Wednesday, 30 April 2025
Hard News Team

"แรมโบ้" เปิดศึก “รองหน.ภท.” ซัด อย่าโยนความผิดให้นายกฯ ย้อน ให้มีสปิริตร่วมรัฐบาล เหน็บ ใครสั่งให้พูด ทำลายน้ำใจ

เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวตอบโต้ นายศุภชัย ใจสมุทร รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่านายกรัฐมนตรี รวบอำนาจแก้ปัญหาโควิด-19 ไว้ที่ศบค.ทำให้รัฐมนตรีไม่มีส่วนในการแก้ปัญหา และมองเรื่องโควิดเป็นงานด้านความมั่นคงจึงไม่ประสบความสำเร็จ ว่า ไม่นึกว่าพรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย จะมีความคิดทำงานที่คับแคบและเอาแต่ได้ และโครงสร้างศบค.คือ กระจายอำนาจให้ทุกภาคส่วน เข้ามามีบทบาทในการเสนอแนะ แก้ไขปัญหาควบคู่กันไป ซึ่งทำแบบนี้มาตั้งแต่โควิดรอบแรก จนมา
รอบสองและทำมาถูกทาง  

นายเสกสกล กล่าวว่า เข้าใจและเห็นใจที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ถูกบรรดาหมอออกมาขับไล่ ทำให้คนในพรรคภูมิใจไทย อาจเกิดความเครียด แต่ไม่ควรมาลงที่นายกฯ เพราะการอ้างว่านายกฯตั้งศบค.ขึ้นมาแล้วทำให้รัฐมนตรี ไม่มีอำนาจในการบริหารจัดการโควิด นายศุภชัย คงหมายถึงนายอนุทิน ว่าไม่มีอำนาจทำอะไรเลย จึงทำให้โควิดระบาดหนักอยู่ในขณะนี้ อย่างนี้เป็นการพูดเอาดีใส่ตัวแล้วโยนความผิดให้คนอื่น เป็นธรรมหรือไม่ และอยากให้นายศุภชัย ย้อนฟังคำพูดของนายอนุทินฯในการประชุมคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ที่กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา พูดถึงนายกฯและศบค.ไว้อย่างไร ซึ่งตรงข้ามกับที่นายศุภชัย พูดทุกอย่าง และควรถามนายอนุทิน อย่าให้ต้องนำเทปมาเปิดให้อับอายและอาจจะต้องเอาปี๊บมาคลุมหัว 
 
“ไม่นึกว่าคนที่มีประสบการณ์และเป็นผู้อาวุโสทางการเมืองอย่างนายศุภชัย จะคิดเอาตัวรอด กระโดดเรือหนี ในยามวิกฤตของการแก้ปัญหา ที่ผ่านมาพรรคร่วมอาจมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง ทุกครั้งก็ได้แต่พูดถึงมารยาทของการอยู่ร่วมกัน แต่ครั้งนี้พรรคภูมิใจไทย กลับไม่ได้คำนึงถึงเรื่องนี้ และไม่คำนึงถึงประชาชนที่กำลังเรียกร้องความร่วมมือในการทำงานแก้ไขปัญหาวิกฤตให้ก้าวผ่านไปให้ได้ ซึ่งนายอนุทิน ออกมาสู้กับปัญหา ยอมรับในความผิดพลาด จึงสงสัยว่าใครสั่งให้ออกมาพูดทำลายน้ำใจและทำลายบรรยากาศของการร่วมมือร่วมใจกันในครั้งนี้ หากพรรคภูมิใจไทยเห็นดีเห็นงามกับความคิดคับแคบและเอาตัวรอดแบบนี้ ต่อไปใครจะกล้าคบเป็นเพื่อน มิตรแท้ยามนี้ควรช่วยกัน แต่คนที่อ้างตนเป็นมิตรแท้ บางครั้งก็คบยากและไว้ใจยาก”

ปริญญ์ นำทีม ปชป. ลงพื้นที่คลองเตย จับมือภาคีเครือข่ายเตรียมตั้ง รพ.สนาม วัดสะพาน รองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 คลัสเตอร์คลองเตย

ปริญญ์ นำทีม ปชป. ลงพื้นที่คลองเตย ประสานความร่วมมือกับภาครัฐ เอกชน และคนในพื้นที่ เตรียมตั้งสถานพักคอยผู้ป่วยโควิด-19 และโรงพยาบาลสนาม ณ วัดสะพาน  พร้อมประสาน กทม. สนับสนุนรถตรวจโควิด-19 พระราชทาน ให้บริการในพื้นที่แบบเชิงรุก หลังพบชุมชนคลองเตยมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในหนึ่งสัปดาห์ 

เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2564 ปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรค และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยคณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ วรเดช ไชยนันท์ คณะทำงาน รมช.สาธารณสุข และทีมคลองเตย/วัฒนา ปชป. อดีตส.ก. ประสิทธิ์ รักสลาม อดีตส.ข. ปานชัย แก้วอัมพรดี และเมธวิน มีสุวรรณ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือชุมชนคลองเตย เพื่อสนับสนุนการสร้างสถานที่พักคอยผู้ติดเชื้อโควิด-19 ก่อนลำเลียงออกไปยังโรงพยาบาล และโรงพยาบาลสนาม ณ วัดสะพาน เขตคลองเตย รวมถึงประสานงานกับเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรุงเทพมหานคร และผู้นำชุมชน เพื่ออำนวยความสะดวกในการหาเตียง การรับส่งผู้ป่วย การส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาล และช่วยระดมทุนเพื่อจัดหาสิ่งของจำเป็น ผ่านศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน โควิด-19 พรรคประชาธิปัตย์ (ศปฉ. ปชป.) 

ปริญญ์ พานิชภักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันเราอยู่ท่ามกลางวิกฤติโควิดที่รุนแรงขึ้นทุกวัน ตัวเลขผู้ติดเชื้อก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ น่าวิตกกังวลเป็นอย่างมาก ทำให้ประชาชนเกิดความกังวลใจถึงขั้นตอนการเข้ารับการตรวจ กักตัว และรักษา เนื่องจากเตียงของโรงพยาบาลเริ่มไม่เพียงพอ ปชป.จึงเล็งเห็นความสำคัญในการเข้ามาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะกับในพื้นที่ชุมชนคลองเตย ซึ่งเป็นชุมชนแออัดที่มีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก มีจำนวนผู้ติดเชื้อกว่า 50 ราย เสียชีวิต 1 แล้วราย โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเปราะบาง จำเป็นต้องให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน 

ปัจจุบันประชาชนในพื้นที่ได้ประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งราชการ เอกชน และปชป. เพื่อแก้ไขปัญหาปัญหาดังกล่าว โดยไม่พึ่งพางบประมาณของรัฐบาล ผ่านการสร้างสถานที่พักคอยผู้ติดเชื้อ เพื่อรอลำเลียงออกไปโรงพยาบาล และโรงพยาบาลสนาม ในพื้นที่ตึกปฏิบัติธรรม (ชั้น 4-8) ของวัดสะพาน เขตคลองเตย โดยในพื้นที่พักคอยของผู้ป่วยนั้น จะมีการควบคุมในหลาย ๆ ด้าน อาทิ เรื่องการถ่ายเทของอากาศ (Air flow) กำลังคนในการดูแลผู้ป่วย ระบบการเติมคลอรีนเพื่อจัดการสิ่งปฏิกูล และแผนอพยพเมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ 

ซึ่งศปฉ. ปชป. ได้เป็นตัวกลางในการเปิดระดมทุน จัดหาเตียงได้แล้วจำนวน 50 เตียง และมีสิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีพอีกจำนวนหนึ่ง เชื่อมโยงการถ่ายทอดองค์ความรู้จากกระทรวงสาธารณสุขไปยังชุมชนต่าง ๆ จัดรถรับส่งผู้ป่วย รวมถึงเตรียมการประสานงานกับโรงพยาบาลเครือข่าย เพื่อส่งต่อผู้ป่วย และติดต่อรถตรวจโควิด พระราชทาน เพื่อเข้ามาให้บริการตรวจโรคเชิงรุกแก่ผู้มีรายได้น้อย 

"ทรัพยากรทางการแพทย์มีจำกัด สิ่งสำคัญที่จะทำให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤติโควิด-19 ไปได้ คือต้องพยายามออกนอกบ้านเท่าที่จำเป็น เพื่อลดภาระให้บุคลากรทางการแพทย์ และมีวินัยในการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และล้างมือบ่อย ๆ" ปริญญ์กล่าวในตอนท้าย 

ผู้สนใจร่วมระดุมทุนเพื่อจัดหาสิ่งของจำเป็นแก่ผู้ป่วยที่พักในสถานพักคอยผู้ติดเชื้อและโรงพยาบาลสนาม ณ วัดสะพาน เขตคลองเตย สามารถติดต่อได้ทางเฟซบุ๊คเพจ ปริญญ์ พานิชภักดิ์ - Prinn Panitchpakdi และติดตามภาพการประสานความช่วยเหลือชุมชนคลองเตยจากทีมปชป. ได้ทางช่องยูทูป Prinn Check In

‘บิ๊กตู่’ เมิน ปชป. ’ ยัน’ ไม่เปลี่ยนคำสั่งแบ่งงานโซนพื้นที่ ‘ขอร้อง’ ไม่ใช่เวลาการเมือง ‘ลั่น’ ทำทุกอย่างเท่าเทียมไม่สนคะแนนเสียงการเมือง

วันที่ 27 เมษายน พ.ศ.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาลภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการทำความเข้าใจกับทางพรรคประชาธิปัตย์กรณีที่ไม่พอใจคำสั่งนายกฯที่ 85/2557 เรื่องการมอบหมายให้รัฐมนตรีรับผิดชอบ แนวคิดการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน ในระดับพื้นที่จังหวัด ที่ถูกมองว่า ยกพื้นที่ภาคใต้ให้กับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ยืนยันว่าจนถึงวันนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งใดใดทั้งสิ้น ยังคงเป็นคำสั่งเดิม ทั้งนี้ตนได้ให้แนวทางไปว่า ให้ลองดูว่าจะทำอย่างไรให้ทุกคนได้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลในพื้นที่ต่างๆซึ่งตนได้ให้แนวคิดไปแล้ว

“ วันนี้ยังไม่ได้ตกลงอะไรทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งไปให้เป็นข่าวจนเสียหาย วันนี้ไม่ใช่เวลาการเมือง เป็นเวลาของการทำงาน แล้วก็ไม่ได้มุ่งหมายว่าจะให้พรรคใครได้ประโยชน์ ทุกพรรคที่อยู่ร่วมกับผม พรรคร่วมก็อยู่กับผมๆ ก็รับผิดชอบให้ท่านอยู่แล้ว ทำให้มันถูกต้องขึ้นมาผมก็ยินดี แม้กระทั่งในบางพื้นที่ที่เป็นของ ส.ส.ฝ่ายค้าน ผมก็ดูแลในทุกจังหวัด” นายรัฐมนตรี กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เพราะฉะนั้นการทำงานวันนี้มีการสั่งการจากคณะรัฐมนตรีลงไป เป็นโครงการที่เป็นนโยบายเกี่ยวกับเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ในทุกกรณีลงไป การจัดทำแผนงานโครงการและการอนุมัติงบประมาณซึ่งเป็นการทำงานของรัฐบาล  อีกส่วนหนึ่งคือผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นผู้พิจารณาแผนงานโครงการต่างๆในพื้นที่ 

“ดังนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงใดก็ตามที่แต่งตั้งไปดูแลพื้นที่จังหวัดก็ให้ไปติดตาม แผนการโครงการที่อนุมัติไปแล้วว่าดำเนินการดีหรือไม่ดี ได้ผลหรือไม่ได้ผล แต่ถ้าหากว่ายังเห็นว่ามีอะไรขาดเหลือต่างๆ รัฐมนตรีก็นำมาเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และเข้ามาถึงผมให้นำเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อจัดสรรโครงการลงไปใหม่เพิ่มเติม เราทำงานแบบนี้ไม่ใช่ต่างคนต่างไปรุมผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งคงไม่ใช่และจากการสอบถามแล้วก็ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้ แต่ก็มีหลายคนปล่อยข่าวออกมาแบบนี้ ก็ขอให้ทุกคน ทุกกระทรวง เคลียร์ด้วยก็แล้วกัน ขอให้เข้าใจตรงกันว่ารัฐบาลจำเป็นต้องบริหารทั้งสองทาง และไม่ได้ปิดกั้นรัฐมนตรีคนใดทั้งสิ้น ไม่ได้ทำตามคะแนนเสียงของการเมือง แต่เอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลักในทุกพื้นที่ และทุกคนก็คือ ครม. คือรัฐบาลด้วยกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ชงเพิ่มหัวหินเปิดรับต่างชาติไม่กักตัว 1 ต.ค.นี้

นายกรด โรจนเสถียร กรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมสปาไทย ในฐานะประธานภาคเอกชนในโครงการหัวหิน รีชาร์จ เปิดเผยว่า ได้หารือกับนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อเสนอให้รัฐบาลเพิ่มเทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นอีกหนึ่งพื้นที่เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดส และมีผลการตรวจโควิด-19 เป็นลบ ให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่หัวหินได้โดยไม่ต้องกักตัว เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 64

ทั้งนี้ในเบื้องต้นตั้งเป้าหมายว่า จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามา 1 แสนราย สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 1,200 ล้านบาท ซึ่งรมว.การท่องเที่ยวฯ ได้รับทราบและจะนำเรื่องนี้เสนอคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ททช.) ในวันที่ 6 พ.ค.นี้เห็นชอบต่อไป 

ทั้งนี้การเพิ่มพื้นที่หัวหินเป็นอีกหนึ่งพื้นที่นำร่องนั้น จะทำผ่านโครงการหัวหิน รีเชนจ์ ซึ่งเป็นความร่วมมือของภาครัฐ การท่องเที่ยว โรงพยาบาลและสาธารณสุข และภาคเอกชนในธุรกิจท่องเที่ยวและการบริการ ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ธุรกิจรถเช่า บริษัททัวร์ฯลฯ ในพื้นที่เทศบาลหัวหิน ตั้งเป้าหมายเกิดความร่วมมือในการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่ได้ตั้งแต่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไป และครบถ้วนตามเป้าหมาย 70% ของประชากรในพื้นที่ภายใน 30 ก.ย.64 เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจ พนักงานและแรงงานในภาคธุรกิจบริการกว่า 89,000 คนในพื้นที่ให้มีรายได้

“เทพไท” แฉ รัฐบาลล้มเหลวใช้งบรับมือโควิดรอบ3 ด้านสาธารณสุขเบิกจ่ายแค่ 0-5% เหน็บ จาก ไทยชนะสู่หมอชนะจนหายนะ เสนอให้เร่งรัดใช้งบโดยเร็ว เชื่อโควิดจะอยู่ไปอีก 1-2 ปี

เมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ.2564 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟสบุ๊กว่า วันนี้จะขอเจาะเฉพาะการใช้ พ.ร.ก.เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท ในส่วนของแผนงานหรือโครงการด้านสาธารณสุข ที่เกี่ยวกับการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะ ซึ่งข้อมูล 22 มี.ค. เป็นแผนงานหรือโครงการเพื่อการเตรียมความพร้อมด้านสถานพยาบาล วงเงินที่ได้อนุมัติ 10,131.7369 ล้านบาท ไม่มีการเบิกจ่ายเลย ประกอบด้วย 13โครงการ ที่เป็นโครงการยอดงบประมาณระดับพันล้านบาท มี 3 โครงการ คือ 1.โครงการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุข รองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ของหน่วยงานส่วนภูมิภาค สนง.ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (รอบที่1) ครม.อนุมัติโครงการ 29 ธ.ค.63 วงเงิน 2,037.6917 ล้านบาท 2.โครงการจัดหายาและวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของหน่วยบริการสุขภาพ สป.สธ. ครม.อนุมัติโครงการ 29 ธ.ค.63 วงเงิน 1,927.8088 ล้านบาท  และ3.โครงการพัฒนาศักยภาพระบบบริการรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2029 ของหน่วยงานส่วนภูมิภาค สป.สธ.(รอบที่2) ครม.อนุมัติโครงการ 12 ม.ค. 64 วงเงิน 5,816.3631 ล้านบาท

นายเทพไท กล่าวอีกว่าส่วนอีก 10 โครงการเป็นโครงการเล็กๆใช้งบประมาณ 2.5-36 ล้าน ไม่ได้เบิกจ่ายเงินเลยเช่นกัน สำหรับแผนงานหรือโครงการที่เบิกใช้งบประมาณจำนวนน้อย ไม่เกิน 5% คือ 1. แผนงานหรือโครงการเพื่อจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์การแพทย์ และสาธารณสุข ในการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคและห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ 17 โครงการ วงเงิน 2,706.2951 ล้านบาท เบิกจ่าย 111.9994 ล้านบาท (4.14%) และ2. แผนงานหรือโครงการด้านสาธารณสุข เพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินอันเนื่องมาจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา วงเงิน 1,496.5715 ล้านบาท เบิกจ่าย 55.5648 ล้านบาท (3.71%)

นายเทพไท กล่าวต่อว่าเมื่อเจาะลงไปในรายละเอียดของการใช้เงินจากแผนงานหรือโครงการด้านสาธาสาธาณสุขแล้ว พบความล้มเหลวของการใช้งบประมาณในการเตรียมการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่จริง จึงไม่แปลกใจว่าทำไมการรับมือกับการรบาดของโควิดรอบ3 จึงล้มเหลวไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ สาเหตุอาจจะมาจากการบริหารงานผิดพลาด หรือตั้งอยู่บนความประมาท จึงทำให้เกิดความเสียหายตามมา เพราะความประมาทเป็นบ่อเกิดแห่งความหายนะ ดังนั้นการที่เชื้อโควิดระบาดในรอบ1 และระบาดในรอบ2 เราได้มีโครงการเราชนะ ได้มีแอปพลิเคชั่นไทยชนะ หมอชนะ จนมาเจอการระบาดรอบ3 เราได้เจอความหายนะของจริง จึงขอเสนอให้รัฐบาลเร่งรัดให้มีการใช้งบประมาณในแผนงานหรือโครงการที่เกี่ยวกับการป้องกันการระบาดของเชื้อโควิดโดยเร็วที่สุด เพราะการระบาดของเชื้อโควิด-19 น่าจะยังคงอยู่กับเราอีกในระยะเวลา 1-2 ปี

"พีระวิทย์” วอน รพ.-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งประสานรับผู้ป่วยโควิด-19เข้ารับการรักษา พร้อมส่งกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์

เมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ.2564 นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่มียอดของผู้ติดเชื้อรายวันสูงเป็นจำนวนมาก ว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้รับการติดต่อจากประชาชนที่ติดเชื้อโควิด-19 หลายคนเพื่อขอให้ช่วยประสานติดต่อโรงพยาบาลให้เดินทางไปรับตัวเพื่อนำตัวไปรักษาตามขั้นตอน ซึ่งตนเข้าใจถึงความเดือดร้อนทุกข์ใจของผู้ติดเชื้อที่ต้องการได้รับการรักษาตัวอย่างทันท่วงที เพื่อป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้นและเพื่อป้องกันไม่ให้เชื่อแพร่กระจายออกไปสู่ผู้อื่น 

“อยากฝากถึงโรงพยาบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อได้รับการประสานจากผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ขอได้ช่วยเร่งประสานรับตัวผู้ป่วยเข้ารับการรักษา หรือหากเตียงในโรงพยาบาลไม่เพียงพอก็อยากให้ได้มีการประสานงานต่อไปยังโรงพยาบาลอื่นหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบให้เข้ารับตัวผู้ป่วยโดยด่วน อย่าปล่อยให้ผู้ป่วยต้องรออย่างไร้ความหวัง เพราะสุดท้ายเขาอาจจะตัดสินใจทำในสิ่งที่เราไม่คาดคิดได้” นายพีระวิทย์ กล่าว

นายพีระวิทย์ กล่าวอีกว่า ตนเป็นกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นเป็นนักรบด่านหน้าในการคอยช่วยเหลือดูแลรักษาผู้ป่วย ซึ่งตนทราบดีว่าในขณะนี้บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนเริ่มอ่อนล้า แต่ด้วยจิตวิญญาณของวิชาชีพก็ยังคงเต็มใจที่จะทำหน้าที่ต่อไป จึงอยากส่งกำลังใจไปให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนให้มีกำลังใจในการทำหน้าที่ดูแลรักษาพี่น้องประชาชน เพื่อให้ประเทศไทยเราสามารถก้าวข้ามวิกฤติครั้งนี้ไปได้

พท.อัด “ประยุทธ์” ทำคนไทยไร้เตียงรักษาจนตาย ตอก 1668 ไม่มีคนรับสาย แต่มีคนไล่จับปรับ ปชช.ไม่สวมแมสก์ สวนจะให้คนล็อกดาวน์แต่ไม่ช่วยลดค่าน้ำไฟเน็ต เย้ยไม่ได้อยู่บ้านหลวง

เมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ.2564 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีรัฐบาลยังไม่ประกาศล็อกดาวน์ แต่มอบอำนาจให้ผู้ว่าฯ ในแต่ละจังหวัดตัดสินใจว่าจะล็อกดาวน์ในจังหวัดของตนเองหรือไม่ ระหว่างนี้ให้ประชาชนล็อกดาวน์ตัวเองไปก่อน ว่า ต้องจารึกในประวัติศาสตร์ชาติไทย ประเทศไทยภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาฯ นายกฯ มาถึงจุดที่คนไทยต้องตายเพราะไร้เตียง โทรสายด่วน 1668 ไม่มีคนรับจนเสียชีวิตคาบ้านพัก มาตรการที่รัฐออกมาลูบหน้าปะจมูก แก้ปัญหาสะเปะสะปะ ลอยตัวเหนือปัญหา โยนเผือกร้อนไปให้ผู้ว่าฯ ในแต่ละจังหวัดตัดสินใจแทน

จึงได้เห็นการออกคำสั่งที่ลักลั่นทำให้ประชาชนสับสน เช่น ประกาศจับปรับผู้ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย และหน้ากากผ้าขณะขับรถยนต์ส่วนบุคคล ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ รัฐบาลจะให้ประชาชนช่วยล็อกดาวน์ตัวเอง แต่รัฐบาลไม่มีมาตรการช่วยเหลือประชาชน ไม่ลดค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ตให้ประชาชน ไม่นับรวมหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ที่บางคนอาจหาไม่ได้จริงๆ ประชาชนไม่ได้นอนบ้านหลวง ใช้น้ำ ไฟ ฟรี เหมือนข้าราชการทหารเกษียณแล้วไม่ยอมย้ายออกบางคน ประชาชนโทร 1668 จนสียชีวิต ไม่มีคนรับ เพราะขาดเจ้าหน้าที่ แต่มีคนมานั่งจับปรับชาวบ้านจำนวนมากที่เขาไม่สวมหน้ากากอนามัย เขาอาจไม่มีจริงๆ ประชาชนจึงคับแค้นใจ จะเอาเงินจากไหนมาจ่ายค่าปรับ

“รัฐบาลล้มเหลวในการรับมือกับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แทบทุกด้าน แม้แต่ประชาชนที่เป็นความร่วมมือสำคัญในการป้องกันปัญหาการแพร่ระบาด รัฐออกมาตรการจับปรับมากมายได้ แต่การช่วยเหลือประชาชนกลับไม่เป็นระบบ” นายอนุสรณ์ กล่าว

“จุติ” เมิน พปชร.ฮุบพื้นที่ใต้ ขออย่ามองเรื่องหยุมหยิมให้เดินหน้าแก้ปัญหา ปชช. ยามวิกฤติดีกว่า ออกตัวการแบ่งงานไม่ใช่เงื่อนไขอย่ามองการเมืองซับซ้อน

เมื่อเวลาวันที่ 27 เมษายน พ.ศ.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ไม่พอใจคำสั่งนายกฯที่ 85/2557 เรื่องการมอบหมายให้รัฐมนตรีรับผิดชอบ แนวคิดการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน ในระดับพื้นที่จังหวัดว่า สิ่งสำคัญคือเรื่องงานที่ทำเพื่อประชาชน เชื่อว่าทุกคนที่กังวลนั้นเป็นเพราะเมื่อได้รับมอบหมายงานและเริ่มทำไปแล้ว ถ้าเปลี่ยนแปลงก็กังวลเรื่องความต่อเนื่องของงาน เชื่อว่าทุกคนยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักก็จะไม่มีปัญหา เพราะนักการเมืองทำงานอยู่ที่ไหนก็สามารถทำงานได้ เวลานี้เป็นเวลาวิกฤต คนที่ทำงานอยู่ต้องเปลี่ยนที่และติดตามงานใหม่คงต้องเสียเวลา คนที่เสียประโยชน์คือประชาชน ตนไม่อยากมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง เมื่อปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) และปรับคนดูแลพื้นที่ใหม่ก็อย่าดูให้ลึกกว่านั้น วันนี้บ้านเมืองต้องการความรักความสามัคคี และเดินไปในทิศทางเดียวกัน ตนมองว่าอย่าเสียเวลามองเรื่องหยุมหยิมแล้วทะเลาะกัน เดินหน้าแก้ไขปัญหาประชาชนสำคัญที่สุด

เมื่อถามว่าหากการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันเดียวกันนี้ไม่มีการปรับเปลี่ยนตามที่พรรคประชาธิปัตย์เรียกร้อง ก็จะมีปัญหากับการทำงานใช่หรือไม่ นายจุติ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าคงไม่ใช่เงื่อนไขอะไรมาก ประเด็นอยู่ที่ว่า อะไรตรงไหนที่ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด เราจะเร่งทำเรื่องนั้น และอยากให้ทุกคนพุ่งความสนใจไปที่วิกฤตที่ต้องแก้ และเดินหน้าให้ได้เมื่อถามว่ามีการแจ้งการปรับเปลี่ยนไปยังพรรคประชาธิปัตย์แล้วหรือไม่นั้น นายจุติ ระบุว่า ตนไม่ทราบว่าเป็นเรื่องที่หัวหน้าพรรคจะคุยกันหรือไม่ และตนไม่ได้เป็นคณะกรรมการบริหารพรรค โดยวันนี้ที่มาประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล ก็เพื่อจะรายงาน การดำเนินงาน ของกระทรวงพม.ให้นายกฯรับทราบ และช่วยแก้ไขปัญหาที่ติดขัด พร้อมยืนยันว่า ไม่ใช่เรื่องการแบ่งงาน แต่เป็นเรื่องของคนไข้ที่ต้องหาพื้นที่ให้คนไข้อยู่

รมต.อนุชา สั่ง กรมประชาสัมพันธ์ เปิด 10 คู่สาย ให้ประชาชน โทรประสานรับการรักษาโควิด-19 วอน ร่วมเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์

เมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณี พบว่าผู้ป่วยโควิด-19 หลายรายไม่สามารถเข้ารับการรักษาได้ ประสบปัญหาการประสานงานขอรับการรักษาพยาบาล เนื่องจากสายด่วนหลัก เช่น 1668 , 1669 , 1330 มีผู้ติดต่อเป็นจำนวนมาก ว่า ตนมีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ดังกล่าว จึงได้สั่งการให้กรมประชาสัมพันธ์ สร้างช่องทางการประสานงาน ส่งต่อ และติดตามการให้ความช่วยเหลือระหว่างประชาชนกับสถานพยาบาลในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยให้ประชาชนสามารถติดต่อประสานงานเพื่อขอความช่วยเหลือผ่านรายการ NBT รวมใจคนไทยไม่ทิ้งกัน ในช่วง “NBT รวมใจ สู้ภัย COVID-19” ได้แล้ว ซึ่งพบว่ามีประชาชนโทรศัพท์เข้ามาเพื่อสอบถาม เพื่อขอความช่วยเหลือ และขอคำแนะนำต่างๆ เป็นจำนวนมาก ทางสถานีได้ดำเนินการประสานผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งตัวผู้ป่วยเข้ารับการรักษา รวมถึงประสานเตียงและรถพยาบาล เป็นผลสำเร็จแล้ว จำนวน 23 ราย

นายอนุชา กล่าวว่า ประชาชนสามารถติดตามชมรายการสด “NBT รวมใจ สู้ภัย COVID-19” ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-11-30 น. ทางช่อง NBT2HD สามารถสอบถามข้อมูลและประสานขอความช่วยเหลือผ่านทาง โทร. 02-275-4225 (10 คู่สาย) ตั้งแต่เวลา 10.00-16.30 น. ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ รัฐบาลพยายามทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อลดการสูญเสียและช่วยเหลือประชาชนให้ทั่วถึง ขอให้ทุกฝ่ายประสานความร่วมมือกัน เพื่อให้ประเทศก้าวผ่านวิกฤติโควิด-19 ได้อีกครั้ง และขอให้ประชาชนร่วมเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ ที่ทุ่มเท เสียสละ ทำหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างไม่ย่อท้อ ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

เปิดวาระ ครม. 27 เม.ย. จับตาข้อเสนอด้านเศรษฐกิจ

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบ Video Conference วันที่ 27 เมษายน 2564 นี้ มีวาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจเสนอให้ที่ประชุมพิจารณา โดยกระทรวงการคลัง เสนอมาตรการทางภาษีและค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสถาบันการเงินประชาชน ซึ่งจะออกเป็นกฎหมาย 2 ฉบับ คือ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร และร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีที่มีการจัดตั้งและการดำเนินงานของสถาบันการเงินประชาชน ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด

ส่วนกระทรวงพลังงาน เสนอร่างกฎกระทรวงสถานที่บรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทโรงบรรจุ ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กลวดคาร์บอนต่ำต้องเป็นไปตามมาตรฐาน และเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานโครงสร้างเชื่อมประกอบ ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน รวมทั้งเสนอผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ข้อเสนอทิศทางประเทศไทยหลังวิกฤตโควิด 19 ในด้านการพาณิชย์และการอุตสาหกรรม ของคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และการอุตสาหกรรม วุฒิสภา

ขณะที่ กระทรวงพาณิชย์ เสนอการออกประกาศกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับการส่งออกข้าวภายใต้โควตาภาษี และการกำหนดค่าธรรมเนียมพิเศษในการส่งออกข้าวไปสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร และกระทรวงพาณิชย์ ยังเสนอการเข้าร่วมงาน Expo 2025 Osaka Kansai

นอกจากนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอขอบเขตพื้นที่เมืองเก่า และแนวทางการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าอุทัยธานีเมืองเก่าตรัง และเมืองเก่าฉะเชิงเทรา ด้านกระทรวงยุติธรรมเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดหน่วยงานของรัฐที่สามารถขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับทางปกครอง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top