

พฤติการณ์​ ​จากกรณีเมื่อ วันที่ 30 มิ.ย 2564 ได้มีผู้เสียหาย ชื่อ นส.เพิ่มพูน แซ่ก๊วย ที่อยู่ 316/52 ต.หมาแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้มาแจ้งความกับ พงส. สภ.เมืองอุดรธานี ว่า...

วันที่ 22 มิ.ย.64 ได้ถูกคนร้ายหลอกลวงอ้างว่าเป็นนายแพทย์ รพ.ศิริราช ชื่อ นายแพทย์ สิทธิโชค ทวีประดิษฐ์ผล มีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ยี่ห้อ 'ซิโนฟาร์ม'​ เหลือจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งได้สั่งชื้อจาก ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ หากต้องการฉีดวัคซีนดังกล่าวให้ชำระเงินค่าวัคซีนรายละ 1,800 บาท (จำนวน 2 โดส) จนกระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อ ได้เข้าไปในไลน์กลุ่ม 'Vaccine Sinopharm'​ 

เมื่อผู้เสียหายได้เข้าไปอยู่ในไลน์กลุ่มดังกล่าวแล้ว คนร้ายยิ่งให้ความเชื่อมั่นว่าเป็นกลุ่มที่แท้จริง โดยให้ผู้แจ้งเข้ากลุ่มอีกหนึ่งกลุ่ม ชื่อว่า 'ระบบ ไอที วัคซีนทางเลือก'​ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีสมาชิกเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้เสียหายหลงชื่อว่ามีอยู่จริง จึงได้ติดต่อและรวบรวมเงินจากบุคคลที่ผู้เสียหายรู้จัก ที่อยากมาร่วมฉีดวัคซีนได้จำนวน 20 คน รวมเป็นเงิน 36,000 บาท และได้โอนเงินเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 64 เข้าบัญชี ธ.กสิกรไทย เลขที่ 0331431532 ซึ่งปรากฏชื่อบัญชี นายวีระศักดิ์ สุขสำแดง

ต่อมาผู้เสียหายไปตรวจสอบรายชื่อในโรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดอุดรธานีกลับไม่มีรายชื่อที่แจ้งไว้ จึงเชื่อว่าได้ถูกหลอกลวงแล้วและได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่สภ.เมืองอุดรธานี และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ ทราบชื่อว่านายรนกร พุทธรักษา และนายวีระศักดิ์ สุขสำแดง ตามหมายจับที่ 131/64 และ 130/64 เมื่อวันที่  2 ก.ค.64 ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันหลอกผู้เสียหายรวมทั้งสิ้นไปแล้วกว่า 200 ราย และมีมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นประมาณ 360,000 บาท 

ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนว่า ให้รอฟังติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะไม่ให้โดนหลอกคล้ายกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ และจากการตรวจสอบความเสียหายได้พบว่า ยังมีความเสียหายอีกในหลายพื้นที่อาทิเช่น สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น, สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี, สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ,​ สน.เตาปูน,​สภ.สมเด็จเจ้าพระยา และ ยังมีผู้เสียหายอีกจำนวนหลายร้อยรายที่ยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี ทั้งนี้หากมีผู้เสียหายท่านใดที่หลงเชื่อไปแล้ว ขอให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจที่มีการโอนเงิน เนื่องจากเป็นการกระทำผิดหลายท้องที่

'รอง ผบ.ตร.'​ และ 'ผบช.สตม.'​ ร่วมต้อนรับคณะนายกฯ ร่วมพิธีเปิด Phuket Sandbox - ตม.ทอ.ภูเก็ต ตรวจผู้โดยสารวันแรก...ราบรื่น!!

สืบเนื่องจากวันที่ 1 ก.ค.64 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นประธานเปิดโครงการฯ และให้การต้อนรับผู้โดยสารในโครงการ Phuket Sandbox โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.​ (มค), พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. ร่วมพิธีและให้การต้อนรับคณะฯ

เหตุที่รัฐบาลเลือกนำร่องโครงการ Sandbox ที่จังหวัดภูเก็ตนั้น เนื่องจากเป็นพื้นที่เล็ก สามารถจัดระบบควบคุมดูแลได้ง่าย นอกจากนั้น เศรษฐกิจร้อยละ 90 ของประเทศไทยมาจากการท่องเที่ยว ซึ่งเชื่อมต่อไปยังภาคส่วนอื่น ๆ เช่น การผลิต ภาคการเกษตรโดยรวมของประเทศ หากสำเร็จก็สามารถขยายทำ Sandbox ต่อไปยังพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ของประเทศได้

โดยการตรวจเที่ยวบิน ณ ด่าน ตม.ทอ.ภูเก็ต ในโครงการ Phuket Sandbox เมื่อวันที่ 1 ก.ค.64 เป็นไปด้วยความราบรื่น มีเที่ยวบินขาเข้าทั้งหมด 5 เที่ยวบิน ผู้โดยสารรวม 339 คน

  -​ ALQ 24 คน
  - Sandbox 315 คน

ทางด้าน พล.ต.ต.อาชยน​ ไกรทอง รอง ผบช.สตม.ในฐานะโฆษก สตม. เเละ พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1 ในฐานะ รองโฆษก สตม.ร่วมกันเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ทาง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ได้สั่งการให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่มี ตม.จว.อยู่ทุกจังหวัด คอยช่วยเหลือดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กลับเข้ามาท่องเที่ยวในไทยทั้งในปัจจุบันและอนาคต ทั้งในด้านการบริการและความมั่นคงของประเทศไทยแบบผสมผสานควบคู่กันไปให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด และก่อเกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยสูงสุด 

โดยตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพร้อมทำงานให้กับประเทศไทยและประชาชนอย่างเต็มที่​ ตามนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุด ผบ.ตร. ทั้งนี้หากประชาชนสนใจต้องการรู้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตำรวจ ตม. สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.immigration.go.th. ได้ทันที

'เตือนภัย'​ ระวังโดนแอปพลิเคชันเงินกู้เรียกดอกเบี้ยสุดโหด แถมขู่ฆ่าหรือหลอกให้ถ่ายคลิปเปลือยแลกหนี้

เมื่อวันที่ 3 ก.ค.2564 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาด้านการเงิน โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 อาจคิดใช้บริการแอปพลิเคชันเงินกู้ ที่พยายามเข้าถึงประชาชนในหลายช่องทาง ทั้งการส่งข้อความสั้น (SMS) พร้อมลิงก์ เพื่อชักชวนผ่านเว็บไซต์หรือสื่อสังคมออนไลน์ในหลายแพลตฟอร์ม โดยอ้างว่าไม่ต้องมีคนค้ำประกัน กู้ง่าย ได้ไว ไม่เช็คเครดิตบูโร ไม่ต้องมีเอกสาร รับเงินสดทันที

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยากจะเตือนพี่น้องประชาชนถึงภัยที่มากับแอปพลิเคชันเงินกู้เหล่านี้ โดยที่ปรากฎชัดเจนจะมีอยู่ 3 ลักษณะ ได้แก่... 

1. การขูดรีดดอกเบี้ยที่มากเกินกว่ากฎหมายกำหนด โดยจะหักเงินจากวงเงินที่ขอกู้ทันที เช่น หากตกลงกู้ 6,000 บาท จะโอนมาให้ผู้ขอกู้เพียง 3,600 บาท โดยอ้างว่าเงินที่หัก 2,400 บาท คือดอกเบี้ยต้องหักเงินทันที เมื่อผู้กู้เห็นว่าถูกเรียกดอกเบี้ยมากเกินไป จะขอยกเลิกการกู้เงิน ทางแอปพลิเคชันกู้เงินจะไม่ยอม อีกทั้งยังบอกให้ผู้กู้ใข้เงินต้นคืนให้ได้ภายใน 5 วัน 

2. หากผู้กู้ผิดสัญญาไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าเงินกู้ทันตามเวลาที่กำหนด จะมีการโทรข่มขู่ ผู้กู้ หรือ โทรไปทวงถามกับเพื่อนของผู้กู้ในลักษณะประจาน หรืออ้างว่าเพื่อนของผู้กู้ไปค้ำประกันเงินกู้ให้ผู้กู้ ทั้งๆ ที่เพื่อนผู้กู้ไม่ทราบเรื่องราวแต่อย่างใด แต่เหตุที่แอปพลิเคชันสามารถทราบหมายเลขโทรศัพท์ของเพื่อนผู้กู้ได้เป็นเพราะ เมื่อผู้กู้สมัครกู้เงินผ่านแอปพลิเคชัน

โดยแอปพลิเคชันเงินกู้จะสามารถเข้าถึงรายการบัญชีผู้ติดต่อ (Contact) ในโทรศัพท์ของผู้กู้ได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่แอปพลิเคชันเงินกู้จะสุ่มโทรศัพท์หรือส่งข้อความสั้นทวงเงินในลักษณะประจานไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของเพื่อนผู้กู้

3. มีการโทรศัพท์ขู่ฆ่าผู้กู้ หรือ มีบางรายหลอกให้ผู้กู้ที่เป็นผู้หญิงเปลื้องผ้าผ่านกล้องโทรศัพท์เพื่อแลกกับการยกหนี้ให้ ซึ่งนอกจากเสี่ยงถูกเอาไปส่งต่อในโลกออนไลน์แล้วอาจจะถูกนำไปแบล็คเมล์ภายหลังได้ 

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชน ว่าควรหลีกเลี่ยงการกู้เงินผ่านแอปพลิเคชันเงินกู้ เพื่อที่จะไม่ตกเป็นเหยื่อการถูกเอารัดเอาเปรียบขูดรีดดอกเบี้ย หรือถูกทวงหนี้ในลักษณะประจาน ตลอดจนการหลอกลวงให้ถ่ายคลิปอนาจารเพื่อต่อรองกับการยกหนี้ด้วย ซึ่งการปราบปรามแอปพลิเคชันเงินกู้ผิดกฎหมายดังกล่าว​ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มิได้นิ่งนอนใจ สั่งเข้มงวด รวมทั้งออกมาตรการเพื่อป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่างจริงจัง เนื่องจากกรณีดังกล่าวถือว่าเป็นการซ้ำเติมพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอยู่แล้วในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 

อย่างไรก็ตาม การป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ให้กับประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ​ (ศปน.ตร.) ตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ ในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนที่หลงไปเป็นเหยื่อ และเพื่อช่วยทำการสืบสวนปราบปรามจับกุมผู้มีอิทธิพล ผู้ปล่อยเงินกู้ที่มีลักษณะเรียกอัตราดอกเบี้ยเกิดกฎหมายกำหนด รวมถึงการทวงหนี้ในลักษณะที่เป็นการผิดกฎหมาย 

หากมีข้อมูลเบาะแสสามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชั้น 3 อาคาร 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ถนนสาทรเหนือ เขตบางรัก กรุงเทพฯ หรือโทรศัพท์สายด่วน 1599 หรือแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจทุกแห่ง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top