Thursday, 13 February 2025
NEWS FEED

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สรุปผลการปฏิบัติ 7 มาตรการเข้มข้น หลังขีดเส้นตาย 7 วัน  ปฏิบัติการเชิงรุกตั้งแต่ก่อนเข้าประเทศ เอ็กซเรย์ทุกพื้นที่ สกัดกั้นชายแดน ปรับแผนรองรับ  กวาดล้างคอลเซ็นเตอร์และบังคับใช้กฎหมายเด็ดขาดทุกราย

(3 ก.พ. 68) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  แถลงผลการปฏิบัติ 7 มาตรการเข้มข้นในการแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวถูกหลอกลวง นับตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2568 ได้ประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และคนต่างด้าวถูกหลอกลวง หรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ และขีดเส้นตาย 7 วันให้ทุกหน่วยดำเนินการ โดยมีกรณีพื้นที่ ภ.6 มีคำสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง (สภ.แม่สอด สภ.แม่ระมาด สภ.พบพระ) และออกคำสั่งให้ไปช่วยราชการ ศปก.ภ.6 ทันที โดยขาดจาก ต้นสังกัดเดิม  

ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้มีหนังสือสั่งการกำหนด 7 มาตรการเข้มข้น ให้ปฏิบัติอย่างชัดเจน  โดยมีผลการปฏิบัติ ห้วงระหว่าง วันที่ 20-31 มกราคม 2568 ดังนี้ 
1.มาตรการก่อนคนต่างด้าวเดินทางเข้าประเทศไทย : การประสานและสืบสวนหาข่าวร่วมกับหน่วยงานด้านการข่าว สมาชิก INTERPOL และประสานงานช่องทางกงสุล (ฝ่ายตำรวจ/ทูตฝ่ายตำรวจ) เชื่อมโยงข้อมูลคนต่างด้าวไปยังหน่วยตำรวจพื้นที่และจุดตรวจ และประสานงานด้านการสืบสวนหาข่าวสืบสวนจับกุมคนต่างด้าวที่กระทำความผิด

2. มาตรการ ณ ท่าอากาศยาน และด่านตรวจคนเข้าเมือง(ชายแดน) : ตรวจสอบและบันทึกข้อมูลบุคคลเฝ้าระวัง ปฏิเสธการเข้าเมือง สืบสวนในพื้นที่ท่าอากาศยาน และตรวจคัดกรองคนต่างด้าวชายแดน ตรวจสอบ/จับกุมยานพาหนะบริเวณท่าอากาศยาน โดยประสานกับการท่าอากาศยาน ศุลกากร ตำรวจท่องเที่ยวและตรวจคนเข้าเมือง

3. มาตรการตั้งจุดตรวจเส้นทางการเดินทางจากท่าอากาศยาน/ด่านตรวจคนเข้าเมืองไปยังพื้นที่เฝ้าระวัง : ตั้งจุดตรวจความมั่นคง จุดตรวจ จุดสกัด จุดกวดขันวินัยจราจร โดยใช้รูปแบบใยแมงมุมและเหลื่อมเวลาการปฏิบัติ ประชาสัมพันธ์คนต่างด้าวเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้าใจและ ไม่ประสงค์เดินทางไปพื้นที่เสี่ยงต่อไป

4. มาตรการตรวจสอบที่พัก พื้นที่ท่องเที่ยว สกัดกั้นพื้นที่ชายแดน : ตรวจสอบที่พัก ช่องทางเข้า-ออกชายแดน ประชาสัมพันธ์พื้นที่ท่องเที่ยว ตลอดจนสกัดกั้นลาดตระเวน ช่องทางธรรมชาติ ท่าข้ามต่าง ๆ 

5. มาตรการเชิงรุกในการตรวจสอบเส้นทางและจุดพักคอย : ตรวจสอบปั๊มน้ำมัน จุดพักรถ สถานีขนส่ง สถานที่ที่พักคอย พักค้างแรมชั่วคราว

6.มาตรการเข้มข้นในพื้นที่ชายแดน  ตรวจสอบพื้นที่เสี่ยง/เฝ้าระวังที่จะข้ามไปชายแดน :ตรวจสอบที่พักในแนวชายแดน สืบสวนหาข่าว (IPB) ตรวจสอบป้ายทะเบียนรถและใบหน้าบุคคล ประสานงานและบูรณาการตรวจร่วมหน่วยความมั่นคง ลาดตระเวน ตรวจร่วมบริเวณชายแดน  ท่าข้าม และตรวจสอบยานพาหนะข้ามแดน 

7.มาตรการประสานงาน ให้ความช่วยเหลือ และสืบสวนขยายผล: ประสานงานให้ความช่วยเหลือคนต่างด้าวจากประเทศต้นทางและได้ประชุมหารือความร่วมมือระหว่างประเทศปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและอาชญากรรมออนไลน์ โดยมีเอกอัครราชทูตประเทศ 16 ประเทศ UNODC และกระทรวงความมั่งคงสาธารณะจีน ในความร่วมในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทุกมิติ

 สรุปผลการตรวจสอบและประชาสัมพันธ์ คนต่างด้าว 7,076 ราย จับกุมคนต่างด้าวผิดกฎหมาย 524 ราย ปฏิเสธการเข้าเมือง 92 ราย เพิกถอนการอนุญาต 11 ราย จับกุมยานพาหนะ(เสี่ยง) 72 คัน ตั้งจุดตรวจ จำนวน 2,218 จุด ตรวจสอบยาพาหนะ 286,886 (ในเส้นทาง 268,429 คัน และพาหนะข้ามแดน 18,457 คัน) ตรวจสอบป้ายทะเบียนรถและใบหน้าบุคคล 20,665 ข้อมูล ตรวจสอบสถานที่พัก สถานีขนส่ง จุดพัก ช่องทางธรรมชาติ ท่าข้ามต่าง ๆ กว่า 2,204 แห่ง จำนวน 3,379 ครั้ง

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าผู้กระทำความผิดมีการเปลี่ยนเส้นทางและพยายามจะขนย้ายอุปกรณ์ เปลี่ยนสถานที่ในการกระทำความผิด จะได้วิเคราะห์ข้อมูลและปรับแผนการปฏิบัติ ตรวจสอบและจับกุมดำเนินการตามกฎหมายโดยเด็ดขาดทุกราย หากพบเจ้าหน้าที่ปล่อยปะละเลย หรือเข้าไปยุ่งเกี่ยว พัวพัน ประพฤติมิชอบ จะดำเนินการโดยทันที

ผบ.ตร.เปิดโครงการอาหารกลางวัน ลดภาระค่าใช้จ่าย เป็นสวัสดิการให้กับข้าราชการตำรวจหน่วยงานที่มีสถานที่ทำการอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

(3 ก.พ. 68 ) เวลา 11.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธาน เปิดโครงการอาหารกลางวันสำหรับข้าราชการตำรวจในหน่วยงานที่มีสถานที่ทำการตั้งอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568  เพื่อช่วยเหลือลดภาระค่าใช้จ่าย เป็นสวัสดิการให้กับข้าราชการตำรวจนอกเหนือจากการที่ทางราชการจัดให้ สร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ ตลอดจนเสริมสร้างสัมพันธภาพอันดีระหว่างข้าราชการตำรวจ และช่วยสนับสนุนปฏิบัติงานของทางราชการ โดยมี พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. , ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล/โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ , ผู้บัญชาการ และผู้บังคับบัญชาหน่วยงานต่างๆ ที่มีที่ตั้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมพิธี 

พล.ต.ท.อาชยนฯ กล่าวว่า ด้วยสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ค่าครองชีพสูงขึ้นตามลำดับ ทำให้การใช้จ่ายแต่ละเรื่องจะต้องรอบคอบและรัดกุม ทำให้ภาระการใช้จ่ายของข้าราชการตำรวจเพิ่มมากขึ้น โดยตามนโยบายการบริหารราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ข้อ 15 ด้านสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับข้าราชการตำรวจ จึงได้จัดทำ “โครงการอาหารกลางวัน สำหรับข้าราชการตำรวจในหน่วยงานที่มีสถานที่ทำการตั้งอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ซึ่งมีการกำหนดระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2569 โดยจะมีการแจกคูปองเงินสด จำนวน 200 บาทต่อคนต่อเดือน ให้กับข้าราชการตำรวจระดับผู้บังคับหมู่ถึงรองผู้กำกับการ จำนวน 34,554 นาย เพื่อนำไปซื้ออาหารในโภชนาคารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นไปตามระเบียบสวัสดิการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2568

สาวซื้อหมึกย่าง เปิดถุง!! เจอครบเซต ทั้ง ‘สำเนาบัตรปชช.–เอกสารผู้ป่วย’

(2 ก.พ. 68) สาวซื้อหมึกย่าง เปิดถุงเจอสำเนาบัตรปชช.-เอกสารผู้ป่วย ชาวเน็ตถาม ความเป็นส่วนตัวอยู่ไหน

เรียกได้ว่าเจอ บ่อยจนชาวบ้านชักเริ่มชิน กับข้อมูลส่วนตัวจากเอกสารสำคัญที่ไปโผล่บนถุงกล้วยทอด ล่าสุด โผล่อีกบนถุงหมึกย่าง ครบทั้งข้อมูลผู้ป่วย สำเนาบัตรประชาชน

โดยผู้ใช้สื่อโซเชียลรายหนึ่งได้โพสต์ในกลุ่ม ‘พวกเราคือผู้บริโภค’ โดยระบุข้อความว่า 

“ซองปลาหมึกย่าง แถวประชาอุทิศ เอกสารผู้ป่วยเอย สำเนาบัตร ปชช. เอย”

โดยหลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไปก็ได้มีผู้ใช้สื่อโซเชียลรายอื่นๆ เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า 

“Privacy อยู่ไหน”

สมุทรปราการ-ครอบครัวพาณิชย์พิศาล ร่วมกับชมรมโฮปฯ จัดตั้งโรงทาน แจกข้าวสารช่วยเหลือผู้ยากไร้

(2 ก.พ. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าของวันนี้ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 ครอบครัวพาณิชย์พิศาล โดย นายอัครนันท์ พร้อมด้วย นางธัญยธรณ์ พาณิชย์พิศาล นายธนิตพงษ์ นางทิพย์ประภา วรัณวงศ์เจริญ และนางสาวปิยนุช พาณิชย์พิศาล ประธานชมรมโฮปสะพานบุญแห่งความหวังและศรัทธา

เดินทางไปยังศาลเจ้าไต้ฮงกง ถนนท้ายบ้าน อ.เมือง สมุทรปราการ เพื่อกราบสักการะขอพรองค์หลวงปู่ไต้ฮงกงเพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ ทางครอบครัวพาณิชย์พิศาลยังได้มีการจัดตั้งโรงทาน ด้วยการนำไอศครีม และก๋วยเตี๋ยวเป็ดเจ ร้านเฮง เฮง 168 ข้างโรงพยาบาลเมืองสมุทร นำมาแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนที่เดินทางมากราบขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้ รวมถึงประชาชนในระแวกใกล้เคียงได้กินฟรีอีกด้วย 

จากนั้น ในช่วงบ่ายนางสาวปิยนุช พาณิชย์พิศาล ประธานชมรมโฮปสะพานบุญแห่งความหวังและศรัทธา นำคณะเจ้าหน้าที่โฮปฯ เดินทางไปยังวัดหัวลำภูทองสิบสองธันวาราม ถนนสุขุมวิท ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง สมุทรปราการ เพื่อนำข้าวสารและน้ำดื่มไปมอบให้กับผู้สูงอายุ และประชาชนในชุมชนคลองหัวลำภู จำนวน 200 คน เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ยากไร้ในชุมชนแห่งนี้ โดยมีทางคณะกรรมการชุมชนร่วมให้การต้อนรับและร่วมกันแจกจ่ายข้าวสาร พร้อมด้วยน้ำดื่มให้แก่ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ภายในชุมชนแห่งนี้

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

ผู้ช่วย ผบ.ตร.และคณะ ให้กำลังใจตำรวจไทยโชว์ศักยภาพในการแข่งขัน UAE SWAT CHALLENGE 2025 ณ นครดูไบ

วันแรกทำคะแนนเยี่ยมเป็นลำดับที่ 4 พร้อมใช้โอกาสนี้กระชับความสัมพันธ์และเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ 

พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล , พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวม 9 นาย เดินทางเข้าร่วมชมการแข่งขัน UAE SWAT CHALLENGE 2025 ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อให้กำลังใจนักกีฬาตำรวจไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้ง 3 ทีม ซึ่งเข้าร่วมการแข่งขันระหว่างวันที่ 1-5 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งการแข่งขัน UAE SWAT CHALLENGE 2025 เป็นเวทีสำคัญที่แสดงถึงความสามารถของตำรวจไทยในการปฏิบัติภารกิจยุทธวิธีในระดับสากล พร้อมทั้งเป็นโอกาสในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านความมั่นคงกับหน่วยงานตำรวจนานาชาติ 

วานนี้ (1 กุมภาพันธ์ 2568) เป็นการแข่งขันในวันแรก โดยก่อนการแข่งขันคณะผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ให้กำลังใจนักกีฬา โดยทีมตำรวจไทย 2 ทีมที่แข่งขันในช่วงเช้า ได้แก่ ทีม C (ทีมตำรวจหญิง) ลงแข่งเป็นลำดับที่ 9 , ทีม A ลงแข่งเป็นลำดับที่ 13 และทีม B ลงแข่งขันในช่วงบ่าย จากนั้นคณะเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขัน UAE SWAT CHALLENGE 2025 โดยมีผู้บัญชาการตำรวจดูไบเป็นประธาน ผลการแข่งขันวันที่ 1 ตำรวจไทยทำผลงานน่าประทับใจ โดย Stage 1 : Assault Event (สถานการณ์โจมตี) จากทั้งหมด 105 ทีมที่เข้าร่วม ปรากฏว่าทีมตำรวจไทย ทีม B คว้าอันดับที่ 4 ทำเวลา 1.43.61 นาที , ทีม C (ตำรวจหญิง) คว้าอันดับที่ 32 ทำเวลา 2.19.15 นาที , ทีม A คว้าอันดับที่ 34 ทำเวลา 2.25.32 นาที 

นอกจากนี้ พล.ต.ท.สำราญฯ และคณะ ยังได้พบกับ พล.ท.อับดุลลาห์ คาลิฟา อัล มาร์รี (Lieutenant General Abdullah Khalifa Al Marri) ผู้บัญชาการตำรวจนครดูไบ พร้อมเยี่ยมชม สถานีตำรวจอัจฉริยะ (Smart Police Station) ในย่าน Al Seef ซึ่งเป็นสถานีตำรวจไร้เจ้าหน้าที่ ซึ่งเปิดให้ประชาชนแจ้งเหตุและดำเนินการต่าง ๆ ผ่านระบบตู้คีออส (kiosk) และในช่วงบ่าย คณะได้เดินทางไปให้กำลังใจทีม B ที่ลงแข่งขัน และพบกับ Mr. Andrew Kamarchevakul เจ้าหน้าที่ประสานงานจาก NYPD ประจำนครดูไบ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านความร่วมมือทางการบังคับใช้กฎหมาย ก่อนเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำตามคำเชิญของ น.ส.นิภา นิรันดร์นุต กงสุลใหญ่ ณ นครดูไบ ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการหารือประเด็นความร่วมมือด้านความมั่นคง โดยเฉพาะการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าและค้ายาเสพติด รวมถึงการค้ามนุษย์ในลักษณะถูกหลอกมาค้าประเวณี โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ เพื่อยกระดับมาตรฐานความมั่นคงของประเทศให้ทัดเทียมระดับสากล

สำนักงานตำรวจแห่งชาติตีแผ่ 5 กลลวงมิจฉาชีพ หลอกทำงานชายแดน สุดท้ายตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์

(2 ก.พ. 68) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้หน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติบริเวณแนวชายแดนอย่างเป็นรูปธรรม โดยในห้วงที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่ามีพี่น้องประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางผ่านบริเวณแนวชายแดนเพื่อไปทำงานในองค์กรอาชญากรรม ซึ่งมีทั้งผู้ที่เดินทางไปโดยสมัครใจและผู้ที่ถูกหลอกลวง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงขอตีแผ่ 5 กลลวงมิจฉาชีพที่หลอกลวงพี่น้องประชาชนให้ไปทำงานในองค์กรอาชญากรรมบริเวณแนวชายแดน ดังนี้
1. เงินเดือนสูง ไม่ต้องมีประสบการณ์ - คนร้ายจะเสนอเงินเดือนที่สูงผิดปกติ เช่น 30,000-50,000 บาท สำหรับงานทั่วไป โดยไม่ต้องมีประสบการณ์หรือคุณวุฒิการศึกษา
2. ต้องจ่ายเงินล่วงหน้า - อ้างว่าต้องจ่ายค่าดำเนินการ เช่น ค่าตั๋วเดินทาง ค่าวีซ่า หรือค่าประกันงานก่อน พร้อมใช้ข้ออ้างว่าจะได้เงินคืนเมื่อเริ่มงาน
3. รีวิวประสบการณ์ปลอม - ลงรับสมัครงานผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยใช้บัญชีปลอมที่ดูน่าเชื่อถือ พร้อมรีวิวประสบการณ์ทำงานปลอม อ้างว่ามาจากผู้ที่เคยทำงาน
4. ทำให้ดูเร่งด่วน - บอกว่าเป็นโอกาสพิเศษที่ต้องตัดสินใจทันที เช่น “รับสมัครด่วน จำนวนจำกัด” พร้อมกดดันเหยื่อให้รีบตัดสินใจโดยไม่มีเวลาคิด
5. หลอกว่าทำงานกาสิโนหรือสถานบันเทิง - อ้างว่าเป็นงานในกาสิโนหรือสถานบันเทิงที่ถูกกฎหมาย แต่เมื่อไปถึงกลับถูกบังคับให้ทำงานในแก๊ง Call Center

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอให้พี่น้องประชาชนระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่หลอกลวงให้เดินทางไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะท่านอาจถูกบังคับให้กระทำความผิดและตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ และหากท่านพบเบาะแสการหลอกลวงให้เดินทางไปทำงาน หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 191 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

‘MITSUBISHI’ จัดโปรแรงรับต้นปี!! มอบส่วนลด 30% เน้น!! ลดภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้า ในการซ่อมบำรุงรถ

(1 ก.พ. 68) บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวแคมเปญบริการหลังการขายสุดพิเศษสำหรับเจ้าของรถมิตซูบิชิ ที่หมดระยะเวลาการรับประกัน ด้วยการมอบส่วนลด ร้อยละ 30 สำหรับกลุ่มอะไหล่ช่วงล่าง สายพานหน้าเครื่อง และสายพานไทม์มิ่งที่ร่วมรายการ ช่วยให้ลูกค้าอุ่นใจ คลายกังวลในการใช้งานรถยนต์ที่มีสมรรถนะและความปลอดภัยแม้หมดระยะเวลาการรับประกัน ลูกค้าสามารถนำรถเข้ารับบริการได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มุ่งส่งเสริมความปลอดภัยของรถยนต์ และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้าในการซ่อมบำรุง คลายความกังวลใจให้กับลูกค้าที่มีรถยนต์แม้หมดระยะเวลาการรับประกัน โดยการตรวจเช็กสภาพช่วงล่างช่วยป้องกันและลดการสึกหรอของชิ้นส่วนที่สำคัญ ลดความเสี่ยงอันเกิดจากการที่ชิ้นส่วนเสื่อมสภาพ การเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่ตามระยะเวลาที่เหมาะสมจะช่วยยืดอายุการใช้งานของชิ้นส่วนและตัวรถยนต์ พร้อมกับลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมโดยลงมือแก้ไขปัญหาเล็กๆ ได้อย่างทันท่วงที ก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อชิ้นส่วนอื่นๆ ของรถ

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มีความมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้ง ในการมอบบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม ภายใต้สโลแกน 'เราดูแล...คุณแค่ขับ' ลูกค้าที่เข้ามาที่ศูนย์บริการของมิตซูบิชิ สามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลจากช่างเทคนิคผู้เชี่ยวชาญและใช้อะไหล่แท้ของมิตซูบิชิ สร้างความเชื่อมั่นในด้านคุณภาพระดับสูงสุด เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การเข้ารับบริการที่สะดวกราบรื่นยิ่งขึ้น ลูกค้าสามารถนัดหมายการเข้ารับบริการล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน M-Drive ซึ่งสามารถเข้าถึงเครือข่ายศูนย์บริการมิตซูบิชิ ทั่วประเทศ

ตรวจสอบรายการอะไหล่ที่ร่วมรายการ และรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ www.mitsubishi-motors.co.th หรือ มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 เปิดรับสายทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง หรือสอบถามรายละเอียด และ ติดต่อเพื่อนัดหมายเข้ารับบริการตรวจเช็กรถยนต์และบำรุงรักษา ได้ที่ศูนย์บริการมิตซูบิชิ ทั่วประเทศ

2 ค่ายยักษ์ สร้างความร่วมมือยิ่งใหญ่!! งานโชว์ ยนตรกรรมล้ำยุค มิติใหม่!! ‘เทศกาลยานยนต์ – อุปกรณ์ตกแต่ง’ สู่ที่สุดในอาเซียน

(1 ก.พ. 68) ครั้งแรกกับปรากฏการณ์สุดยิ่งใหญ่ของวงการงานแสดงรถยนต์และอุปกรณ์ตกแต่งระดับประเทศ ผนึกกำลังจัดงานใหญ่ของบริษัทผู้จัดงานแสดงรถยนต์ 2 ค่ายยักษ์ โดยผู้บริหาร จรวย ขันมณี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยานยนต์สแควร์ กรุ๊ป จำกัด กับ วิลักษณ์ โหลทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คอร์โน แอนด์ แนช จำกัด ในเครือสยามสปอร์ตซินดิเคท จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์สุดยอดงานรถแต่งระดับโลก และ จตุพร ขันมณี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีเอ็มเอฟ จำกัดพร้อมประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ BIG MOTOR SALE 2025 ร่วมกับ BANGKOK AUTO SALON 2025  นิยามใหม่แห่งงานแสดงรถยนต์ที่สุดในอาเซียน 

งาน BIG MOTOR SALE 2025 เป็นเทศกาลแสดงยนตรกรรมแบบครบครัน ทั้งรถบ้าน รถใช้งาน รถไฟฟ้า มอเตอร์ไซค์ ในสไตล์ ‘ยกโชว์รูมมาไว้ที่นี่’ ให้ผู้ที่สนใจซื้อรถใหม่ได้เลือกชมเลือกซื้อได้อย่างสะดวกสบาย ส่วนงาน BANGKOK AUTO SALON 2025 เป็นสุดยอดงานแสดงนวัตกรรมรถแต่งที่ได้รับรางวัลจากเวทีระดับโลก รวมทั้งอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์โดยสำนักแต่งชื่อดังจากต่าง ประเทศและในประเทศไทยรวมถึงค่ายรถยนต์ โดยได้รับลิขสิทธิ์จากงานแสดงรถแต่งที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก Tokyo Auto Salon พร้อมทั้งเสริมสร้างวัฒนธรรมการแต่งรถที่สามารถต่อยอดธุรกิจของคนไทยให้ก้าวไกลต่อไป

นับเป็นข่าวดีสำหรับผู้เข้าชมและเลือกซื้อรถคันใหม่จากงานขายรถในสไตล์ ‘ยกโชว์รูมมาไว้ที่นี่’ จะได้ตื่นตาตื่นใจกับอลังการงานแสดงนวัตกรรมรถแต่งที่ได้รางวัลจากเวทีระดับโลก รวมทั้งเลือกชมและเลือกซื้ออุปกรณ์ตกแต่งรถโมดิฟายด์ระดับเวิลด์คลาสจากทั่วโลก พร้อมชมรถโมเดลต้นแบบที่น่าสนใจในงานเดียวแบบ ‘จัดเต็ม’

สตูล ศรชล.จังหวัดสตูล/นก.พตต.ศรชล.ภาค 3 เป็นผู้แทนทัพเรือภาคที่ 3 เยี่ยมทหารผ่านศึกที่พิการทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่

(31 ม.ค.68) พลเรือโท สุวัจ ดอนสกุล ผู้อำนวยการ ศรชล.ภาค 3/ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 มอบหมายให้ นาวาเอกแสนย์ไท บัวเนียม รองผู้อำนวยการ ศรชล.จังหวัดสตูล /ผบ.นก.พตต.ศรชล.ภาค 3 เป็นผู้แทน ทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมด้วย เรือเอกอมรพงศ์ ด่านปาน ผบ.เรือ ต.114 เรือเอกพงศธร พุ่มวงศ์สำเนียง ผบ.เรือ ต.273 และ เรือโทสุโภชน์ ทองย้อย รองผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยาน และรักษาฝั่งที่ 452 เดินทางไปเยี่ยม จ่าเอกยูสุบ มรรคาเขต อายุ 63 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ที่ 2 ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จังหวัดสตูล

ซึ่งทุพพลภาพร่างกายขาด้านขวาจากการถูกผู้ก่อการร้ายลอบวางระเบิดขณะปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งให้กำลังใจและมอบกระเช้าและเงินช่วยเหลือให้กับกำลังพลทหารผ่านศึกที่ทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ ในส่วนของกองทัพเรือ 

จากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย ส่งผลให้กำลังพลกองทัพเรือที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้บาดเจ็บ ทุพพลภาพ และเสียชีวิต ซึ่งกระทบต่อการดำเนินชีวิตของกำลังพลและครอบครัว แม้ว่ากองทัพเรือได้มอบเงินเพื่อช่วยเหลือตามระเบียบกองทัพเรือแก่กำลังพลและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว แต่ยังมีจำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการของกำลังพล ด้วยเหตุข้างต้น กองทัพเรือจึงได้จัดตั้ง “กองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่รับผิดชอบกองทัพเรือ” เพื่อช่วยเหลือกำลังพลและครอบครัวของกองทัพเรือที่บาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่รับผิดชอบกองทัพเรือ ตลอดจนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้แก่กำลังพล ที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติอย่างกล้าหาญดีเยี่ยม ทั้งนี้กองทุนน้ำใจไทย ฯ ได้ดำเนินการการช่วยเหลือกำลังพลกองทัพเรือและครอบครัวอย่างต่อเนื่องจวบจนปัจจุบัน โดยการมอบเงินช่วยเหลือและทุนการศึกษาแก่กำลังพลกองทัพเรือและทายาทของผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการชายแดน

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือได้มีความห่วงใย และให้ความสำคัญกับการดูแลคุณภาพชีวิตของกำลังพลในกองทัพเรือทุกระดับ จึงได้มอบกระเช้าของขวัญพร้อมกับเงินช่วยเหลือให้แก่ทหารผ่านศึกที่ทุพพลภาพ จากการปฏิบัติหน้าที่ในส่วนของกองทัพเรือ เพื่อสร้างขวัญ กำลังใจ ส่งเสริมคุณภาพชีวิต และช่วยเหลือกำลังพลกองทัพเรือและครอบครัวให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีเกียรติในสังคม ตลอดจนเพื่อให้บุตรของกำลังพลมีทุนในการศึกษา โดยจัดกิจกรรมเยี่ยมเยียน มอบเงินช่วยเหลือ และสิ่งของให้กับกำลังพลทหารผ่านศึกที่ทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่เป็นประจำทุกปีเหตุด่วน เหตุร้าย ภัยทางทะเล ต้องการความช่วยเหลือทางทะเล โทร. 1465 แจ้ง ศปก.ศรชล.ภาค 3 หรือ โทร. 1696 แจ้ง ศปก.ทรภ.3

‘โตโยต้า มอเตอร์’ จัดแข่งแบดมินตัน ‘ปริ๊นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2025’ ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา

(1 ก.พ. 68) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงจัดแข่งแบดมินตันรายการ ‘ปริ๊นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2025’ ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พร้อมเงินรางวัลรวม 240,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 8,286,000 บาท

ฤดูกาลแข่งขันของสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) ในปี 2025 ประเทศไทยได้รับสิทธิเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันแบดมินตัน รายการ ‘ปริ๊นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2025’ ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พร้อมเงินรางวัลรวม 240,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 8,286,000 บาท ณ อาคารกีฬานิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 28 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา อีกทั้งเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้พี่น้องประชาชนคนไทยโดยเฉพาะเยาวชน ให้หันมาสนใจชม เชียร์ และเล่นกีฬาแบดมินตัน ยกระดับฝีมือและมาตรฐานของนักแบดมินตันไทยให้ก้าวสู่ระดับนานาชาติ รวมถึงเพื่อประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยอีกด้วย

นายณัทธร ศรีนิเวศน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของรายการ โตโยต้ามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน และพัฒนาวงการกีฬาแบดมินตันไทยให้ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง โดยโตโยต้าเชื่อมั่นว่าการจัดการแข่งขันในประเทศไทยครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่นักกีฬาไทยจะได้แสดงศักยภาพ สร้างสรรค์ผลงานที่ยอดเยี่ยม สร้างความสนุกเร้าใจ และความสุขให้กับแฟนกีฬาแบดมินตันไทย อีกทั้งยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทยให้หันมาสนใจเล่นกีฬาแบดมินตันให้มากยิ่งขึ้น และ ผมขอขอบคุณ การกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ได้ให้โอกาส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ในการเป็นผู้สนับสนุนหลักสำหรับการจัดการแข่งขัน ‘ปริ๊นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2025’ ครั้งนี้

ร่วมเชียร์นักตบขนไก่ไทย พร้อมต้อนรับนักกีฬาแบดมินตันระดับโลก ระหว่างวันที่ 28 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2568 ที่อาคารกีฬานิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ

นายณัทธร ศรีนิเวศน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ร่วมแถลงข่าวจัดการแข่งขันแบดมินตันรายการ ‘ปริ๊นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2025’


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top