Monday, 20 May 2024
WEEKEND NEWS

ครบรอบ​ 100​ ปี​ พรรคคอมมิวนิสต์จีน และ​ 46 ปี​ สัมพันธ์​ 'ไทย-จีน'​

เนื่องจากในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 จะตรงกับวันครบรอบ '100 ปีแห่งการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนและ 46 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน'​ ทางศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน, ศูนย์วิจัยหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางไทย-จีน, สมาคมการค้าการลงทุนเส้นทางสายไหมไทย-จีน, สมาคมส่งเสริมวิสาหกิจเอเชียน-จีน, สมาคมมิตรภาพไทย-จีน, คณะวิทยพัฒน์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, หนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์ และ The Leader Asia ร่วมจัดสัมมนาหัวข้อ '100 ปีพรรคคอมมิวนิสต์จีน และ 46 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีน'​

วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิในงานสัมมนา ประกอบด้วย​ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีไทย นายหยาง ซิน อุปทูตรักษาราชการแทนเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย นายกร ทัพพะรังสี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และนายกสมาคมมิตรภาพไทย-จีน นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พล.อ.สุรสิทธิ์ ถนัดทาง ประธานศูนย์วิจัยหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางสายไทย-จีน  สำนักงานวิจัยแห่งชาติ ดร.ธารากร วุฒิสถิรกูล นายกสมาคมการค้าการลงทุนเส้นทางสายไหมไทย-จีน และนายชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ อดีตนายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีได้ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ '75 ปีพรรคการเมืองไทยท่ามกลางพลวัตเศรษฐกิจการเมืองโลก'​ โดยมีเนื้อหาสรุปคือ 100 ปีของการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนถือว่ายาวนานมาก หากทบทวนประวัติศาสตร์ โลกใบนี้นับตั้งแต่ผ่านสงครามโลก ผ่านวิกฤตเศรษฐกิจ และโรคระบาด ท่ามกลางปัญหาต่างๆ​ จนผ่านมาถึงวันนี้ โลกมีการพัฒนาการไปมาก และ 100 ปี ของการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ของจีน อาจกล่าวว่าเป็นความสำเร็จ เป็นแบบอย่างที่มั่นคง ซึ่งไม่มีพรรคการเมืองประเทศไหนเดินตามรอยได้

ที่สำคัญ 100 ปีแห่งความสำเร็จของพรรคคอมมิวนิสต์จีนผ่านเรื่องราวที่โลกจะต้องจดจำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความขัดแย้ง ความยากจน และไม่นานจีนจะยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ขณะเดียวกันบทบาทของจีนต่อโลกใบนี้กำลังถูกจับตามองจากเวทีโลกว่ามีศักยภาพในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว นั่นคือความสำเร็จที่น่าชื่นชมในวันนี้และอนาคต

นายอภิสิทธิ์ ได้แสดงความคิดเห็นถึง ประเด็นหัวข้อ 75 ปีพรรคการเมืองไทยว่า พรรคการเมืองไทยมีจำนวนมาก มีเกิดใหม่ มีล้มเลิกไป เพราะสังคมไทยมีการวิจารณ์ที่รุนแรง แต่บทบาทการเมืองไทยก็มีไม่น้อยเลยในการพัฒนาประเทศ ที่สำคัญการมีระบบตัวแทนประชาชนยิ่ง หลังการปกครอง พ.ศ. 2475 นักการเมืองมีบทบาทสำคัญยิ่ง ยุคนั้นพรรคประชาธิปัตย์ก็มีการถ่วงดุลในฐานะเป็นฝ่ายค้าน

ต่อมาในยุคของ ท่านพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ พรรคการเมืองก็มีเสถียรภาพในการพัฒนาประเทศมาก โดยนำเอาปัญหาของประชาชนในการคลี่คลายปัญหา มีนโยบายหลายเรื่องที่แก้ปัญหาและพัฒนาสู่เป้าหมายที่ตั้งที่ไว้หลายเรื่องจนสำเร็จในช่วงสั้นๆ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากมองอนาคตของพรรคการเมืองในอีก 100 ปีจะเป็นช่วงท้าทายมากไม่ว่าจะเป็นการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ จะเผชิญความท้าทายอีกมากมาย ดังนั้นโครงสร้างของพรรคการเมืองไม่ว่าจะเป็นระบบไหนก็แล้วแต่จึงต้องมองทุกมิติ เพราะปัจจุบันมีการแก้ไขปัญหาแบบไร้พรมแดน ที่มุ่งการพัฒนาให้ประเทศเจริญก้าวหน้าด้วยกันทั้งนั้นไม่แตกต่าง

หลังจากนั้น นายหยาง ซิน อุปทูตรักษาราชการแทนเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ได้ขึ้นกล่าวปาฐกถาหัวข้อ '100 ปีแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนและแผนการพัฒนาจีนตามแนวคิดประธานาธิบดีสี จิ้นผิง'​ โดยมีเนื้อหาพอสรุปประเด็นสำคัญ กล่าวคือ พรรคคอมมิวนิสต์เริ่มต้นก่อตั้งพรรค มีสมาชิกเพียง 50 คน วันนี้มีสมาชิกมากถึง 90 ล้านคน และมีภาคีเครือข่าย 464,000 องค์กร ซึ่งถือเป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน พรรคคอมมิวนิสต์จีนสามารถพัฒนาประเทศ พัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตจนก้าวขึ้นอันดับ 2 ของโลกรองจากประเทศสหรัฐอเมริกา  

ปัจจุบัน ประเทศจีนมีการค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีการสำรองเงินตรามากสุดในโลก มีเทคโนโลยี ไฮเทค มากที่สุดในโลก มีรถไฟความเร็วสูงรวมระยะทางยาวที่สุดในโลก มีสถานีอวกาศที่ขึ้นไปแล้ว และความสำเร็จที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนทำให้ประเทศจีนเจริญรุ่งเรื่องมาตั้งแต่ ปี ค.ศ.2012-2020 โดยเป้าหมายสำคัญคือการแก้ไขปัญหาความยากจน ส่งผลให้คนจีน 98 ล้านคนหลุดพ้นจากความยากจน อีก 950 ล้านคนกำลังจะพ้นจากความยากจน และอำเภอยากจน 832 แห่งหลุดพ้นจากความยากจนทั้งหมด พร้อมกับขจัดความยากจนเชิงสมบูรณ์และความยากจนแบบเชื่อมติดเป็นผืนรวมในระดับภูมิภาค โดยมีเป้าหมายสร้างสังคม กินดี อยู่ดี ถ้วนหน้าพร้อมๆไปกับสร้างสังคมนิยมสมัยใหม่

อย่างไรก็ตาม ในศตวรรษที่ 2 (ปี ค.ศ.​2020-2035) ภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะสร้างประเทศให้ทันสมัยให้เข้มแข็ง ที่สำคัญพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะเป็นพรรคเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของโลก สร้างนโยบายการต่างประเทศที่เป็นสันติภาพ

อุปทูตจีนกล่าวว่าอีก 100 ปีแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน กับแนวคิดการพัฒนาใหม่ ประกอบด้วย 1.นวัตกรรม สมดุล เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเปิดกว้างและการแบ่งปัน 2.เน้นการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง 3.สร้างประเทศให้มีความเข้มแข็งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ส่วนรูปแบบการพัฒนาใหม่คือ อาศัยการหมุนเวียนภายในประเทศเป็นแกนหลักและการหมุนเวียนภายในและภายนอกประเทศเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ขณะเดียวกันยังมีเป้าหมายเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของโลก โดยเป็นผู้สร้างสันติภาพของโลก ผู้สนับสนุนการพัฒนาของโลก และผู้พิทักษ์ระเบียบระหว่างประเทศ

นายหยาง ซิน กล่าวว่าความสัมพันธ์ของประเทศไทยและประเทศจีน วันนี้ครบรอบ 46 ปีอย่างเป็นทางการแล้ว รู้สึกยินดียิ่ง ที่ผ่านมาไม่ว่าการเชื่อมสัมพันธ์ทางจิตใจ การค้า การลงทุน ในบริบทด้านเศรษฐกิจ ทั้งไทยและจีนแนบแน่นด้วยดีมาโดยตลอด โดยเฉพาะในภาคเศรษฐกิจ ปี 2563 มูลค่าการค้าจีน-ไทย 98,630 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.5% คำขอรับการส่งเสริมลงทุนจากจีนมีจำนวน 164 โครงการเงินลงทุน 31,500 ล้านบาท จีนเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของไทย และไทยเป็นคู่ค้าใหญ่อันดับที่ 3 ของจีนในอาเซียน ที่สำคัญจีนยินดีที่จะร่วมพัฒนาด้านการลงทุนกับประเทศไทยเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการร่วมลงทุนกับไทยในโครงการ EEC

ต่อจากนั้นเป็นช่วงของการสัมมนาหัวข้อ '46ปีความร่วมมือไทย-จีนกับแนวคิดประชาคมแห่งผลประโยชน์ร่วม'​ วิทยากรประกอบ ด้วย นายกร ทัพพะรังสี นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ พล.อ.สุรสิทธิ์ ถนัดทาง ดร.ธารากร วุฒิสถิรกูล ดำเนินรายการโดยนายชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ โดยสรุปประเด็นคือไทยและจีนเปรียบเหมือนเป็นพี่น้องกัน ความสัมพันธ์แนบแน่นตลอดเวลา และหากประเทศไทยจะพัฒนาเศรษฐกิจให้ดีขึ้นต้องไม่ลืมเศรษฐกิจสีเขียวที่กำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุนโลกและนักลงทุนจากประเทศจีน

อย่างไรก็ตามในบางเรื่องที่จีนประสบความสำเร็จที่ภาพเห็นชัด นั่นคือ 'การระเบิดจากภายใน'​ ไม่ว่าจะเป็นภาคการเมือง วัฒนธรรม เศรษฐกิจและอื่นๆ ทุกกระดานเศรษฐกิจจีนทำสำเร็จมาแล้ว อีกทั้งหากเศรษฐกิจไทยจะพัฒนาและผลักดันให้เศรษฐกิจในประเทศไทยดีขึ้น ต้องใช้วงเงินสูงถึง 5 แสนล้านบาท ถึงจะดึงให้ GDP ขยับขึ้นมาได้ นอกจากจีนแล้ว ไม่มีประเทศไหนทำได้ในเวลานี้ ควรมองจีนให้เป็นโอกาส

นายกร​ กล่าวถึง​ ความร่วมมือในอนาคตระหว่างไทยจีน หลังสถานการณ์โควิด -19 และความสำคัญของการค้าการลงทุนระหว่างประเทศไทย-จีนว่า  หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ควรจะเน้นไปในสามด้าน คือ 1.เรื่องของการท่องเที่ยวที่ไทยมีความพร้อมอยู่แล้วและมีศักยภาพในด้านต่างๆ 2.การนำเม็ดเงินจากต่างประเทศเข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทยนั้น จีนอยู่ในลำดับต้นๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนก็พร้อมที่กลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย และ 3.ทิศทางของการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวจะเน้นไปที่เรื่องของการส่งเสริมสุขภาพและสาธารณสุข

พิธีมอบรางวัลนาคธรรมจักร 'คนดีศรีเมืองพุทธ ประจำปี พ.ศ.2564'​ สุดยิ่งใหญ่ ยุค 'New Normal'​

วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน 2564 ณ หอประชุมคุรุสภา กทม. 'พลตรีหม่อมราชวงศ์วัยวัฒน์ จักรพันธุ์'​ (โอรสใน พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าดรุณวัยวัฒน์ ปนัดดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมีกรมจักรพรรดิพงษ์) ประธานในพิธีมอบรางวัลนาคธรรมจักร 'คนดีศรีเมืองพุทธ'​ ถวายแด่พระมหาเถระและผู้บำเพ็ญคุณประโยชน์ต่อพุทธศาสนา ในสาขาต่างๆ ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา, ข้าราชการดีเด่น จิตอาสาดีเด่น, เยาวชนหัวใจรักพุทธศาสนา, ผู้บริหารองค์กรดีเด่น, ผู้อนุรักษ์ส่งเสริมกิจกรรมพระพุทธศาสนา ถวายแด่พระมหาเถระพระธรรมสุธี พระเทพวชิรโมลี พระกิตติวงศ์วิเทศ, พระมหาสมปอง ตาลปุตโต 'นายยุทธพงษ์ เอี้ยงอ้าย'​ เลขานุการในองค์หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ 'นายนพรัตน์ ฉัตรเพชรตระการ'​ หัวหน้าสำนักงานและผู้ช่วยเลขานุการในองค์หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ ประธานชมรมคนไทยรักชาติรักแผ่นดินเกิดในพระอุปถัมภ์ หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ ประธานจัดงานมอบรางวัลนาคธรรมจักรปี 64

ในการนี้ 'นายณัฐวุฒิ เหมือนเพชร'​ ผู้อำนวยการข่าว (หนังสือพิมพ์สยามโฟกัสไทม์) จังหวัดสมุทรปราการได้รับเกียรติ เข้าร่วมพิธีรับมอบรางวัลนาคธรรมจักร 'คนดีศรีเมืองพุทธ ประจำปี พ.ศ.2564'​ สาขา ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาและสังคม นี้ด้วย 

ทั้งนี้จากการปฏิบัติงานด้านสร้างคุณงามความดี คุณประโยชน์ ต่อชุมชน สังคม บ้านเมือง และประเทศชาติ พร้อมทั้งยังทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา อย่างเป็นนิจมาโดยตลอด จัดโดย 'องค์กรสภาส่งเสริมคุณธรรมความดีแห่งประเทศไทยสภาองค์กรเยาวชนสร้างชาติชมรมคนไทยรักชาติแผ่นดินบ้านเกิด'​

'ตำรวจ PCT'​ บุกทลายเครือข่ายเว็บพนันฟุตบอลยูโร2020​ พบเงินหมุนเวียนสะพัดกว่า 200 ล้านบาทต่อเดือน

26 มิ.ย.64) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปราม อาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ PCT , พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบช.ภ.8 , พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 นำกำลังตำรวจ PCT เข้าทลายเครือข่ายพนันออนไลน์ใจกลางเมืองภูเก็ต จับกุมผู้ต้องหา 2 คน เงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 200 ล้านบาท 

ภายหลังสืบทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาเป็นเครือข่ายทำเว็บไซต์พนันออนไลน์กว่า 9 เว็บไซต์ลิ้งค์ ได้แก่...

เว็บไซต์ joker8899.com, เว็บไซต์ joker1788.net, เว็บไซต์ joker789.com, เว็บไซต์ slot8899.com, เว็บไซต์ ufabet.com, เว็บไซต์ ufa-thai.com, เว็บไซต์ ufamax.com, เว็บไซต์ heng-168.com, เว็บไซต์ lottoheng168.com 

โดยเว็บไซต์เหล่านี้มีการจัดให้เล่นพนันออนไลน์ และการพนันทายผลฟุตบอลต่างประเทศ ซึ่งมีผู้ร่วมในกลุ่มเว็บไซต์ดังกล่าวจำนวนมาก เช่น​ เล่นการพนันออนไลน์เกี่ยวกับฟุตบอลยูโร 2020, พนันสล็อต, เกมส์,​ เกมส์ยิงปลา, เกมส์ล็อต, บิงโก หรือ เกมส์อื่นๆ 

พร้อมทั้งมีการเสนอการ​ 'ฝาก-ถอน'​ เงินสดสำหรับเป็นเครดิตในการเล่นพนันผ่านธนาคารพาณิชย์ (ในประเทศไทย) และเว็บไซต์มีระบบ ฝาก-ถอน อัตโนมัติ 

สำหรับสถานที่​ ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งของกลุ่มบุคคลเครือข่ายที่ทำด้านการตลาด, แอดมิน ,จุดการดำเนินการเรื่องการเงิน รับโอนเข้า -ออก ตั้งอยู่ใจกลางเมืองภูเก็ต คือ บ้านเลขที่ 70/21 ม.5 ถ.เจ้าฟ้าตะวันตก ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต โดยภายในสถานที่ดังกล่าวเปิดให้พนักงานคนกลางให้บริการ ระหว่างเว็บไซต์พนันกับผู้เล่นทางอินเทอร์เน็ตออนไลน์ เป็นฝ่ายการตลาด ติดต่อชักชวนลูกค้า, เยาวชน และประชาชนทั่วไป ให้แทงพนันฟุตบอลออนไลน์ (ในช่วงบอลยูโร), คาสิโนออนไลน์,​ สล็อตออนไลน์, หวยออนไลน์, ไก่ชน, มวยสเต็ป, อีสปอร์ต ผ่านช่องทางการสื่อสารออนไลน์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำหมายค้นจากศาลอาญาเข้าตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว พร้อมจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 2 คน ซึ่งขณะจับกุมกำลังอยู่ในระหว่างแชทคุยกับลูกค้า และยึดของกลางจำนวน 42 รายการ รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า ช่วงนี้มีการแข่งขันฟุตบอล EURO 2020 ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยและกำชับมิให้มีการเล่นการพนัน อันถือเป็นความผิดตามกฎหมาย โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้กำชับให้ตำรวจทุกหน่วยกวดขันจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนอย่างเด็ดขาดไปก่อนหน้านี้แล้ว หลังจากนี้จะดำเนินการตรวจสอบและขยายผลเส้นทางการเงินบัญชีที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันดังกล่าวต่อไป 

หากพี่น้องประชาชนพบเบาะแสการลักลอบเล่นการพนันออนไลน์ หรือการลักลอบกระทำผิดต่างๆ สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วนศูนย์ PCT 1599 ตลอด 24 ชม. หรือสายตรง 081- 866-3000 เฉพาะเวลาราชการ

ตำรวจคุมเข้ม!! พร้อมเดินตามนโยบายรัฐบาล​ สนับสนุนภารกิจ ศปม. ควบคุม ตรวจสอบแคมป์แรงงาน พื้นที่ กทม. ปริมณฑล และ จังหวัดชายแดนใต้ ป้องกันการแพร่เชื้อ Covid-19

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีตามที่ศูนย์ปฎิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ได้มีการประชุม​ (26 มิ.ย.64) และสั่งการให้หน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ร่วมปฎิบัติในการควบคุมการเคลื่อนย้ายแรง แคมป์คนงาน ในพื้นที่ กทม. ปริมณฑล และพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ นั้นว่า... 
.
'รัฐบาล'​ และ 'ศบค.'​ ได้มีมติที่ประชุมและมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส​ Covid-19 โดยเน้นย้ำฝ่ายความมั่นคงที่เกี่ยวข้องในการควบคุมการเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามจังหวัด ปิดแคมป์แรงงานก่อสร้าง เฝ้าระวังจุดเสี่ยง จุดหล่อแหลม สถานที่แออัด โดย​พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี​ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว และได้กำชับการปฎิบัติของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสอย่างจริงจัง

​ต่อมาในวันนี้ (26 มิ.ย.64) ศูนย์ปฎิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ได้สั่งการหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง สำหรับมาตราการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ในพื้นที่ กทม. ให้ควบคุมหรือปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง ไซด์งานก่อสร้าง โดยประสานการปฎิบัติงานระหว่าง กทม., หน่วยงานทหาร และ บช.น. ส่วนพื้นที่ปริมณฑล ได้แก่ สมุทรปราการ, นนทบุรี, สมุทรสาคร, นครปฐม และ ปทุมธานี ซึ่งจะกำหนดเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม โดย ศบค. ให้ควบคุมหรือปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง ไซด์งานก่อสร้าง ประสานการปฎิบัติระหว่างจังหวัดที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานทหาร และ ตำรวจภูธรจังหวัดและในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ให้ควบคุมการเคลื่อนย้ายของประชาชนในพื้นที่ประสานการปฎิบัติระหว่าง จังหวัดพื้นที่กับ หน่วยงานทหาร และตำรวจภูธรจังหวัด

ด้าน​ ​พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับสั่งการ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงไปขับเคลื่อนอย่างจริงจังตามนโยบายรัฐบาล และ ศปม.กำชับหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องทุกพื้นที่​ ให้ประสานการปฎิบัติกับหน่วยงานในพื้นที่ทหาร, สาธารณะสุข และหน่วยที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด พร้อมสนับสนุนกำลัง เมื่อมีการร้องขอ เพิ่มมาตรการในการควบคุมโรค Covid-19 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ควบคุมการเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามจังหวัด ร่วมตรวจสอบหรือปิดแคมป์คนงานในพื้นที่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความเข้มพื้นที่ตามเส้นทางระหว่างแนวชายแดนและพื้นที่ตอนใน ตรวจสอบและควบคุมการเคลื่อนย้ายแรงงาน และเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงต่างๆ

​รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่ออีกว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังคงกำชับให้ ตํารวจภูธรภาค 1- 9, กองบัญชาการตํารวจนครบาล, สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง, กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องประสานการปฎิบัติกับหน่วยงานความมั่นคง หน่วยสาธารณะสุขและหน่วยที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ มีมาตรการเข้มในการกวดขันจับกุมการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติ การนำพา การให้ความช่วยเหลือบุคคลต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พร้อมขยายผลดำเนินคดีถึงเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ตามพื้นที่ชายแดนทั่วประเทศโดยเฉพาะช่องทางธรรมชาติ พร้อมตั้งจุดตรวจ จุดสกัดกั้นเส้นทางเพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามาสู่พื้นที่ชั้นใน ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ เมื่อได้รับการร้องขอ ออกตรวจสอบ ควบคุมการย้ายแรงงานข้ามจังหวัด แคมป์แรงงานก่อสร้าง สถานประกอบการ สถานบันเทิง แหล่งมั่วสุมที่สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไวรัส  

หากมีการปล่อยปละละเลย ก็จะพิจารณาความบกพร่องทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาดต่อไป นอกจากนี้หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง มายังหมายเลขสายด่วน​ 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชม.

'เฉลิมชัย'​ จับมือ 'จุฬาฯ'​ ขับเคลื่อนเทคโนโลยีเกษตร 4.0 เดินหน้า 'ผลิตวัคซีนลัมปิสกินจากพืช'​ เป็นโครงการเร่งด่วน​ ตามด้วยซิลิคอนวัลเลย์เกษตรไฮเทคเมืองนวัตกรรมแก่งคอย​ ตั้งเป้าสร้างรายได้​ 2,500 ล้าน

(26 มิ.ย.64)​ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังนำคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ ประชุมหารือร่วมกับศาสตราจารย์ ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย ณ ห้องประชุม 202 ชั้น 2 อาคารจามจุรี 4 สำนักงานอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยว่า... 

ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรรมระหว่างกระทรวงเกษตรกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในโครงการแรก​ คือ​ การผลิตวัคซีนสัตว์ด้วยเทคโนโลยีโปรตีนพืช​ (Plant based Protein) เริ่มจากวัคซีนลัมปิสกิน​ ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ในไทยที่แพร่ระบาดในโค-กระบือหลายสิบจังหวัดและต้องนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ใช้เทคโนโลยีนี้ในการผลิตวัคซีนสำหรับสัตว์​ โดยกรมปศุสัตว์และบริษัทใบยาไฟโตฟาร์ม คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย​ พร้อมดำเนินการทันทีโดยวางเป้าการผลิตเพื่อใช้ในประเทศทดแทนการนำเข้าและขยายสู่การส่งออก นับเป็นประเทศแรกๆ​ ของโลกที่ใช้เทคโนโลยีโปรตีนพืชผลิตวัคซีนสัตว์โดยทีมนักวิจัยของไทย

“วันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์วันหนึ่งที่สำคัญต่อการพลิกโฉมหน้าภาคเกษตรกรรมของไทยเมื่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตกลงจับมือร่วมทำงานกับกระทรวงเกษตรฯ เพราะการพัฒนาภาคเกษตรในยุคปัจจุบันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำต้องใช้วิทยาการและเทคโนโลยีเป็นหัวใจสำคัญ

"นอกจากนี้จะมีโครงการความร่วมมืออื่นๆ​ ที่สำคัญเช่นโครงการพัฒนาสมุนไพรเพื่อสุขภาพ,​โครงการส่งเสริมสตาร์ทอัพเกษตร,​ โครงการพัฒนาฮาลาล, โครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองปาย, โครงการการพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่​ (Young Smart farmer) เป็นต้นรวมทั้งการพัฒนาพันธุ์ข้าวที่ขอฝากไว้เป็นพิเศษโดยมอบหมายให้ที่ปรึกษา​ อลงกรณ์ พลบุตร​ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหาร​ AIC เป็นผู้ประสานงานกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทั้งนี้จะมีการทำเอ็มโอยู​ภายในสัปดาห์หน้า"

ทางด้านศาสตราจารย์ ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย​ กล่าวว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยินดีและพร้อมร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างเต็มที่ในการต่อยอดการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมสู่การใช้ประโยชน์ในการพัฒนาภาคเกษตรกรรมโดยทันทีโดยเฉพาะการพัฒนาวัคซีนสัตว์จากพืขเป็นโครงการนำร่องโครงการแรกรวมทั้งเสนอให้กระทรวงเกษตรฯ​ ใช้พื้นที่ของสยามสแควร์อินโนเวชั่นดิสตริคท์​ (Siamsquare Innovation District) ในการนำเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมมาเปิดแสดงและสาธิตต่อยอดการลงทุนนวัตกรรมใหม่ๆ​ ของศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม​ (AIC) ทั่วประเทศ​ รวมทั้งการดำเนินโครงการแก่งคอยอินโนเวชั่นดิสตริคท์​ (Kaengkoi Innovation District (KID) โครงการเกษตรอัจฉริยะ​ (Smart Farming), โครงการสมาร์ท โอท็อป​ (Smart OTOP), โครงการดิจิตอลไอทีวัลเลย์ (Digital IT Valley)

นายอลงกรณ์​ กล่าวว่า โครงการความร่วมมือที่จะตามมาโดยเร็วคือโครงการพัฒนาแก่งคอยอินโนเวชั่นดิสตริคท์หรือเมืองนวัตกรรมแก่งคอยในพื้นที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่อำเภอแก่งคอยจังหวัดสระบุรีจะร่วมกันพัฒนาคล้ายกับซิลิคอนวัลเลย์​ (Silicon Valley) ในสหรัฐอเมริกาที่ริเริ่มดำเนินการโดยมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด​ (Stanford University) ซึ่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีสตาร์ทอัพกว่า​ 200​ บริษัทที่พร้อมต่อยอดการลงทุนสตาร์ทอัพกลุ่มเทคโนโลยีเกษตรและอาหาร​ รวมทั้ง​ (Foodtech และ​ Agritech Start-Up) โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตั้งเป้าหมายเบื้องต้นจะสร้างคนสร้างงานสร้างรายได้กว่า​ 2,500​ ล้านบาท

สำหรับคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ​ ประกอบด้วย นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายธนา ชีรวินิจ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, รองปลัดกระทรวง, ผู้ช่วยปลัดกระทรวง, เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร, อธิบดีกรมปศุสัตว์, รองอธิบดีกรมประมง, รองอธิบดีกรมวิชาการ, คณะทำงานที่ปรึกษารัฐมนตรีเป็นต้น

ส่วนคณะผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยประกอบด้วย รองอธิการบดี, ผู้ช่วยอธิการบดี คณบดี และทีมนักวิจัยอีกหลายคน

ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจเยี่ยมข้าราชการตำรวจ พร้อมมอบนโยบาย และกำชับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติงานรับใช้ประชาชนให้ดีที่สุด

ที่ประชุมห้องประชุมชัยจินดา สภ.หาดใหญ่  อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.อ เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เข้าตรวจเยี่ยมสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ มอบนโยบายและกำชับในการปฏิบัติหน้าที่

โดยมี​ พล.ต.ท.ดำรัส วิริยะกุล ผทค.พิเศษ ตร.รรท รอง ผบช.ภ.9,​ พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลาและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้การต้อนรับ

พล.ต.อ เพิ่มพูน ชิดชอบ เผยว่า การลงพื้นที่เข้าตรวจเยี่ยมข้าราชการ สภ.หาดใหญ่ ในครั้งนี้ ถือเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ช่วงสถานการณ์โควิด 19 พร้อมทั้งเป็นการติดตามความคืบหน้าการปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมา ซึ่งตนก็ทราบดีว่าตำรวจทุกนายไม่ได้หยุดพัก ต้องปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความสงบให้แก่ประชาชน จึงถือโอกาสลงมาเยี่ยมเยือน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และขอให้ข้าราชการตำรวจทุกนายมีความตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลรักษาความสงบบ้านเมือง เพื่อสร้างความมั่นใจ และรับใช้ประชาชนให้ดีที่สุด

จากนั้น เดินทางไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ที่สถานีตำรวจชุมชนตลาดใหม่ หรือ​ ป้อมโคบัง​ ที่เป็น สภ.ย่อย ของสถานีตำรวจ พร้อมให้โอวาทแก่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ให้ร่วมแรงร่วมใจ และสามัคคีกันปฏิบัติหน้าที่ ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ อย่าได้ย่อท้อต่อเหตุการณ์ต่างๆ และจงยึดมั่นในคุณงามความดี จะต้องให้ความสะดวก และบริการอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชน พร้อมทั้งได้มอบของที่ระลึกให้แก่ตำรวจชุมชน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ห้วงสถานการณ์โควิด 19 อีกด้วย

ที่มา: นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

สมบัติ อนันตรัมพร ประธาน บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ฯ Update เทคนิคการใช้งานระบบสายสัญญาณ และอุปกรณ์เน็ตเวิร์คที่เหมาะกับ Data Center​ ผ่านงานสัมมนา “How to Manage Cabling & Networking for Data Center”

#INTERLINK

เมื่อวันที่​ 26 มิ.ย.2564​ คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธาน บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ฯ (INTERLINK)​ ได้จัดงานสัมมนา “How to Manage Cabling & Networking for Data Center”

โดยกล่าวเปิดงาน ผ่านระบบ Zoom จากหัวหิน พร้อมนำทีมวิทยากรชั้นนำมา Update เทคนิคการใช้งานระบบสายสัญญาณ และอุปกรณ์เน็ตเวิร์คที่เหมาะกับ Data Center ให้กับผู้บริหารหน่วยงาน ไอที กลุ่มสถาบันการเงินกว่า 50 หน่วยงาน เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเห็นภาพจริง และตอบโจทย์ทุกความต้องการ

สำหรับงานในครั้งได้มีการ​ ???? LIVE จากสนง.ใหญ่ อินเตอร์ลิ้งค์ กรุงเทพฯ

'ผู้ช่วยฯ รอย'​ เร่งสปีด!! สำรวจความคิดเห็น ปรับปรุงเครื่องแบบสายป้องกันปรามปราบ ผ่านคิวอาร์โค้ด ภายใน 30 มิ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2564 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เปิดเผยว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้มีนโยบายให้พัฒนาเครื่องแบบสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปรามปราบ​ (ปป.)​ และนำไปทดลองใช้ที่​ สน.บางยี่ขัน,​ บุคคโล และจักรวรรดิ เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา  

หลังจากนั้นได้เก็บข้อมูลความเห็นการใช้งานของผู้สวมใส่ เพื่อนำมาพัฒนาให้มีความเหมาะสม  เข้ากับสภาพการปฏิบัติงานจริง จนออกมาเป็นชุดเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปราบปรามแบบที่ 2 

ทั้งนี้​ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการปรับปรุงเครื่องแบบสายงานป้องกันปราบปรามที่พัฒนาใหม่นี้​ ให้มีความเหมาะสม และเอื้อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ สวมใส่แล้วมีความคล่องตัว เป็นมาตรฐานสากล เข้ากับสภาพปัจจุบันยิ่งขึ้น ทางตำรวจจึงได้ออกแบบสำรวจความคิดเห็นตำรวจ สายงาน ปป.​ ทั่วประเทศ โดยสามารถเข้าไปดาวน์โหลด ตอบแบบสำรวจได้ตาม QR Code ให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 30 มิ.ย.นี้

ในขณะเดียวกัน พล.ต.ท.รอย​ ได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด เรื่อง สำรวจความคิดเห็นการพัฒนาเครื่องแบบสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปราบปราม ครั้งที่ 2 ถึง ผบช.น., ภ.1-9 และ ก.​ ให้นำเครื่องแบบสายตรวจใหม่ทดลองใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ โดยทางบช.น ได้ดำเนินการทดลองใช้ที่สน.บางยี่ขัน,​สน.บุคคโล และ สน.จักรวรรดิ ระหว่างวันที่ 3-13 พ.ค.64 เป็นระยะเวลา 10 วัน 

ต่อมาคณะทำงานนโยบายการพัฒนางานป้องกันปราบปราม ได้ลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานเครื่องแบบและสำรวจความเห็นจากกลุ่มตัวอย่าง มาทำการวิจัยและพัฒนาออกแบบเป็นชุดเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปราบปรามแบบที่ 2 เพื่อให้การปรับปรุงเครื่องแบบสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปราบปรามมีความคล่องตัวเหมาะสมกับการปฏิบัติหน้าที่ในสภาพปัจจุบัน และเป็นมาตรฐานสากล 

ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานสูงสุด จึงให้ท่านแจ้งข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่สายงานป้องกันปราบปรามในสังกัดกรอกแบบสำรวจความคิดเห็นการพัฒนาเครื่องแบบ สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปราบปราม ให้แล้วเสร็จภายใน 30 มิ.ย.64 

ซึ่งสามารถดาวน์โหลดแบบสำรวจฯ ได้ตาม QR code นี้ โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก., คณะทำงานนโยบายการพัฒนางานป้องกันปราบปราม รวบรวมสรุปข้อมูลผลการสำรวจดังกล่าว เสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผ่าน ผอ.สยศ.ตร.) ภายในวันที่ 3 ก.ค.64 จึงแจ้งมาเพื่อทราบและดำเนินการ 'หนังสือดังกล่าวระบุ'​

'ตำรวจ' เตือนภัย!! ระวังถูกแท็กเฟซบุ๊ก​ พร้อมภาพข่าวอุบัติเหตุหรือภาพลามก อย่ารับแท็กเด็ดขาด อาจถูกแฮกเฟซบุ๊กไม่รู้ตัว

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท.ในฐานะ รอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ช่วงนี้ในเฟซบุ๊กของพี่น้องประชาชน อาจจะมีคนที่เป็นเพื่อนหรือไม่ใช่เพื่อนของเรามาแท็กเฟซบุ๊ก และแท็กพร้อมกับผู้อื่นอีกหลายสิบคน ซึ่งข้อมูลที่ส่งมาประกอบด้วยลิงก์ภาพข่าวอุบัติเหตุ​ หรือภาพข่าวลักษณะลามกอนาจาร จากสำนักข่าวมีชื่อบ้าง ไม่มีชื่อบ้าง หากเรามีความสนใจข่าวที่แท็ก แล้วกดเข้าไปดูจะพบว่ามีหน้าต่างให้เรากรอกอีเมลและ พาสเวิร์ดเข้าเฟซบุ๊กใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก 

เพราะลิงก์ดังกล่าวเป็นลิงก์หลอกลวง ที่แฮกเกอร์สร้างมาเพื่อลวงให้เรากรอกข้อมูล อันได้แก่ อีเมลกับรหัสผ่านเฟซบุ๊ก ทำให้แฮกเกอร์ทราบข้อมูล และเข้าถึงบัญชีเฟซบุ๊กของเราได้ หากใครกรอกข้อมูลไป เฟซบุ๊กอาจถูกแฮก จากนั้นแฮกเกอร์จะเปลี่ยนรหัส​ ทำให้เราไม่สามารถเข้าเฟซบุ๊กของเราได้ สุดท้ายแฮกเกอร์อาจเอาบัญชีเฟซบุ๊กของเราไปกระทำความผิด เช่น หลอกยืมเงินเพื่อนในเฟซบุ๊กของเรา หรือ นำไปหลอกลวงฉ้อโกงผู้อื่น เป็นต้น

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีนโยบายในการสร้างความรับรู้ให้กับประชาชนในการป้องกันตัวเองมิให้ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรในทุกรูปแบบ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงฝากเตือนพี่น้องประชาชนที่พบว่าบัญชีเฟซบุ๊กตัวเองถูกแท็กในลักษณะดังกล่าว ไม่ควรกดเข้าไปดู หรือ กรอกอีเมลกับรหัสผ่านอย่างเด็ดขาดเพราะท่านอาจตกเป็นเหยื่อของแฮกเกอร์ 

อย่างไรก็ตาม หากท่านถูกแฮกเฟซบุ๊กไปแล้วและไม่สามารถเข้าเฟซบุ๊กตัวเองได้​ ให้ปฏิบัติการ 3 แจ้ง คือ... 

1.​ แจ้ง​ (Report) เฟซบุ๊ก เพื่อให้เฟซบุ๊กกู้คืนบัญชีกลับมาให้เรา
2.​ แจ้งเพื่อนของเราในทุกช่องทางว่าเฟซบุ๊กเราถูกแฮก 
และ​ 3.​ แจ้งความกับพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจได้ตลอด 24 ชั่วโมง

'ภารกิจพิชิตหัวใจ'​ ภารกิจสุดยิ่งใหญ่​ จากประสบการณ์ของ 'ตำรวจโครงการพระราชดำริ'​ ที่อยากบอกต่อ!!

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2564 ตำรวจโครงการพระราชดำริ รับภารกิจพิชิตหัวใจ โดยมี ร.ต.อ.พิเชษฐ วิเศษโชค รอง สว.กก.6 บก.จร. นำตำรวจโครงการพระราชดำริจำนวน 11 นาย เข้าร่วมภารกิจอำนวยความสะดวกให้ทีมแพทย์ นำหัวใจจากผู้ป่วยที่บริจาคอวัยวะจาก รพ.พิษณุโลก เปลี่ยนถ่ายให้กับผู้ป่วยคนหนึ่งที่ รพ. ศิริราช ด.ต.อารยะ ป้อมค่าย ผบ.หมู่งาน 2 กก.6 บก.จร. เล่าว่าภารกิจพิชิตหัวใจภารกิจครั้งนี้เป็นหัวใจดวงที่ 38

ในอดีตครั้งแรก​ ได้รับการประสานจากสภากาชาดไทย​ ให้ทำภารกิจนำส่งหัวใจ ก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาคิดว่ามีแต่ในหนัง ก็คิดว่านี่คือหัวใจของคน ไม่ใช่อวัยวะ เช่น แขน ขา ที่จะนำไปส่งต่อเพื่อมอบชีวิตใหม่ให้อีกชีวิต ครั้งนั้นปฎิบัติภารกิจ ดำเนินการด้วยเฮลิคอปเตอร์ ที่สนามบุญยะจินดา ซึ่งได้รับแจ้งว่าผู้มอบต้องการส่งต่อชีวิตใหม่เพื่อสร้างบุญกุศลให้ตัวเอง เนื่องจากผู้มอบเกิดภาวะสมองตาย โดยภารกิจแรกในตอนนั้นทราบจากทีมแพทย์ ว่า... 

เมื่อถึงเวลาผู้รับโดยแพทย์จะต้องเปิดช่องอกรอหัวใจที่ผู้มอบส่งให้เพื่อมีชีวิตใหม่ ซึ่งภารกิจพิชิตหัวใจต้องทำให้เสร็จภายใน 4 - 5 ชั่วโมง ตั้งแต่ขั้นตอนแรกคือการตัดเส้นเลือดใหญ่จากผู้มอบ จนถึงการผ่าตัดใส่หัวใจ ทุกครั้งต้องแข่งกับเวลา ห้ามมีความผิดพลาดแม้แต่นาทีเดียว เพราะนั่นหมายถึงชีวิตที่กำลังรอ 

แต่เหนือสิ่งอื่นใด​ ต้องขอบคุณพระบารมีของในหลวงรัชกาลที่ 9 และ ในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่สร้างโครงการตำรวจจราจรในพระราชดำริขึ้นมา​ โดยทุกครั้งที่ฝนตก ฟ้าร้อง ระหว่างปฎิบัติภารกิจจะนึกถึงและอธิษฐานถึงพระบารมีของพระองค์ท่านเสมอ จนสิ่งที่เป็นอุปสรรคก็มักจะหายไป 

นอกจากนี้ต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนที่คอยหลีกทางทำให้ภารกิจสำเร็จด้วยดีทุกอย่างต้องปลอดภัยทุกครั้ง ซึ่งเราต้องนึกถึงผู้ป่วยที่รอรักษาอยู่ แม้ไม่เคยเจอผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว แต่ทุกครั้งที่มีข่าวออกไป​ มีญาติเข้ามาขอบคุณ​ มีคนมาขอบคุณในเฟซบุ๊กเพจตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ กองบังคับการตำรวจจราจร ก็รู้สึกดีแล้ว และต้องขอบคุณพระองค์ท่านที่สร้างโครงการนี้ขึ้นมาทำให้พวกเราได้ช่วยเหลือประชาชน 

"ดีใจที่ได้ทำหน้าที่นี้และภูมิใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเวลาที่ไปช่วยประชาชนแล้วได้ยินว่าตำรวจพ่อหลวงมาแล้ว ตำรวจของพระราชา มาแล้วพวกเราปลอดภัยได้ พวกเรามีความสุขที่สุดที่ได้เห็นเสื้อกั๊กสีน้ำเงินแบบนี้ แค่นี้พวกผมตำรวจโครงการพระราชดำริก็ภูมิใจแล้ว"


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top