Friday, 9 May 2025
NEWS

กทก. ยัน! จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยเพิ่มขึ้นไม่หวั่นโควิด คาดยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังไทยจิ้มเข็มวัคซีนและผ่อนปรนต่างชาติฉีดวัคซีนเข้าไทยได้ไม่ต้องกักตัว

กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ได้สรุปจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยในเดือนมกราคม พ.ศ. 2564 เริ่มกลับมามีจำนวนเพิ่มขึ้น แม้ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระรอกใหม่เกิดขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธันวาคม พ.ศ. 2563 ต่อเนื่องมาจนถึงเดือนมกราคม พ.ศ. 2564 โดยจากการรวบรวมตัวเลขทั้งนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาผ่านวีซ่าประเภทพิเศษ (เอสทีวี) นักท่องเที่ยวกลุ่มสมาชิกไทยแลนด์อีลิทการ์ด และกลุ่มนักธุรกิจ เดินทางเข้าประเทศไทยแล้วจำนวน 7,694 คน ส่วนจำนวนรายได้ ล่าสุดยังอยู่ระหว่างการรวบรวม

ทั้งนี้ประเมินว่า ในช่วงต่อจากนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติในกลุ่มที่ได้รับการผ่อนปรนให้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ เดินทางเข้ามาต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ประเทศไทยได้มีการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อยในช่วงตังแต่เดือนมี.ค.นี้เป็นต้นไป รวมไปถึงแนวโน้มการผ่อนปรนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีน และมีใบรับรองอย่างถูกต้อง สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยที่ไม่ต้องกักตัว ตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กาลโหม ซึ่งได้ออกมาประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้

สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยในเดือนนี้ ภาพรวมมีทั้งหมด 7,694 คน ลดลง 99.80% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยรวม 3.81 ล้านคน ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของการระบาดของไวรัสโควิด-19 จากประเทศจีน ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวที่ติดลบเกือบ 100% นี้ เป็นผลมาจากการระบาดที่ยังไม่สิ้นสุด แต่ก็เป็นที่น่าสนใจว่าจำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนนี้ มีจำนวนตัวเลขการเดินทางเข้ามามากกว่าหลาย ๆ เดือนในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโควิด และรัฐบาลได้ผ่อนปรนให้เดินทางเข้ามาได้แล้ว โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับในช่วงไตรมาสที่ 3 - 4 ของปี 63

จุรินทร์ นำทีมเอง! ยกทัพประชาธิปัตย์ลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งซ่อมเมืองคอน 27 - 28 ก.พ. พร้อมเตรียมปราศรัยใหญ่ 4 - 5 มี.ค. นี้!

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำทีมกรรมการบริหารพรรค ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 3 โดยทัพใหญ่หาเสียงในช่วงวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ 2564 โดยมีนายนิพนธ์ บุญญามณี คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช นายถาวร เสนเนียม ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ นายจุติ ไกรฤกษ์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายสาธิต ปิตุเตชะ นายอลงกรณ์ พลบุตร นายนราพัฒน์ แก้วทอง นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ นายประกอบ รัตนพันธุ์ นส. พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีแกนนำและสมาชิกพรรคอีกจำนวนมากที่จะร่วมกันลงพื้นที่ลุยหาเสียงช่วยพรรคประชาธิปัตย์ที่มี "นายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์" เป็นผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 3

อย่างไรก็ตาม นายจุรินทร์ยังมีกำหนดการ ร่วมการปราศรัยใหญ่ของพรรคในวันที่ 4 มีนาคม 2564 ที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และอำเภอพระพรหม และในวันที่ 5 มีนาคม ที่อำเภอชะอวดและอำเภอจุฬาภรณ์อีกด้วย

สำหรับวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564 นายจุรินทร์ มีกำหนดการคือ 14.00 น. พบปะพี่น้องประชาชน บริเวณตลาดเทศบาลชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช 5.30 น. พบปะพี่น้องประชาชน วิสาหกิจกลุ่มมังคุดคุณภาพชะอวดพัฒนา ณ หมู่ 10 ตําบลเกาะขันธ์ อําเภอชะอวด จังหวัด นครศรีธรรมราช 16.15 น. พบปะพี่น้องประชาชน วิสาหกิจชุมชนกลุ่มมังคุดชะอวดพูนผล ณ หมู่ 4 ตําบลเกาะขันธ์ อําเภอชะอวด จังหวัด นครศรีธรรมราช และ 17.05 น. พบปะพี่น้องประชาชน บริเวณตลาดนัดไม้เสียบ อําเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช

และพรุ่งนี้ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 มีกำหนดการ 7.00 น. พบปะพี่น้องประชาชน บริเวณตลาดกอบัว อําเภอพระพรหม จังหวัด นครศรีธรรมราช 9.30 น. พบปะพี่น้องประชาชน กลุ่มเกษตรกรรายย่อย ตําบลนาสาร อําเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช 13.30 น. พบปะพี่น้องประชาชน ตําบลเคร็ง/ตําบลขอนหาด/ตําบลนางหลง อําเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช 15.30 น. พบปะพี่น้องประชาชนบริเวณตลาดนัดควนหนองหงส์ อําเภอชะอวด จังหวัด นครศรีธรรมราช เป็นต้น

บิ๊กตู่เลื่อนปักเข็มวัคซีนโควิดจากเดิม 28 กุมภาพันธ์

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า หลังมีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมณตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เลื่อนการเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่สถาบันบำราศนราดูร จากเดิมวันที่ 28 ก.พ.นี้ ออกไปอย่างไม่มีกำหนดนั้น

ล่าสุดสำนักโฆษกสำนักนายกฯรัฐมนตรี ได้แจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่มีกำหนดการจะไปฉีดวัคซีน ที่สถาบันบําราศนราดูร โดยนางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) เปิดเผยว่า เรื่องการฉีดวัคซีนของนายกรัฐมนตรี ที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการฉีดวันอาทิตย์ ที่ 28 ก.พ. นั้น ยืนยันยังไม่มีกำหนดการไปฉีดวัคซีนดังกล่าว กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมควบคุมโรค เป็นผู้แจ้งขอเลื่อน มายังทำเนียบรัฐบาล ส่วนรายละเอียดนั้นทางกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้ชี้แจงเอง

รายงานจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า สาเหตุในการเลื่อนการฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด-19 ของนายกรัฐมนตรีนั้น เกิดจากปัญหาติดขัดในเรื่องของธุรการที่เป็นส่วนของเอกสาร เนื่องจากแอสตร้าเซเนก้าล็อตแรกมาจากประเทศเกาหลี แม้จะผ่านการรับรองจากประเทศต้นสังกัดแล้วก็ตาม แต่เป็นการรับรองให้ทางเกาหลีเท่านั้น การที่ประเทศไทย ตัดยอดนำเข้ามานั้นจึงยัง ไม่มีเอกสารรับรองเป็นทางการจึงอยู่ระหว่างขั้นตอนทางธุรการดำเนินการ ทำให้จำเป็นต้องเลื่อนการฉีดวัคซีนล็อตดังกล่าวออกไปก่อน

ส่งผลให้พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมีอายุเกิน 60 ปี ต้องเลื่อนฉีดวัคซีนเข็มปฐมฤกษ์ออกไป ส่วนวัคซีนซิโนแวคที่นำเข้าจากจีนนั้น ผ่านการรับรองเป็นที่เรียบร้อยแล้วสามารถดำเนินการฉีดตามกำหนดได้ แต่หากขั้นตอนทางธุรการด้านเอกสารของแอสตร้าเซเนก้า ผ่านขั้นตอนได้ทัน และผ่านขั้นตอนของวิทยาศาสตร์การแพทย์ของไทยแล้ว ก็คาดว่าจะสามารถฉีดได้ทันตามที่ประกาศไว้

'กรณ์' ขอโอกาสชาวเมืองคอนหวังหยุดวงจรการเมืองเก่า

ช่วงเย็นวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อมคณะ ร่วมงานวันมาฆบูชา แห่ผ้าขึ้นธาตุ ประจำปี 2564 ที่ลานพระบรมธาตุเจดีย์ วัดมหาธาตุวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นงานประจำปีของจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากเข้าร่วมพิธี พี่น้องประชาชนก็เข้ามาทักทาย

โดยนายกรณ์ กล่าวกับประชาชนว่า วันนี้เป็นวันดี เป็นวังมงคล พรรคกล้าจึงได้ร่วมพิธีแห่ผ้าขึ้นธาตุ ร่วมกับพี่น้องประชาชน เพื่อความเป็นสิริมงคลในการทำกิจกรรมทางการเมือง เป็นบรรยากาศที่ดี และเป็นจุดเริ่มต้นของโค้งสุดท้ายในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งซ่อมเขต 3 นครศรีธรรมราช ซึ่งผู้สมัครของพรรคกล้าคือ เบอร์ 1 นายสราวุฒิ สุวรรณรัตน์ ก็ได้ลงพื้นที่พบปะกับพี่น้องประชาชนต่อเนื่องตลอดหลายเดือน

พรรคกล้าต้องการและตั้งใจจะทำให้การเมืองนครศรีธรรมราชมีความความสร้างสรรค์และพัฒนา เห็นของดีเมืองนครฯ เยอะมาก แต่สิ่งที่ขาดไปช่วงที่ผ่านมาคือความสนใจและการบริหารจัดการ เพราะฉะนั้นนี่คือภารกิจพรรคกล้า และรู้ดีว่าทำไมต้องเลือกตั้งซ่อม ดังนั้นจึงอยากให้ช่วยกันทำงานการเมืองให้ดีขึ้น สร้างสรรค์ขึ้น เป็นประโยชน์ของพี่น้องประชาชนมากขึ้นด้วยการ กาเบอร์ 1 เพื่อให้คนทั้งพรรคมาช่วยชาวนครศรีธรรมราชทำงาน

“เราเดินหาเสียงกันมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เพราะความท้าทายของเราคือเป็นพรรคใหม่ แต่วันนี้เสียงตอบรับดีมาก กระแสดีกว่าที่เราคาดหวังไว้มาก ต้องบอกว่าเราหวังผลแน่นอนในวันเลือกตั้ง 7 มีนาคมนี้ “ หัวหน้าพรรคกล้า กล่าว

นายกรณ์ ยังกล่าวถึงแกนนำ กปปส. ที่ถูกดำเนินคดีว่า ก็อยากให้กำลังใจทุกๆ ท่าน และเชื่อว่าหลายคนก็สะเทือนใจที่ต้องเห็นผู้ที่ออกมาต่อสู้ต้องโทษ แต่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ออกมาบอกว่าจะเคารพหลักนิติรัฐ และผลของคำพิพากษา พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งตรงนี้ถือเป็นจุดยืนที่ดี ที่จะทำให้สังคมเดินไปข้างหน้าได้ ก็ขอเป็นกำลังใจ

ส่วนสิ่งที่ไม่อยากเห็นเลยคือผลลัพธ์ภายหลังจากที่ รัฐมนตรีพ้นตำแหน่งไป คือการแก่งแย่งตำแหน่งทางการเมือง มันสะท้อนถึงการเมืองเก่า แต่สิ่งที่อยากเห็นคือความคิดที่จะทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ อยากเห็นนายกฯ ใช้โอกาสนี้เลือกคนที่เหมาะสม เข้ามาในตำแหน่งสำคัญ มากกว่าการล็อบบี้กันในกลุ่มเลือกตั้งตามที่เห็นกันในข่าว

“และนี่คือเหตุผลที่ทำให้พรรคกล้ารวมตัวขึ้นมา ด้วยเจตนารมณ์ที่อยากเห็นการเมืองพัฒนา เรามองว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่มีการเลือกตั้งที่เมืองคอน เขต 3 เป็น โอกาสพี่น้องประชาชนที่จะส่งสัญญาณชัด ๆ ไปเลยว่าเราต้องการ โอกาสที่จะมีการเปลี่ยนแปลงและเริ่มที่นี่ “อย่าลืมนะครับ 7 มีนา กาเบอร์ 1 สราวุฒิ สุวรรณรัตน์ เลือกคนเดียว ได้พรรคกล้าไปทำงานทั้งพรรค” หัวหน้าพรรคกล้า ย้ำในตอนท้าย

Milk Tea Alliance พันธมิตรชานมแห่งเอเชีย ประกาศนัดรวมพลชาวเน็ตทั่วเอเชีย แสดงจุดยืนต่อต้านเผด็จการทหารในพม่าผ่านทางทวิตเตอร์พร้อมกันในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ ตั้งแต่เวลา 15.00 น.เป็นต้นไป

และจะเป็นการเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์ครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ในการแสดงพลังของเยาวชนชาวโซเชียลอย่างพร้อมเพรียงกันทั้งที่ไต้หวัน ฮ่องกง ไทย พม่า และอีกหลายประเทศในย่านอาเซียน โดยมีอุดมการณ์เสรีนิยมประชาธิปไตย ต่อต้านกลุ่มอำนาจนิยมเป็นแรงขับเคลื่อนร่วมกัน

การประกาศนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรชานม เกิดขึ้นหลังจากที่มีข่าวการมาเยือนไทยของนาย วันนะ หม่อง ลวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัฐบาลทหารพม่า เพื่อประชุมหารืออย่างไม่เป็นทางการร่วมกับ นายดอน ปรมัตถ์วินัย และ นางเร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และยังมีคิวเข้าพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อีกด้วย

แม้จุดประสงค์ของการมาเยือนนั้นเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในพม่า และหาทางออกอย่างสันติวิธี แต่การเป็นเจ้าภาพในการจัดงานประชุมของไทยครั้งนี้ ได้รับกระแสวิจารณ์ในแง่ลบค่อนข้างมาก ในประเด็นที่รัฐบาลไทยเป็นผู้เชิญทางฝ่ายรัฐบาลพม่า ทำให้ถูกโยงว่ารัฐบาลไทยได้รับรองรัฐบาลทหารพม่าที่เพิ่งผ่านการทำรัฐประหารมา รวมถึงที่มาของ พลเอก ประยุทธ์ ที่เคยเป็นหัวหน้าคณะ คสช. ที่เคยทำรัฐประหารมาก่อน

จึงกลายเป็นที่มาของการนัดระดมพลในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ ผ่านทาง Twitter ของกลุ่มพันธมิตรชานม ให้ออกมาเคลื่อนไหวทางโลกโซเชียล เพื่อสนับสนุนกลุ่มผู้ชุมนุมในพม่า หลังจากที่มีการพบปะกันอย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายรัฐบาลทหารพม่าและผู้นำไทย เพื่อกดดันกลุ่มผู้นำประเทศอาเซียนให้เคารพผลการเลือกตั้งของชาวพม่า

และตั้งใจให้เป็นการแสดงพลังคู่ขนานไปกับการนัดชุมนุมของในประเทศไทย และพม่าในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งทางเพจพันธมิตรชานมได้ส่งข้อความถึงกลุ่มนักเคลื่อนไหวในไทยทั้ง กลุ่มเยาวชนปลดแอก กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กลุ่มนักเรียนเลว กลุ่มพันธมิตรชานมแห่งประเทศไทย รวมถึงกลุ่มพันธมิตรในมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง ไต้หวัน อินเดีย และล่าสุด พม่า ภายใต้สโลแกน "Make Milk Tea and End Dictatorship 28.2.2021"

จุดเริ่มต้นของพันธมิตรชานม เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2653 จากกระแสดราม่าในโลกอินเตอร์เนตของชาวจีน เกี่ยวกับรูปภาพของนักแสดงหนุ่มชาวไทย ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี ที่ได้รีทวิตภาพถ่ายอาคาร 4 แห่งของช่างภาพคนหนึ่งและได้ระบุว่าหนึ่งในนั้นถ่ายที่ประเทศฮ่องกง สร้างความไม่พอใจอย่างมากในกลุ่มแฟนคลับชาวจีนที่อ้างฮ่องกงเป็นประเทศเอกราช ซึ่งนักแสดงหนุ่มก็ได้ขอโทษที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์และลบทวิตไป

แต่เรื่องไม่จบง่ายๆ เมื่อชาวเน็ตจีนยังตามขุดต่อ และได้พบทวิตเตอร์ของ นิว วีรญา สุขอร่าม แฟนสาวของหนุ่มไบร์ท ที่ใช้ชื่อใน IG และ Twitter ว่า nnevvy เคยรีทวิตข่าวที่กล่าวหาว่าไวรัส Covid-19 ถูกปล่อยจากแล็บในอู่ฮั่น เลยยิ่งทำให้กระแสลุกลามใหญ่โตในจีน ถึงขั้นติด #nnevvy และจะแบนผลงานของหนุ่มไบร์ท

จึงเกิดเป็นสงครามระหว่างชาวเน็ตไทย และ จีนอย่างดุเดือด จนดึงให้ชาวเน็ตในฮ่องกง และไต้หวันออกมาร่วมรบกันในสงครามคีย์บอร์ดจนชาวเน็ตจีนต้องล่าถอย และกลายเป็นที่มาของ Milk Tea Alliance พันธมิตรชานมขึ้นเป็นครั้งแรก เนื่องจากทั้ง 3 ชาติมีเอกลักษณ์ และความชอบในการดื่มชานมคล้ายๆ​ กัน

ถึงแม้จะดูเหมือนเป็นการรวมกลุ่มกันแบบเฉพาะกิจ​ แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดึงให้แกนนำตัวหลักในฮ่องกงอย่าง โจชัว หว่อง ได้มารู้จักกับกลุ่มนักเคลื่อนไหวในไทยจากกระแสของพันธมิตรชานม

ต่อมามีการขยายกลุ่มพันธมิตรเพิ่มเติม เมื่ออินเดียและจีนเกิดข้อพิพาทในเขตชายแดนเทือกเขาหิมาลัย ที่นำไปสู่การปะทะกันอย่างรุนแรงจนสูญเสียชีวิตทหารทั้งสองฝ่าย เป็นชนวนเหตุให้เกิดกระแสต่อต้านสินค้าจีนในอินเดีย และกลายเป็นหนึ่งในพันธมิตรชานมร่วมกันในที่สุด

และจากกลุ่มพันธมิตรชานมในโลกเสมือน ก็พัฒนาสู่เวทีจริงในช่วงเดือนตุลาคม 2563 เมื่อเกิดเหตุการณ์ชุมนุมครั้งใหญ่ในประเทศไทย เรียกร้องการปฏิรูปสถาบัน และต่อต้านรัฐบาลของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่ากลยุทธ์ในการชุมนุมในไทย มีรูปแบบโมเดลคล้ายๆ​ กับการชุมนุมใหญ่ในฮ่องกงที่เคยเกิดขึ้นในปี 2562

เนื่องจากมีการถ่ายทอด "know - how" รูปแบบกลยุทธการจัดชุมนุมแบบใหม่ การใช้แฟลชม็อบ การใช้รหัสลับ การนัดชุมนุมผ่านโซเชียลมีเดียแบบรายวัน การใช้แอปพลิเคชันใหม่ๆ​ ในการสื่อสาร หรือแม้แต่การป้องกันตัวเองหากถูกสลายการชุมนุมด้วยแก๊ซน้ำตา จากกลุ่มแกนนำในฮ่องกงผ่านเครือข่ายพันธมิตรชานม นั่นเอง

และกลุ่มพันธมิตรชานม ก็มีแนวโน้มขยายตัวขึ้นในกลุ่มเยาวชนที่นิยมเล่นโซเชียลในประเทศย่านเอเชีย ที่มักมีปัญหากับจีนไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ เขตพรมแดน การแบ่งปันทรัพยากรธรรมชาติ หรือการเอาเปรียบด้านการค้า

ดังนั้น การรวมกลุ่มกันในโลกโซเชียลของพันธมิตรชานม จึงมีการผสมผสานกันระหว่างแนวร่วมอุดมการณ์เสรีนิยมประชาธิปไตยของคนรุ่นใหม่ กับประเด็นเรื่องชาตินิยม สังคม เศรษฐกิจ และภูมิรัฐศาสตร์อย่างเข้มข้น และพร้อมที่จะแสดงพลังให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมได้หากเกิดกระแสการชุมนุมที่จุดติด

เช่นเดียวกับการลุกฮือต่อต้านคณะรัฐประหารในพม่า ประเทศสมาชิกล่าสุดของพันธมิตรชานม ที่ใช้สัญลักษณ์การชู 3 นิ้วเหมือนกับของไทย และมีการแชร์ข่าวสารข้อมูลของกลุ่มเคลื่อนไหวร่วมกันในโซเชียล

และเป้าหมายของกลุ่มคือการผลักดันในเกิด Spring Revolution เช่นเดียวกับที่เกิดกระแสอาหรับ สปริง ในตะวันออกกลาง เริ่มจากการโค่นล้มรัฐบาลทหารพม่า ที่อาจส่งผลถึงกระแสการต่อต้านรัฐบาลปัจจุบันของไทย และอาจลามต่อไปถึงหลายประเทศในย่านอาเซียนได้

จึงเป็นที่น่าจับตาว่า การนัดแสดงพลังทางออนไลน์ของกลุ่มพันธมิตรชานมอย่างพร้อมเพรียงกันในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ จะสร้างปรากฏการณ์ได้ขนาดไหนในกระแสโลกโซเชียล และการเบ่งบานของกลุ่มพันธมิตรชานมของกลุ่มคนรุ่นใหม่ จะส่งผลต่ออิทธิพลของชาติมหาอำนาจของโลก อย่างสหรัฐอเมริกา และจีนในภูมิภาคย่านเอเชียอย่างไร เป็นสิ่งที่คนทุกรุ่นต้องติดตามกัน


อ้างอิง:

https://www.taiwannews.com.tw/en/news/4137020

https://twitter.com/alliancemilktea/status/1364888390219497474

https://www.theatlantic.com/international/archive/2020/10/milk-tea-alliance-anti-china/616658/

https://en.wikipedia.org/wiki/Milk_Tea_Alliance

ลุงตู่ขอฉีดวัคซีนคนแรก หวังเอาตัวรอดจากโควิดก่อนใคร..จริงอ่ะ? | News​ มีนิสส​ More​ Minutes Contrast

ลุงตู่ขอฉีดวัคซีนคนแรก หวังเอาตัวรอดจากโควิดก่อนใคร..จริงอ่ะ?

.

90

คปภ.ไฟเขียว​ ดันค่ายประกันออกประกันภัยฉีดวัคซีนโควิดแล้วแพ้ ต้องคุ้มครอง

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ นายทะเบียนประกันภัยได้เห็นชอบแบบข้อความและอัตราเบี้ยประกันภัยกรมธรรม์ประกันภัย กรณีได้รับผลกระทบในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทประกันวินาศภัย 6 บริษัท หลังจากวัคซีนป้องกันโควิด-19 ล็อตแรกมาถึงประเทศไทย และจะมีการฉีดวัคซีนดังกล่าวให้กับประชาชน

ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในการฉีดวัคซีน หากเกิดการแพ้วัคซีนขึ้น คปภ. จึงได้ส่งเสริมให้มีการนำระบบประกันภัยเข้าไปช่วยบริหารความเสี่ยงกรณีเกิดการแพ้วัคซีนขึ้น

สำหรับรายละเอียดความคุ้มครองของประกันภัยแพ้วัคซีนป้องกันโควิด 5 แบบ มีดังนี้

แบบที่ 1 คุ้มครองกรณีผู้เอาประกันภัยได้รับการฉีดวัคซีนและเกิดอาการแพ้ เช่น โคม่า สมองตายและระบบประสาทล้มเหลว

แบบที่ 2 เกิดอาการแพ้ จนต้องคุ้มครองการรักษาพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน

แบบที่ 3 ให้เงินชดเชยปลอบขวัญสำหรับผู้ป่วยใน หากฉีดแล้วเกิดอาการแพ้

ส่วนแบบที่ 4 ผลประโยชน์เงินชดเชยรายวันจากการเป็นผู้ป่วยใน หากแพทย์วินิจฉัยว่ามีอาการแพ้หรือผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19

และแบบที่ 5 ผลประโยชน์การแพ้วัคซีนโควิด-19 หากได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์เป็นครั้งแรกว่าแพ้วัคซีนโควิด-19 บริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าทดแทนให้ทันที

นายสุทธิพล กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 ได้ส่งเสริมให้บริษัทประกันภัยพัฒนากรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 และพัฒนาช่องทางการจำหน่ายที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ประชาชนได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสมกับความเสี่ยงต่างๆ และประชาชนให้ความสนใจซื้อกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 โดยมียอดซื้อทะลุกว่า 10 ล้านฉบับ และมียอดจ่ายสินไหมทดแทนแล้วกว่า 131 ล้านบาท

เพิ่มอัตราค่าจ้าง 3 กลุ่มแรงงาน สูงสุด 630 บาทต่อวัน

ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง เพิ่มอัตราค่าจ้าง 3 กลุ่มแรงงาน สูงสุด 630 บาทต่อวัน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี ได้ให้ข้อมูลว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีการเห็นชอบเพิ่มอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ 3 กลุ่มสาขาอาชีพ รวม 13 สาขา ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ เพื่อให้ลูกจ้างที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติในแต่ละสาขาอาชีพ และแต่ละระดับได้รับค่าจ้างที่เหมาะสมเป็นธรรม สอดคล้องกับทักษะฝีมือความรู้ความสามารถของตน แต่ทั้งนี้ประกาศอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ จะมีผลบังคับใช้ 90 วันหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา

โดยอัตราค่าจ้างแต่ละสาขาอาชีพ มีรายละเอียดดังนี้

1. กลุ่มช่างอุตสาหกรรม ค่าจ้างตั้งแต่ 460 – 630 บาทต่อวัน ได้แก่

1.1 ช่างกลึง

1.2 ช่างควบคุมเครื่องกลึง CNC

1.3 ช่างควบคุมเครื่อง Wire Cut

1.4 ช่างเชื่อมอาร์กโลหะด้วยมือ

2. กลุ่มช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ ค่าจ้างต่อวันตั้งแต่ 440 - 540 บาทต่อวัน ได้แก่

2.1 ช่างไฟฟ้าภายนอกอาคาร

2.2 ช่างโทรคมนาคม (ไมโครเวฟและการสื่อสารดาวเทียม)

2.3 ช่างควบคุมด้วยระบบโปรแกรมเมเบิ้ลลอจิกคอนโทรลเลอร์ (Programmable Logic Controller: PLC)

2.4 ช่างไฟฟ้าสำหรับอุตสาหกรรมการจัดประชุม การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล และการแสดงสินค้า (MICE : Meeting Incentives Conventions Exhibitions)

2.5 ช่างติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์

3. กลุ่มช่างเครื่องกล ค่าจ้างตั้งแต่ 415 – 430 บาทต่อวัน ได้แก่

3.1 พนักงานควบคุมเครื่องจักรรถยกไฟฟ้า

3.2 พนักงานควบคุมเครื่องจักรรถยกใช้เครื่องยนต์

3.3 ช่างตั้งศูนย์และถ่วงล้อรถยนต์

3.4 ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์

และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจาก กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.prd.go.th หรือโทร. 02 6182323

(หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี)​


ที่มา: https://www.antifakenewscenter.com/%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87-3-%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94-630-%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99-%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD/

ทนายยื่นอุทธรณ์ขอประกันตัว 4 แกนนำราษฎรอีกครั้ง หลัง 8 กปปส. ได้ประกันตัวพ้นคุก

วันนี้ (26 ก.พ. 2564)​ ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในฐานะทีมทนายความแกนนำกลุ่มราษฎร เดินทางมายื่นอุทธรณ์ขอประกันตัว นายอานนท์ นำภา, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และนายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม 4 แกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร ที่ถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไม่ได้รับการประกันตัว หลังถูกยื่นฟ้องคดีชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ในความผิดตาม ป.อาญา ม.112 ม.116 และข้อหาอื่น

นายนรเศรษฐ์ กล่าวว่า การเดินทางมาในวันนี้ เพื่อต้องการยื่นอุทธรณ์ขอประกันตัวจำเลยทั้ง 4 คนอีกครั้ง หลังจากที่อดีตอธิบดีการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอดีตคณบดี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยื่นขอปล่อยชั่วคราวไปเมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา แต่ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว

การยื่นอุทธรณ์ครั้งนี้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งตามปกติแล้วการไม่ให้ประกันตัวจำเลยมี 4 ข้อ คือ

1.) จำเลยมีพฤติการณ์หลบหนี แต่ในกรณีนี้ 4 แกนนำ ไม่มีพฤติการณ์ดังกล่าว ทั้ง 4 คน มีที่อยู่ที่เป็นหลักแหล่ง มีอาชีพชัดเจน

2.) หลักประกันไม่น่าเชื่อถือ แต่ในกรณีนี้ได้ยื่นหลักทรัพย์คนละ 4 แสนบาท โดยมีบุคคลเป็นถึงระดับอดีตอธิการบดี และอดีตคณบดีมหาวิทยาลัยชั้นนำ อย่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมยื่นประกันตัว ซึ่งเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง มีอาชีพดีและมีเกียรติ ประวัติไม่เคยด่างพร้อย ทำหน้าที่ค้ำประกัน ยืนยันได้ว่า ทั้ง 4 คน มีหลักทรัพย์น่าเชื่อถือ และไม่หลบหนีคดี

3.) การไม่ให้ประกันเนื่องจากจำเลยจะเข้าไปยุ่งกับพยานหลักฐาน แต่คดีนี้หลักฐานหรือสำนวนอยู่ที่พนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นพนักงานตำรวจ จำเลยทั้ง 4 ไม่มีโอกาวเข้าไปยุ่งเกี่ยวอยู่แล้ว

และ 4.) คดีนี้ศาลยังไม่พิพากษาถึงที่สุด จำเลยทั้ง 4 คนควรได้โอกาส ได้อิสรภาพ ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว

สำหรับกรณีที่ศาลอุทธรณ์อนุญาตประกันตัว 8 อดีตแกนนำ กปปส. นั้น นายนรเศรษฐ์ มองว่า เป็นบรรทัดฐานที่ดีให้กับคดีการเมืองอื่นๆ พึงได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว แต่เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับกลุ่มแกนนำราษฎร คดีนี้ศาลชั้นต้นยังไม่ได้พิพากษาว่ามีความผิด จึงทำให้ตนและจำเลยทั้ง 4 คนมีความหวังว่าศาลอุทธรณ์จะให้ความเป็นธรรม อนุญาตให้ประกันตัวจำเลยได้

สถานการณ์โควิด - 19 ประเทศไทยและอาเซียน ประจำวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2564

สถานการณ์โควิด - 19 ประเทศไทยและอาเซียน

ประจำวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2564

สีจิ้นผิง ยกย่องความสำเร็จของประเทศที่สามารถขจัดความยากจนขั้นสูงสุดเป็นปาฏิหาริย์ที่จะ “ถูกจารึกในประวัติศาสตร์”

ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) และประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง (CMC) เข้าร่วมการประชุมใหญ่ในกรุงปักกิ่ง ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเชิดชูความสำเร็จด้านการบรรเทาความยากจนและมอบรางวัลต้นแบบการต่อสู้กับความยากจนของประเทศ

สีจิ้นผิงประกาศ “ชัยชนะโดยสมบูรณ์” ในการต่อสู้กับความยากจน ซึ่งเกิดจากความพยายามร่วมกันของทุกกลุ่มชาติพันธุ์ พร้อมเน้นย้ำว่าการขจัดความยากจนในชนบทเป็นส่วนสำคัญของการบรรลุเป้าหมายสร้างสังคมมั่งคั่งระดับปานกลางในทุกด้าน โดยจีนได้สร้าง “ตัวอย่างฉบับจีน” ในการลดความยากจน และสร้างคุณูปการยิ่งใหญ่ในการบรรเทาความยากจนระดับโลก

อนึ่ง ช่วง 8 ปีที่ผ่านมา จีนได้ช่วยเหลือชาวชนบทที่อยู่ใต้เส้นแบ่งความยากจนหลุดพ้นจากความยากจนถึง 98.99 ล้านคน โดยมีหมู่บ้าน 128,000 แห่ง และอำเภอ 832 แห่ง ถูกปลดออกจากบัญชีพื้นที่ยากไร้

ตั้งแต่ปลายปี 2012 จีนได้สร้างหรือปรับปรุงถนนในชนบทเป็นระยะทางรวม 1.1 ล้านกิโลเมตร จัดหาพลังงานไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพแก่พื้นที่ชนบท และขยายเครือข่ายอินเทอร์เน็ตใยแก้วนำแสงและสัญญาณ 4จี (4G) ให้ครอบคลุมหมู่บ้านยากไร้กว่าร้อยละ 98

ช่วงเวลาเดียวกันนั้น ประชาชนยากจนราว 25.68 ล้านคนจาก 7.9 ล้านครัวเรือน ได้รับการปรับปรุงบ้านที่อยู่อาศัยอันชำรุดทรุดโทรม และประชาชนมากกว่า 9.6 ล้านคน ได้รับการโยกย้ายออกจากพื้นที่ทุรกันดารสู่บ้านหลังใหม่ที่ดีกว่าเดิม ด้าน 28 กลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งมีประชากรค่อนข้างน้อย ยังหลุดพ้นจากความยากจนพร้อมกันด้วย

จีนได้ช่วยเหลือชาวชนบทหลุดพ้นจากความยากจน 770 ล้านคน นับตั้งแต่เริ่มต้นการปฏิรูปและเปิดประเทศเมื่อ 40 ปีก่อน หากคำนวณตามเส้นแบ่งความยากจนในปัจจุบันของจีน และคิดเป็นมากกว่าร้อยละ 70 ของประชากรยากจนทั่วโลก หากอ้างอิงเส้นแบ่งความยากจนสากลของธนาคารโลก

ทั้งนี้ สีจิ้นผิงกล่าวอีกว่า​ จีนได้บรรลุเป้าหมายขจัดความยากจนเร็วกว่าที่กำหนดไว้ใน “วาระการพัฒนาที่ยั่งยืน 2030 แห่งสหประชาชาติ” (United Nations 2030 Agenda for Sustainable Development) ถึง 10 ปี


ที่มา: https://www.newtv.co.th/news/77452

ธนาคารทหารไทย เผยชื่อใหม่หลังควบรวมกับธนาคารธนชาตเสร็จสิ้น เป็น 'ธนาคารทหารไทยธนชาต'​ ชื่อย่อหลักทรัพย์เปลี่ยนเป็น TTB

ธนาคารทหารไทย หรือ TMB ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเห็นสมควรเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการเปลี่ยนชื่อธนาคารและแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ

ทั้งนี้ จะแก้ไขชื่อเป็น ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ TMBThanachart Bank เพื่อให้เป็นไปตามกลยุทธ์ในการปรับเปลี่ยนภาพของแบรนด์ หรือ Rebranding ของธนาคารภายหลังการดำเนินการตามโครงการซื้อหุ้นเพื่อการโอนและรับโอนกิจการทั้งหมดของธนาคารธนชาต มายังธนาคารทหารไทย

นอกจากนี้ ธนาคารมีแผนจะเปลี่ยนแปลงชื่อย่อหลักทรัพย์จาก TMB เป็น TTB ต่อไป โดยการเปลี่ยนแปลงชื่อย่อหลักทรัพย์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นภายหลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติเปลี่ยนชื่อธนาคาร และนายทะเบียนมหาชน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์รับจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ

ขณะเดียวกันที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารได้มีมติเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 454,937,500 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.95 บาท ดังนี้

- จำนวนไม่เกิน 305 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.95 บาท เพื่อรองรับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้บริหาร และพนักงานของธนาคาร และธนาคารธนชาต (TBANK) ภายใต้โครงการ 2021 TMB Stock Retention Program และ

- จำนวนไม่เกิน 149,937,500 หุ้นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.95 บาท เพื่อรองรับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้บริหารและพนักงานของธนาคาร และ TBANK ภายใต้โครงการ 2019 TMB Stock Retention Program ที่ยังคงมีผลอยู่


ที่มา: https://www.thairath.co.th/news/business/stocks-gold/2039937

'หมออนุทิน'​ เผยวัคซีน Sinovac ผ่านการตรวจสอบแล้ว พร้อมลุยให้บริการประชาชน

เฟซบุ๊ก 'อนุทิน ชาญวีรกูล'​ ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการโพสต์ข้อความว่า..

ว้คซีน Sinovac ได้รับการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพ โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เรียบร้อยแล้ว พร้อมจัดส่งให้โรงพยาบาลทุกแห่ง เพื่อฉีดให้ประชาชน ตามแผนบริหารจัดการวัคซีน ของกระทรวงสาธารณสุข

#คนไทยต้องปลอดภัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วัคซีนของ Sinovac ได้รับการตรวจสอบ ในช่วงบ่ายของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นไปตามระบบคุณภาพของการรับวัคซีนตัวอย่าง และดำเนินการทดสอบทางห้องปฏิบัติการทันที

สำหรับผลการทบทวนเอกสารข้อมูลกระบวนการผลิตและการควบคุมคุณภาพของวัคซีนรุ่นการผลิตที่ประเทศไทยได้รับมาจากผู้ผลิตนั้น​ มีความสอดคล้องตามกระบวนการผลิตและการควบคุมคุณภาพที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์​ จึงได้ให้การรับรองรุ่นการผลิตวัคซีน CoronaVac ของซิโนแวครุ่นที่ส่งให้ประเทศไทย เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำวัคซีนไปใช้ได้ตามแผนการให้บริการวัคซีนโควิด-19

รัฐบาลญี่ปุ่นใจถึง !!​ ใครฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วตาย​ จ่าย​ 12​ ล้านบาท​ หวังจูงใจประชาชนให้เลิกกลัว

จากกรณีเมื่อ วันที่ 17 ก.พ.64 ที่ผ่านมา ทางรัฐบาลญี่ปุ่น ได้เริ่มการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้แก่ประชาชน แต่กลับปรากฏว่า มีผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนไม่มากนัก

โดยดูจากผลสำรวจความคิดเห็นของสื่อหลายสำนักในญี่ปุ่น พบข้อมูลว่า ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่กล้าไปเข้ารับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เนื่องจากไม่มั่นใจถึงความปลอดภัย และประสิทธิภาพของวัคซีน

ทางรัฐบาลญี่ปุ่นจึงหาวิธีดึงดูด โดยนาย โนริฮิสะ ทะมุระ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศว่า รัฐบาลจะจ่ายเงินชดเชยจำนวน 44,200,000 เยน หรือ 12,536,372 บาท ให้แก่ครอบครัวหากฉีดวัคซีนต้าน โควิด-19 แล้วเสียชีวิต และจะจ่ายค่าทำศพอีกไม่เกิน 209,000 เยน หรือ 59,275 บาท หลังพบชาวญี่ปุ่นไม่กล้าฉีดวัคซีน เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย

ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วมีอาการเจ็บป่วย หรือได้รับผลข้างเคียงระยะยาว อาทิ พิการ จะได้รับเงินชดเชยปีละ 5 ล้านเยน หรือ 1,417,096 บาท

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นมีนโยบายจ่ายเงินชดเชยผู้ที่ได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนอยู่แล้ว แต่ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ยังไม่ทราบ


ที่มา: https://www.facebook.com/336295587309275/posts/768683140737182/

https://japantoday.com/category/features/health/If-you-die-from-the-COVID-19-vaccine-in-Japan-the-government-will-give-your-family-over-¥44-mil

https://www.independent.co.uk/news/world/asia/japan-covid-vaccine-pay-families-death-b1806799.html

https://www.posttoday.com/world/646333

ดำเนินคดีเณร 3 นิ้ว มหาเถรสมาคมมีมติร่วม ผิดวินัยสงฆ์ หมิ่นสังฆราช

เพจเฟซบุ๊ก สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบ​ 'สามเณรสหรัฐ สุขคำหล้า'​ หรือ 'โฟล์ค'​ นักศึกษาวิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล สมาชิกแนวร่วมราษฎรศาลายา ที่เข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองกับม็อบราษฎรว่า มีพฤติกรรมขัดต่อคำสั่งมหาเถรสมาคม (มส.) ว่า...

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดย กลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ร่วมกับพระครูสถิตปริติวศ์ วัดประดู่ธรรมาธิปัตย์ เจ้าคณะแขวงบางชื่อ พระวินยาธิการ ออกตรวจตราตามที่ได้รับรายงานข่าว และแจ้งเบาะแส กรณีพบเห็นสามเณรมีพฤติกรรมขัดต่อคำสั่งมหาเถรสมาคม

เรื่องห้ามภิกษุสามเณรเที่ยวเตร็ดเตร่ และพักค้างแรมตามบ้านเรือน พ.ศ.2521 , คำสั่งมหาเถรสมาคม เรื่อง ห้ามพระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ.2538, ประกาศคณะสงฆ์ เรื่อง ห้ามพระภิกษุสามเณรพักแรมในสถานที่เป็นที่รังเกียจทางพระวินัย วันที่ 31 มกราคม 2501 และอาจเข้าข่ายขัดต่อประกาศมหาเถรสมาคม เรื่องห้ามภิกษุสามเณรไม่ให้เป็นสมาชิกในสมาคม หรือสโมสรคฤหัสถ์ ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2476

ซึ่งประกาศห้ามภิกษุสามเณรเข้าเป็นสมาชิกในสมาคม หรือสโมสรคฤหัสถ์ เพราะไม่สมควรเกี่ยวข้องในกิจที่ไม่ควรแก่บรรพชิต เป็นการสร้างความเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนา และเป็นที่ติเตียนวิพากษ์วิจารณ์ของพุทธศาสนิกชนถึงความไม่เหมาะสม ภายหลังจากที่เจ้าคณะผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่ ได้ลงพื้นที่ละแวกบ้านพักนักกิจกรรมแนวร่วมราษฎร ย่านเตาปูน ตรวจสอบตามที่ได้รับรายงาน

โดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ประกอบกับข้อมูลที่ได้รับจากสื่อสังคมออนไลน์ พบว่า สามเณรรูปดังกล่าวคือ สามเณรสหรัฐ สุขคำหล้า หรือ โฟล์ค ไม่มีสังกัด ซึ่งเป็นบุคคลตามมติมหาเถรสมาคม ที่ 57/2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2564 เรื่องกรณีสามเณรเข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง โดยเข้าร่วมชุมนุม และปราศรัยกับกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองหลายครั้ง

ทั้งในระหว่างการชุมนุมยังแสดงพฤติกรรมละเมิดองค์แห่งพระวินัยปิฎก กล่าวติพระธรรม กล่าวติพระสงฆ์ มีความเห็นผิด ไม่เหมาะสมในสมณะแห่งพระพุทธศาสนา มีพฤติกรรมที่เข้าข่ายการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอามาตมาดร้ายสมเด็จพระสังฆราช ใส่ความคณะสงฆ์ให้เสื่อมเสีย หรือแตกแยก

มหาเถรสมาคม จึงมีมติให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดำเนินการตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้แจ้งมติมหาเถรสมาคมนี้ ไปยังเจ้าคณะจังหวัดทุกจังหวัด และจังหวัดทุกจังหวัต เพื่อดำเนินการตามแนวทางการลงทัณฑกรรมแก่สามเณร

พร้อมแจ้งขอความร่วมมือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อแจ้งสถานีตำรวจในท้องที่ต่างๆ หากพบเห็นสามเณรดังกล่าว ให้นำเข้าพบเจ้าคณะผู้ปกครองในพื้นที่นั้นๆ เพื่อดำเนินการตามมติมหาเถรสมาคม แล้ว

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์แจ้งข่าว และขอความร่วมมือพุทธศาสนิกชนทุกท่าน หากพบเห็นพระภิกษุสามเณที่มีพฤติกรรมเช่นดังกล่าว หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในความเป็นสมณะ และในลักษณะอื่นที่อาจเข้าข่าย และเป็นภัยต่อพระพุทธศาสนา

โปรดแจ้งข่าว และเบาะแสมาที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โทร.02-441-7992 , 02-441-7936 เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป


ที่มา:

https://www.thaipost.net/main/detail/94250

https://www.facebook.com/www.onab.go.th/posts/2511133115858641


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top