Thursday, 15 May 2025
NEWS FEED

สืบนครบาล รวบสาวใหญ่ตระเวนกรีดกระเป๋า เคยก่อเหตุมีหมายจับแต่ก็ยังไม่เลิกก่อเหตุ

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ  พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะผู้สุจริตหาเช้ากินค่ำ

เมื่อวันที่ 16 มี.ค.2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส. ,พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. ,พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บชน. , พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. ปฏิบัติราชการ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พัฒน์พงษ์ กื้อมะโน สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ปฏิบัติราชการ สว.กก.สส.1 พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 2 ดำเนินการเจ้าหน้าที่สืบนครบาล ร่วมกับสายตรวจ สน.พญาไท ได้จับกุมตัว

น.ส.มนัสนันท์ หรือ จรรยพร อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1633/2560 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2560
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ตัวการในข้อหาลักทรัพย์โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น” จากการตรวจสอบในฐานระบบ ยังพบหมายจับติดตัวอีก 1 หมาย ได้แก่ หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.208/2565 ลงวันที่ 23 มี.ค.2565  ซึ่งกระทำความผิดฐาน "ร่วมกันลักทรัพย์โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่นฯ โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป"

พฤติการณ์ในการจับกุม เจ้าพนักงานตำรวจ สืบนครบาล ชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนได้รับเรื่องร้องเรียนมาจากพ่อค้าแม่ค้าขายเสื้อผ้า ย่านประตูน้ำ กรุงเทพ ว่ามีกลุ่มบุคคลแต่งตัวปกปิดตัวตนเดินตระเวนลักทรัพย์ในบริเวณตลาดประตูน้ำ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบดังเหตุดังกล่าว ต่อมาวันที่ 16 มี.ค. 67 เจ้าหน้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมพบหญิงต้องสงสัยแต่งตัวปกปิดตัวตน เจ้าพนักงานชุดจับกุมจึงแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจสอบหญิงคนดังกล่าว และได้นำตัวมาซักถาม จนทราบว่า ชื่อนางสาวมนัสนันท์ หรือ จรรยพร อายุ 54 ปี ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1633/2560 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้อ่านหมายจับและ ให้นางสาวมนัสนันท์ อ่านเองแล้ว ยอมรับว่าเป็นว่าบุคคลตามหมายจับดังกล่าวนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวและทำบันทึกจับกุมที่ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

โดยพฤติการณ์ในการก่อเหตุ เมื่อปี 2559 ผู้ต้องหาเคยก่อเหตุร่วมกับเพื่อนที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ กรีดกระเป๋าผู้เสียหาย ขณะซื้อของแถวตลาดสำเพ็ง จากนั้นได้นำบัตรเอทีเอ็มของผู้เสียหายไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มใกล้จุดเกิดเหตุ 7 ครั้ง ได้เงินไป 1 แสน 4 หมื่นบาท 

สอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ รับว่าไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง โดยร่วมก่อเหตุกับนางกิมเฮงตั้งแต่ปี2559เรื่อยมา ออกตระเวนก่อเหตุตามตลาดประตูน้ำ โบ๊เบ๊ สำเพ็ง ที่มีคนพลุ่กพล่าน และจะแต่งตัวมิดชิดพรางหน้าพรางตัวแบบมุสลิมป้องกันถูกติดตามจับกุม โดยผู้ต้องหาทำหน้าที่เป็นคนกรีดกระเป๋า ส่วนนางกิมเฮงเป็นคนยืนบังให้ เหยื่อที่เลือกจะเป็นผู้หญิงเท่านั้นที่สะพายกระเป๋าข้าง อาศัยจังหวะที่เหยื่อเผลอ ทำธุระ 

พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเตือนภัยพี่น้องประชาชนที่มักชอบไปเดินตลาดที่มีคนจำนวนมาก จะมีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวด้วย จึงขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการดูแลทรัพย์สิน และไม่ควรใส่เครื่องประดับ และของมีค่าติดตัว หากสะพายกระเป๋าควรสะพายไว้ข้างหน้าไม่ควรสะพายไว้ข้างหลัง เพราะคนร้ายอาจแฝงตัวเข้ามาจากด้านหลังเพื่อกรีดกระเป๋าฉกทรัพย์สิน หรือของมีค่าไป

คุณวิชัย ทองแตง  ประธานมูลนิธิหนึ่งน้ำใจ  กล่าวต่อ ภาคีเครือข่ายเชียงใหม่ ร่วมใจขจัด PM 2.5 และลดโลกร้อน

คุณวิชัย ทองแตง ประธานมูลนิธิหนึ่งน้ำใจ กล่าวในโครงการ “หยุดเผา เรารับซื้อ”
 

ขอนแก่น-เตรียมพร้อมระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ช่วงสงกรานต์ 2567

จังหวัดขอนแก่น มีระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ที่มีความเข้มแข็ง มีการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย มาเป็นระยะเวลาถึง 30 ปี ให้บริการแก่ประชาชนที่เจ็บป่วยฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง และมีการออกปฏิบัติการมากที่สุดในประเทศไทย มาเป็นเวลามากกว่า 10 ปี

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่นรายงานว่า ที่ ห้องประชุมจำลองมุ่งการดี (ส่วนหน้า) โรงพยาบาลขอนแก่น เขตเทศบาลนครขอนแก่น นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินและความปลอดภัยทางถนน วุฒิสภา พร้อมด้วยอนุกรรมการ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน และเครือข่ายของโรงพยาบาลขอนแก่น โดยมีนายยุทธพร พิรุณสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น, นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น, นายแพทย์วิทยา ชาติบัญชาชัย ผู้เชี่ยวชาญในคณะที่ปรึกษาขององค์การอนามัยโลก ด้านการป้องกันการบาดเจ็บ พร้อมด้วยบุคลากรโรงพยาบาลขอนแก่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ

นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น กล่าวว่า ปัจจุบัน จังหวัดขอนแก่น มีระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ที่มีความเข้มแข็ง มีการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย มาเป็นระยะเวลาถึง 30 ปี ให้บริการแก่ประชาชนที่เจ็บป่วยฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง และมีการออกปฏิบัติการมากที่สุดในประเทศไทย มาเป็นเวลามากกว่า 10 ปี รวมทั้งยังเป็นสถาบันการฝึกอบรมบุคลากรด้านการแพทย์ในด้านอุบัติเหตุและฉุกเฉินให้แก่บุคลากรในระดับจังหวัด ระดับเขต ระดับประเทศและต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายให้บริการโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง เพิ่มประสิทธิภาพการดูแลรักษาผู้ป่วย ให้มีความทั่วถึง และเท่าเทียม

นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า จังหวัดขอนแก่น มีการเจริญเติบโตทางสังคมเศรษฐกิจ และทางด้านการแพทย์อย่างรวดเร็วซึ่งมีผลกระทบต่อภาวะสุภาพของประชาชนในจังหวัดขอนแก่น และผู้สัญจรเข้ามาในจังหวัดขอนแก่น เมื่อพบผู้บาดเจ็บ และเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถเรียกใช้บริการจากระบบบริการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดขอนแก่นได้อย่างทันท่วงที ซึ่งระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดขอนแก่น มีแนวคิดในการวางแผน การดำเนินงานอย่างจริงจัง เพื่อประชาชนที่ได้รับการบาดเจ็บ และป่วยฉุกเฉิน ได้รับการช่วยเหลือที่รวดเร็ว ปลอดภัย ลดอัตราตายและความพิการตั้งแต่ที่บ้าน หรือ ณ จุดเกิดเหตุอย่างเป็นระบบ

สมาคมชาวจังหวัดชุมพรจัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2566

วันนี้17 มีนาคม 2567 เวลา 09.00 น. สมาคมชาวจังหวัดชุมพรจัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2566  ณ บริษัทบูรพาคอนกรีต แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี โดยมีคณะกรรมการประกอบด้วย พลเอกไพโรจน์ นาคฉัตรีย์  นากสมาคม นายวิชิต ดิลกวิลาศ อุปนายกคนที่ 1 รศ.ดร.บุญยิน จินาจิ้น อุปนายกคนที่ 2 นายชาคริต กฤติยาโชติปกรณ์ อุปนายกคนที่ 3 ดร.สมยศ แสงสุวรรณ อุปนายกคนที่ 4 พลตรีนพสิทธิ์ คงชินศาสตร์ธิติ กรรมการ นายโกสินธ์ จินาอ่อน กรรมการ นายบุญธรรม พรหมภินันท์ จ่าสิบโทปิยะพงษ์ มณีศรี กรรมการ นายบัญชา ตฤษณาภราดร กรรมการ นายชาณุรัช วงศ์จันทร์มณี กรรมการ นายชอบ รสมาลา กรรมการและนายทะเบียน และนายลือชัย มณีศรี กรรมการและเลขาธิการ พร้อมสมาชิกอีก 12 คน ในการประชุมครั้งนี้มีนายอาทิตย์ สินธพานนท์ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ที่ประชุมดำเนินการไปตามระเบียบวาระ 

โดยนายลือชัย มณีศรี กรรมการและเลขาธิการ ได้สรุปผลงานในรอบปี 2566 รวม 27 เรื่อง มีเรื่องที่ควรทราบคือ เมื่อ 21 มิถุนายน 2566 มอบเงินช่วยเหลือนางประนอม ประสารวุฒิ จำนวน 14,000 บาท เนื่องจากถูกไฟไหม้บ้านเลขที่ 18/5 หมู่ที่ 10 ตำบลหาดพันไกร อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร วันที่ 30 กรกฎาคม 2566 อุปนายก 3 คน เข้าร่วมเสวนา เรื่อง ร่วมคิด ติดอาวุธ นำผลไม้ไทยสู่ตลาดจีนตอนใต้ วันที่ 1 กันยายน 2566 มอบเงิน จำนวน 60,500 บาท ให้โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เพื่อเป็นทุนเปิดศูนย์หัวใจ และมอบเงิน 50,000 บาท ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เพื่อมอบต่อให้ประธานสหวิทยาเขตชุมพร 1 และ 2 นำไปมอบให้แก่นักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ วันที่ 24 ธันวาคม 2566 จัดงาน วันสังสรรค์ชาวชุมพร ณ สมาคมชาวปักษ์ใต้ ได้เงิน 54,146 บาท 

นายลือชัย มณีศรี กล่าวว่า ปีนี้สมาคมจะมีอายุครบ 50 ปี ในวันที่ 25 สิงหาคม 2567 ขอให้ที่ประชุมร่วมกันพิจารณาว่า จะจัดงานเฉลิมฉลองกันหรือไม่ รูปแบบใด และเมื่อไหร่ ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่า จะวางแผนโครงสร้างสมาคมเสียใหม่ ส่วนการจัดงานนั้นจัดแน่ภายในปีนี้ ค่อยพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง
หลังเสร็จสิ้นการประชุม พลเอกไพโรจน์ นาคฉัตรีย์ นายกสมาคมชาวจังหวัดชุมพร อวยพรและมอบช่อดอกไม้ให้แก่ รศ.ดร.บุญยิน จินาจิ้น อุปนายกคนที่ 2 เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบ 60 ปี

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์  ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล  กล่าวระหว่างเดินทางไปยังร้านเล่า ถนนนิมมานเหมินท์  เพื่อแจกลายเซ็นให้กับแฟนคลับที่ซื้อหนังสือ 'ไม่สนว่าเก่งมาจากไหน' 

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล 
กล่าวระหว่างเดินทางไปยังร้านเล่า ถนนนิมมานเหมินท์ 
เพื่อแจกลายเซ็นให้กับแฟนคลับที่ซื้อหนังสือ 'ไม่สนว่าเก่งมาจากไหน' 
วันที่ 17 มี.ค.67
 

2 หนุ่มนิวซีแลนด์ กร่าง ล็อคคอทำร้าย-แย่งปืน เจ้าหน้าที่ เหตุไม่พอใจ ที่ตำรวจ เข้าตักเตือนเรื่อง แว้นมอไซซิ่ง ในเขตชุมชน 

(17 มี.ค.67) เวลาประมาณ 15.50 น. นักท่องเที่ยวต่างชาติเหิมเกริม ฝ่าฝืนกฎจราจร ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ซ้ำหนักเข้าแย่งอาวุธปืน ทำร้ายเจ้าพนักงาน ก่อนเกิดเหตุนั้น ด.ต.สมศักดิ์ หนูเอียด ผบ.หมู่ (จร.) สภ.ฉลอง ขณะออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ และอำนวยความสะดวก ให้บริการแก่ประชาชน บริเวณถนนเจ้าฟ้าตะวันออก หน้าสภ.ฉลอง

พบชายต่างชาติ ขับขี่รถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน คือ 1. Mr.HAMISH DAY อายุ 36 ปี สัญชาตินิวซีแลนด์ 2. Mr.OSCAR MATTSON DAY อายุ 38 ปี สัญชาตินิวซีแลนด์ โดยผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้ายและใช้ความเร็วสูงในเขตชุมชน จึงเรียกให้หยุดรถแต่ทั้งสองไม่หยุดและได้หลบหนี

ด.ต.สมศักดิ์ฯ จึงได้ขับรถติดตามเมื่อทั้ง 2 คันจอดได้แสดงอาการโวยวายไม่พอใจเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ได้ทำการถ่ายคลิปเหตุการณ์ผู้ต้องหาทั้งสองคนได้เข้ามาปัดโทรศัพท์เจ้าหน้าที่ขณะถ่ายคลิปและทั้งสองคนได้เข้าทำร้ายและควบคุมตัว ด.ต.สมศักดิ์ฯ และ ได้ยื้อแย่งอาวุธปืนเป็นเหตุให้ปืนลั่นจำนวน 1 นัด เจ้าหน้าที่ในข่ายสภ.ฉลองได้เข้าช่วยเหลือเหตุการณ์ดังกล่าว

และทำการจับกุมผู้ต้องหา ทั้ง 2 ราย สถานที่จับกุม บริเวณริมถนนหน้าร้านกิตติก๋วยเตี๋ยวเป็ด ถนนเจ้าฟ้าตะวันออก ตำบลฉลอง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

เจ้าหน้าที่ฯได้แจ้งข้อกล่าวหา ในความผิดฐาน ร่วมกันชิงทรัพย์,ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่,ร่วมทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่,ร่วมกันพยายามให้ ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำ อันมิชอบด้วยหน้าที่,ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับรถ

จากนั้น เจ้าหน้าที่ฯควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ฉลองดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

‘เศรษฐา’ เผย คุยตัวแทนผู้บริหาร ‘ฟอร์มูล่าอี’ ได้จัดงานแน่ ไม่เกิน 15 ก.พ.68 เพื่อกระตุ้น การท่องเที่ยว ส่งเสริมภาพลักษณ์ การเป็นฮับ รถอีวี ของไทย  

(17 มี.ค.67) ที่โรงแรมอนันตรา เชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังที่ได้พบพูดคุยกับ ตัวแทนผู้บริหารฟอร์มูล่าอี ว่า มีข่าวดี หลังได้พูดคุยและได้ก็มีการกำหนดขั้นตอนต่อไปอย่างชัดเจน ดูสถานที่ สถานที่ ว่าจุดไหนมีความเหมาะสม ซึ่งตอนนี้สถานที่ที่มีความเป็นไปได้สูง คือ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี หรือไม่ก็ที่ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ โดยทางฟอร์มูลล่าจะไปดูเรื่องทางเทคนิคว่าสถานที่ไหนจะเหมาะสมที่สุด

ส่วนเรื่องของเม็ดเงินที่จะตามมา นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้ดู คงต้องไปดูรายละเอียดทั้งหมดและหากจะมีการจัดงานก็คงประมาณต้นปี 2568 แต่คงไม่หลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 เพราะเป็นช่วงฤดูหนาวและยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วย เรื่องของฟอร์มูลล่าอี ส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว ตนเชื่อว่าเรื่องของความเวลาและเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นมิตรกับธรรมชาติและเข้ากับธีมที่ว่ารัฐบาลสนับสนุนให้มีการลงทุนให้ประเทศไทยเป็นฮับของการผลิตรถอีวี และเป็นการส่งเสียงที่ชัดเจน กลับชาวโลกว่าเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก คาดว่าอีกไม่เกิน 60 วัน น่าจะสรุปได้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง และเป็นขั้นตอนเรื่องการต่อรองสัญญากัน

ผู้สื่อข่าวถามว่ามองถึงผล ที่จะตามมาหลังการจัดการแข่งขันอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องของการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มองถึงผลที่จะตามมาชัดเจนคือเรื่องของการท่องเที่ยวเพราะจะได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของจังหวัดเชียงใหม่จะได้เห็นเรื่องวัฒนธรรมในจังหวัดเชียงใหม่และในอดีตคนที่มาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่มาดูเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะทั่วไป แต่เรายังไม่สามารถดึงนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มนึงมาได้ดังนั้นนี่จึงเป็นการเปิดช่องทางใหม่และหวังว่าเมื่อเขามาดูเรื่องการแข่งขันฟอร์มูล่าวัน และเขาก็จะมาดูเรื่องวัฒนธรรมของเราต่อไปได้

เมื่อถามถึงเรื่องการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิง ที่จังหวัดเชียงใหม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าได้ขยายระยะเวลาเรียบร้อยแล้ว ส่วนจะขยายไปทั่วประเทศหรือไม่นั้น ต้องดูเรื่องของโซนนิ่ง เรื่องความเหมาะสม และดูความต้องการของแต่ละพื้นที่ด้วย

'ฟอร์ด ทัตเทพ' เย้ย!! ได้เรียนต่อ ป.โท หลังหนีไปอยู่ต่างประเทศ ฟากสามนิ้วรายอื่น 'ชดใช้กรรม-ติดคุก-อดอาหาร' เรียกร้องต่อ

(17 มี.ค.67) วันนี้มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจอีกครั้ง สำหรับนายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี หรือ ฟอร์ด ทัตเทพ อดีตแกนนำม็อบ 3 นิ้วรุ่นแรก ที่หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ โดยพบว่าเมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าตัวได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เมื่อบ่ายวันนี้ ผมได้รับข่าวดีจากทางอีเมลล์ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญสู่ความฝันของผม ผมได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาต่อระดับปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์จากมหาลัยแห่งหนึ่งในประเทศที่พัฒนาแล้ว รอมานานกว่าสามเดือนกว่าจะทราบผล

ความสำเร็จที่สำคัญครั้งนี้คงจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากปราศจากการสนับสนุนจากคนที่ผมรัก ผมขอขอบคุณเจมส์ คู่ชีวิตผู้เคียงข้างฝ่าฟันทุกอุปสรรคปัญหา ขอขอบคุณคุณพ่อที่สนับสนุนในทุกๆ เส้นทางที่ผมเลือกเดิน และขอขอบคุณญาติสนิท มิตรสหายทุกท่านที่คอยให้กำลังใจผมอยู่เสมอมา และสุดท้าย ขอขอบคุณอาจารย์จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬา และคุณครูจากโรงเรียนเก่าผม ผู้จุดประกายในการศึกษารัฐศาสตร์นี้

นับจากนี้ไป ผมจะขออุทิศตนมุ่งมั่นศึกษาและพัฒนากลไกทางการเมือง เพื่อส่งเสริมประชาธิปไตยและเชิดชูคุณค่าสิทธิมนุษยชน ในฐานะนักเรียนและนักรัฐศาสตร์ ผมยังคงยืนหยัดหลักการที่ว่า สังคมที่เปี่ยมด้วยเสรีภาพและความเท่าเทียมนั้นเป็นไปได้

อย่างไรก็ดีโพสต์ดังกล่าว ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งเข้ามาคอมเมนต์ว่า คุณไม่ได้พูดถึงคนที่ค้ำประกันคุณมาจากมาเลย์เซีย เอาวงเงินในบัญชีค้ำประกันร่วมล้านเหรียญกับ state department รอคอยวันที่คุณจะหนีออกจากมาเลย์เซียได้สำเร็จ จากเผด็จการไทยมาสู่แดนเสรีได้อย่างปลอดภัย รอต้อนรับและไปรับคุณมาจากสนามบินแอลเอเอ็กซ์ ให้ที่พักพิง มาอาศัยใต้ร่มชายคาที่ไม่เคยให้ใครมาพักพิง ให้อาหารมื้อแรก จนกระทั่งมื้อสุดท้ายทีซึ่งคุณและคู่ชีวิตคุณหนีออกจากบ้านไปในกลางดึกเมื่อคุณมีหนทางไป โดยไม่ทิ้งคำขอบคุณ

สำหรับฟอร์ด ทัตเทพ มีคดี 112 ติดตัว จากการจัดชุมนุมและปราศรัยในกิจกรรม “ไปสภาไล่ขี้ข้าศักดินา” ที่หน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2563 แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564 พนักงานสอบสวน สน.บางโพ ได้นัดส่งตัวพร้อมสำนวนให้อัยการ ปรากฏว่าฟอร์ด ทัตเทพ ไม่เข้าพบอัยการตามนัด ท่ามกลางกระแสข่าวว่า ฟอร์ด ทัตเทพลี้ภัยไปแล้ว ต่อมาพบว่าเจ้าตัวหนีไปแคนาดา

ทั้งนี้ฟอร์ดยังเป็นที่รู้จักของสังคมจากกรณีจูบปากกับแฟนหนุ่มโชว์สื่อกลางรัฐสภา ขณะเข้ายื่นกรรมาธิการเพื่อขอแก้กฎหมายคุ้มครองการสมรสในครอบครัวเพศหลากหลาย ช่วงปลายปี 2562 ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าการแสดงออกดังกล่าวเหมาะสมหรือไม่ เพราะเป็นการแสดงออกภายในอาคารรัฐสภาซึ่งถือเป็นสถานที่อันทรงเกียรติ

‘รร.เตรียมอุดมศึกษา’ ประกาศรายชื่อ นักเรียนที่ได้เข้า ม.4 แล้ว พร้อมให้รายงานตัว ทางระบบออนไลน์ ส่วน 18-19 มี.ค. 'วันติดบอร์ด-วันมอบตัว'

(17 มี.ค.67) ประกาศโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เรื่อง ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๗ 

ประกาศ ณ วันที่ ๑๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๗ 

ดูผลส่วนตัว
https://admission.triamudom.ac.th/TMS/ValidateUser.aspx?dir=A&mode=N

รายชื่อผู้สอบได้ทั้งหมด
https://drive.google.com/drive/u/0/folders/1o26wwUcZ3yClm_T4aLW3sMttYqwJLoQo
 

ดร.'สามารถ' ลุ้น!! กทม. ล้างหนี้ BTS ก่อนหมดสัญญาปี 2572  หวั่น!! ชำระหนี้ไม่ครบ ต้องยืดสัญญาสัมปทาน

(17 มี.ค.67) ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีการชำระหนี้คืนของ กทม. ให้กับ BTS ระบุว่า...

ลุ้น ! กทม. ล้างหนี้ BTS ก่อนหมดสัญญาปี 2572
น่าดีใจที่ กทม. เตรียมจ่ายหนี้งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกลให้ BTS ประมาณ 2.3 หมื่นล้าน จากหนี้ทั้งหมดถึงวันนี้ประมาณ 5.3 หมื่นล้าน ไม่รวมหนี้ค่าจ้างเดินรถที่จะเกิดขึ้นจากวันนี้ไปจนถึงวันสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2572 อีกก้อนใหญ่ หาก กทม. สามารถล้างหนี้ได้ก่อนหมดสัญญา หรือหาก กทม. ไม่สามารถล้างหนี้ได้ อะไรจะเกิดขึ้น ?

1. ถึงวันนี้ กทม. เป็นหนี้ BTS เท่าไหร่ ?
ถึงวันนี้ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นหนี้บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย รวมดอกเบี้ยประมาณ 5.3 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วยหนี้งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล (E&M หรือ Electrical and Mechanical) เช่น อาณัติสัญญาณ สื่อสาร ระบบตั๋ว และประตูกั้นชาลา เป็นต้น ประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท และหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงรักษา (O&M หรือ Operation and Maintenance) รวมค่าเช่าขบวนรถไฟฟ้า ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท
หนี้ E&M เริ่มมีตั้งแต่ปี 2559 และได้เพิ่มมากขึ้นเมื่อขยายเส้นทางยาวขึ้น ส่วนหนี้ O&M เริ่มมีตั้งแต่ปี 2560 เมื่อเปิดเดินรถช่วงสถานีสำโรง-สถานีปู่เจ้าสมิงพราย ในวันที่ 3 เมษายน 2560 และหนี้ได้เพิ่มมากขึ้นเมื่อเปิดเดินรถจากสถานีปู่เจ้าสมิงพราย-สถานีเคหะสมุทรปราการ ในวันที่ 6 ธันวาคม 2561 ตามด้วยการเปิดเดินรถจากสถานีหมอชิต-สถานีห้าแยกลาดพร้าว ในวันที่ 9 สิงหาคม 2562 และจากห้าแยกลาดพร้าว-สถานีคูคต ในวันที่ 16 ธันวาคม 2563

2. ความเป็นไปได้ในการจ่ายหนี้โดย กทม.
เวลานี้ กทม. มีความพร้อมที่จะจ่ายหนี้ก้อนแรกค่างานระบบไฟฟ้าและเครื่องกลประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท ส่วนหนี้ค่าจ้างเดินรถที่ถึงเวลานี้มีประมาณ 3 หมื่นล้านบาท กทม. ยังไม่จ่าย เนื่อง
จากยังมีคดีค้างอยู่ที่ศาลปกครอง นอกจากนี้ ยังมีหนี้ค่าจ้างเดินรถที่จะเกิดขึ้นจากวันนี้ไปจนถึงวันสิ้นสุดสัญญาในปี 2572 อีกก้อนใหญ่ ถ้า กทม. ไม่สามารถจ่ายได้ รัฐบาลจะช่วย กทม. หรือไม่ ? 
โอกาสที่จะเกิดขึ้นในการชำระหนี้มีดังนี้

(1) กทม. จะสามารถล้างหนี้ได้ก่อนหมดสัญญาปี 2572
หาก กทม. สามารถชำระหนี้ได้หมดโดย กทม. เอง หรือโดยความช่วยเหลือจากรัฐบาล กทม. ก็ไม่จำเป็นจะต้องขยายสัมปทานให้ BTS แต่ กทม. จะต้องจ้าง BTS ให้เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวรวมทั้งซ่อมบำรุงรักษาไปจนถึงปี 2585 ตามสัญญาจ้างระหว่าง กทม. กับ BTS ที่ทำกันมาหลายปีแล้ว การว่าจ้างส่วนต่อขยายบางช่วงเริ่มตั้งแต่ปี 2555-2585 บางช่วงเริ่มตั้งแต่ปี 2559-2585 และที่สำคัญ ได้ว่าจ้างให้เดินรถส่วนหลักด้วยหลังจากสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2572 จนถึงปี 2585
กรณี กทม. จ้าง BTS ให้เดินรถและซ่อมบำรุงรักษา กทม. จะสามารถกำหนดอัตราค่าโดยสารได้เอง เป็นอิสระจาก BTS ค่าโดยสารอาจจะถูกลงก็ได้ ทั้งนี้ กทม. ควรเก็บค่าโดยสารให้มีรายได้พอที่จะเลี้ยงตัวเอง นั่นคือพอเพียงกับค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงรักษา รวมทั้งค่าซ่อมบำรุงรักษาใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น ค่าเปลี่ยนขบวนรถไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งใช้งานมานานหลายปี

(2) กทม. ไม่สามารถล้างหนี้ได้ก่อนหมดสัญญาปี 2572
ในกรณีที่ กทม. ไม่สามารถชำระหนี้ได้หมดภายในปี 2572 กทม. จะต้องเจราจากับ BTS ให้รับหนี้ที่เหลือแทน ซึ่ง กทม. อาจจะต้องขยายสัมปทานให้ BTS ออกไปตามระยะเวลาที่เหมาะสมกับมูลค่าหนี้ อัตราค่าโดยสาร รวมทั้งผลตอบแทนที่ กทม. จะได้รับจาก BTS

3. สรุป
การแก้ปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียวซึ่งยืดเยื้อมานานหลายปี ถึงเวลานี้พอจะมีความหวัง ไม่ว่า กทม. จะสามารถชำระหนี้ได้หมดก่อนสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2572 หรือไม่ BTS ก็จะยังคงมีบทบาทในรถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อไป 
หาก กทม. สามารถชำระหนี้ได้หมด BTS ก็จะเป็นผู้รับจ้างเดินรถไปจนถึงปี 2585 กทม. จะสามารถกำหนดอัตราค่าโดยสารได้เอง รายได้ทั้งหมดจะเป็นของ โดย กทม. จะต้องแบกรับความเสี่ยงเองทั้งหมด 

หาก กทม. ไม่สามารถชำระหนี้ได้หมด กทม. อาจจะต้องขยายสัมปทานให้ BTS โดย BTS จะต้องรับภาระหนี้แทน กทม. และจะต้องแบกรับความเสี่ยงเองทั้งหมด
อีกไม่นานก็คงรู้ว่า BTS จะมีบทบาทในรถไฟฟ้าสายสีเขียวในฐานะผู้รับจ้างเดินรถ หรือผู้รับสัมปทานแบบเดิมต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top