ตร.ห่วงใยประชาชน ประสบอุทกภัยน้ำท่วม เร่งบูรณาการกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือ

สืบเนื่องจากอิทธิพลพายุโซนร้อน “โกนเซิน” ทำให้เกิดร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ส่งผลกระทบให้เกิดฝนตกหนัก    ในพื้นที่ 14 จังหวัด 

ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง และน้ำป่าไหลหลากในบางพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนเป็นวงกว้าง ล่าสุดพายุโซนร้อนได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว แต่ยังคงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก ต่อไปอย่างใกล้ชิด

วันที่ 12 กันยายน 2564 พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ รองโฆษกตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้ผลกระทบและได้รับความเดือดร้อน จึงได้กำชับพร้อมสั่งการไปยังทุกหน่วยในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยด่วน ทั้งในเรื่องการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินของประชาชน การอำนวยความสะดวกด้านจราจร การจัดเตรียมสถานที่รองรับหากมีการอพยพ และการเตรียมเครื่องอุปโภคบริโภค สำหรับแจกจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น 

ภาพรวมการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม อาทิ เช่น อ.ภูกระดึง อ.ด่านซ้าย จ.เลย,  อ.หล่มเก่า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ โดยเร่งช่วยเหลือเคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง นำน้ำดื่มและอาหาร พร้อมทั้งบรรจุกระสอบทรายนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใย ข้าราชการตำรวจหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ ซึ่งอาจจะได้ผลกระทบจากสถานการณ์ฯเช่นเดียวกัน รวมถึงสถานที่ราชการต่างๆ เช่น สถานีตำรวจ บ้านพักข้าราชการตำรวจ ที่ได้รับความเสียหาย เป็นต้น จึงกำชับให้ผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเฝ้าติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเน้นย้ำในเรื่องของมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยให้ยึดหลักการปฏิบัติตนตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชน  สามารถแจ้งเบาะแส ข้อร้องเรียนหรือขอความช่วยเหลือ มายังสายด่วน 191 และสายด่วน 1599 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสามารถสอบถามข้อมูลการจราจรได้ที่สายด่วน 1193 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง