Monday, 16 June 2025
Hard News Team

‘พล.ต.ท.กรไชยฯ’ ร่วมปล่อยแถวการไฟฟ้านครหลวง ลงพื้นที่ จ.เชียงราย ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตรวจสอบ ปรับปรุงระบบไฟฟ้าในครัวเรือน

(2 ต.ค. 67) เวลา 06.00 น. พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะคณะกรรมการไฟฟ้านครหลวงและประธานกรรมการกิจการสัมพันธ์การไฟฟ้านครหลวง พร้อมด้วย นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง , นายเสนอ วิสุทธนะ ประธานสหภาพแรงงาน การไฟฟ้านครหลวง และผู้บริหารการไฟฟ้านครหลวงที่เกี่ยวข้อง ร่วมปล่อยคาราวาน “MEA ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบอุทกภัย” ณ บริเวณสถานีชาร์จรถไฟฟ้า EV การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร โดยมีพนักงานการไฟฟ้านครหลวงอาสา จำนวน 100 คน พร้อมด้วยรถตู้จำนวน 10 คัน , รถกระบะจำนวน 3 คัน , รถบรรทุกหกล้อ จำนวน 2 คัน ลงพื้นที่ตรวจสอบ ปรับปรุงระบบไฟฟ้า และเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในครัวเรือน ตลอดจนมอบเงินบริจาค อุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้ให้แก่เจ้าหน้าที่และหน่วยงานในการช่วยเหลือประชาชนเพื่อความปลอดภัย พื้นที่ ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ใน 6 หมู่บ้าน จำนวน 65 หลังคาเรือน ที่ประสบอุทกภัย ระหว่างวันที่ 2 - 8 ตุลาคม 2567

พล.ต.ท.กรไชยฯ กล่าวว่า การที่เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ซึ่งเป็นภัยธรรมชาติในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือของประเทศไทย เกิดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่สูญเสีย ในการดำรงชีวิตปกติ ทรัพย์สิน และกำลังเผชิญกับความยากลำบากจากภัยพิบัติทางธรรมชาติอันร้ายแรง ตนขอชื่นชมในความเสียสละและความมุ่งมั่นของพนักงานการไฟฟ้านครหลวงทุกคน ที่ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อเข้าไปช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลังความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคสิ่งของ เงินทุน หรือการอาสาสมัครลงพื้นที่ช่วยเหลือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในพื้นที่ประสบภัย ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต และขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มจิตอาสาสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวง ชมรมวิศวกรการไฟฟ้านครหลวง และหน่วยงานต่างๆ ในการดำเนินงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยครั้งนี้ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการฟื้นฟูชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ให้กลับคืนสู่สภาวะปกติได้โดยเร็ว

ทั้งนี้ พล.ต.ท.กรไชยฯ ได้มอบหมายให้กองบังคับการตำรวจจราจร นำขบวนจากการไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร และกองบังคับการตำรวจทางหลวง รับช่วงต่อบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต นำขบวนไปยังที่หมาย เพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยด้วย

'เพนกวิน' โพสต์เฟซบุ๊กครั้งแรกหลังได้รับสถานะผู้ลี้ภัย เผยได้รับทุนเรียนต่อ ป.โท-เอก มหาวิทยาลัยระดับโลก

(2 ต.ค. 67) หลังจากเงียบหายไปตั้งแต่ 14 พ.ค. 67 เพนกวิน หนึ่งในแกนนำการชุมนุมเมื่อปี 2562 ได้แจ้งข่าวบนเฟซบุ๊กเป็นครั้งแรกใน 'สถานะผู้ลี้ภัย' ว่า 

สวัสดีครับ เพื่อนพ้องและพี่น้องผู้รักประชาธิปไตยทุกคน

วันนี้ผมมีข่าวดีมาแจ้งให้พี่น้องทุกคนได้ทราบว่าผมได้รับทุนการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาเอกแบบเต็มจำนวนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่งในประเทศโลกเสรี การได้ศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงระดับโลกนั้นถือเป็นโอกาสสำคัญยิ่งของชีวิตผม แต่เนื่องด้วยสถานการณ์การใช้กฎหมายปิดกั้นเสรีภาพและปราบปรามผู้เห็นต่างทางการเมืองที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ผมจึงจำเป็นต้องเดินทางไปศึกษาต่อโดยไม่ได้ร่ำลาและแจ้งให้พี่น้องได้ทราบกันล่วงหน้า ตัวผมต้องขออภัยมา ณ ที่นี้

นับจากวันนี้ไป ผมเชื่อว่าคงจะมีหลายคนซึ่งอาจยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามทางการเมืองกับผมออกมาเย้ยหยันว่าผมเป็นนักโทษหนีคดี เหมือนกับที่เคยเย้ยหยันคนอื่น ๆ มาก่อน ขอใช้โอกาสนี้เรียนไปถึงกลุ่มคนเหล่านั้นว่าการดำเนินคดีความทั้งหลายกว่า 30 คดีที่ผมตกเป็นจำเลยหรือผู้ถูกกล่าวหานั้น ล้วนแล้วแต่ได้รับการยอมรับในสังคมนานาชาติว่าเป็นการดำเนินคดีความทางการเมือง ไม่ใช่การดำเนินคดีทางอาญา อีกทั้งกฎหมายที่ใช้กล่าวหาและดำเนินคดีผม โดยเฉพาะกฎหมายมาตรา 112 นั้น เป็นกฎหมายป่าเถื่อน ล้าหลัง และปิดกั้นสิทธิเสรีภาพของประชาชน ไม่เป็นที่ยอมรับของประชาคมนานาชาติ ผมจึงมิได้เป็นอาชญากรในสายตาสังคมอารยประเทศทั้งหลาย ในทางตรงกันข้าม บุคคลและระบอบที่ใช้กฎหมายป่าเถื่อนล้าหลังดำเนินคดีผู้อื่นอย่างไม่เป็นธรรมเพื่อปราบปรามทางการเมืองต่างหากที่จะถูกถือว่าเป็นอาชญากร

สำหรับเพื่อนพ้องและพี่น้องทุกคนที่ได้ร่วมฝัน ร่วมต่อสู้ และร่วมเป็นกำลังใจกับผมในตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมขอขอบคุณทุกความเชื่อมั่นและการสนับสนุนที่ทุกท่านมีให้ผมตลอดมาไม่ขาด หลังปี 2565 เป็นต้นมา เงื่อนไขทางกฎหมายได้จำกัดเสรีภาพทางการแสดงออกของผมเป็นอย่างมาก ผมขอให้คำมั่นว่าไม่ว่าตัวผมจะอยู่ ๆ แห่งหนตำบลใดหรือในสถานการณ์ใด ผมก็ยังคงเป็นผมคนเดิมที่ทุกท่านรู้จัก หัวใจของผมยังคงอยู่กับสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค และประชาธิปไตยของประชาชนไทย รวมถึงความก้าวหน้าของประเทศชาติเราเหมือนที่เป็นตลอดมา

ในโอกาสนี้ ผมขอส่งใจให้กับมิตรสหายเพื่อนร่วมอุดมการณ์และพี่น้องประชาชนที่ต้องเผชิญหน้ากับการละเมิดสิทธิและปิดกั้นเสรีภาพโดยใช้กฎหมายที่ไร้ความเป็นธรรมเป็นข้ออ้าง โดยเฉพาะทนายอานนท์ นำภาและนักโทษทางการเมืองที่ถูกคุมกว่า 40 คน ผมขอเรียกร้องให้รัฐไทยยุติการดำเนินคดีทางการเมืองและปลดปล่อยนักโทษทางการเมืองทั้งหมด เพื่อลดความตึงเครียดในสังคมและฟื้นฟูภาพลักษณ์ของประเทศในสายตาประชาคมนานาชาติ ผมเชื่อว่าผู้คนในอารยประเทศนั้น หากได้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผู้เห็นต่างทางการเมืองในประเทศไทยก็จะเรียกร้องเหมือนกันกับผมเช่นกัน

ท้ายที่สุดนี้ ผมเชื่อว่าหากพวกเราคนไทยยังไม่หยุดใฝ่ฝันถึงเสรีภาพ เสรีภาพและความเป็นธรรมที่แท้จริงก็จะมาถึงพี่น้องคนไทยทุกคนในเร็ววัน

ขอฝากรัก ศรัทธา และความนับถือมาถึงเพื่อนพ้องและพี่น้องทุกคนจนกว่าวันที่เราจะได้พบกันอีก

พริษฐ์ ชิวารักษ์ (เพนกวิน)

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าก่อนหน้านี้นายภาณุพงศ์ มะณีวงศ์ หรือ ไมค์ ระยอง ได้เป็นผู้ลี้ภัยไปแล้ว 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตือนมิจฉาชีพฉวยโอกาสตบทรัพย์ผู้เกษียณ หลอกโอนเงินและข้อมูลส่วนตัว

(2 ต.ค. 67) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ โดยเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา เป็นวันเกษียณอายุราชการของข้าราชการหลายท่าน ซึ่งอาจต้องติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องของสิทธิประโยช์ต่าง ๆ ของผู้เกษียณอายุราชการ ทั้งในเรื่องเงินสวัสดิการ เงินบำเหน็จบำนาญ เงินภาษี ฯลฯ ทำให้กลุ่มมิจฉาชีพอาจใช้โอกาสนี้ในการหลอกลวงสร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้เกษียณอายุราชการและบุคคลในครอบครัว เพิ่มความระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจแอบอ้างเป็นหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับเงินสิทธิประโยชน์ และสวัสดิการต่าง ๆ เช่น กรมบัญชีกลาง กรมสรรพากร หรือหน่วยงานต้นสังกัดที่รับผิดชอบเงินสวัสดิการของผู้เกษียณอายุราชการ ติดต่อมาเพื่อหลอกลวงให้ส่งข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลบัญชีธนาคาร และเอกสารสำคัญต่าง ๆ รวมถึงการหลอกให้กดลิงก์ หรือหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อเป็นหลักประกันในการรับเงินบำเหน็จบำนาญและเงินตอบแทนต่าง ๆ

โดยหากได้รับการติดต่อในลักษณะดังกล่าว ขอให้ท่านโทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลกับหน่วยงานต้นสังกัดโดยตรง และขอให้บุตรหลานของผู้เกษียณอายุราชการ คอยให้คำแนะนำและสอดส่องดูแลผู้เกษียณอายุราชการ เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

สุดท้ายนี้ หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ และหากเป็นคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ สายด่วน 1441 หรือเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ผู้ผลิตรถไฟจีนสุดเจ๋ง เปิดตัวรถไฟพลังงานไฮโดรเจน ทำความเร็ว 200 กม./ชม. ปล่อยมลพาเป็นศูนย์

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ซีอาร์อาร์ซี คอร์เปอเรชัน ลิมิเต็ด (CRRC) ผู้ผลิตรถไฟของจีน ได้เปิดตัวรถไฟพลังงานไฮโดรเจน 'ซิโนวา เอช2' (CINOVA H2) ที่งานมหกรรมการค้าเทคโนโลยีการขนส่งนานาชาติ หรืออินโนทรานส์ (InnoTrans) ปี 2024 ในกรุงเบอร์ลินของเยอรมนี เมื่อไม่นานนี้

รถไฟพลังงานไฮโดรเจน ซิโนวา เอช2 สามารถทำความเร็วสูงถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ และวิ่งไกลถึง 1,200 กิโลเมตร ณ ความเร็ว 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมบรรทุกผู้โดยสาร 1,000 คน ด้วยเชื้อเพลิงไฮโดรเจนเต็มถัง

ทั้งนี้ รถไฟพลังงานไฮโดรเจน ซิโนวา เอช2 ซึ่งใช้ไฮโดรเจนน้อยกว่า 0.3 กรัมต่อผู้โดยสารต่อกิโลเมตร จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอน 730 ตันต่อปี เมื่ออ้างอิงระยะทางการเดินรถราว 3 แสนกิโลเมตรต่อปี

‘ดร.ธนชาติ’ มอง ยักษ์ไอทีลงทุน Data Center แค่ธุรกิจปกติ ชี้!! คนไทยได้ประโยชน์น้อย - ไม่ช่วยให้เกิดการจ้างงานดังคาด

รศ.ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการ สถาบันไอเอ็มซี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘Thanachart Numnonda’ ถึงกรณีบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ว่า  Data Center ไม่ได้สร้างงานได้มากมาย แต่ทักษะด้านไอทีต่างหากคือสิ่งที่จะสร้างงานได้นับหมื่นตำแหน่ง

เห็นข่าว Google จะมาลงทุน Data Center ในเมืองไทยที่แถลงข่าวเมื่อวานนี้ก็เป็นเรื่องน่ายินดี แต่ก็ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นมากมาย เพราะเป็นการลงทุนตามกระแสธุรกิจ การที่บริษัท Big Tech แต่ละแห่งจะมาลงทุน Data Center ก็เป็นไปตามวัฏจักรธุรกิจ การลงทุนในแต่ละ Region ก็ไปตามการใช้งานของผู้ใช้ Google หรือ Big Tech ก็ค่อย ๆ สร้าง Region Data Center ในแต่ละประเทศ เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ ทั่วโลก แถวอาเซียนตอนตนเองเล่น Google Cloud Platform ใหม่ๆเมื่อ 14 ปีก่อนก็มีเฉพาะที่สิงคโปร์ พอมีลูกค้าในอินโดนีเซียมากขึ้นก็ไปเปิด Data Center เพิ่มขึ้นที่นั่น รอบนี้ความต้องการใช้ในไทยมากขึ้นก็ต้องเปิดที่ประเทศไทย ต่อไปก็คงไปเปิดประเทศอื่น ๆ อีก 

การลงทุน ก็อาจมีการลงทุนสิ่งปลูกสร้าง ที่ดิน ระบบไฟฟ้า และก็มีการสั่งซื้อระบบเซิร์ฟเวอร์จากต่างประเทศเข้ามาติดตั้งใน Data Center ที่ก่อตั้งขึ้นในไทย คนไทยก็อาจมีข้อดีที่เราใช้บริการ Cloud ที่เร็วขึ้นเพราะ Data Center อยู่ในประเทศ ลดความช้าที่ต้องส่งข้อมูลไปต่างประเทศ แต่เงินตราก็เข้าบริษัทต่างชาติอยู่ดี ยิ่งพอเราใช้ Cloud ของบริษัท Big Tech เงินเราก็ยิ่งไหลออกไปต่างประเทศมากขึ้น เราก็จะยิ่งขาดดุลการค้ามากขึ้น เจ้าหน้าที่ใน Data center ก็ไม่ได้มีมากมาย ไม่ได้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นมากมาย แถมอาจเน้นเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยมากกว่า ส่วนผู้เชี่ยวชาญที่จะดูแลระบบไอทีจริง ๆ คงรีโมทมาจากต่างประเทศ เผลอ ๆ การจ้างงานตำแหน่งเหล่านี้ในไทยคงน้อยมาก

แล้วโอกาสงานหมื่น ๆ ตำแหน่งอยู่ไหน ก็คงเป็นเรื่องของการสร้างทักษะคนให้มีความสามารถขั้นสูงในการพัฒนาไอที พัฒนาเอไอ ถ้าคนมีความสามารถที่ดีขึ้นก็มีโอกาสมากขึ้น ขึ้นอยู่กับผู้ว่าจ้าง ซึ่งคงไม่ใช่บริษัท Google จะมาจ้างงาน 15,000 ตำแหน่ง และต่อให้ไม่มี Data Center ของ Big Tech อยู่ในเมืองไทย คนก็สามารถพัฒนาความสามารถตัวเองได้ 

“ที่ผ่านมาผม Upskill ตัวเองจากการใช้ Cloud ต่าง ๆ มานานนับสิบปีจากทั้ง AWS, Google และ Azure ทั้ง ๆ ที่ Cloud เหล่านี้ไม่เคยมี Data Center ในเมืองไทย ดังนั้นแทนที่จะถามว่ามาลงทุนใน Data Center ที่บ้านเราเท่าไร ซึ่งเราก็คงไม่ได้อะไรมากมายไม่ได้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ควรถามมากกว่าจะมาลงทุนด้านการศึกษา พัฒนาทักษะคนเป็นเงินเท่าไหร่ เปิด course ต่างๆให้เราเรียนฟรีได้แค่ไหน ให้ทดลองใช้ Cloud ฟรีเพื่อการเรียนรู้ในการพัฒนาทักษะได้ไหม” ดร.ธนชาติ กล่าว พร้อมทั้งย้ำว่า

อย่าตื่นเต้นอะไรมากมายเลยครับกับการลงทุนสร้าง Data Center ควรตื่นเต้นกับการลงทุนด้าน Upskill/Reskill ดีกว่า

4 รัฐมนตรีรวมไทยสร้างชาติ ลุย!! ตรวจราชการ จ.เชียงราย เร่งดูแลเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย

(2 ต.ค. 67) ที่สนามบินกองทัพอากาศ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคณะ พร้อมเดินทาง ด้วยเครื่องบินของกองทัพอากาศ ไปตรวจราชการ หลังเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ ที่จังหวัดเชียงราย หลายพื้นที่ เพื่อกำกับดูแลและเยียวยาผลกระทบที่ประชาชนได้รับจากเหตุอุทกภัย พร้อมบูรณาการความช่วยเหลือให้สำเร็จด้วยความรวดเร็ว 

ทั้งนี้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ จ.เชียงราย ล่วงหน้าแล้ว และจะร่วมลงพื้นและพร้อมกับคณะ

โดยกำหนดการในการลงพื้นที่ครั้งนี้อยู่ที่ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า โดยคณะ 4 รัฐมนตรีพร้อมทีมงานจะทำการตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยที่พื้นที่หมู่ที่ 9 บ้านแม่ปูนล่าง และสำรวจความเสียหายเส้นทางสัญจรของประชาชน

‘อิหร่าน‘ เปิดฉากโจมตี ‘อิสราเอล‘ ระลอกใหม่ เพิ่มแรงกดดัน ส่อเค้าลุกลามกลายเป็นสงครามในภูมิภาค

อิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอลเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (1 ต.ค.67) ส่งผลให้ท้องฟ้าเหนือกรุงเยรูซาเล็มและกรุงเทลอาวีฟสว่างไสว และเสียงไซเรนเตือนภัยดังไปทั่ว ขณะที่ระบบป้องกัน Iron dome สามารถสกัดกั้นขีปนาวุธบางส่วนได้ 

กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐระบุว่า อิหร่านยิงขีปนาวุธราว 200 ลูกใส่เป้าหมายหลายแห่ง และเสริมว่า สหรัฐได้ให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือในการปกป้องอิสราเอล

กองทัพอิสราเอลระบุว่า ยังไม่ทราบถึงความสูญเสียใด ๆ โดยก่อนหน้านี้ ขบวนการมูจาฮิดีนปาเลสไตน์อ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงกราดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 รายทางตอนใต้ของกรุงเทลอาวีฟ

อิสราเอลเริ่มบุกเลบานอนเมื่อต้นสัปดาห์นี้ โดยเคลื่อนกำลังเข้าไปทางตอนใต้ ปฏิบัติการภาคพื้นดินมีเป้าหมายเพื่อผลักดันกองกำลังเฮซบอลเลาะห์ให้ถอยห่างจากชายแดนมากขึ้น หลังจากเกิดความขัดแย้งกับกลุ่มก่อการร้ายที่อิหร่านให้การสนับสนุนมาหลายสัปดาห์

เจ้าหน้าที่เลบานอนกล่าวว่าการโจมตีอย่างหนักของอิสราเอลทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,000 รายและทำให้ผู้คนต้องพลัดถิ่นฐานมากถึง 1 ล้านคนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

อิสราเอลกล่าวว่า อิหร่าน 'จะต้องชดใช้' สำหรับการโจมตีด้วยขีปนาวุธครั้งใหญ่ต่ออิสราเอล นักข่าว ABC News ของสหรัฐอเมริการายงานว่า อิหร่านยิงขีปนาวุธประมาณ 200 ลูก โจมตี 4 เป้าหมาย ได้แก่ ศูนย์บัญชาการมอสสาด และฐานทัพอากาศหลักอีก 3 แห่ง 

แม้ว่าการโจมตีจะยุติลงได้ค่อนข้างเร็ว แต่ก็ชัดเจนว่าการโจมตีครั้งนี้ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับสถานการณ์ที่ตึงเครียดเป็นอย่างมากอยู่แล้ว มีคำเตือนมานานแล้วว่า ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและตัวแทนของอิหร่านอย่างกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน อาจลุกลามกลายเป็นสงครามในภูมิภาคที่กว้างขึ้น ทำให้ขณะนี้ทุกสายตาจับจ้องไปที่การตอบโต้ของอิสราเอล

โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่าสหรัฐฯ 'สนับสนุน' อิสราเอลอย่างเต็มที่ แต่เขากล่าวว่ารัฐบาลของเขายังคงหารือกับอิสราเอลอยู่ว่าสมควรที่จะตอบโต้อิหร่านอย่างไร “เราจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดให้ถูกต้อง เราติดต่อกับรัฐบาลอิสราเอลและพันธมิตรของเราอย่างต่อเนื่อง และยังต้องรอดูกันต่อไป” เขากล่าว

ในขณะที่อิสราเอลกำลังสู้รบในสองแนวรบอยู่แล้ว อิสราเอลทำสงครามกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาตั้งแต่ถูกโจมตีอิสราเอลทางตอนใต้เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ทำให้ชาวปาเลสไตน์หลายหมื่นคนเสียชีวิตในฉนวนกาซา พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกทำลายจนเป็นเศษซาก

และแม้ว่าอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์จะยิงข้ามพรมแดนกันมาตลอดทั้งปีที่ผ่านมา แต่การที่อิหร่านได้เปิดฉากโจมตีเมื่อวันอังคาร เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่อิสราเอลประกาศว่าได้เปิดฉากปฏิบัติการภาคพื้นดิน 'จำกัดและเฉพาะพื้นที่' ในเลบานอน การส่งทหารอิสราเอลเข้าไปในเลบานอน อิหร่านจึงถือเป็นการยกระดับความรุนแรงในการปฏิบัติการของอิสราเอล จนทำให้อิหร่านต้องเปิดฉากโจมตีอิสราเอลอีกครั้งหนึ่ง

ประธานศาลปกครองสูงสุด สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลปกครอง ในโอกาสรับตำแหน่งใหม่

(2 ต.ค. 67) ตามที่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมประกาศแต่งตั้ง นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ รองประธานศาลปกครองสูงสุด ให้ดำรงตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุด ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป นั้น  

โอกาสนี้ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 เวลา 09.00 น. นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด ได้สักการะพระพุทธมหากรุณาประชานาถ ศาลพระภูมิ และถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลปกครอง เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสเข้าปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุดอย่างเป็นทางการ โดยมี นายสุชาติ มงคลเลิศลพ รองประธานศาลปกครองสูงสุด และนายพรชัย มนัสศิริเพ็ญ รองประธานศาลปกครองสูงสุด พร้อมด้วย นายจำนงค์ ถาวรวิสิทธิ์ รองเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง และผู้บริหารสำนักงานศาลปกครอง ให้การต้อนรับและร่วมแสดงความยินดีในการดำรงตำแหน่ง ณ อาคารศาลปกครอง

นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด คนที่ 6 มีประวัติการศึกษา และประสบการณ์การทำงาน ดังนี้ จบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง รัฐศาสตรมหาบัณฑิต (บริหารรัฐกิจ) จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เนติบัณฑิต จากสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา และได้รับประกาศนียบัตรการอบรมหลักสูตรหลักนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย (นธป.) รุ่นที่ 2 จากสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ โดยดำรงตำแหน่งที่สำคัญ ดังนี้

- 1 ตุลาคม 2540 - 7 มกราคม 2544 อัยการจังหวัดประจำกรม ชั้น 4 สำนักงานอัยการสูงสุด
- 2 กุมภาพันธ์ 2544 - 30 กันยายน 2545 ตุลาการศาลปกครองกลาง
- 1 ตุลาคม 2545 - 30 กันยายน 2551 ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง
- 1 ตุลาคม 2551 - 14 กันยายน 2552 รองอธิบดีศาลปกครองระยอง
- 15 กันยายน 2552 - 20 เมษายน 2559 ตุลาการศาลปกครองสูงสุด
- 21 เมษายน 2559 - 19 กุมภาพันธ์ 2560 ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด
- 20 กุมภาพันธ์ 2560 - 30 กันยายน 2563 ประธานแผนกคดีละเมิดและความรับผิดอย่างอื่นในศาลปกครองสูงสุด
- 1 ตุลาคม 2563 - 30 กันยายน 2567 รองประธานศาลปกครองสูงสุด

2 ตุลาคม ของทุกปี ‘วันปลอดความรุนแรงสากล’ (International Day of Non-Violence) วันคล้ายวันเกิด ‘มหาตมะ คานธี’ ผู้ริเริ่มปรัชญา-หลักการไม่ใช้ความรุนแรง

ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ได้ร่วมกันลงมติให้วันที่ 2 ตุลาคมของทุกปีเป็นวันแห่งการไม่ใช้ความรุนแรงสากล เนื่องจากตรงกับวันคล้ายวันเกิดของ มหาตมะ คานธี (2 ตุลาคม ค.ศ. 1869) ผู้ที่ริเริ่มปรัชญาและหลักการไม่ใช้ความรุนแรง 

ทั้งนี้ สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้กำหนดวันนี้ขึ้นเพื่อให้ผู้คนทั่วโลก ตระหนักถึงการไม่ใช้ความรุนแรง และเพื่อให้เกิดสังคมที่มีความสันติสุข มีความอดทนอดกลั้น และเข้าใจหลักการไม่ใช้ความรุนแรงอย่างลึกซึ้ง

ตามคำนิยามขององค์กรอนามัยโลก ‘ความรุนแรง (violence)’ คือการใช้กำลังหรือพลังทางกายข่มขู่ เพื่อให้ผู้อื่นทำตามความต้องการของตัวเอง ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเกิดการบาดเจ็บ การเสียชีวิต การทำร้ายจิตใจ

และความรุนแรงนั้นสามารถเกิดได้แทบทุกที่บนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นในสถานการณ์ใหญ่ ๆ อย่างสงคราม หรือแม้แต่ในที่ที่น่าจะปลอดภัยที่สุด อย่างเช่น ในบ้าน หรือในครอบครัว และสิ่งที่ตามมาหลังจากความรุนแรงได้เกิดขึ้น นั่นก็คือ จะมีคนได้รับบาดเจ็บ ไม่ว่าจะทางร่างกาย หรือทางจิตใจ

ดังนั้น ในวันที่ 2 ตุลาคมของทุกปี จึงถูกกำหนดให้เป็น ‘วันปลอดความรุนแรงสากล’ หรือ International Day of Non-Violence ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของ มหาตมะ คานธี 2 ตุลาคม ค.ศ. 1869 (พ.ศ. 2412) ผู้ที่ริเริ่มปรัชญาและหลักการไม่ใช้ความรุนแรง 

โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นการรณรงค์ให้ผู้คนไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาต่าง ๆ รวมถึงให้ตระหนักรู้ถึงผลเสียมากมายที่จะตามมาหลังจากที่ความรุนแรงเกิดขึ้นอีกด้วย

'สุริยะ' เล็งเพิ่มมาตรการป้องกันไฟไหม้รถโดยสาร พร้อมสั่งระงับใบอนุญาตฯทันที – ลั่นเอาผิดขั้นสูงสุดหากผิดจริง

(1 ต.ค.67) 'สุริยะ' มอบหมาย 'สุรพงษ์' จัดประชุม ขบ. ด่วน เล็งเพิ่มมาตรการป้องกัน ลั่นต้องไม่เกิดเหตุซ้ำ พร้อมสั่งระงับใบอนุญาตผู้ประกอบการทันที หากพบผิดจริงจะดำเนินการขั้นสูงสุด เตือน! รถโดยสารทุกคัน ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยผู้โดยสาร 

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์รถบัสชั้นเดียวไฟไหม้ บริเวณหน้าเซียร์รังสิต โดยบนรถบัสคันที่เกิดอุบัติเหตุมีนักเรียน จำนวน 39 คน และครู จำนวน 6 คน สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ล่าสุดอยู่ในขั้นตอนของการหาข้อเท็จจริง เบื้องต้นคาดว่าภายในวันนี้จะได้ข้อสรุปข้อมูลเบื้องต้น 

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เรียกกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ประชุมโดยด่วนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ รวมถึงเตรียมเพิ่มแนวทางมาตรการการป้องกันที่เข้มข้นขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำอีก และจะทำการถอดบทเรียนอย่างละเอียด เพื่อนำมาแก้ไขกระบวนการดำเนินงานอย่างถูกต้อง ซึ่งจะคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารในระดับสูงสุด

ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อว่า สำหรับการหาข้อเท็จจริง ในขณะนี้ หากพบว่าเป็นความผิดของผู้ประกอบการขนส่ง นางสาวปาณิสรา ชินบุตร รถโดยสารคันหมายเลขทะเบียน 30-0423 สิงห์บุรี จะดำเนินการระงับใบอนุญาตประกอบการขนส่งทันที และจะดำเนินตามข้อกฎหมายระดับสูงสุด ซึ่งขณะนี้ได้สั่งระงับใบอนุญาตผู้ประกอบการชั่วคราว อยู่ในช่วงของการสอบสวนถึงอุบัติเหตุเพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจน นอกจากนี้ ยังได้กล่าวเตือนถึงผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ต้องคำนึงถึงด้านความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นหลัก สำหรับการตรวจสอบรถโดยสารคันดังกล่าว ขณะนี้ได้สั่งการให้วิศวกรเข้าตรวจสอบ พร้อมทั้งเช็กอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับด้านความปลอดภัยอย่างละเอียด 

นายจิรุตม์ กล่าวต่อถึงแนวทางการเยียวยานั้น รถโดยสารชั้นเดียวคันดังกล่าวมีประกันภัยตามข้อกฎหมาย โดยภายหลังจากนี้จะดำเนินการเยียวยาผู้ประสบเหตุทันที และจะมีการติดตามสถานการณ์เพื่อดูแลสภาพจิตใจและสภาพร่างกายอย่างใกล้ชิด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top