Tuesday, 10 December 2024
NEWS FEED

‘หมอสุรัตน์’ ชี้ สาเหตุ ‘น้องผิง’ เสียชีวิตอาจไม่ใช่การนวด หลังผลเอกซเรย์ออกมา ไม่พบกระดูกกดทับสันหลัง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นพ.สุรัตน์ ตันประเวช เปิดภาพเอกซเรย์ ‘น้องผิง ชญาดา’ นักร้องสาวรถแห่ ไม่พบกระดูกกดทับสันหลัง หวั่นสาเหตุการเสียชีวิตอาจไม่ใช่การนวด

จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่นักร้องสาว "ผิง ชญาดา กีตาร์เรคคอร์ด" เสียชีวิตเนื่องจากไปนวดแล้วหมอนวดบิดที่คอ ได้รับผลกระทบต่อร่างกายถึงขั้นขยับตัวไม่ได้ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ (9 ธ.ค. 67) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นพ.สุรัตน์ ตันประเวช โพสต์ข้อความผ่านเพจ ‘สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์’ โดยระบุว่า

“มีข่าวแจ้งว่า คนไข้ ที่เสียชีวิต อาจไม่ใช่จากการนวดนะครับ เห็นว่า น่าจะมีอักเสบและติดเชื้อ
x ray ไม่พบมีกระดูกกดสันหลัง* กรณีน้องไปนวดแล้วเสียชีวิต คนกลัวจัด ใจเย็น นะทุกคน ฟังจารย์ก่อน

1. ปกติ คน train นวด อาชีพ เค้าไม่กดจนกระดูกหักแบบนั้นและไม่นวดคอที่มีเส้นเลือด

2. จาก x ray กระดูกโดนกด ผิดรูปจริง แสดงว่า โดนกดหรือบิดแรงมากๆๆ
คราวนี้กรณีนี้เป็นไง

คนไม่รู้ บอกลาการนวด ด่าหมอนวด ใจเย็น
การที่น้อง มีอาการปวดแบบ แปลกๆ บอกเลย มีปัญหา ไขสันหลัง แหงๆ อาจอักเสบ หรือไขสันหลังบวม ด้วยซ้ำ ไม่รู้นวดจนไขสันหลังมีปัญหาก่อนเป็นเหตุ หรือ นวดแล้ว พร้อมมีโรคอักเสบแทรกพอดี จึงให้นวดแรงไปด้วย คือ ปวดจากไขสันหลังนะ โคตรปวด เพราะเป็นปวดเซลล์ประสาทส่วนกลาง central pain syndrome จึงไปนวดซ้ำเรื่อย ๆ

จะให้วิเคราะห์ อาการต่ออาการไหมหละ tracking ตำแหน่งและเหตุให้ได้ แบบนี้ เรียก hyperalgesia คือ เซลล์รับความรู้สึกทำงานผิดปกติ จะสร้างการปวดเองนะ มักจากการอักเสบ จึง ปวดไม่หาย สำคัญคือ เมื่อปวดมาก ก็จะให้หมอ กดให้แรงที่สุด จึงเป็นแบบที่เห็นนะ เฮ้ย หมอ แรงๆ ส่วนหมอ ก็นะ ตามใจ จัดเต็มที่

กรณี มีโรคอื่นแทรกด้วย อาจมีโรคการอักเสบ NMO neuromyelitis optica ก็เป็นได้ ทำให้ปวด ทนไม่ได้ ต้องนวดให้แรง เพราะหากนวดแรง สมองจะรับความรู้สึกแรงกดจากนวด ทำให้ความรู้สึกเจ็บจากสันหลัง ไม่ผ่านเข้าตาม gate control theory ประตูความปวดรับได้ ความรู้สึกเดียว (เหมือนคนปวดหัว ลอง เอามือ ต่อยหน้าแรงๆ สิ หายปวดหัว ปวดหน้าที่โดนต่อยแทน) อีกอย่าง ปวดต่อมา ลงมาถึงราวนม ระดับ T4 ต่ำกว่า ที่ไขสันหลังตรงคอมาก คล้ายมีการลามลงมา

แต่ถ้าหมอนวด บ้าระห่ำขนาด นวดให้คอหักไปเลย นี่ก็ บ้าเกินไป ไม่เคยเห็น แต่ถ้าเกิดจริง เข้าคุกแน่ ๆ ไปหักคอเขา

เอาว่า กรณีนี้ ไม่พิสูจน์ทราบ อะไรเป็นไก่ เป็นไข่
หมอบางคน แบบสรุปความก็ด่ากันไป แต่ใจเย็นนะ เด็ก หมอนวดไทยตกงานกัน ซวยเฉย ที่ดีๆ เค้าก็มี เยอะแยะ

ส่วนเหตุเสียชีวิต ไม่น่าใช่จากไขสันหลังโดยตรง ปกติรอยโรคไขสันหลัง อาการเป็นต่ำจากรอยโรคที่คอลงมา ไม่ขึ้นไปที่สมอง น่าจะเสียจากภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่เกิดจากนอนติดเตียง
ทำไม อาจารย์  รู้เรื่องนวด อะ

7 ปีที่แล้ว เป็น หัวหน้าศูนย์แพทย์แผนไทยและผสมผสาน TTCM คณะแพทย์ มช. ไงหละ  น้องชาย ก็ ปอ โท แผนไทย และ อจ. ก็เป็น อจ. หมอ สมอง ที่ คิดหน่อย วิเคราะห์หน่อย ไม่งั้นผิดทางหัวจะปวด เท่านี้แหละ  ยังไง ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง
– อจ สุรัตน์นะ

‘ว้าแดง’ ออกแถลงการณ์!! ไม่คิดทำสงครามกับไทย ชี้!! ถูกสื่อบิดเบือน กล่าวอ้างเท็จ ด้วยเจตนาร้ายแอบแฝง

(8 ธ.ค. 67) จากสถานการณ์ชายแดน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งมีข่าวว่า ‘ว้าแดง’ มีความตึงเครียดและเผชิญหน้ากับทหารไทย ว่า ในวันนี้ ทางว้าแดง ได้ออกเอกสารข่าวจำนวน 3 ฉบับ ระบุว่า แถลงข่าวลือข้อกล่าวหาความตึงเครียดระหว่างไทยกับว้าแดง เมื่อเร็วๆ นี้ สื่อบางส่วนได้ออกมากล่าวอ้างอย่างไร้ความรับผิดชอบซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกี่ยวกับข่าวกองทัพไทยจะโจมตีรัฐว้า นี่เป็นเพียงข่าวลือและก่อให้เกิดความขัดแย้งเท่านั้น

รัฐว้าไม่เคยบอกว่าจะเป็นศัตรูกับกองทัพไทย หรือไปทำสงครามกับกองทัพไทย บางสื่อประดิษฐ์คำกล่าวอ้างที่เป็นเท็จเหล่านี้อย่างมุ่งร้ายด้วยเจตนาแอบแฝง โดยกลัวว่าโลกจะไม่วุ่นวาย

สันติภาพเป็นกระแสทั่วไปของโลกทุกวันนี้ และว้าก็แสวงหาสันติภาพอย่างไม่หยุดยั้ง ว้าประณามกลุ่มข่าวลือที่จงใจสร้างปัญหาและพยายามก่อให้เกิดสงคราม และหวังว่าชาวเน็ตส่วนใหญ่จะจับตาดูและไม่เชื่อหรือเผยแพร่ข่าวลือ

นักศึกษาโพสต์ โดนห้องสมุดปรับ 3,000 บาท เหตุ!! ลืมคืนหนังสือ 25 เล่ม โซเชียลเสียงแตก!! ฝั่งหนึ่งซ้ำเติม ไม่มีความรับผิดชอบเอง อีกฝั่งโต้แพงเกินไป

(8 ธ.ค. 67) โพสต์ของนักศึกษารายหนึ่งกลายเป็นไวรัล หลังเจ้าตัวแคปแชทที่คุยกับเจ้าหน้าที่ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยมาลงโซเชียล โดยในโพสต์จะได้ว่า เจ้าตัวโดนปรับค่าลืมคืนหนังสือ 4,600 บาท แต่มหาวิทยาลัยกำหนดเพดานสูงสุดที่ 3,000 บาท

เจ้าของโพสต์ได้อธิบายว่า ตนเองยืมหนังสือไป 25 เล่ม เลยกำหนดเวลาคืน จึงโดนปรับเล่มละ 5 บาท คูณจำนวนวันที่เลยกำหนด

ทางเจ้าของโพสต์ได้พยายามขอผ่อนจ่าย อ้างว่าไม่มีเงินจ่าย 3,000 บาท แต่ทางห้องสมุดได้ปฏิเสธ เพราะไม่มีนโยบายให้เขียนคำร้องผ่อนจ่าย

เมื่อโพสต์กลายเป็นไวรัล ก็มีชาวเน็ตเข้ามาถกประเด็นนี้กันเป็นจำนวนมาก ทั้งฝั่งที่มองว่า เจ้าของโพสต์ผิด ก็ต้องรับผิดชอบความผิดของตัวเอง การยืมหนังสือแล้วไม่คืนตามกำหนดมีผลกระทบต่อคนอื่น บางคนอาจไม่มีหนังสือสำหรับใช้ทำงานเลยก็เป็นได้

บ้างก็แนะนำให้เจ้าของโพสต์ไปหารายได้พิเศษ หาเงินมาจ่ายค่าปรับ หรือลองคุยกับครอบครัวเพื่อหาทางออก

ทางฝั่งคนที่ไม่เห็นด้วย ก็มองว่าควรเห็นใจนักศึกษาที่ยังไม่มีรายได้ ค่าปรับขนาดนี้แพงเกินไป ให้ไปหางานเสริมทำ ก็ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ

‘น้องผิง’ นักร้องสาวไป ‘นวดแผนโบราณ’ จ.อุดรธานี เสียชีวิตแล้ว เหตุ!! กระดูกคอเคลื่อน ทับเส้นประสาท

(8 ธ.ค. 67) ‘ผิง ชญาดา’ นักร้องสาวจากสังกัด Guitar Record ได้เสียชีวิตแล้ว จากเหตุ ‘กระดูกคอเคลื่อน ทับเส้นประสาท’ ซึ่งก่อนหน้านั้น ได้ไปนวดแผนโบราณ ที่ร้านนวดแห่งหนึ่ง ในจังหวัดอุดรธานี ก่อนจะเข้าไอซียู และจากไปด้วยอาการทรมานมาก

ก่อนจะเสียชีวิตนั้น  ‘ผิง ชญาดา’ ได้โพสต์ข้อความเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีใจความว่า ...

หนูไม่รู้จะเริ่มยังไงดี คนทักถามเยอะมาก ว่าเป็นอะไร 

คืองี้หนูไปนวดที่ๆ หนึ่งมาค่ะ ในอุดร อาการตอนก่อนไปนวดคือหนูปวดแค่ไหล่เฉยๆค่ะ หนูไปนวดครั้งแรกอาการตอนนวดเสร็จปกติค่ะ 

ผ่านมา2วันหนูเริ่มปวดท้ายทอย หนูนึกว่าเป็นอาการปวดของการนวดปกติ (มีบิดคอนะคะ) หลังจากนั้นหนูกินยาระงับอาการค่ะผ่านไปอีก1สัปดาห์หนูเริ่มมีอาการชาลงแขนค่ะ 

ไปนวดอีกหมอคนเดิมห้องเดิม รอบนี้ (บิดคอ)อีกนะคะ ผ่านไป 2 สัปดาห์หนูเริ่มปวดตึงมากๆ ค่ะจนนอนหงายคว่ำไม่ได้ แต่แม่หนูเป็นหมอนวดหนูเรียนนวดมาตั้งแต่เด็กๆ ค่ะ หนูชอบนวดมาก 

หนูยังไม่เอะใจอะไรค่ะ นึกว่าเป็นเอฟเฟคจากการนวดอีก (ปวดตัวแบบนี้) หนูไปอีกค่ะ ห้องเดิม เบอร์เดิม แต่เป็นคนใหม่คนนี้นวดแรงบวมช้ำอยู่เป็นสัปดาห์(ไม่ใช่คนที่บิดคอนะคะ) มีล้วงใต้ราวนม (จั๊กแร้)ค่ะ 

หลังจากนั้นหนูกินยาเพื่อบรรเทาอาการมาตลอดค่ะ เริ่มมีอาการไฟซ๊อตไปปลายนิ้วค่ะ คันมากจนอยากตัดมือทิ้ง ร้อนๆหนาวๆตลอดเวลาค่ะ ก้มแล้วร้าวลงขา ซีกขวารู้ว่าตัวเองชาก็ตอนทาโคโลนหลังจากรอบที่ 3 ที่ไปนวดค่ะ เริ่มรามไปท้อง ราวนม อาการชาเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ 

ผ่านไปอีก 2 อาทิตย์แขนขวาหนูเริ่มยกไม่ได้ค่ะ(อ่อนแรง) 

จนถึงตอนนี้ร่างกายหนู ใช้งานได้ไม่ถึง 50% ค่ะ 

หนูมาเล่า เพราะมีคนถามมาเยอะ อยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับใครที่ชอบนวดมากๆนะคะ 

หนูจะต้องหายค่ะ หนูทรมานมาก อยากทำงานแล้วค่ะ แต่ตอนนี้รอแค่เวลา ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ

THE STATES TIMES ขอแสดงความเสียใจด้วย

‘จิรายุ’ ชวนประชาชน สักการะ ‘พระเขี้ยวแก้ว’ มีกิจกรรม เจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิตตภาวนา

(8 ธ.ค. 67) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เพียงแค่สองวันที่เปิดให้ประชาชนได้เข้าสักการะพระเขี้ยวแก้ว พบว่ามี ประชาชนให้ความสนใจเดินทางมาสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ท้องสนามหลวง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีน ปี 2568 อย่างเนืองแน่นและต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงวันหยุดนี้ ซึ่งภายในท้องสนามหลวง ยังมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และมีการจัดกิจกรรมทุกวันอีกด้วย

ทั้งนี้ ขอแนะนำรายละเอียดและข้อปฎิบัติ สำหรับประชาชนที่เดินทางเข้าน้อมกราบพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว ดังนี้ ประตูเปิดให้เข้าตั้งแต่ เวลา 07.00 – 20.00 น. ของทุกวัน , แสดงบัตรประชาชน หรือใบขับขี่ หรือพาสปอร์ตต่อเจ้าหน้าที่ประตูทางเข้า เจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้เข้า หากไม่มีบัตรแสดงตน, ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดเข้าไปภายในบริเวณ, งดนำดอกไม้ พวงมาลัย พานบายศรี มาเอง, รัฐบาลจัดดอกบัวประดิษฐ์ไว้ภายใน เพื่อให้น้อมถวาย ผู้เข้าสักการะสามารถหยิบพร้อมบทสวดมนต์ได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ, สามารถเดินน้อมสวดมนต์ เดินเวียนเทียนแล้ววางบริเวณจุดวางดอกบัวโดยรอบได้โดยไม่ต้องไปรอวางด้านข้างจุดแรกจุดเดียว, ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าภายในบริเวณมณฑลพิธี, แต่งกายสุภาพ ในลักษณะเข้าศาสนสถาน, ไม่อนุญาตให้ใส่ชุดดำ เข้าบริเวณมณฑลพิธี, ไม่อนุญาตให้ใส่ขาสั้น สายเดี่ยว เกาะอก เสื้อบาง กางเกงยีนส์ขาด เข้าสักการะ, ห้ามนำวัตถุของมีคม วัตถุไวไฟ ไฟแช็ค มีด คัตเตอร์ เข้าไปภายในบริเวณมณฑลพิธี

นอกจากนี้ ยังมีการจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ในช่วงเวลา 10.00-12.00 น. และเวลา 16.00 น. เป็นต้นไป และพิธีเจริญจิตตภาวนา ทุกวันพระ โดยจะมีพิธีแสดงธรรมเทศนา 1 กันต์ (ในภาคเช้า) สำหรับในวันที่ 31 ธ.ค. 2567 จะมีกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี และกิจกรรมทำบุญตักบาตรวันขึ้นปีใหม่ วันที่ 1 ม.ค.2568

“ขอเชิญชวนเข้าสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งโอกาสที่หาได้ ไม่บ่อยนักที่จะได้สักการะพระบรมสารีริกธาตุ จากประเทศจีน ที่ประดิษฐานเป็นการชั่วคราวในประเทศไทยจนถึงวันที่ 14 ก.พ. 2568 เวลา 07.00-20.00 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และจะอัญเชิญกลับในวันที่ 15 ก.พ. 2568” โฆษกรัฐบาล กล่าวทิ้งท้าย

‘นพ.กฤตไท’ อดีตผู้ป่วยมะเร็งปอด อุทิศร่าง!! ให้นักศึกษาได้เรียน ตอนไม่สบาย!! ก็สร้างแรงบันดาลใจ ตอนจากไป ก็ยังให้ความรู้

(8 ธ.ค. 67) ชีวิตและการเดินทางของ นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล หรือ หมอไท เจ้าของเพจ ‘สู้ดิวะ’ ผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ได้ส่งแรงกระเพื่อมในเชิงบวกต่อสังคม ทั้งปลุกให้ตั้งคำถามถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างฝุ่น PM2.5 ไปจนถึงแนวคิดในการใช้ชีวิต การให้ความรู้และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วไป

ล่าสุด เจ้าของเฟซบุ๊ก ‘Attavit Panyapinyophol’ ได้เผยแพร่ภาพโครงกระดูกอาจารย์ใหญ่ พร้อมข้อความว่า …

น้องอาจารย์นพ.กฤตไท #สู้ดิวะ เป็นคนที่มีบุญมากๆ ตอนยังแข็งแรงก็เป็นหมอช่วยผู้อื่นให้พ้นทุกขเวทนา เป็นครูบาอาจารย์สั่งสอน นศ.แพทย์

ตอนไม่สบายก็สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนมากมาย ตอนหลับไปแล้วร่างก็ยังเป็นอาจารย์ให้คุณหมอได้เรียนกัน คุณหมอจากไปแล้ว แต่ความดียังประจักษ์ คนยังระลึกถึงเสมอๆ คุณพ่อน้องท่านต้องเข้มแข็งสุดๆ เลย

ซึ่งได้มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นรำลึกถึง คุณหมอกฤตไท ด้วย เช่นว่า

– น้ำตาคลอเลย คนเรามีเท่านี้จริงๆ ที่เหลือไว้ให้คนคิดถึงก็คงมีแต่ความดีที่เขาทิ้งไว้

– หนังสือของคุณหมอ จะเก็บไว้เป็นเครื่องเตือนสติในการใช้ชีวิตต่อไปค่ะ มีคุณค่าทางใจมาก

– เหลือไว้เพียงโครงร่าง ให้ไว้ศึกษา สุดยอดคนจริงๆ

– มรณานุสติ คนเราเท่านี้จริงๆ ขอบุญกุศลรักษาหมอกฤตไททุกภพทุกชาติไป

– เห็นแล้วน้ำตาไหล ทั้งคิดถึงทั้งภูมิใจ ทั้งรู้สึกหดหู่ว่าชีวิตไม่แน่นอนเหลือเกิน

– เมื่อวานได้กลับมาอ่านหนังสือของคุณหมออีกครั้ง ขอบคุณคุณหมออีกครั้งครับ ที่เตือนใจ เตือนสติ ในวันที่อ่อนล้า

– ขอถามเป็นความรู้ครับ ทำไมกระดูกซี่โครงถึงมีสภาพเป็นแบบนั้นครับ

อินเตอร์ลิ้งค์ฯ ระดมกำลังผู้บริหาร กำหนดยุทธศาสตร์ปี 2568

(8 ธ.ค. 67) กลุ่มบริษัทอินเตอร์ลิ้งค์ฯ จัดประชุมยุทธศาสตร์ ประจำปี 2568 ระหว่างวันที่ 7-9 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรม ฎ-ชฎา รีสอร์ท บาย เดอะ ซี จ.ชลบุรี โดยมีเป้าหมายเพื่อวางแผนยุทธศาสตร์ปี 2568 ด้วยกุญแจสำคัญ ‘หัวใจ กลุ่มบริษัทอินเตอร์ลิ้งค์ฯ’ ที่จะนำพาองค์กร  มุ่งสู่ความสำเร็จที่เติบโต ต่อเนื่อ และยั่งยืน
 

ประธานวุฒิสภาพร้อมคณะลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และติดตามการให้ความช่วยเหลือเยียวยากลุ่มเปราะบาง

(7 ธ.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วย นางวราภัสร์ ไพพรรณรัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการผู้ด้อยโอกาส และ ความหลากหลายทางสังคม วุฒิสภา นำคณะ ลงพื้นที่ โรงเรียนบ้านจะรังตาดง มิตรภาพที่ 175 บ้านจารังตาดง หมู่ที่ 2 ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และติดตามการให้ความช่วยเหลือเยียวยากลุ่มเปราะบาง โดยมี นายอำพล พงศ์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นางฉลวย พงศ์สุวรรณ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดยะลา นายอำเภอรามัน ส่วนราชการจังหวัด อำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กลุ่มสตรี อ.รามัน และส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ

โอกาสนี้ ทางประธานวุฒิสภา ได้มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.ยะลา  จำนวน 159,000 บาท (หนึ่งแสนห้าหมื่นเก้าพันบาทถ้วน) แก่ผู้ว่าราชการ จ.ยะลา  พร้อมทั้ง ได้ร่วมกับ คณะกรรมาธิการ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายอำเภอรามัน มอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชน นอกจากนี้ยังได้มอบน้ำดื่ม  ไก่ไข่  บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ข้าวสาร ให้กับทางโรงเรียนบ้านจะรังตาดง ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย อีกด้วย

นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา  เปิดเผยว่า วันนี้มาใน 2 ฐานะ คือ รองประธานรัฐสภา  และประธานวุฒิสภา ซึ่งเป็นผู้แทนของประชาชนชาวไทย นำความห่วงใยของ สมาชิกสภาทั้งหลาย รวมทั้งพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ เมื่อมีเหตุที่พี่น้องได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย เราก็รวบรวมกันทั้งทรัพย์และเงินทองทั้งสิ่งของต่างๆเท่าที่จะทำได้อย่างรวดเร็วที่สุด นำมา ได้มาเห็นภาพที่ประทับใจมากๆ คือ การฟื้นฟูหลังน้ำลด  พอน้ำมาทุกหน่วยในพื้นที่ ทหาร ตำรวจ ปกครองทั้งหลายได้รวมกันจัดกำลัง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน พอหลังน้ำลดก็ช่วยกันฟื้นฟูกันอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นถึงความพร้อม ความสามัคคีของคนในพื้นที่ โดยเฉพาะผู้แทนในพื้นที่ ได้แจ้งไปประสานงานกันตลอดเวลาต้องการอะไรบ้าง เราก็รวบรวมสิ่งจำเป็นอย่างเร่งด่วน ส่วนหนึ่ง หน้าที่จริงๆ คือหน้าที่ของท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ในพื้นที่  เราเป็นเพียงส่วนเสริมที่เข้ามาหนุนเพื่อนำความห่วงใยมาสู่พี่น้องที่ประสบอุทกภัย เช่นเดียวกันเมื่อครั้งภาคเหนือถูกน้ำท่วม พี่น้องจากชาวใต้ก็ไปช่วยชาวเหนือ อีสาน พอภาคใต้เกิดน้ำท่วมชาวเหนือ อีสาน ชาวภาคกลางก็ระดมกันมา คือความรู้สึกที่ดี ยิ่งมาวันนี้ก็ต้องขอบคุณพื้นที่ทั้งผู้ว่า ฯ ทหาร ตำรวจ ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผอ.โรงเรียน พี่น้องประชาชนทุกท่าน ที่วันนี้ถึงแม้นทุกท่านยากลำบากจากน้ำท่วมยังยิ้มแย้มแจ่มใสมาให้การต้อนรับคณะอย่างอบอุ่นมาก ตื้นตันใจมาก ขอขอบคุณทุกๆ ท่านด้วย

สำหรับสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา  เมื่อวันที่ 26-30 พฤศจิกายน 2567 มีราษฎรผู้ได้รับผลกระทบจำนวน 12,419 ครัวเรือน รวมทั้งสิ้น 45,736 คน  พื้นที่ประสบอุทกภัย จำนวน 16 ตำบล รวมทั้งสิ้น 90 หมู่บ้าน ศูนย์อพยพ จำนวน 33 แห่ง มีผู้อพอพ จำนวน 764 ครัวเรือน 3,093 คน ปัจจุบันได้กลับบ้านทั้งหมดแล้ว

“พิชัย” หารือทูตอังกฤษ เน้นย้ำความสำคัญในการจัดทำ FTA ไทย-UK ร่วมกันในอนาคต สร้างมูลค่าการค้า-การลงทุน เติบโตต่อเนื่อง

(8 ธ.ค. 67) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย (นายมาร์ค กุดดิ้ง) เพื่อหารือประเด็นความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน รวมถึงการพิจารณา ความเป็นไปได้ในการจัดทำ FTA ไทยกับ UK เพื่อขยายการค้าการลงทุนระหว่างกัน สอดคล้องกับนโยบายการเร่งสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของรัฐบาลทั้งสองฝ่าย

นายพิชัยฯ เปิดเผยว่า ได้หารือกับ นายมาร์ค กุดดิ้ง เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย โดยสองประเทศได้เน้นย้ำความมุ่งมั่นที่จะขยายความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนร่วมกัน ผ่านกลไกการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้า (Joint Economic and Trade Committee: JETCO) ไทย - สหราชอาณาจักร (UK) ในระดับรัฐมนตรี เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการดำเนินธุรกิจ อำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุน โดยเร่งรัดการดำเนินการร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะภายใต้กรอบการเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่แน่นแฟ้น (Enhanced Trade Partnership: ETP) ผ่านกิจกรรมความร่วมมือทางเศรษฐกิจครอบคลุมสาขาที่สองประเทศมีศักยภาพและทรัพยากรที่ส่งเสริมกัน เช่น การเกษตร อาหารและเครื่องดื่ม การลงทุน การท่องเที่ยว และสุขภาพ  ซึ่งตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกันกับ นายดักลาส อเล็กซานเดอร์ รัฐมนตรีการค้าของสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 18 ก.ย.67 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมคอร์ทยาร์ด บาย แมริออท กรุงเทพฯ โดยทั้งสองฝ่ายยินดีที่จะจัดการประชุม JETCO ไทย – UK ครั้งที่ 2 เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานร่วมกันในปี 2568 ซึ่งเป็นโอกาสดีในการเฉลิมฉลองครบ 170 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันด้วย

โอกาสนี้ นายพิชัยฯ เปิดเผยว่า ไทยได้เน้นย้ำกับ UK ถึงความสำคัญของการเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่แน่นแฟ้นดังกล่าวว่า จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพิจารณาเจรจา FTA ระหว่างกันในอนาคต ซึ่งเป็นแนวนโยบายที่รัฐบาลไทยผลักดันและให้ความสำคัญกับการทูตพาณิชย์เชิงรุก โดยเห็นว่า หากสองฝ่ายสามารถจัดทำ FTA ร่วมกันได้ จะเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้มูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ซึ่งภาคธุรกิจของทั้งไทยและ UK ต่างก็สนับสนุนการเริ่มเจรจาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งขยายการค้าระหว่างกัน

นายพิชัยฯ กล่าวเสริมว่า ได้ขอบคุณ UK ที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการพิจารณารับไทยเข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) รวมทั้งใช้โอกาสนี้แจ้ง UK ให้ทราบว่า กระทรวงพาณิชย์ยินดีอำนวยความสะดวกและสนับสนุนการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศในไทยให้เป็นไปอย่างสะดวกและราบรื่นมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมหรือบริการเป้าหมายที่เห็นว่าจะเป็นประโยชน์ร่วมกัน เช่น อุปกรณ์ประมวลผลข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ระบบจัดเก็บข้อมูล (Data Center) ยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ 

ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค. – ต.ค.) สหราชอาณาจักรเป็นคู่ค้าอันดับ 22 ของไทยในตลาดโลก และเป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของไทยในภูมิภาคยุโรป (รองจากสวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี และเนเธอร์แลนด์) โดยมีมูลค่าการค้ารวมระหว่างกัน 5,535.74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยได้เปรียบดุลการค้า 1,372.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีมูลค่าการส่งออกสินค้ารวม 3,454.13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น ไก่แปรรูป เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล อัญมณีและเครื่องประดับ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขณะที่มีมูลค่าการนำเข้ารวม 2,081.60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ การแพทย์ เครื่องดื่มประเภทน้ำแร่ น้ำอัดลมและสุรา และผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม

ป้ายรถเมล์ ถูกเทปูนจนมิด เหลือแต่เก้าอี้ ชี้!! ผลงาน ‘สำนักการโยธา กทม.’

(7 ธ.ค. 67) เพจเฟซบุ๊ก ‘สนามข่าวเมืองปราการ’ ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า …

‘ไม่คุยกันอีกแล้ว รื้ออันไหนทำใหม่ดีล่ะ 7-11 ตรง ซ.เทพรัตนโมลี 21 ถ.หลวงแพ่ง’ 

พร้อมกับแนบภาพป้ายรถเมล์แห่งหนึ่ง ที่ระบุว่า อยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อชื่อดัง ซอยเทพรัตนโมลี 21 ถนนหลวงแพ่ง เป็นภาพที่กำลังก่อสร้างทางเดินเท้าใหม่ ทำให้มีการเทปูนทับพื้นเดิม ส่งผลให้ความสูงของพื้นปูนนั้น ขึ้นมาอยู่เทียบเท่ากับที่พักนั่งรอรถเมล์ของเดิม จนชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมากนั้น

ลักษณะงานเป็นการปรับปรุงผิวจราจรและทางเท้า ท่อระบายน้ำ ฝาระบายทั้งระบบ แต่ภาพที่ได้เห็นไม่มีการรื้อศาลาที่พักผู้โดยสารออก กลับเทคอนกรีตทับไปเลย จากเก้าอี้นั่งปกติกลายเป็นเก้าอี้ไว้สำหรับนั่งพับเพียบตามมารยาทไทย

ในส่วนของการจัดซื้อจัดจ้างก็เหมือนเดิมตามสไตล์ กทม. ข้อมูลในระบบแจ้งว่าใช้วิธีประมูลงานแบบอีบิดดิ้ง แต่มีผู้ซื้อซอง ยื่นซอง เสนอราคา แค่เจ้าเดียวแล้วก็คว้างานไป

ชื่อโครงการปรับปรุงถนนหลวงแพ่ง ช่วงจากสำนักงานประปาสาขาสุวรรณภูมิ ถึงคลองพระยาเพชร พื้นที่เขตลาดกระบัง-กทม.

งบประมาณ 177,677,660 บาท

เลขที่โครงการ 66119124096

งานนี้ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขด่วน!!


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top