Monday, 6 May 2024
NEWS FEED

‘NBDC’ โร่แจงปมดรามา หลังโพสต์ภาพไม่เหมาะสม ด้านแอดมินต้นเรื่อง ออกรับผิดชอบด้วยการ ‘ลาออก’

จากกรณีดรามา ที่ทางบริษัท NBDC ได้โพสต์ภาพที่ไม่เหมาะสม ล่าสุด เฟซบุ๊ก ‘ผลิตและจำหน่ายอาหารปลาและอาหารสุกร - Fish and animals' feed product’ แอดมินเพจ NBDC ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการลาออก โดยระบุว่า

เรื่อง ชี้แจงกรณี โพสข้อความและภาพที่ไม่เหมาะสมผ่านทางช่องทาง Facebook

วันที่ 29 มีนาคม 2566
จากกรณีที่แอดมินเพจของทางบริษัท NBDC ได้มีการโพสต์ภาพที่ไม่เหมาะสม จากการที่แอดมินทำ Viral ดังกล่าวมาทำ Content ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมของเพจเฟซบุ๊กของบริษัท ในการนี้บริษัทฯ ขอเรียนแจ้งว่า...

ทางบริษัทไม่มีนโยบายและส่งเสริมการกระทำที่รุนแรง อันมีผลต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้ทางบริษัทจึงขออภัยในการกระทำดังกล่าว ซึ่งภายในวันนี้พนักงานที่เกี่ยวข้องได้ขอแสดงความรับผิดชอบต่อทุกฝ่าย โดยการยื่นหนังสือลาออก ทั้งนี้ทางบริษัทฯ ยังได้เร่งประสานงานไปยังส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ผบ.ทร.ทำบุญครบ 100 วัน กำลังพลที่เสียชีวิตเรือหลวงสุโขทัยอับปาง

วันนี้ (29 มีนาคม 2566) เวลา 08.00 น.พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และนางจตุพร ชมเชิงแพทย์ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ เป็นประธานในพิธีทำบุญครบรอบ 100 วัน เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่กำลังพลที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ณ พุทธสถานเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา กองเรือยุทธการ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ตลอดจนคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ ให้การต้อนรับ ทั้งนี้มีกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย ที่รอดชีวิตจำนวน 76 นาย รวมถึงครอบครัวและญาติของกำลังพลจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง เข้าร่วมในพิธี 

โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบเงินช่วยเหลือและทุนการศึกษาจากกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพเรือแก่ ทายาทและบุตรของกำลังพลที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง โดยแบ่งเป็นทายาทจากกรณีผู้สูญหาย จำนวน 5 ทุน และบุตรกำลังพลที่เสียชีวิตจำนวน 9 ทุน นอกจากนี้ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ ได้มอบเงินช่วยเหลือและทุนการศึกษาจากสมาคมภริยาทหารเรือ ให้แก่บุตรกำลังพลที่เสียชีวิตจำนวน 9 ทุน ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับเงินช่วยเหลือและทุนการศึกษาเป็นผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาในการรับทุนเรียบร้อยแล้ว

พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า เหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ส่งผลให้กำลังพลเสียชีวิต 24 นาย สูญหาย 5 นาย และรอดชีวิต 76 นาย ในส่วนของการปฏิบัติ การค้นหากำลังพล 5 นายที่สูญหาย กองทัพเรือ และหน่วยงานต่าง ๆ ได้ทำการค้นหาอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 กระทรวงกลาโหม ได้มีคำสั่งกระทรวงกลาโหม เรื่อง สันนิษฐานว่าข้าราชการกระทรวงกลาโหม ถึงแก่ความตายเพราะสูญหายในขณะปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยสันนิษฐานว่า กำลังพลกองทัพเรือจำนวน 5 นาย ได้ถึงแก่ความตายแล้ว ซึ่งได้รับการชดเชย และการเยียวยาตามสิทธิกำลังพลของกองทัพเรือ ทั้งนี้กองทัพเรือได้ให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวกำลังพลกองทัพเรือ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปางนั้น โดย พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ มีความเป็นห่วงครอบครัวกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตรวมถึงกำลังพลที่ยังคงสูญหายเป็นอย่างมาก จึงได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสิทธิกำลังพล ดำเนินการเพื่อให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน แก่ครอบครัวของกำลังพลในด้านต่าง ๆ อย่างเต็มที่

Reinventing University ส่งมอบศูนย์อัจฉริยะ มุ่งพัฒนาท้องถิ่นภาคใต้ ช่วย ม.ทุกแห่งทั่วประเทศ ขับเคลื่อนการทำงานได้อย่างคล่องตัว

(29 มี.ค.66) อนุกรรมการด้านการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย สป.อว. นำทีมโดย ศ.ดร.พีระพงศ์ ทีฆสกุล ประธานอนุกรรมการ, นายพันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี หัวหน้ากลุ่มภารกิจบริหารยุทธศาสตร์ พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการฯ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานโครงการ Reinventing University ของมหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคใต้ 5 แห่ง ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา จ.สงขลา โดยมีอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา รศ.ดร.ทัศนา ศิริโชติ รวมถึงผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏอีก 4 แห่ง ให้การต้อนรับและนำเสนอผลการดำเนินงาน 

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยทั้ง 5 แห่ง ได้ส่งมอบศูนย์อัจฉริยะเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นภาคใต้ 5 ศูนย์ ได้แก่...
1. ด้านการพัฒนานวัตกรรมท้องถิ่นและโลจิสติกส์ โดย มรภ.สุราษฎร์ธานี 
2. ด้านการเป็นผู้ประกอบการท้องถิ่น โดย มรภ.สงขลา 
3. ด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดย มรภ.นครศรีธรรมราช 
4. ด้านการเกษตรและอาหาร โดย มรภ.ยะลา 
5. และ ด้านการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ โดย มรภ.ภูเก็ต

ลูกสาวแฉ!! แม่ตัวเองรับญาติป่วยติดเตียงมาดูแล  หวังเงิน 8 พันบาท แต่ลับหลังทำร้าย-ให้กินข้าวบูด 

(29 มี.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลายเป็นเรื่องสะเทือนใจกรณีสาวรายหนึ่งได้โพสต์เรื่องราวที่เกิดขึ้นในครอบครัว หลังแม่นำญาติที่ป่วยติดเตียงมาดูแลที่บ้าน แต่ไม่ได้รับการดูแลอย่างที่ควรจะเป็น โดยเผยให้เห็นสภาพเตียง ห้องที่สกปรก จานข้าวที่มีมดขึ้น

โดยมีการระบุข้อความว่า ไม่ทนอีกต่อไปแล้ว ใครพูดไม่ฟัง คือแม่ เอาผู้ป่วยติดเตียงที่เป็นลูกพี่ลูกน้องมาไว้ที่บ้าน เพราะอยากได้เงินจากทางญาติๆ เดือนละ 8,000 บาท  แต่ลับหลังคือตีเค้า ตบกะบาลบ้างไรบ้าง เอาข้าวบูดให้เค้ากินทุกวัน พอขี้แตก ก็ด่าก็ว่า มีแต่คนเห็น เห็นจนเอือม แต่ช่วยอะไรไม่ได้ มีหน่วยงานไหน ช่วยประสานให้ญาติมารับทีเถอะ สงสารเค้า พิการครึ่งซีก ทางญาติก็ทิ้งส่ง ทิ้งขว้าง ไม่สนใจไยดี ทั้งที่รู้เรื่อง โพสต์นี่กูขอประจาน ไม่มีความเป็นคนเลย

‘รฟท.- ขสมก.-กรุงไทย’ ร่วมดันบัตรเหมาจ่ายค่ารถไฟฟ้ายสีแดง-ขสมก. ราคา 2,000 บาท/เดือน ไม่จำกัดเที่ยว ยกระดับการเดินทางแบบไร้รอยต่อ

‘รฟท. ขสมก. และกรุงไทย’ ผนึกกำลัง เปิดตัว บัตรเหมาจ่ายนั่งรถไฟฟ้า ‘สายสีแดง-รถเมล์’ 2,000 บาท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. ตั้งเป้าจ่ายผ่านบัตรวันละหมื่นคน จากปัจจุบัน 4-5 พันคนต่อวัน ส่วนขสมก. คาดเพิ่มขึ้น 5.5-6 หมื่นคนต่อวัน จากเดิม 5 หมื่นคนต่อวัน พร้อมประเมินผล 6 เดือน หนุนรองรับพรรคการเมืองออกนโยบายประหยุดค่าครองชีพ

(29 มี.ค. 66) นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พร้อมด้วย นางพริ้มเพรา วงศ์สุทธิรัตน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.), นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง และ นายกิตติพัฒน์ เพียรธรรม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ร่วมกันเปิดโครงการบัตรเหมาจ่าย TRANSIT PASS RED LINE BKK X BMTA หรือ บัตรเหมาจ่ายรถไฟฟ้าสายสีแดงกับรถโดยสาร (รถเมล์) ของ ขสมก. เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ 2 ระบบ คือ ทางรางและทางบกเดินทางได้ด้วยการใช้บัตรใบเดียว

นายสุเทพ เปิดเผยว่า บัตรเหมาจ่ายจัดจำหน่ายใบละ 2,000 บาท และค่าธรรมเนียมออกบัตร 100 บาท รวมค่าใช้จ่าย 2,100 บาท โดยหาซื้อบัตรเหมาจ่ายได้จากจุดจำหน่ายบัตรของ ขสมก. และ รฟท. ส่วนการใช้งานสามารถใช้บัตรเหมาจ่ายแตะชำระค่าโดยสารที่เครื่องชำระค่าโดยสารอัตโนมัติ หรือ EDC บน รถเมล์ ขสมก. ที่ให้บริการปัจจุบัน 2,885 คัน และจุดรับชำระค่าโดยสารที่ รฟท. กำหนด หลังจากเติมเงินบัตรจะมีอายุการใช้งาน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่แตะชำระครั้งแรกที่ ขสมก. และ รฟท. อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ผู้โดยสารชำระค่าโดยสารครั้งแรกที่ ขสมก. วันที่ 1 เม.ย.66 บัตรจะใช้งานทั้ง ขสมก. และ รฟท. ได้ถึงวันที่ 30 เม.ย.66 เท่านั้น จนกว่าการเติมเงินครั้งถัดไป โดยสามารถใช้งานกับรถเมล์ ขสมก. ทุกประเภทแบบไม่จำกัดเที่ยว

ส่วนกรณีใช้ชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดงจะนับจำนวนเที่ยวสูงสุด 50 เที่ยวต่อการเติมเงินหนึ่งครั้ง หากใช้จำนวนเที่ยว 50 เที่ยวหมดก่อน 30 วัน จะไม่สามารถใช้ชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดงได้อีก แต่ยังใช้ชำระค่าโดยสารรถเมล์ ขสมก. ได้จนกว่าครบ 30 วัน เช่น ผู้โดยสารใช้งานรถไฟฟ้าสายสีแดงครั้งแรกวันที่ 1 เม.ย.66 ครบ 50 เที่ยวในวันที่ 25 เม.ย.66 ผู้โดยสารไม่สามารถใช้ชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดงได้อีก แต่ยังคงใช้ชำระค่าโดยสารรถเมล์ ขสมก. ได้จนถึงวันที่ 30 เม.ย.66 ตามปกติ จนกว่าจะเติมเงินรอบต่อไป 

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง 25,000 คนต่อวัน แบ่งเป็นใช้จ่ายผ่านบัตรประเภทต่างๆ รถไฟฟ้าสายสีแดงรองรับ 4,000-5,000 คนต่อวัน ที่เหลือจ่ายค่าโดยสารผ่านเหรียญโดยสาร คาดว่ามีบัตรเหมาจ่ายจะเพิ่มให้มีผู้มาใช้จ่ายผ่านบัตรเป็น 10,000 คนต่อวัน ส่วนค่าโดยสารจำนวน 50 เที่ยว จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1,250 บาท หรือ เฉลี่ย 25 บาทต่อเที่ยว เมื่อมีบัตรเหมาจ่ายจะจ่ายแค่ 1,100 บาท หรือเฉลี่ย 22 บาทต่อเที่ยว ช่วยประหยัดได้ 150 บาท หรือ 3 บาทต่อเที่ยว ขณะที่ซื้อบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ ขสมก. ประเภทรถเมล์แอร์แบบรายเดือนราคา 1,020 บาท แต่เมื่อซื้อบัตรแบบเหมาจ่ายจะจ่ายแค่ 900 บาทต่อ 30 วัน ซึ่งช่วยประหยัดได้ 120 บาทต่อเดือน

ด้านนางพริ้มเพรา กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้โดยสารที่ชำระค่าโดยสารผ่านเครื่อง EDC อยู่ที่ 50,000 คนต่อวัน หากมีบัตรเหมาจ่ายตั้งเป้าจะเพิ่มยอดชำระผ่านเครื่อง EDC อยู่ที่ 55,000-60,000 คนต่อวัน จากจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการรถเมล์ประมาณ 700,000 คนต่อวัน หลังจากนี้ ขสมก. และรถไฟฟ้าสายสีแดงจะใช้เวลาประมาณเมิน 6 เดือน เกี่ยวกับจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการ รวมทั้งระบบการใช้งานต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงให้สอดคล้องกับการใช้งานต่อไป

หลานเปลี่ยนภาพ ‘อุลตร้าแมน’ แทนเจ้าแม่กวนอิม ทำอาม่าจีนเดือด!! เพราะเผลอกราบไหว้อยู่เป็นเดือน

ไม่นานมานี้ ได้มีคลิปไวรัลที่มีการแชร์กันสนั่น เมื่ออาม่าชาวจีนคนหนึ่งออกอาการหัวเสีย หลังพบว่าหลานสาวแอบเอารูปยอดมนุษย์ ‘อุลตร้าแมน’ มาเปลี่ยนแทนเจ้าแม่กวนอิม แถมปล่อยให้อาม่าหลงกราบไหว้ขอพรอยู่นานเป็นเดือน

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่มณฑลกว่างตง โดยจากคลิปจะเห็นว่าอาม่ากำลังยืนถือภาพอุลตร้าแมนนั่งขัดสมาธิ และมีรัศมีเปล่งประกายสีทองเหมือนเทพเจ้า พร้อมกับด่าทอหลานสาวเป็นภาษาฮกเกี้ยนด้วยความโมโห

UOB จับมือ AIS อัดโปรแรง 850 บาทต่อเดือน  ถอย iPhone 14 ได้ แถมเปลี่ยนเครื่องใหม่ได้ทุก 2 ปี

AIS เอาจริงจับมือ UOB เปิดดีลพิเศษจ่ายเดือนละ 850 บาท ได้ iPhone ใช้เปลี่ยนเครื่องใหม่ทุก 2 ปี

(29 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานแถลงข่าวของ AIS นั้น มีการพูดถึงรายละเอียดการให้บริการระหว่าง AIS และ UOB ภายใต้ชื่อ UOB Best Buy เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงการใช้งานจากสมาร์ทโฟน 5G ได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น

‘บิ๊กบี้’ รับ!! คาดไม่ถึง ‘พ่นกำแพงยกเลิก ม.112’ โผล่วัดพระแก้ว ลั่น!! บ้านเมืองมีขื่อมีแป ใครดี-ไม่ดี คนส่วนใหญ่ตัดสินได้

(29 มี.ค.66) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงเหตุการณ์พ่นสีกำแพงวัดพระแก้ว เพื่อแสดงออกถึงการยกเลิกมาตรา 112 ว่า ใครทำผิดก็ว่าไปตามกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะกฎหมายใดก็ตาม เช่น กฎหมายโบราณสถาน

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบหรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ ความคิดเราห้ามกันไม่ได้ แต่ทุกอย่างก็เป็นไปตามกฎหมาย บ้านเมืองมีขื่อมีแป ก็เหมือนกับแต่ก่อน ที่ผมพูดไง ที่จะถืออะไรไป เพื่อไปที่พระบรมมหาราชวังให้ได้ ก็บอกแล้ว สถานที่นั้นเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าไปทำก็ต้องสนใจความรู้สึก หรือความศรัทธา ความรักของคนไทยที่มีต่อสถานที่นั้นด้วย เป็นเรื่องของคนส่วนใหญ่ที่ต้องคิดว่าใครดี ใครไม่ดี ใครถูกใครผิด

ถามย้ำว่าแต่ดูเหมือนว่าจะเป็นการปลุกกระแส ยกเลิกมาตรา 112 พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ ใครทำผิด หรือไม่ทำผิด คนส่วนใหญ่ก็ต้องคิดเอง ใครดี ใครไม่ดี เท่านั้นเอง 

เมื่อถามต่อว่าในฐานะที่เป็นทหารของพระราชาและปกป้องสถาบัน รู้สึกอย่างไรบ้าง พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญ เรามีสถาบันหลักอยู่แล้ว ตามกฎหมายเรามี เราก็ต้องปกป้องคุ้มครองสถาบันหลักอยู่แล้ว ส่วนอยู่ในอำนาจหน้าที่ขอบเขตแค่ไหน เราก็ทำตามขอบเขตหน้าที่นั้น

ซักว่าจะต้องมีการดูแลรอบพื้นที่พระบรมมหาราชวังเพิ่มขึ้นหรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ก็มีการดูแลอยู่แล้ว แต่ทุกฝ่ายก็ต้องช่วยกันระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ที่มีความเคารพรัก ศรัทธา ในสิ่งที่บรรพชนสร้างขึ้นมา โดยเฉพาะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ประชาชนก็ต้องช่วยกันด้วย

ถามอีกว่าในบริเวณดังกล่าวเป็นเขตพระราชฐาน จะต้องมีทหารไปช่วยดูแลหรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ทหารมีอยู่แล้ว ทหารดูแลอยู่แล้ว เรารักษาความปลอดภัยในพระบรมมหาราชวังอยู่แล้ว เรามีกองรักษาการอยู่แล้วในสถานที่สำคัญต่างๆ

เมื่อถามว่าคาดไม่ถึงใช่หรือไม่ ที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า “ก็คงไม่มีใครคาดคิด เพราะถ้าคนดี คนปกติคงไม่ทำ” 

เมื่อถามว่าได้ดูการดีเบตของพรรคการเมืองต่าง ๆ ในเรื่องนี้หรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องนโยบายของพรรคการเมือง ตนเป็นข้าราชการทหาร ก็ทำหน้าที่ของตน ทหารก็ทำหน้าที่ของตัวเอง ตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายกำหนด

‘รร.วัชรวิทยา’ ประกาศชัด ไม่รับฝากนักเรียนเข้าเรียน ชี้!! ถ้ารับฝากแล้ว มันเบียดเบียนคนที่สอบได้

โรงเรียนดังกำแพงเพชร ขึ้นป้ายชัดเจน ไม่รับเด็กฝาก ผอ.ลั่น ถ้ารับฝาก ‘คนสอบไม่ได้’  แล้วจะเอาคนสอบได้ไปไว้ที่ไหน 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “วัชรวิทยา งานเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา” ได้โพสข้อความและภาพติดป้ายหน้าโรงเรียนมีข้อความว่าในข้อความ

“โรงเรียนวัชรวิทยา ไม่รับฝากนักเรียนเข้าเรียน หากพบว่ามีผู้แอบอ้างว่าสามารถฝากหรือเรียกร้องเงิน เพื่อแลกเปลี่ยนการฝากนักเรียนเข้าเรียน ในโรงเรียนวัชรวิทยาได้ ขอให้แจ้งความดำเนินคดีทางกฎหมายได้ทันที”

(29 มี.ค.66) ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปติดตามเรื่องดังกล่าว ที่ โรงเรียนวัชรวิทยา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร พบป้ายไวนิลขนาดใหญ่ติดไว้ประตูทางเข้า และวงเวียนในโรงเรียน พร้อมระบุข้อความชัดเจน ถึงการไม่รับฝากเด็กนักเรียนเข้าศึกษา ของโรงเรียนจริง หลังมีผู้ปกครองพยายามนำบุตรหลานเข้ามาฝากเรียนด้วยเอง หรือแม้กระทั่งให้คนอื่นติดต่อเข้ามา ที่สำคัญมีบางคนไปแอบอ้างรับผลประโยชน์ ว่าสามารถฝากนักเรียนได้

ดร.พัฒนา ทรงประดิษฐ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัชรวิทยา กล่าวว่า โรงเรียนวัชรวิทยา เป็นอีกหนึ่งโรงเรียนในจังหวัดกำแพงเพชร ที่มีผู้ปกครองสนใจอยากส่งบุตรหลานของตนเข้ามาเรียนเป็นจำนวนมาก ตนมองว่าเป็นเรื่องดีและเป็นที่น่าภาคภูมิใจที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับการพัฒนาการศึกษาให้กับเด็ก ๆ แต่ตนไม่รู้สึกสบายใจเลย เมื่อมีการสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียน แล้วมีนักเรียนที่สอบได้จำนวนตามที่ต้องการ

‘มช.’ คว้าอันดับ 1 ของประเทศ ในสาขาวิชา ‘Chemistry-Psychology’ พร้อมทั้งติดอันดับโลกอีก 10 สาขาวิชา ตอกย้ำการเป็นมหาลัยชั้นนำ

มช. คว้าอันดับ 1 ของประเทศในสาขาวิชา Chemistry และ Psychology ทั้งติดอันดับโลกในอีก 10 สาขาวิชา

(28 มี.ค.66) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่สร้างความภาคภูมิใจคว้ารางวัลอันดับ 1 ของประเทศในสาขาวิชา Chemistry และ Psychology จากการจัดอันดับ SClmago Institutions Rankings (SIR) และติดอันดับโลกจำนวน 10 สาขาวิชามากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศ จาก QS World University Rankings ปี 2023 มาครอง พร้อมก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพอยู่เสมอด้วยวิสัยทัศน์มหาวิทยาลัยชั้นนำที่รับผิดชอบต่อสังคมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยนวัตกรรม

การจัดอันดับสถาบันอุดมศึกษาโลก โดย SCImago Institutions Rankings (SIR) 2023 เป็นการจัดอันดับสถาบันด้านการวิจัยทั้งสถาบันอุดมศึกษา สถาบันวิจัย หน่วยงานของรัฐ และบริษัทเอกชน โดยมีตัวชี้วัด 3 ปัจจัย ได้แก่ 1.ด้านการวิจัย (Research Factor 50%) ที่พิจารณาจากจำนวนผลงานการตีพิมพ์เผยแพร่และการถูกอ้างอิงในฐานข้อมูลทางวิชาการ SCOPUS 2.ด้านนวัตกรรม (Innovation Factor 30%) พิจารณาจากจำนวนทรัพย์สินทางปัญญาในฐานข้อมูล PATSTAT และ 3.ด้านสังคม (Societal Factor 20%)

สำหรับผลการจัดอันดับภาพรวม (Overall Rank) ของสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทยติดอันดับจำนวน 30 แห่ง จากสถาบันอุดมศึกษาที่เข้าร่วมการจัดอันดับโลกทั้งหมด 4,533 แห่ง โดยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ อันดับที่ 313 ของเอเชีย อันดับที่ 2,681 ของโลก

และจากการจัดอันดับตามกลุ่มสาขาวิชา (All subject areas) ทั้งหมด 19 กลุ่ม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับการจัดอันดับทุกกลุ่มสาขาวิชา และได้รับการจัดอันดับ Top300 อันดับแรก จำนวน 2 สาขาวิชา คือ Dentistry อันดับ 134 ของโลก และ Veterinary อันดับ 222 ของโลก และในสาขาวิชา Psychology และ Chemistry เป็นอันดับ 1 ของประเทศ

มากไปกว่านั้นเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 ได้มีการประกาศผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกรายสาขาวิชา ประจำปี 2023 โดย QS World University Rankings ซึ่งผลปรากฎว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ติดอันดับโลกในสาขาวิชาเฉพาะ (Narrow Subjects) จำนวน 10 สาขาวิชา จาก 54 สาขาวิชา และสาขาวิชาหลัก (Broad Subjects) จำนวน 2 สาขา จาก 5 สาขาวิชา มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศ

โดยผลการจัดอันดับปี 2023 สาขาวิชาเฉพาะที่มีอันดับดีที่สุดของ มช. ได้แก่ สาขาวิชา Agriculture & Forestry อันดับที่ 151-200 ของโลก และสาขาวิชา Nursing อันดับที่ 151-180 ของโลก อีกทั้งยังมีสาขาวิชา Mathematics ซึ่งได้รับการจัดอันดับเป็นปีแรก โดยถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 451-500 ของโลก โดยทั้ง 3 สาขาวิชาที่กล่าวมานั้น เป็นสาขาวิชาจัดอยู่ในอันดับที่ 2 ของประเทศ ทั้งนี้ มีสาขาวิชาเฉพาะที่มีช่วงอันดับที่ดีขึ้น จำนวน 2 สาขาวิชา ได้แก่ Medicine อันดับ 251-300 ของโลก และ Environmental Sciences อันดับ 401-450 ของโลก


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top