Thursday, 15 May 2025
NEWS FEED

เชียงใหม่-ป.ป.ช. และคณะกรรมการจากองค์กรที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เชียงใหม่ ติดตามตรวจสอบ สังเกตการณ์ การรับนักเรียน

วันที่ 19 มีนาคม 2567 โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ โดย นายพิพัฒน์ สายสอน ผู้อำนวยการโรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ พร้อมด้วยรองผู้อำนวยการโรงเรียน ตัวแทนคณะครู ให้การต้อนรับ นายนิรันดร ศรีภักดี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดเชียงใหม่  และคณะเจ้าพนักงานป้องกันการทุจริต ลงพื้นที่ ติดตาม ตรวจสอบ สังเกตการณ์ดำเนินการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2567 สถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงใหม่ และรายงานการดำเนินการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2567 ให้คณะกรรมการได้รับทราบ  ณ ห้องสารสนเทศ อาคารวัฒนา โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ

โดยมี ดร.ปริศนา วรรณารักษ์ รองผู้อำนวยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงใหม่ ปฏิบัติหน้าที่รองประธานคณะกรรมการรับนักเรียน ระดับเขตพื้นที่การศึกษา นางสุภาภรณ์ อินทมา สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยคณะกรรมการรับนักเรียน ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ได้แก่ ผู้แทนผู้อำนวยการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นายระวี คงภาษี ผอ.รร.สันป่าตองวิทยาคม นายพิพัฒน์ สายสอน ผอ.รร.วัฒโนทัยพายัพ และนางสาวสุปราณี ปัญญานะ ผอ.รร.สันกำแพง ผู้แทนหน่วยการศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่

ได้แก่ นายสุทธิภัทร์พงศ์ สมคำ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ นางสาวฤทัยรัตน์ แสนปวน องค์การบริหารส่วนตำบลดอนแก้ว นายบุญรัตน์ สว่างแจ้ง สำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ และฝ่ายเลขานุการ กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา ร่วมลงพื้นที่ติดตาม สังเกตการณ์ และรายงานข้อมูลการดำเนินการของคณะกรรมการรับนักเรียน ระดับเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อให้สถานศึกษาในสังกัด สพม.เชียงใหม่ ได้รับการติดตาม จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

และเพื่อให้ดำเนินการรับนักเรียนของสถานศึกษาเป็นไปความเรียบร้อย ตามประกาศนโยบายและแนวปฏิบัติการรับนักเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2567 และประกาศแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียนของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงใหม่ ปีการศึกษา 2567 รวมถึงมาตรการป้องกันการทุจริตในการเรียกทรัพย์สินหรือประโยชน์ตอบแทนเพื่อโอกาสในการเข้าเรียนในสถานศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงใหม่ เพื่อให้โอกาสในการเข้าเรียนเป็นไปด้วยความเสมอภาค และยุติธรรม 

พัฒนชัย/เชียงใหม่

ลำปาง-นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนและตรวจเยี่ยมพื้นที่โครงการบริเวณริมแม่น้ำวัง (สะพานดำ)

วันที่ 19 มีนาคม 2567 เวลา 14.00 น.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะ  ลงพื้นที่จังหวัดลำปางเพื่อตรวจเยี่ยมพื้นที่โครงการบริเวณริมแม่น้ำวัง (สะพานดำ)โดยมีนายไพโรจน์ โล่ห์สุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นายกิตติกร โล่ห์สุนทร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง(นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) นายธนาธร โล่ห์สุนทร ส.ส.ลำปาง เขต 2​ นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยนายชนาธิป เสมแย้ม นายพัชระ สิมะเสถียร รองผู้ว่าฯลำปาง พล.ต.พรชัย นพรัตน์ ผบ.มทบ.32 น.ส.ตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร นายก อบจ.ลำปาง นายธนารัฐ สายเทพ นอภ.เมืองลำปาง หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และชาวลำปางร่วมให้การต้อนรับกว่า 1,000 คน โดยนายกรัฐมนตรี ได้เดินทักทายประชาชนอย่างเป็นกันเอง  

นายกรัฐมนตรี ได้รับฟังบรรยายสรุปทิศทางการพัฒนาจังหวัดลำปาง จากนายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง รับฟังข้อเสนอเรื่องการพัฒนาจังหวัดลำปาง ซึ่งเกินศักยภาพของจังหวัด โดยรับฟังสภาพปัญหาและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ จากนั้นนายกิตติกร โล่ห์สุนทร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง , นางสาวตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร นายก อบจ.ลำปาง รายงานข้อมูลโครงการ 2 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมอาคารป้องกันตลิ่งพัง เลียบแม่น้ำวัง เชื่อมระหว่างตำบลปงแสนทอง - ตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมืองลำปาง 2.โครงการปรับปรุงถนนสายทางดอนไชย-กิ่วฝิ่น ทางหลวงท้องถิ่น สายทาง ลป.ถ.1-0040 บ้านดอนไชย-ป่าเหมี้ยง อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง เขตติดก่อบ้านแม่กำปอง จังหวัดเชียงใหม่ และรับฟังรายงานข้อมูลโครงการปรับปรุงและขยายความยาวทางวิ่งท่าอากาศยานลำปาง โดย นายพิษณุ พิจิตร รักษาราชการแทนผู้อำนวยการท่าอากาศยานลำปาง ภายหลังรับฟังบรรยายสรุปข้อมูล นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้ตรวจเยี่ยมพื้นที่โครงการบริเวณริมแม่น้ำวัง

นายเศรษฐา กล่าวว่า การเดินทางมาตรวจราชการและเยี่ยมชาวลำปางในวันนี้ จะได้รับทราบโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมอาคารป้องกันตลิ่งพัง เลียบแม่น้ำวัง เพื่อปรับภูมิทัศน์ตามความเหมาะสม หลังจากรับฟังแล้วขออนุญาตสั่งการลงไป โครงการฯที่เสนอมาในครั้งนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องการ ข้อคิดเห็นของพี่น้องประชาชน ได้พิจารณาสั่งการลงไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงผลสำเร็จในการแก้ไขปัญหาเป็นหลักและใช้งบประมาณอย่างเหมาะสม เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ขยะมูลฝอย ให้ลำปางเป็นเมืองน่าอยู่ และพร้อมยกระดับจากเมืองรองเป็นเมืองหลักเพราะเรามีครบหมดแล้วขนบธรรมเนียม ประเพณีอาหารอร่อย ขอฝากพี่น้องชาวลำปางทุกคนด้วย

กระบี่-พุทธศาสนิกชนส่งเสด็จแน่นสนามบินกระบี่ อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุสู่กรุงเดลี ชาวบ้านโบกธงไทย-อินเดีย 2 ข้างทาง

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ที่บริเวณภายในสนามบินนานาชาติ กระบี่ ซึ่งในวันนี้จะมีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ กลับสู่ประเทศอินเดีย โดยตามกำหนดการเวลา 10.00 น. จะอัญเชิญออกจากห้องมั่นคง วัดมหาธาตุวชิรมงคล อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ มายังสนามบินนานาชาติ กระบี่

บรรยากาศทั่วไป มีประชาชนนุ่งขาวห่มขาว นั่งรอบริเวณหน้าประตูทางเข้าหมายเลข 7 ภายในอาคารสนามบิน โบกสะบัดธงชาติไทยและธงชาติสาธารณรัฐอินเดีย ขณะที่เส้นทางระหว่างวัดมหาธาตุวชิรมงคลสู่สนามบิน มีชาวบ้านยืนรอขบวนอัญเชิญพร้อมดอกไม้ธูปเทียน บางคนถึงกับน้ำตาใหลด้วยความปิตียินดีที่ครั้งหนึ่งในชีวิต ได้มีโอกาสกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ

กระทั่งเวลาราว 10.30 น. นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม, นายนาเคศ สิงห์ (H.E. Mr. Nagesh Singh) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินเดียประจำประเทศไทย, นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่, นายอนุวรรตน์ โหมดพริ้ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ , นางชณิสา หาญภักดีปฏิมา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกระบี่ ,ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980, นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รองเลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 และบุคคลต่างๆ เดินทางมาถึง

ทั้งนี้ เมื่อพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ มาถึงยังสนามบิน ผู้แทนสาธารณรัฐอินเดียจะอัญเชิญเข้าสู่ห้องรับรอง พระเทพวชิรากร รองเจ้าคณะภาค 17  เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุวชิรมงคล ประธานสงฆ์, ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม และบุคคลต่างๆ ร่วมถวายพวงมาลัยดอกไม้สดสักการะ พร้อมทหารกองเกียรติยศจากนั้นได้อัญเชิญสู่เครื่องบินกองทัพอากาศ C130 ของอินเดีย  ไปยังกรุงเดลี สาธารณรัฐอินเดียต่อไป...

กระบี่///ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง รายงาน

ทร. ชี้แจง เหตุปืนเรือหลวงทำงานผิดพลาด ตั้งกรรมการสอบสวนด่วนก่อนย้าย ผบ.เรือ ช่วยราชการกองเรือตรวจอ่าว พร้อมสั่งดูแลทหารบาดเจ็บอย่างใกล้ชิด

เมื่อเวลา 15.00 น. ของวันนี้ 19 มี.ค.67  ที่สโมสรสัญญาบัตรกองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พลเรือเอกชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ กองทัพเรือ พร้อมด้วย พลเรือตรีเฉลิมชัย สวนแก้ว ผู้บัญชาการกองเรือตรวจอ่าว และนาวาเอก ปิยะศักดิ์ นิลนิมิตร รองผู้อำนวยการศูนย์ซ่อมสร้างสรรพาวุธ ร่วมแถลงข่าว กรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวเหตุเพลิงไหม้เรือหลวงชลบุรี จากถูกอาวุธปืนหัวเรือยืงใส่ เรือหลวงคีรีรัฐ ที่เทียบเรืออยู่ด้านหน้าว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.45 น. ของวันที่ 14 มีนาคม 2567 ขณะที่เรือหลวงคีรีรัฐ กำลังจอดเทียบท่าอยู่ที่ บริเวณท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี  ว่า สาเหตุในเบื้องต้น พบว่ามาจากกระสุนปืนขนาด 76 มิลลิเมตร ของเรือหลวงชลบุรี ซึ่งเกิดการขัดข้องและติดค้างอยู่ในตัวปืนขณะทำการฝึกในทะเล เมื่อ 13 มีนาคม 2567 ซึ่ง เรือหลวงชลบุรี ได้ดำเนินการป้องกันอันตรายเบื้องต้น และแล่นเข้าจอดเทียบท่าเรือ และให้เจ้าหน้าที่ช่างปืนมาดำเนินการแก้ไขปัญหา แต่เกิดเหตุปืนลั่นขณะดำเนินการแก้ไข จนทำให้เรือหลวงคีรีรัฐ ได้รับความเสียหายบริเวณท้ายเรือเล็กน้อย แต่เรือยังคงมีขีดความสามารถในการปฏิบัติการได้ตามปกติ โดยไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ ดังกล่าว 

สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บ 14 ราย ส่วนมากเกิดจากการสำลักควันไฟ โดยได้นำผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ในทันทีที่เกิดเหตุและเฝ้าระวังอาการของผู้บาดเจ็บอย่างใกล้ชิด จนปัจจุบันผู้บาดเจ็บทุกนายอยู่ในอาการปลอดภัย สามารถเดินทางกลับบ้านได้แล้ว จำนวน 10 นาย และเฝ้าระวังอีก 4 นาย ทางด้าน พลเรือตรี เฉลิมชัย สวนแก้ว ผู้บัญชาการกองเรือตรวจอ่าว เปิดเผยว่า เรือหลวงชลบุรี ออกปฏิบัติการฝึกซ้อมยิงระเบิดบริเวณหน้า อ่าว ในวันที่ 13 มีนาคม 2567 โดยขณะทำการฝึกพบว่ามีการติดขัดของปืนจำนวนสองครั้ง แต่ก็สามารถซ่อมแซมแก้ไขได้กระทั่งมีปัญหาอีก จึงนำเรือเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมเทียน เพื่อทำการแก้ไข แต่ขณะนั้นได้หันกระบอกปืนตั้งฉาก 45 องศา เพื่อความปลอดภัยต่อมา ได้มีการปรับลดระดับลง 5 องศา เพื่อทำการซ่อมบำรุง แต่เกิดการขัดขัดข้องด้วยปัญหาทางเทคนิค จึงทำให้หัวกระสุนพุ่งไปโดนเรือหลวงคีรีรัฐ ที่บริเวณด้านท้ายเรือ ทำให้เกิดความเสียหาย 4 ห้อง และมีทหารได้รับบาดเจ็บ 14 นาย ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้นใยกรณีดังกล่าว ทาง ผบ.ทร. ได้มอบหมายให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเป็นการเร่งด่วน และรายงานผลให้ทราบภายใน 3 วัน ซึ่งได้รายงานข้อเท็จจริงไปแล้ว       ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าเรือหลวงชลบุรี เป็นเรือหลวงที่มีอายุราชการมานานถึง 10 ปี จึงอาจเกิดข้อขัดข้องขึ้นได้บ้าง  แต่เมื่อมีปัญหาขึ้น ผบ.เรือ ก็จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ 

ปัจจุบันได้ลงนามคำสั่งให้ย้าย ผบ.เรือหลวงชลบุรี มาประจำการที่ กองบัญชาการกองเรือตรวจอ่าวเป็นการชั่วคราว เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง และขอยืนยันว่าจะไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้ขึ้นอีกในกรณีนี้ ถือว่าเป็นบทเรียนสำคัญของกองทัพเรือไทย

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

‘น้องกัปตัน’ เด็กโคราชสุดเจ๋ง!! สอบเข้าเตรียมอุดมฯ อันดับ 1 ของประเทศ

(19 มี.ค.67) ที่ห้องราชสีห์ โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย อ.เมือง จ.นครราชสีมา คณะผู้บริหารโรงเรียน และครู ได้ร่วมแสดงความยินดีกับ เด็กชายธนภัทร วุฒิวรจินดา หรือ น้องกัปตัน อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3/2 โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย ที่สามารถสอบเข้าเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษารุ่นที่ 87 โดยทำคะแนนได้สูงสุดเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศ ในสายวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้กับครู ผู้ปกครอง และชาวโคราชเป็นอย่างมาก

โดยมีนายสุพล เชื่อมพงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย พร้อมคณะผู้บริหารโรงเรียน และครูประจำชั้น ร่วมแสดงความยินดีกับน้องกัปตัน และแม่ของน้องกัปตัน คือนางจุฬาภรณ์ ภัคสิริธนศักดิ์ ซึ่งมาร่วมแสดงความยินดีกับลูกชายด้วย

สำหรับ เด็กชายธนภัทร วุฒิวรจินดา หรือ น้องกัปตัน เป็นเด็กนักเรียนห้องเรียนพิเศษทางวิทยาศาสตร์ รุ่นที่ 16 โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย โดยมีคุณครูกิติมา เจียรสุมัย เป็นหัวหน้าโครงการ ซึ่งน้องกัปตัน เป็นลูกชายคนที่ 2 ของครอบครัว มีไอคิว และอีคิวสูงตั้งแต่เรียนอยู่ระดับชั้นประถมศึกษา ที่โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา ก่อนที่จะสอบเข้าระดับชั้นมัธยมศึกษา ที่โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย และสามารถทำผลการเรียนได้เกรด 4 ทุกรายวิชา ตั้งแต่ระดับชั้น ม.1-ม.3 โดยมีครูที่ปรึกษา ม.1 คือครูทิพย์วรรณ จิรกรวทธิ์, ม.2 ครูอัจรา โทแหล่ง และ ม.3 ครูบุณฑริกา ภัทรจารุ

ซึ่งความเก่งของน้องกัปตัน สร้างผลงานกวาดรางวัลระดับประเทศมาแล้วมากมาย อาทิ ผ่านการคัดเลือกเป็นผู้แทนระดับประเทศ เข้าร่วมแข่งขันวิทยาศาสตร์ ที่ประเทศอินโดนีเซีย ประจำปี 2566, ได้รับรางวัลเหรียญทอง วิชาคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โครงการประเมินและพัฒนาสู่ความเป็นเลิศทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (TEDET) ประจำปี 2566, ได้รับรางวัลชนะเลิศ การทดสอบความรู้และกระบวนการแก้ปัญหาทางเคมี CHEMISTRY ANF EVAUATION TEST ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 การแข่งขันแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ TRI-MATHETICS COMPETITION ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เป็นต้น ที่ล่าสุด น้องกัปตัน จะสอบเรียนต่อได้ที่โรงเรียนกำเนิดวิทย์ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สอบผ่านรอบแรกของโครงการ IJSO และสอบเข้าค่ายคณิตศาสตร์โอลิมปิกค่าย 2 ได้สำเร็จ

ทั้งนี้ เด็กชายธนภัทร วุฒิวรจินดา หรือ น้องกัปตัน เปิดเผยว่า ก่อนสอบได้มีการเตรียมอ่านหนังสือมาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้เข้มงวดนัก เป็นการจัดสรรเวลาในการอ่านหนังสืออย่างเหมาะสม และมีระเบียบวินัยสม่ำเสมอ เมื่อเครียดก็ออกไปเล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆ เพื่อผ่อนคลายตามปกติ โดยมีแม่เป็นคนคอยให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด เมื่อผลสอบออกมาได้อันดับที่ 1 ก็รู้สึกดีใจมาก เพราะไม่คาดคิดว่าจะได้อันดับที่ 1 เลย หลังจากนี้ไปก็จะเลือกโรงเรียนเพื่อเรียนต่อในระดับชั้น ม.4 ซึ่งตนเองก็มีโรงเรียนที่เลือกไว้ในใจแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผย ส่วนอาชีพในฝันนั้น ตอนนี้ยังมีอยู่หลายอาชีพ ซึ่งตนเองก็ขอค้นหาตัวเองในช่วงมัธยมปลายอีกที

ส่วนเคล็ดลับในการเรียนหนังสือให้เก่งๆ ตนเองเชื่อว่าไม่จำเป็นต้องเรียนให้หนักเกินไป พยายามจัดสรรเวลาเรียนกับเวลาพักผ่อนให้เหมาะสม แล้วขอให้มีระเบียบวินัยอย่างสม่ำเสมอ ก็เพียงพอที่จะทำให้เป็นคนเก่งได้แน่นอน

ด้านนางจุฬาภรณ์ ภัคสิริธนศักดิ์ แม่ของน้องกัปตัน กล่าวว่า น้องกัปตันเป็นคนที่มีนิสัยร่าเริง อยู่บ้านก็ไม่ได้กดดันอะไรเขา ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา ทางครอบครัวก็สนับสนุนให้เขาเลือกเรียนได้ตามอิสระ ชื่นชอบอะไรก็สนับสนุนเต็มที่ ตอนสอบเข้าระดับมัธยมศึกษา น้องก็เลือกเองที่จะมาเรียนในโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย จนกระทั่งเลือกเรียนชั้น ม.4 ก็เลือกเองตลอด ซึ่งน้องเป็นคนขยันอ่านหนังสือ ถ้าใกล้จะสอบอะไรแล้ว จะมีความมุ่งมั่นอ่านหนังสืออย่างเต็มที่ ก่อนที่จะสอบเข้าเตรียมอุดมศึกษา ตนเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้อันดับที่ 1 ของประเทศ ตอนแรกคาดว่าติดหนึ่งในร้อยก็ดีใจแล้ว ส่วนพ่อของน้องยังมั่นใจว่าจะต้องติดอันดับต้นๆ แต่ไม่เคยคิดว่าจะได้อันดับในเลขตัวเดียว เมื่อทราบผลออกมาว่าได้อันดับ 1 ของประเทศ ก็ทำให้รู้สึกดีใจมาก และรีบเข้าไปสวมกอด เพื่อให้กำลังใจทันที ส่วนอนาคตของน้องกัปตัน ทางครอบครัวไม่เคยกำหนด แล้วแต่น้องจะเลือกเองเลย ครอบครัวพร้อมสนับสนุนทุกอาชีพที่ลูกอยากจะเป็น

ด้านนายสุพล เชื่อมพงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย กล่าวว่า สำหรับโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัยนั้น ถือว่าเป็นโรงเรียนมัธยมชายล้วนขนาดใหญ่พิเศษ ประจำจังหวัดนครราชสีมา โดยปีการศึกษา 2567 นี้ มีนักเรียนอยู่ทั้งหมดกว่า 4,100 คน ซึ่งทุกปีจะมีนักเรียนที่ทำผลงานสอบเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยชื่อดังทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับการสอบเข้าเรียนต่อในระดับ ม.4 ก็มีผลคะแนนสอบเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ โดยเฉพาะปีนี้ เด็กชายธนภัทร วุฒิวรจินดา หรือน้องกัปตัน นักเรียนชั้น ม.3/2 โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย ที่สามารถสอบเข้าเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษารุ่นที่ 87 โดยทำคะแนนได้สูงสุดเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศ ในสายวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ เป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับโรงเรียน ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้กับครู ผู้ปกครอง และชาวโคราชเป็นอย่างมาก ตนเองในฐานะเป็นผู้บริหารโรงเรียน ก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

#กพ67 พุ่งติดเทรนอันดับ 1 บน X หลังเปิดสมัครสอบ ภาค ก. วันแรกจน ‘เว็บล่ม’

(19 มี.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานแจ้งว่า ตั้งแต่เวลา 8.30 น. ที่ผ่านมา จากกรณีที่ สำนักงานข้าราชการพลเรือน ออกประกาศสำนักงาน ก.พ. เรื่อง รับสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ประจำปี 2567 โดยรับสมัครทางอินเตอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม - 9 เมษายน 2567 พบว่าเว็บไซต์ https://job 3.ocsc.go.th ไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งหน้าเว็บไซต์มีเพียงสีเทาเท่านั้น โดยเว็บไซต์ดังกล่าวทางสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ. เปิดรับสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ภาค ก. รูปแบบ Paper & Pencil ประจำปี 2567 จำนวน 380,000 ที่นั่งสอบ 

ล่าสุด ทำให้ #กพ67 พุ่งขึ้นมาติดอันดับ 1 บนโลกโซเชียลอย่าง X (ทวิตเตอร์) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

‘รมช.อนุชา’ หนุนเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม PGS ขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบ-ชุมชนอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน

(19 มี.ค. 67) นายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์ PGS วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผักปลอดภัย ตำบลบ้านตุ่น อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา หารือกับผู้ประกอบการรับฟังปัญหาเพื่อนำมาสู่การแก้ไข

ทั้งนี้ ได้มีการเปิดพื้นที่แปลงของนายจำนงค์ นาคประดับ หมอดินอาสาจังหวัดพะเยา ซึ่งทำการเกษตรแบบผสมผสานตามแนวคิดทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง เดิมเกษตรกรในพื้นที่ปลูกพืชผัก และมีความสนใจในการทำเกษตรอินทรีย์ นายจำนงค์ จึงได้รวบรวมเกษตรกรมาศึกษาเรียนรู้และเข้าสู่กระบวนการรับรองเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม PGS ที่สนับสนุนโดยสถานีพัฒนาที่ดินพะเยา จัดตั้งเป็นกลุ่มผลิตผักปลอดภัยตำบลบ้านตุ่น ส่งจำหน่ายโรงพยาบาลพะเยา และพัฒนาศูนย์เรียนรู้การพัฒนาที่ดินจอกับปอ โดยเป็นตัวอย่างการทำเกษตรแบบผสมผสานปลูกไม้ผลและพืชผักหลากหลายชนิด มีจุดถ่ายทอดการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ โดยการก่อสร้างฝายชะลอน้ำ พร้อมส่งน้ำด้วยระบบท่อ โดยใช้พลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์ นับเป็นต้นแบบที่ดีในการทำเกษตรอินทรีย์ของคนต้นน้ำ

นอกจากนั้น ยังเป็นศูนย์ฝึกอบรมถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีการพัฒนาที่ดินในพื้นที่ใกล้เคียง ให้สามารถเรียนรู้และนำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ของตนเองได้ โดยมุ่งให้ความรู้เกษตรกรด้านการทำมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาภาคเกษตรกรรมและยกระดับรายได้ของพี่น้องเกษตรกร

นายอนุชา เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาคการเกษตรต้องมีการพัฒนาที่ทันสมัย รวดเร็ว รองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะด้านการพัฒนาที่ดิน เพื่อให้เป็นรากฐานการผลิตที่ยั่งยืน โดยทุกภาคส่วนจำเป็นต้องร่วมกันหาแนวทางปรับเปลี่ยนแนวคิดการทำงาน เพิ่มองค์ความรู้ใหม่ ๆ ปรับเปลี่ยนบริบทภาคเกษตรเพื่อเพิ่ม GDP ภาคเกษตรให้สูงขึ้น อีกทั้ง ต้องร่วมกันขับเคลื่อนการใช้พื้นที่เกษตรให้เต็มศักยภาพ ด้วยการจัดการผลผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพ นำไปสู่การสร้างอาชีพให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หลุดพ้นความยากจน ลดภาระหนี้สิน

รมช.เกษตรฯ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ พร้อมให้การสนับสนุนเพื่อให้เกษตรกรทำเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม โดยเน้นความสำคัญของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภค และบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อร่วมขับเคลื่อนการทำงานอย่างเป็นระบบ นำนวัตกรรม และเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้า พร้อมพัฒนาชุมชนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเกษตรปลอดภัย

“กระทรวงเกษตรฯ มีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตชาวนาไทยให้กินดี อยู่ดี มีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพิ่มขีดความสามารถให้ชาวนาพร้อมรับความเปลี่ยนแปลง นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เน้นการทำเกษตรเชิงรุก ยกระดับจากมาตรฐาน GAP สู่เกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม PGS วิถีชุมชนที่อยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่ของหมอดินอาสาที่มีศักยภาพในการจัดทำแปลงสาธิต และมีความสามารถในการเป็นวิทยากร เพื่อให้ผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาดูงานเรียนรู้จากแปลงต้นแบบและฐานเรียนรู้ ได้อย่างถูกต้อง” นายอนุชา กล่าว

'หมอธีระวัฒน์' ฉะแรง!! นักวิชาการรับเงินต่างชาติ ทำทุกอย่างตามที่สั่ง ถอดรหัสพันธุกรรม สร้างไวรัสใหม่ พอระบาดแล้ว ค่อยสร้างวัคซีน-ยา

(19 มี.ค.67) ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า…

“ถึงเวลาต้องเปิดโปงนักวิชาการโสเภณี รับเงินต่างชาติ ทำทุกอย่าง...ตามที่มันสั่ง เช่น ได้ 3.7 ล้านเหรียญ ตอนแรกได้ 399,743 เหรียญ

ยังมีอีกในห่วงโซ่ธุรกิจข้ามชาติรับใช้ คนให้เงิน หาไวรัส ถอดรหัสพันธุกรรม สร้างไวรัสใหม่ ระบาด แล้วสร้างวัคซีน ยา และยารักษามะเร็งที่สร้างขึ้นแล้วสร้างโรคระบาดใหม่

เป็นคนไทย หรือมาจากนรก?”

สิ้น ‘ดุก คาราบาว’ มือคีย์บอร์ดประจำวง เสียชีวิตลงอย่างเฉียบพลันในวัย 70 ปี

(19 มี.ค. 67) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่โรงพยาบาลแกลง จ.ระยอง หลังได้รับแจ้งว่า นายลือชัย งามสม หรือ ดุก วงคาราบาว มือคีย์บอร์ด ได้เสียชีวิตลงอย่างเฉียบพลัน ที่ จ.ระยอง นายลือชัย งามสม หรือ ดุก คาราบาว เป็นมือคีย์บอร์ด ของวงคาราบาว ร่วมงานกับวงคาราบาวตั้งแต่อัลบั้มวิชาแพะ ในปี พ.ศ. 2534 จนถึง พ.ศ. 2567

จากการสอบถาม นางสาว พัชมณ สรรพคุณ อายุ 54 ปี น้องสาว เล่าให้ทีมข่าวเราฟังว่า นายลือชัย หรือดุก ได้เล่นคอนเสิร์ตครั้งล่าสุดที่เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา ที่โรงเรียนตลิ่งชัน จ.สุพรรณบุรี หลังจากนั้นได้พักอยู่บ้านที่ กทม. และวันที่ 17 มีนาคม นายลือชัย หรือดุกได้เดินทางกลับมาพักที่บ้าน ถนนกระเพรา ต.เนินฆ้อ อ.แกลง จ.ระยอง

เมื่อเวลา 18.00 น. ของวันที่ 18 มีนาคม นายลือชัย หรือดุก ได้เข้าห้องน้ำภายในบ้านนานพอสมควร ตนกับญาติๆ จึงได้เปิดห้องน้ำเข้าไปดู เห็นว่า นายลือชัย หรือดุก นั่งอยู่บนชักโครก ในลักษณะนั่งหงายหลังบนชักโครก พบว่า นายลือชัย หรือดุก แย่นิ่งหมดสติไปแล้ว หลังจากนั้นตนและญาติได้นำตัว นายลือชัย หรือดุก รีบส่ง รพ.แกลง แต่ไม่ทัน และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา เวลา 19.36 น.

จากการสอบถาม นางเพชรรัตน์ งามสม อายุ 70 ปี ภรรยา เล่าให้ทีมข่าวเราฟังว่า นายลือชัย หรือดุก ป่วยเป็นโรคหัวใจ และได้ทำบอลลูนมาแล้วก็เป็นปกติ สามียังคงเล่นคอนเสิร์ตอยู่ตลอดคงเหนื่อย แต่เขามีความสุขของเขา แต่พอไม่สบายก็จะไปหาหมอที่ รพ. ไม่ค่อยฝืนเล่นดนตรี ตนมาทราบข่าวในวันที่สามีเสียชีวิต มีน้องสาวของสามีโทรมาบอก

ทั้งนี้ ทางญาติรับศพออกจาก รพ.แกลง เวลา 11.50 น. และเดินทางโดยมูลนิธิป่อเต๊กตึ้ง เพื่อไปบำเพ็ญกุศลศพ ที่ กทม.

‘หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง’ เปิดภารกิจลดฝุ่นพิษภาคเหนือ เน้นช่วยพื้นที่การเกษตร-ไฟป่า เรียกฝนตกกลางดึกสำเร็จ

เมื่อวานนี้ (18 มี.ค. 67) หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.แพร่ และ จ.เชียงใหม่ มีภารกิจปฏิบัติการฝนหลวงบรรเทาหมอกควันและสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM10 และ PM2.5) โดยใช้เครื่องบิน CASA จำนวน 2 ลำ เครื่องบิน CN จำนวน 1 ลำ ช่วยเหลือพื้นที่ จ.พะเยา แพร่ น่าน

ทั้งนี้ แผนการปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงนี้ จะเน้นช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ประสบปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก และเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้กับเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ และอ่างเก็บน้ำขนาดกลางจำนวน 14 แห่งในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง และมีนโยบายถึงการบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ภาคเหนือ โดยใช้เทคนิคการดัดแปรสภาพอากาศด้วยการโปรยน้ำแข็งแห้ง เพื่อเพิ่มการดูดซับฝุ่นละอองของเมฆให้มากขึ้น

ผลปรากฏว่า วันนี้ (19 มี.ค.67) ฝนที่ตรวจวัดได้จากเรดาร์ บริเวณ จ.พะเยา ในช่วงกลางคืน ในตัวเมืองพะเยาบางแห่งมีฝนตกปานกลาง ถึงหนัก โดยจากการปฏิบัติการฝนหลวง พบมีกลุ่มฝนที่เกิดจากการปฏิบัติการฝนหลวงที่ตกหนักมากที่สุดบริเวณ อ.สอง จ.แพร่ โดยวัดได้จากเรดาร์ มากกว่า 50 มิลลิเมตร ยอดสูงมากกว่า 30,000 ฟุต เส้นผ่านศูนย์กลางกลุ่มฝนมากสุดประมาณ 16 กิโลเมตร และมีอาสาสมัครฝนหลวงส่งภาพฝนตกบริเวณ หมู่ 6 ต.บ้านหนุน อ.สอง จ.แพร่ เพื่อยืนยันฝนตก 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top