Friday, 9 May 2025
NEWS FEED

'ศศิกานต์ วัฒนจันทร์’ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย!! ‘ค่าไฟไม่ได้แพงขึ้น แต่ลดลงต่อเนื่อง’

(26 เม.ย. 68) กระทรวงพลังงานภายใต้การนำของ ‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ คุมเข้มค่าไฟปี 2567 ตรึงราคาไว้ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย งวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 68 ลดลงเหลือ 4.15 บาทต่อหน่วย และข่าวดี!!! งวด พ.ค.-ส.ค. ตั้งเป้าลดลงเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย 

สำหรับการเซ็นสัญญารับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเริ่มโครงการมาตั้งแต่ 3 ปีก่อน มีการเซ็นสัญญาไปแล้วถึง 67 โครงการ และเซ็นสัญญาในวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมาเพียง 3 โครงการ และอีก 13 โครงการยังไม่ได้เซ็นสัญญาซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบสัญญาอย่างละเอียด 

แม้สัญญาจะมีการเซ็นไปแล้ว แต่หากตรวจสอบพบความผิดปกติในการประมูล มีความไม่ชอบมาพากล หรือการทำผิดกฎหมาย สามารถยกเลิกสัญญาได้ในทันที ไม่ต้องรอหมดสัญญา

ย้ำ!! ทำทุกอย่างด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม เป็นประโยชน์กับทุกคน

ศ.นพ.ยง แสดงความเห็นกรณีแพทย์รุ่นน้อง bully แพทย์รุ่นพี่

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ข้อโต้แย้งวัคซีนไข้หวัดใหญ่ กับ Hippocratic Oath

มีเสียงวิจารณ์กันมากในสื่อสังคม ในฐานะที่เป็นกลาง และพยายามให้ความรู้ ที่เกิดจากงานวิจัยของเรามาโดยตลอด เมื่อได้รับฟังในสื่อสังคม ก็อดไม่ได้ ที่อยากจะให้ความคิดเห็นของแพทย์รุ่นพี่ ที่รุ่นน้องเรียกว่าลุง

ต้องยอมรับก่อนว่า วัคซีนป้องกันโรคทางเดินหายใจไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่ หรือโควิด 19 ที่มีระยะฟักตัวสั้น และมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์อยู่ตลอดเวลา ประสิทธิภาพของวัคซีน ไม่ได้สูงอย่างวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี หรือวัคซีนป้องกันหัด และป้องกันโรคต่างๆ ในเด็กเล็ก วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ป้องกันการติดเชื้อได้ต่ำมาก แต่เชื่อว่าลดความรุนแรงของโรค ลดการนอนโรงพยาบาล

ปีที่แล้วผมได้ฉีดวัคซีนให้กับลูกหลานทุกคน แต่ก็ติดไข้หวัดใหญ่เกือบทุกคน แต่ไม่มีใครนอนโรงพยาบาลเลย ผมเองก็ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่มามากกว่า 20 ปีแล้วไม่เคยขาด แต่ก็เป็นไข้หวัดใหญ่ ปีเว้น 1 หรือ 2 หรือ 3 ปีมาโดยตลอดเหมือนกัน แต่ก็ไม่เคยนอนโรงพยาบาล ด้วยเรื่องไข้หวัดใหญ่ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ มีประสิทธิภาพในสถานการณ์จริงในการลดการนอนโรงพยาบาล 40-60% เท่านั้น

ถ้าถามว่า ปีนี้จะฉีดให้กับลูกหลานและตัวเองหรือไม่ ตอบได้เลยว่า “ฉีด” อีก ทั้งนี้เพราะวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นวัคซีนที่ปลอดภัย ใช้กันมานานมาก และมีราคาไม่แพง ซึ่งตรงข้ามกับวัคซีนโควิด 19 ถ้าถามว่าจะฉีดไหม ผมตอบได้เลยว่า “ไม่ฉีด” โรคโควิด 19 ขณะนี้ไม่ต่างเลยกับไข้หวัดใหญ่ ที่ไม่ฉีดก็เพราะว่าวัคซีนมีราคาแพงมาก แพงกว่าวัคซีนไข้หวัดใหญ่มากกว่า 10 เท่า และอาการข้างเคียงก็มีมากกว่า ถึงจะเป็นเด็กเล็กที่ยังไม่เคยเป็นมาเลยก็ไม่ฉีด เมื่อก่อนที่ฉีด ก็เพราะโรคในความรุนแรงลงปอดได้สูงมาก ปัจจุบันเปลี่ยนไป ตามวิวัฒนาการ และเป็นเหตุที่ทำให้วัคซีนโควิด 19 จึงเลิกผลิตกันถึงเกือบหมด วัคซีน mRNA ที่มีการชื่นชอบกันมากในช่วงของโควิด 19 มีการศึกษาระยะสั้นเร่งด่วน ขณะนี้ก็ไปไม่รอด แนวโน้มก็คงจะเลิกผลิตทั้งหมด

งานทางด้านวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะการศึกษาวิจัย ถ้าสมมติทำการศึกษาวิจัย 10 โครงการ แน่นอนใน 10 โครงการนั้นมีทั้งโครงการที่ให้ผลบวกและผลลบ แล้วแต่ใครจะหยิบโครงการไหนมาพูด จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ผมให้ความรู้ จะใช้จากงานวิจัยที่เราได้ทำ โดยเฉพาะทำในประเทศไทย สังคมไทย มากกว่าที่จะอ่านวารสารมาให้ฟัง และไม่เคยทำวิจัยในเรื่องนั้นเลย สิ่งที่สำคัญก็คือบางครั้งแค่อ่านหนังสือได้ ไม่ได้วิเคราะห์หรืออ่านหนังสือเป็น ก็มาวิพากษ์วิจารณ์กันทำให้ประชาชนสับสน

ในทางการแพทย์ ก่อนจบแพทย์ จะมีการอบรมปัจฉิมนิเทศ และมีการแจก ให้อ่านและเป็นเอกสารที่สวยงาม โดยเฉพาะ Hippocratic Oath ที่แพทย์ทุกคนควรจะได้พึงปฏิบัติเช่นเดียวกันกับ Hippocratis ซึ่งสามารถค้นอ่านได้จากออนไลน์ได้ง่ายมาก ถ้ากระดาษแผ่นนั้นหาย และจะต้องอยู่ในจิตใจ

ในการที่แพทย์รุ่นน้อง bully แพทย์รุ่นพี่ ผมเห็นว่า แนวทางการปฏิบัติไม่ได้ถูกอบรมตามแบบอย่าง Hippocratic Oath หรือไม่เช่นนั้นก็ไปอยู่เมืองนอกเสียนานเลยลืมหมด ผมคงไม่ได้แตะต้องเนื้อหาความรู้ เพราะผมเชื่อว่าสมัยนี้ความรู้ที่พูดออกมาจากการอ่านวารสารให้ฟัง ประชาชนทั่วไปในสื่อสังคมสามารถตัดสินใจได้

ในช่วงของโควิด 19 ผมเองก็ถูกบุลลีอย่างหนัก แต่ไม่เคยตอบโต้ และมีการพูดจาอย่างสุภาพเสมอในฐานะที่เราเป็นแพทย์ และไม่เคยโกรธเกลียดใคร การพูดครั้งนี้ก็พยายามพูดเป็นกลาง

ไทย-จีนร่วมเฉลิมฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ด้วยภาพยนตร์ 'สายใยรักสองแผ่นดิน' ถ่ายทอดมิตรภาพผ่านศิลปะบนแผ่นฟิล์ม

เมื่อวันที่ (24 เม.ย.68) ผ่านมา สมาคมมิตรภาพไทย-จีน ร่วมกับสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ 'สายใยรักสองแผ่นดิน' เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ณ โรงแรมแม่น้ำ รามาดาพลาซา

นายกร ทัพพะรังสี นายกสมาคมมิตรภาพไทย-จีน กล่าวว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนที่เริ่มต้นเมื่อปี พ.ศ. 2518 ได้เติบโตและลึกซึ้งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทั้งระดับรัฐบาลและภาคประชาชน พร้อมย้ำว่านี่คือ 'ความสัมพันธ์ที่พิเศษยิ่ง'

ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย ปรัชญา ปิ่นแก้ว ถ่ายทอดประวัติศาสตร์ผ่านโครงเรื่องแนวดราม่าโรแมนติก นำแสดงโดย มุก วรนิษฐ์ และ เอส ชิษณุพงศ์ ขณะที่ดนตรีประกอบจะได้รับการออกแบบโดย ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ โดยมีเป้าหมายสานสายใยมิตรภาพไทย-จีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในอนาคต

เครื่องบินตำรวจตก ขณะปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน ฝึกกระโดดร่ม อ.หัวหิน จว.ประจวบคีรีขันธ์ เสียชีวิตทั้ง 6 นาย

(25 เม.ย.68)เวลาประมาณ 08.00 น. พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เกิดเหตุเครื่องบินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกระหว่างการปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการฝึกกระโดดร่ม ณ พื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในเครื่องบินจำนวน 
6 นาย คือ 
1. พ.ต.อ.ประธาน เขียวขำ นักบิน เสียชีวิต
2.พ.ต.ท.ปานเทพ มณิวชิรางกูร นักบิน เสียชีวิต
3.ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์ นักบิน ได้รับบาดเจ็บ นำส่งรพ.หัวหิน เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา
4.ร.ต.ท.ธนวรรษ เมฆประเสริฐสุข วิศวกร เสียชีวิต
5.จ.ส.ต.ประวัติ พลหงษ์สา ช่างเครื่อง เสียชีวิต
6.ส.ต.ต.จิราวัฒน์ มากสาขา ช่างเครื่อง เสียชีวิต

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุ โดยจะมีการเก็บข้อมูลจากซากเครื่องบิน กล่องบันทึกการบิน (Black Box) และพยานแวดล้อมทางเทคนิค พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านอากาศยานเข้าตรวจสอบร่วมกันอย่างละเอียด

ทั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ดูแลครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างใกล้ชิด และจัดพิธีอย่างสมเกียรติ พร้อมกำชับให้เร่งสืบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำในอนาคต สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เสียสละจากเหตุการณ์ครั้งนี้

ผบ.ตร. ลงพื้นที่หัวหิน แสดงความเคารพ 5 วีรบุรุษตำรวจ พร้อมยกย่องนักบินเสียสละบังคับเครื่องเลี่ยงชุมชนก่อนตกทะเล

(25 เม.ย. 2568) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเครื่องบินกองบินตำรวจตกในทะเล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน โดยแสดงความเคารพร่างตำรวจ 5 นายที่เสียชีวิต พร้อมยกย่องความเสียสละของนักบินที่ควบคุมเครื่องหลบเลี่ยงเขตชุมชน ก่อนตกในทะเล ทั้งนี้มีตำรวจอีก 1 นายบาดเจ็บจากเหตุการณ์ อยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาลหัวหิน

ผบ.ตร.ได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาสาเหตุ พร้อมมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเก็บกู้เครื่องบินจากทะเลโดยไม่ให้กระทบพยานหลักฐาน พร้อมกำชับให้ดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอย่างใกล้ชิด จัดพิธีเคลื่อนย้ายร่างและประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอย่างสมเกียรติ และให้สวัสดิการแก่ครอบครัวอย่างเหมาะสม

จากนั้น ผบ.ตร.ได้เข้าเยี่ยม ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์ นักบินที่รอดชีวิต ซึ่งขณะนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์ มีอาการกระดูกใบหน้าหักและเจาะปอดเพื่อระบายของเสีย โดยไม่พบภาวะกระทบกระเทือนทางสมอง เบื้องต้นได้ประสานโรงพยาบาลตำรวจเพื่อเตรียมความพร้อมหากต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเข้ารักษาต่อ

‘จิราพร’ ย้ำตู้คีบตุ๊กตาเข้าข่ายผิดกฎหมาย หากไม่มีใบอนุญาต ชี้ สคบ.พร้อมรับเรื่องร้องเรียน ด้านนครนายกยึดแล้ว 77 ตู้

(25 เม.ย. 68) น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) พร้อมรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับ 'ตู้คีบตุ๊กตา' ที่ไม่มีใบอนุญาต ซึ่งอาจเข้าข่ายการพนัน และย้ำว่าหากพบเห็นสามารถแจ้งเข้ามาได้ทันที พร้อมระบุว่า สคบ. มีการมอนิเตอร์ประเด็นที่ส่งผลกระทบผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง แม้ยังไม่มีการร้องเรียนอย่างเป็นทางการ

กรณีที่ผู้ปกครองเสนอให้ใช้มาตรการเด็ดขาดกับตู้คีบตุ๊กตาเหมือนกับบุหรี่ไฟฟ้า เพราะหวั่นมอมเมาเยาวชน น.ส.จิราพร ย้ำว่า หากมีข้อมูลหรือหลักฐานสามารถส่งมาให้ สคบ. ดำเนินการได้ทันที และหน่วยงานมีความพร้อมที่จะดำเนินการเชิงรุกหากพบประเด็นผ่านสื่อหรือโซเชียลมีเดีย

ด้านจังหวัดนครนายก ได้มีการกวาดล้างตู้คีบตุ๊กตาที่ผิดกฎหมายไปแล้ว 77 ตู้ จากห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ และปั๊มน้ำมันใน 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.บ้านนา และ อ.องครักษ์ หลังได้รับร้องเรียนจากผู้ปกครองว่าตู้เหล่านี้เป็นการมอมเมาเยาวชน และถือเป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน

เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า การเล่นตู้คีบตุ๊กตามีลักษณะของการพนัน เนื่องจากมีการเสี่ยงดวงและไม่สามารถรับประกันผลได้ทุกครั้ง จึงเข้าข่ายเป็นกิจกรรมที่ต้องมีใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยจะดำเนินการตรวจสอบและกวาดล้างต่อเนื่องเพื่อป้องกันผลกระทบต่อเยาวชนและประชาชนทั่วไป

ผบ.ตร.ลงพื้นที่เหตุเครื่องบินตกที่ อ.หัวหิน สดุดีทุกคนที่อยู่บนเครื่องบินลำดังกล่าว บังคับเครื่องตกลงทะเลเพื่อไม่ให้ตกในเขตบ้านเรือนประชาชน

(25 เม.ย.68) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุเครื่องบินของกองบินตำรวจตกบริเวณทะเลใกล้กับสนามบินบ่อฝ้าย อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทันทีที่ได้รับรายงาน พร้อมด้วย นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ , พล.ต.ท.นิตินัย หลังยาหน่าย ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน , พล.ต.ต.ศิริกุล บุญอิ้ง ผู้บังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และผู้แทนหน่วยต่างๆ ได้แก่ การท่าอากาศยานหัวหิน , หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน กองทัพอากาศ , พิสูจน์หลักฐานตำรวจ

ทั้งนี้ เมื่อถึงพื้นที่ ผบ.ตร. แสดงความเคารพร่างตำรวจผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมยกย่องสดุดีนักบิน วิศวกร และช่างเครื่องทุกคน เพราะจากการตรวจสอบเบื้องต้นในขณะเกิดเหตุเครื่องบินจะเสียหลักทิศทางมุ่งไปยังบ้านเรือนประชาชน แต่นักบินบังคับเครื่องให้มาทางทะเลเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียกับพี่น้องประชาชน นับเป็นความสูญเสียบุคลากรที่มากความสามารถทั้ง 5 นาย และบาดเจ็บอีก 1 นาย ที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลหัวหิน

ผบ.ตร.ได้สั่งการให้มีการตั้งคณะกรรมการและทีมสอบสวนหาสาเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว ส่วนการเก็บกู้มอบหมายให้กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจน้ำ ร่วมกับกองบินตำรวจ ดำเนินการนำเครื่องบินดังกล่าวขึ้นมาจากทะเล คาดว่าใช้เวลาอย่างน้อย 1 วัน โดยจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด และไม่ให้เกิดความเสียหายต่อพยานหลักฐานต่างๆ และกำชับดูแลการเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตเพื่อชันสูตร ประสานญาติเพื่อนำร่างไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ดูแลครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอย่างใกล้ชิด และจัดพิธีอย่างสมเกียรติ ดูแลสวัสดิการอย่างเต็มที่ พร้อมกำชับให้เร่งสืบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำในอนาคต ทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมาย สมเกียรติ 

จากนั้น ผบ.ตร. และคณะ ได้เดินทางไป เพื่อเยี่ยมอาการ “ร้อยตำรวจเอก จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์” นักบินที่รอดชีวิต ซึ่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลหัวหิน ล่าสุดมีอาการกระดูกใบหน้าหัก เจาะปอดใส่ท่อระบายของเสียออกจากทรวงอก ไม่พบว่าได้รับการกระทบกระเทือนทางสมองแต่อย่างใด ล่าสุดได้ประสานกับทางโรงพยาบาลตำรวจ หากต้องมีการเคลื่อนย้ายไปรักษา ยืนยันดูแลรักษาอย่างเต็มที่

ผบ.ตร. พบปะสื่อมวลชน พูดคุยอย่างเป็นกันเอง ตอบทุกคำถามอย่างเปิดใจ

เมื่อวานนี้ (24 เม.ย.68) เวลา 12.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้เกียรติพบปะสื่อมวลชน ณ ห้องกระจก ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในบรรยากาศเป็นกันเอง พร้อมร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับผู้สื่อข่าวจากหลากหลายสำนักข่าว

ภายหลังการรับประทานอาหาร พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ฯได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถามอย่างเต็มที่ พร้อมตอบคำถามในประเด็นต่าง ๆ อย่างเปิดใจ โดยเฉพาะเรื่องภารกิจสำคัญและนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งล้วนแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนองค์กรด้วยความโปร่งใส และพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงอินโดนีเซียพร้อมลูกเรือ 5  คน ลุกล้ำเข้ามาทำการประมงในน่านน้ำไทย

เมื่อวันที่ 23 เม.ย.68  พลเรือโทสุวัจ ดอนสกุล ผอ.ศรชล.ภาค 3 สั่งการให้ นาวาเอกแสนย์ไท บัวเนียม รอง ศรชล.จว.สตูล, นป.สอ.รฝ.491 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกปฏิบัติการจับกุมเรือประมงอินโดนีเซีย หลังจากที่ได้รับการรายงานจาก ศคท.จว.สตูล ว่า มีเครือข่ายเรือประมงไทยพบเห็นเรือประมงต่างชาติคาดว่าเป็นเรือประมงของอินโดนีเซียลักลอบทำการประมงบริเวณทางทิศตะวันตกของเกาะหลีเป๊ะ ห่างออกไปประมาณ 13.75 ไมล์

นป.สอ.รฝ.491 จึงได้นำเรือยาง พร้อมเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ และ ศคท.จว.สตูล ได้นำเรือปฏิบัติการความเร็วสูง ศรชล.4006 พร้อมกำลังพล ออกตามไปสมทบ จนกระทั่งสามารถควบคุมเรือลำดังกล่าวและคนบนเรือรวม 5 คน ไว้ได้ ประกอบด้วยไต๋เรือ 1 คน ลูกเรือ 4 คน ทั้งหมดเป็นชาวอินโดนีเซีย พร้อมกับได้ควบคุมทั้งหมดมาที่เกาะหลีเป๊ะ เพื่อส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ทาง ศรชล.ภาค 3 ขอขอบคุณเครือข่ายเรือประมง ที่พบเห็นเรือต่างชาติ, เรือที่ไม่คุ้นตา ไม่เคยพบเห็นในพื้นที่ แล้วแจ้งมายัง ศรชล.ภาค 3, ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ต้องชื่นชม ทุกคนต้องช่วยกันหวงแหน และรักษาไว้ซึ่งทรัพยากรของชาติ

เหตุด่วน เหตุร้าย ภัยทางทะเล ต้องการความช่วยเหลือทางทะเล โทร  1465 แจ้ง ศรชล.ภาค 3 ตลอด 24 ชั่วโมง

'สมศักดิ์' เปิดอาคารนิทรรศการไทย ในงาน Expo 2025 Osaka สุดยิ่งใหญ่ เชื่อ จะช่วยนำเสนอความเป็นไทย-ศักยภาพ-ความพร้อมเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ปลื้ม ให้งานเกรดเอ

'สมศักดิ์' เปิดอาคารนิทรรศการไทย ในงาน Expo 2025 Osaka สุดยิ่งใหญ่ เชื่อ จะช่วยนำเสนอความเป็นไทย-ศักยภาพ-ความพร้อมเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ปลื้ม ให้งานเกรดเอ แต่ยอมรับต้องปรับให้ว้าวขึ้น ชี้ หมอส่วนใหญ่จากสายวิทย์ อาจมีมุมมองไม่เหมือนสายศิลป์ แนะ บริษัท-ผู้ตรวจรับงาน ระดมสมองปรับแก้ เพื่อให้เกิดความพึ่งพอใจ ย้ำ สามารถปรับแก้ได้ ไม่ได้สายเกินไป

เมื่อวานนี้ (24 เม.ย.68) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีเปิดอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) โดยมี นายชัย วัชรงค์ ผู้แทนการค้าไทย นายวิชชุ เวชชาชีวะ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว นายอัครพงศ์ เฉลิมนนท์ กงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข น.ส.ณัฐธิดา เทพสุทิน นายวินิจ เลิศรัตนชัย นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ผู้บริหารสมาคมญี่ปุ่นสำหรับงานนิทรรศการโลกปี 2025 และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วม ณ เวทีการแสดง อาคารนิทรรศการไทย ในงาน Expo 2025 Osaka Kansai นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น

โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเปิด อาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) ในงาน Expo 2025 ที่นครโอซากา ในวันนี้ โดยเชื่อว่า อาคารนิทรรศการแห่งนี้ จะช่วยประชาสัมพันธ์ นำเสนอความเป็นไทย แสดงให้เห็นศักยภาพ และความพร้อมของไทย ในการเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ Medical and Wellness Hub สู่สายตาประชาคมโลก ผ่านจุดแข็งที่สำคัญหลายประการ เช่น มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง มีความพร้อมของสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานในระดับโลก มีแพทย์และบุคลากรที่มีความรู้และเชี่ยวชาญ มีอัตราค่าบริการการรักษาพยาบาลที่เหมาะสม คนไทยมีเซอร์วิสมายด์ของการบริการที่ดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบถ้วน รวมถึงมีความโดดเด่นด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เช่น ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย และการนวดแผนไทย ซึ่งได้รับการยกย่อง ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลก

“ผมขอขอบคุณทุกท่าน ที่ช่วยกันขับเคลื่อนงานที่สำคัญในครั้งนี้ ผมเชื่อมั่นว่า อาคารนิทรรศการไทยพร้อมแล้ว ที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวและนักลงทุน ทั้งชาวญี่ปุ่น และทุกประเทศทั่วโลก ให้เข้ามาเรียนรู้ สัมผัสประสบการณ์อันน่าประทับใจ ช่วยสร้างความเชื่อมั่น และขยายโอกาสการลงทุน ทำให้ประเทศไทย เป็นจุดหมายปลายทางด้านสุขภาพของคนทั้งโลกต่อไป” รมว.สาธารณสุข กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายสมศักดิ์ กล่าวเปิดงาน ได้มีการแสดงสะท้อนความเป็นไทยอย่างยิ่งใหญ่ มีการแสดงรำวง ที่นายสมศักดิ์ ได้ร่วมรำด้วย ก่อนจะมีการแสดงเต้นจากโครงการ TO BE NUMBER ONE โดยบรรยากาศ เป็นไปด้วยความคึกคัก มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ต่างให้ความสนใจ มาร่วมดูกิจกรรมด้วย

นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า วันนี้ ตนได้มาดู พาวิลเลียนไทย ในงาน Expo 2025 Osaka โดยจากคำวิพากษ์วิจารณ์ ตนก็ได้พบได้เห็นหลายๆอย่าง และพยายามทำความเข้าใจในเนื้องานทั้งหมด ซึ่งคำว่า Expo คือ งานแสดงสินค้า และการบ่งบอกถึงอัตลักษณ์ ดังนั้น ในคอนเซ็ปต์คือ การเชื่อมโยงภูมิปัญญาไทย ที่เริ่มตั้งแต่ 1 หมุดหมายสุขภาพ ไปจนถึง 1 ล้านรอยยิ้ม โดยสรุปแล้วคือ การกินดี อยู่ดี ด้วยภูมิปัญญาไทย และจากที่ตนได้เดินดูทั้งหมดแล้ว ต้องบอกว่า ในความเข้าใจ ความรู้สึกของคนมาดู มองว่า เราอาจแบ่งสายการศึกษาเป็น 2 สาย คือ สายวิทย์ และสายศิลป์ ซึ่งคนในกระทรวงสาธารณสุข ส่วนใหญ่เป็นสายวิทยาศาตร์ ก็อาจจะมองในสิ่งที่สายศิลป์มองอย่างชัดเจนและเก่งกล้า ไม่ออกทั้งหมด 

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การนำเสนอที่ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์โดยเฉพาะเรื่องต้นไม้ หรือ สิ่งต่างๆที่สามารถเพิ่มเติมได้ตามแนวทางของสัญญา ก็สามารถปรับแก้ได้ ตนคิดว่า ไม่ได้สายเกินไป โดยในช่วงหลังเปิด 10 วันที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งก็มีวิพากษ์วิจารณ์ออกมา ดังนั้น ตนคิดว่า ทางบริษัท และผู้ตรวจงาน ต้องดูคอมเมนต์ต่างๆที่ออกมาด้วย โดยเรามีความเป็นไทยที่มีภูมิปัญญาจากอดีตถึงปัจจุบัน และอนาคต ในเรื่องสุขสมบูรณ์ จึงอยากให้มองตรงนี้ ส่วนจะวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไร ก็พร้อมรับคำวิจารณ์ และแก้ไข

เมื่อถามว่า จากการดูงานแล้ว อยากให้ปรับตรงไหนเพิ่มหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า มีปรับในห้อง แต่ตนในฐานะสายวิทย์ มองว่า ให้เกรดเอ 80 คะแนน โดยในกระทรวงสาธารณสุข ส่วนใหญ่เป็นสายวิทยาศาสตร์ ก็มองดูแล้ว มาบ่นฉันทำไม แต่คนที่มาวิพากษ์วิจารณ์คือ สายศิลป์ โดยให้คะแนนถึงครึ่งหรือเปล่าก็ไม่รู้ โดยบางคนให้คะแนน 2 เต็ม 10 ก็ไปว่าเขาไม่ได้ เพราะในมุมมองของคนมันต่างกัน แต่เราก็ต้องทำให้เกิดความพึ่งพอใจ เนื่องจากเม็ดเงิน 800 กว่าล้านบาท ก็ต้องทำให้เกิดความพึ่งพอใจของคนที่มองอยู่ ซึ่งมีทั้งพอใจ และไม่พอใจ ดังนั้น เราก็ต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการนำเสนอให้ว้าวขึ้น ตนจึงอยากให้บริษัท และผู้ตรวจรับงาน ได้ระดมสมองกัน ส่วนสำหรับตน ก็จะมีที่ปรึกษา ที่ขอให้ช่วยดู ทั้งในเนื้องาน และการทำงานของเม็ดเงินต่างๆ ที่ยังเหลืออยู่ประมาณ 40% ด้วย

เมื่อถามว่า ในส่วนของเนื้อหา มีความพอใจที่ตอบสนองกับธีมของงานอยู่แล้วใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็ถูก เพราะธีมของงาน ตนก็พยายามดูว่า ผิดอะไรหรือไม่ แต่ของเราอยู่ในมุม ความเชื่อมโยงของวัฒธรรมสังคม ที่ต่อเนื่องสุขสมบูรณ์ โดยของที่เอามาโชว์ทั้งหมด ก็ใช้ได้ แต่ก็ต้องปรับให้ว้าวขึ้น ส่วนตัวเลขคนเข้ามาดู ก็ต้องปรับการบริหาร เพราะตามแนวทางคาดว่า 1-2 ล้านคน ซึ่งถ้าอยากได้ตัวเลขนี้ ก็ต้องมีคนชมวันละ 1 หมื่นคน โดยที่ผ่านมา นับแค่คนเข้าอาคาร แต่งานของเรามีนอกตัวอาคารด้วย ก็ต้องมีการปรับแก้ตรงนี้ด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top