Friday, 25 April 2025
NEWS

'อิ๊งค์' ปลื้ม!! เยี่ยมคารวะ 'ปธน.สี จิ้นผิง’ ยังได้พบผู้นำระดับสูงของจีนอีก 2 คน นายกรัฐมนตรี ‘หลี่ เฉียง’ ประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีน ‘จ้าว เล่อจี้’

(8 ก.พ. 68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กว่า … 

นอกเหนือจากการเข้าเยี่ยมคารวะประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผลสำเร็จจากการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ ดิฉันยังได้พบหารือกับผู้นำระดับสูงของจีนอีกสองท่านที่กรุงปักกิ่งด้วย คือ

1. ประชุมหารือกับท่านนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ซึ่งดิฉันได้ขอบคุณท่านนายกหลี่ฯ ที่เชิญเยือนและต้อนรับอย่างอบอุ่น ทั้งสองฝ่ายพร้อมกระชับความร่วมมือในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนผ่านสีเขียวและดิจิทัล เช่น EV AI เซมิคอนดักเตอร์ พลังงานทางเลือก การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน การยกระดับมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า เชื่อมโยงนวัตกรรมทางการเงินและตลาดทุน การพัฒนาความเชื่อมโยงในภูมิภาค ซึ่งรวมถึงรถไฟความเร็วสูง ตลอดจนหารือแนวทางร่วมมือแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่สำคัญเราจะยกระดับความร่วมมือแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติอย่างจริงจัง โดยเฉพาะปัญหาคอลเซ็นเตอร์

ดิฉันยังได้เชิญท่านนายกรัฐมนตรีหลี่ฯ เยือนไทยในโอกาสปีทองแห่งมิตรภาพไทย - จีน ซึ่งท่านได้ตอบรับด้วยความยินดี

ดิฉันได้ร่วมกับท่านนายกหลี่ฯ เป็นสักขีพยานการลงนามเอกสารความร่วมมือ

สองฝ่ายรวม 13 ฉบับ ครอบคลุมผลประโยชน์หลายสาขา เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล เทคโนโลยีนิวเคลียร์ อวกาศ และ AI

2. พบหารือท่านจ้าว เล่อจี้ ประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีน ซึ่งเราเห็นพ้องให้ฝ่ายนิติบัญญัติแลกเปลี่ยนกันมากขึ้น และส่งเสริมความเข้าใจระหว่างประชาชนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ด้วยทุนการศึกษา วัฒนธรรม และ soft power

ทั้งหมดนี้ดิฉันได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและเร่งรัดการดำเนินผลให้เป็นรูปธรรมในโอกาสแรก เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับจีน และการดำเนินความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งในอนาคต 50 ปีข้างหน้าต่อไปค่ะ

เครือข่ายหยุดพนันบุกกฤษฎีกา ยื่น 4 ข้อหนุนความเห็นกฤษฎีกาแยกกาสิโนออกจากสถานบันเทิงครบวงจร ชงควรอยู่ภายใต้ พรบ.พนัน พร้อมขอเวลาให้ภาคีรวบรวมรายชื่อประชาชนเสนอทำประชามติกาสิโนก่อน ไม่ควรรีบทำตามใบสั่งการเมือง ต้องรอบคอบเพราะผลกระทบกว้างขวา

เมื่อวานนี้ (7 ก.พ.68) เวลา 10.00 น. หน้าอาคารสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ถนนพระอาทิตย์ นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน พร้อมด้วยตัวแทนมูลนิธิเด็ก เยาวชนและครอบครัว เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง เครือข่ายนักศึกษานิติศาสตร์ และเครือชุมชนลดปัจจัยเสี่ยงกว่า 50 คน เข้ายื่นหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อแสดงจุดยืนให้ฟังเสียงประชาชน มากกว่ารับคำสั่งฝ่ายการเมือง โดยเครือข่ายได้แสดงละครล้อเลียน คณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เปรียบเสมือนพ่อครัวอย่าแต่มุ่งทำอาหารประเคนฝ่ายการเมือง โดยไม่ให้ความสำคัญกับเสียงสะท้อนความต้องการของประชาชน พร้อมชูป้ายข้อความอาทิ กฤษฎีกาต้องอิสระไม่ถูกควบคุมสั่งการจากการเมือง  รัฐบาลต้องเป็นผุ้ควบคุมไม่ใช่เปิดทางสร้างผีพนัน กาสิโนต้องอยู่ภายใต้ พรบ.พนัน เป็นต้น

​นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า ตามที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา รับดำเนินการตรวจและปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อพร้อมนำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในลำดับถัดไป โดยก่อนหน้านั้นเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีหนังสือแสดงความเห็นในเรื่องดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา มูลนิธิรณรงค์หยุดพนันและภาคีเครือข่าย ใคร่ขอแสดงความเห็นและข้อเสนอแนะ ดังนี้ 1. มูลนิธิรณรงค์หยุดพนันและเครือข่ายฯ เห็นด้วยกับข้อเสนอของเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า กิจการสถานบันเทิงครบวงจรกับกิจการสถานเล่นพนัน ควรแยกการพิจารณาออกจากกัน เพราะกิจการหนึ่งมีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่อีกกิจการหนึ่งมีวัตถุประสงค์ในการแก้ปัญหาการพนัน ด้วยแต่ละกิจการต่างมีกฎหมายเฉพาะที่ควบคุมอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องมีกฎหมายในเรื่องนั้น ๆ เพิ่มขึ้นมาอีก เพราะจะเป็นความซ้ำซ้อน และควรใช้มาตรการบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสำคัญ  

นายธนากรกล่าวอีกว่า  2. การออกกฎหมายใหม่นี้ จึงดูมีเจตนาอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้อำนาจออกใบอนุญาต และผู้ประกอบธุรกิจ ในลักษณะจอดจุดเดียวจบ หรือ one-stop service ซึ่งไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องอำนวยความสะดวกให้มากเช่นนี้ และอาจขัดกับกฎหมายเดิมเมื่อถึงคราวปฏิบัติจริง การออกกฎหมายใหม่เพื่อการนี้จึงเปรียบเสมือนการพยายาม 'สวมเสื้อตัวใหญ่' ที่จะก่อให้เกิดความรุ่มร่าม จนสุดท้ายเป็นอุปสรรคต่อผู้ใช้งานเอง 3. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 77 บัญญัติว่า “รัฐพึงมีกฎหมายเพียงเท่าที่จำเป็น” และในเมื่อสถานกาสิโนคือแหล่งเล่นพนันขนาดใหญ่ กิจการนี้ก็พึงอยู่ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่แล้ว คือ พระราชบัญญัติการพนัน เป็นการเข้าตามตรอกออกตามประตูที่พึงกระทำ มิใช่การใช้วิธีสร้างทางลัดหรือทางลอดของตนเอง โดยใช้วิธีการออกกฎหมายพิเศษหรือกฎหมายเฉพาะ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทำในสิ่งที่ตนอยากทำได้ ที่สำคัญยิ่งคือ รัฐพึงเป็นผู้ควบคุมการพนัน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สามารถก่อให้เกิดผลกระทบทางลบต่อภาวะเศรษฐกิจ ความปลอดภัยในชีวิต สุขภาพกายและจิต และความมั่นคงของมนุษย์ รัฐจึงไม่พึงอยู่ในฐานะผู้ส่งเสริมหรือสนับสนุนการเพิ่มแหล่งพนันด้วยนโยบายของรัฐบาลเอง เพราะรัฐเปรียบเสมือนอัศวินผู้ปราบยักษ์มาร มิใช่ผู้เปิดประตูเมืองให้ยักษ์มารย่างกรายเข้ามาอย่างสง่างามโดยการออกกฎหมายใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบธุรกิจการพนัน และหากเอกชนรายใดต้องการประกอบกิจการจำพวกนี้ ก็พีงเสนอขออนุญาตตามช่องทางของกฎหมายที่มีอยู่

“3. มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน และภาคีเครือข่ายขอเป็นกำลังใจให้คณะกรรมการกฤษฎีกายืนหยัดในความถูกต้อง โดยยึดมั่นว่า “ลูกค้าที่แท้จริงของท่านคือประชาชน” และดำรงความเป็นอิสระจากการแทรกแซงของฝ่ายการเมือง เพื่อดำรงศรัทธาและความเชื่อถือของอนุชนคนรุ่นใหม่ และประชาชนต่อการทำหน้าที่ของคณะกรรมการกฤษฎีกาสืบไป และ 4. ขอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาสนับสนุนการขอใช้สิทธิของประชาชนในการเข้าชื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีจัดทำประชามติ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ จึงขอให้รัฐบาลเคารพสิทธิของประชาชน และให้โอกาสเครือข่ายในการดำเนินการรวรวมรายชื่ออย่างน้อย 60 วัน โดยไม่เร่งรัดจะให้ออกกฎหมายนี้โดยเร็วตามความต้องการของฝ่ายการเมือง” นายธนากร กล่าว

ตำรวจภูธรภาค 2 ทลายออฟฟิศออนไลน์เถื่อน จับกุมชาวจีน 12 ราย เร่งขยายผลเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานนี้ (7 ก.พ.68) เวลา 08.30 น. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท. ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี (ผบก.ภ.จว.ชลบุรี) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรบางละมุง นำหมายค้นเข้าตรวจสอบอาคารแห่งหนึ่งในพื้นที่ ตำบลหนองปลาไหล อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี หลังได้รับเบาะแสจากประชาชนว่ามีการลักลอบดำเนินกิจกรรมออนไลน์ต้องสงสัย จากการตรวจค้น พบชาวจีนจำนวน 12 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ 2 รายอยู่ในประเทศไทยเกินกำหนด (Overstay) นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินกิจกรรมออนไลน์ ได้แก่ คอมพิวเตอร์เปิดใช้งานอยู่ 10 เครื่อง โทรศัพท์เคลื่อนที่ 61 เครื่อง จากการตรวจสอบเบื้องต้น สันนิษฐานว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวอาจมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับธุรกิจเงินกู้ออนไลน์ ที่ให้บริการแก่ลูกค้าชาวจีน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่าง ขยายผลการสอบสวน เพื่อเชื่อมโยงไปยังเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด และบันทึกข้อมูลเป็นบุคคลต้องห้ามหรือลงแบล็กลิสต์ (Blacklist) เพื่อสกัดกั้นบุคคลไม่พึงประสงค์เข้าสู่ประเทศไทย  

ตำรวจภูธรภาค 2 จะไม่ยอมให้มิจฉาชีพข้ามชาติ หรือกลุ่มอาชญากรใด ๆ ใช้พื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 เป็นแหล่งซ่องสุมหรือก่ออาชญากรรมอย่างเด็ดขาด เราจะเดินหน้ากวาดล้างเครือข่ายมิจฉาชีพให้สิ้นซาก ใช้มาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น ทุกคนที่คิดละเมิดกฎหมายต้องได้รับโทษ ไม่มีข้อยกเว้น ไม่มีที่ยืนในสังคม!  ขอเตือนทุกกลุ่มอาชญากร อย่าคิดว่าจะรอดพ้นจากเงื้อมมือกฎหมาย! ตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมเดินหน้ากวาดล้างทุกเครือข่ายอาชญากรรม ไม่ว่าจะเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือกลุ่มผู้กระทำผิดในทุกรูปแบบ เราจะลุยเต็มกำลัง ไม่มีละเว้น!

ตำรวจภูธรภาค 2 ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน หากพบเบาะแสเกี่ยวกับอาชญากรรม หรือบุคคลต้องสงสัย แจ้งข้อมูลได้ทันทีที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน หรือโทรแจ้งสายด่วน 191 และ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ข้อมูลของท่านจะถูกเก็บเป็นความลับ และเราจะจัดการกับอาชญากรให้ถึงที่สุด!

ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ ช่วยนำส่งหัวใจดวงที่ 113 จากผู้ให้สู่ผู้รับได้สำเร็จ ช่วยให้หัวใจดวงนี้กลับมาเต้นอีกครั้ง

เมื่อวานนี้ (7 ก.พ.68) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์จราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำกับดูงานงานจราจร ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาและอำนวยความสะดวกการจราจร การป้องกันและลดอุบัติเหตุ ตลอดจนการช่วยเหลือประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือบนท้องถนน ซึ่งล่าสุดได้รับรายงานว่าตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ กองบังคับการตำรวจจราจร ได้ช่วยเหลืออำนวยความสะดวกการจราจรเร่งนำอวัยวะหัวใจส่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ต่อลมหายใจให้ชีวิตใหม่เป็นหัวใจดวงที่ 113 โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากประชาชน รวมถึงตำรวจทางหลวง จึงนำส่งได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย 

ทั้งนี้ ภารกิจนำส่งอวัยวะหัวใจครั้งล่าสุดนี้ เป็นการส่งต่อหัวใจดวงที่ 113 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งหัวใจได้ถูกผ่าตัดออกจากผู้บริจาคเวลาประมาณ 11.00 น. แพทย์นำหัวใจเดินทางออกจากโรงพยาบาลใน จ.ลำปาง เวลา 11.43 น. ตำรวจทางหลวงลำปางเร่งเปิดทางนำส่งไปยังสนามบินลำปางอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาเพียง 4 นาที ซึ่งกระบวนการทั้งหมดมีเวลาอีกเพียง 4 ชั่วโมงเท่านั้นในการนำหัวใจปลูกถ่ายให้ผู้รับ ทำให้เร่งรัดต้องนำส่งให้ถึงโรงพยาบาลปลายทางก่อนเวลา 15.00 น. เครื่องบินยกตัวในเวลา 12.00 น. ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ในการลำเลียงอวัยวะหัวใจมาถึงสนามบินแสงตะวัน ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในเวลาประมาณ 14.00 น. และเวลาตาม GPS ต้องใช้เวลาถึง 1 ชั่วโมง 16 นาที เพื่อนำส่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ หากเดินทางปกติอาจทำให้เกินเวลาและเสียหัวใจดวงนี้ไป ศูนย์บริจาคอวัยวะสภากาชาดไทยจึงประสานขอสนับสนุนตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ ช่วยในภารกิจการนำส่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ หลังจากรับแจ้ง ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริได้นำกำลังไปรอรับบริเวณสนามบินแสงตะวัน เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจร เร่งนำส่งอวัยวะหัวใจไปยังโรงพยาบาลจุดหมาย ใช้เส้นทางผ่านถนนมอเตอร์เวย์วงแหวนตะวันออก ขึ้นทางด่วนจตุโชติ-รามอินทรา ลงด่านพระราม 4 โดยมีรถจักรยานยนต์ของตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ จำนวน 7 คัน นำทางให้รถพยาบาล ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประชาชนผู้ใช้เส้นทางที่ช่วยเปิดทางให้ ใช้เวลาปฏิบัติภารกิจเพียง 38 นาทีเท่านั้น นำส่งอวัยวะลุล่วงจนแพทย์สามารถปลูกถ่ายหัวใจ ต่อชีวิตใหม่ให้กับผู้รับบริจาคได้สำเร็จ

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ไกรบุญฯ ชมเชยการปฏิบัติหน้าที่ของทีมตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ รวมถึงตำรวจทางหลวง ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างมืออาชีพ มีทักษะคล่องแคล่ว สามารถให้ความช่วยเหลือ เป็นที่พึ่งของประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ซึ่งถือเป็นหนึ่งตัวอย่างของตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยจิตอาสาบริการ มีมาตรฐานสากล ตามแนวทางการสร้าง 'สุภาพบุรุษจราจร' ที่คณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจรกำลังขับเคลื่อนสร้างมาตรฐานตำรวจจราจรทั่วประเทศ เพื่อยกระดับการบริการประชาชน สร้างความเชื่อถือศรัทธา 

นอกจากนี้ พล.ต.ท.นิธิธรฯ กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีผู้รอรับการบริจาคอวัยวะอยู่ประมาณ 7,500 คนทั่วประเทศ จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมต่อลมหายใจให้กับผู้ป่วย โดย 1 ผู้ให้สามารถช่วยได้ 8 ชีวิต การบริจาคอวัยวะแก่เพื่อนมนุษย์ คือที่สุดแห่งการให้ โดยตำรวจจราจรพร้อมสานต่อเจตนารมณ์ของผู้บริจาค และเติมเต็มความหวังของผู้รับบริจาค เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างชีวิตใหม่ อำนวยความสะดวกนำทางส่งต่ออวัยวะสำคัญ ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อประสานงานตำรวจโครงการพระราชดำริ ได้ที่สายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร 1197

‘อีซูซุ’ ระเบิดความเร็ว!! จัดเต็มความมันในการแข่งขัน ISUZU RACE SPIRIT 2024 เร็วสุดขีด จี๊ดสุดขั้ว!! รอบชิงชนะเลิศ สนามบางกอกแดร็ก อเวนิว คลอง 5 ปทุมธานี

(8 ก.พ. 68) บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด จัดแข่งขัน 'ISUZU RACE SPIRIT 2024' รอบชิงชนะเลิศ ที่ แฟน ๆ มอเตอร์สปอร์ตต้องห้ามพลาด ในการเฟ้นหาสุดยอดรถปิกอัพ 'อีซูซุ ดีแมคซ์' ที่เร็วและแรงที่สุดแห่งปี นำเหล่านักแข่งสุดยอดแชมป์จากสนามรอบคัดเลือกมาร่วมประลองความเร็วทางตรงแบบ ควอเตอร์ไมล์ ระยะทาง 402 เมตร ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1.3 ล้านบาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ และกิจกรรมความบันเทิงสุดเร้าใจจัดเต็มแบบครบครัน ณ สนามบางกอกแดร็ก อเวนิว คลอง 5 ปทุมธานี

กลุ่มตรีเพชร โดย คุณวิชัย สินอนันต์พัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า “การแข่งขัน ISUZU RACE SPIRIT 2024 เป็นการแข่งขันรถยนต์ทางตรงแบบควอเตอร์ไมล์ ระยะทาง 402 เมตร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมด้านมอเตอร์สปอร์ตที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง โดยอีซูซุได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 และยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากสำนักแต่ง หรือ โมดิฟายด์ ช็อปชั้นนำของประเทศไทย อาทิ หนุ่ย-เป๋อ สุพรรณ จ๊อบ มนตรี SCG เอ้ ปลาทู เบิร์ดหลักห้า เอ๋ เทอร์โบ นครปฐม แบงค์ บ้านนา ป๊อก แปดริ้ว เอ้ แม่กลอง รวมถึงนักแข่งรถที่ร่วมส่งรถอีซูซุเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อชิงความเป็นที่หนึ่งของเครื่องยนต์อีซูซุที่เร็วที่สุด และแรงที่สุดในประเทศไทย ชิงเงินรางวัลรวมทั้งสิ้นกว่า 1.3 ล้านบาท”

โดยผลการแข่งขันที่สุดของความเร็ว เฉือนเอาชนะกันเพียงเสี้ยววินาทีของรถแข่ง 'อีซูซุ ดีแมคซ์' ในรายการ ISUZU RACE SPIRIT 2024 เร็วสุดขีด จี๊ดสุดขั้ว รอบชิงชนะเลิศพร้อมเงินรางวัล 100,000 บาท 50,000 บาท 30,000 บาท และโล่เกียรติยศสำหรับผู้ชนะทั้ง 3 อันดับ รวมทั้งหมด 7 รุ่น ได้แก่ 

• รุ่น ALL-NEW ISUZU D-MAX 2020 1.9 TURBO STANDARD 
ชนะเลิศ รชตะ ราศรีเกตุ ทีม 6.9 ริกเตอร์ แบงค์คลองสาม เวลา 11.359 วินาที 
รองอันดับ 1 มานพ ศรีวิลัย 
ทีม แบงค์บ้านนา & ผลิตภัณฑ์ Tokyo & Raytech Clutch 
เวลา 11.673 วินาที

รองอันดับ 2 เทพพิทักษ์ ไชยรัตน์ 
ทีม อู่เบียร์การาจ เอ็ม 56 
เวลา 11.106 วินาที 

• รุ่น ISUZU D-MAX PRO 1.9
ชนะเลิศ มานพ ศรีวิลัย 
ทีม แบงค์ บ้านนา & ผลิตภัณฑ์ Tokyo & Raytech Clutch 
เวลา 9.254 วินาที
รองอันดับ 1 ไพศาล ตันแต๋ว 
ทีม อู่เอ้แม่กลอง 
เวลา 9.288 วินาที
รองอันดับ 2 มงคลชัย แก้วลับ 
ทีม ป๊อกแปดริ้ว 
ชนะ BYE

• รุ่น ISUZU D-MAX PRO 3.0
ชนะเลิศ นันทวัฒน์ วิจิตรเนตร 
ทีม อู่ช่างวัฒน์ ชลบุรี
เวลา 8.687 วินาที
รองอันดับ 1 ธนพล ชูเจริญผล 
ทีม เจ๊โอ๋สุราษ ฟิวเทค อู่ช่างวัฒน์ ชลบุรี 
เวลา 9.379 วินาที
รองอันดับ 2 ประสิทธิ์ สุวรรณพัตร 
ทีม ช่างเป้คลอง 9 
ชนะ BYE

• ISUZU D-MAX PRO F55
ชนะเลิศ พิสิทธิ์อนันต์ ตันจตุรงค์ 
ทีม Prospeed&Speed Oil ผู้จัดการโอ๊ต 
เวลา 7.939 วินาที
รองอันดับ 1 อนุรักษ์ โตมร 
ทีม เบิร์ดเหม่ง โปรสปีด
เวลา 8.100 วินาที
รองอันดับ 2 พงศ์ปพัสร์ บัวล้ำเลิศ 
ทีม เอ๋ เทอร์โบ นครปฐม 
เวลา 8.370 วินาที

• รุ่น ISUZU D-MAX PRO MODIFY
ชนะเลิศ อนุวัฒน์ มณีอินทร์ 
ทีม หนุ่ยสุพรรณ (เอ็ม เอกชาติ) 
เวลา 8.807 วินาที
รองอันดับ 1 ณัฐวุฒิ หอมสุวรรณ 
ทีม หนุ่ยเป๋อสุพรรณ เจ๊ติ๋วสุพรรณ 
เวลา 12.786 วินาที

• รุ่น ISUZU D-MAX OPEN UNLIMITED
ชนะเลิศ ณัฐนุตม์ วงศ์สมบูรณ์ 
ทีม จ๊อบมนตรี SCG SUPER PIG 
เวลา 7.073 วินาที
รองอันดับ 1 ธนพล ชูเจริญผล 
ทีม อู่ช่างวัฒน์ ชลบุรี
เวลา 7.183 วินาที
รองอันดับ 2 อนุวัฒน์ มณีอินทร์ 
ทีม หนุ่ยสุพรรณ (นพ พิจิตร) 
เวลา 7.278 วินาที

• รุ่น ISUZU DRAGSTER DIESEL 
ชนะเลิศ ณัฐนุตม์ วงศ์สมบูรณ์ 
ทีม จ๊อบมนตรี SCG SUPER PIG 
เวลา 6.865 วินาที
รองอันดับ 1 อนุวัฒน์ มณีอินทร์ 
ทีม หนุ่ยสุพรรณ (เอ็ม เอกชาติ) 
เวลา 7.758 วินาที
รองอันดับ 2 ธนพล ชูเจริญผล 
ทีม อภิชาติฟาร์มไข่ไก่ 
เวลา 11.431 วินาที

นอกจากนี้บรรยากาศภายในงานยังมีกิจกรรมการประกวดรถ ISUZU MODIFY CAR CONTEST 2024 การประชันฝีมือการแต่งรถอีซูซุหลากสไตล์ พร้อมบูธผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ตกแต่งคุณภาพชั้นนำ อาทิ ECU Shop, Monza Factory, BRC Clutch, BRD Racing, Wise, Caltex, DEX Oil, BETA, Speed Wear, 6.9 Ricther, Run Stop, Six Syrup, Super Fast และ PTT รวมถึงกิจกรรมความบันเทิงเต็มรูปแบบ Sexy Wash โดยนางแบบสุดเซ็กซี่ที่มาร่วมสร้างสีสันในงาน จัดเต็มเพื่อแฟนอีซูซุโดยเฉพาะ

‘ปีเตอร์ เดนแมน’ อินฟลูเอนเซอร์ด้านวงการมวย ตามหา ‘คาเนโล่’ สุนัขตัวโปรด เผย!! หายไป 7 เดือน ‘ผูกพัน – คิดถึงมาก’ ถ้านำมาคืนได้ ให้เงิน 4 แสนบาท

(8 ก.พ. 68) นายปีเตอร์ เดนแมน อายุ 29 ปี อดีตดารานักแสดง นายแบบชื่อดังและปัจจุบันเป็นอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังด้านวงการมวย เปิดเผยว่า สุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี เพศผู้ ชื่อ ‘น้องคาเนโล่’ ตัวนี้มีประวัติและความผูกพันกับตนเป็นมาก

โดยเมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา ในขณะนั้นน้องคาเนโล่อายุประมาณ1ปี ซึ่งยังอยู่กับเจ้าของเก่าที่ซื้อน้องมาเลี้ยง แต่น้องซนมาก ก่อความเดือดร้อน จนถูกเอาไปล่ามไว้หน้าบ้าน ให้ถ่ายอยู่ตรงนั้น ตากแดดตากฝน ถูกตี เป็นประจำ จนชาวบ้านที่พบเห็นเกิดความสงสาร ไปขอกับเจ้าของเพื่อเอามาเลี้ยงเอง แต่เจ้าของบอกว่า “ถ้าอยากได้ก็ให้เอาเงินมาแลก 5 พันบาท”

ชาวบ้านจึงช่วยกันเรี่ยไรเงินจนครบ แล้วเอาไปซื้อน้องคาเนโล่มาจนได้ ชาวบ้านรู้ว่าตนเป็นคนรักสัตว์ จึงได้เอาน้องคาเนโล่มาให้ตนเลี้ยง ซึ่งขณะนั้นที่บ้านเลี้ยงสุนัขอยู่3ตัว ตนบอกไปว่า หากเข้ากับสุนัขของตนได้จะเลี้ยงไว้ ปรากฏว่าน้องคาเนโล่เข้ากับสุนัขของตนได้เป็นอย่างดี ตนจึงรับไว้อุปการะเพิ่มอีกตัว 

น้องคาเนโล่เริ่มเรียนรู้และปรับตัวจนเป็นที่รักของตนและคนในบ้าน ตนพาออกไปวิ่งออกกำลังกายนอกบ้านทุกวัน จนกระทั่งวันที่ 19 ก.ค.67ช่วงประมาณ01.00น.ขณะกำลังพาน้องเดินออกกำลังกายอยู่บนถนนรอบสวนพุทธมณฑล น้องเกิดคึกสะบัดเชือกหลุด วิ่งกระโดดข้ามคูน้ำ หนีเตลิดไปทางถนนพุทธมณฑลสาย4 ตนกับเพื่อนออกตามหานานหลายชั่วโมงจนกระทั่งเช้าก็ไม่พบน้อง 

จึงไปแจ้งความที่สภ.พุทธมณฑล เพื่อจะขอให้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง แต่ตำรวจพูดจาไม่ดีประมาณว่า 

“แค่ชีวิตสุนัข มากล้าดียังไงขอดูกล้องวงจรปิด ถ้าเป็นคนก็ไปอย่าง ทำให้ตำรวจเสียเวลา”

ตนจึงกลับบ้าน แล้วไปแจ้งความใหม่ในวันรุ่งขึ้น คราวนี้ตำรวจเปลี่ยนผลัด ชุดนี้มีคนที่เป็นแฟนคลับจำตนได้ จึงรับแจ้งความ และให้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด จึงทำให้รู้ว่ากล้องวงจรปิดบนถนนพุทธมณฑลสาย4ใช้ไม่ได้เลยสักตัว

อดีตดารานายแบบ ยังกล่าวต่อไปอีกว่า ตนคิดว่าพึ่งตำรวจอย่างเดียวคงไม่ได้ จึงเอารูปน้องคาเนโล่ถ่ายเอกสารแล้วตั้งรางวัลคนที่พบ หากเอาน้องมาคืนได้จะได้เงิน1หมื่นบาท ตระเวนติดตามเสาไฟฟ้าไปทั่ว ลงสื่อโซเชียลทุกทาง แต่ก็ไร้วี่แวว ต่อมาตนตั้งรางวัลเพิ่มจาก 1 หมื่น เป็น 1 แสนบาท เมื่อยังไม่เจออีก ก็เพิ่มรางวัลขึ้นไปเป็น1.5แสน และ 2 แสน จนกระทั่งถึง3แสนบาท ตนยังขี่รถจยย.ตามหาน้องคาเนโล่ทุกวัน ดูข้างถนน สอบถามจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิต่าง ๆ แต่ก็ไร้วี่แวว มีแต่คนโทรศัพท์เข้ามาป่วนทุกวัน บางคนโทรมาทำเสียงเห่าแล้ววางสายไป บางคนโทรมาแล้วหัวเราะ บางคนโทรมาไม่พูด จนตนประสาทเสีย ไม่น่ามาเล่นกับคนที่กำลังเสียความรู้สึกแบบนี้ 

แต่ก็มีบางคนเจอสุนัขพันธุ์เดียวกันเร่ร่อนอยู่ข้างถนน ถ่ายรูปมาให้ดู แต่ก็ไม่ใช่น้องคาเนโล่ ตนอยากวอนไปถึงคนที่เลี้ยงน้องคาเนโล่ไว้ ให้เอามาคืนตนเถิด เพราะตนคิดถึงและผูกพันกับน้องมาก ไม่เป็นอันกินอันนอน ทุกวันนี้ก็ยังขี่รถจยย.ตามหา และติดใบปลิวตามเสาไฟฟ้า 

น้องคาเนโล่มีลักษณะขนสีขาวกับเทาเข้ม รูปร่างสูงใหญ่ จุดเด่นคือตามี2สี ข้างซ้ายสีน้ำตาล ข้างขวาสีฟ้า 

หากตอนนี้มีคนนำน้องคาเนโล่มาคืนให้ตนได้ ตนยินดีจ่ายเงินรางวัลให้มากถึง4 แสนบาท หรือถ่ายรูปน้องคาเนโล่ชี้เบาะแสมา ตนมีสินน้ำใจให้อย่างแน่นอน

จเรตำรวจแห่งชาติสั่งเพิกถอนวีซ่าชาวญี่ปุ่น 4 ราย ลักลอบข้ามแดนไปฝั่งเมียวดี พบมีหมายจับคดีอาญาและยาเสพติดของญี่ปุ่นหลายคดี  

เมื่อวานนี้ (7 ก.พ.68) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศตคม.ตร./ผอ.ศปอส.ตร.) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการอย่างเข้มข้น ต่อเนื่อง ตาม 7 มาตรการเข้มข้น ของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในการแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมือง ถูกหลอกลวง หรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ เน้นการสกัดการเคลื่อนย้ายข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติ ท่าข้ามแดนต่าง ๆ 

ล่าสุดพบมีกรณีนักท่องเที่ยวสัญชาติญี่ปุ่น จำนวน 4 ราย ที่เดินทางด้วยรถยนต์ตู้โดยสารเข้ามาในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ถ.อินทรคีรี ต.แม่สอด เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2568 เวลา 19.17 น. ต่อมาสืบสวนทราบว่าได้เช็คเอาท์ออกจากโรงแรม เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 และมีรถแท็กซี่มารับคนต่างด้าวทั้ง 4 ราย จากโรงแรมดังกล่าว พาไปส่งถึงที่บริเวณตลาดริมเมย ข้างสะพานมิตรภาพไทย - เมียนมา แห่งที่ 1 เวลาประมาณ 12.00 น. และได้เดินดูของที่ตลาดริมเมยเหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไปก่อนหายตัวไป โดยในวันเดียวกันนั้น เวลา 11.00 น. ได้มีนายไหน่ สัญชาติเมียนมา เดินทางโดยรถยนต์จากฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมา มายังประเทศไทย ผ่านสะพานมิตรภาพไทย - เมียนมา แห่งที่ 1 เพื่อมารับกระเป๋าของคนต่างด้าวทั้ง 4 ราย ที่โรงแรม และเดินทางกลับไปฝั่งประเทศเมียนมาโดยไม่ผ่านการตรวจศุลกากรประเทศไทย 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้พิจารณามีความคาดว่านักท่องเที่ยวสัญชาติญี่ปุ่นจำนวน 4 รายดังกล่าว น่าจะลักลอบข้ามแดนไปฝั่งประเทศเมียนมาแล้ว และน่าจะเป็นกลุ่มขบวนการหลอกลวง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ค้ามนุษย์ และอาชญากรรมข้ามชาติ ที่จะหลอกลวงคนญี่ปุ่น ประกอบกับประสานข้อมูลประวัติอาชญากรรมของคนต่างด้าวสัญชาติญี่ปุ่นทั้ง 4 ราย จากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย พบว่ามีประวัติอาชญากรรมและมีหมายจับคดียาเสพติดของทางการญี่ปุ่นหลายคดี ทั้งนี้ คนต่างด้าวสัญชาติญี่ปุ่นทั้ง 4 ราย ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568 โดยการอนุญาตยังไม่สิ้นสุด ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตากพิจารณาแล้วเห็นว่าคนต่างด้าวสัญชาติญี่ปุ่นทั้ง 4 ราย มีพฤติการณ์ที่มีลักษณะเป็นบุคคคลต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร จึงเสนอเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร 

พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวว่า กรณีชาวญี่ปุ่นทั้ง 4 รายดังกล่าว พบว่าเป็นกลุ่มอาชญากรรมมีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคม และมีแนวโน้มเป็นกลุ่มแก๊งที่เข้าร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงสั่งเด็ดขาดเพิกถอนวีซ่าทั้ง 4 ราย และขึ้นแบล็คลิสต์ห้ามเข้าไทย ยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินหน้าเต็มกำลังปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งขบวนการ โดยดำเนินการทุกมาตรการอย่างเข้มแข็งและต่อเนื่องอย่างไม่ลดละ

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพอใจ 7 มาตรการเข้ม สั่งรุกปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ย้ำเดินหน้าไม่แผ่ว ไม่ให้พื้นที่แก๊งอาชญากรรม

(8 ก.พ.67) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าปฏิบัติการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่า หลังจากที่ออกนโยบาย 7 มาตรการเข้มข้น นับตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2568 และขีดเส้นตาย 7 วันให้ทุกหน่วยดำเนินการ พบว่าผลการดำเนินงานตาม 7 มาตรการเข้มข้น ทั้งด้านการปราบปราม การป้องกัน การให้ความช่วยเหลือ เห็นผลการปฏิบัติเป็นที่น่าพอใจ จึงสั่งการให้ทุกหน่วยปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศตคม.ตร.) และศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ซึ่งมี พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ เดินหน้าขับเคลื่อนการปฏิบัติต่อเนื่องอย่างเต็มกำลัง เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามอาชญากรรมเหล่านี้ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมต่อไป 

ในส่วนของพื้นที่เสี่ยงที่เฝ้าระวังตามแนวชายแดน โดยเฉพาะ อ.แม่สอด จ.ตาก เจ้าหน้าที่เข้มงวดในการคัดกรองผู้ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ที่จะข้ามแดนไปยังฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมา ทั้งทางด่านตรวจ ท่าข้าม และช่องทางธรรมชาติ และยังมีมาตรการในการป้องกันการย้ายฐานที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ไปยังพื้นที่อื่นๆ โดยเฉพาะฝั่งชายแดนประเทศกัมพูชา ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับกองทัพบก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติการร่วมกันอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ประสานความร่วมมือในการดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในทุกมิติ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภายในประเทศ และระดับนานาชาติ อาทิ INTERPOL , สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) , สถานเอกอัครราชทูตนานาประเทศ เป็นต้น เพื่อบูรณาการเดินหน้าในการปราบปรามอย่างไม่ลดละ 

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันหนักแน่นว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะลุยต่อไม่แผ่วในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดไป มั่นใจการดำเนินมาตรการเชิงรุกอย่างต่อเนื่องจะสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ไม่มีพื้นที่ให้มิจฉาชีพหลอกลวงประชาชนได้อีก ย้ำ “เราทำจริง เอาจริง ประชาชนต้องไม่ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรเหล่านี้อีกต่อไป” 

มั่นใจว่าด้วยความตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหาในทุกภาคส่วน มาตรการต่างๆ จะเห็นผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน

‘Pocky x Butterbear’ ชวนแชร์รักด้วย ‘ป๊อกกาแลต’ บอกรักแบบใหม่ ‘I Pocky U’ กับน้องเนย สุดคิวท์

(8 ก.พ. 68) วาเลนไทน์ปีนี้ มัมหมี-พ่อหมี เตรียมมาอัปเลเวลความหวาน ในงาน Pocky X ButterBear Event กับการคอลแลปสุดปังครั้งแรกในไทย! ระหว่างกูลิโกะ ป๊อกกี้ และไอดอลสาววัย 3 ขวบ ‘น้องหมีเนย’ (Butterbear) ที่จะมาเสิร์ฟความน่ารัก ซุกซน ในวันเสาร์ ที่ 8 ก.พ.นี้ เวลา 14.00 น. ณ ชั้น 1 ร้าน Butterbear ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ – รอติดตามได้เลย ^^

นอกจากนี้ ยัยหนูยังชวนชาวด้อม ร่วมแชร์รักด้วยป๊อกกาแลตกับ Premium Set สุดเอ็กซ์คลูซีฟ จากป๊อกกี้ ที่มาพร้อมกระเป๋าและผ้าห่มสุดคิวท์ ให้เก็บสะสมหรือจะส่งต่อความน่ารัก เซอร์ไพร์สคนรู้ใจรับวันวาเลนไทน์ ก็ใจฟูไม่ไหว พร้อมประโยคบอกรักแบบใหม่สไตล์ GEN Z แค่ตะโกน 'I Pocky U' เหมือนเป็นการบอกความในใจให้คนพิเศษได้รู้ เตรียมเอฟจับจองเป็นเจ้าของพร้อมกันได้ตั้งแต่วันนี้  – 31 มีนาคม จำนวนจำกัด!!

สำหรับ Pocky x Butterbear เซตพิเศษเฉพาะวาเลนไทน์นี้ นำความน่ารักของน้องหมีเนยมาสร้างสรรค์ โดยถ่ายทอดคาแรคเตอร์ความสดใสแต่ละลายมาแบบจัดเต็ม ได้แก่

1. Valentine’s Gift Set เซตพิเศษเฉพาะช่วงวาเลนไทน์ ให้ฟินกับทั้งป๊อกกี้และหมีเนย ประกอบด้วย ป๊อกกี้รสช็อกโกแลต 1 แพ็ก ป๊อกกี้รสนม 1 แพ็ก และกระเป๋าปิกนิก Pocky x Butterbear มี 3 แบบให้สะสม Exclusive ตามแต่ละช่องทางการจัดจำหน่าย ถึง 28 ก.พ.นี้ (ขณะนี้มีจำหน่ายเพียง 2 แบบเท่านั้น สำหรับแบบโปรโมชั่นพิเศษ โปรดติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม) 

2. กระเป๋าถือ Pocky x Butterbear เมื่อซื้อสินค้ากูลิโกะที่ร่วมรายการกลุ่มขนมทั้งบิสกิตและช็อกโกแลตรสชาติใดขนาดใดก็ได้ครบ 159 บาท รับกระเป๋าถือ 1 ใบ ถึง 28 กุมภาพันธ์นี้

3. ผ้าห่มขนนุ่ม Pocky x Butterbear ขนาด 40*60 นิ้ว มีให้เลือก 2 ลาย คือ ลายหมีเนยสีชมพูและสีเหลือง เมื่อซื้อสินค้ากูลิโกะที่ร่วมรายการรสชาติใดขนาดใดก็ได้ ครบ 699 บาท ก็เป็นเจ้าของผ้าห่มสุดน่ารักได้แล้ว เริ่มจับจองได้ 24 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคมนี้

ห้ามพลาด!! จับจองเป็นเจ้าของพร้อมกันได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้ วางจำหน่ายแล้วที่ร้านค้าชั้นนำและร้านค้าทั่วไปที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ โดยแต่ละช่องทางมีสินค้าและช่วงเวลาที่แตกต่างกันไปที่แตกต่างกันไป 

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fanpage ของ https://www.facebook.com/PockyThailand และ https://www.facebook.com/GlicoTH 

‘พล.ต.ท.ไตรรงค์’ เผยพบค่ายมือถือดังหันเสาไปฝั่งเมียนมา เชื่อ เป็นการลอบส่งสัญญาณเน็ตให้ประเทศเพื่อนบ้าน

(7 ก.พ. 68) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีตัดไฟ สัญญาณเน็ต บริเวณชายแดนไทย-เพื่อนบ้าน ว่าปฏิบัติการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามแนวชายแดนนั้นมีมาตลอด ไม่ใช่เริ่มทำตอนที่เป็นข่าวหรือในช่วงทางการจีนมาเยี่ยมทางการไทย โดยการปฏิบัติการเมื่อวานนี้ที่ตนได้รับมอบหมายให้ลงพื้นที่ไปชายแดนด่านพระเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี ซึ่งในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ ยังคงปฏิบัติการอยู่ในแนวชายแดน

ส่วนการปฏิบัติการของเมื่อวานนี้ตรวจพบสายอินเทอร์เน็ตที่มีการลักลอบเชื่อมโยง ออกจากผู้รับบริการชาวไทย ซึ่งเป็นผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบ้านดัดแปลงสัญญาณส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยโยงสายอินเทอร์เน็ตข้ามไปชายแดน เนื่องจากว่าพื้นที่บ้านของผู้ลักลอบอยู่ติดกันกับประเทศเพื่อนบ้าน มีถนนคั่นกลางเพียง 3-4 เมตร

นอกจากนี้ยังพบการติดตั้งเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือของค่ายโทรศัพท์มือถือเอกชน ซึ่งทำผิดข้อกำหนดของ พ.ร.บ.โทรคมนาคม ของ กสทช. โดยมีการหันเสาสัญญาณไปยังเขตประเทศเพื่อนบ้าน เชื่อว่าการส่งสัญญาณลักษณะนี้ไม่ได้ส่งให้ประชาชนคนไทยตามแนวชายแดนใช้ จึงคาดการณ์เป็นการส่งสัญญาณให้กับประเทศเพื่อนบ้านใช้บริการ โดยทางเรามีการประสานกับทาง กสทช. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อีกทั้งพบว่ามีการลักลอบจ่ายกระแสไฟข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ในส่วนนี้ทางเราก็มีการประสานกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกัน โดยจุดที่ลักลอบส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ต รวมถึงจ่ายกระแสไฟฟ้า ห่างกับที่ทำการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพียงไม่กี่เมตร ซึ่งบริเวณดังกล่าวเมื่อเดือน พ.ย. 67 ได้มีชาวจีนและคนไทยหลบหนีออกมาจากสถานที่ดังกล่าวจำนวนหลายคน

ส่วนวันนี้ยังได้รับรายงานว่ามีจุดสงสัยเพิ่มเติมแต่อย่างใด เนื่องจากอยู่ระหว่างการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

กต.เชื่อตัดไฟเมียนมา ไม่สะเทือนช่วย 4 ลูกเรือไทย

(7 ก.พ.68) กระทรวงการต่างประเทศมั่นใจว่าการตัดไฟฟ้าในเมียนมา จะไม่ส่งผลกระทบต่อการช่วยเหลือลูกเรือประมงไทย 4 คน ที่ถูกควบคุมตัวบนเกาะสอง โดยย้ำว่าไทยยังคงเดินหน้าเจรจาเพื่อความร่วมมือในการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติอย่างเต็มที่ พร้อมหารือกับเมียนมาอย่างต่อเนื่อง

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่าการตัดไฟฟ้าในเมียนมาเป็นผลจากการเจรจาความร่วมมือระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านในการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ โดยมีการพูดคุยกับหลายประเทศที่เกี่ยวข้อง เช่น จีน และเมียนมา ซึ่งการตัดไฟครั้งนี้ไม่น่าจะส่งผลต่อความพยายามในการช่วยเหลือลูกเรือไทย

สำหรับความคืบหน้าในการเจรจากับทางการเมียนมา นายนิกรเดช กล่าวว่า แม้ไม่สามารถประเมินผลได้เป็นเปอร์เซ็นต์ แต่กระทรวงการต่างประเทศกำลังดำเนินการอย่างเต็มกำลัง ทั้งในด้านการเมืองและการกงสุล โดยได้มีการพบปะกับผู้แทนระดับต่าง ๆ ของเมียนมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งช่วยเหลือให้ญาติสามารถพบกับลูกเรือที่ถูกจับกุม และยืนยันการเรียกร้องให้ทางการเมียนมาปล่อยตัวลูกเรือไทยโดยเร็ว

ไทยคว้าที่ 2 ประกวดแกะสลักหิมะ ‘ซัปโปโร’ จากผลงาน ‘ประเพณีสงกรานต์’ ผ่านความน่ารักของช้างแม่-ลูก

(7 ก.พ.68) ทีมนักแกะสลักหิมะตัวแทนประเทศไทย คว้าอันดับที่ 2 (รางวัลรองชนะเลิศ) ในการประกวดแข่งขันแกะสลักหิมะ 'Sapporo International Snow Sculpture ครั้งที่ 49' ที่เมืองซัปโปโร เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น จากผลงาน 'The World Water Festival' ที่นำเสนอเรื่องราวของประเพณีสงกรานต์ผ่านการเล่นน้ำของช้างแม่-ลูก ขณะที่ทีมจากมองโกเลียคว้าแชมป์ไปครองอีกครั้ง

สำหรับทีมนักแกะสลักหิมะจากประเทศไทยประกอบด้วย กุศล บุญกอบส่งเสริม, อำนวยศักดิ์ ศรีสุข และ กฤษณะ วงศ์เทศ

โดยพวกเขาได้ร่วมกันนำความภาคภูมิใจของคนไทยไปประกาศให้ทั่วโลกได้รับรู้ผ่านผลงานแกะสลักที่มีชื่อว่า 'The World Water Festival' ถ่ายทอด 'ประเพณีสงกรานต์' ที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิต ความเคารพผู้ใหญ่ ความรักในครอบครัว และการแบ่งปันความสุข โดยนำเสนอผ่านความน่ารักของ 'ช้างแม่-ลูก' สัตว์มงคลคู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย รวมทั้งเป็นการเฉลิมฉลองที่ประเพณีสงกรานต์ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนให้เป็นตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ โดยยูเนสโก

สำหรับผลงานอื่น ๆ 
อันดับ1 มองโกเลีย
อันดับ2 ไทย
อันดับ 3 ลิธัวเนีย
อันดับ 4 สิงคโปร์
อันดับ 5 อินโดนีเซีย

‘ต๊ะ นารากร’ สวนดราม่าวิจารณ์การแต่งตัวนายกฯ ลั่น เป็นผู้นำประเทศไม่ใช่การทำตามสไตล์ตนเอง

(7 ก.พ.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นารากร ติยายน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า...เมื่อดิฉันคอมเมนต์การแต่งตัวของนายกฯ ขณะพบปะกับผู้นำจีน ก็จะมีคนมาตอบเชิงต่อว่า

ไปยุ่งไรกับการแต่งตัวคนอื่นอ่าคะ
ตอบ > ถ้าคนคนนั้นไม่ใช่นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ดิฉันก็ไม่วิจารณ์หรอกค่ะ

ที่วิจารณ์เค้าอ่ะมีเงินซื้อรองเท้าใส่แบบเค้าหรือเปล่า
ตอบ > ไม่มีเงินซื้อรองเท้าราคา 5 หมื่นใส่หรอกค่ะ แต่มีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ได้ตามรัฐธรรมนูญ

สไตล์ใครสไตล์มัน ต้องให้ตามใจคุณหรือ
ตอบ > การเดินทางไปพบปะผู้นำประเทศไม่ใช่การทำตามสไตล์ตนเอง แต่ไปเป็นตัวแทนของคนไทยทั้งประเทศ

'สุทิน วรรณบวร' ลากไส้ UNHCR เตรียมทิ้งค่ายผู้ลี้ภัย หลัง 'ทรัมป์' รู้ทันตัดงบช่วยเหลือแบบฟ้าผ่า

(6 ก.พ. 68) - จากกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มีนโยบายตัดเงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลของผู้อพยพในประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งส่งผลกระทบถึงค่ายผู้อพยพตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดตากและแม่ฮ่องสอน ต้องปิดให้บริการทำให้ผู้ป่วยอาจต้องไปรักษาต่อที่อื่น

นายสุทิน วรรณบวร อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ถ้าเราเป็นแพทย์อยู่โรงพยาบาลชายแดนแล้วถูกสั่งให้ไปดูแลคนป่วยในค่ายผู้ลี้ภัยที่ ICRC กับ UNHCR สร้างภาระ (ขี้) ทิ้งไว้ เราจะลาออกทันที เนื่องจากว่าตามกฎหมายประเทศไทยไม่มีค่ายผู้ลี้ภัย ไม่มีค่ายผู้อพยพ ประเทศไทยมิได้ลงนามในอนุสัญญา 151 ว่าด้วยผู้อพยพ

แต่ที่เรารับผู้ที่อ้างว่าลี้ภัยสงครามมาไว้ในค่ายต่างๆกว่า 40 ปีนั้น เป็นความหน้าใหญ่ใจโตของอเมริกาที่เสนอเงินช่วยเหลือผู้ที่อ้างว่าลี้ภัยมาไว้ในค่าย โดยสมคบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้อพยพ UN ที่รู้จักกันว่า UNHCR ซึ่งรับอาสาจะดูผู้ที่อ้างว่าลี้ภัยเพื่อได้เงินทอนก้อนใหญ่ เพราะนอกจาก UHNCR ได้รับเงินช่วยเหลือจาก USAID แล้วยังรับบริจาค จากทั่วโลก ซึ่งปัจจัยหลั่งไหลเข้ามาสู่ UNHCR ปีละมหาศาล

พวกลูกจ้าง UHNCR ผลาญกันสำราญใจ จึงไม่แปลกใจลูกจ้าง UNHCR ปลุกระดมสร้างกระแสให้ชาติพันธุต่างๆแห่เข้ายังค่ายผู้อพยพ

UNHCR มีระเบียบประหลาด คือเมื่อผู้ลี้ภัยไปถึงประเทศไหน และ UNHCR รับรู้แล้วว่าผู้ลี้ภัยไปถึงประเทศนั้น ให้ประเทศที่ผู้ลี้ภัยไปถึงเป็นประเทศแรกรับจะผลักดันกลับไม่ได้เพราะถือว่าอยู่ภายใต้คุ้มครองของ UHNCR จนกว่าจะหาประเทศที่สามรับไปตั้งรกรากหรือมั่นใจว่าผลักดันกลับไปแล้วปลอดภัย

จึงไม่แปลกใจที่สื่อตะวันตกปลุกกระแสปั่นข่าวสงครามรุนแรงในพม่า เพราะ UNHCR ได้อ้างส่งพม่า (กะเหรี่ยง) กลับไม่ปลอดภัย

UNHCR กับ USIAD ย่ามใจกับเงินทอนมานาน จนนึกไม่ถึงว่า ทรัมป์จะรู้ทันตัดเงินช่วยเหลือแบบฟ้าผ่า เลยทิ้งขี้ไว้ให้แพทย์ไทยเช็ดล้าง

นี่คือความชอบที่แพทย์ไทยไม่ต้องไปช่วยผู้อ้างว่าลี้ภัยในค่าย แพทย์ไทยลาออกเสียดีกว่าไปล้างขี้ให้ UNHCR

ผบ.ตร ชื่นชม 'ทีมตำรวจไทย' ที่สามารถโชว์ผลงานในการแข่งขัน UAE Swat Challenge 2025  ได้อย่างยอดเยี่ยม สร้างชื่อเสียงให้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และประเทศไทย 

(6 ก.พ.68) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งทีมปฏิบัติการพิเศษทางยุทธวิธี เข้าร่วมการแข่งขัน ชุดปฏิบัติการพิเศษทางยุทธวิธี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE Swat Challenge 2025  ระหว่างวันที่ 1 - 5 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการแข่งขัน 120 ทีม จาก 50 ประเทศทั่วโลก  โดย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งชุดปฏิบัติการพิเศษทางยุทธวิธี เข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 3 ทีม แบ่งเป็น ทีมชาย 2 ทีม และทีมหญิง 1 ทีม  ซึ่งในปีนี้ ทีมตำรวจไทย ที่เข้าร่วมแข่งขันสามารถทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ติด Top 5 และ Top 10  สุดยอดทีมปฏิบัติการพิเศษระดับโลก

สำหรับการแข่งขัน UAE SWAT CHALLENGE 2025 ทำการแข่งขันทั้งหมด 5 สถานี ประกอบด้วย 1. การช่วยตัวประกัน (Hostage Rescue) , 2. สถานการณ์โจมตี (Assault Event) , 3. ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ (Officer Rescue) , 4. การโจมตีอาคารสูง (Tower Assault) และ 5. การผ่านอุปสรรคและสิ่งกีดกั้น (Obstacle Course) 

หลังจากการแข่งขันเสร็จสิ้นผลปรากฎว่า ตำรวจไทย ทีม ROYAL THAI POLICE  A  ได้ลำดับที่ 6 , ทีม ROYAL THAI POLICE B ได้ลำดับที่ 5, ทีม ROYAL THAI POLICE C ได้ลำดับที่ 48  และเป็นที่ 1 ของทีมหญิง ที่เข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้ 

นอกจากนี้ ผบ.ตร.ชื่นชม 'ทีมตำรวจไทย' นักกีฬา ผู้ฝึกซ้อม และผู้เกี่ยวข้องทุกนาย ที่ทุ่มเทฝึกซ้อม พัฒนาทักษะ สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม สร้างชื่อเสียงให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และประเทศไทย ได้รับการยกย่องในเวทีระดับโลกอย่างเป็นที่ประจักษ์ โดย 'สุดยอดทีม' จะเป็นกำลังสำคัญ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการทำหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ เพื่อดูแลปกป้องพี่น้องประชาชนต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top