Monday, 20 May 2024
NEWS FEED

‘สื่อเมียนมา’ เผย ‘ทักษิณ’ ล้มเหลว ไกล่เกลี่ยวิกฤตสงครามเมียนมา

(10 พ.ค. 67) สำนักข่าวอิรวดีของเมียนมารายงานว่า การเดินทางเยือนเมียนมาของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย เพื่อช่วยเจรจาหาทางยุติสงครามกลางเมืองระหว่างกลุ่มต่อต้านและรัฐบาลทหารนั้น ไม่เพียงแต่จะถูกเมินจากรัฐบาลเมียนมา แต่ยังทำให้กลุ่มต่อต้านบางส่วนรู้สึกไม่สบายใจด้วย

ทักษิณและทีมงานได้พบกับตัวแทนของกลุ่มต่อต้าน ได้แก่ สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU), พรรคก้าวหน้าแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNPP), องค์การแห่งชาติคะฉิ่น (KNO) และรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ในเดือน มี.ค. และ เม.ย.

การพบปะดังกล่าวไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่ได้รับการยืนยันจากรัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ของไทย มาริษ เสงี่ยมพงษ์ ว่าการเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นจริง แต่ดำเนินการเป็นการส่วนตัว และไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายต่างประเทศอย่างเป็นทางการของไทย

“เราต้องยอมรับว่า คุณทักษิณเป็นที่รู้จักและมีความเชื่อมโยงกับเมียนมา เชื่อว่าเขาสามารถช่วยได้” รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่กล่าว

เชื่อกันว่า ทักษิณมีความใกล้ชิดกับ มิน อ่อง หล่าย ผู้นำเผด็จการทหารเมียนมา เขาเคยไปเยี่ยม มิน อ่อง หล่าย ในปี 2013 และมีผลประโยชน์ทางธุรกิจที่นั่นภายใต้ระบอบการปกครองก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่การหารือในเดือน มี.ค. และ เม.ย. รัฐบาลทหารเมียนมาก็นิ่งเงียบในประเด็นนี้ และไม่ตอบรับคำร้องขอเยือนของทักษิณ แหล่งข่าวในไทยซึ่งคุ้นเคยกับเรื่องนี้บอกกับอิรวดีว่า การหารือดังกล่าวส่งผลย้อนกลับต่อทักษิณ

“ทักษิณกำลังถูกสื่อและฝ่ายค้านโจมตี เป็นการดีสำหรับเขาที่จะถอยออกมาแบบไม่เสียหน้า เนื่องจาก มิน อ่อง หล่าย ไม่ตอบสนองต่อคำขอของเขา” แหล่งข่าวกล่าว

เมื่อวันที่ 8 พ.ค. คณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎรด้านความมั่นคงแห่งรัฐและกิจการชายแดน ซึ่งนำโดยพรรคก้าวไกล ประกาศว่า จะสอบสวนการหารือของทักษิณกับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหาร โดยกล่าวว่า การพบปะอาจทำให้เกิดความสับสนเกี่ยวกับบทบาทของประเทศไทยในการฟื้นฟูความสงบสุขในประเทศเพื่อนบ้าน

แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่า กองทัพไทยกำลังจับตาดูผู้ที่ทักษิณพบปะอย่างใกล้ชิด รวมถึงกลุ่มต่อต้านเมียนมาและกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ โดยบอกว่ากลุ่มเหล่านี้ไม่แน่ใจว่ากองทัพไทยยินดีหรือไม่ที่ได้เห็นทักษิณมาพบปะกับกลุ่มดังกล่าว

แหล่งข่าวรายหนึ่งจากกลุ่มต่อต้านที่เข้าร่วมการหารือกล่าวว่า ทักษิณได้นำเอกสารอย่างเป็นทางการมาให้พวกเขาลงนาม เพื่อมอบอำนาจให้ทักษิณทำหน้าที่เป็นคนกลาง แต่ ‘ไม่มีกลุ่มใดลงนามในเอกสารที่ทักษิณนำเสนอ’ โดยอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับการทำให้รัฐบาลไทยไม่พอใจ

ขณะที่การประชุมกับ NUG ซึ่งเป็นรัฐบาลเงาก็ไม่เป็นไปตามที่อดีตนายกรัฐมนตรีไทยคาดหวังไว้ เพราะเขาได้พบเฉพาะเจ้าหน้าที่ระดับกลางเท่านั้น

อู ออง ซาน มยินต์ เลขาธิการคนที่ 2 ของ KNPP บอกกับอิรวดีว่า ในระหว่างการพบปะหารือ ทักษิณกล่าวว่า เขาต้องการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งที่กำลังดำเนินอยู่ของเมียนมา

“เราไม่ได้ทำข้อตกลงใด ๆ กับเขา เราบอกว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาสำหรับการเจรจา เราได้พูดคุยกันว่า ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจะเป็นประโยชน์ต่อผู้คนอย่างไรในขณะที่มีการต่อสู้กัน เราไม่ได้พูดคุยเรื่องอื่นใดอีก” เขากล่าว

ทึ่ง!! ‘ฝรั่ง’ เก็บเมล็ดพันธุ์ข้าววันพืชมงคล ทำเป็นสร้อยพกติดตัว พร้อมตั้งใจ นำไปฝากเพื่อน-ครอบครัว เพื่อเสริมสิริมงคล

(10 พ.ค.67) ในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เนื่องในวันพืชมงคล ซึ่งจัดขึ้นที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้ใช้บัญชีติ๊กต็อก @mickey3111 โพสต์วิดีโอคลิปจิตอาสาพระราชทานรายหนึ่ง ได้สัมภาษณ์ชาวต่างชาติรายหนึ่ง ที่ลงไปเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวร่วมกับประชาชนและเกษตรกร จากการสอบถามพบว่าเป็นชาวอเมริกัน อยู่ในประเทศไทยมานาน 6 ปีแล้ว อาศัยอยู่ที่เขตบางนา กรุงเทพฯ ปีแรกที่เก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวได้นำไปเลี่ยมใส่กรอบเป็นสร้อยคอไว้กับตัว โดยในปีนี้ตั้งใจว่าจะนำไปฝากเพื่อนและครอบครัวที่มาจากสหรัฐอเมริกาเพื่อความเป็นสิริมงคล

‘แม่สามีชมพู่’ รุดช่วย ‘ยายขายไข่เจียว’ ปลดหนี้นอกระบบ เผย!! รู้สึกหดหู่จนนอนไม่หลับ พร้อมยังช่วยลงทุนให้เพิ่มอีก

(10 พ.ค.67) จากกรณี ยายสุข ซึ่งทำอาชีพขายไข่เจียว วัย 75 ปี โดนแก๊งทวงหนี้ทำร้ายร่างกาย ทำลายข้าวของภายในร้าน และโดนข่มขู่ว่าหากไม่จ่ายเงินจะโดนแบบนี้อีก แม้ต่อมาตำรวจก็สามารถจับกุมดำเนินคดีผู้ก่อเหตุได้ แต่ก็ยังคงสร้างความสะเทือนใจให้กับใครหลาย ๆ คน

ต่อมา รายการ ทุบโต๊ะข่าว ก็ได้เผยคลิปสุดประทับใจว่า คุณอุไรวรรณ ย่าของฝาแฝดสายฟ้า พายุ และแอบิเกล ซึ่งเป็นคุณแม่ของ น็อต วิศรุต และแม่สามีของ ชมพู่ อารยา ก็ได้เห็นข่าวนี้ก็อยากจะเข้าไปช่วยเหลือ

โดยคุณย่าอุไรวรรณได้เดินทางไปพบกับคุณยายขายไข่เจียวด้วยตัวเอง พร้อมเสนอช่วยปลดหนี้สินทั้งหมดให้แก่คุณยาย โดยคุณย่าอุไรวรรณกล่าวว่า “ดูข่าวแล้วหดหู่ใจ นอนไม่หลับ อยากรีบมาช่วยเลย ขับรถหาจนทั่วเลย เราตั้งใจมา”

จากนั้น คุณยายสุข ก็ขอบคุณ คุณย่าอุไรวรรณ ที่มาช่วยเหลือปลดหนี้รวมถึงลงทุนให้เพิ่มอีก โดยบอกว่า “ขอบพระคุณมาก ขอให้มีแต่ความสุข ความเจริญ สุขภาพแข็งแรง รู้สึกดีใจมาก ๆ”

ทำเอาชาวเน็ตหลายคนรู้สึกใจฟู ดีใจไปกับคุณยายสุข ที่มีคนเมตตาช่วยเหลือ ให้โอกาส และหวังว่านี่จะเป็นกรณีสุดท้ายที่จะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแบบนี้ 

‘รมว.ปุ้ย’ ลงพื้นที่ตรวจสอบ เหตุไฟไหม้ถังสารเคมี มาบตาพุด พร้อมสั่งเยียวยา - ส่งเสียลูกผู้เสียชีวิตจนจบปริญญาตรี

(10 พ.ค. 67) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปูนใหญ่ (SCC) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปบริเวณจุดเกิดเหตุ บริษัทมาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ถนนไอ-แปด ทางเรือมาบตาพุด ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง เพื่อตรวจสอบและติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์

เมื่อเดินทางไปถึงบริเวณโรงงาน แค่ลงจากรถก็ถึงกับผงะกลิ่นฉุนของสารที่ถูกเผาไหม้ สูดดมเข้ารู้สึกแสบจมูกมาก สำหรับจุดเกิดเหตุขณะไฟดับหมดแล้ว แต่ยังคงมีการเฝ้าระวังอยู่

ด้านนางพิมพ์ภัทรา รมว.อุตสาหกรรม ได้สอบถามถึงผู้เสียชีวิต ซึ่งทราบว่า บ้านเกิดอยู่จ.เชียงราย ภรรยาทำงานอยู่ในห้างสรรพสินค้า มีบุตรด้วยกัน 1 คน จึงย้ำให้เยียวยาอย่างเต็มที่กับความสูญเสียที่เกิดขึ้น ซึ่งทางผู้บริหารก็ยืนยันจะช่วยเหลือครอบครัว พร้อมส่งลูกเรียนจนจบระดับปริญญาตรี หลังนั้นก็เดินทางต่อไป เยี่ยมประชาชนข้างโรงงาน ที่ศาลาตากวน-อ่าวประดู่ ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง

เมื่อเดินทางไปถึง พบชาวบ้านนับร้อยคน ได้มารอต้อนรับ และรมว.ได้เข้าไปสอบถามพูดคุยกับชาวบ้านอย่างเป็นกันเอง พร้อมขอโทษชาวบ้าน โดยส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบข้างโรงงานเกิดเหตุ ก่อนจะเดินทางกลับไป

ด้านญาติผู้เสียชีวิต เตรียมรับศพผู้เสียชีวิต จากโรงพยาบาลระยอง ไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดจ.เชียงราย

ศรชล./ศคท.จว.ชบ. นำกำลังพล ร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา ตามโครงการจิตอาสา “เราทำความดีด้วยหัวใจ” เฉลิมพระเกียรติ

ศรชล./ศคท.จว.ชบ. โดย น.อ.พินัย จินชัย รอง ผอ.ศรชล.จว.ชบ.พร้อมกำลังพล ร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาตามโครงการจิตอาสา “เราทำความดีด้วยหัวใจ” เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 ณ พิพิธภัณฑ์
ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ (นสร.กร.) อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
โดยมี นายธวัชชัย ศรีทอง ผวจ.ชลบุรี เป็นประธานในพิธีฯ

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645
 

กิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพบุคลากรในพื้นที่เกาะช้าง “การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล” ณ ศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเลกองทัพเรือเกาะช้าง อ.เกาะช้าง จว.ตราด

ในวันที่ 7-8 พ.ค. 67 สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาพื้นที่ในเขตทัพเรือภาคที่ 1 (สล.พมพ.ทรภ.1) จัดกิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพบุคลากร ณ ศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเลกองทัพเรือเกาะช้าง อ.เกาะช้าง จว.ตราด โดยมี นาวาเอกกฤษฎา จิระไตรพร รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 1 เป็นประธาน

สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพูนองค์ความรู้ ความเข้าใจ ตามหลักการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลขั้นเบื้องต้น ตลอดจนเป็นการบูรณาการร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคธุรกิจการโรงแรมในพื้นที่อำเภอเกาะช้าง ให้มีความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคธุรกิจการโรงแรมในพื้นที่อำเภอเกาะช้างจำนวน 20 หน่วยงาน เข้าร่วมกิจกรรม

#ทัพเรือภาคที่1
#กองทัพเรือ
#เทิดทูนสถาบัน_ยึดมั่นระเบียบวินัย_ประชาชนภูมิใจ_ทะเลไทยมั่นคง

'คุณหมอ' เฉลย!! 'อะฟลาท็อกซิน' พิษร้ายจากเชื้อรา ต้ม 260 องศา ถึงจะตาย ฟาก WHO เตือน!! เป็นสารก่อมะเร็งตับ กินเพียงน้อยนิด ก็เสี่ยงมะเร็ง

(10 พ.ค.67) นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคทางสมองระบบประสาท ผู้นำเสนอเกร็ดความรู้ด้านสุขภาพผ่านยูทูบช่อง 'Dr.V Channel' ได้ออกมาอธิบายเกี่ยวกับ ‘ข้าวค้าง 10 ปี’ โดยระบุว่า…

ข้าว 10 ปี กินได้รึเปล่า? คําตอบสั้น ๆ ตอนนี้ สําหรับหมอที่เป็นห่วงทุกท่าน คือ ‘กินไม่ได้’ เหตุผลเพราะว่าข้าวที่เก็บมานาน ๆ มันจะมีความชื้นอยู่ และเมื่อมีความชื้น ‘เชื้อรา’ จะขึ้น ฉะนั้นถ้าเราเอาข้าวที่มีตัวเชื้อรามาล้าง มาต้ม หรือมาประกอบอาหาร โดยส่วนใหญ่บอกว่าเชื้อราตาย ซึ่งอันนี้ก็เรื่องจริง แต่ปัญหาก็คือเชื้อราจะ ‘ทิ้งพิษ’ เอาไว้…

ดังนั้น พิษของเชื้อราตัวนี้ เขาชื่อว่า ‘อะฟลาท็อกซิน’ (Aflatoxin) โดยเป็นพิษของเชื้อรา ซึ่งต้มไม่ตาย ต้มไม่หาย… และการจะทําลายพิษอะฟลาท็อกซินเราต้องใช้อุณหภูมิถึง 260 องศา ซึ่งการหุงข้าวหรือต้มข้าวธรรมดา ไม่มีทางที่อุณหภูมิจะถึง 260 องศา เพราะฉะนั้นบอกได้เลยว่าสารพิษนี้ยังอยู่

ทั้งนี้ สารพิษนี้มีเป็น ‘สารก่อมะเร็ง’ อย่างชัดเจน โดยองค์การอนามัยโลกได้มีการขึ้นทะเบียนอะฟลาท็อกซินว่าเป็นสารก่อมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งตับ เพราะฉะนั้นคนที่กินเข้าไปแม้แต่เพียงปริมาณเล็กน้อย ท่านจะมีความเสี่ยงมาก ๆ ที่จะเป็นมะเร็งตับ…

ฉะนั้นแล้ว อย่ากินข้าวค้าง 10 ปีเด็ดขาด ด้วยความปรารถนาดี 

'แฟนเลสเตอร์' ใส่เสื้อยืดที่มีใบหน้าของ 'คุณวิชัย' รอพบ 'อัยยวัฒน์' บอก!! วันนี้ดีใจจนหยุดไม่ได้ที่ทีมรักหวนคืนพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ

เมื่อไม่นานมานี้ เพจเฟซบุ๊ก ‘วิเคราะห์บอลจริงจริง’ ได้แชร์เรื่องราวสุดน่าประทับใจของแฟนบอลเลสเตอร์ท่านหนึ่ง โดยระบุว่า…

ตอนที่ฉลองแชมป์แชมเปี้ยนชิพเสร็จแล้ว อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา กำลังจะเดินกลับ เขากำลังจะก้าวออกจากสนาม 

มีแฟนฟุตบอลเลสเตอร์ผู้หญิงคนหนึ่ง เธอรออย่างอดทนกว่าสองชั่วโมง รอจนแทบเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากสนาม เธอใช้จังหวะนี้ รีบเดินมาหาอัยยวัฒน์ทันที 

โดยเธอใส่เสื้อยืดที่มีใบหน้าของวิชัย คุณพ่อของอัยยวัฒน์ที่ล่วงลับไปแล้ว 

เมื่อได้เจอกับอัยยวัฒน์ คำเดียวที่เธอพูดคือ ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ 

เธอบอกว่าตัวเองเป็นแฟนเลสเตอร์มานานแล้ว เสียใจมากที่ทีมตกชั้น และวันนี้ก็ดีใจจนหยุดไม่ได้ที่วันนี้ทีมเลื่อนชั้นกลับมา 

จึงตัดสินใจเขียนป้ายภาษาไทย มาหาอัยยวัฒน์ ทั้ง ๆ ที่เธอไม่รู้ภาษาไทยเลย 

ในป้ายของเธอเขียนว่า 

"เจ้านายที่รัก ปีที่แล้ว คุณพูดว่าเราต้องการกลับไปสู่พรีเมียร์ลีก และตอนนี้เราทำมันได้แล้ว ขอบคุณ! ฉันมาจากฮ่องกง และเลือกเลสเตอร์มาตั้งถิ่นฐาน 

ฉันหวังว่าจะได้ถ่ายรูปกับคุณ ฉันสามารถทำแบบนั้นได้ไหม" 

เมื่ออัยยวัฒน์อ่านจบ เขาดูตื้นตัน และมีน้ำตารื้นบนดวงตา จากนั้นเรียกตากล้องมา แล้วบอกว่า มาถ่ายรูปคู่กับเธอให้ที 

อัยยวัฒน์มีความสุขที่เลสเตอร์เลื่อนชั้น และในขณะเดียวกัน เขาก็สร้างความสุขอันเปี่ยมล้นให้ชาวเมือง เพราะเขารักษาสัญญาว่าจะพาทีมเลื่อนชั้นได้จริง ๆ 

ชัยชนะในเกมฟุตบอล มันสร้างความสุขได้มากขนาดนี้ ผมคิดว่าวันนี้ อัยยวัฒน์และทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเลสเตอร์คงนอนหลับด้วยความสุขอย่างแน่นอนครับ 

‘วิชัย ทองแตง’ ชื่นชม!! ผลงานวิจัย ‘ทวารวดีมีชีวิตที่นครปฐม’ ฐานรากทางวัฒนธรรมกับการแปลงคุณค่าสู่มูลค่าของชุมชน

เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 67 คุณวิชัย ทองแตง ประธานมูลนิธิ หนึ่งน้ำใจ One Love Foundation ให้เกียรติกล่าวแสดงความยินดี ในโอกาสร่วมพิธีเปิดงาน ‘ทวารวดีมีชีวิตที่นครปฐม’ จากฐานรากทางวัฒนธรรมกับการแปลงคุณค่าสู่มูลค่าของชุมชน ซึ่งมีท่านสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมเป็นประธาน และ ดร. วิรัตน์ ปิ่นแก้ว อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ให้การต้อนรับ

คุณวิชัย ทองแตง ประธาน มูลนิธิหนึ่งน้ำใจ One Love Foundation กล่าวว่า ขอชื่นชม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และจังหวัดนครปฐม ที่ได้ผลิตผลงานน่าสนใจมากมาย อันเป็นประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครปฐม จังหวัดใกล้เคียง และประเทศไทยอย่างมาก ผลงานต่าง ๆ เหล่านี้สามารถต่อยอดสู่เวทีระดับนานาชาติ เป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทยอย่างยิ่งครับ

ภายในงาน ‘ทวารวดีนครปฐม : สร้างคุณค่า สร้างมูลค่า สร้างจิตสำนึกรักท้องถิ่น’ เป็นการแสดงผลงานวิจัย ภายใต้ทุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในกรอบการวิจัย ‘การจัดการทุนทางวัฒนธรรมเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชนและสำนึกท้องถิ่น’ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างกลไกและเครือข่ายความร่วมมือในการอนุรักษ์ พัฒนา และสร้างสรรค์คุณค่าความสำคัญของอารยธรรมทวารวดีในจังหวัดนครปฐม ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการจากทุนวัฒนธรรมทวารวดีให้กับผู้ประกอบการ ผู้สืบทอด ผู้สร้างสรรค์ ทางวัฒนธรรม เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมในชุมชน และสร้างจิตสำนึกรักท้องถิ่น

โดยมีพื้นที่ในการศึกษา ได้แก่ ชุมชนดอนยายหอม ชุมชนธรรมศาลา ชุมชนพระประโทณเจดีย์ ชุมชนพระปฐมเจดีย์ ชุมชนวัดพระงาม และชุมชนไร่เกาะต้นสำโรง มีกระบวนศึกษาที่สำคัญ คือ กระบวนการสร้างเครือข่าย การสร้างกระบวนการรับรู้ การตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของอารยธรรมทวารวดี วัฒนธรรมของชุมชนในพื้นที่ศึกษา ทั้งนี้เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และพัฒนาสู่ซอฟต์เพาเวอร์ (Soft Power) ของจังหวัดนครปฐม

ทั้งนี้ ติดตามรับชมบรรยากาศ คุณวิชัย ทองแตง ประธาน มูลนิธิหนึ่งน้ำใจ One Love Foundation ร่วมพิธีเปิดงาน ‘ทวารวดีมีชีวิตที่นครปฐม’ จากฐานรากทางวัฒนธรรมกับการแปลงคุณค่าสู่มูลค่าของชุมชน ได้ในรายการเกษตรช่อง 5 พัฒนาชุมชน ได้เร็ว ๆ นี้ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 15.55 น. ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ช่อง 5) ติดต่อประสานงานรายการได้ที่ รศ. ดร. จุรีย์รัตน์ ลีสมิทธิ์ (อจ. แมว) ผู้อำนวยการ ศูนย์ ‘หนึ่งใจ…ช่วยเหลือเกษตรกร’ มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์

อาลัย ‘พนักงานหนุ่ม’ บ.มาบตาพุดแทงค์ฯ ผู้กล้าหาญ พยายามเข้าปิดวาล์วถังแก๊สโซลีน ก่อนถูกแรงระเบิดเสียชีวิต

เมื่อวานนี้ (9 พ.ค.67) จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ ถังเก็บสาร Pyrolysis gasoline (แก๊สโซลีน) ถนนไอ-แปด ทางเรือมาบตาพุด ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 4 ราย โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาดับเพลิงกว่า 8 ชั่วโมง ส่วนสาเหตุเกิดจาก การปิดซ่อมบำรุงถังสารโซลีน โดยพนักงานทั้ง 4 คน ได้ขึ้นไปตรวจวัดปริมาณสารซีไนพลัส ซึ่งเป็นตัวทำละลาย พบว่ามีความจุของสาร 8,000 คิว แต่ปรากฏว่าได้เกิดกลุ่มควันลอยขึ้นมา แล้วก็เกิดระเบิดขึ้น แรงระเบิดได้ส่งผลให้ทั้ง 4 คนตกลงมาจากถัง 

ต่อมาล่าสุด เฟซบุ๊กเพจ ‘Fire & Rescue Thailand’ ได้โพสต์อาลัยพนักงานของบริษัทดังกล่าว ที่พยายามขึ้นไปปิดวาล์วบนถัง ก่อนเกิดการระเบิด จนเสียชีวิต โดยระบุว่า…

ขอแสดงความเสียใจ และขอแสดงความไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิต จากกรณีเหตุเพลิงไหม้ถังเก็บสารตั้งต้นผลิตน้ำมัน และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี บริษัท มาบตาพุดแทงค์เทอร์มินัล จำกัด ภายในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง เมื่อช่วงบ่ายวันนี้

โดยผู้เสียชีวิตชื่อ นายนพพร เรือนมา เป็นพนักงานประจำของบริษัท ที่พยายามขึ้นไปปิดวาล์วบนถัง ก่อนเกิดการระเบิดขึ้น โดยแรงระเบิดทำให้เสียชีวิต เพจ คนอาสา ดับเพลิง-กู้ภัย ประเทศไทย ขอแสดงความยกย่องผู้เสียชีวิต ในความกล้าหาญและเสียสละ จนทำให้ตนเองต้องเสียชีวิต

หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไป ชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความชื่นชมในความกล้าหาญ และแสดงความเสียใจกับการสูญเสียในครั้งนี้ด้วย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top