(11 ก.พ.68) คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดสัมมนาวิชาการ 'CBS: Boost Your Business Wisdom' มุ่งเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านธุรกิจที่ครอบคลุมทุกมิติ พร้อมเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาและผู้ประกอบการรับมือกับเศรษฐกิจยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและแนวคิดความยั่งยืน
ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวบรรยายในหัวข้อ 'Regenerative Marketing: New Generation of Marketing' โดยเน้นย้ำว่าธุรกิจยุคใหม่ควรให้ความสำคัญกับการตลาดเชิงฟื้นฟู (Regenerative Marketing) ซึ่งเป็นแนวคิดที่ไม่ได้มุ่งแค่สร้างแบรนด์ แต่ยังคำนึงถึงการฟื้นฟูทรัพยากร ควบคู่ไปกับการสร้างมูลค่าให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย (Stakeholders) ทั้งภาคธุรกิจและสังคมในระยะยาว
โดยแนวทางดังกล่าวถูกเปรียบเสมือน 'วิตามิน' ที่ช่วยฟื้นฟูและเสริมแกร่งให้องค์กรใน 5 ด้าน ได้แก่
Vitamin A (Awareness & Activism) - สร้างความตระหนักรู้และขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมผ่านกลยุทธ์ทางการตลาด
Vitamin B (Beyond Sustainability) - ก้าวข้ามแนวคิดความยั่งยืนไปสู่การสร้างผลกระทบเชิงบวกที่แท้จริง
Vitamin C (Consumer Empowerment) - ส่งเสริมให้ผู้บริโภคสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ง่ายขึ้น
Vitamin D (Design for Circularity) - ออกแบบธุรกิจให้มีระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ลดของเสีย และใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
Vitamin E (Ecosystem Restoration) - ฟื้นฟูระบบนิเวศและสังคม โดยให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรม
ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ เน้นว่าการตลาดแนวใหม่นี้จะช่วยให้ธุรกิจปรับตัวเข้าสู่ยุคแห่งเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยคุณค่า ไม่ใช่เพียงผลกำไร โดยองค์กรควรมองว่า "ความยั่งยืน" เป็นการลงทุน ไม่ใช่ต้นทุน เพื่อสร้างความผูกพัน (Heart Share) กับผู้บริโภค และนำไปสู่การเติบโตทางธุรกิจในระยะยาว
ในการสัมมนาหัวข้อ 'Thailand Ahead: The Outlook in Business Strategy, Technology, and Sustainability' นักวิชาการจากภาควิชาพาณิชยศาสตร์ได้กล่าวถึงแนวโน้มสำคัญที่ภาคธุรกิจต้องเตรียมพร้อม ได้แก่ ESG (Environmental, Social, and Governance), Regionalization และเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศไทย โดยเฉพาะการขยายตลาดสู่ภูมิภาคอาเซียน (ASEAN) และการรับมือนโยบายการค้าระหว่างประเทศจากมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างสหรัฐอเมริกาและจีน
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาคือ 'Beyond Financial Metrics: ESG and SDG Reporting' ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นที่นักบัญชีต้องปรับตัวเพื่อนำเสนอข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ควบคู่ไปกับตัวชี้วัดทางการเงินแบบดั้งเดิม การรายงานดังกล่าวจะช่วยให้นักลงทุนและผู้บริโภคสามารถประเมินศักยภาพขององค์กรได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น พร้อมทั้งสะท้อนให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของธุรกิจ
ในหัวข้อ 'ESG and Digital Society' คณะวิทยากรจากภาควิชาการธนาคารและการเงินได้กล่าวถึงผลกระทบของการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมดิจิทัล โดยชี้ว่าการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น AI และ Blockchain อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในภาคธุรกิจ แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายด้านพลังงาน ความเป็นธรรมทางสังคม และการกำกับดูแล เช่น การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน
สำหรับหัวข้อ 'Sustainability in Digital World' ได้มีการพูดถึงปัญหาสำคัญที่เกิดจากการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น ปริมาณพลังงานที่เพิ่มขึ้นและการสะสมของขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) การแก้ปัญหานี้ต้องอาศัยแนวทางแบบองค์รวม เช่น นโยบาย Thailand 4.0 และเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
รองศาสตราจารย์ ดร.ธารทัศน์ โมกขมรรคกุล คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวสรุปว่า การสัมมนาครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการส่งเสริมองค์ความรู้ด้านธุรกิจ โดยเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้แนวคิดและกลยุทธ์ใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้ในองค์กรของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตของเศรษฐกิจและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามเนื้อหาฉบับเต็มของการสัมมนา 'CBS: Boost Your Business Wisdom' ได้ที่เว็บไซต์ของคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย