Sunday, 6 July 2025
NEWS FEED

‘กระทรวงวัฒนธรรมเขมร’ แถลงโต้!! ‘แพทองธาร’ ยัน!! กลุ่มปราสาทตาเมือน อยู่ในเขตอธิปไตยกัมพูชา

(5 ก.ค. 68) เว็บไซต์ข่าว Khmer Times อ้างคำแถลงจากกระทรวงวัฒนธรรมและศิลปกรรมแห่งกัมพูชาวานนี้ (4 ก.ค.) ซึ่งระบุว่า กระทรวงฯ ขอปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อคำกล่าวอ้างของ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมของไทย เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่ระบุว่ากลุ่มปราสาทตาเมือน อยู่ภายใต้อธิปไตยของประเทศไทย และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505

กระทรวงวัฒนธรรมและศิลปกรรมแห่งกัมพูชาได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์เมื่อคืนวันศุกร์ (4) ว่า การที่ไทยอ้างกรรมสิทธิ์เหนือกลุ่มปราสาทตาเมือนเพียงฝ่ายเดียว โดยอาศัยแผนที่ที่ร่างขึ้นฝ่ายเดียวนั้น 'ไม่มีน้ำหนักทางกฎหมาย' หรือความชอบธรรมใดๆ และยังขัดแย้งกับเนื้อหาในบันทึกความเข้าใจ (MoU) ปี 2543 ระหว่างทั้งสองฝ่าย ซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเคารพและใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ตามเจตนารมณ์ของสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยาม ปี ค.ศ. 1904 และสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยาม ปี ค.ศ. 1907 ซึ่งยังคงมีผลบังคับใช้อยู่

กระทรวงฯ ยังยืนยันด้วยว่า จากสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยามในปี ค.ศ. 1904 และ 1907 รวมถึงแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ดังกล่าวข้างต้น กลุ่มปราสาทตาเมือนตั้งอยู่ในเขตอธิปไตยของราชอาณาจักรกัมพูชาโดยสมบูรณ์ นอกจากนี้ กลุ่มปราสาทตาเมือนยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอุดรมีชัย และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นส่วนหนึ่งของมรดกแห่งชาติกัมพูชาแล้ว

กระทรวงวัฒนธรรมและศิลปกรรมกัมพูชาเรียกร้องให้กระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยเคารพหลักการสากล เพื่อรักษาศักดิ์ศรีและความเป็นมืออาชีพที่ถูกคาดหวังจากสถาบันทางวัฒนธรรมในทุก ๆ ประเทศ

“ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น เราขอแจ้งให้ผู้ชมทั้งในประเทศและต่างประเทศทราบด้วยความเคารพ”

ท่าทีของฝ่ายกัมพูชามีขึ้นหลังจากที่ น.ส. แพทองธาร ชินวัตรนายกรัฐมนตรี และ รมว.วัฒนธรรม ได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรมเมื่อวันศุกร์ (4) และมีการอ้างถึงมติ ครม.สมัยนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ที่เห็นชอบให้ส่งมอบโบราณวัตถุ 20 รายการแก่กัมพูชาตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ หลังจากกรมศิลปากรและคณะผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าวัตถุโบราณมีต้นกำเนิดในกัมพูชา และปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการจัดสรรงบประมาณของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ในการจัดส่งคืน ซึ่งได้รับรายงานว่า งบประมาณในปีปัจจุบันไม่เพียงพอในการขนส่ง และไม่เป็นเรื่องเร่งด่วนในการของบกลาง จึงอาจจะทบทวนเรื่องนี้ ต้องส่งเรื่องเพื่อขอตั้งงบประมาณของกระทรวงและรายงานต่อครม.เพื่อทราบ ในการหาหน่วยงาน หรือที่มาของงบประมาณที่จะจัดสรรงบประมาณต่อไปในการส่งคืน

“ที่สำคัญเนื่องด้วยสถานการณ์ไทยกัมพูชา ทางกระทรวงวัฒนธรรม จึงมีความเห็นในการทบทวนเรื่องดังกล่าวตามความเหมาะสมต่อไป บทสรุปคือ ทบทวนก่อนแล้วค่อยว่ากันเรื่องตั้งงบ ที่เหลืออยู่ยังไม่ส่งคืนก่อน"

น.ส.แพทองธาร ยังกล่าวด้วยว่า ประเด็นเรื่องโบราณสถานในกลุ่มปราสาทตาเมือน กระทรวงวัฒนธรรมขอยืนยันว่ากลุ่มปราสาทตาเมือนเป็นโบราณสถานที่อยู่ในอำนาจอธิปไตยของไทย และมีการประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน พ.ศ. 2505 แล้ว ในส่วนพื้นที่พิพาทอื่นได้รับรายงานจากกระทรวงการต่างประเทศว่า จะเร่งดำเนินการในการรักษาไว้ซึ่งดินแดนและอำนาจอธิปไตยของไทยเช่นกัน

เชียงใหม่- พิธีมอบเงินสงเคราะห์ ให้เเก่บุพพาการีทุพพลภาพ เเละบุตรที่มีความต้องการพิเศษของกำลังพล มทบ.33 ประจำปี 2568

เมื่อวานนี้ (4 ก.ค. 68) เวลา 10.30 น พล.ต.ธีระ ผดุงสุนทร ผบ.มทบ.33 พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชา และ พ.อ.หญิง อรอุมา อุตรพงศ์ รองประธานสมาคมแม่บ้าน ทบ. สาขา มทบ.33 พร้อมคณะฯ ร่วมพิธีมอบเงินสงเคราะห์ ให้เเก่บุพพาการีทุพพลภาพ เเละบุตรที่มีความต้องการพิเศษของกำลังพล มทบ.33 ประจำปี 2568 พร้อมทั้งมอบกายอุปกรณ์ ประเภท รถเข็นนั่ง, ไม้ค้ำช่วยเดิน, ของเล่นเสริมพัฒนาการ ณ ศาสนสถานค่ายกาวิละ อ.เมือง จว.ช.ม.

ผู้สูงอายุ และบุตรหลานที่มีความต้องการพิเศษ โดยการมอบสิ่งของและเงินช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

 


  

สีจิ้นผิง ไม่ไปประชุม BRICS ที่บราซิลด้วยตัวเอง การประชุม G20 ที่อินเดีย ก็ไม่ไปเอง จีน ต้องการส่งสัญญาณอะไร มากกว่านั้น

(5 ก.ค. 68) รองศาสตราจารย์ ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Aksornsri Phanishsarn ระบุว่า …

สีจิ้นผิง ไม่ไปประชุม BRICS ที่บราซิลด้วยตัวเอง 
แต่ส่ง หลี่เฉียง ไปแทน 
การประชุม G20 ที่อินเดีย ก็ไม่ไปเอง 
ส่ง หลี่เฉียง ไปเช่นกัน 
ไม่ใช่ว่า BRICS ไม่สำคัญ แต่ 
จีน ต้องการส่งสัญญาณอะไร มากกว่านั้น

ไม่ใช่แค่ #สีจิ้นผิง   แต่สุดซี้จีน #ปูติน   ก็ไม่ไปร่วมประชุม BRICS summit ด้วยตัวเองในรอบนี้ คำถาม คือ #อินเดีย เป็นตัวถ่วงใน BRICS หรือไม่ 

ไม่ใช่ว่า #BRICS ไม่สำคัญสำหรับจีน แต่มีตัวปัญหาอื่นในกลุ่มหรือไม่   #อินเดีย (แว่วมาว่า อินเดีย คือ ตัวขวางไม่ให้ #ไทย ได้เป็นสมาชิก BRICS แบบ full member ทั้งๆ ที่ จีนสนับสนุนไทยเต็มที่)

เรื่อง #ความปลอดภัย ก็เป็นอีกเหตุผลทั้งสีจิ้นผิงและปูติน ไม่ไปประชุม BRICS ที่ #บราซิล เป็นเจ้าภาพปีนี้ เกรงว่า บราซิลอาจจะไม่เป็นมืออาชีพมากพอ (สีจิ้นผิงเคยมีประสบการณ์ไม่น่าประทับใจเรื่องระบบความปลอดภัย ตอนที่ #แอฟริกาใต้ เป็นเจ้าภาพประชุม BRICS เมื่อปี 2023)

#ความปลอดภัย ต้องมาก่อน !! ชมคลิป #สีจิ้นผิง เคยมีประสบการณ์ไม่น่าประทับใจกับระบบความปลอดภัยที่ไม่เป็นมืออาชีพของประเทศ #แอฟริกาใต้ ในฐานะเป็นเจ้าภาพประชุม BRICS เมื่อปี 2023

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติชื่นชมนักเรียนนายสิบตำรวจ 9 นาย มี Mindset ความเป็นตำรวจ พบอุบัติเหตุซึ่งหน้า รีบให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บทันท่วงที  

(5 ก.ค. 68) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ชื่นชมนักเรียนนายสิบตำรวจ (นสต.) ที่เข้าให้ความช่วยเหลือกรณีเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 18.00 น. โดยขณะที่นักเรียนนายสิบตำรวจ ศูนย์ฝึกอบรมกลาง กองร้อยที่ 1 และ กองร้อยที่ 2 รวม 9 นาย ประกอบด้วย นสต.เกริกเกียรติ จำนงจิต , นสต.ณัฐพงศ์ แพงมาก , นสต.ยศกร เพชรกาศ , นสต.วงศ์วรัณ มณีฉาย , นสต.อิทธิชัย นพรัตน์ ประกอบด้วย นสต.วรพล ลาพรมมา , นสต.วัฒนา พูนอยู่ , นสต.วุฒิชัย พาโคตร และ นสต.สรวิศ พรมรินทร์ ยืนรอรถโดยสารบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อเดินทางกลับที่พัก ได้พบเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บในที่เกิดเหตุ นักเรียนนายสิบตำรวจ ทัง 9 นาย จึงได้ร่วมกันให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในเบื้องต้น แจ้งประสานหน่วยกู้ภัย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ สถานการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยการกระทำดังกล่าวเป็นการแสดงออกถึงความมีน้ำใจ และจิตสาธารณะต่อสังคม เป็นต้นแบบและเป็นแบบอย่างที่ดี ตาม Mindset แนวคิดใหม่ของความเป็นตำรวจตามที่มอบแนวนโยบายไว้ 

ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการกำชับหน่วยที่มีภารกิจเกี่ยวกับการศึกษา การเรียนการสอน การฝึกอบรม ต้องให้ความสำคัญกับบุคลากรทางการศึกษา ครูฝึก ผู้บรรยายให้ความรู้ด้านต่าง ๆ รวมทั้งฝ่ายปกครองที่เป็นต้นแบบในการขัดเกลา หล่อหลอม ปลูกฝังการเป็นตำรวจที่ดีให้สมกับการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง เพื่อสร้างบุคลากรที่มีความสามารถและแนวคิดให้กับข้าราชการตำรวจ ในส่วนของนักเรียนหรือผู้เข้ารับการฝึกอบรมทุกหลักสูตรซึ่งเป็นกำลังหลักของข้าราชการตำรวจ ต้องยึดมั่นในหลักกฎหมาย มีภาวะผู้นำ ดำรงตนด้วยหลักคุณธรรม จริยธรรม พร้อมปกป้อง รักษา ภาพลักษณ์ และชื่อเสียง ให้เป็นแบบอย่างแก่ข้าราชการตำรวจและพี่น้องประชาชน ให้สมกับการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง 

ด้าน พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา กล่าวว่า ในส่วนของกองบัญชาการศึกษา ในฐานะเป็นหน่วยที่มีภารกิจเกี่ยวกับการศึกษา การเรียนการสอน การฝึกอบรม ได้ขับเคลื่อนข้อสั่งการของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอย่างต่อเนื่องและเคร่งครัด การเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บของนักเรียนนายสิบตำรวจในครั้งนี้ เป็นการปฏิบัติตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยยึดหลักปรับแนวคิดใหม่ มี Mindset 6 ด้าน ตามข้อสั่งการของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งนักเรียนนายสิบตำรวจทั้ง 9 นาย ได้รับการถ่ายทอดปลูกฝังจากครูฝึก แล้วนำเอามาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงขอชื่นชมนักเรียนนายสิบตำรวจทั้ง 9 นาย ในการให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที เป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชนได้อย่างแท้จริง และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักเรียนนายสิบตำรวจที่จะก้าวเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่มีคุณภาพต่อไป

ผบ.ตร.สร้างขวัญกำลังใจตำรวจ เปิด 900 อัตรา สร้างความก้าวหน้าชั้นประทวนวุฒินิติศาสตร์สามารถสอบเลื่อนเป็นสัญญาบัตร ตำแหน่งพนักงานสอบสวน  แก้ปัญหาการแคลน

(5 ก.ค. 68) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล (ผบช.สกพ.) และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ขับเคลื่อนการปฏิบัติราชการตาม 15 นโยบายสำคัญของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะนโยบายข้อที่ 5 เรื่องการพัฒนางานสอบสวนและยกระดับมาตรฐานความยุติธรรม รวมถึงนโยบายข้อที่ 12 การบริหารจัดการบุคลากรและงบประมาณอย่างคุ้มค่า เพื่อให้การสอบสวนคดีมีความรวดเร็ว เป็นธรรม โปร่งใส และตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในส่วนนี้โดยเฉพาะปัญหาพนักงานสอบสวน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้ความสำคัญมาต่อเนื่อง จัดประชุมหารือร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิ ส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะแก้ไขให้ตรงจุด ทั้งการขาดแคลน ขวัญกำลังใจในการทำงาน เพื่อเกิดประโยชน์ต่อพนักงานสอบสวนและประชาชนให้มากที่สุด 

สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กันอัตราเงินเดือนไว้เพิ่มเติม จำนวน 900 อัตรา เพื่อเปิดรับสมัครสอบคัดเลือกบรรจุเป็นพนักงานสอบสวน  ผบ.ตร.เห็นความสำคัญของข้าราชการตำรวจชั้นประทวน จึงมีนโยบายสนับสนุนความก้าวหน้าแก่ข้าราชการตำรวจชั้นประทวนที่มีวุฒินิติศาสตรบัณฑิต ให้สามารถสอบเลื่อนชั้นเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรได้ในตำแหน่งพนักงานสอบสวนทั้ง 900 นาย เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้ตำรวจ และแก้ปัญหาการขาดแคลนพนักงานสอบสวนด้วย 

นอกจากนี้ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินมาตรการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ในตำแหน่งพนักงานสอบสวนอย่างต่อเนื่อง ภายใต้มาตรการบริหารจัดการกำลังคนภาครัฐ และภายในกรอบงบประมาณที่ได้รับจัดสรร โดยปัจจุบันมีผู้ผ่านการสอบคัดเลือกอยู่ระหว่างการฝึกอบรม จำนวน 1,174 นาย ซึ่งคาดว่าจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ประมาณเดือนมีนาคม 2569
    
พล.ต.ท.อาชยน กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินมาตรการดังกล่าว นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนพนักงานสอบสวนและลดภาระงานที่หนักแล้ว ยังเป็นไปตามนโยบายข้อที่ 14 ของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในการสร้างขวัญและกำลังใจแก่บุคลากรผู้ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อยกระดับคุณภาพการบริการประชาชนให้ได้มาตรฐานและสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม

สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอยืนยันความมุ่งมั่นในการพัฒนาบุคลากรและเพิ่มประสิทธิภาพ การปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่มีคุณภาพและความเป็นธรรมอย่างแท้จริง

‘เอกนัฏ’ ฟาด!! รีไซเคิล EEC เถื่อน นำเข้ากากขยะพิษ อุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ ลุย!! ธุรกิจรักษ์โลกจอมปลอม ทำลายสิ่งแวดล้อม ลั่น!! ไม่หยุดจนกว่าจะสุดซอย

(5 ก.ค. 68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีการลักลอบนำเข้ากากอุตสาหกรรมของผู้ประกอบการที่กระทำอย่างผิดกฎหมาย โดยมีใจความว่า

‘ปิดประตูตีมาร’

ที่ผ่านมาประเทศไทยปล่อยปละละเลยการควบคุมภาคอุตสาหกรรม จนถูกโลกมองว่าเป็นทางผ่านของสินค้าสวมสิทธิ์ เป็นที่ดั๊มสินค้าเถื่อนด้อยคุณภาพ เป็นกองขยะ เป็นสวรรค์ของอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญที่ไร้ความรับผิดชอบ

โดยเฉพาะในพื้นที่โซน EEC ที่มีการออกใบอนุญาตโรงงานรีไซเคิลสะสมมาหลายปีจนล้นความต้องการ ฉากหน้าเป็นธุรกิจรักษ์โลก แต่ของจริง กลับเป็นธุรกิจรับกำจัดกากแบบเถื่อน ๆ ไม่จัดการของเสียในประเทศอย่างถูกต้อง แถมไปร่วมขบวนการนำเข้ากากพิษผิดกฎหมายมาเพิ่ม

ผมและทีม #สุดซอย ยิ่งขุดยิ่งพบ ล่าสุดพบว่ามีการลักลอบนำกากอุตสาหกรรมไปฝั่งใต้ดินปริมาณมหาศาลประมาณ 50,000 ตัน ใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ทั้งๆที่ในบริเวณใกล้เคียงมีโรงงานที่ได้รับอนุญาตในกลุ่มรีไซเคิลกว่า 40 โรงงาน

เราคงปล่อยให้ความผิดถูกซุกไว้แบบนี้ต่อไปไม่ได้ กรณีนี้ ผมได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและขยายผล ให้ทางบก.ปทส. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ DSI เข้ามาร่วมดำเนินคดี

และอย่าคิดว่าจะรอดพ้นไปได้…

ดูตัวอย่างบริษัท ที แอนด์ ที เวสท์ แมเนจเม้นท์ 2017 จำกัด ขาใหญ่ที่พบหลักฐานการร่วมขบวนการลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก ถูกออกคำสั่งให้ปิดและเพิกถอนใบอนุญาต ใช้อำนาจรัฐมนตรีพิจารณายกอุทธรณ์และทำหนังสือแจ้งผลถึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตัดไฟ ยกระดับเป็นคดีพิเศษ ส่งคดีให้ DSI ขยายผลไปถึงเครือข่ายอิทธิพล เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จนกระทั่งปัจจุบัน อัยการได้ส่งฟ้องต่อศาลแล้ว

ถึงเวลาแล้ว…

ในโซน EEC ที่มีการออกใบอนุญาตเกินความต้องการ และพบว่ามีการลักลอบประกอบกิจการผิดกฎหมายอย่างแพร่หลาย 

ผมให้นโยบาย #ปิดประตูตีมาร ระงับการออกใบอนุญาต ปูพรมตรวจการประกอบกิจการของโรงงานที่ได้ใบอนุญาตไปทั้งหมด หากพบว่าไม่ดำเนินการให้ถูกต้อง ก็ต้องหยุด ปรับปรุง ไม่ก็ปิด เพิกถอนใบอนุญาต ดำเนินคดีตามลำดับ

เราต้องเร่งคืนพื้นที่ปลอดภัย บังคับใช้กฎหมายกับทุนเทา เพื่อสร้างโอกาสให้อุตสาหกรรมสีเขียวในไทย ได้เกิดใหม่ ทุกวันเวลา ทุกวินาทีมีค่า… ผมจะไม่หยุดจนกว่าจะสุดซอยครับ

ผู้บริหาร ARIP วิเคราะห์!! ความเสี่ยงเชิงยุทธศาสตร์ ในยุคเทคโนโลยีแบ่งขั้ว โลก AI ไม่ได้วัดกันที่ใครเร็วที่สุด แต่ใครจะอยู่รอด ปรับตัวได้ในทุกสถานการณ์

(5 ก.ค. 68) นายปฐม อินทโรดม กรรมการผู้จัดการ บมจ. เออาร์ไอพี (ARIP) ผู้จัดงานคอมมาร์ท ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

เมื่อ NVIDIA หายไป: ความเสี่ยงเชิงยุทธศาสตร์ของ AI ไทยในยุคเทคโนโลยีแบ่งขั้ว

ประเทศไทยอาจถูกอเมริกาแบนการส่งออกเทคโนโลยีชั้นสูง โดยเฉพาะชิป GPU ของ NVIDIA ผู้ผลิตชิปกลุ่ม GPU (Graphic Processing Unit) โดยเฉพาะรุ่นเรือธงอย่าง A100, H100 และล่าสุดคือ Blackwell B200 ที่เป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนโมเดล AI ตั้งแต่ OpenAI, Google ไปจนถึงบริษัทหน้าใหม่ทั่วโลก รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ มหาวิทยาลัย และสตาร์ตอัปด้าน DeepTech ความได้เปรียบของ NVIDIA ไม่ได้อยู่ที่แค่ 'ความแรง' แต่รวมถึง ecosystem ทั้งซอฟต์แวร์ (CUDA, TensorRT), เฟรมเวิร์ก, ไลบรารี และการสนับสนุนโมเดล AI ที่ครบวงจร จนถูกมองว่าใครไม่มี NVIDIA ก็เหมือนนักแข่ง F1 ที่ไม่มีเครื่องยนต์ หากเราถูกแบนจริงจะเกิดผลกระทบหลายด้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้…

1. การพัฒนาด้าน AI หยุดชะงัก
หน่วยงานวิจัย มหาวิทยาลัย และสตาร์ตอัป AI ในไทย พึ่งพา GPU จาก NVIDIA ในการเทรนโมเดลและทดลองงานวิจัย หากไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีดังกล่าวได้
• งานวิจัยจะต้องลดขนาดโมเดลหรือรันบนโครงสร้างที่ล้าหลัง
• ไม่สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ในด้านความแม่นยำ ความเร็ว และนวัตกรรม
• ลดความสามารถในการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์พื้นฐาน เช่น Natural Language Processing, Computer Vision, หรือ Generative AI

2. Cloud Provider ในไทยชะงัก
ผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ในไทยต่างลงทุนใน GPU cluster สำหรับ AI Cloud ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ NVIDIA หากถูกแบน
• บริการ AI-as-a-Service จะไม่สามารถขยาย capacity ได้
• ลูกค้ารายใหญ่จะย้าย workload ไปยังต่างประเทศ เช่น AWS, Azure, Google Cloud ซึ่งยังเข้าถึง NVIDIA ได้
• ความมั่นคงของข้อมูลภาครัฐและองค์กรไทยจะเสี่ยงจากการย้ายศูนย์ประมวลผลออกนอกประเทศ

3. อุตสาหกรรม AI ด้านสุขภาพ เกษตร และโลจิสติกส์ ได้รับผลกระทบ
ประเทศไทยกำลังใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในภาคเศรษฐกิจที่เป็นจุดแข็ง เช่น
• วิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ด้วย Deep Learning
• ตรวจวัดคุณภาพดินหรือพืชผ่านภาพถ่ายดาวเทียม
• วางแผนเส้นทางขนส่งแบบ Real-time ด้วย AI
การขาดชิปที่แรงพอจะทำให้โมเดลเหล่านี้ไม่สามารถพัฒนาและนำมาใช้งานได้ในระดับที่ควรจะเป็น

4. กระทบเป้าหมายการเป็น AI Nation ของไทย
รัฐบาลไทยตั้งเป้าให้ AI เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล โดยสนับสนุนทั้งแผนยุทธศาสตร์ AI แห่งชาติ และการจัดตั้งศูนย์ประมวลผล AI ภายในประเทศ หากถูกตัดการเข้าถึงชิป NVIDIA
• แผนงานต่าง ๆ จะล่าช้า
• ความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติใน ecosystem AI ไทยจะลดลง
• เราอาจตกขบวน Digital Transformation ครั้งสำคัญของโลก
ทางเลือกที่อาจต้องพิจารณา: พึ่งพาจีน?

เมื่อไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีจากตะวันตกได้ ทางเลือกหนึ่งคือหันไปพึ่งพา เทคโนโลยีจากจีน ซึ่งพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่น:

Huawei Kunlun & Ascend AI chips
• Huawei ได้พัฒนา Kunlun และ Ascend series ซึ่งรองรับ AI workload และมี framework ของตัวเองชื่อ MindSpore
• แม้ยังตามหลัง NVIDIA อยู่หลายปี แต่กำลังเร่งความเร็วในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
• เริ่มมีผู้ให้บริการคลาวด์ในจีนและตะวันออกกลางใช้งานแล้ว

สถาปัตยกรรมอื่น เช่น Alibaba T-Head, Biren, หรือ Loongson
• แม้ยังไม่เป็นที่แพร่หลายนอกจีน แต่ในแง่ของ “เอาตัวรอด” ก็อาจเป็นทางเลือกที่ต้องเริ่มศึกษา
• ความท้าทายอยู่ที่ ecosystem และการหานักพัฒนาที่เข้าใจ tools เหล่านี้

ความมั่นคงทางเทคโนโลยีคือความมั่นคงของชาติ
ประเทศไทยไม่ควรผูกอนาคตไว้กับผู้ขายรายเดียว แม้ NVIDIA จะยังเป็นเบอร์หนึ่ง แต่ความเสี่ยงจากภูมิรัฐศาสตร์ทำให้เราควรวางแผนสำรองไว้ เช่น
• ลงทุนใน Open Source AI Model ที่ไม่ต้องการทรัพยากรมาก
• สนับสนุนการศึกษาและ R&D ด้าน RISC-V, ARM-based AI, และ Edge Computing
• วางยุทธศาสตร์ร่วมกับพันธมิตรในเอเชีย เช่น จีน อินเดีย หรือสิงคโปร์ เพื่อสร้าง AI Resilience

โลกในยุค AI ไม่ได้วัดกันที่ใครเร็วที่สุด แต่ใครจะ 'อยู่รอด' และปรับตัวได้เร็วกว่าในทุกสถานการณ์และการเตรียมพร้อมทางเทคโนโลยีก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่อาจมองข้ามได้อีกต่อไป

เชียงใหม่-คณะพยาบาลศาสตร์ มช.มอบหมวกและติดเข็มชั้นปี ประจำปีการศึกษา 2568

ชีวิตเธอมีคุณค่า มวลประชาเขารออยู่
รอเธอเป็นผู้ก้าวไป 
ดั่งมวลดอกไม้ที่งอกงาม
ยามถึงคราวชูช่อใบ ไปเถิดจงไปทั่วแดน
อยากให้เธอเป็นเทียนเล่มน้อยที่ส่องเสียง สู่หนทางมืดมน
เทียนสว่างไสว อยู่ในใจผู้คน ตราบจน นิรันดร 

คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดพิธีมอบหมวกและเข็มชั้นปีแก่นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 ประจำปีการศึกษา 2568 (Capping and Pinning Ceremony 2025) โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุภารัตน์ วังศรีคูณ คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ เป็นประธาน ภายในงานได้รับเกียรติจาก ผู้แทนหัวหน้าฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ผู้แทนสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคเหนือ นายกสมาคมศิษย์เก่าพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วยคณาจารย์ บุคลากร นักศึกษา และ ผู้ปกครองของนักศึกษา ร่วมแสดงความยินดีอย่างอบอุ่น ณ ห้องประชุมวิจิตร ศรีสุพรรณ อาคาร 2 เมื่อวันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม 2568

พิธีมอบหมวกและเข็มชั้นปีเป็นพิธีการที่สำคัญถือปฏิบัติก่อนการขึ้นฝึกปฏิบัติงานบนหอผู้ป่วย แสดงถึงเอกลักษณ์อันทรงเกียรติในวิชาชีพพยาบาล เพื่อเตรียมความพร้อมของนักศึกษาเข้าสู่วิชาชีพการพยาบาลอย่างสมภาคภูมิ โดยนักศึกษาพยาบาลจะให้การปฏิบัติการพยาบาล รวมทั้งดูแลผู้ป่วยในสถานการณ์จริง ทั้งนี้นักศึกษาพยาบาลที่เข้ารับมอบหมวกและเข็มชั้นปีต้องศึกษาภาคทฤษฎีและสอบผ่านรายวิชาการพยาบาลพื้นฐานครบถ้วน จึงจะสามารถฝึกปฏิบัติการพยาบาลกับผู้รับบริการในสถานบริการสุขภาพได้

พล.อ.ณัฐพล ชี้แจง!! กรณีให้สัมภาษณ์คลาดเคลื่อน ยัน!! ไม่ได้เอ่ยถึง ‘พล.อ.เตีย เซ็ยฮา’ ของกัมพูชา

(5 ก.ค. 68) จากกรณีที่ถ้อยคำการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 68 ถูกตีความคลาดเคลื่อนและสร้างความเข้าใจผิดในสังคม พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ ผู้อำนวยการศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผอ.ศบ.ทก.) ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง

พล.อ.ณัฐพล ย้ำว่าการพูดคุยดังกล่าวเป็นการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อหาทางออกร่วมกันด้วยความจริงใจ และยืนยันว่า

ไม่ได้กล่าวถึง พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แต่อย่างใด

"ขอความเชื่อมั่นและไว้ใจว่าผมในฐานะ ผอ.ศบ.ทก. จะดำเนินการอย่าง 'รอบคอบ รอบด้าน ใช้สติ สร้างสันติ' นำความสงบสุขกลับคืนมาสู่แผ่นดินไทย และก้าวสู่กลไกการพูดคุยที่มีศักยภาพบนพื้นฐานของความจริงใจและไว้เนื้อเชื่อใจกันต่อไป" พล.อ.ณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย

เชียงใหม่- 'พิธีปิดการฝึกทหารใหม่ และ การฝึกทหารใหม่เฉพาะหน้าที่ รุ่นปี 2568 ผลัดที่ 1 และกิจกรรมวันเปิดบ้านทหารใหม่ (Open House)'

เมื่อวานนี้ (4 ก.ค.68) เวลา 09.00 น.  พล.ต. ธีระ ผดุงสุนทร ผบ.มทบ.33 เป็นประธานในพิธีปิดการฝึกทหารใหม่ และการฝึกทหารใหม่เฉพาะหน้าที่ รุ่นปี 2568 ผลัดที่ 1 และกิจกรรมเปิดบ้านทหารใหม่ (Open House) ของหน่วยฝึกทหารใหม่ มทบ.33 และหน่วยฝึกทหารใหม่ พัน.มทบ.33 ในการนี้ได้กรุณามอบเกียรติบัตรแก่กำลังพลดีเด่นของทั้ง 2 หน่วยฝึก จำนวน 12 นาย และได้กรุณากล่าวให้โอวาทกับทหารใหม่ และกล่าวต้อนรับญาติทหารใหม่ ในโอกาสมารับทหารใหม่จบการฝึกฯ โดยมีญาติทหารใหม่ที่ให้ความสนใจเข้าร่วมกว่า 150 คน

การจัดกิจกรรมเปิดบ้านทหารใหม่ (Open House) รุ่นปี 2568 ผลัดที่ 1 หน่วยได้ จัดชุดการแสดง ดังนี้
- ชุดการแสดงท่าอาวุธประกอบดนตรี Fancy Drill
- ชุดการแสดงยิงปืนฉับพลัน
- การช่วยเหลือผู้ประสบภัย
- ชุดการแสดงของหมวดสุนัขทหาร ในการค้นหาสารเสพติด
พร้อมทั้งหน่วยได้จัดชุดเสนารักษ์และรถครัวสนามให้บริการกับญาติทหารใหม่ ณ หน่วยฝึกทหารใหม่ มทบ.33 และหน่วยฝึกทหารใหม่ พัน.มทบ.33 ค่ายกาวิละ ต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top