Thursday, 3 July 2025
NEWS

ฤดูกาล “เกณฑ์ทหาร” ปี 64 “เก้า จิรายุ” เตรียมลุ้นจับใบดำ 9 เม.ย.นี้ เผยยอดต้องการเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเล็กน้อย / ทบ.ยังเข้มมาตรการป้องกันแพร่เชื้อโควิด-19

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากองทัพบก ได้เริ่มทำการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ (เกณฑ์ทหาร)ประจำปี 2564 เป็นวันแรก  และจะดำเนินการให้แล้วเสร็จไม่เกินวันที่ 20 เมษายน 2564 นี้ (ยกเว้น 6 เมษายน 64 และ 12 - 15 เมษายน 64) ซึ่งชายไทยที่จะต้องเข้ารับการตรวจเลือกฯ ได้แก่ ผู้ที่เกิด .. 2543 ซึ่งมีอายุ 21 ปีบริบูรณ์ ผู้ที่เกิด ..2535 - 2542 ซึ่งมีอายุ 22 - 29 ปีบริบูรณ์ ที่ยังไม่เคยเข้ารับการตรวจเลือก หรือผู้ที่ผลการตรวจเลือกยังไม่แล้วเสร็จทุกกรณี  ให้ไปเข้ารับการตรวจเลือก ตามวัน เวลา สถานที่ ที่กำหนดในหมายเรียกฯ


สำหรับการเกณฑ์ทหารในปีนี้ ยังคงใช้นโยบายในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ลดความแออัดของจำนวนคน โดยขยายเวลาตรวจเลือกถึงวันที่ 20 เมษายน ลดขั้นตอนต่าง ในหน่วยตรวจเลือกเพื่อให้กระชับ และประหยัดเวลา เลือกสถานที่ให้มีอากาศถ่ายเท  ไม่อนุญาตให้ครอบครัว หรือคนใกล้ชิดกับผู้เข้า เข้าไปพักรอ หรือ ให้กำลังใจในหน่วยตรวจเลือก โดยเน้นย้ำมาตรการในการเว้นระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัย ฯลฯ

ส่วนยอดทหารกองประจำการที่ต้องการในปี 2564 จำนวนทั้งสิ้น 97,558 นาย เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ประมาณ 5,000 นาย แบ่งเป็นสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 783 นาย กองบัญชาการกองทัพไทย 1,121 นาย กองทัพบก 70,808 นาย กองทัพเรือ 14,804 นาย กองทัพอากาศ 10,042 นาย โดยก่อนหน้านี้กองทัพบกเปิดรับสมัครโดยวิธีการร้องขอ (กรณีพิเศษ) ทางออนไลน์ มียอดรับจำนวนกว่า 3,000 คน และต้องดูจากยอดผู้สมัครใจตามขั้นตอนปกติด้วย

รายงานข่าว เปิดเผยว่า สำหรับดารา นักร้อง ผู้มีชื่อเสียง ที่อายุครบเกณฑ์ต้องเข้ารับการตรวจเลือกในปี 2564  ต้องเข้ามารายงานตัว ซึ่งปีนี้มีทั้งขอผ่อนผัน และเข้าจับใบดำ ใบแดง โดยวันที่ 9 เมษายน เวลา 08.00 . เก้าจิรายุ ละอองมณี นักแสดงวัยรุ่นชื่อดัง จะเข้าจับ ใบดำ ใบแดง ที่วัดอยู่ดีบำรุงธรรม (ออเงิน) เขตสายไหม หลังจากที่ได้ทำการผ่อนผันครบแล้ว 3 ครั้งแล้ว

H&M แถลงผลประกอบการไตรมาสแรกขาดทุนยับ รีบกลับลำหันมาทุ่มเทสร้างความไว้วางใจ - เชื่อใจกับคู่หุ้นส่วนธุรกิจจีนและเหล่านักช้อปในแดนมังกร หลังจีนเปิดศึกโต้กลับเหล่าแบรนด์ดังโลกกล่าวหามีการละเมิดสิทธิมนุษย์ชนในซินเจียง

สืบเนื่องจากการที่เอช แอนด์ เอ็ม แห่งสวีเดนซึ่งครองแท่นยักษ์ใหญ่ค้าปลีกสินค้าแฟชั่นอันดับสองของโลก ได้เริ่มออกแถลงการณ์ในโซเชียลมีเดียตั้งแต่ปี 2020 ในเนื้อหาแถลงการณ์แสดงความวิตกเกี่ยวกับรายงานที่แฉการบังคับใช้แรงงานในเขตปกครองตัวเองชนชาติอุยกูร์แห่งซินเจียง และบอกว่าเอช แอนด์ เอ็ม จะไม่ใช้ฝ้ายจากซินเจียงอีกต่อไป แถลงการณ์ฉบับนี้ได้จุดกระแสให้กลุ่มแบรนด์ดังโลกทั้งค้าปลีกแฟชั่น - เครื่องกีฬา อย่างไนกี้ อาดิดาส ออกมาร่วมขบวนบอยคอตฝ้ายซินเจียง

ด้านจีนได้ระดมกลุ่มผู้รักชาติทั้งภาคเจ้าหน้าที่รัฐ, ซุปตาร์, กลุ่มบริษัทรายใหญ่ และผู้บริโภคบอยคอตสินค้าแบรนด์ดังโลกที่บังอาจมากล่าวหาจีนละเมิดสิทธิมนุษย์ชน

จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ H&M ได้ออกแถลงในเว็บไซต์ขององค์กรเมื่อวันที่ 31 มี.ค. ว่า ข้อตกลงสัญญาระหว่าง H&M กับจีน ยังเหนียวแน่น และบริษัทได้ฟื้นความเชื่อใจและมั่นใจกับผู้บริโภค ผู้ร่วมงาน และคู่หุ้นส่วนในจีน

“ในการทำงานร่วมกับกลุ่มผู้ถือหุ้น และคู่หุ้นส่วน เราเชื่อว่าเราจะจับมือกันเดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่น ตอบสนองความต้องการผู้บริโภค และเคารพซึ่งกันและกัน”

ทั้งนี้ H&M รายงานยอดขาดทุนก่อนหักภาษีระหว่างช่วงเดือนธ.ค.-ก.พ. ซึ่งเป็นไตรมาสแรกของปีการเงินบริษัท เท่ากับ 1.39 พันล้านคราวน์ (หรือ 159 ล้านเหรียญสหรัฐ / หรือกว่า 4.9 พันล้านบาท) เทียบกับปีก่อนหน้าที่มีกำไรอยู่ที่ 2.50 พันล้านคราวน์ หรือ 8.99 พันล้านบาท จากการวิเคราะห์จากการสำรวจของ Refinitiv ได้คาดการณ์ยอดขาดทุนเฉลี่ย เท่ากับ 1.41 พันล้านคราวน์ หรือกว่า 5 พันล้านบาท

.

ที่มา: https://sondhitalk.com/detail/9640000030750?fbclid=IwAR3ZUwgRSX27TjcR1hz3ECel3aEVyfLPIGe2KiSle_x1PjetpDkQYb7B7Ig


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

กองทัพเมียนมา แถลงหยุดยิง 1 เดือน วอน ‘กลุ่มชาติพันธุ์’ ร่วมกันรักษาความสงบ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ว่าคณะมนตรีการปกครองแห่งรัฐ ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของรัฐบาลทหารเมียนมา ออกแถลงการณ์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ว่ากองทัพพร้อมยุติปฏิบัติการทางทหาร ระหว่างวันที่ 1 - 30 เม.ย.นี้ เพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการสันติภาพ โดยตลอดช่วงเวลาดังกล่าวขอความร่วมมือจากกองกำลังชาติพันธุ์ทุกกลุ่ม ‘ร่วมกันรักษาความสงบ’ และเพื่อร่วมกันเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์

อย่างไรก็ตาม การหยุดยิงครั้งนี้ไม่มีผลกับ ‘กิจกรรมทุกรูปแบบที่มีผลต่อความปลอดภัยและความมั่นคงของรัฐ ตลอดจนความราบรื่นในการบริหารกิจการแผ่นดิน’ สื่อชัดเจนถึงการประท้วงต่อต้านรัฐบาลทหาร ซึ่งเกิดขึ้นรายวันนับตั้งแต่วันยึดอำนาจ เมื่อ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา

ขณะที่ยังไม่มีกองกำลังชาติพันธุ์กลุ่มใดออกมาให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ ต่อการประกาศ ‘สงบศึกชั่วคราว’ ของกองทัพเมียนมา อนึ่ง ก่อนหน้านั้น สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) ซึ่งเป็นกองกำลังชาติพันธุ์เก่าแก่ที่สุด และมีฐานที่มั่นอยู่ทางตะวันออก กองทัพเอกราชกะฉิ่น (เคไอเอ) ซึ่งมีเขตอิทธิพลอยู่ทางเหนือ กองทัพอาระกัน (เอเอ) ซึ่งเป็นกองกำลังชาวพุทธในรัฐยะไข่ ที่อยู่ทางตะวันตก และสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉานของเจ้ายอดศึก แสดงออกชัดเจน ว่าไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารในกรุงเนปิดอว์

ทั้งนี้ สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนทางตะวันออกของเมียนมา ซึ่งติดกับไทย ยังคงมีความรุนแรงเป็นระยะ โดยสื่อท้องถิ่นรายงานว่า เครื่องบินรบของกองทัพเมียนมาโจมตีเหมืองทองแห่งหนึ่ง ที่อยู่ภายในอาณาเขตยึดครองของเคเอ็นยู เมื่อวันอังคาร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน โดยกองทัพเมียนมาปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในแถบนี้ตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี เพื่อตอบโต้ที่เคเอ็นยูบุกโจมตีฐานประจำการแห่งหนึ่งของกองทัพ สังหารทหารอย่างน้อย 10 นาย และควบคุมตัวทหาร 8 นายเป็นตัวประกัน

.

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/foreign/834449


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

มท.จัดงานวันที่ระลึกคล้ายวันสถาปนากระทรวงมหาดไทย 129 ปี 

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564 บริเวณด้านหน้ากระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานในพิธีวางพุ่มดอกไม้ถวายสักการะพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พร้อมทั้งกล่าวคำถวายสดุดีสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เนื่องในวันที่ระลึกคล้ายวันสถาปนากระทรวงมหาดไทยครบ 129 ปี เพื่อน้อมระลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระบรมราชโองการสถาปนากระทรวงมหาดไทยขึ้น โดยมีนายนิพนธ์ บุญญามณี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมพิธีฯ

จากนั้นพล.อ.อนุพงษ์เป็นประธานในพิธีทอดผ้าป่าสมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ พระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร โดยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นองค์ประธานพิจารณาผ้าป่า ซึ่งกรมการพัฒนาชุมชนเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรม เพื่อรวบรวมเงินจากผู้มีจิตศรัทธาจากทั่วประเทศ สมทบเข้าเป็นกองทุนการศึกษาแก่เด็กยากจนและด้อยโอกาสในพื้นที่ชนบท จากนั้น พล.อ.อนุพงษ์เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันที่ระลึกคล้ายวันสถาปนากระทรวงมหาดไทย โดยมี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และคณะสงฆ์วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหารรวม 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์

จากนั้น พล.อ.อนุพงษ์เป็นประธานในพิธีมอบเข็มเชิดชูเกียรติผู้มีจริยธรรมดีเด่น ประจำปี 2563 ให้แก่บุคลากรในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยที่ได้รับการยกย่องเป็นผู้มีจริยธรรมดีเด่นจำนวน 5 ราย ได้แก่ นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น นายปรีชา เดชพันธุ์ รองผวจ.นครสวรรค์ นางศุภวรรณ บูชาดี ผอ.กลุ่มงานสนับสนุนผู้ตรวจราชการ สํานักตรวจราชการและเรื่องราวร้องทุกข์ นางสาวธันยพรรษ จันทร์ทอง ผอ.กลุ่มงานบริหารทรัพยากรบุคคล สำนักงานจังหวัดนครศรีธรรมราช และนายมนัส แก้วกัญญา พนักงานขับรถยนต์ระดับส 2 สำนักงานจังหวัดสุราษฎร์ธานี และพิธีมอบเข็มเชิดชูเกียรติให้แก่พลเมืองดี ประจำปี 2562 – 2563 ให้แก่ผู้ทำความดีในการเข้าช่วยเหลือผู้อื่นที่ตกอยู่ในอันตรายและต้องการความช่วยเหลือ หรือการช่วยเหลือกิจกรรมของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานหน้าที่ ในเหตุฉุกเฉินต่างๆ ด้วยคุณธรรมจนเป็นที่ประจักษ์ชัด โดยมิได้คำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นกับตนเองและครอบครัว โดยมีผู้ได้รับยกย่องเป็นพลเมืองดีจำนวน 19 ราย เป็นพลเมืองดีที่เสียชีวิตจำนวน 7 ราย บาดเจ็บ 5 ราย และไม่ได้รับผลกระทบจากการให้ความช่วยเหลือผู้อื่น 7 ราย  

ประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง ออกคำสั่งให้ฝรั่งเศสเข้าสู่ล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นรอบที่ 3 และเผยว่าโรงเรียนต่าง ๆ ต้องปิดการเรียนการสอนเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ในขณะที่เขาพยายามรับมือกับการแพร่ระบาดระลอก 3 ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

จนถึงตอนนี้ สถานการณ์โรคระบาดใน ฝรั่งเศส พบจำนวนผู้เสียชีวิตขยับเข้าใกล้ 100,000 คน ตามห้องไอซียูตามภูมิภาคต่าง ๆ ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด ขณะที่การแจกจ่ายวัคซีนก็ล่าช้ากว่าที่วางแผนไว้ ทำให้ มาครง ถูกบีบให้ต้องละทิ้งเป้าหมายเดิมที่หวังเปิดประเทศต่อไปเพื่อปกป้องเศรษฐกิจ

“เราจะสูญเสียการควบคุม หากเราไม่ดำเนินการในตอนนี้” ประธานาธิบดีมาครงแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ

คำแถลงของเขามีเป้าหมายเดินมาตรการจำกัดความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่บังคับใช้ในกรุงปารีส และบางแคว้นทางภาคเหนือ รวมทางใต้ของประเทศ มาราว ๆ 1 สัปดาห์ และเวลานี้ก็จะถูกขยายบังคับใช้ทั่วประเทศอีกเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ (3 เม.ย.) เป็นต้นไป

ประธานาธิบดีมาครง วัย 43 ปี พยายามหลีกเลี่ยงล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นรอบที่ 3 นับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2021 โดยเสี่ยงเดิมพันว่าหากเขาสามารถนำพาฝรั่งเศสหลุดพ้นจากโรคระบาดใหญ่แบบไม่ต้องล็อกดาวน์ประเทศอีกครั้ง จะช่วยเปิดโอกาสให้เศรษฐกิจฟื้นตัวจากการดำดิ่งอย่างหนักเมื่อปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ทางเลือกของอดีตนายธนาคารเพื่อการลงทุนรายนี้แคบลง เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่เชื้อได้ง่ายกว่าเดิม ทั่วฝรั่งเศสและพื้นที่ส่วนใหญ่ของยุโรป

ทั้งนี้ในส่วนของการเรียนการสอน มาครงบอกด้วยว่าโรงเรียนต่างๆ จะปิดการเรียนการสอนเป็นเวลา 3 สัปดาห์ หลังสุดสัปดาห์นี้ กลับลำคำสัญญาที่เคยประกาศว่าจะปกป้องการศึกษาจากโรคระบาดใหญ่ โดยหากผ่านพ้นสุดสัปดาห์นี้ไป เด็กนักเรียนจะต้องเข้าสู่การเรียนทางไกลเป็นเวลา 1 สัปดาห์ และหลังจากนั้นสถาบันการศึกษาจะปิดเทอมเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งปีนี้โรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศจะปิดเร็วกว่ากำหนด

จากนั้นนักเรียนระดับอนุบาลและประถมจะกลับเข้าสู่ชั้นเรียน แต่นักเรียนระดับมัธยมต้นและมัธยมปลายจะยังคงต้องเรียนทางไกลต่ออีก 1 สัปดาห์ “นี่คือทางออกที่ดีที่สุดเพื่อชะลอไวรัส” มาครงกล่าว พร้อมระบุว่าฝรั่งเศสประสบความสำเร็จที่สามารถคงการเปิดการเรียนการสอนระหว่างโรคระบาดใหญ่ได้นานกว่าประเทศเพื่อนบ้านหลายชาติ

สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันของฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นเท่าตัวนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เฉลี่ยแล้วเกือบ 40,000 คนต่อวัน ส่วนจำนวนคนไข้โควิด-19 ที่ต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียูทะลุ 5,000 คนแล้ว เกินกว่าระดับสูงสุดครั้งที่ประเทศแห่งนี้เข้าสู่ล็อกดาวน์เป็นเวลา 6 สัปดาห์เมื่อช่วงปลายปีก่อน เป็นที่เรียบร้อย

มาครง ระบุว่าจะมีการเพิ่มเตียงคนไข้ในห้องอีซียูเป็น 10,000 เตียง เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว

คำสั่งล็อกดาวน์รอบใหม่เสี่ยงชะลออัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของฝรั่งเศส หลังจากปีที่แล้วดำดิ่งอย่างหนัก โดยมาตรการดังกล่าวจะบังคับปิดธุรกิจต่าง ๆ กว่า 150,000 แห่งเป็นการชั่วคราว ก่อความเสียหายคิดเป็นมูลค่าราว ๆ 11,000 ล้านยูโรต่อเดือน จากการประเมินของกระทรวงการคลัง

มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ของฝรั่งเศสตอกย้ำถึงความเสียหายมหาศาลที่ต้องชดใช้ อันสืบเนื่องจากการแจกจ่ายวัคซีนต่อต้านโควิด-19 ที่ล่าช้าของสหภาพยุโรป

ประธานาธิบดีมาครงระบุว่า จำเป็นต้องเร่งมือโครงการวัคซีนให้เร็วขึ้น หลังจากประสบปัญหาติดขัดเกี่ยวกับระเบียบราชการและอุปทานขาดแคลน โดยจนถึงตอนนี้หลังผ่านไป 3 เดือน ฝรั่งเศสเพิ่งฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่ประชาชนไปได้เพียงแค่ 12% เท่านั้น

ฉะนั้นความพยายามเดินหน้าโครงการจึงต้องทำให้เร็วขึ้น โดยมาครงบอกว่าประชาชนในช่วงวัย 60 ปีเศษ ๆ จะมีสิทธิ์เข้ารับการฉีดวัคซีนตั้งแต่กลางเดือนเมษายนเป็นต้นไป และในอีก 1 เดือนหลังจากนั้นจะเป็นคิวของกลุ่มคนในวัย 50 ปีเศษ ๆ พร้อมเน้นย้ำว่ายังคงวางเป้าหมายฉีคซีนแก่ประชากรวัยผู้ใหญ่ให้ได้ 30 ล้านคนในช่วงกลางเดือนมิถุนายน

มาครง กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า มาตรการล็อกดาวน์เดือนเมษายน และการยกระดับความรวดเร็วของโครงการฉีดวัคซีนจะเปิดทางให้เศรษฐกิจของประเทศกลับมาเปิดอย่างช้าๆ ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป โดยเริ่มจากพิพิธภัณฑ์และที่นั่งกลางแจ้งของบาร์และร้านอาหารต่าง ๆ ภายใต้กฎระเบียบอันเข้มงวด

.

ที่มา: https://mgronline.com/around/detail/9640000030936


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

ไบโอเอ็นเทคและไฟเซอร์ เปิดเผยเมื่อวันพุธ (31 มี.ค.) ว่าวัคซีนของพวกเขามีประสิทธิภาพต่อต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 100% ในเด็กอายุ 12 ถึง 15 ปี พร้อมหวังได้รับอนุมัติใช้กับคนวัยเยาว์ก่อนปีการศึกษาถัดไป

ทั้งสองบริษัทระบุในถ้อยแถลงว่า การทดลองขั้นที่ 3 กับยุวชน 2,260 รายในสหรัฐฯ “พิสูจน์ถึงประสิทธิภาพ 100% และการตอบสนองแอนติบอดีที่แข็งแกร่ง”

ด้าน อัลเบิร์ต บัวร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไฟเซอร์ระบุว่า “เรามีแผนยื่นข้อมูลนี้ต่อ FDA (คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบสหรัฐฯ) เสนอแก้ไขการอนุญาตให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินของเราในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และยื่นข้อมูลต่อคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบอื่นๆ ทั่วโลก ด้วยความหวังว่าจะเริ่มฉีดวัคซนให้กลุ่มอายุนี้ก่อนเริ่มปีการศึกษาหน้า”

ส่วนประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไบโอเอ็นเทค บริษัทสัญชาติเยอรมนี เสริมว่า ผลการทดลองที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการป้องกันระดับสูงสำหรับคนวัยเยาว์ “เป็นสิ่งที่สร้างขวัญและกำลังใจอย่างมาก โดยในเฉพาะในแนวโน้มที่เราพบเห็นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์สหราชอาณาจักร B.1.1.7”

วัคซีนของไบโอเอ็นเทคและไฟเซอร์ สร้างจากใช้พื้นฐานของเทคโนโลยี mRNA และเป็นวัคซีนโควิด-19 ตัวแรกที่ได้รับอนุมัติในตะวันตกในช่วงปลายปีที่แล้ว

ทั้งสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปต่างเห็นชอบอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินกับบุคคลที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ซึ่งนับตั้งแต่นั้นมันถูกใช้กับผู้คนหลายล้านรายในชาติต่างๆ มากกว่า 65 ประเทศทั่วโลก

ผลการศึกษาในโลกจริงซึ่งเกี่ยวข้องกับประชาชน 1.2 ล้านคนในอิสราเอล พบว่าวัคซีนของไบโอเอ็นเทคและไฟเซอร์ มีประสิทธิภาพสูงถึง 94%

ในขณะที่โลกกำลังตะเกียกตะกายฉีดวัคซีน ไบโอเอ็นเทคเปิดเผยเมื่อวันอังคาร (30 มี.ค.) ว่าพวกเขาอยู่บนเส้นทางของการผลิตวัคซีน 2,500 ล้านโดสในปีนี้

กำลังผลิตที่สูงขึ้นเป็นจากการเพิ่งเปิดแหล่งผลิตใหม่เมื่อเร็วๆ นี้ในเมืองมาร์บวร์ก ของเยอรมนี ซึ่งตอนนี้กลายเป็นหนึ่งในโรงงานผลิตวัคซีน mRNA ใหญ่ที่สุดในโลก ทางบริษัทระบุ

นอกจากนี้แล้วยังมีการผลิตวัคซีนตัวดังกล่าวที่โรงงานแห่งหนึ่งของไฟเซอร์ในเบลเยียม และอีก 3 โรงงานในสหรัฐฯ

ไบโอเอ็นเทคระบุว่า ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และข้อตกลงความร่วมมือใหม่กับบรรดาพันธมิตรภายนอกจะช่วยยกระดับเป้าหมายการผลิตวัคซีนของพวกเขาเช่นกัน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไบโอเอ็นเทคและไฟเซอร์เริ่มทำการศึกษาประสิทธิภาพวัคซีนกับเด็กอายุน้อย โดยฉีดวัคซีนให้เด็กอายุระหว่าง 5 ถึง 11 ขวบ กลุ่มแรกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ คาดหมายว่าจะเริ่มให้วัคซีนโดสแรกแก่เด็กกลุ่มอายุ 2 ถึง 5 ขวบในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะครอบคลุมทารกวัยแบบเบาะอายุต่ำสุด 6 เดือนด้วย

.

ที่มา : เอเอฟพี

https://mgronline.com/around/detail/9640000030932
 


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

การรถไฟฯ ขานรับนโยบาย รมว.คมนาคม เปิดจองตั๋วโดยสารขบวนรถพิเศษ เดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ เริ่มวันที่ 1 เม.ย. 64

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรถไฟฯ เปิดจองตั๋วโดยสารขบวนรถพิเศษ สำหรับเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 9 - 15 เมษายน 2564  เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวในเส้นทางสายเหนือ และสายตะวันออกเฉียงเหนือ ได้เดินทางไปกลับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้อย่างพอเพียง ไม่เกิดปัญหาผู้โดยสารตกค้างตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม  

ทั้งนี้ การให้บริการขบวนรถพิเศษเพิ่มเติม มีทั้งประเภทรถนอนปรับอากาศ และรถนั่งชั้น 3  ไป - กลับ รวม 16 ขบวน แบ่งเป็นเส้นทางสายเหนือ และสายตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 9 - 14 เมษายน 2564 (เที่ยวไป 8 ขบวน) และวันที่ 10 และ 15 เมษายน 2564 (เที่ยวกลับ 8 ขบวน) รวมทั้งยังได้มีการพ่วงตู้โดยสารเพิ่มจนเต็มหน่วยลากจูงในขบวนรถที่วิ่งให้บริการปกติทุกสายทั่วประเทศ ซึ่งทำให้สามารถรองรับปริมาณการเดินทางของประชาชนได้สูงสุดถึง 100,000 คนต่อวัน 

นอกจากนี้ การรถไฟฯ ขอแจ้งงดเดินขบวนรถนำเที่ยว ขบวนที่ 909/910 กรุงเทพ - น้ำตก - กรุงเทพ และขบวนที่ 911/912 กรุงเทพ - สวนสนประดิพัทธ์ - กรุงเทพ ในวันที่ 10 - 11 และ 17 - 18 เมษายน 2564 ซึ่งเป็นวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ ในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ด้วย

นายนิรุฒ กล่าวว่า การรถไฟฯ ยังได้เตรียมความพร้อมมาตรการดูแลความปลอดภัยในการเดินทาง โดยจัดตั้งศูนย์ปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อทำหน้าที่ติดตามประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลการเดินทางของผู้โดยสาร สั่งการแก้ไขกรณีเกิดเหตุอันตราย และรวบรวมสถิติข้อมูลการเดินทาง ขณะเดียวกันยังได้เฝ้าระวังและตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ สารเสพติดของพนักงานขับรถ เจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถ และประจำสถานีก่อนปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงการห้ามจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงสารเสพติดบนขบวนรถโดยสารและสถานีรถไฟ โดยมีการขอความร่วมมือไปยังกองบังคับการตำรวจรถไฟ เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราอีกทางหนึ่งด้วย 

ขณะเดียวกัน การรถไฟฯ ได้จัดมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด–19 ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางรางอย่างเคร่งครัด โดยกำหนดจุดคัดกรองวัดไข้ผู้โดยสารก่อนเข้าในพื้นที่ การตั้งจุดให้บริการแอลกอฮอล์ล้างมือ การให้สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง Social Distancing ให้มีจุดยืน/นั่ง ที่ชัดเจนทั้งภายในสถานีและบนขบวนรถ โดยให้เว้นที่นั่งในลักษณะที่เว้นที่เพื่อไม่ให้ผู้โดยสารนั่งติดกัน ยกเว้นผู้โดยสารที่เดินทางมาด้วยกัน พร้อมกับให้สแกนแอพพลิเคชัน ไทยชนะ ก่อนและหลังใช้บริการ แต่หากผู้โดยสารไม่สามารถใช้แอพพลิเคชันไทยชนะผ่านการสแกนโทรศัพท์ได้ก็จะต้องกรอกข้อมูลการเดินทางตามแบบฟอร์มที่จัดไว้ให้แทน  โดยผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งกำหนดเวลาต่าง ๆ ของขบวนรถที่ให้บริการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย

https://www.facebook.com/129946050353608/posts/4450654138282756/?d=n

"วรศิษฎ์" ชื่นใจ สตูล คว้าแชมป์ จังหวัดอากาศดีที่สุดในไทย ชวนปชช. เยือนเมืองสตูล แบบนิวนอร์มอล หวังดันให้เป็นการท่องเที่ยวเมืองหลัก

นายวรศิษฎ์  เลียงประสิทธิ์ ส.ส.สตูล เขต 2 พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการที่ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) ได้ประกาศรายชื่อ จังหวัดสตูล เป็นจังหวัดที่มีอากาศดีที่สุดในประเทศไทย วัดจากค่าเฉลี่ยปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 น้อยที่สุด  ตั้งแต่เดือน มกราคม - ธันวาคม 2563 นั้นว่าตนรู้สึกชื่นใจ ที่สตูล ถูกพูดอีกครั้งในเรื่องที่น่าชื่นชม และต่อยอดจากตัวชี้วัดคุณภาพอากาศที่ดีที่สุดนั้น ด้วยการส่งเสริมการท่องเที่ยวสตูล กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน หลังสถานการณ์โควิด-19 ส่วนหนึ่งต้องขอขอบคุณประชาชนชาวสตูล ที่ช่วยกันรักษาธรรมชาติ  คำนึงถึงระบบนิเวศน์ และสิ่งแวดล้อม 

ตนจึงอยากเชิญชวน คนไทยทุกคน เดินทางมาท่องเที่ยวยังจังหวัดสตูล แบบนิวนอร์มอล พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ ในจุดท่องเที่ยวอันซีน ทั้ง ปราสาทหินพันยอด หาดสันหลังมังกร ถ้ำเลสเตโกดอน และถ้ำภูผาเพชร  เป็นต้น  โดย นายวรศิษฎ์ เปิดเผยว่า นอกจากนี้ ตนยังหวังผลักดันให้เมืองสตูล  จากที่เคยอยู่ในการจัดให้เป็นการท่องเที่ยวเมืองรอง กลายมาเป็นการท่องเที่ยวเมืองหลัก ให้ได้  เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จากการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว

นาทีช่วยชีวิต! ดรุณวรรณ - แทนคุณ ร่วมช่วยชีวิตผู้ป่วยความดันสูง เป็นลมหมดสติบนเครื่องบิน ระหว่างเดินทางไปลงพื้นที่ที่จังหวัดสงขลา

ทั้งนี้ผู้ป่วยดังกล่าว ได้เป็นลมหมดสติล้มลงขณะลุกขึ้นยืน โดยมีแอร์โฮสเตสและผู้โดยสารบนเที่ยวบินลำเดียวกันเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปช่วยทันที และแอร์โฮสเตสได้ประกาศขอความช่วยเหลือจากผู้ที่มีวิชาชีพแพทย์หรือพยาบาลมาร่วมให้การช่วยเหลือ

โดยนางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนขัย รองโฆษกพรรค ปชป.ซึ่งเป็นอดีตพยาบาล และนายแทนคุณ จิตต์อิสระ เลขานุการคณะทำงานทางการเมืองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคยรับการอบรมเกี่ยวกับแพทย์แผนจีนได้ร่วมกันอาสาไปช่วยชีวิตผู้ป่วยทันที พร้อมกับพยาบาลวิชาชีพจากกระทรวงสาธารณสุข และโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ที่โดยสารมาในเครื่องบินลำเดียวกัน

โดยได้ใช้เวลาในการปฐมพยาบาลประมาณ 15 นาที จนผู้ป่วยเริ่มฟื้นสติและปลอดภัยในที่สุด สร้างความยินดีให้กับญาติ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินและผู้โดยสารทุกคนที่ร่วมเดินทางมาด้วยกัน

จากวิกฤตเรือขวางคลองสุเอซที่ทำให้การจราจรทางน้ำ การขนส่งระหว่างประเทศกลายเป็นอัมพาตไปเกือบสัปดาห์ มูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนมหาศาล แต่ใครจะคาดคิดว่าหนึ่งในเหตุที่ทำให้ เรื่องนี้ ได้รับการคลี่คลายปัญหาอย่างรวดเร็วมาจากปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่าง Super Moon

>> ปรากฏการณ์ Super Moon คืออะไร?

สำหรับปรากฏการณ์ Super FullmoonหรือSuper Moon นั้น เป็นเหตุการณ์ ที่จะต้องมี ปัจจัยสำคัญ 2 อย่างซึ่งเกี่ยวข้องกับดวงจันทร์ โดยสองสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันก็คือ

1.) ดวงจันทร์เต็มดวง

2.) ดวงจันทร์ใกล้โลกที่สุด

ในความเป็นจริง ปรากฏการณ์ดวงจันทร์เต็มดวง และดวงจันทร์ใกล้โลกนั้นเกิดขึ้นอยู่ทุกเดือน เนื่องจากดวงจันทร์เต็มดวงเกิดขึ้นจากการที่ดวงจันทร์ไปอยู่ตำแหน่งตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ จึงเกิดขึ้นทุกๆ 29.5 วัน แต่วงโคจรของดวงจันทร์นั้นเป็นวงรี จึงมีระยะห่างใกล้ไกลจากโลกเปลี่ยนไปตามวงโคจร ซึ่งใช้เวลา 27 วัน ด้วยเหตุที่สองช่วงเวลานี้ไม่เท่ากัน ทำให้สองปรากฏการณ์เกิดขึ้นเหลื่อมกันไปเรื่อยๆ แต่จะกลับมาประจวบเหมาะกันอีกครั้งประมาณทุกๆ 14 รอบจันทร์เต็มดวง กล่าวคือ ราว ๆ 1 ปี 2 เดือน จะเกิด Super Moon สักครั้ง และเมื่อวันที่ 29 มีนาคม เป็นอีกหนึ่งครั้งที่สองสิ่งนี้เกิดขึ้นพร้อมกันพอดิบพอดี

สำหรับ การเคลื่อนที่ของดวงจันทร์ อย่างที่ทราบกันดีจากว่ามีผลทำให้เกิดปรากฏการณ์ ‘น้ำขึ้น - น้ำลง’ และการเกิด Super Moon นั้นเป็น ถือว่าเป็นกรณีที่จะช่วยให้เกิดแรงน้ำขึ้นน้ำลงได้สูงที่สุดแล้ว…

>> ปรากฏการณ์น้ำเกิดมาพร้อมซูเปอร์มูน

เหตุการณ์ ‘น้ำเกิด’ (Spring tide) จะเกิดน้ำขึ้น - น้ำลงได้สูงสุด และจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มี Super Moon แต่ในทางตรงกันข้ามในช่วงเวลาที่ ดวงจันทร์ห่างโลกที่สุดจะอยู่ในช่วง ‘น้ำตาย’ (Neap tide) ซึ่งเป็นช่วงที่ระดับน้ำขึ้น - น้ำลงต่างจากค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด

สำหรับปรากฏการณ์ ‘น้ำเกิด’ จะเกิดขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ อยู่ในทิศทางเดียวกัน หรือตรงข้ามกันพอดี เช่น ในวันเพ็ญที่ดวงจันทร์อยู่ตรงกันข้ามกับดวงอาทิตย์พอดี ซึ่งครั้งนี้ประจวบเหมาะกับการกู้โลก ช่วยเหลือ ‘เรือขวางคลองสุเอซ’ พอดี

>> Super Moon กู้เรือขวางคลองสุเอซ

ด้วยระดับน้ำที่ขึ้นสูงกว่า 2 เมตรในช่วงน้ำขึ้นสูงสุดในช่วง Super Moon เมื่อคิดจากขนาดเรือ 400x56 เมตร จะพบว่าน้ำที่ขึ้นมา 2 เมตรนี้เทียบเท่าได้กับแรงลอยตัวที่เพิ่มมากขึ้นกว่า 45,000 ตัน อธิบายให้เห็นภาพคือถ้าหากไม่สามารถลากเรือออกมาได้ในช่วงน้ำขึ้นสูงสุดในวัน Super Moon แล้ว คงจะไม่มีวันที่จะสามารถลากเรือออกมาได้อีกต่อไป ซึ่งก็คงจะต้องหันไปใช้ทางเลือกอื่น แต่แล้วในที่สุด เรือ Ever Given ก็สามารถกลับมาลอยลำได้อีกครั้ง

ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ได้มาจากผลของSuper Moon เพียงอย่างเดียว แต่เกิดขึ้นจากการทำงานแก้ปัญหาอย่างไม่ลดละของทีมงานกู้เรือ ตั้งแต่การขุดลองคลองบริเวณใต้เรือ การขุดดินด้วยรถตักคันจิ๋ว ไปจนถึงเรือลากจำนวนมากที่คอยผลักดัน

แต่อย่างหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลย ก็คือการที่ทีมงานมีความรู้ความเข้าใจทางด้านดาราศาสตร์เกี่ยวกับซูเปอร์มูนและน้ำขึ้นน้ำลงนั้น เป็นอีกส่วนสำคัญที่ช่วยให้การกู้เรือขวางคลองสุเอซสำเร็จลุล่วง...

ที่มา: ข้อมูลจาก อ.มติพล ตั้งมติธรรม นักวิชาการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ : NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ

https://www.springnews.co.th/global/807332


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

HAN​ LAY​ Miss Grand เมียนมาเพราะความกล้าทำให้กลับบ้านไม่ได้! | News​ มีนิสส​ More​ Minutes Contrast

HAN​ LAY​ Miss Grand เมียนมาเพราะความกล้าทำให้กลับบ้านไม่ได้!

.

.



สนับสนุนโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

นับเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่ถูกพูดถึงบนโลกโซเชียลอีกครั้ง เมื่อล่าสุด ‘พิมรี่พาย’ ได้เผยคลิปใหม่ที่ลงไปช่วยเหลือชุมชนหนึ่งในภาคอีสาน ซึ่งแห้งแล้งมาก

‘พิมรี่พาย’ แม่ค้าออนไลน์ชื่อดังยังเดินหน้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนในภาคต่าง ๆ ของประเทศไทย โดยล่าสุดเธอได้ลงพื้นที่ภาคอีสานพร้อมทีมงานในเขตชุมชนที่แห้งแล้ง เพื่อไปลงทุนขุดเจาะบาดาล สร้างแหล่งน้ำให้แก่ชุมชน

ทั้งนี้ พิมรี่พาย ได้เข้าไปพูดคุยกับอาจารย์วิชาเกษตรในพื้นที่ ถึงปัญหาของชุมชนแห่งนี้เอาไว้ โดยอาจารย์ท่านดังกล่าว เผยว่า อยากพัฒนาที่ อยากสร้างแหล่งน้ำให้คนในหมู่บ้านได้มาเรียนรู้ทำการเกษตร เนื่องจากใน 1 ปี ชุมชนนี้ จะแล้งประมาณ 6 - 8 เดือน พอหลังจากฤดูเก็บเกี่ยวทำนาแล้วที่นี่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ทำให้ลูกหลานคนในหมู่บ้านต่า ดิ้นรนไปทำงานรับจ้างที่อื่น ไป ๆ มา ๆ หมู่บ้านนี้ก็จะเหลือแต่คนแก่ คนชราที่เฝ้าหมู่บ้านอยู่

สำหรับภารกิจหนนี้ พิมรี่พาย ได้หาทีมมาขุดเจาะน้ำบาดาล และสร้างถังเก็บน้ำ รวมถึงระบบโซลาร์เซลล์เพื่อให้ชาวบ้านมีน้ำกินใช้ ซึ่งทันทีที่ขุดเจาะน้ำบาดาลสำเร็จชาวบ้านต่างปรบมือดีใจจนน้ำตาแห่งความสุขไหลออกมา พร้อมโผเข้ากอดพิมรี่พาย ที่ได้ช่วยให้ชาวบ้านที่นี่มีน้ำกินน้ำใช้และชุ่มฉ่ำกันอีกครั้ง ซึ่งเป็นอีกภารกิจหลังจากก่อนหน้านี้ได้ไปติดตั้งไฟให้สว่างในเขตคลองเตย

ที่มา : http://https://www.komchadluek.net/news/ent/462580
https://www.youtube.com/watch?v=JtdyuOZZhzA&t=2s


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

ร้านไวน์ Wine Connection Thailand แจงเหตุพนักงานร้านกร่าง ดึงหน้ากาก - ชี้หน้าใส่คนมาสมัครงาน ล่าสุดให้พ้นสภาพแล้ว

ร้านไวน์ดัง แจงเหตุพนักงานเกรี้ยวกราดใส่คนสมัครงาน ลั่นให้พ้นสภาพ จากกรณี สาวคนหนึ่ง ไปสมัครงานร้านอาหาร แต่ถูกปฏิบัติอย่างหยาบคาย ด้วยการกระชากหน้ากากอนามัยทิ้งกับพื้น และไล่ออกจากร้าน ทำให้ผู้สมัครงานรายดังกล่าว เกิดความโกรธอย่างหนัก และนำโทรศัพท์มือถือ มาถ่ายคลิป เข้าไปถามหาความถูกต้องในการกระทำดังกล่าว เพราะเธอมาสมัครงาน ยังไม่ได้เป็นพนักงาน ที่จะมาทำแบบนี้กับเธอได้ จนผู้จัดการร้านต้องเข้ามาห้าม ซึ่งพบว่า คนที่กระชากหน้ากากก็ได้ตามออกมาและหวิดจะมีเรื่องกันอีกครั้งนั้น

ล่าสุด เพจ Wine Connection Thailand ได้ชี้แจงประเด็นดังกล่าวว่า…

“ขณะนี้ ทางบริษัทไวน์คอนเน็คชั่น ได้ทราบถึงเหตุการณ์และการการะทำของพนักงานแล้ว ซึ่งพนักงานคนดังกล่าวเพิ่งได้ปฏิบัติงานกับบริษัท และได้กระทำการที่ไม่เหมาะสม เป็นสิ่งที่ทาง บริษัทยอมรับไม่ได้อย่างยิ่ง ทางไวน์คอนเน็คชั่น ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งพฤติกรรมของพนักงานคนนี้ ไม่ได้เป็นตัวอย่างขององค์กร หรือมาตรฐานการให้บริการที่เรายึดถือตลอดมา พนักงานคนดังกล่าวได้พ้นสภาพการจ้างงานเรียบร้อยแล้ว”

ที่มา: https://www.facebook.com/218489526722/posts/10157926096421723/

https://www.youtube.com/watch?v=ZeqwzA3jybI


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

"รมว.ท่องเที่ยวฯ" ร่วมงานเปิดอาคารศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา และศูนย์ฝึกกีฬาบอคเซียแห่งชาติ ณ สนามกีฬาหัวหมาก กกท.

วันที่​ 31​ มีนาคม​ 2564​ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการ กกท. เป็นประธานเปิดอาคารศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา​ นางสาว​ดารณี​ ลิขิต​ว​ร​ศักดิ์​ รอง​ปลัด​กระทรวง​การ​ท่องเที่ยว​และ​กีฬา​ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท.​ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล คณะกรรมการโอลิมปิกสากล คณะกรรมการ กกท.​ ผู้บริหาร กกท. ผู้บริหารสมาคมกีฬา ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา จากมหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษา คณะนักกีฬาทีมชาติไทย และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงาน ณ อาคารศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย 

ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา ก่อตั้งโดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือ พัฒนานักกีฬาไทยให้มีการฝึกซ้อม และแข่งขันกีฬาอย่างมีประสิทธิภาพ ตามหลักวิทยาศาสตร์การกีฬา นอกจากนี้ยังส่งเสริมสุขภาพ สมรรถภาพของนักกีฬา และการส่งเสริมสุขภาพพลานามัยของประชาชนอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันศูนย์วิทย์ฯ ได้มีการปรับปรุงอาคารทั้งภายในและภายนอก พร้อมทั้งจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์วิทยาศาสตร์การกีฬาให้มีความทันสมัย เพื่อยกระดับการบริการด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาของประเทศ และรองรับการเก็บตัวฝึกซ้อมของนักกีฬาเพื่อเตรียมตัวเข้าร่วมแข่งขันในรายการต่าง ๆ ทั้งในระดับชาติและนานาชาติ 

โดยภายในศูนย์ฯ มีห้องสำหรับพัฒนาศักยภาพของนักกีฬา ประกอบด้วย

1.) ห้องฝึกสมรรถภาพทางกาย

2.) ห้องปฏิบัติการสรีระวิทยา

3.) ห้องฟื้นฟูสมรรถภาพ

4.) ห้องฝึกปรับภาวะแวดล้อมอากาศบนที่สูง

5.) ห้องปฏิบัติการชีวกลศาสตร์

6.) ห้องปฏิบัติการจิตวิทยาการกีฬา

7.) คลินิกโภชนาการกีฬา

8.) ห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีกีฬา นอกจากยังมีศูนย์บริการทางการแพทย์กีฬาอีกด้วย ซึ่งขณะนี้ศูนย์วิทย์ฯ พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว

สามารถติดตามข่าวสารข้อมูลเพิ่มเติมของศูนย์วิทยาศาตร์การกีฬาได้ที่ https://www.facebook.com/SportsScienceSAT 

จากนั้น พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดอาคารศูนย์ฝึกกีฬาบอคเซียแห่งชาติ ภายในสนามกีฬาหัวหมาก กกท. โดยการก่อตั้งศูนย์ฝึกกีฬาบอคเซียแห่งชาติ เพื่อการพัฒนากีฬาคนพิการในประเทศไทยไปสู่ความเป็นเลิศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬาสำหรับผู้พิการ ทางสมอง ให้มีความก้าวหน้าทัดเทียมนานาประเทศ ด้วยอุปกรณ์สำหรับการฝึกซ้อมและแข่งขัน ที่มีความทันสมัย ได้มาตรฐานสากล ตลอดจนที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักกีฬาคนพิการ โดยมีเป้าหมายสูงสุด คือประสบความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์

ทบ. แจ้งเคลื่อนอาวุธยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะ ใน 1-9 เมษายน 2564 เพื่อทำการฝึก

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพบก โดย กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล 1 รอ.) แจ้งเคลื่อนย้ายกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะ ของกองพันทหารสื่อสารที่ 1 เพื่อทำการฝึกและตรวจสอบการฝึกเป็นหน่วยประจำปี 2564 ที่พื้นที่ฝึกฯ บ.หลุมหิน อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ในวันที่ 1 เมษายน 2564 เวลา 06.00 น.

เคลื่อนย้ายทางรถยนต์จาก กองพันทหารสื่อสารที่ 1 – ถ.นางลิ้นจี่ – ซ.สวนพลู – ถ.สาทรใต้ – ถ.ตากสินเพชรเกษมวงแหวนรอบนอก – ถ.ปิ่นเกล้านครชัยศรี (ทางหลวงหมายเลขที่ 323, 324) ปลายทาง พื้นที่ฝึกฯ จ.กาญจนบุรี และเคลื่อนย้ายกลับ กองพันทหารสื่อสารที่ 1 ตามเส้นทางเดิม ในวันที่ 9 เม.ย. 64 เวลา 13.00 น. จึงขอแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบ และขออภัยในความไม่สะดวก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top