Monday, 23 June 2025
NEWS FEED

(สุรินทร์) น้ำใจ!!! จากแนวหลัง พ่อค้าแม่ขาย ตลาดสี่มุมเมือง สู่แนวหน้า ส่งแรงใจให้ทหารกล้าในพื้นที่ชายแดน อีสานใต้

(15 มิ.ย. 68) ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ พันเอก จิรัฏฐ์  ช่วงฉ่ำ รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี รับมอบพืชผักสวนครัว, น้ำดื่ม และของใช้เบ็ดเตล็ด จากคุณกร  ศิริรางค์กูร ตัวแทนพ่อค้าแม่ขาย ตลาดสี่มุมเมือง จังหวัดปทุมธานี เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจจากแนวหลังสู่กำลังพลแนวหน้า และทางกองกำลังสุรนารี ทั้งนี้ พันเอก จิรัฏฐ์  ช่วงฉ่ำ รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ขอขอบคุณพ่อค้าแม่ขาย ตลาดสี่มุมเมืองทุกท่าน ที่ได้ส่งกำลังใจอันสำคัญยิ่งมาให้กับทหารกล้าแดนอีสานใต้ทุกคน ทั้งนี้ทางกองบัญชาการกองกำลังสุรนารี ได้ดำเนินการกระจายสิ่งของต่างๆ ไปให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน ได้ประกอบอาหารรับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อยเรียบร้อยแล้ว  

ปุรุศักดิ์ แสนกล้า รายงาน

เธอคือผู้หญิงที่เพียบพร้อม บนศักดิ์ศรีของความเป็นไทย

เมื่อวานนี้ (14 มิ.ย. 68) นายวิชัย ทองแตง ประธานที่ปรึกษากลุ่มบริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด และ ประธานกรรมการ บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ได้ให้เกียรติขึ้นเวที กล่าวต้อนรับ "โอปอล สุชาตา“ กลับประเทศไทยในฐานะ Miss World 2025 โดยท่านได้กล่าวว่า ...

มงกุฎเกียรติยศ มักจะมาพร้อมด้วยน้ำตาเสมอ เป็นน้ำตาแห่งความปิติ และความภาคภูมิ และสาวน้อยผู้พิชิตมงกุฎอันนี้มาได้ เธอไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวแทนของความงดงาม เยี่ยงไทยเท่านั้น แต่เธอ เปล่งประกายไปทั้งโลก เธอคือผู้หญิงที่เพียบพร้อม จริงๆ บนศักดิ์ศรีของความเป็นไทย

โอปอล บอกว่า เธอจะทิ้งร่องรอยแห่งความหมาย และความมุ่งมั่นของเธอ เธอจะทิ้งร่องรอยแห่งแสงสว่าง และร่องรอยของความเข้มแข็ง ไว้ในประเทศนี้ ตราบจนลมหายใจสุดท้ายของเธอ

ซึ่งหลังจากที่ คุณวิชัย ทองแตง ได้พูดจบ เสียงปรบมือก็ได้ดังกึกก้อง!! เป็นภาพบรรยากาศที่น่าประทับใจเป็นอย่างมาก

สมุทรปราการ-นายกแพรกษาใหม่ เปิดกิจกรรม โครงการแข่งขันกีฬาเพื่อส่งเสริมสุขภาพของคนในชุมชนตำบลแพรกษาใหม่

วันที่ 15 มิถุนายน 2568 ที่สนามกีฬาเทศบาลเมืองแพรกษาใหม่ ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ นายอำนวย บุญริ้ว นายกเทศมนตรีเมืองแพรกษาใหม่ ให้เกียรติเป็นประธานกล่าวเปิดกิจกรรม "โครงการแข่งขันกีฬาเพื่อส่งเสริมสุขภาพของคนในชุมชน ตำบลแพรกษาใหม่" ประจำปี 2568 

โดยมี นายณัฐพล บุญริ้ว รองนายกเทศมนตรีเมืองแพรกษาใหม่ ในนามของคณะกรรมการจัดการแข่งขัน กล่าวรายงาน พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร คณะสมาชิกสภาเทศบาล ตลอดจนเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นำโดย กำนันธนสัน วสันต์ กำนันตำบลแพรกษาใหม่ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองแพรกษาใหม่ และประชาชนชาวชุมชนตำบลแพรกษาใหม่ ทั้ง 7 หมู่ เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้

ด้านนายอำนวย บุญริ้ว นายกเทศมนตรีเมืองแพรกษาใหม่ กล่าวว่า กิจกรรมการแข่งขันกีฬาชุมชนในครั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนและเยาวชนทุกลุ่มได้ออกกำลังกายและเล่นกีฬาเป็นประจำต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนและเยาวชนหันมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและห่างไกลยาเสพติด เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนและเยาวชนมีความสามัคคีในหมู่คณะ และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์การแข่งขันกีฬาเพื่อส่งเสริมสุขภาพของคนในชุมชน ตำบลแพรกษาใหม่

ทั้งนี้ แบ่งนักกีฬาออกเป็น 7 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 1 สีเหลือง หมู่ที่ 2 สีส้ม หมู่ที่ 3 สีแดง หมู่ที่ 4 สีชมพู หมู่ที่ 5 สีเขียว หมู่ที่ 6 สีฟ้าและหมู่ที่ 7 สีน้ำเงิน โดยแบ่งการแข่งขันกีฬา ออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1. การแข่งขันกีฬาสากล ฟุตบอล 7 คน ไม่จำกัดอายุ จำนวน 7 ทีม 2. การแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน วิ่งเปี้ยว (ซุปเปอร์แมน) วิ่งกระสอบ ประเภทวิ่งทางตรง และวิ่งผลัด ตีกอล์ฟคนจน ทีมกินวิบาก วิ่งเรือบก และแชร์บอลน้ำ

ซึ่งการจัดการแข่งขันกีฬาเพื่อส่งเสริมสุขภาพของคนในชุมชนตำบลแพรกษาใหม่ครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณและความร่วมมือเป็นอย่างดี จากกองทุนพัฒนาไฟฟ้าจังหวัดสมุทรปราการ ตลอดจนผู้บริหารท้องถิ่น ฝ่ายปกครองตำบลแพรกษาใหม่ บุคลากรและเจ้าหน้าที่ ส่วนราชการต่าง ๆ ของเทศบาลเมืองแพรกษาใหม่

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

‘ฮุน มาเนต’ โพสต์เฟซ!! โชว์หนังสือถึง ‘ศาลโลก’ เผย!! เลือกใช้ กฎหมายระหว่างประเทศ และสันติภาพ

(15 มิ.ย. 68) พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์เฟซบุก Hun Manet โชว์ภาพหนังสืออย่างเป็นทางการ ถึงศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เพื่อช่วยหาทางแก้ไขข้อพิพาทชายแดนในบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และบริเวณมุมไบ หรือช่องบก-สามเหลี่ยมมรกต เป็นภาษากัมพูชาและภาษาอังกฤษ หัวข้อเรื่อง “กัมพูชาเลือกกฎหมายระหว่างประเทศและสันติภาพ” โดยมีเนื้อหาระบุว่า ...

วันนี้ (15 มิ.ย. 68) รัฐบาลกัมพูชาได้ส่งหนังสือทางการไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เพื่อช่วยหาทางออกปัญหาพัฒนาชายแดนในปราสาทตาเมืองธม ปราสาทตาเมืองโต๊ด ปราสาทตาควาย และพื้นที่มุมไบแล้วในวันที่ 15 มิถุนายน 1962 เป็นวันประวัติศาสตร์เมื่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ)ตัดสินว่ากัมพูชาชนะประเด็นวัดพระวิหาร

แม้ว่าทั้งสองเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นห่างกัน 63 ปี แต่มันก็เป็นความจริงที่จิตวิญญาณและวัตถุประสงค์เดียวกัน ដោយ กัมพูชาเลือกที่จะตั้งถิ่นฐานอย่างสงบสุขบนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศผ่านกลไกศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ICJ สําหรับการแก้ไขปัญหาชายแดนในพื้นที่ที่มีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูง ของความขัดแย้งติดอาวุธ ซึ่งกลไกทวิภาคีไม่สามารถแก้ไขได้ทั้งหมด เช่นเดียวกับในเขตวัดพระวิหาร เมื่อ 60 ปีก่อน และบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และบริเวณมุมไบ 

วันนี้กัมพูชาต้องการความยุติธรรม ยุติธรรม ชัดเจนเท่านั้น ที่จะกําหนดแนวชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อลูกหลานจะได้ไม่ประสบปัญหาด้วยกันไม่สิ้นสุด

ขอความกรุณา เพื่อนร่วมชาติทุกท่าน เชื่อมั่นในรัฐบาลในการทํางานนี้ด้วยความเต็มใจและรับผิดชอบอย่างยิ่ง เพื่อปกป้องความมั่นคงของแผ่นดิน และประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชนชาวกัมพูชา ขอให้เพื่อนร่วมชาติของเราเชื่อมั่นในรัฐบาลกัมพูชาในความพยายามที่จะทํางานนี้ด้วยความตั้งใจและความรับผิดชอบอย่างเข้มแข็งเพื่อปกป้องความซื่อสัตย์ในดินแดนของเราและเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชนกัมพูชา

มันมีเส้นแบ่งบางๆ ระหว่าง การทูตเชิงบวก เน้นสันติภาพ กับ การทูตหน่อมแน้ม

(15 มิ.ย. 68) รองศาสตราจารย์ ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Aksornsri Phanishsarn ระบุว่า ...

มันมีเส้นแบ่งบางๆ ระหว่าง การทูตเชิงบวก เน้นสันติภาพ กับ การทูตหน่อมแน้ม

#การทูตหน่อมแน้ม ในยุคที่รัฐบาลข้างบ้าน #ขวาจัดสุดโต่ง กระหน่ำซัดเราอย่างหนักรายวัน

'ฮุนเซน' ยืนกรานนำ 4 ข้อพิพาทขึ้นศาลโลกแน่นอน ชี้ คุยกันเอง 100 ปีก็ไม่จบ ต้องยุติความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตผ่านกระบวนการยุติธรรม ยกตัวอย่างหลายประเทศในอาเซียนยอมรับกติกาศาลโลก ทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568 ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเขตแดนไทย-กัมพูชา #JBC ครั้งที่ 6 จะมีขึ้น ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา โพสต์ข้อความถึงชาวกัมพูชาและมิตรสหายชาวต่างชาติ

สมเด็จฮุน เซน กล่าวว่า ตนเชื่อมาโดยตลอดว่า วันหนึ่งประเทศไทยอาจกระทำการบางอย่างซ้ำรอยกับเหตุการณ์ระหว่างปี 2008 ถึง 2011 และในวันนี้ เราเริ่มเห็นพฤติกรรมที่ละเมิดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และมีลักษณะรุกรานอย่างชัดเจน ดังนั้น การตัดสินใจของตนในขณะนั้น จึงสามารถเข้าใจได้ในบริบทของชุมชนนานาชาติที่ยึดมั่นในหลักนิติธรรม รวมถึงในบริบทของความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชากับประเทศไทยในอนาคต

"กัมพูชาขอเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ที่ยึดมั่นในนโยบายต่างประเทศภายใต้หลักนิติธรรม สนับสนุนให้ทั้งสองฝ่ายเจรจาแก้ไขข้อพิพาทอย่างสันติ และเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ กัมพูชา ขอให้ประเทศที่เคารพกฎหมายระหว่างประเทศ สนับสนุนให้ประเทศไทยแก้ไขข้อพิพาทเขตแดนร่วมกับกัมพูชาผ่านกระบวนการของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) โดยเฉพาะใน 4 ประเด็นสำคัญ ได้แก่:

1. พื้นที่สามเหลี่ยมมรกต หรือช่องบก ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างกัมพูชา ลาว และไทย

2. ปราสาทตาเมือนธม

3. ปราสาทตาเมือนโต๊ด

4. ปราสาทตาควาย

สมเด็จฮุน เซน กล่าวว่า กัมพูชาไม่ได้ร้องขออาวุธหรือกระสุนที่นำไปสู่การนองเลือดกับประเทศไทย แต่กัมพูชาต้องการการสนับสนุนให้หันหน้าเข้าสู่แนวทางสันติวิธี ผ่านการเจรจาทวิภาคีและกระบวนการทางกฎหมาย

"เส้นเขตแดนระหว่างกัมพูชา-ไทยมีความยาวมากกว่า 800 กิโลเมตร แต่กัมพูชาเพียงขอให้พิจารณา 4 พื้นที่ ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงต่อความขัดแย้งทางทหารในอนาคต และต้องได้รับการแก้ไขล่วงหน้าผ่านกระบวนการศาล เพราะปัญหาเหล่านี้ไม่สามารถแก้ไขได้แม้ภายใน 100 ปีหากอาศัยเพียง #กลไกทวิภาคี ดังนั้น มีเพียง #ศาลโลก เท่านั้นที่สามารถตัดสินข้อพิพาทเหล่านี้ได้อย่างเด็ดขาด"

ลำพูน-ผบช.ภ.5 แถลงข่าวจับกุมคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ร้านทองป่าซาง พร้อมทำแผน

วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 น. พล.ต.ท. กฤตธาพล  ยี่สาคร ผบช.ภ.5 เป็นประธานการแถลงข่าว ผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีวิ่งราวทรัพย์ร้านทองเหตุเกิดในพื้นที่ สภ.ป่าซาง จ.ลำพูน ณ ห้องประชุมสภ.ป่าซาง จ.ลำพูน จัดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ณ ร้านทองที่เกิดเหตุ

ด้วยเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2568เวลาประมาณ 11.40 น.ได้รับแจ้งว่ามีเหตุวิ่งราวทรัพย์ที่ร้านทองเยาวราช แยกตลาดป่าซาง ม.1 ต.ป่าซาง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน พ.ต.อ.วีรชาติ ระตะเจริญ ผกก.สภ.ป่าซาง,พ.ต.ท.ชาญวิทย์ ทนันชัย รอง ผกก.สส.สภ. อ.ป่าซาง, พ.ต.ท กฤตธัช ศรีคำมูล สว.สส.สภ.ป่าซาง พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.ป่าซาง จว.ลำพูน และพนักงานสอบสวนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าคนร้ายได้วิ่งราวทรัพย์เป็นทองรูปพรรณจำนวน 2 เส้น น้ำหนักเส้นละ 5 บาท มูลค่าประมาณ 500,000 กว่าบาท จึงได้ ประสาน พฐ.จังหวัดลำพูน ร่วมตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและตรวจยึดหลักฐานที่คนร้ายทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมาจากการสืบสวนสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้ไปลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ที่ตลาดนัด
ทุ่งฟ้าบด อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ และได้ใช้ใช้รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว มาก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในพื้นที่
อ.ป่าซาง จว.ลำพูน โดยการอำนวยการของ พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย
รอง ผบช.ภ.5.(สส), พล.ต.ต.วรพงษ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5, พล.ต.ต.บุณยวัต เกิดกล่ำ ผบก.ภ.จว.ลำพูน,
พล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่,พ.ต.อ.พงศกร รัศมีโรจน์สกุล รอง ผบก.ภ.จว.ลำพูน,
พ.ต.อ.ดนัย ใจกล่ำ ผกก.สส.ภ.จว.ลำพูน ได้สั่งการให้ ชุดสืบสวน สส.1.บก.สส.ภ.5, กก.สส.จว.เชียงใหม่,
กก.สส.จว.ลำพูน, ชุดสืบสวน สภ.ป่าซางและชุดสืบสวน สภ.สันป่าตอง จว.เชียงใหม่ บูรณาการร่วมกันทำการ
ติดตามจับกุมคนร้ายให้จงได้ 

ต่อมาได้สืบทราบว่าคนร้าย คือ นายประกร(นามสมมุติ) อายุ47 ปีบ้านเบขที่8/87 ม.6 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงได้ขออำนาจศาลจังหวัดลำพูนออกหมายจับ และศาลได้อนุมัติหมายจับที่ 265 /2568 ลงวันที่11 มิ.ย.2568 ในข้อหา "วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การ
กระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม" และในวันที่ 14 มิ.ย. 2568สามารถจับกุม
ตัวได้พื้นที่ สภ.เมืองพัทยา จว.ชลบุรี และได้นำตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.ป่าซางจว.ลำพูน ต่อไป

ตำรวจภูธรภาค 5 โดย พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 ได้วางมาตรการให้ สภ.ในพื้นที่กวดขัน
และประชาสัมพันธ์ให้กับร้านค้าทองคำเกี่ยวกับการขอความร่วมมือ เจ้าของร้านทองให้ลูกค้าที่มาติดต่อร้าน
ถอดหมวก, หน้ากากอนามัย, แว่นกันแดดหรือสิ่งปกปิดใบหน้า และให้ทำการติดตั้งแผงกั้นหรือประตูกระจก
นิรภัยล็อคอัตโนมัติ รวมถึงการติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มเติมให้หันกล้องไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์ในการ
มองเห็นผู้เข้ามาใช้บริการร้านอย่างชัดเจน เพื่อสร้างความปลออดภัยในชีวิตและทรัพย์สินโดยรวม

-แม่ทัพภาคที่ 4 เยี่ยมให้กำลังใจทหารพรานบาดเจ็บจากเหตุลอบวางระเบิดที่นราธิวาส ย้ำเร่งช่วยเหลือ-ติดตามตัวคนร้าย

(15 มิ.ย. 68) เวลา 09.00 น. พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เดินทางเข้าเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อย ทพ.4916 ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุลอบวางระเบิดขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ม.2 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เมื่อคืนวันที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา

จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 5 นาย และเสียชีวิต 1 นาย ได้แก่ อส.ทพ.ฮัมรู สะมะแอ ส่วนผู้บาดเจ็บ อส.ทพ.อับดุลรอมัน จิใจ ,อส.ทพ.อังศกร สุขสมาน ,อส.ทพ.อินทรี โตมร ,อส.ทพ.ศราวุฒิ เลี่ยนเส้ง ,อส.ทพ.นันทวัฒน์ รงรักษ์ อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์อย่างใกล้ชิดและอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว

โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้นำกระเช้าเยี่ยมจาก พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก และเงินบำรุงขวัญมอบให้ผู้บาดเจ็บ พร้อมสอบถามเหตุการณ์และกล่าวชื่นชมในความกล้าหาญ เสียสละของกำลังพล และย้ำว่า รัฐบาลและผู้บังคับบัญชาทุกระดับพร้อมให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องสิทธิ สวัสดิการ และการดูแลฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามสถานการณ์ นำผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และขอความร่วมมือประชาชนร่วมแจ้งเบาะแสผ่านสายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 โทร. 061-1732999 หรือสายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. โทร. 1341 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยืนยันเดินหน้าดูแลความปลอดภัยในพื้นที่อย่างเต็มที่ เพื่อสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนในจังหวัดชายแดนภาคใต้

ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

ททท. เปิดตัวโครงการ Green Getaway: เที่ยวไป กรีนไป จัดหนักส่วนลดสนับสนุนผู้ประกอบการสีเขียวที่ได้มาตรฐาน  พร้อมทำภารกิจร่วม “ฟื้นฟู” เปลี่ยนแปลงโลกให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น กับกิจกรรมเที่ยวด้วยช่วยได้ “Make Your Holiday Worthwhile” 

(15 มิ.ย. 68) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ! ก้าวสู่ยุคใหม่ของการเดินทางท่องเที่ยวสไตล์ Green Generation กับโครงการ Green Getaway: เที่ยวไป กรีนไป ภายใต้แนวคิดการท่องเที่ยวแบบฟื้นฟู (Regenerative Tourism) ที่เชื่อว่าพลังเล็ก ๆ จากนักเดินทางสามารถช่วยเยียวยาธรรมชาติ สร้างโอกาสให้ชุมชน และหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจไทยได้อย่างยั่งยืน

จากวิกฤตสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ มลพิษทางอากาศ พื้นที่ป่าไม้ลดลง ปัญหาขยะที่เพิ่มขึ้น ฯลฯ ล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่าธรรมชาติไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้เท่าทันจังหวะการใช้ชีวิตของมนุษย์ และถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อโลกที่อยู่อาศัยอย่างจริงจัง

คุณกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร  ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า “การเปิดตัวโครงการ Green Getaway: เที่ยวไป กรีนไป จะเป็นกลไกที่ช่วยเปิดมุมมองใหม่ ๆ สร้างความเข้าใจว่าทุกคนควรมีบทบาทในการเยียวยาโลก และการท่องเที่ยวในวันนี้ต้องคำนึงมากกว่าการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม  หรือการรักษาสิ่งแวดล้อม จึงได้นำเสนอแนวคิดการท่องเที่ยวแบบฟื้นฟู (Regenerative Tourism) ซึ่งต่อยอดมาจากการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน (Sustainable Tourism) โดยมุ่งหวังให้ทุกภาคส่วน ทั้งนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ และชุมชนได้มีส่วนร่วมในประสบการณ์ท่องเที่ยวสีเขียวไปด้วยกัน”

“ททท. ได้คัดสรรสินค้า บริการ และกิจกรรมการท่องเที่ยวจากทุกภูมิภาคของไทย ซึ่งได้รับการันตีว่ามีการดำเนินงานอย่างใส่ใจสิ่งแวดล้อม ด้วยรางวัล มาตรฐาน หรือตราสัญลักษณ์ที่เชื่อถือได้จากทั้งในระดับประเทศและระดับสากล อาทิ รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย มาตรฐานการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน STGs , CF-Hotels มาตรฐาน Earth Check การรับรอง Travelife Sustainability in Tourism การรับรอง Green Hotel และอีกมากมาย เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางที่มีความหมายลึกซึ้งสำหรับนักท่องเที่ยวสายกรีน”  
 
“ไม่เพียงเท่านั้น ททท. ยังได้จับมือพันธมิตร ทั้งแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวชั้นนำ ผู้ประกอบการท่องเที่ยว รวมทั้งกลุ่มธุรกิจไลฟ์สไตล์และ Member Club ต่าง ๆ เข้ามาร่วมจัดทำแคมเปญ มอบสิทธิประโยชน์ ส่วนลด ของที่ระลึก ฯลฯ เพื่อเป็นแรงจูงใจและรางวัลในการออกเดินทางไปฟื้นฟูธรรมชาติอีกด้วย” คุณกนกกิตติกา กล่าวเสริม

สำหรับดีลพิเศษเอาใจสายกรีนได้แก่ เมื่อจองที่พักผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน Traveloka รับโค้ดส่วนลด 200 บาท และพิเศษสำหรับลูกค้าชำระผ่านบัตรเครดิต KTC ใช้คะแนนแลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 13% - เช่ารถยนต์ไฟฟ้ากับ Chic Car Rent รับส่วนลดสูงสุด 400 บาท  -  สำหรับนักท่องเที่ยวเป็นกลุ่ม ต้องการเที่ยวไป กรีนไป จองรถบัสกับ Eagle The Tour 30 ที่นั่งขึ้นไป รับส่วนลดทันที 10%  - Local Alike จัดทำเส้นทางท่องเที่ยวสายกรีน 10 เส้นทาง ท่องเที่ยวชุมชน ฟื้นฟูป่า สนับสนุนและกระจายรายได้สู่ชุมชน  อนุรักษ์และปกป้องสัตว์ป่า พร้อมชมความงดงามของธรรมชาติ พร้อมมอบส่วนลดจองทริปสูงสุด 10% 

นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดกิจกรรม Green Getaway “Make Your Holiday Worthwhile จังหวัดระยอง” ในวันที่ 6–7 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ร่วมกับพันธมิตร อาทิ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน), Centara Q Resort Rayong, Chic Car Rent, Eagle the tour, KTC และ Local Alike  เชิญชวนนักท่องเที่ยวสายกรีน จิตอาสา และคนรักสิ่งแวดล้อม มาร่วมเปลี่ยนวันหยุดธรรมดา ให้กลายเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ โดยมีไฮไลต์ อาทิ Beach Clean Up ชายหาดแหลมแม่พิมพ์ อีเวนต์สุดชิลล์ริมชายหาดที่มัดรวมไว้ทั้งการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมและเวิร์กช็อปสร้างสรรค์ การปล่อยปูคืนสู่ทะเล ฯลฯ

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มุ่งหวังให้โครงการ Green Getaway: เที่ยวไป กรีนไป เป็นมากกว่าการเดินทางท่องเที่ยว แต่คือภารกิจร่วม “ฟื้นฟู” และเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น ติดตามรายละเอียดและกิจกรรมการท่องเที่ยวสีเขียวได้ทาง Facebook Page: Green Getaway เที่ยวไป กรีนไป

#GreenGetaway #เที่ยวไปกรีนไป #MakeYourHolidayWorthwhile #Amazingthailand 

Fast Auto Show Thailand 2025 จัดใหญ่!! 2 - 6 ก.ค.นี้ ที่ไบเทค บางนา

(14 มิ.ย. 68) คิง ออฟ ออโต้ โปรดักท์ฯ ผู้จัดงานมหกรรมจำหน่ายรถยนต์ครบวงจร 'Fast Auto Show Thailand' เดินหน้าความพร้อมงาน 'Fast Auto Show Thailand 2025' ผนึกพันธมิตรค่ายรถใหม่หลากแบรนด์ และผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วชั้นนำ ร่วมชูคอนเซพท์ “รถใหม่โปรโดนใจ รถมือสองไมล์แท้รับประกันซื้อคืน” ย้ำ “เลือกคันที่ชอบ ถอยคันที่ใช่” ไม่จำเป็นต้องรอ

พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ประธานจัดงาน 'Fast Auto Show Thailand 2025' เปิดเผยว่า Fast Auto Show Thailand 2025 เป็นงานซื้อ-ขายรถยนต์ครบวงจรที่จัดขึ้นในช่วงกลางปี ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 13 ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือทางการตลาดระดับคุณภาพสำหรับพันธมิตร ทั้งค่ายรถใหม่ และผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วชั้นนำ ในการกระตุ้นให้เกิดแรงซื้อ-ขาย และสร้างโอกาสในการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย หนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่สำคัญของประเทศ ด้วยการผนึกกำลังจัดโปรโมชันที่จูงใจสำหรับรถใหม่ และเงื่อนไขการรับประกันที่เพิ่มความอุ่นใจสำหรับรถยนต์ใช้แล้ว ด้วยคอนเซพท์ “รถใหม่โปรโดนใจ รถมือสองไมล์แท้รับประกันซื้อคืน” เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการจัดการต้นทุนในครัวเรือนให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ ให้ความสะดวก และประหยัดเวลาในการ “เลือกคันที่ชอบ ถอยคันที่ใช่” สามารถเปรียบเทียบคุณภาพ การให้บริการ และราคาที่ตรงใจได้ในงานเดียว ซึ่งปีนี้ได้รับการตอบรับด้วยดีเช่นเคยจากกลุ่มธุรกิจยานยนต์รถใหม่ มาครบทั้งรถสันดาป รถไฟฟ้า และรถพลังงานทางเลือกอื่นๆ ที่มาพร้อมโปรโมชันแบบดุดัน และสำหรับรถยนต์ใช้แล้วคุณภาพดี ปีนี้เรายังเป็นงานแรก และงานเดียวในประเทศไทยที่เพิ่มเติมการการันตีไมล์แท้ของรถยนต์ใช้แล้วทุกคันในงาน หากพบว่าไม่ถูกต้อง รับประกันซื้อคืน 100 % นอกจากนี้ เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความสุข ภายในงานยังเปิดให้เป็นพื้นที่ Pet Friendly สามารถนำสัตว์เลี้ยงคู่ใจมาร่วมชมงานได้ และจัดแข่งขัน Strider Racing @Fast Auto Show Thailand 2025 สำหรับนักซิ่งรุ่นจิ๋ว วัย 2-4 ปี โดยจะยกสนามแข่งมาตรฐานมาไว้ในฮอลล์ ซึ่งจะเปิดให้ฝึกซ้อมในวันธรรมดา และแข่งขันชิงรางวัล ในวันเสาร์ที่ 5 และวันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม 2568

'Fast Auto Show Thailand 2025' เป็นงานที่ผสานความร่วมมือของ 3 ค่ายสื่อยานยนต์ที่มีประสบการณ์ในงานจัดแสดงรถระดับประเทศมายาวนาน ได้แก่ กรังด์ปรีซ์ฯ-มอเตอร์โชว์, สื่อสากลฯ-Motor Expo และ วี.เอ แอนด์ ซันส์ฯ ที่คร่ำหวอดในวงการรถยนต์ใช้แล้วมากว่า 15 ปี

ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน เผยว่า ปี 2568 เป็นปีที่ท้าทายของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยต่อเนื่องจากปีที่แล้ว แม้ว่าภาคเศรษฐกิจกำลังอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว แต่การที่รถยนต์ใหม่หลากรุ่นจ่อคิวทยอยเปิดตัวต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นปี เป็นสิ่งยืนยันว่าประเทศไทยยังคงเป็นตลาดสำคัญที่มีศักยภาพ และยัง “เนื้อหอม” เป็นที่หมายปองของต่างชาติในการเป็นฐานผลิต จึงเป็นปีที่น่าจับตาว่า เจ้าตลาดดั้งเดิมแต่ละแบรนด์จะขยับตัวอย่างไร เพื่อรับมือกับการตลาดของรถแบรนด์จีน และการมาของรถพลังงานทางเลือกอื่นๆ ที่รักษ์โลกใกล้เคียงกับรถไฟฟ้า ก็ทำให้ตลาดน่าสนใจยิ่งขึ้น จึงเป็นโอกาสให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้รถยนต์ที่ต้องการในราคาที่สมเหตุสมผลมากขึ้น สำหรับแบรนด์รถใหม่ที่ตอบรับเข้าร่วมในงาน “Fast Auto Show Thailand 2025” ณ เวลานี้รวม 10 แบรนด์ ได้แก่ Isuzu, Toyota, Honda, Mitsubishi, Volvo, Mercedes-Benz, MG, Zeekr, Deepal และ Aion ที่จะมาพร้อมแคมเปญโปรโมชันโดนใจอย่างแน่นอน

อัษฎาวุธ อาสาสรรพกิจ รองประธานจัดงาน กล่าวว่า ผมมักจะโดนถามเสมอว่า ทำไมคนถึงต้องมาซื้อรถมือสองในงาน 'Fast Auto Show Thailand' คำตอบง่ายๆ คือ 1. มีรถยนต์สภาพนางฟ้าเลขไมล์น้อยให้เลือกหลากหลายรุ่น ครบทุกเซกเมนท์ 2. ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานต่างเป็นพาร์ทเนอร์กันมานาน มีมาตรฐานที่เชื่อถือได้ 3. รถทุกคันที่เข้างานต้องผ่านการตรวจสอบจากทีมงานมืออาชีพว่าเป็นรถที่เข้าเงื่อนไขเบื้องต้น 5 ข้อ คือ ไม่ไฟไหม้ ไม่จมน้ำ ไม่ตัดต่อ ไม่ชนหนัก และจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายได้ หากผิดเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่ง รับประกันซื้อคืน 100 % ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยตอกย้ำความมั่นใจของลูกค้าว่าจะได้รถมือสองชั้นดีจากในงาน และสำหรับปีนี้เรายังมี 2 ไฮไลท์สำหรับผู้ที่สนใจรถกลุ่มนี้ คือ เราเป็นงานแรก และงานเดียวในประเทศไทยที่การันตี “ไมล์แท้รับประกันซื้อคืน” เพิ่มขึ้นมา และยังจัดหา “ดอกเบี้ยรถมือสอง และเงื่อนไขที่ดีที่สุดในประเทศไทย” เพื่อให้บริการอีกด้วย ทั้งนี้ ผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วที่เข้าร่วมงานปีนี้มีจำนวน 5 ราย ประกอบด้วย DDS คาร์เซ็นเตอร์, ดาศรีนครินทร์, โย รัชดา, เบนซ์ เค้งหงษ์ทอง และ Volvo Selekt Approved Used Cars

อโณทัย เอี่ยมลำเนา รองประธานจัดงาน ซึ่งดูแลด้านกิจกรรมในงานได้ให้ข้อมูลว่า นอกเหนือจากรถโชว์แล้ว 'Fast Auto Show Thailand 2025' ได้จัดสรรพื้นที่โดยคำนึงถึงบรรยากาศแห่งความสุขของผู้ที่เข้ามาชมงาน อาทิ โซนรถตกแต่งพิเศษ สวยเท่ คูล ใช้งานได้จริง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจสำหรับผู้ใช้รถรุ่นใหม่ที่ต้องการสไตล์เป็นของตัวเอง ส่วนไฮไลท์ปีนี้ คือ Fast Auto Show ได้ร่วมกับ Strider Thailand จัดการแข่งขัน Strider Racing @Fast Auto Show Thailand 2025 สนามใหม่ เพื่อการแข่งขันสุดมันสำหรับนักปั่นตัวน้อย เชิญชวนเหล่านักซิ่งรุ่นเยาว์ อายุ 2-4 ปี ลงสมัครประลองความสามารถทั้งแบบปั่น และแบบไถ รวม 14 รุ่น ชิงรางวัลมากมาย มาร่วมลุ้น และเชียร์กัน ในวันเสาร์ที่ 5 และวันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม 2568 ตั้งแต่ 10.00-17.00 น. สนใจสมัคร และติดตามรายละเอียดได้ที่ https://form.jotform.com/251512312965453

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีพื้นที่จัดแสดงรถดัดแปลงหลากหลายรูปแบบ เหมาะกับผู้ประกอบการ SME เพื่อจำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่ม รวมทั้งให้บริการต่าง ๆ เป็นการนำเสนอไอเดียให้แก่ผู้ประกอบการ และผู้บริโภคที่กำลังมองหาโอกาสเริ่มต้นธุรกิจใหม่ หรือต่อยอดธุรกิจ และยังมีบูธของกรุงเทพประกันภัย เพื่อให้คำปรึกษา และนำเสนอประกันภัยรถที่คุ้มค่าสำหรับผู้สนใจ

ในส่วนของกิจกรรม 'ซื้อรถ ลุ้นรับ' ในปีนี้ ผู้จองรถ และซื้อรถทุกคันในงาน ไม่เพียงได้สิทธิ์ลุ้นรับรางวัลใหญ่เป็นเก้าอี้นวดไฟฟ้ารุ่น Robo 8989 Massage Chair จาก Amaxs แบรนด์เก้าอี้นวดไฟฟ้า และเครื่องออกกำลังกายที่ส่งเสริมสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม ด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพ มูลค่า 279,000 บาท จำนวน 1 รางวัล และของรางวัลอีกมากมายหลังจบงานเท่านั้น แต่ยังได้สิทธิ์ลุ้นรับรางวัลประจำวันเป็นสกูเตอร์ไฟฟ้า Segway รุ่น Ninebot KickScooterD18W มูลค่า 16,900 บาท จาก Monowheel จำนวน 5 รางวัล หรือแค่แวะมาชมงาน และร่วมสนุกกับกิจกรรม 'แชร์มา รับไป' เพื่อลุ้นรับรางวัลอีกมากมาย ติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook: FAST AUTO SHOW

ทั้งนี้ งาน 'Fast Auto Show Thailand 2025' ยังเป็นพื้นที่ Pet Friendly สามารถนำสัตว์เลี้ยงแสนรักที่ได้รับอนุญาตตามข้อกำหนดเข้ามาชมงานได้อีกด้วย

'Fast Auto Show Thailand 2025' จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-6 กรกฎาคม ศกนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ฮอลล์ 102-103 โดยรวบรวมยนตรกรรมมากคุณภาพหลากหลายแนวมาให้ผู้บริโภคได้เปรียบเทียบความคุ้มค่า ครบทุกเซกเมนท์ “เลือกคันที่ชอบ ถอยคันที่ใช่” ในแบบที่คุ้มค่าเงินสูงสุด ภายใต้คอนเซพท์ “รถใหม่โปรโดนใจ รถมือสองไมล์แท้รับประกันซื้อคืน” ครบจบในงานเดียว เข้าชมฟรี ! ไม่มีค่าใช้จ่าย แถมลุ้นรับโชคตลอด 5 วันเต็ม โดยได้รับการสนับสนุนจาก สิงห์ คอร์เปอเรชั่นฯ, ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษารถยนต์ มันวาว และศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร บี-ควิก ติดตามรายละเอียดของงานได้ที่ Facebook: FAST AUTO SHOW

‘ดร.ไชยันต์’ โพสต์ย้ำ!! วิทยานิพนธ์มีปัญหา ‘จุฬาฯ’ ไม่เปิดเผยผลตรวจสอบ ลั่น!! ‘สกว.’ ให้ทุน จากภาษีปชช. ไปค้นคว้า แต่กลับมาเขียนปั้นเรื่อง บิดเบือน

(14 มิ.ย. 68) ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก Chaiyan Chaiyaporn ระบุว่า …

โพสต์ทุกวัน กัน (สภาจุฬาฯ) ลืม!!

(วันที่ยี่สิบแปด 28)

วิทยานิพนธ์ที่มีปัญหา และจุฬาฯไม่เปิดเผยผลตรวจสอบ!!

‘สกว.’ ให้ทุนกาญจนาภิเษก (ภาษีประชาชน) แก่นิสิตนักศึกษาปริญญาเอกไปค้นคว้าทำวิจัยในมหาวิทยาลัยต่างประเทศ ณัฐพล ใจจริง ได้ทุนดังกล่าวไปค้นข้อมูลที่หอจดหมายเหตุในต่างประเทศ

แต่กลับมาเขียนปั้นเรื่อง บิดเบือนแหล่งอ้างอิง หลอกประชาชนที่เสียภาษี โดยแหล่งอ้างอิงต่างประเทศนั้น คนที่ไม่มีโอกาสไปต่างประเทศ ไม่สามารถตรวจสอบได้ อย่างนี้ ประชาชนผู้เสียหายและเสียภาษี ไม่เรียกร้องอะไรเลยหรือครับ ??

เพื่อประโยชน์สาธารณะ ความรับผิดชอบและความถูกต้องทางวิชาการ ผมขอนำจุดต่างๆที่มีปัญหาในวิทยานิพนธ์ของณัฐพล ใจจริง มาให้สังคมได้รับรู้ จะได้ไม่มีส่วนในการอ้างอิง และ เผยแพร่ จุดผิดพลาดให้ขยายวงต่อ ๆ ไป สร้างความเข้าใจผิด เกิดความเสียหายต่อบุคคลต่าง ๆ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top