Wednesday, 8 May 2024
NEWS FEED

‘โจ มณฑานี’ โพสต์เฟซ ‘การแต่งรถแบบไทย’ ชี้!! นี่คือกระแสที่กำลังมาแรง เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้

(1 พ.ค. 67) ‘โจ มณฑานี ตันติสุข’ นักจัดรายการวิทยุ พิธีกร สื่อมวลชนชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับ การแต่งรถแบบไทยๆ ที่ชนะใจเพื่อนบ้าน โดยได้ระบุว่า ...

เมื่อ THAI CULTURE แผ่อิทธิพลสู่ประเทศเพื่อนบ้าน อย่างฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ถึงขั้นตั้งกลุ่มไทยคัลเจอร์ และพากันตกแต่งของรักด้วยธงชาติไทย วิถีไทย และที่สำคัญที่สุด-รูปแรกเลยค่ะ #ทรงพระเจริญ 

มันคืออะไรกันนะ ไปดูกันเลยค่ะ!

พี่โจชอบช่องยูทูบ #ส่องโลกคอมเมนต์ มากเพราะแอดไม่นำเสนอคอมเมนต์ด่าเพื่อนบ้านแต่เลือกนำเสนอข้อมูลเจ๋งๆของไทยที่เพื่อนบ้านชื่นชม พร้อมหาข้อมูลเสริมมาให้ด้วย
คลิปแบบเค้ายอดวิวจะไม่เยอะเท่าคลิปด่ากันไปกัน แต่มันมีคุณค่ามากเลยค่ะ

และคลิปนี้คือการนำเสนออิทธิพลการแต่งรถแบบไทยๆที่ชนะใจเพื่อนบ้าน มากถึงขนาดตั้งกลุ่มรักวัฒนธรรมไทย แต่งรถแบบไทย และเรียกชื่อรถกระบะไฮลักซ์แต่งแบบไทยว่า THAI LUX-ไทยลักซ์ และสร้างความสำเร็จทางธุรกิจให้กับกิจการแต่งรถแบบไทยจนได้ไปตั้งธุรกิจที่ประเทศเหล่านั้นด้วย 

‘ภูมิธรรม’ เตรียมตรวจข้าวสุรินทร์ ดึงทุกฝ่ายมีส่วนร่วม คาด!! เปิดประมูล 2 โกดัง ทำรายได้หลายร้อยล้าน

(1 พ.ค. 67) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 6 พ.ค.67 ตนจะนำคณะผู้บริหาร สื่อมวลชน ผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมประมูลข้าวในโครงการรับจำนำข้าว เพื่อร่วมกันประเมินและตรวจสอบคุณภาพของข้าวใน 2 โกดังของคดีรับจำนำข้าว ที่จ.สุรินทร์ ซึ่งโกดังแรกมีปริมาณ 1 แสนกระสอบ และอีกโกดังมีอยู่ 32,000 กระสอบว่าเสียหายหรือไม่ ซึ่งจะตรวจสอบในส่วนของตรงกลางกองข้าวด้วย จากนั้นคาดว่าจะนำข้าวดังกล่าวมาเปิดประมูลข้าวได้เร็วที่สุดภายในเดือนพ.ค.2567

นายภูมิธรรม กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ จะเปิดให้ทุกส่วนที่สนใจเข้าร่วมตรวจสอบพร้อมกันกับเซอร์เวเยอร์ด้วย รวมทั้งร่วมกันประเมินราคา เพื่อนำมาพิจารณาในการทำเงื่อนไขในการเปิดประมูล (TOR) ข้าวในล็อตดังกล่าวให้มีความรัดกุม อีกทั้ง ให้เกิดความเป็นธรรมและมีความเหมาะสม หากบุคคลใดเกิดข้อสงสัยก็สามารถแย้งได้

“ประมูลรอบนี้คาดว่าจะได้รายได้จากการประมูลหลาย 100 ล้านบาท ซึ่งเงินที่ได้ก็จะนำมาพิจารณาชดเชยให้กับเจ้าของโกดัง ส่วนปริมาณเท่าไร ต้องรอการพิจารณาและคุยกันในรายละเอียด เพื่อให้เป็นธรรมทุกฝ่าย เพราะปริมาณข้าวดังกล่าวเก็บมาเป็นเวลา 10 ปี เป็นภาระและทำให้เจ้าของโกดังเสียโอกาส เนื่องจากภายในโกดังยังมีพื้นที่ว่างบางส่วน”นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม ยังกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ดี เมื่อพิสูจน์ชัดเจนถึงคุณภาพข้าวแล้วว่า ไม่ใช่ข้าวเน่า ข้าวเสีย ก็สามารถเปิดประมูลข้าวที่คนสามารถทานได้ ไม่ใช่อาหารสัตว์หรือโรงงาน ซึ่งจะพยายามดำเนินการภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่ที่ทำได้ รวมไปถึงเรื่องของคดีต่างๆ ในโครงการด้วย

สำหรับคลังสินค้าที่จัดเก็บข้าวในโครงรับจำนำข้าว บจก.พูนผลเทรดดิ้งหลัง 4 อ.เมือง ปัจจุบันมีข้าวคงเหลือ 32,879 กระสอบ และคลังกิตติชัยหลัง 2 อ.ปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ปัจจุบันมีข้าวคงเหลือ 112,711 กระสอบ

เจ้าของโรงแรม ขึ้นป้ายไว้อาลัย ขบวนการยุติธรรม  ประกาศรับสมัคร ‘ทนายความ’ ฟ้อง ‘ผู้พิพากษาใหญ่’

(1 พ.ค. 67) เจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ใจกลางสี่แยกในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้นำป้ายคัตเอาต์ใหญ่ขนาดกว้าง 12 เมตร สูง 11 เมตร ติดบริเวณด้านหน้าอาคารของโรงแรม ระบุข้อความว่า “ไว้อาลัยกระบวนการยุติธรรม รับสมัคร ทนายความใจกล้า มีฝีมือ ฟ้องผู้พิพากษาใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังแบบเล่นพรรคเล่นพวก”

โดยอาคารดังกล่าวเป็นโรงแรมเก่าแก่ของอำเภอหล่มสักนานกว่า 50 ปี ภายหลังได้มีการรีโนเวตใหม่ และด้านหน้าได้ทำเป็นร้านกาแฟ ช่วงเช้าเวลาประมาณ 09.00 น. ช่างได้นำป้ายไวนิลมาติดตั้งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ

บริเวณหน้าร้านมีรถยนต์สายตรวจของ สภ.หล่มสัก 1 คัน และรถจักรยานยนต์สายตรวจจอดอยู่ 3 คัน ภายในบริเวณล็อบบี้ พบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หล่มสัก 8 นาย นั่งรอพบเจ้าของโรงแรม คาดว่ามาสอบถามเกี่ยวกับป้ายที่ขึ้นไว้

สาวใจฟู ได้เจอน้าแท็กซี่ ในอดีตเมื่อ 10 ปีที่แล้ว หลังมาฟอกไต สุดปลื้ม!! นั่งคุยถึงความหลัง น้าบอกจำได้ เพราะแววตาไม่เคยเปลี่ยน

(1 พ.ค. 67) สมาชิก TikTok @bimbo_picha โพสต์คลิปสุดปลื้ม หลังใช้บริการแท็กซี่คันหนึ่ง แต่โชเฟอร์แท็กซี่กลับจำเธอได้ แม้จะผ่านมา 10 ปี ที่เคยพูดเตือนสติเธอตอนพาไปโรงพยาบาล โดยระบุข้อความว่า

น้าจำหนูได้ วันนี้เจอเรื่องใจฟู เรียกแท็กซี่หน้าที่ฟอกไต เค้าเริ่มถามเลยว่า มาทำอะไรหนอ เราบอกมาฟอกไตค่ะ แล้วเค้าก็พูดว่า เมื่อ 10 ปีก่อน น้าก็เคยไปส่งเด็กน้อยคนนึง ถือถุงผ้าห่มใส่กางเกงขาสั้น ตัวผอมๆ ดูโทรมๆ ปรากฏว่าเด็กน้อยคนนั้นคือเราค่ะ ตอนเป็นไตใหม่ๆ

เค้าจำได้แม้กระทั่งคำพูดที่เราเคยพูดตัดพ้อไปว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ จำได้ว่าบ้านอยู่ตรงไหน ที่ผ่านมาเค้ายังนึกเลย ว่าเด็กคนนี้จะเป็นไงบ้างนะ น้าบอกว่าจำได้ เพราะแววตาเราไม่เปลี่ยน ใบหน้าเปลี่ยน ร่างตอนนั้นกับตอนนี้ห่างกันเกือบ 20 โล

บังเอิญและโลกกลม และทำให้เรารู้ว่า มีคนคนนึงจะจำเราได้เป็น 10 ปี แม้กระทั่งคำพูดที่เราระบายตัดพ้อให้ฟัง มันจะเป็นภาพจำไปกับคนคนนึงได้นานขนาดนี้

สาวเปิดใจ เหงื่อออกเยอะผิดปกติ จนโดนล้อเป็น ‘มนุษย์ถุงเหงื่อ’  แจง!! ป่วยเป็นโรค แม้อยู่ในห้องแอร์ แต่กลับมีเหงื่อเยอะมาก

(1 พ.ค. 67) น.ส.อนัญญา พชรพานิภัค เปิดใจ หลังจากมีความผิดปกติของร่างกาย เหงื่อออกเยอะมากกว่าคนปกติ จนสูญเสียโอกาสในชีวิต โดนบูลลี่มาเยอะมากมาย

น.ส.อนัญญา กล่าวว่า ตั้งแต่ที่จำความได้เราเป็นคนเหงื่อออกเยอะผิดปกติอยู่แล้ว ตอนไปเรียนโรงเรียนเพื่อนเค้าไม่ร้อนกัน มีแต่เราที่เหงื่อออกอยู่คนเดียว ด้วยความที่เมืองไทยเป็นเมืองร้อน ก็เลยคิดว่าเหงื่อคงออกตามปกติ

แต่เมื่อเราเรียนจบและทำงาน จุดเริ่มต้นที่ทำให้รู้ว่าเราผิดปกติ คือเรามาทำงานและระหว่างทางก่อนที่จะมาถึงที่ทำงาน ตัวเราก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เมื่อไปถึงที่ทำงานแล้วไปอยู่ในห้องแอร์เย็น มันก็เกิดการอับชื้น

จนเพื่อนร่วมงานถึงขั้นไปแจ้งหัวหน้างานว่า “ไม่สามารถทำงานกับเราได้ เพราะว่าเราเหม็นอับมาก หรือให้เราไปนั่งที่อื่นได้ไหม”

“เมื่อเรารู้ ก็ไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหายังไง เราก็พยายามเต็มที่ในการที่จะซักผ้าตากแดดแรงๆ แต่ปัญหาอยู่ที่เราตัวชื้นตลอดเวลา เมื่อมานั่งทำงานในห้องแอร์ก็ทำให้เหม็นอับ ผลกระทบที่เกิดขึ้น ทำให้เราตัดสินใจลาออกจากงาน เราอยู่ร่วมกับคนอื่นไม่ได้

ซึ่งเราไม่ได้รู้สึกโกรธที่มีคนมาเตือนเรา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันก็แอบรู้สึกแย่เหมือนกัน เราผ่านช่วงเวลาโดนบูลลี่มาเยอะมากมาย เราโดนคนพูดว่า เราเป็นมนุษย์ถุงเหงื่อ หรือถุงเหงื่อเดินได้ ซึ่งความผิดปกตินี้มันตัดโอกาสในชีวิตเราไปเยอะมาก ครั้งหนึ่งเคยเป็นครูสอนศิลปะนักเรียน แล้วเด็กๆ เห็นว่าเราเหงื่อออกเยอะ ผู้ปกครองก็ไม่สบายใจ เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ตัดสินใจลาออกจากงาน” น.ส.อนัญญา กล่าว

น.ส.อนัญญา กล่าวต่อว่า เราเข้าใจในความผิดปกติของตัวเอง อย่างเวลาที่เราอยู่ในห้องแอร์เย็นในออฟฟิศ ไม่ได้รู้สึกร้อน แต่กลับมีเหงื่อออกมาเยอะมาก ลักษณะการเหงื่อออกของตนคือเริ่มตั้งแต่เหงื่อออกมือ ออกเท้า เวลาจับเม้าส์ก็เปียก เหงื่อออกบริเวณศีรษะใบหน้า ก็จะมีเม็ดเหงื่อเกาะใบหน้า ซึ่งมันใช้ชีวิตลำบากมาก

“เมื่อก่อนเคยเห็นคลิปของผู้ชายคนนึง ที่มีเหงื่อออกเยอะแบบเดียวกับพี่ และก็เพิ่งรับรู้ว่าเราไม่ได้เป็นแบบนี้คนเดียว แต่มีคนอื่นเป็นแบบเดียวกัน ก็มีหลายคนแนะนำให้ไปหาหมอ ซึ่งก็เคยไปหาหมอแล้ว แต่หมอบอกว่าลักษณะเหงื่อออกผิดปกติ มันเกิดจากหลายปัจจัยทาง ด้านผิวหนัง โรคหัวใจ ไทรอยด์ บางคนก็เกิดจากฮอร์โมน แล้วแต่ร่างกายของแต่ละคน” น.ส.อนัญญา กล่าว

น.ส.อนัญญา กล่าวว่า ตนเคยตัดสินใจไปปรึกษาหมอเมื่อปี 2019 หมอแนะนำการรักษาแบบผ่าตัด โดยเปลี่ยนเส้นประสาทให้สมองสั่งงานให้เหงื่อไประบายออกส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งถ้าหากเราผ่าตัด เหงื่อก็จะไประบายที่อื่น

แต่ในกรณีของตนที่เหงื่อออกศีรษะและใบหน้า หากผ่าตัดไปแล้วมันก็มีโอกาสที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ ทำให้ตัดสินใจไม่ผ่าตัด แต่เลือกที่จะหาวิธีอื่นที่จะสามารถอยู่ในสังคมได้โดยที่ไม่กระทบกับคนอื่น ทุกวันนี้ตอนเช้าก็ทำงานขายของที่ตลาด และทำงานกะกลางคืน ทำงานที่บ้าน ซึ่งก็ถือว่าตอบโจทย์มาก มันทำให้สุขภาพจิตของเราดีขึ้น 

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เรายอมรับได้ว่า เรามีความผิดปกติเป็นคนที่เหงื่อออกเยอะมาก แต่ไม่เอาความผิดปกติตรงนี้มาเป็นอุปสรรคสำหรับการใช้ชีวิต เราพยายามดูแลตัวเอง ทานอาหารธาตุเย็น และไปไหนมาไหน ก็พกพัดลมเล็กๆ เอาไว้ตลอด

ทั้งนี้ หลังจากที่ตนลงคลิปนี้ไปก็มีหลายคนส่งข้อความเข้ามาหาบอกว่า เป็นโรคแบบเดียวกับตน หรือบางคนก็ขอบคุณที่เราก็กล้าออกมาเป็นกระบอกเสียงให้ เพราะว่าคนส่วนใหญ่ที่เป็นโรคนี้มักจะเสียความมั่นใจ ไม่กล้าออกมาพูด เราก็ดีใจที่ ทำให้หลายคนรู้ว่า มันมีความผิดปกติ แบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ หลังจากนี้เราก็จะดูแลตัวเองพยายาม พยายามหาวิธีในการรักษาโรคนี้ต่อไป

'พี่ดี้' ชวนร่วมงาน 'แนวหน้าทอล์คครั้งที่ 1' เสาร์ 22 มิ.ย.นี้ รายได้ครึ่งหนึ่งสมทบทุนช่วยผู้สร้างหนังแอนิเมชัน 2475

(1 พ.ค.67) พี่ดี้ - นิติพงษ์ ห่อนาค นักแต่งเพลงชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊ก 'Nitipong Honark' ระบุว่า...

มันเกิดขึ้นเร็วมาก…เป็นไอเดียของ Anchalee Paireerak ที่จะจัด 'แนวหน้าทอล์ค' ครั้งนี้…คงเพราะฉันไปบ่นให้นางฟังว่า ไอ้น้องซัง Wivat Jirotgul (คนในรูปซ้ายสุด)…มันใช้เงินตัวเองทำหนังการ์ตูน 2475 ที่คนดูกันเป็นล้าน…แต่ป่านนี้ยังเป็นหนี้ท่วมหัวอยู่เลย…

วันรุ่งขึ้น...นางก็ประกาศออกรายการ 'แนวหน้าออนไลน์' ว่าจะจัดสิ่งนี้ มีบุคคลในภาพมา ทอล์คโชว์กัน หักค่าใช้จ่ายแล้ว ครึ่งนึงเป็นอย่างน้อย จะสมทบทุนช่วยใช้หนี้ให้เจ้าซัง

เฮ้ยยย…เพิ่งโทรคุยกันเมื่อวาน…วันนี้ประกาศว่า  "ทำ" เลย ฉันเองยังเพิ่งรู้ตอนดูรายการนั่นแหละ  

แล้วเย็นวันนั้น...นางถึงนัดพาทุกคนมากินข้าวกินน้ำ  พูดคุย รวมทั้งผู้จัดการโรงแรมอัศวิน ที่เพิ่งรู้ตัวเหมือนกัน … ขาดแต่น้องแอน พิธีกรหลักของงาน (ขวาสุดในภาพ) ที่ติดธุระไม่ได้มาด้วย

อ้อ...ไม่ได้เชิญ ท่านชวน มาในมื้อเย็นนั้น แค่เชิญท่านว่า ท่านจะมาร่วมทอล์คในงานด้วยไหม แบบกระทันหัน แถมยังไม่รู้ว่าจะเอาวันไหน...ก็น่าเกลียดจะแย่แล้ว…

ท่านก็เพิ่งได้รับการติดต่อวันนั้น…แล้วคุณปองก็ได้รับโทรศัพท์ว่า ท่านชวนรับคำเชิญมาทอล์คด้วย….ตอนที่เรากินมื้อเย็นวันนั้นแหละ…

ท่านบอกว่าท่านสะดวกวันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน…จึงเป็นวันที่เรากำหนดจริง…

คืนนั้น…หกคนในภาพ (ยกเว้นท่านชวนและน้องแอน)…ที่เกือบทั้งหมด ไม่เคยเจอตัวจริงกันมาก่อน   ได้รู้จัก กิน ดื่ม คุย … หัวเราะ ตั้งแต่ทุ่มหนึ่งจนเกือบเที่ยงคืน…

ส่วนใหญ่ ใช้เวลาหัวเราะประมาณ 65.78% …. 

เอาละ…ต่อไปนี้เป็นประกาศ…

'แนวหน้าทอล์คครั้งที่ 1…เอ่อ…ตามภาพเลย…'

ประกาศที่สอง

ทุกวันนี้ ฉันดู 'แนวหน้าออนไลน์' ทั้งวันตั้งแต่เช้าจนหกโมงเย็น…ดูได้ทุกแพลตฟอร์มออนไลน์…ส่วนฉันน่ะ ดูจากยูทูบ…

อยากชวนพรรคพวกที่ยังไม่รู้ ว่าควรดูข่าวที่ไหน…ที่พูดจริงด้วย พูดเต็มเหนี่ยวด้วย…ไม่มีฝ่ายอะไรสนับสนุนเงินทอง…ต้องขายครีมเอาหน้ารอดไป   ฮ่าๆๆๆ

แต่ก็ไม่เครียดเยอะ เพราะใช้สื่อออนไลน์ ไม่ต้องแบกเหมือนสื่อดิจิตอล หรือช่องทีวี

อยากให้กำลังใจคนทำข่าวแบบจริงจัง แล้วสนุกด้วย…มาดูแนวหน้าออนไลน์กันเถอะ…

‘วราวุธ’ เผยในเวทีอภิปรายระดับโลก รมต.ลาตินอเมริกา ชื่นชม ประเทศไทย ที่กล้าออกกฎหมาย ‘สมรสเท่าเทียม’ เป็นประเทศแรก ในกลุ่มประเทศอาเซียน

(1 พ.ค. 67) ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) และคณะผู้แทนไทย  ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการประชากรและการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 57 (CPD 57) ระหว่างวันที่ 29 เมษายน – 3 พฤษภาคม 2567 โดยในช่วงเช้าได้ร่วมการอภิปรายระดับสูงระหว่างรัฐมนตรีในฐานะผู้แทนภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เกี่ยวกับผลการประชุม ข้อค้นพบสำคัญ และข้อเสนอแนะจากการประชุมว่าด้วยประชากรและการพัฒนาระดับภูมิภาค โดยร่วมอภิปรายกับรัฐมนตรีจากประเทศคองโก มอลโดวา โบลิเวีย และซีเรีย

นายวราวุธ กล่าวว่า ในเวทีการอภิปรายระดับสูงระหว่างรัฐมนตรีในฐานะผู้แทนภูมิภาคต่างๆ ตนเองจะขึ้นเป็นตัวแทนของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งไม่เฉพาะเป็นตัวแทนของประเทศไทย แต่ยังเป็นตัวแทนของกว่า 70 ประเทศที่มีประชากรกว่าร้อยละ 60 ของประชากรโลก โดยตนเองได้พูดถึงปัญหาว่ามีอัตราการเกิดของเด็กใหม่น้อย มีการเปลี่ยนโครงสร้างประชากรไปสู่สังคมสูงอายุมากขึ้น ในพื้นที่ของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เรามีแนวทางแก้ไขกันอย่างไร แต่ละประเทศมีแนวทางแก้ไขกันอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการดูแลเด็กแรกเกิด  การดูแลสุภาพสตรีช่วงตั้งครรภ์ ซึ่งแต่ละประเทศมีการนำเสนอแนวคิดต่างๆ มากมาย และที่สำคัญได้มีโอกาสพูดคุยกับรัฐมนตรีที่มาจากภูมิภาคอื่นๆ 

ซึ่งมีรัฐมนตรีจากลาตินอเมริกาคนหนึ่งถามว่าจริงหรือไม่ที่ประเทศไทยมีกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องการสมรสเท่าเทียม ตนเองได้บอกว่าปลายปีนี้ เราได้จะเห็นกฎหมายฉบับนี้ออกมาใช้งานแน่นอน ซึ่งรัฐมนตรีดังกล่าวแสดงความชื่นชมและทึ่งในความสามารถและความกล้าหาญของประเทศไทยที่เป็นประเทศแรกในกลุ่มประเทศอาเซียน

'พีระพันธุ์' เดือด!! ประชาชนถูกเอาเปรียบ เติมน้ำมันแล้วกลายเป็นน้ำ จ่อถอนใบอนุญาตปั๊มแสบ หากปิดไม่ได้ ต้องแก้ กม.อุดช่องโหว่ 

(1 พ.ค.67) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ได้กล่าวว่า จากกรณีปัญหาการเติมน้ำมันแล้วกลายเป็นน้ำที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2567 นั้น ผมและเจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงานไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยกระทรวงพลังงานได้รับทราบเรื่องผ่านทางพลังงานจังหวัดกาญจนบุรีว่าผู้เสียหายได้มาร้องเรียนเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 ซึ่งพลังงานจังหวัดและกรมธุรกิจพลังงานได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่มาเป็นลำดับ 

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (30 เมษายน 2567) ท่านปลัดกระทรวงพลังงานได้แจ้งให้ผมทราบว่าเจ้าหน้าที่พลังงานจังหวัดกาญจนบุรีได้แจ้งความดำเนินคดีกับทางปั๊มน้ำมันต้นเหตุแล้ว เพราะเป็นการกระทำความผิดตาม พรบ.การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง และมีคลิปวีดีโอเป็นหลักฐานชัดเจน ส่วนประชาชนที่ได้รับความเสียหายทั้งที่เป็นข่าวและที่ไม่เป็นข่าวก็มีสิทธิแจ้งความดำเนินคดีฐานฉ้อโกงประชาชนได้ด้วย เพราะเป็นการกระทำที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนเป็นวงกว้าง 

ทั้งนี้ ผมได้มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานตรวจสอบว่าจะสามารถเพิกถอนใบอนุญาตเปิดปั๊มน้ำมันแห่งนี้ได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็คงต้องแก้ไขกฎหมายกันต่อไป เพราะมีการกระทำความผิดของปั๊มน้ำมันในลักษณะที่เป็นการเอาเปรียบหรือฉ้อโกงประชาชนมาหลายครั้งแล้ว 

ขอให้มั่นใจว่าผมและกระทรวงพลังงานจะไม่ยอมให้ประชาชนถูกเอาเปรียบหรือถูกโกงแบบนี้อย่างเด็ดขาดครับ 

 

เฉลย!! 3 เหตุผลที่ต้องพ่นสีเครื่องบิน ไม่ใช่แค่เพื่อความสวย แต่เพื่อลดความร้อนภายในตัวเครื่อง ยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน

ทำไมต้องพ่นสีเครื่องบิน ? หรือแค่เพราะว่าทำให้ตัวเครื่องบินสวย

(30 เม.ย. 67) TNN Tech รายงานว่า กลุ่มพันธมิตรการบินสตาร์อัลไลแอนซ์ (Star Alliance) เปิดเผยภาพเบื้องหลังการพ่นสีและตกแต่งลายพิเศษของกลุ่มพันธมิตร กับเครื่องบินแอร์บัส เอ 350-900 (Airbus A350-900) ของการบินไทย พร้อมเฉลยหนึ่งในคำถามพื้นฐานที่หลายคนมักสงสัยว่า ทำไมถึงต้องพ่นสีเครื่องบินและใช้สีขาวเป็นสีหลักของเครื่องบินด้วย

>> 3 เหตุผลในการพ่นสีเครื่องบิน...
- เหตุผลแรกว่าทำไมถึงต้องพ่นสีกับเครื่องบิน คือเรื่องของภาพลักษณ์และแบรนด์ ยกตัวอย่างเครื่องบิน Airbus A350-900 ของการบินไทย ที่ต้องการสร้างภาพจำให้กับ Star Alliance ที่เป็นพันธมิตรการบินแรกของโลกในปี 1997 ซึ่งการบินไทยเองก็เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งพันธมิตรนี้ด้วยเช่นกัน

- เหตุผลที่สอง ที่สำคัญไปกว่านั้น เป้าหมายที่แท้จริงของการพ่นสีเครื่องบินคือ การลดความร้อนภายในตัวเครื่อง เนื่องจากตัวเครื่องบินจะต้องทำการบินที่ระดับความสูง 30,000 ฟุต หรือประมาณ 9 กิโลเมตร เหนือพื้นดิน ในระดับความสูงนี้จะได้รับแสงแดด และรังสี UV (Ultra Violet) อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  

ดังนั้น ถ้าไม่มีการพ่นสีที่ได้รับการออกแบบมาพิเศษเพื่อเคลือบป้องกันเครื่องบิน จะทำให้ผู้โดยสารบนเครื่องบินได้รับความร้อนและส่งผลต่อความสะดวกสบายในการโดยสารด้วย

และด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ ทำให้เครื่องบินส่วนใหญ่จึงพ่นสีขาวเป็นพื้นฐาน แม้ว่าจะมีการตกแต่งลายตามสัญลักษณ์สายการบิน รวมไปสัญลักษณ์ของกลุ่มพันธมิตรสายการบินที่แพนหางเครื่องบิน แต่ก็ยังคงให้สีขาวเป็นสีหลักบนเครื่องบิน เพราะสีขาวเป็นสีที่มีความสามารถในการสะท้อนแดดและรังสี UV ได้ดีที่สุด

- เหตุผลสุดท้าย คือ การสร้างชั้นเคลือบป้องกันลำตัวเครื่องบิน (Fuselarge) เนื่องจากทั้งฝุ่น ความชื้น และสภาพอากาศ ต่างเป็นปัจจัยที่จะกัดกร่อนตัวเครื่องบินให้เสื่อมสภาพและพังก่อนอายุการใช้การงานอันควร 

ทั้งนี้ โดยปกติเครื่องบินพาณิชย์ขนาดใหญ่จากทั้ง Airbus, Boeing สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องประมาณ 30 ปี และมีราคาที่สูงถึง 100 - 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,700 - 11,000 ล้านบาท ตามขนาดและรุ่น ดังนั้น สายการบินจึงต้องคอยพ่นสีเครื่องบิน เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานและคุ้มค่าที่สุด

10 สิ่งที่ควรทำ หลังชีวิตเริ่มเข้าสู่เลข 5 ในวันที่ค่าเฉลี่ยอายุคนอยู่ที่ 72 ปี

(30 เม.ย.67) จากเพจ 'สานต่อเจตนารมณ์ อาจารย์สมเกียรติ โอสถสภา' ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า...

ปัจจุบัน คนเรามีอายุเฉลี่ยที่ 72 ปี
ถ้าคุณอายุ 50 ปีไปแล้ว จะมีชีวิตได้อีก 22 ปี
ถ้าไม่ตายเพราะเหตุอื่นซะก่อนนะ
เวลาผ่านไปเร็วมาก จงอย่าประมาทและเตรียมตัวให้พร้อม

1. รักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพราะชีวิตหลังเลข 5 คือขาลงแล้ว สวยหล่อเป็นเรื่องรอง สตรองคือเรื่องหลัก

2. ทำงานและเก็บเงินให้ได้ หากตอนแก่ไม่มีเงิน ถ้าป่วยแล้ว หนังเหนียว เป็นโรคเรื้อรัง จะตายก็ไม่ตาย แล้วจะเอาเงินที่ไหนมารักษา

3. ปลดหนี้เก่า และไม่สร้างหนี้ใหม่

4. มีที่อยู่เป็นของตัวเอง (ห้อง หรือบ้าน มีโลกส่วนตัว)

5. เรียนรู้เทคโนโลยี และรับรู้ข่าวสารใหม่ ๆ เสมอ จะทำให้เราไม่บื้อ รู้เท่าทันโลกในปัจจุบัน

6. พูดคุยกับลูกหลาน ฟังเขาด้วย ไม่ใช่ให้เขาฟังแต่เรื่องของเรา ต้องแลกเปลี่ยนความคิดกันอยู่เสมอ

7. เพื่อนดี ไม่ต้องมีเยอะ เพื่อนเรื่องเยอะ ไม่ต้องมี

8. ฝึกคิดบวก เลิกอารมณ์ร้อน ปากร้าย ขาเม้าท์นินทา อาจจะหมดวัยที่คนอื่นจะอภัยให้เราแล้ว เพราะคุณจะไม่น่าเอ็นดูเหมือนตอนที่เป็นหนุ่มสาว

9. ยิ้มให้มาก โกรธให้น้อย หัวเราะให้มาก ๆ

10. อภัยให้กันในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ เพราะอีกไม่ช้า ก็ต้องแยกย้ายลาโลกกันไปแล้ว

ทั้งนี้ หากยังแข็งแรง จงรีบออกไปใช้ชีวิตซะ ไปหาเพื่อน ไปเที่ยว เพราะประสบการณ์จะติดตัวติดตาคุณไปจนวันสุดท้าย ใครก็ขโมยตัวตนของคุณไปไม่ได้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top