Friday, 9 May 2025
LITE

28 เมษายน พ.ศ. 2493 ‘วันพระราชพิธีสมรส’ ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ กับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ แบบอย่างแห่งความรักและความผูกพัน วันประวัติศาสตร์ของราชวงศ์จักรีไทย

ในวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2493 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกับ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ วังสระปทุม ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของราชวงศ์จักรีและประเทศไทย

พระราชพิธีครั้งนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนและสื่อมวลชนในประเทศอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเป็นการเฉลิมฉลองการรวมกันของสองพระองค์ที่ถือเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงและความสุขให้แก่ประเทศชาติ โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ได้รับการยกย่องเป็นพระราชินีนาถและทรงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนพระราชกรณียกิจต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ทั้งสองพระองค์ทรงถือเป็นแบบอย่างของความรักชาติและความทุ่มเทในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศไทย การพระราชพิธีสมรสในครั้งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความผูกพันระหว่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินี

เหตุการณ์ดังกล่าวมีความสำคัญไม่เพียงแต่ในด้านการเมืองและการปกครองเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเสาหลักของการปกครองและสังคมไทยที่ยาวนานและมั่นคง

พาเลตต์อายแชโดว์ของ Prada โดดเด่นด้วยเฉดสีและเนื้อสัมผัสที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแฟชั่น

พาเลตต์อายแชโดว์ของ Prada โดดเด่นด้วยเฉดสีและเนื้อสัมผัสที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแฟชั่น เกลี่ยง่าย ติดทน ช้อปได้ที่ M Floor, Beauty Hall, Paragon Department Store
 

นาฬิกาลัคชู สวยเทห์ทันสมัย ลองเข้าไปแวะลองที่ช็อป MCM หรือสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ก็ได้นะ

อยากได้สายนาฬิกาลัคชู สวยเทห์ทันสมัย ลองเข้าไปแวะลองที่ช็อป MCM หรือสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ก็ได้นะ

27 เมษายน พ.ศ. 2382 รัชกาลที่ 3 กับการ ‘ห้ามค้าฝิ่น’ ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ประกาศประวัติศาสตร์ที่วางรากฐานนโยบายควบคุมยาเสพติด

เมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2382 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ทรงมีพระบรมราชโองการให้พิมพ์ประกาศห้ามสูบฝิ่นและค้าฝิ่นในพระราชอาณาจักร ถือเป็นก้าวสำคัญในการควบคุมสารเสพติดในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งในขณะนั้นการใช้ฝิ่นเริ่มแพร่หลายและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน รวมถึงความมั่นคงของเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม

ประกาศดังกล่าวมีเจตนารมณ์เพื่อขจัดภัยจากฝิ่นที่เริ่มทำลายรากฐานของครอบครัวและสังคม โดยเนื้อหาในประกาศระบุชัดถึงโทษของผู้กระทำผิด ทั้งในด้านการครอบครอง ค้า หรือเสพฝิ่น โดยให้ลงโทษตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้เพื่อลดจำนวนผู้เสพและยับยั้งการแพร่ระบาดของฝิ่นในราชอาณาจักร

การประกาศห้ามสูบและค้าฝิ่นครั้งนี้ยังแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และความห่วงใยของรัชกาลที่ 3 ต่อสุขภาพประชาชนและความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง นับเป็นหนึ่งในพระราชกรณียกิจที่สำคัญในด้านสาธารณสุขและการบริหารราชการแผ่นดินในยุคต้นของประเทศไทย

นอกจากนี้ ประกาศดังกล่าวยังสะท้อนถึงการปรับตัวของสยามต่อสถานการณ์โลกในยุคนั้น โดยเฉพาะจากผลกระทบของสงครามฝิ่นในจีน ที่แสดงให้เห็นถึงภัยร้ายแรงของฝิ่นต่อสังคมและประเทศชาติ ซึ่งไทยได้เรียนรู้และเร่งดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะเดียวกันภายในประเทศ

26 เมษายน พ.ศ. 2431 จุดเริ่มต้นแห่งสาธารณสุขไทย รัชกาลที่ 5 ทรงเปิด ‘ศิริราช’ โรงพยาบาลแห่งแรกของชาติ เพื่อดูแลประชาชนทุกชนชั้น

เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2431 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพิธีเปิดโรงพยาบาลศิริราชอย่างเป็นทางการ นับเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกของประเทศไทย ที่จัดตั้งขึ้นด้วยพระราชดำริเพื่อให้บริการรักษาพยาบาลแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง สะท้อนพระมหากรุณาธิคุณและวิสัยทัศน์อันก้าวไกลในด้านสาธารณสุขของพระองค์

โรงพยาบาลศิริราชก่อตั้งขึ้นบนพื้นที่ฝั่งธนบุรี ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนาสถานพยาบาลที่สามารถรองรับผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม ทั้งยังตั้งชื่อเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ พระราชโอรสที่สิ้นพระชนม์ด้วยพระโรคบิดในวัยเยาว์

การเปิดโรงพยาบาลศิริราชถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาระบบสาธารณสุขไทยอย่างมีระบบและยั่งยืน ต่อมาโรงพยาบาลแห่งนี้ได้กลายเป็นสถานศึกษาของแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ เป็นที่ตั้งของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

ตลอดเวลากว่า 130 ปีที่ผ่านมา โรงพยาบาลศิริราชมีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพประชาชนไทย ทั้งในด้านการรักษา การวิจัย และการพัฒนาวิชาชีพทางการแพทย์ พร้อมยึดมั่นในอุดมการณ์การให้บริการด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ สมดังพระราชปณิธานของรัชกาลที่ 5 ที่ทรงวางรากฐานไว้ตั้งแต่วันแรกแห่งการก่อตั้ง

25 เมษายน พ.ศ. 2148 ครบรอบปีที่ 420 วันสวรรคต ‘สมเด็จพระนเรศวรมหาราช’ รำลึกพระมหากษัตริย์ผู้ปลุกสำนึกรักชาติให้คนไทยชั่วนิรันดร์

วันที่ 25 เมษายน พุทธศักราช 2148 เป็นวันสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ไทย เนื่องจากเป็นวันที่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เสด็จสวรรคต ขณะมีพระชนมพรรษา 50 พรรษา ขณะนั้นพระองค์ทรงยกทัพไปยังเมืองหาง เพื่อจะตีเมืองอังวะของพม่า และสวรรคตระหว่างการตั้งทัพอยู่ที่เมืองสวางคบุรี (เมืองสองแควในจังหวัดพิษณุโลกปัจจุบัน)

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถ ทรงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการกอบกู้เอกราชของชาติไทยจากพม่า โดยเฉพาะเหตุการณ์สำคัญคือ ยุทธหัตถี ที่ทรงกระทำกับพระมหาอุปราชาแห่งพม่า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะและอิสรภาพของไทย

พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างของผู้นำที่กล้าหาญ เสียสละ และทรงอุทิศพระวรกายเพื่อบ้านเมืองอย่างแท้จริง ภายใต้การปกครองของพระองค์ ประเทศชาติมีความมั่นคง แข็งแกร่ง และได้รับการฟื้นฟูจากภัยสงคราม จนสามารถยืนหยัดเป็นอิสระได้อีกครั้ง

ปัจจุบัน วันที่ 25 เมษายนของทุกปี ได้รับการน้อมรำลึกในฐานะ วันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีการจัดกิจกรรมวางพวงมาลา พิธีถวายราชสักการะ และจัดงานทางประวัติศาสตร์ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อยกย่องพระเกียรติคุณของพระองค์ และปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนตระหนักถึงคุณค่าของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

ภาชนะใครขนาดใหญ่สุดดดดดดด!!!! รับรางวัล Swensen’s Voucher มูลค่าสูงสุด 30,000 บาท

ภาชนะใครขนาดใหญ่สุดดดดดดด!!!! รับรางวัล Swensen’s Voucher มูลค่าสูงสุด 30,000 บาท
- เลือกภาชนะคู่ใจที่จะมาใส่ไอศกรีม
- เลือกสั่งไอศกรีมรสที่ชอบ (สามารถเลือกได้ทุกรสชาติ) เริ่มต้น 10 สกู๊ป เพียง 199.- / 20 สกู๊ป เพียง 398.- / 30 สกู๊ป เพียง 597.- / 40 สกู๊ป เพียง 796.- / 50 สกู๊ป เพียง 995.- / 100 สกู๊ป เพียง 1,990.- เท่านั้น 
- วัดขนาดภาชนะคู่ใจ* ที่พกมาใส่ไอศกรีม ถ่ายรูปภาชนะคู่กับป้ายกิจกรรม Earth Day หน้าร้านและคอมเมนต์ภาพพร้อมระบุรายละเอียดขนาดของปากภาชนะใต้โพสต์กิจกรรมนี้
* สามารถให้พนักงานที่หน้าสาขาวัดปากภาชนะให้เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมได้เลย!!

รางวัลผู้สร้างสถิติ Swensen’s Love The Earth World Records ด้วยภาชนะขนาดใหญ่ที่สุดจะได้รับรางวัลทั้งหมด 3 อันดับ เป็น...
รางวัลที่ 1 Swensen’s Voucher มูลค่า 30,000 บาท
รางวัลที่ 2 Swensen’s Voucher มูลค่า 20,000 บาท
รางวัลที่ 3 Swensen’s Voucher มูลค่า 10,000 บาท

ระยะเวลาร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย. 68 เวลา 00:00 น. - 23:59 น.
ประกาศผู้โชคดีวันที่ 24 เม.ย. 68 เวลา 18:00 น. ที่ใต้โพสต์ เพจ We Love Swensen's

กลับมาแล้ว!! ใบหยกบุฟเฟต์ ทุเรียนฟีเว่อร์

โปรบุฟเฟต์แห่งปี หนึ่งปีมีครั้งเดียว ใบหยกยืนหนึ่ง จัดอย่างต่อเนื่อง เป็นปีที่ 9 รวม 2 บุฟเฟต์ยอดนิยม บุฟเฟต์ทุเรียน + บุฟเฟต์ทะเลยกชั้น ในราคาเพียง 1,290 บาทเน็ท/ท่าน*

(โปรจำนวนจำกัด เมื่อจองและชำระเงินล่วงหน้า) จากราคาปกติ 1,490 บาทเน็ท/ท่าน

24 เมษายน พ.ศ.2532 36 ปี ‘วันเทศบาล’ จุดเริ่มต้นแห่งการกระจายอำนาจ ที่กลายเป็นหมุดหมายสำคัญของประชาธิปไตยไทย

วันที่ 24 เมษายนของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น 'วันเทศบาล' โดยกระทรวงมหาดไทย เพื่อรำลึกถึงการถือกำเนิดของเทศบาลในประเทศไทย ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2476 หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองใน พ.ศ. 2475 ภายใต้การนำของพระยาพหลพลพยุหเสนา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น โดยมีเป้าหมายเพื่อกระจายอำนาจการปกครองจากส่วนกลางไปสู่ท้องถิ่น และเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารพื้นที่ของตนเองอย่างแท้จริง

ต่อมา กระทรวงมหาดไทยได้ออกประกาศอย่างเป็นทางการ ลงวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2532 กำหนดให้วันที่ 24 เมษายน ของทุกปีเป็น 'วันเทศบาล' เพื่อให้บุคลากรในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตระหนักถึงความสำคัญของบทบาทหน้าที่ ในฐานะผู้ให้บริการประชาชนในชุมชน พร้อมส่งเสริมค่านิยมด้านความรัก ความผูกพัน และความสามัคคีในองค์กร ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างระบบราชการที่เข้มแข็งและเป็นธรรม

เทศบาลไม่เพียงเป็นกลไกทางการปกครอง แต่ยังเป็นหน่วยบริการประชาชนที่อยู่ใกล้ชิดกับวิถีชีวิตของชุมชนมากที่สุด การบริหารจัดการทรัพยากรในพื้นที่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การจัดการขยะ และการส่งเสริมคุณภาพชีวิต ล้วนเป็นภารกิจของเทศบาลที่มีผลกระทบโดยตรงต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีเทศบาลจำนวนทั้งสิ้น 2,472 แห่งทั่วประเทศ สะท้อนถึงความสำคัญของเทศบาลในฐานะฟันเฟืองหลักของการพัฒนาท้องถิ่นและระบบประชาธิปไตยระดับรากฐาน

23 เมษายน พ.ศ. 2159 ‘วิลเลียม เชกสเปียร์’ เกิดและจากไปในวันเดียวกัน ราวกับบทละคร วันแห่งการระลึกถึงผู้ฝากผลงานอันเป็นนิรันดร์ ‘โรมิโอและจูเลียต’

วันที่ 23 เมษายน ค.ศ. 1616 (พ.ศ. 2159) ถือเป็นวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ของโลกวรรณกรรม เนื่องจากเป็นวันที่ วิลเลียม เชกสเปียร์ (William Shakespeare) นักเขียนบทละครและกวีผู้ยิ่งใหญ่ของอังกฤษ ได้เสียชีวิตลง ณ เมืองสแตรตฟอร์ด ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาเอง โดยมีอายุ 52 ปี แม้สาเหตุการเสียชีวิตจะไม่ปรากฏแน่ชัด แต่มีบันทึกระบุว่าเขาถูกฝังในวันที่ 25 เมษายน ณ โบสถ์ โฮลี ทรินิตี้ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเดียวกัน

ทั้งนี้ วิลเลียม เชกสเปียร์ เกิดเมื่อวันที่ 23 เมษายน ค.ศ. 1564 หมายความว่าเขาเกิดและเสียชีวิตในวันเดียวกัน โดยเชกสเปียร์ในตอนที่ยังมีชีวิตเป็นนักเขียนที่มีผลงานที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงในวงการวรรณกรรมโลก ผลงานสุดยอดของเขาได้แก่การประพันธ์ บทละคร (plays) บทกวี (poems) และ โคลง (sonnets) ที่ได้รับการแปลและแสดงในทั่วโลก ซึ่งผลงานของเชกสเปียร์ยังคงมีอิทธิพลต่อวรรณกรรมสมัยใหม่และมีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อวงการละครและการแสดง

สำหรับผลงานที่โดดเด่นที่สุดของเชกสเปียร์คือ “โรมิโอและจูเลียต” (Romeo and Juliet), “แฮมเลต” (Hamlet), “แม็คเบธ” (Macbeth) และ “มคธ” (Macbeth) ที่มีเนื้อหาที่ลึกซึ้งและการพัฒนาอักขระในผลงานของเขาได้สะท้อนถึงชีวิตและสังคมมนุษย์ในยุคของเขาได้อย่างมีเสน่ห์ ซึ่งยังคงเป็นที่รู้จักและถูกแสดงจนถึงปัจจุบัน 

การจากไปของวิลเลียม เชกสเปียร์ในวันที่ 23 เมษายน สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการวรรณกรรมโลก ถึงแม้ว่าจะมีความไม่แน่ชัดเกี่ยวกับเหตุผลที่แท้จริงของการเสียชีวิต แต่การจากไปของเขาในวันเดียวกับ ‘มิเกล เด เซร์บันเตส’ นักเขียนชาวสเปน นับเป็นเหตุการณ์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในวงการวรรณกรรมโลก ทั้งสองคนถือเป็นนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่มีผลกระทบอย่างมากในวงการวรรณกรรมของแต่ละประเทศ

อิ่มเดี่ยวกับพิซซ่าคอมปะนีสุดคุ้ม!!

ไม่มีเพื่อน กินคนเดียวก็ได้ ฟินคนเดียวไม่แบ่งใคร มีให้เลือกถึง 3 รสชาติ ที่ The Pizza Company 1112 ทุกสาขา ทุกช่องทาง

‘เจ โชติกา’ จากธิดาช้าง สู่ตัวแทนโคราชลุ้นมงนางสาวไทย 2568 เปลี่ยนชีวิตจากน้ำหนัก 115 กก. เหลือ 64 กก. เพราะฝันต้องไปให้สุด

(22 เม.ย. 68) ‘เจ’ โชติกา ดอกแก้วกลาง หญิงสาวผู้มีความฝันอันแรงกล้าและหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น นางสาวไทยนครราชสีมา ประจำปี 2568 พร้อมเป็นตัวแทนชาวโคราชเข้าประกวดเวที นางสาวไทยระดับประเทศ ซึ่งจะมีรอบตัดสินในวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ณ เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน

ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2563 ‘น้องเจ’ เคยคว้าตำแหน่ง “ธิดาช้างเมืองย่าไทยแลนด์ 2020” พร้อมมงกุฎ สายสะพาย ถ้วยรางวัล และเงินรางวัล 10,000 บาท สร้างเสียงปรบมือและแรงบันดาลใจให้กับผู้คนจำนวนมากในวันนั้น

และจากวันนั้นถึงวันนี้ น้องเจได้พิสูจน์ตัวเองด้วยการลดน้ำหนักจาก 115 กิโลกรัม เหลือเพียง 64 กิโลกรัม โดยมีเป้าหมายสุดท้ายอยู่ที่ 58 กิโลกรัม เพื่อสุขภาพที่ดีและชีวิตใหม่ที่สดใสยิ่งขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้มาพร้อมการผ่าตัดกระเพาะที่ทำภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทาง เพื่อรักษาโรคเรื้อรังทั้งเบาหวาน ความดัน หัวใจ และไขมันในเลือด

“น้องเจคือภาพแทนของความไม่สมบูรณ์แบบ ที่ยืนอยู่ตรงนี้เพื่อบอกกับทุกคนว่า ความไม่สมบูรณ์แบบไม่เคยพรากคุณค่าจากตัวเราไปได้เลย และความฝันมีไว้ลงมือทำ” เจ โชติกา นางสาวไทยนครราชสีมา 2568 กล่าว 

จากตำแหน่ง "ธิดาช้าง" สู่นางสาวไทยเวทีระดับชาติ เรื่องราวของเธอเป็นเครื่องยืนยันว่า ความสวยไม่ได้วัดที่รูปลักษณ์ภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ใจ ความกล้า และความพยายามไม่หยุดยั้ง

22 เมษายน พ.ศ. 2485 มิตรภาพทางเศรษฐกิจในยามสงคราม วันที่เงินบาทผูกพันกับเงินเยนญี่ปุ่น ข้อตกลงค่าเงินที่เปลี่ยนทิศเศรษฐกิจไทยกลางพายุ ‘สงครามโลกครั้งที่ 2’

​เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2485 (ค.ศ. 1942) ประเทศไทยได้ลงนามในข้อตกลงทางการเงินกับจักรวรรดิญี่ปุ่นว่าด้วยเรื่อง “ข้อตกลงค่าเงินเยน-บาท” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง 

ข้อตกลงนี้มีผลต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการเงินระหว่างสองประเทศในขณะนั้น และสะท้อนถึงบทบาทของไทยในสงครามโลกครั้งที่สองและพัฒนาการของระบบการเงินระหว่างประเทศของไทยในศตวรรษที่ 20​

สาระสำคัญของข้อตกลง ได้แก่

1. การกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเยนกับเงินบาท: กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเยนกับเงินบาทให้คงที่ตามข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับ ซึ่งเป็นการปรับค่าเงินบาทให้มีมูลค่าน้อยลงจากอัตราเดิมที่ 155.7 เยน ต่อ 100 บาท เป็น 100 เยน ต่อ 100 บาท

2. การใช้เงินเยนเป็นสื่อกลางในบางธุรกรรม: ข้อตกลงนี้อนุญาตให้ใช้เงินเยนเป็นสื่อกลางในบางธุรกรรมในเขตที่ญี่ปุ่นมีอิทธิพลหรือควบคุมอยู่ ซึ่งช่วยให้การค้าและการขนส่งสินค้าระหว่างไทยกับญี่ปุ่นในช่วงสงครามเป็นไปได้อย่างสะดวก​

3. การสนับสนุนให้เกิดความสะดวกในการค้าและการขนส่งสินค้า: ช่วยสนับสนุนให้เกิดความสะดวกในการค้าและการขนส่งสินค้าระหว่างไทยกับญี่ปุ่นในช่วงสงคราม ซึ่งเป็นการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศในขณะนั้น

การผูกเงินบาทกับเงินเยนจึงไม่ใช่เพียงมาตรการทางเทคนิคด้านการเงิน หากแต่สะท้อนถึงการเลือกเชิงยุทธศาสตร์ของรัฐบาลไทยในการปรับตัวเข้ากับโครงสร้างอำนาจใหม่ที่ญี่ปุ่นได้กลายเป็นผู้นำของ “ระเบียบใหม่ในเอเชีย” หรือ Greater East Asia Co-Prosperity Sphere

อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงดังกล่าวก่อให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ในภายหลังเกี่ยวกับความเป็นกลางของไทยในสงคราม ตลอดจนสร้างข้อผูกพันที่ส่งผลต่อการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจและการเงินในลักษณะพึ่งพิงคู่ค้าเพียงฝ่ายเดียว ทั้งนี้ เมื่อสงครามสิ้นสุดลงและข้อตกลงดังกล่าวถูกยกเลิก ความจำเป็นเร่งด่วนในการฟื้นฟูความน่าเชื่อถือของระบบการเงินไทยในเวทีระหว่างประเทศจึงกลายเป็นวาระสำคัญของภาครัฐในช่วงหลังสงคราม

ประสบการณ์จากการลงนามในข้อตกลงค่าเงินเยน–บาทในครั้งนั้น กลายเป็นบทเรียนสำคัญที่หล่อหลอมทิศทางของนโยบายการเงินระหว่างประเทศของไทยในยุคสงคราม และมีอิทธิพลต่อวิธีคิดของหน่วยงานด้านเศรษฐกิจการคลังไทยในเรื่องของ “ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ” ซึ่งไม่ใช่เพียงเรื่องของตัวเลข แต่เป็นการวางยุทธศาสตร์ในฐานะประเทศขนาดกลางที่ต้องดำรงอยู่ท่ามกลางแรงดึงจากมหาอำนาจโลก

21 เมษายน พ.ศ. 2325 ครบรอบ 243 ปี แห่งการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ รำลึกพระมหากรุณาธิคุณรัชกาลที่ 1 ผู้ทรงวางรากฐานพระนครใหม่ สู่มหานครแห่งความรุ่งเรืองของแผ่นดินไทย

วันที่ 21 เมษายนของทุกปี ถือเป็นวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เพราะเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) แห่งราชวงศ์จักรี ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดพิธียกเสาหลักเมือง ณ พื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการสถาปนา 'กรุงรัตนโกสินทร์' หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ 'กรุงเทพมหานคร' อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 21 เมษายน พุทธศักราช 2325

การย้ายราชธานีจากฝั่งธนบุรีมายังฝั่งพระนครมีเหตุผลสำคัญทางด้านยุทธศาสตร์ ความมั่นคง และการบริหารราชการ โดยพระองค์ทรงเล็งเห็นว่าพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยามีความเหมาะสมต่อการพัฒนากรุงใหม่ให้มั่นคงและรุ่งเรือง ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การปกครอง และวัฒนธรรม

พิธียกเสาหลักเมือง หรือ 'พิธีฝังหลักเมือง' เป็นพิธีกรรมสำคัญในวัฒนธรรมไทยและอินโดจีน ซึ่งสื่อถึงการกำหนดศูนย์กลางของเมืองใหม่ โดยมีความเชื่อว่าหลักเมืองเป็นที่สถิตของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จะปกปักรักษาบ้านเมือง

เสาหลักเมืองกรุงเทพฯ ที่ฝังเมื่อปี พ.ศ. 2325 ถูกบรรจุไว้ในศาลหลักเมืองซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามพระบรมมหาราชวังในปัจจุบัน ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยและนักท่องเที่ยวให้ความเคารพนับถืออย่างยิ่ง

นับตั้งแต่การสถาปนา กรุงรัตนโกสินทร์ได้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งอำนาจ วัฒนธรรม ศิลปะ และศาสนาของประเทศ โดยผ่านการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน กรุงรัตนโกสินทร์ไม่เพียงเป็นเมืองหลวงทางกายภาพ แต่ยังเป็นหัวใจของความเป็นไทยในหลากหลายมิติ ทั้งประวัติศาสตร์ ราชประเพณี และความรุ่งเรืองของราชอาณาจักรไทย

ทั้งนี้ ในทุกปี วันที่ 21 เมษายน จะมีการจัดกิจกรรมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของรัชกาลที่ 1 และราชวงศ์จักรี รวมถึงการสืบสานวัฒนธรรมไทย เช่น พิธีบวงสรวงที่ศาลหลักเมือง ขบวนแห่ เครื่องสักการะ และกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งเปิดโอกาสให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ร่วมเฉลิมฉลองและเรียนรู้รากเหง้าทางประวัติศาสตร์ของชาติ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top