Sunday, 15 June 2025
Hard News Team

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือ – อีสาน ในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลด รวมมูลค่ากว่า 4.4 ล้านบาท พร้อมนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกตรวจรักษาและจ่ายยาในพื้นที่จังหวัดเชียงราย

ระหว่างวันที่ 27 กันยายน - 4 ตุลาคม 2567 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย ลงพื้นที่จังหวัดตาก เชียงใหม่ เชียงราย และนายชุมพล บุญภักดี ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกสาธารณภัยลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำมันพืช และน้ำปลา ให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลด รวมทั้งสิ้น 10 จังหวัด เครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 9,000 ชุด นอกจากนี้ยังได้ มอบเงินสงเคราะห์ค่าฌาปนกิจให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตจำนวน 18 รายๆ ละ 20,000 บาท รวมงบประมาณการช่วยเหลือทั้งสิ้น 4,410,000 บาท (สี่ล้านสี่แสนหนึ่งหมื่นบาทถ้วน) โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ทีมงานแผนกบรรเทาสาธารณภัย และแผนกอาสาสมัครมูลนิธิฯ รวมทั้ง อาสาสมัครกิตติมศักดิ์มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริพร โอภาสวงศ์ และ นางศิริวรรณ โอภาสวงศ์ และอาสาสมัครศิลปินมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางสาวอัญชลี จงคดีกิจ (ปุ๊-อัญชลี) ร่วมลงพื้นที่แจกจ่ายและให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัย ในพื้นที่  รวมถึง มูลนิธิฯ / สมาคมจีนประจำจังหวัดต่างๆ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี

นอกจากนี้  นางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้นำทีมหน่วยแพทย์ฯ และเจ้าหน้าที่กู้ชีพ แผนกบรรเทาสาธารณภัยฯ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา คัดกรองเบาหวาน ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ ให้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยมีประชาชนเข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก

นับตั้งแต่เกิดอุทกภัยใหญ่ในช่วงเดือนกรกฎาคม2567 เป็นต้นมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคเหนือ - อีสาน ในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลดแล้วทั้งสิ้น 10 จังหวัด รวมงบประมาณการช่วยเหลือไม่ต่ำกว่า 9.5 ล้านบาท

เมื่อเกิดอุทกภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทีมบรรเทาสาธารณภัย พร้อมเรือท้องแบน และ โรงครัวเคลื่อนที่เพื่อประกอบอาหารกล่อง พร้อมถุงยังชีพ ชุดยาเวชภัณฑ์ และอาหารสุนัขและแมว นำแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย เพื่อการบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ ในเบื้องต้น หลังจากนั้น ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จะดำเนินการประสานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อบรรเทาทุกข์ ฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยแจกเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น รวมถึงมอบเงินค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย รายละ 20,000 บาท ทั้งนี้ หากมีผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย ญาติของผู้เสียชีวิตสามารถขอรับเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพ จากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418 ต่อ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์

ทั้งนี้ มูลนิธิฯ ยังคงอยู่ระหว่างดำเนินการภารกิจในพื้นที่ และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินและเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านต่าง ๆ ต่อไป

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่ เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง www.facebook.com/pohtecktungofficial

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง #ช่วยชีวิต #รักษาชีวิต #สร้างชีวิต”
#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418
#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

รมว.กต.เผยนายกฯ เตรียมกล่าวถ้อยแถลงเวทีผู้นำ ACD ครั้งที่ 3 พร้อมหารือทวิภาคีร่วมอิหร่าน-คูเวต-กาตาร์และทาจิกิสถาน - ย้ำยังห่วงคนไทยในตะวันออกกลาง กำชับคอยติดตามข่าวสารทางการ-สอท.

(3 ต.ค. 67) นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งร่วมคณะเดินทางกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อร่วมประชุม Asia Cooperation Dialogue หรือ ACD ครั้งที่ 3 ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เปิดเผยกำหนดการสำคัญของนายกรัฐมนตรี ในการร่วมประชุมในวันนี้ (3 ต.ค.) ว่า นายกรัฐมนตรี มีกำหนดหารือทวิภาคี หรือ Bilateral ร่วมกับผู้นำอิหร่าน ในฐานะที่เป็นประธาน ACD ปีนี้ รวมถึง ผู้นำคูเวต, กาตาร์ และประเทศทาจิกิสถาน

นอกจากนั้น ในเวลาประมาณ 14.20 น. ตามเวลาประเทศไทย นายกรัฐมนตรี จะขึ้นกล่าวถ้อยแถลงในนามประเทศไทย ซึ่งเคยเป็นเจ้าภาพการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ 2 เมื่อปี 2559 มาก่อน และในฐานะประธาน ACD ที่จะเริ่มต้นในวันที่ 1 มกราคมนี้ โดยนายกรัฐมนตรี ต้องการผลักดันให้ ACD เป็นเวทีการหารือระดับนโยบาย เพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศในทวีปเอเชีย ส่งเสริมผลประโยชน์ร่วมกัน และเป็นเวทีที่ประเทศสมาชิกสามารถแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นด้วยความเข้าใจและไว้เนื้อเชื่อใจ เพื่อแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาความท้าทายของโลก รวมทั้งความท้าทายจากการแข่งขันเชิงภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศมหาอำนาจร่วมกัน 

นายมาริษ ชี้แจงด้วยว่า ACD ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2545 โดยการริเริ่มของไทย ปัจจุบันมีสมาชิก 35 ประเทศ ซึ่งวัตถุประสงค์ และความสำคัญของ ACD นั้น เป็นเวทีหารือระดับนโยบายและความร่วมมือระหว่างประเทศในทวีปเอเชียที่ประเทศสมาชิกสามารถแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น และหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาความท้าทายต่าง ๆ ของโลก ส่งเสริมความเข้าใจ ความไว้เนื้อเชื่อใจ และผลประโยชน์ร่วมกัน และเป็นเวทีเดียวในเอเชียที่เชื่อมโยงประเทศในทุกพื้นที่ของทวีปเอเชีย
(Pan-Asian Forum) และกรอบความร่วมมือในอนุภูมิภาคต่าง ๆ อาทิ BRICS, ASEAN และ CICA เป็นต้น

นายมาริษ ยังย้ำอีกว่า นายกรัฐมนตรี ยังคงติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง เนื่องจาก มีความห่วงกังวลต่อพลเมือง และสถานการณ์ด้านมนุษยธรรม โดยได้ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่าย ใช้ความอดกลั้นอย่างสูงสุด และยุติการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ เพื่อไม่ให้สถานการณ์ความขัดแย้งลุกลามบานปลาย และยังแสดงความห่วงใยต่อความปลอดภัยของคนไทยที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงในตะวันออกกลาง จึงกำชับให้คนไทยในพื้นที่ทุกคนติดตาม และปฎิบัติตามคำแนะนำของทางการท้องถิ่น และสถานเอกอัครราชทูตไทยอย่างเคร่งครัด

‘สาวนิวยอร์ก’ นั่งเครื่องครึ่งโลกมาไทยกว่า 18 ชม. เพียงเพื่อให้ได้พบ ‘หมูเด้ง’ ฮิปโปแคระสุดน่ารัก

'หมูเด้ง' ฟีเวอร์ของแท้ ‘มอลลี สวินดัลล์’ สาวชาวรัฐนิวยอร์กของสหรัฐฯ อดทนนั่งเครื่องบินจากนิวยอร์กมาไทยกว่า 18 ชั่วโมง เพื่อมาหา 'หมูเด้ง' แถมซื้อของที่ระลึกเสื้อผ้าหมูเด้งไปใส่ด้วย

กลายเป็นไวรัลบนโลกโซเชียล เมื่อ 'มอลลี สวินดัลล์' สาวชาวรัฐนิวยอร์กของสหรัฐฯ เดินทางไกลกว่า 12,800 กิโลเมตร หรือมากกว่า 18 ชั่วโมง มายังสวนสัตว์เปิดเขาเขียวในประเทศไทย ซึ่งเป็นบ้านเกิดและบ้านของหมูเด้ง ฮิปโปแคระสุดน่ารักที่กำลังขโมยหัวใจของคนทั่วโลก

สำหรับ สวินดัลล์ เป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ที่โด่งดังมาจากการเผยคลิปวิดีโอในฐานะแฟนคลับตัวยงของเทเลอร์ สวิฟต์ โดยได้ระบุในช่องติ๊กต็อกของเธอว่า เธอตัดสินใจบินจากนิวยอร์กไปกรุงเทพฯ ในนาทีสุดท้ายเพื่อพบกับหมูเด้ง "ดิว่าสาวในตำนานอย่างหมูเด้ง ฉันแทบรอไม่ไหวที่จะพบเธอ"

พี่แจ๊คคะ สาวเล่าอุทาหรณ์ถูกหมอผีในคราบหมอดู ตุ๋นทำพิธีย้ายดวง สุดช้ำหลอกทำพิธี-เช่าบูชาเครื่องราง เสียหายรวมหลักล้าน

(3 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า The Ghost Radio รายการเล่าเรื่องผีและสิ่งลี้ลับชื่อดัง ได้มีการเล่าในชื่อเรื่องว่า “ทำไมดูเป็นคนดีจัง” เล่าโดยคุณปอย ซึ่งปัจจุบันมียอดวิวรวมถึง 3 ล้านวิวเป็นที่เรียบร้อย 

โดยในเรื่องคุณปอยเล่าจากประสบการณ์ตรงที่ได้ดูดวงกับหมอดูคนหนึ่งซึ่งสามารถทำนายได้อย่างแม่นยำ ก่อนอ้างว่าถูกชะตาและให้ถือว่าเขาเป็นญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งเพื่อสร้างความสนิทสนมและความเชื่อใจ เมื่อเกิดความเชื่อใจและมีการไปมาหาสู่แล้วหมอดูคนดังกล่าวได้อ้างว่าจะมอบมรดกของตนเองให้แก่คุณปอยเนื่องจากถูกชะตา 

ต่อมาหมอดูคนดังกล่าวอ้างว่าคุณปอยถูกทำคุณไสยต้องมีการทำพิธีแก้ไข และให้เช่าบูชาเครื่องรางหลายครั้ง ซึ่งทั้งการทำพิธีและการเช่าบูชาเครื่องรางในแต่ละครั้งต้องจ่ายเงินไม่ต่ำกว่าหลักหมื่นบาทต่อครั้ง 

ก่อนต่อมาเพื่อนของคุณปอยได้พาคุณปอยไปทำพิธีทำบุญคุณปอยจึงได้รู้สึกตัวว่าถูกแล้ว คุณปอยยังกล่าวต่ออีกว่า ต่อมาทราบในภายหลังว่าพิธีที่ได้ทำลงไปนั้นเรียกว่า “พิธีย้ายดวง” คือย้ายดวงคุณปอยที่ดีไปที่หมอดูคนนั้น และเครื่องรางที่มีการเช่าบูชาส่วนใหญ่มาจากร้านค้าบนแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าชื่อดัง 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากคอมเมนต์ในวิดีโอดังกล่าวระบุว่าในสัปดาห์หน้าจะมีผู้ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับหมอดูคนดังกล่าวมาร่วมเล่าประสบการณ์อีกด้วย 

ทั้งนี้ในคอมเมนต์ของวิดีโอดังกล่าวต่างมีการแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย เช่น 

ฟังเรื่องนี้จบเมื่อคืน แล้วอยากบอกปอยสองอย่าง
1. อยากขอบคุณน้องปอยที่เอาเรื่องนี้มาเล่า เป็นอุทาหรณ์ชั้นดีสำหรับคนไทยในยุคหมอดูกับร่างทรงครองเมือง
2.เพื่อนคนนั้น คบเค้าไว้ รักเค้าให้มาก อภิมหามิตรเลยนะ ถือเป็นบุญของเราที่มีเพื่อนแบบนี้

เรื่องนี้เป็น The best of the ghost radio จริงๆ เป็นเรื่องที่สุดยอมมากกกกๆๆๆๆๆๆๆ คุณปอยโชคดีมากที่มีเพื่อนแบบนี้ ขอให้รักษาเพื่อนคนนี้ไว้นะครับ เป็นเพื่อนที่ช่วยชีวิตคุณปอยจริง ๆ

ประเทศไทยต้องมีกระทรวงเวทมนตร์ มีกฎหมายเอาผิดเรื่องไสย์เวทแบบจริงๆจังนะผมว่า เรื่องบางเรื่องมันเหนือความคาดหมาย การทำคุณไสย์ทำของใส่ผุ้อื่น ในทางกฎหมายต้องมีบทลงโทษหนัก ๆ

เรื่องแบบนี้มีจริงนะคะ ขอเตือนไว้อย่างนึงถ้าเขาไม่เลิกราวีระวังพวกสัตว์ไว้ สัตว์อะไรก็ตามที่ร้อยวันพันปีเราไม่เคยเจอแต่เจอ และตัวสัตว์จะมีรอยแผลสังเกตด้วยนะคะเผื่อเขาส่งมาตาม แอบห่วงถ้าคือเรื่องจริงแล้วเขาเป็นคนมีชื่อเสียงแล้วตอนนี้เขาจะรู้ตัวว่าเรามาเล่ามาเปิดเรื่องเขา ดูแลตัวเองด้วยนะคะคุณปอย

สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามชมได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=cJxo2ayP0bo&t=3600s 

'บสย.' เยียวยาน้ำท่วม พักหนี้-พักค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 6 เดือน ค้ำใหม่ฟรี 3 ปี

ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของผู้ประสบอุทกภัย โดยได้ออกมาตรการเยียวยาช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบอุทกภัยที่อยู่ในเขตพื้นที่ 37 จังหวัด ดังนี้

1. สำหรับลูกค้าเก่า พักชำระค่าธรรมเนียมการค้ำประกันสินเชื่อ และค่าจัดการค้ำประกันทันที นาน 6 เดือน
2. สำหรับลูกหนี้ พักชำระค่างวด 6 เดือน (ยื่นคำขอได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ต.ค. 2567)
3. สำหรับลูกค้าใหม่ ฟรีค่าธรรมเนียม 3 ปี โดยปีที่ 4-10 คิดค่าธรรมเนียมต่ำที่ร้อยละ 1.25 ต่อปี วงเงินต่อราย 10,000 - 2 ล้านบาท (ยื่นคำขอได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 เมษายน 2568)

สกนช. ปรับลดเงินชดเชยราคา LPG ลงเหลือ 3.6842 บาท/กก. ขณะที่ภาพรวมบัญชี LPG ยังติดลบ 47,444 ล้านบาท

(3 ต.ค. 67) สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ประกาศปรับลดเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ บัญชี LPG สำหรับโรงแยกก๊าซฯ เหลือ 6.9943 บาทต่อกิโลกรัม พร้อมปรับลดเงินชดเชยราคา LPG เหลือ 3.6842 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนราคา LPG โลกอยู่ที่ระดับ 622.50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ขณะที่บัญชี LPG มีเงินไหลเข้า 43.39 ล้านบาทต่อวัน แต่ภาพรวมบัญชี LPG ยังติดลบรวม 47,444 ล้านบาท

รายงานข่าวจากสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ว่า นางไพลิน ฟุ้งเกียรติ ผู้อำนวยการสำนักการเงินและบัญชี และในฐานะรักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ได้ลงนามในประกาศ “การกำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุน อัตราเงินชดเชย อัตราเงินคืนจากกองทุน และอัตราเงินชดเชยคืนกองทุนสำหรับก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)” เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2567 โดยกำหนดเปลี่ยนแปลงอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในบัญชี LPG ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2567 เป็นต้นไป

สำหรับประกาศดังกล่าวได้กำหนดให้โรงแยกก๊าซธรรมชาติ ส่งเงินเข้ากองทุนฯ สำหรับ LPG ที่ผลิตในประเทศเพื่อจำหน่ายเป็นเชื้อเพลิง ในอัตรา 6.9943 บาทต่อกิโลกรัม โดยปรับลดลงจากเดิมที่กำหนดไว้ 7.1798 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้ไม่รวมถึง LPG ที่ผลิตจากโรงแยกก๊าซฯของ บริษัท ปตท. สผ. สยาม จำกัด อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร และ LPG ที่ผลิตจากโรงแยกก๊าซฯ ของ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) อ.กงไกรลาศ จ. สุโขทัย

อย่างไรก็ตามให้ บริษัท ยูเอซี โกลบอลฯ ส่งเงินเข้ากองทุนฯ ในอัตรา 3.1490 บาทต่อกิโลกรัม ลดลงจากเดิมที่กำหนดให้ส่งเข้า 3.3345 บาทต่อกิโลกรัม

พร้อมกันนี้ได้ปรับลดเงินชดเชยราคา LPG ลงเหลือ 3.6842 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมชดเชยอยู่ 3.8697 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้ไม่รวม LPG จากการแยกก๊าซฯ ที่ซื้อหรือได้จากรัฐ ผู้รับสัมปทาน หรือผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) โดยโรงแยกก๊าซฯ ของ บริษัท ปตท. สผ.สยาม จำกัด

รวมทั้งกำหนดเงินส่งเข้ากองทุนฯ สำหรับ LPG ที่ซื้อหรือได้มาจากโรงแยกก๊าซฯ ของ บริษัท ปตท. สผ. สยาม จำกัด ในอัตรา 1.8518 บาทต่อกิโลกรัม

ส่วนกรณี LPG ที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกไปต่างประเทศ ตาม พ.ร.บ.การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2543 และได้รับเงินชดเชยจากกองทุนฯ แล้ว ให้ส่งเงินชดเชยคืนกองทุนฯ 3.6842 บาทต่อกิโลกรัม

สำหรับปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ บัญชี LPG โดยภาพรวมติดลบอยู่ -47,444 ล้านบาท โดย กบน. กำหนดกรอบวงเงินสำหรับอุดหนุนราคา LPG ได้ไม่เกิน 50,000 ล้านบาท ปัจจุบันกองทุนฯ มีเงินไหลเข้าจาก LPG 43.39 ล้านบาทต่อวัน และใช้ชดเชยราคา LPG อยู่ 37.50 ล้านบาทต่อวัน ขณะที่ราคา LPG โลกเดือน ต.ค. 2567 อยู่ที่ระดับ 622.50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน  

สำหรับประกาศดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่กำหนดนโยบายให้คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) บริหารกองทุนฯ อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความเสี่ยงกรณีเกิดวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงดังนี้

1.มีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้นทุนการจัดหาจากโรงแยกก๊าซฯ ต้นทุนโรงแยกก๊าซฯ ของ ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) และต้นทุนโรงแยกก๊าซฯ ของบริษัท ยูเอซี โกลบอลฯ มีราคาสูงกว่านำเข้า 2.มีเหตุการณ์ที่ทำให้ราคา LPG ของตลาดโลกเปลี่ยนแปลงใน 2 สัปดาห์ เฉลี่ยมากกว่า 35 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน 3. มีเหตุการณ์ที่ทำให้ราคา LPG  ในประเทศเปลี่ยนแปลงใน 2 สัปดาห์ รวมกันมากกว่า 1 บาทต่อกิโลกรัม  และ 4. มีเหตุการณ์ที่ทำให้ราคาขายปลีก LPG ในประเทศสูงขึ้นในระดับเกินกว่า 363 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ทั้งนี้เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนหรือชะลอการขาดแคลนภายในประเทศ และสร้างความมั่นคงด้านพลังงานและเศรษฐกิจของประเทศ

รรท.ผบช.ตชด.เรียกประชุมด่วน ตชด.ภาค 4 กำชับนโยบาย 'บิ๊กต่าย' ปลุกขวัญกำลังใจ

พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ฯ เรียกประชุมด่วน ตชด.ภาค 4 กำชับนโยบาย รรท.ผบ.ตร. ห่วงตำรวจใต้ ย้ำยึดยุทธวิธี ไม่ประมาท เป็นที่พึ่งของประชาชน เยี่ยมบำรุงขวัญ 4 ตชด.41 โดนบึ้ม อัปเดตอาการ ส.ต.ท.สาหัส เริ่มฝึกหายใจเอง

(3 ต.ค.67) พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ( รรท.ผบช.ตชด. ) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 เวลา 19.00 น.ได้เดินทางไปยังกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 ( บก.ตชด.ภาค 4 ) อ.เมือง จว.สงขลา เรียกประชุมด่วนกำชับการปฏิบัติงานในพื้นที่ความมั่นคงจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พ.ต.อ.นรินทร์ คำแก่น รักษาราชการแทน ผบก.ตชด.ภาค 4, รอง ผบก.ตชด.ภาค 4 และตำรวจ ตชด.ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ฯ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( รรท.ผบ.ตร. ) ห่วงใยตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะ ตชด. หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบโจมตีรถบัสของตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 41 ในพื้นที่ อ.สายบุรี จว.ปัตตานี เป็นเหตุให้ ตชด.ได้รับบาดเจ็บเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย รรท.ผบ.ตร. กำชับให้ตำรวจทุกนายการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง เน้นความปลอดภัย ปฎิบัติตามยุทธวิธีเป็นหลัก พึงรักษาความไม่ประมาทไว้เสมอ เพื่อเป็นที่พึ่งดูแลความปลอดภัยสร้างความอุ่นใจให้ประชาชน โดยผู้บังคับบัญชาให้กำลังใจและพร้อมสนับสนุนการปฏิบัติ    

จากนั้น พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ฯ เดินทางไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา เยี่ยมติดตามอาการของ ตชด. 4 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุลอบวางระเบิดรถบัสของ ตชด. ใน พื้นที่ จว.ปัตตานี เมื่อวันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา ระหว่างเดินทางกลับที่ตั้งที่ จ.ชุมพร โดยปัจจุบัน ตชด. ทั้ง 4 นาย มีอาการปลอดภัย แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด  

“รายแรก ส.ต.ท.นพคุณ นำศิลป์ธนสาร ผบ.หมู่ กก.ตชด.41 บาดเจ็บสาหัส มีแผลฉีกขาดจากสะเก็ดระเบิดบริเวณใบหน้าข้างขวา หัวไหล่ขวา และมีขาหักทั้ง 2 ข้าง แพทย์ได้ผ่าตัดมัดกรามที่บริเวณแก้มขวา ใส่เหล็กดามไว้ที่แขนขวา และขาขวา ขาซ้ายดามเฝือกอ่อน สัญญาณชีพปกติ ใส่ท่อช่วยหายใจโดยแพทย์เริ่มให้ฝึกหายใจเอง

2. จ.ส.ต.ขจรพล  เพชรกูล  ผบ.หมู่ กก.ตชด.41 ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณเข่าซ้าย ปัจจุบันผู้ป่วยรู้สึกตัวดี มีกระดูกหัวเข่าซ้ายแตก ดามเหล็กพยุงภายนอกไว้ อาการบวมที่ขาลดลง ช่วยเหลือตัวเองได้เล็กน้อย

3. จ.ส.ต.ดำเนินยุทธ สง่าปู ผบ.หมู่ กก.ตชด.41 ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณแขนขวา ปัจจุบันสามารถลุกเดินช่วยเหลือตัวเองได้ ได้รับการผ่าตัดปิดเย็บแผลบริเวณแขนขวา ไม่มีภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด  

4.ส.ต.ท.ศุภวิชญ์  ป้องแก้ว ผบ.หมู่ กก.ตชด.41 ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณศีรษะด้านขวา เย็บแผล 3 เข็ม บริเวณแผลแห้งดี รู้สึกตัวดี เดินช่วยเหลือตัวเองได้”         

รรท.ผบช.ตชด. ได้มอบเงินเพื่อบำรุงขวัญ พร้อมกระเช้าผลไม้ และให้กำลังใจแก่ตำรวจทั้ง 4 นาย และครอบครัว และได้แจ้งว่าพล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ ฝากความห่วงใยและขอให้ผู้บาดเจ็บทุกนายแข็งแรงในเร็ววัน ทั้งนี้ ตชด.ทั้ง 4 นายมีขวัญกำลังใจดี และพร้อมกลับมาปฏิบัติหน้าที่เมื่อหายจากอาการบาดเจ็บ

นราธิวาส - แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า เหตุคนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องประกอบในรถยนต์ ในพื้นที่ อ.ตากใบ

เมื่อวานนี้ (2 ต.ค. 67) เวลา 14.00 น. ณ ที่ว่าการอำเภอตากใบ หมู่ที่ 3 ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส พลโท ไพศาล  หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และคณะฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระเบิดแสวงเครื่องประกอบในรถยนต์ (คาร์บอม) ยี่ห้อ MG5 สีเทา หมายเลขทะเบียน 5ขญ 1830 กรุงเทพมหานคร ของ นางสาว มาเรียม  ดอเลาะ โดยผู้ก่อเหตุได้ปล้นรถยนต์คันดังกล่าว และได้ทำการซุกซ่อนระเบิดไว้ภายในรถยนต์ จากนั้นนำมาจอดไว้บริเวณหน้าบ้านพัก ว่าที่ร้อยตรี จิรัสย์  ศิริวัลลภ นายอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส แรงระเบิดทำให้บ้านเรือนประชาชนบริเวณโดยรอบได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 นาย คือ พลทหาร กันตยศ  บินหรีม อายุ 22 ปี และ พลทหาร อนุวัฒ เหมรา อายุ 22 ปี ทั้ง 2 เป็นกำลังพลสังกัด หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ 33 ซึ่งขณะนี้ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 นายรักษาตัวยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อยู่ในการดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด

ต่อมา แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และคณะฯ ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ บริเวณถนนหน้าบ้านพักนายอำเภอตากใบ หมู่ที่ 3 ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เพื่อตรวจสอบความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกำชับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้มีการประสานงานร่วมกัน โดยเฉพาะการเยียวยาช่วยเหลือประชาชนที่บ้านเรือนและทรัพย์สินได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลพื้นที่ ร่วมกันสร้างความสงบสุขและความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในพื้นที่ต่อไป

ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้ประชุมทุกส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อรับทราบความคืบหน้าของเหตุการณ์ และเร่งติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด พร้อมมอบแนวการปฏิบัติงานเพื่อนำไปปรับแผนการปฏิบัติงานการรักษาความปลอดภัย ควบคู่การสร้างความเชื่อมั่นแก่พี่น้องประชาชนต่อการปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ได้เน้นย้ำและสั่งการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้เพิ่มความระมัดระวัง เข้มงวดมาตรการ ในการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ความรับผิดชอบของแต่ละหน่วย เพื่อป้องกันการก่อเหตุรุนแรงทุกรูปแบบ

ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

ดีเดย์!! กฎหมายใหม่เริ่มบังคับใช้วันนี้ ซื้อสินค้าออนไลน์ เปิดดูได้ก่อนจ่ายเงิน

รายงานข่าวจาก สภาองค์กรผู้บริโภค ระบุ กฎหมายใหม่บังคับใช้ วันที่ 3 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป ผู้บริโภคที่สั่งซื้อของออนไลน์ สามารถเปิดพัสดุเพื่อตรวจสอบสินค้าได้ก่อนจ่ายเงิน ซึ่งจะช่วยลดปัญหาสินค้าไม่ตรงปก รวมถึงการได้รับสินค้าทั้งที่ไม่ได้สั่งได้ สินค้าไม่ตรงกับที่สั่งซื้อ ชำรุดบกพร่อง ไม่ต้องรับ ไม่ต้องจ่าย เว้นแต่กรณีไม่พอใจสินค้า ไม่สามารถคืนได้ 

การปฏิบัติของผู้ประกอบการขนส่ง และสิทธิของผู้บริโภค ดังนี้

ผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งที่เรียกเก็บเงินปลายทาง
1.จัดทำและส่งมอบ จัดทำหลักฐานการรับเงินและส่งมอบให้กับผู้บริโภคทันทีที่ผู้บริโภคชำระเงิน

2.ลงชื่อ พนักงานของผู้ประกอบธุรกิจมีหน้าที่เป็นผู้รับเงินและผู้มีอำนาจออกหลักฐานการรับเงินต้องลงชื่อในหลักฐานการรับเงิน

3.ให้สิทธิผู้บริโภคเปิดสินค้าก่อนชำระเงิน หากผู้บริโภคประสงค์เปิดดูสินค้าก่อนชำระเงิน ต้องให้กระทำได้โดยบันทึกหลักฐานเป็นภาพถ่ายวิดีโอ หรืออื่นๆ และให้ผู้บริโภคตรวจสอบสินค้าทางกายภาพ หากพบสินค้าไม่ตรงกับที่สั่งซื้อ หรือสินค้าชำรุดบกพร่อง หรือไม่ได้สั่งซื้อสินค้า สามารถปฏิเสธไม่รับสินค้าและไม่ชำระเงินได้

4.ระยะเวลาถือเงิน ถือเงินค่าสินค้าที่รับมาจากผู้บริโภคเป็นเวลา 5 วัน ก่อนนำเงินไปส่งให้กับผู้ส่งสินค้า

5.รับสินค้าคืน เมื่อได้รับแจ้งขอคืนสินค้าและขอรับเงินคืนจากผู้บริโภคภายใน 5 วัน เนื่องจากสินค้าไม่ตรงกับที่สั่งซื้อ หรือสินค้าชำรุดบกพร่อง หรือไม่ได้สั่งซื้อสินค้า ผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งต้องไปรับสินค้าคืนจากผู้บริโภค ณ สถานที่ส่งมอบสินค้าโดยผู้บริโภคไม่มีค่าใช้จ่าย

6.ตรวจสอบเหตุการแจ้งคืนสินค้า ตรวจสอบสินค้าที่ถูกแจ้งคืน หากพบว่า เป็นไปตามเหตุผลที่ผู้บริโภคแจ้งมาจริง ต้องคืนเงินให้แก่ผู้บริโภคเต็มจำนวน ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง และส่งมอบสินค้านั้นคืนให้กับผู้ส่งสินค้า

ด้านผู้บริโภค
1.เปิดสินค้า ต่อหน้าพนักงานขนส่ง พร้อมบันทึกหลักฐานเป็นภาพถ่าย วิดีโอ หรืออื่น ๆ โดยการตรวจสอบทางกายภาพ เช่น ประเภท สี ขนาด จำนวน หากสินค้าไม่ตรงกับที่สั่งซื้อหรือสินค้าชำรุดบกพร่อง หรือไม่ได้สั่งซื้อสินค้า สามารถปฏิเสธรับสินค้าและไม่ชำระเงินได้

2.คืนสินค้าและขอเงินคืน จากผู้ประกอบธุรกิจในกำหนดเวลา 5 วัน นับแต่วันที่ได้ชำระเงินและรับสินค้า หากสินค้าไม่ตรงกับที่สั่งซื้อ หรือสินค้าชำรุดบกพร่อง หรือไม่ได้สั่งซื้อสินค้า พร้อมบันทึกหลักฐานเป็นภาพถ่าย วิดีโอ หรืออื่นๆ หากเป็นไปตามเหตุจริง จะได้รับเงินค่าสินค้าเต็มจำนวน ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง

3.การปฏิเสธสินค้าทั้งหมด กรณีสินค้าที่สั่งซื้อมีจำนวนมากกว่า 1 ชิ้นต่อหนึ่งกล่องพัสดุ หากปรากฏว่า สินค้าไม่ตรงกับที่สั่งซื้อหรือสินค้าชำรุดบกพร่อง ผู้บริโภคต้องปฏิเสธการรับ หรือแจ้งคืนสินค้าทั้งหมด รวมถึงของแถมและส่งคืนให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจ

4.ไม่พอใจสินค้า คืนไม่ได้ ไม่สามารถปฏิเสธไม่รับสินค้าหรือขอเงินคืนจากเหตุไม่พึงพอใจในสินค้า

ทั้งนี้ หากพบปัญหาการใช้สิทธิขอเปิดก่อนจ่าย สามารถร้องเรียนได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ 1166 และสามารถร้องเรียนมาได้ที่ สายด่วนสภาผู้บริโภค 1502

'พีระพันธุ์' รับปากประชาชนเร่งประสานงานฟื้นฟูพื้นที่ได้รับผลกระทบ ด้าน 'เอกนัฏ สั่งการด่วนแก้ไขปัญหาน้ำประปาให้ ปชช. กว่า 4 พันครัวเรือน

รองนายกฯ 'พีระพันธุ์' พร้อม 3 รัฐมนตรีพรรครวมไทยสร้างชาติ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชน บูรณาการดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมจังหวัดเชียงราย พร้อมรับปากจะเร่งประสานการเยียวยาช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด ขณะที่ชาวบ้านแม่ปูนล่าง อ.เวียงป่าเป้า ฝาก 'เอกนัฏ พร้อมพันธุ์' ขอให้ช่วยสร้างระบบน้ำประปา แก้ปัญหาน้ำให้ชาวบ้านในพื้นที่กว่า 4,000 ครอบครัว

(2 ต.ค. 67) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยคณะทำงาน และผู้แทนของหน่วยงานในสังกัดของแต่ละกระทรวง ลงพื้นที่ตรวจราชการหน่วยงานในกำกับดูแลและเยียวยาผลกระทบที่ประชาชนได้รับจากเหตุอุทกภัยที่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย

ภายหลังจากเดินทางถึงจังหวัดเชียงราย ได้แบ่งภารกิจการตรวจเยี่ยมเป็น 2 คณะ ประกอบด้วย 1. คณะของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม  ซึ่งมีกำหนดการตรวจราชการหน่วยงานในกำกับดูแลและเยียวยาผลกระทบที่ประชาชนได้รับจากเหตุอุทกภัย ณ ศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัย บ้านห้วยหินลาดใน หมู่ 7 ตำบลบ้านโป่ง อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย  

และ 2. คณะของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม  และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีกำหนดการตรวจราชการหน่วยงานในกำกับดูแลและเยียวยาผลกระทบที่ประชาชนได้รับจากเหตุอุทกภัย ณ บ้านแม่ปูนล่าง หมู่ 9 ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย

ทั้งนี้ ระหว่างการลงพื้นที่ นายพีระพันธุ์ ได้กล่าวถึงการลงพื้นที่ว่า ในวันนี้ทางรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติทั้ง 4 กระทรวง พร้อมด้วยคณะทำงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ปตท. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย พร้อมกับสำรวจว่า ชาวบ้านต้องการให้ช่วยเหลืออย่างไรบ้าง เพื่อนำไปรายงานทางคณะรัฐมนตรี ให้จัดสรรงบประมาณหรือจัดกําลังเข้ามาดูแลช่วยเหลือ ซึ่งพบว่าชาวบ้านได้รับความยากลำบากอย่างมาก และบางครอบครัวยังไม่สามารถกลับเข้าไปพักอาศัยในบ้านเรือนของตนเองได้ เนื่องจากได้รับความเสียหายอย่างหนัก และอยู่ระหว่างการฟื้นฟู ขณะเดียวกัน ยังหวั่นเกรงว่าจะเกิดอุทกภัยรอบใหม่อีกด้วย

“หลังจากได้รับฟังความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และได้รับทราบปัญหาต่าง ๆ จากผู้นําชุมชน หลังจากนี้จะเร่งประสานหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาช่วยอย่างเร่งด่วนต่อไป และในวันนี้นอกจากลงมาดูสภาพความเสียหายแล้ว ยังได้นำสิ่งของประเภทอาหารการกิน อุปกรณ์ประกอบอาหาร เตาแก๊สปิกนิก และยารักษาโรค มามอบให้ชาวบ้านเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และหลังจากนี้ จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องไฟฟ้าที่ยังขาดแคลนอีกด้วย”

ทางด้านนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการอุตสาหกรรม ได้รับทราบถึงปัญหาของประชาชนในพื้นที่ บ้านแม่ปูนล่าง อ.เวียงป่าเป้า ซึ่งนอกจากการเร่งฟื้นฟูซ่อมแซมบ้านเรือนและเยียวยาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วนแล้ว ประชาชนในพื้นที่ยังได้ฝากให้ รมว.อุตสาหกรรม ช่วยสร้างระบบน้ำประปาหมู่บ้าน ภายหลังจากสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายไปแล้ว เนื่องจากประชาชนในพื้นที่กว่า 4,000 ครอบครัวยังขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้

ทั้งนี้ นายเอกนัฏ ได้รับเรื่องที่จะให้การช่วยเหลือชาวบ้าน โดยได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ดำเนินการจัดส่งท่อน้ำ เพื่อวางระบบส่งน้ำเพื่อลำเลียงน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติมายังหมู่บ้าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนภายหลังจากฟื้นฟูสภาพความเสียหายเรียบร้อยแล้ว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top