Sunday, 11 May 2025
NEWS

พีค of the week EP.16

ข่าวประเทศไทยเวลานี้ ยังร้อนแรงด้วยสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ยังน่าเป็นห่วง และควรต้องปฏิบัติตัวเรื่องความปลอดภัยกันอย่างเคร่งครัด ดังเช่น ข่าวนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ถอดหน้ากากอนามัยขณะเข้าประชุม งานนี้ก็เลยโดนปรับกันไป 6,000 บาท เป็นตัวอย่างให้ประชาชนต้องปฏิบัติตามกฎกันนะจ๊ะ

อีกหนึ่งข่าวเศร้าระดับประเทศ กับการจากไปของ ‘น้าค่อม’ ดาวตลกคนดัง หลังจากเข้ารับการรักษาตัวจากการติดโรคโควิด-19 มาตั้งแต่ 13 เมษายน แต่อาการกลับทรุดหนักลง และเสียชีวิตเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน ทำเอาบรรยากาศเศร้ากันไปทั้งเมือง

ไล่เรียงข่าวเด่นรอบสัปดาห์มาพอสมควร ตามไปดูกันต่อในพีค of the week EP.16 ที่เราคัดสรรกันมาแบบเต็ม ๆ ได้เลย Let’s go! go! go! 

.

.

นาซาเตือน แม้แต่ระเบิดนิวเคลียร์ ก็ไม่สามารถหยุดดาวเคราะห์น้อยที่จะมุ่งหน้ามายังโลกได้ หลังทดลองจำลองเหตุการณ์ มีเวลา 6 เดือน หาทางปกป้องโลกจากการถูกดาวเคราะห์น้อยพุ่งชน

เดลี่เมลรายงานว่า นักวิทยาศาสตร์องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) ได้ข้อสรุปจากการทดลองจำลองเหตุการณ์เพื่อหาวิธีปกป้องโลกของเรา จากการถูกดาวเคราะห์น้อยขนาดยักษ์พุ่งชนโลกว่า ถึงแม้จะใช้ระเบิดนิวเคลียร์ ก็ไม่สามารถจะหยุดยั้งดาวเคราะห์น้อยที่จะพุ่งชนโลกได้

เมื่อ 4 พ.ค. 64 เดลี่เมลรายงานว่า นักวิทยาศาสตร์องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) ได้ข้อสรุปจากการทดลองจำลองเหตุการณ์เพื่อหาวิธีปกป้องโลกของเรา จากการถูกดาวเคราะห์น้อยขนาดยักษ์พุ่งชนโลกว่า ถึงแม้จะใช้ระเบิดนิวเคลียร์ ก็ไม่สามารถจะหยุดยั้งดาวเคราะห์น้อยที่จะพุ่งชนโลกได้

การจำลองเหตุการณ์ เริ่มจากนักวิทยาศาสตร์นาซาได้รับการแจ้งว่าพวกเขามีเวลา 6 เดือนในการหาทางสกัดไม่ให้ดาวเคราะห์น้อยขนาดยักษ์ซึ่งมีวงโคจรที่จะพุ่งชนโลก หลังจากได้สำรวจพบดาวเคราะห์น้อยกำลังอยู่ในระยะห่างจากโลก 35 ล้านไมล์

จากการศึกษาเพื่อหาทางสกัดดาวเคราะห์น้อย โดยใช้เวลา 4 วัน ระหว่างวันที่ 26-29 เมษายน และนักดาราศาสตร์ได้ใช้ระบบเรดาร์ ข้อมูลภาพและเทคโนโลยีหลายอย่าง รวมทั้งกล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่ จนได้ข้อสรุปว่า ระยะเวลา 6 เดือน ไม่เพียงพอที่จะเตรียมตัวสำหรับการส่งยานอวกาศขึ้นไปพุ่งชนดาวเคราะห์น้อย รวมถึงการใช้ระเบิดนิวเคลียร์ อย่างเช่นที่เห็นในภาพยนตร์เรื่องอาร์มาเกดดอน ก็ไม่อาจหยุดยั้งดาวเคราะห์น้อยที่กำลังมุ่งหน้ามายังโลกได้

สำหรับโครงการจำลองเหตุการณ์ทดสอบการหาทางหยุดยั้งดาวเคราะห์น้อยที่จะชนโลกของนาซานี้ ใช้ชื่อว่า 'Space Mission Options for the Hypothetical Asteroid Impact Scenario'

จำลองเหตุการณ์วันที่ 1 : 19 เมษายน 2021
นักวิทยาศาสตร์โครงการปกป้องโลกของนาซา ที่มหาวิทยาลัยฮาวาย พบดาวเคราะห์น้อย ชื่อ 2021PDC ซึ่งจัดเป็นวัตถุใกล้โลก อยู่ในระยะห่างจากโลก 35 ล้านไมล์ และมีโอกาสที่จะชนโลกเพียงแค่ 5% ในวันที่ 20 ตุลาคม

จำลองเหตุการณ์วันที่ 2 : 2 พฤษภาคม 2021
นักดาราศาสตร์วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการรวบข้อมูลการโคจรของดาวเคราะห์น้อย และความเป็นไปได้ที่อาจจะชนโลก โดยทีมได้ใช้ข้อมูลภาพถ่ายเหตุการณ์ที่ดาวเคราะห์น้อยเคยเข้าใกล้โลก ในปี 2014

ข้อมูลนี้ทำให้นักดาราศาสตร์ลดวงโคจรที่ไม่แน่นอนของดาวเคราะห์น้อย และได้ข้อสรุปการจำลองเหตุการณ์นี้ว่า ดาวเคราะห์น้อยมีความเป็นไปได้ที่จะชนโลก 100% ในบริเวณยุโรป หรือตอนเหนือของทวีปแอฟริกา

จากข้อมูลดังกล่าง ทำให้ทางทีมรีบทำงานเพื่อหาทางป้องกันไม่ให้ดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลก โดยมีการออกแบบให้ส่งยานอวกาศขึ้นไปพุ่งชนดาวเคราะห์น้อย ก่อนที่มันจะชนโลก แต่ได้ข้อสรุปว่า ด้วยระยะเวลาที่ไม่เพียงพอ ทำให้ไม่สามารถที่จะปฏิบัติภารกิจอันเหลือเชื่อนี้ได้ ด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน

ขณะเดียวกันนักวิทยาศาสตร์ยังได้เสนอให้ใช้อาวุธนิวเคลียร์ แต่เชื่อว่าจะมีอุปสรรคหลายอย่าง และจากการจำลองทดสอบเหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า ถ้าใช้อาวุธระเบิดนิวเคลียร์พุ่งชนดาวเคราะห์น้อยที่มีขนาดใหญ่ราว 114 ฟุต จนถึง 800 เมตร จะสามารถทำลายดาวเคราะห์น้อยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น อีกทั้งก็ไม่แน่ชัดว่าระเบิดนิวเคลียร์ขนาดไหนจึงสามารถจะสกัดดาวเคราะห์น้อยได้

จำลองเหตุการณ์วันที่ 3 : 30 มิถุนายน 2021
การทดสอบกระโดดไปถึงเวลาที่โลกจะถูกดาวเคระห์น้อยพุ่งชน โดยนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกได้ใช้กล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่เฝ้าติดตามทุกคืน ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์ได้ปรับแต่งวงโคจรให้แคบลงอย่างมีนัยสำคัญ มีความเป็นไปได้ที่ดาวเคราะห์น้อยจะพุ่งชนโลกแถวเยอรมนี สาธารณรัฐเช็ก ออสเตรีย สโลเวเนีย และโครเอเชีย

จำลองเหตุการณ์วันที่ 4 : 14 ตุลาคม 2021
เหลือเพียงแค่ 6 วัน ดาวเคราะห์น้อยจะชนโลก โดยขณะนี้มันอยู่ห่างจากโลกประมาณ 3.9 ล้านไมล์ และมีระยะใกล้พอที่จะใช้ระบบ Goldstone Solar System Radar ในการวิเคราะห์ดาวเคราะห์น้อย ทั้งขนาดและลักษณะกายภาพ ซึ่งพบว่าดาวเคราะห์น้อยมีขนาดเล็กกว่าที่คาดการณ์กันไว้ก่อนหน้า จึงได้ลดขนาดพื้นที่ที่มีโอกาสจะถูกดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนให้แคบลง เหลือเพียงบริเวณพรมแดนของเยอรมนี สาธารณรัฐเช็ก และออสเตรีย และกำหนดให้ดาวเคราะห์น้อยมีความเป็นไปได้ที่จะพุ่งชนโลกในภูมิภาคแถวนี้ 99%

ลินด์ลีย์ จอห์นสัน เจ้าหน้าที่โครงการ Planetary Defense ของนาซา กล่าวว่า แต่ละครั้งที่ได้ร่วมทดสอบในเหตุการณ์ธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นได้นี้ ทำให้พวกเราได้เรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับว่า ใครจะเป็นตัวหลักในเวลาเกิดหายนะ และใครจำเป็นต้องรู้ข้อมูล เพื่อช่วยในการหาทางปกป้องโลกของเราให้ได้มากที่สุด จากการถูกดาวเคราะห์น้อยพุ่งชน


ที่มา: https://www.thairath.co.th/news/foreign/2084216

สังคมแห่งการเกื้อกูล!! คนไทยไม่ทิ้งกัน!! นายก "มหาชนคนพิการ" ผนึกรายการ "คนละไม้คนละมือ" รับมอบรถวีลแชร์ ส่งต่อ "คนพิการเมืองเลย" สร้างรอยยิ้มและโอกาสแก่ผู้ยากไร้

นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย และตำแหน่ง คณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการด้านแรงงาน

พร้อมด้วย นายชัยพร ภูผารัตน์ ผู้อำนวยการสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี เพื่อเข้าพบ นายสายัณต์ ดีเลิศ นายกสมาคม "ส่งเสริมอาชีพและช่วยเหลือรถเข็นเพื่อคนพิการ" รับมอบรถวีลแชร์​ (มือ 2) ไปส่งให้กับสตรีคนพิการ คุณหล้า บุญวงษ์ ซึ่งมีภูมิลำเนาอาศัยอยู่ในอำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย

ก่อนหน้านี้​ คุณหล้า​ ได้ขอความช่วยเหลือผ่านทางรายการ "คนละไม้_คนละมือ" ว่า​ อยากได้รถเข็นวีลแชร์ที่สามารถ พับได้และมีน้ำหนักเบา เพื่อใช้สำหรับการดำรงชีวิตของตนเอง ซึ่งแต่เดิมมีแต่รถวิลแชร์ที่เป็นลักษณะคล้ายๆ​ รถเข็นคนป่วยในโรงพยาบาลซึ่งเป็นเหล็ก และมีน้ำหนักมาก อีกทั้งยังไม่สามารถพับได้ จึงมีความลำบากที่จะนำรถวิลแชร์ใส่รถ หรือขนย้ายเพื่อเดินทาง ไปยังพื้นที่อื่นๆ​ ได้โดยสะดวก จึงได้ประสานงานผ่านเพื่อนคนพิการที่อยู่จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อสอบถาม และขอความช่วยเหลือในครั้งนี้ จึงเป็นที่มาของการประสานงาน จนมาสู่การร่วมน้ำใจที่ดีต่อกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกันสามารถจัดหารถเข็นวีลแชร์ ได้จนสำเร็จ

ในการนี้ นายชัยพร ภูผารัตน์ ผู้อำนวยการสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย ได้เป็นตัวแทน ส่งมอบเงินซึ่งได้รับมาจากผู้ใหญ่ใจดี ส่งถึงมือ นายสายยัณต์ ดีเลิศ เพื่อเป็นกำลังใจและนำไปจัดซื้ออะไหล่ อุปกรณ์ ที่จะนำมาซ่อมแซมรถวิลแชร์ ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติในการข้างหน้า

อีกทั้ง​ ยังได้รับความอนุเคราะห์จาก คุณกุณฑล ฉายศิริ​ ผู้อำนวยการกองจัดการเดินรถ บริษัท ขนส่ง จำกัด เป็นธุระในการประสานงาน จัดส่งรถวิลแชร์นี้ ไปยังจังหวัดเลย เพื่อให้ถึงคนพิการอย่างทันท่วงที โดยไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายใดๆ​ ทั้งสิ้น​ รวมถึง​ นายเขื่อน สุปัญบุตร นายกสมาคมคนพิการจังหวัดปทุมธานี ที่ช่วยกัน "คนละไม้_คนละมือ" เอื้อเฟื้อสถานที่ให้เป็นสำนักของของสมาคมฯ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องคนพิการอีกด้วย

เป็นอีกเรื่องดีๆ​ ของสังคมไทยที่ยังหลงเหลือ​ ท่ามกลางมหันตภัยโรคระบาด​ ผ่านการร่วมกัน "คนละไม้_คนละมือ" เพื่อสร้างสรรค์สังคมไทยให้น่าอยู่ อย่างมีความสุขต่อไป

เพจ FengshuiBizDesigner ได้ตรวจดวงชะตาของน้าค่อม ด้วยโหราศาสตร์จีนโบราณ โดยระบุว่า...

ในที่สุดปาฏิหาริย์ก็ไม่บังเกิด เมื่อน้าค่อม ชวนชื่น หรือ อาคม ปรีดากุล ดาราตลกชื่อดัง ได้เสียชีวิต จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 เม.ย. 64 ในวัย 63 ปี ซึ่งทาง เพจ FengshuiBizDesigner โดย พี่อ๋า - สมศักดิ์ ชาคริตฐากูร ได้ตรวจดวงชะตาของน้าค่อม ด้วยโหราศาสตร์จีนโบราณ โดยระบุว่า

เป็นที่เศร้าสลดและน่าเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับการจากไปของดาราสายฮาที่มีแฟนคลับ และเป็นที่รู้จักกันถ้วนหน้าทั่วฟ้าเมืองไทยในผลงานหลากหลายที่ได้ฝากไว้ในวงการบันเทิงมาโดยตลอด กว่า 20 ปีที่ผ่านมา 

ทั้งนี้ Fengshui Biz Designer จึงขออนุญาตร่วมไว้อาลัยด้วยการวิเคราะห์รูปดวงเชิงวิชาการ ยกไว้เป็นดวงครู เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ที่สนใจในโหราศาสตร์จีนโบราณ ด้วยหลักวิชา “สี่เสาแห่งโชคชะตา” หรือ 八字四柱 (โป๊ยหยี่ซี๊เถียว)

ลักษณะโครงสร้าง “สี่เสาแห่งโชคชะตา” หรือ 八字四柱 (โป๊ยหยี่ซี๊เถียว) เป็นคนธาตุน้ำ เพศหยาง จึงใจร้อน โกรธง่ายหายเร็ว ไม่ยอมหยุดนิ่ง แต่ชอบการเปลี่ยนแปลง ชอบออกสังคม ติดต่อ เดินทาง ฉลาด สติปัญญาดี การรับรู้เร็ว ความรู้สึกไว ไหวพริบดี ชอบใช้ความคิด รู้จักการฉกฉวยโอกาส ทั้งยังเป็นคนดื้อ เอาตัวเองเป็นใหญ่ รักอิสระ เพื่อนฝูงมาก ไม่ชอบพึ่งพาคนอื่น แต่มักมีคนสนับสนุนช่วยเหลือ

ธาตุน้ำเพศหยางที่เกิดในปีระกา เดือนชวด วันมะเมีย ซึ่งฐานปีเกิดแตกหักกับฐานเดือนเกิด ส่วนฐานเดือนเกิดปะทะกับฐานวันเกิด จึงมีโรคประจำตัวที่พัวพันกับระบบสมอง เส้นเลือดในสมอง ปอด ระบบทางเดินหายใจ และระบบทางเดินปัสสาวะ อย่างเช่น โรคเบาหวาน เป็นต้น

เสาวัยจรเสวยอายุตั้งแต่ 60 ถึง 69 ปี ถนนชีวิตเดินในตำแหน่งมะเมียไฟ ธาตุน้ำ พิฆาตราศีบน และปะทะราศีล่างที่เสาเดือนชวดน้ำ ธาตุไม้ 

จึงเปรียบเสมือนเป็นคราวเคราะห์ที่กระทบต่ออวัยวะทรวงอกโดยตรง 

ส่วนในปี 2564 นี้ เสวยอายุ 64 ปี (นับจีน) เป็นปีจรฉลูทอง ธาตุดิน มีดาวร้าย 五鬼 (โหงวกุ้ย) 官符 (กัวฮู้) 血刃 (ฮ๊วยยิ่ง) และ 浮沉 (ผู่ติ๊ม) ร่วมสำทับบาปเคราะห์ อีกทั้งยังให้ร้ายกับ ฐานวันเกิดมะเมียซึ่งเป็นฐานสุขภาพโดยตรงอีก จึงส่งผลร้ายบังเกิดเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัด วิบัติดลดังกล่าว


ที่มา : เพจ FengshuiBizDesigner
https://www.facebook.com/501247403299025/posts/3932599933497071/?d=n
 

ปลดประจำการแบบปลอดเชื้อ ทบ.ปลดประจำการทหาร ผลัดที่ 1/2562 ทุกคนปลอดเชื้อ หลังผ่านการกักตัว 14 วัน

เมื่อวันที่ 30 เม.ย. พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 กองทัพบก เปิดเผยว่า ในวันนี้ 30 เม.ย. 64 กองทัพบกได้ทำการปลดประจำการทหารกองประจำการผลัดที่ 1/2562 ซึ่งได้เข้ารับราชการในหน่วยทหารของกองทัพบกทั่วประเทศจนครบกำหนด โดยในช่วงเดือนที่ผ่านมา กองทัพบกได้ดำเนินกรรมวิธีตามระเบียบของทางราชการเพื่อเตรียมความพร้อมทั้งด้านเอกสาร ธุรกรรมทางการเงิน การฝึกทักษะวิชาชีพก่อนปลด ด้านสุขภาพร่างกาย รวมทั้งหน่วยทหารช่วยอำนวยความสะดวกจัดรถไปส่งทหารปลดประจำการที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา นอกจากนี้ยังให้การดูแลทหารบางส่วนที่จะเข้ารับการศึกษาต่อเป็นนักเรียนนายสิบทหารบก หรือเข้ารับราชการในหน่วยงานของกองทัพบกตามที่ได้รับการคัดเลือก 

ทั้งนี้จากสถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่านมา พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้สั่งการให้หน่วยทหารดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อให้กับทหารที่จะปลดประจำการทุกนาย โดยทหารที่จะปลดประจำการทุกคนได้ผ่านกระบวนการกักตัวเพื่อสังเกตอาการ 14 วัน และผ่านการคัดกรองว่าอยู่ในสถานะปลอดเชื้อ COVID-19 รวมทั้งได้มีการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการป้องกันโรค และการปฏิบัติตนตามที่ ศบค. กำหนด พร้อมที่จะกลับไปดำเนินชีวิตได้ตามที่แต่ละบุคคลตั้งใจไว้ 

อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์สุดท้ายก่อนปลด เนื่องจากเกิดการขาดแคลนโลหิตที่ใช้ในการรักษาพยาบาล จากสถานการณ์โควิด ซึ่งกองทัพบกได้เชิญชวนให้ทหารที่กำลังจะปลดประจำการ ได้เข้าร่วมบริจาคโลหิตกับสภากาชาดไทย และโรงพยาบาลในหลายพื้นที่ กองทัพบกขอชื่นชมในจิตใจแห่งการเป็นผู้ให้และการมีจิตอาสาของทหารกองประจำการ ที่ได้ทำประโยชน์ต่อผู้อื่นสมกับการเป็นทหารอย่างแท้จริง

สำหรับทหารที่ปลดประจำการทุกนาย จะได้รับใบประกาศเกียรติคุณในการปฏิบัติหน้าที่ราชการทหาร เอกสารปลดและสมุดประจำตัวทหารกองหนุน, ส่วนผู้ที่สมัครเรียน และผ่านเกณฑ์ในระบบการศึกษานอกโรงเรียนจะได้รับวุฒิทางการศึกษาที่สูงขึ้นอีกหนึ่งระดับ รวมทั้งได้รับเงินออมส่วนบุคคลที่ฝากไว้ระหว่างประจำการตามระเบียบกองทัพบก พร้อมกันนี้หน่วยทหารทั่วประเทศได้มีการสร้างเครือข่ายทหารกองหนุน เพื่อดำรงการช่วยเหลือและส่งผ่านข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ซึ่งกันและกันอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม กองทัพบกมีความภาคภูมิใจและขอบคุณทหารกองประจำการ ผลัด 1/2563 ที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงานด้านความมั่นคง ทั้งนี้ ในระหว่างประจำการ ทหารทุกนายได้ทุ่มเทรับใช้ชาติในภารกิจต่าง ๆ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศมาโดยตลอด ในขณะเดียวกันได้ปฏิบัติตนในฐานะทหารที่ดี รักษาระเบียบวินัย เป็นกำลังพลที่มีคุณภาพ เชื่อมั่นว่าเมื่อไปดำรงตนในฐานะพลเรือนจะเป็นตัวอย่างที่ดี และสร้างประโยชน์ให้กับสังคมต่อไป

กระทรวงอุตฯ คุมเข้มสกัดไวรัสระบาด สั่งทุกหน่วยในสังกัด WFH ถึงสิ้น 31 พ.ค.นี้ ย้ำพร้อมให้บริการประชาชนทุกช่องทาง

กระทรวงอุตสาหกรรม ตอบรับมาตรการรัฐควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ และพนักงาน ปฏิบัติงานที่บ้าน เต็มพิกัด เริ่มตั้งแต่วันที่ 1-31 พฤษภาคมนี้ มั่นใจยังให้บริการประชาชนได้ตามปกติ

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้ขอความร่วมมือให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ เจ้าของกิจการ หรือผู้ประกอบการภาคเอกชน พิจารณาดำเนินการ Work From Home มาตรการขั้นสูงสุดอย่างน้อย 14 วัน เพื่อลดการรวมกลุ่มของบุคคล อันจะเป็นหนทางหนึ่งที่จะลดการแพร่เชื้อได้อย่างเป็นรูปธรรมนั้น 

กระทรวงอุตสาหกรรม จึงได้ขอให้ส่วนราชการในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมทุกแห่ง ดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดส่วนกลางปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) เต็มพิกัด ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของสัดส่วนจำนวนเจ้าหน้าที่ผู้มาปฏิบัติงาน ณ สำนักงานที่ตั้งส่วนกลาง รวมทั้งให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดทุกคน สามารถเหลื่อมเวลาปฏิบัติงานได้ โดยพิจารณาตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันและลักษณะงานขององค์กร เพื่อลดความเสี่ยงการติดและแพร่กระจายของโรคโควิด-19 เนื่องจากการระบาดระลอกใหม่ที่มีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและตัวเลขของผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1-31 พฤษภาคม พ.ศ.2564 

“เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทรวงฯ ได้ให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัย (Work From Home) อย่างเต็มขีดความสามารถ จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคจะผ่อนคลายลง พร้อมออกประกาศแนวปฏิบัติสำหรับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติตัวตามมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาหากจำเป็นต้องเข้ามาปฏิบัติงานในสถานที่ราชการ พร้อมจัดตั้งจุดคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกายทุกคนก่อนเข้าอาคาร โดยขอให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด” ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าว

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการดำเนินงานจะนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาปรับใช้ อาทิ การประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ วิดีโอคอล แอพพลิเคชั่นไลน์ หรืออีเมล์ มาเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงานเพื่อไม่ให้มีข้อติดขัดหรือเกิดปัญหากับการให้บริการประชาชนได้

มท.แจ้งทุก จว.เตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติในหลวงเนื่องในโอกาสวันฉัตรมงคล 4 พ.ค.64

เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ด้วยสำนักงานปลัดสำนักนายกฯ แจ้งว่า เนื่องในโอกาสวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม 2564 รัฐบาลเห็นสมควรดำเนินการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันฉัตรมงคล เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยที่ในขณะนี้ได้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่ขึ้น จึงเห็นควรจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ให้สอดคล้องกับมาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ไม่ให้กระจายไปในวงกว้าง และเพื่อให้การจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม 2564 เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ

จึงได้แจ้งไปยังผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ประดับพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมเครื่องราชสักการะบริเวณอาคารสำนักงาน ประดับธงชาติไทยคู่กับธงพระปรมาภิไธย ว.ป.ร. พร้อมประดับผ้าระบายสีเหลืองร่วมกับผ้าระบายสีขาวบริเวณรั้วอาคารสำนักงานตลอดเดือน พ.ค. รวมทั้งประดับไฟบริเวณอาคารสำนักงานให้สวยงามในระยะเวลาที่เห็นสมควร รวมถึงจัดทำคำถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม 2564 พร้อมพระบรมฉายาลักษณ์ และสมุดลงนามถวายพระพรชัยมงคลอิเล็กทรอนิกส์ลงบนหน้าหลักเว็บไซต์จังหวัด พร้อมทั้งเชิญชวนผู้บริหารและบุคลากรในสังกัด ร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคลผ่านระบบออนไลน์ ตลอดเดือนพฤษภาคม 2564 และแจ้งหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดดำเนินการจัดทำด้วย นอกจากนี้ให้เชิญชวนบริษัท ห้างร้าน และประชาชนในจังหวัด ร่วมประดับพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บริเวณด้านหน้าอาคารสำนักงานและที่พักอาศัย ประดับธงชาติไทยคู่กับธงพระปรมาภิไธย ว.ป.ร. และประดับไฟบริเวณอาคารสำนักงานและที่พักอาศัย ตลอดเดือน พ.ค. ด้วยความสมัครใจ

การบินไทยเดินหน้าคัดกรองพนักงานต่อรอบ 3 หลังไม่เข้าเป้า  สั่งขยายเวลายื่นเออร์รี่ ถึง 13 พ.ค.64  หวังลดให้เหลือ 1.5 หมื่นคน  

วันที่ 30 เมษายน 2564 บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า ตามที่บริษัท ได้ปรับปรุงโครงสร้างองค์กรใหม่เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินงาน และจะประกอบกิจการภายใต้โครงสร้างองค์กรใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป ซึ่งภายใต้โครงสร้างองค์กรใหม่ดังกล่าวมีพนักงานคงเหลือประมาณ 14,000 ถึง 15,000 คน ตามความเหมาะสมกับแผนธุรกิจของการบินไทยในอนาคตนั้น

ล่าสุดบริษัทได้ ทำการกลั่นกรองพนักงานสู่โครงสร้างองค์กรใหม่ เป็นครั้งที่ 2เสร็จสิ้น ปรากฎว่า มีพนักงานสนใจและแสดงความจำนงเข้าสู่กระบวนการกลั่นกรองครั้งนี้ 3,500 คน ผ่านการพิจารณากลั่นกรอง 1,500 คน ส่วนอีก 2,000 คนไม่ผ่านการพิจารณาทั้งนี้ยังพบว่ายังคงมีตำแหน่งที่ว่างเหลืออยู่อีกกว่า 500 ตำแหน่ง เนื่องจากไม่มีผู้แสดงความจำนงเข้าสู่บางตำแหน่ง หรือไม่มีผู้แสดงความจำนงที่มีคุณสมบัติเหมาะสม รวมทั้งผู้ผ่านการกลั่นกรองสละสิทธิ์

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จึงจัดให้มีกระบวนกลั่นกรองสู่โครงสร้างองค์กรใหม่ ครั้งที่ 3 โดยจะเปิดให้พนักงานสามารถแสดงความจำนงผ่านระบบ ตั้งแต่วันที่ 1-2 พฤษภาคม 2564 และจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการกลั่นกรองครั้งที่ 3 ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ทั้งนี้ พนักงานที่ผ่านการกลั่นกรองครั้งที่ 3 จะเริ่มทำงานวันที่ 15 พฤษภาคม 2564

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ขยายเวลาโครงการร่วมใจจากองค์กร (Mutual Separation Plan) แผน B (MSP B) และโครงการร่วมใจจากองค์กรแผน C (MSP C) เพื่อให้พนักงานสมัครใจเข้าร่วมโครงการฯ โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน – 13 พฤษภาคม 2564 ประกาศผลวันที่ 14 พฤษภาคม 2564รายงานข่าวแจ้งว่าขณะนี้ บริษัทฯได้เปิดคัดเลือกบุคลากรเข้าทำงานใหม่ จำนวน 2 ครั้งแล้ว ล่าสุดมีพนักงานที่ผ่านการคัดเลือกได้เข้าทำงานในบริษัทรวมแล้ว 10,800 คน แบ่งเป็น ครั้งที่ 1 จำนวน 9,300 คน และครั้งที่ 2 จำนวน 1,500 คน

คลอดมาตรฐานบริการอาหารรับท่องเที่ยว

กรมการท่องเที่ยว แจ้งว่า ขณะนี้จัดทำและปรับปรุงมาตรฐานบริการอาหารเพื่อการท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยมีหลักเกณฑ์มาตรฐานที่เน้นในเรื่องสุขอนามัย ความสะอาด สะดวก ปลอดภัย และเป็นธรรม เพื่อยกระดับคุณภาพการบริการอาหาร และเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการร้านอาหารสามารถนำไปปฏิบัติตามได้ ซึ่งตามมาตรฐานได้กำหนดคุณสมบัติและข้อกำหนดเบื้องต้น คือผู้ประกอบการต้องจดทะเบียนตามกฎหมายและปฏิบัติตามกฎระเบียบ และพ.ร.บ.สาธารณสุขด้วย 

สำหรับคุณสมบัติและข้อกำหนดเบื้องต้น แยกเป็น 3 เรื่องใหญ่ คือ เรื่องสถานที่ ต้องมีสถานที่เตรียมปรุงอาหารที่สะอาด เป็นระเบียบถูกสุขลักษณะ ผนังและเพดานควรมีสีอ่อน มีแสงสว่างเพียงพอ โต๊ะเตรียมปรุงอาหาร แข็งแรง สะอาด สูงจากพื้นอย่างน้อย 60 ซม. ผนังบริเวณเตาไฟทนความร้อน ภายในมีการระบายอากาศดี มีที่ดูดอากาศหรือปล่องระบายควัน ขณะที่สถานที่รับอาหารก็ต้อง สะอาด ปลอดภัย ถูกสุขลักษณะเช่นกัน และสถานที่ยังต้องได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข รวมทั้งกฎระเบียบอื่น ๆ เช่นเดียวกับการมีระบบป้องกันภัยด้วย 

ส่วนต่อมาคือ เรื่องกระบวนการ โดยได้มีการกำหนดไว้ว่า ผู้ประกอบการต้องไม่มีการเตรียมปรุงอาหารหน้าหรือในห้องน้ำ และปรุงอาหารสุกโดยใช้อุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่วางอาหารนานเกิน 2 ชั่วโมง อีกเรื่อง คือ การจัดเก็บอาหารที่ปรุงเสร็จ กำหนดไว้ว่า จะต้องมีการป้องกันการปนเปื้อนระหว่างรอเสิร์ฟ และมีการป้องกันการปนเปื้อนระหว่างการขนส่งอาหารจากครัวไปสู่โต๊ะอาหารด้วย 

ความคืบหน้าการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั้งเข็ม 1 และ 2 ในไทย 28 ก.พ.-28 เม.ย. 64 ยอดฉีดสะสมทะลุ 1.3 ล้านโดส

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนโควิด-19 ช่วงวันที่ 27 เมษายน ในประเทศไทย ดังนี้... 

- ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 20,761 ราย
- ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 44,172 ราย

ส่วนจำนวนผู้รับวัคซีนสะสม ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. - 28 เม.ย. พ.ศ.2564 (60 วัน) มีการฉีดไปแล้ว 1,344,646 โดส ในพื้นที่ 77 จังหวัด ดังนี้... 

- ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 1,059,721 ราย
- ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 284,925 ราย

สำหรับ เป้าหมายการฉีดฉีดวัคซีนของรัฐบาลนั้น ตั้งใจจะฉีดคนไทยให้ได้ร้อยละ 70 หรือประมาณ 50 ล้านคนภายในปี 64 เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในปีนี้และสามารถเปิดประเทศฟื้นเศรษฐกิจได้ในปี 65 ฟื้นเศรษฐกิจ


ที่มา: https://www.thairath.co.th/news/local/208016

“ครูกัลยา” ห่วงครู นักเรียน หนุนเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้บุคลากรทางการศึกษา พร้อมให้ผู้บริหารสถานศึกษาในกำกับติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างใกล้ชิด 

เมื่อวันศุกร์ที่ 30 เมษายน 2564 ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงศึกษาธิการ ห่วงครู บุคลากรทางการศึกษา สนับสนุนให้เร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างทั่วถึง พร้อมให้ผู้บริหารสถานศึกษาในกำกับติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมพื้นที่พร้อมรองรับโรงพยาบาลสนามกรณีเชื้อไวรัสโควิด-19 ขยายวงกว้าง เตียงไม่พอ

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย โฆษกประจำตัวรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช) เปิดเผยว่า คุณหญิงกัลยา เห็นถึงความสำคัญของครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จึงได้มีนโยบายเร่งด่วนตั้งแต่รักษาการในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยได้แถลงถึงโครงการที่จะต้องเร่งรัดและทำให้เกิดเป็นรูปธรรม หนึ่งในนั้นคือการเร่งผลักดันข้อเสนอกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 สำหรับครู และบุคลากรทางการศึกษา และได้มีการเสนอประเด็นนี้เป็นกรณีเร่งด่วนในการประชุมคณะรัฐมนตรีที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานในเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของวิชาชีพครู ที่เป็นผู้ที่เสียสละในการทำงานใกล้ชิดกับเด็กนักเรียน ผู้ปกครอง และคนในชุมชน

ทั้งนี้ คุณหญิงกัลยาจึงขอสนับสนุนแนวทางของ นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่จะได้มีการหารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเป็นรูปธรรม ให้แก่ครู และบุคลากรทางการศึกษา ของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับนักเรียน นักศึกษา และประชาชน โดยให้ความสำคัญกับครูและบุคลากรที่อยู่ในจังหวัดที่เป็นพื้นที่สีแดงและมีความเสี่ยงสูงก่อน ซึ่งจะสร้างขวัญและกำลังใจให้กับพี่น้องครูทั่วประเทศให้มีกำลังใจในการสอนนักเรียนอย่างเต็มความสามารถ

“การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ส่งผลกระทบกับทุกฝ่าย คุณหญิงกัลยาห่วงประชาชน โดยเฉพาะครูและนักเรียนเป็นอย่างมาก เพราะครูถือเป็นอาชีพที่เสียสละ จึงนำเรื่องการเร่งจัดหาวัคซีนโควิด-19 ให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการทันที ในขณะที่รักษาการในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และได้นำเรื่องดังกล่าวไปหารือใน ครม. ซึ่งคุณหญิงกัลยารู้สึกยินดีและพร้อมสนับสนุนท่านรัฐมนตรีว่าการฯ อย่างเต็มที่จะผลักดันให้เรื่องนี้เกิดขึ้นโดยเร็ว” นางดรุณวรรณ กล่าว

ทั้งนี้คุณหญิงกัลยา ยังแสดงความห่วงใยถึงพี่น้องประชาชนทุกคน และขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานภาครัฐเองและเอกชนที่มีส่วนสนับสนุนในการช่วยเหลือและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคสวิด-19 โดยที่ผ่านมาคุณหญิงกัลยาได้ให้ผู้บริหารสถานศึกษาในกำกับติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมพื้นที่โรงเรียนในสังกัดเพื่อเป็นโรงพยาบาลสนามกรณีเชื้อไวรัสโควิด-19 ขยายวงกว้างขึ้นร่วมด้วย 

ผอ.สถาบันวัคซีนฯ ชี้!! ซิโนแวคป้องกันอาการรุนแรงได้ 100% เตือน!! กลุ่มวิจารณ์วัคซีน ไม่ควรยึดข้อมูลเดียวมาตัดสิน

นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เปิดเผยข้อมูลประสิทธิผลวัคซีนชิโคแวคต่อไวรัสโควิด-19 ในประเทศบราซิล พบว่าสามารถป้องกันอาการติดเชื้อที่ไม่รุนแรงได้ 50.4% อาการรุนแรงปานกลางได้ 83.7% และป้องกันอาการรุนแรงได้ 100% ซึ่งวัคซีนซิโนแวคเป็นวัคซีนตัวเดียวที่ได้รับการทดสอบในกลุ่มบุลากรทางการแพทย์

ส่วนวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นวัคซีนหลักของประเทศไทย จำนวน 61 ล้านโดส จะส่งมอบเดือนมิ.ย. มีข้อมูลตีพิมพ์เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลว่ามีผลต่อไวรัสสายพันธุ์อังกฤษ B.1.1.7 ป้องกันอาการป่วยได้ 70% ส่วนไวรัสอื่น ๆ ที่ยังไม่มีการกลายพันธุ์นั้นการป้องกันอยู่ที่ 85% ดังนั้นวัคซีนทั้ง 2 ตัวมีผลในการป้องกันอาการป่วยได้

นพ.นคร กล่าวอีกว่า การพิจารณาเรื่องวัคซีนนั้น ข้อสำคัญคือ ไม่สามารถจะมาเปรียบเทียบเฉพาะตัวเลข เพื่อบ่งชี้ถึงประสิทธิผลของวัคซีนเพียงลำพังเท่านั้น ต้องใช้ข้อมูลอื่นประกอบด้วยเช่น ผลการศึกษาระยะ 3 ที่แสดงผลของวัคซีนได้ทำในกลุ่มประชากรใด หากเป็นกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อจำนวนมากจากพื้นที่ ที่มีการติดเชื้อสูงและพบเชื้อได้บ่อย จะไปเอาตัวเลขเปอร์เซ็นต์มาเปรียบเทียบกับวัคซีนบางตัวที่ใช้ในกลุ่มประชากรจากชุมชนทั่วไปไม่ได้ ต้องเอาทุกอย่างมาประกอบกัน

“ผู้ที่ออกวิพากษ์วิจารณ์ประสิทธิผลของวัคซีนตัวนี้ ขอให้ใช้ข้อมูลความจริงทางด้านวิชาการตรงนี้ให้ครบถ้วน และพิจารณาเปรียบเทียบหลาย ๆ ส่วนกับวัคซีนตัวอื่น ที่มีการตีพิมพ์ผลงานของวัคซีนออกมาแล้ว ซึ่งจะเห็นความต่าง ความเหมือน หรือความใช้การได้ของวัคซีน ดังนั้นเพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าวัคซีนซิโนแวคที่เราใช้อยู่ในปัจจุบันนี้มีประสิทธิผลพอสมควรและมีประสิทธิผลมากในการป้องกันอาการรุนแรง จึงขอให้ประชาชนมั่นใจ และต้องฉีดให้ครอบคลุมอย่างมากและรวดเร็ว เราติดตามข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช้ความเชื่อหรืออคติแต่ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในประเทศ และ ขององค์การอนามัยโลก”


ที่มา: https://www.facebook.com/101696788465808/posts/215848057050680/?sfnsn=mo

เปิด 5 มาตรการ ศบค. ยกระดับ 6 จว.สีแดงเข้ม งดเดินทางออกนอกพื้นที่ ยันไม่ใช่เคอร์ฟิว มีผลตั้งแต่เวลา 00.00 น. วันที่ 1 พ.ค. 64

วันที่ 29 เมษายน 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. แถลงผลการประชุมศปก.ศบค.ถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิดว่า โดยที่ประชุมพิจารณายกระดับการดูแลจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงโควิด-19 ด้วยการยกระดับ 6 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ประกอบด้วย กทม. ชลบุรี เชียงใหม่ นนทบุรี ปทุมธานีและสมุทรปราการ

โดยมาตรการสำคัญสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ใน 6 จังหวัดคือ 1.ให้พื้นที่กทม. ชลบุรี เชียงใหม่ นนทบุรี ปทุมธานีและสมุทรปราการ เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

2.ห้ามการจัดกิจกรรม ซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 20 คน

3.มาตรการควบคุมสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด กำหนดยกระดับมาตรการควบคุมบูรณาการขึ้นเพิ่มเติม สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

3.1ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในลักษณะของการนำกลับไปบริโภคที่อื่นได้เท่านั้น โดยงดบริโภคอาหาร เครื่องดื่ม สุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน และเปิดบริการได้ถึง 21.00 น.

3.2 สนามกีฬา สถานที่ออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนสให้ปิดบริการ ยกเว้นสถานที่ใช้เป็นเอกเทศตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ ส่วนสนามกีฬาหรือสถานที่ออกกำลังกายกลางแจ่ง เปิดให้บริการได้ไม่เกิน 21.00 น. และสามารถจัดแข่งขันโดยไม่มีผู้ชม

3.3ห้าง ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่คล้ายกัน ให้เปิดได้ตามปกติ จนถึง 21.00 น.ยกเว้นส่วนตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม และสวนสนุกที่งดบริการ

4.ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เกต ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดิน ให้เปิดปกติ แต่ไม่เกิน 21.00 น. ส่วนร้านเปิด 24 ช.ม. ให้เปิดเวลา 04.00 น.

5.การงดการเดินทางอออกนอกพื้นที่ ให้ประชาชนอยู่ในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด งดการเดินทางออกนอกพื้นที่โดยไม่มีเหตุจำเป็น
โดยให้มีผลตั้งแต่เวลา 00.00 น. วันที่ 1 พ.ค.2564 ซึ่งยืนยันไม่ได้เป็นการประกาศใช้เคอร์ฟิว

องค์นี้กินไม่ได้!! ช่างแกะสลักชาวสุโขทัย สืบสานงานศิลป์ แกะสลักพระพุทธรูปจากไม้ อาชีพที่นับวันยิ่งหาช่างฝีมือ ที่ทำได้ประณีต และสวยงามได้ยาก

ช่างแกะสลักเป็นช่างประเภทหนึ่ง ในจำพวกช่างสิบหมู่ เป็นผู้มีความสามารถ และฝีมือในการช่างทำลวดลาย หรือรูปภาพต่าง ๆ บนเนื้อไม้ ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นพื้นที่หลักของชาวชุมชนรอบ ๆ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ครอบคลุมพื้นที่โบราณสถานกรุงสุโขทัย ศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรสุโขทัย ขึ้นชื่อเรื่องโบราณสถานเป็นต้น ๆ ของประเทศ

ชาวบ้านและคนในชุมชนเมื่อครั้งอดีตจนถึงปัจจุบันนี้ อีกอาชีพที่ได้รับความสนใจ และฝึกฝนเป็นอาชีพของชาวชุมชนเก่าแก่แห่งนี้มายาวนาน จากอดีตถึงปัจจุบัน คือช่างแกะสลักพระพุทธรูปจากไม้ บ้างก็ทำเป็นอาชีพเสริม บ้างก็ทำเป็นอาชีพหลัก จำนวนไม่น้อยที่สร้างฐานะตัวเองและครอบครัวจากอาชีพนี้

นายวรรณะ (ช่างณะ) เชื้อบัว ถือเป็นช่างศิลปะการแกะสลักพระพุทธรูปจากไม้คนหนุ่มรายหนึ่งในพื้นที่ ที่มีฝีมือดี ผลงานโดดเด่น มีลูกค้าจากทั่วประเทศ มาสั่งทำ และมารับซื้อในงานแกะสลักงานไม้ของเขาที่ได้รับการยอมรับในฝีมือของชายคนนี้ ‘ช่างณะ’ ใช้พื้นที่บ้านพักของตนเองและคนในครอบครัวดัดแปลงมาเป็นโรงงานย่อม ๆ ขนาดเล็ก ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 140/2 หมู่ 3 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย ใช้เป็นที่ทำงานหารายได้ของเขาในการประกอบอาชีพช่างแกะสลักพระพุทธรูปบนตัวไม้ขนาดใหญ่ และทุกขนาดตามที่ผู้จ้างและลูกค้าสั่งทำ อย่างประณีต สวยงาม คมชัด ลึกและชัดเจน ไม่ผิดพิมพ์ถูกต้องตามต้นฉบับ

นายวรรณะ เล่าให้ฟังว่า ได้เรียนรู้ในการหัดฝึกแกะสลักไม้มาตั้งแต่อายุประมาณ 13-14 ปี ตอนแรกก็ไม่ได้ทำจริงจัง แต่ก็มีใจรัก เห็นคนเก่าคนแก่ในหมู่บ้านทำกันก็สนใจชอบตามปะสาเด็ก ๆ พอเมื่อเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ก็เริ่มมีฝีมือมากขึ้น มีความชำนาญขึ้นตามระยะเวลาที่ลงมือทำ ก็เลยเชื่อมมั่นว่าสามารถทำเป็นอาชีพได้ และน่าจะไปได้ดี มีอนาคต เดิมทีนั้นตนเองมีอาชีพทำนาแต่ชอบใช้เวลาว่างไปหาเก็บเศษไม้จากหัวไร่ปลายนามาฝึกแกะสลัก เริ่มจากแกะสลักเป็นรูปสัตว์ เช่น นก ปลา เสือ และช้าง

จากนั้นก็พัฒนามาเป็นการแกะสลักพระพุทธรูป พระพิฆเนศ และรูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ต่าง ๆ แล้วฝากวางตามร้านขายของที่ระลึก จนลูกค้าเห็นผลงานเขาก็บอกต่อกันไป เริ่มมีคนรู้จักชื่อเสียง และมีความสุขมากที่เค้าเรียกนามเราว่านายช่าง จึงพัฒนาฝีมือโดยดูจากรูปภาพตัวอย่าง แล้วแกะสลักตามให้เหมือนรูปมากที่สุด ฝึกฝนเรื่อยมาจนเกิดความชำนาญและมีชื่อเสียงในเมืองเก่าสุโขทัย มียอดสั่งมากขึ้นตามลำดับ เมื่อยอดสั่งผลิตครบบางทีก็เอาไม้ทั้งขนาดเล็ก ใหญ่มาทำต่อให้เกิดรายได้อีกทาง ส่งขาย หรือมีคนมารับซื้อถึงบ้าน ลูกค้าจำนวนมากเมื่อมารับไม้และภาพสิ่งมงคลที่สั่งแกะ เมื่อเห็นงานชิ้นอื่นที่ตนทำไว้ก็ขอซื้อไปพร้อมกับงานที่ลูกค้าสั่งก็มีมาก

ปัจจุบันมีลูกค้าจากทั่วประเทศนำไม้มงคลอย่างเช่นไม้สัก ไม้กันเกรา ไม้ขนุน ไม่มงคล ไม้หาอยากมาจ้างให้แกะสลักเป็นพระพุทธรูปต่าง ๆ เช่น พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย พระปางลีลา พระนาคปรก และรูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ โดยราคาขึ้นอยู่กับขนาดและความยากง่ายของงาน ส่วนพระลีลาสุโขทัยที่กำลังแกะสลักชิ้นนี้เป็นไม้สักที่ลูกค้านำมาให้

เดิน วิ่ง ปั่น ห่างกันสักพักช่วงโควิด-19

ช่วงนี้ถ้าเป็นไปได้ ควรงดออกกำลังกายในสวนสาธารณะออกไปก่อน นั่นเพราะจากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยเบลเยี่ยมและดัทช์ เกี่ยวกับเรื่องการแพร่กระจายเชื้อ COVID-19 ในขณะออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการ เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน กิจกรรมเหล่านี้ ล้วนสามารถแพร่เชื้อได้ไกลขึ้นกว่าที่ยืนอยู่เฉย ๆ โดยการกระจายตัวของไวรัสโควิด สามารถกระจายตัวได้ไกลมากยิ่งขึ้นกว่าการไอและจามอีกด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top