‘ยิ่งชีพ’ iLAW‘ หวัง ‘รมช.สุชาติ’ เร่งเคลียร์ข้อกังขาของสังคมปมซื้อตึก 7 พันล้าน ชี้! ไม่ควรเสียเวลาขึ้นศาลฟ้อง สส.ปากกล้า
(19 มี.ค. 68) นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yingcheep Atchanont ว่า ท่านสุชาติ ชมกลิ่น เป็นถึงอดีตรัฐมนตรีแรงงาน เป็นรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ เป็นสส. มาสามสมัย ภาษีและประสบการณ์สูงกว่า ไอซ์ รักชนก มาก นั่งเก้าอี้สูงสุดแรงงานอยู่สามปีกว่าน่าจะเชี่ยวชาญเรื่องประกันสังคมมากๆ รู้จักคนข้างในเข้าถึงข้อมูลทะลุปรุโปร่งกว่าสส. ปากกล้าเป็นไหน ๆ
ถ้าสิ่งที่ไอซ์เปิดออกมานั้น ”ไม่จริง“ สิ่งที่ทำได้และควรทำอันดับแรกคือต้องชี้แจง
กองทุนประกันสังคม ซื้อตึกนั่นจริงไหม??
ซื้อ 7,000 ล้าน+ จริงไหม??
ราคาประเมิน จริงๆควรซื้อ 3,000 ล้าน+ จริงไหม??
ถ้าไม่จริงแล้วมันเท่าไร??
แล้วที่ว่าซื้อมาแทบไม่ทำกำไร ไม่สร้างรายได้ จริงไหม?? หรือมันสร้างกำไรมากมาย เท่าไร??
ซื้อมาจากใคร?? ใครเป็นเจ้าของเดิม??
ถ้าบอกไม่รู้เรื่องการซื้อตึก แล้วใครรู้ กระบวนการตัดสินใจใช้งบและการตรวจสอบที่ถูกต้องเป็นยังไง?? ใครรับผิดชอบ??
รวมถึงอธิบายเรื่องวิธีคิด วิธีการบริหารกองทุนประกันสังคมให้มีประสิทธิภาพ ให้เป็นประโยชน์กับผู้ประกันตน ความจำเป็นของการไปดูงานต่างประเทศ ความเป็นมืออาชีพ หรือความพยายามประหยัดเงินที่ผ่านมา ถ้าทำเต็มที่มั่นใจว่าดีแล้วก็เล่ารายละเอียดได้เลย ตั้งโต๊ะแถลงเต็มๆ ตัวอย่างแบบมาดามแป้ง นั่งเล่าไปเลยชั่วโมงนึง รับรองสื่อทุกช่องอยากฟัง ประชาชนก็อยากฟัง ถ้าไอซ์ผิดหมดคนเขาฟังก็เข้าใจ
ไม่ใช่ใช้วิธีการฟ้อง หรือการออกมาด่ากลับคนวิจารณ์
ท่านสุชาติ บอกว่ายินดีจะไปศาลเอง เบิกความเอง ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องดีมากๆ ในแง่หนึ่งนะครับ เพราะคดีหมิ่นประมาทเป็นความผิดต่อส่วนตัว เป็นเรื่องที่แต่ละคนรู้สึกไปส่วนตัวว่าตัวเองเสียหายอย่างไร ก็ควรไปอธิบายเอง
พวกผู้ใหญ่ในสังคมชอบยื่นฟ้องคนเป็นชุดหลายสิบคดี แล้วตัวเองไม่เคยไปศาล ไม่ไปเบิกความเองไม่ไปชี้แจงว่าความจริงเป็นอย่างไร ไม่ไปให้โอกาสอีกฝ่ายถามค้าน ส่งตัวแทนไปแล้วพอถูกถามค้านก็ตอบไม่ได้ ศาลยกฟ้อง แต่จำเลยถูกบังคับโดยกระบวนการว่าต้องไปศาล ฝ่ายจำเลยชนะคดีแต่เสียเวลาและค่าทนายไปมากมายแล้ว คนรวยที่ฟ้องคนอื่นแค่จ่ายเงิน แทบไม่มีต้นทุนทางสังคม แบบนี้เรียกคดีปิดปาก
การที่รัฐมนตรีจะไปศาลเอง แปลว่าเลือกแล้วว่างานอื่นในหน้าที่ตอนนี้ไม่ได้สำคัญเท่าไหร่ สำคัญกว่าสำหรับท่านสุชาติตอนนี้คืออยากสู้กลับ และอยากออกมาพูดเองให้ศาลฟังว่า เขารู้อะไรหรือคิดอะไร ซึ่งการไปศาลจะใช้เวลามากอาจจะถูกถามค้านหนึ่งวันเต็มหรือมากกว่านั้น และในกระบวนการศาลให้คนเข้าไปนั่งฟังได้จำกัด บางครั้งคดีใหญ่ตรวจเข้มเข้าไม่ได้ นักข่าวเข้าไม่ได้ หรือถ้าเข้าได้ก็จดไม่ทัน หรือบางคดีไม่ให้จด แต่ที่แน่ ๆ อัดเสียงและอัดวิดีโอไม่ได้ ทำให้ข้อเท็จจริงที่ เขาอยากจะสื่อสาร ไปถึงเพียงหูผู้พิพากษาซึ่งอาจจะอายุ 25 - 30 ปีไม่กี่คน แต่สังคมกลับไม่ได้มีโอกาสเต็มที่ในการรับรู้สิ่งนั้น
ดังนั้น ถ้ามั่นใจในข้อเท็จจริงในมือของตัวเองและอยากจะสื่อสารต่อสาธารณะบ้างเพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาที่ตัวเองคิดว่าไม่เป็นจริง กระบวนการศาลทำงานนี้ได้ไม่เต็มที่ครับ การตั้งโต๊ะแถลงหรือไปเดินสายออกรายการสรยุทธ์บ้าง พี่หนุ่มบ้าง จะทำให้ประชาชนได้ยินมากกว่า อาจจะใช้เวลาน้อยกว่าไปศาลด้วย