โฆษกรัฐบาล เผย “นายก” จี้ ฝ่ายความมั่นคง สางปม แรงงานเถื่อนข้ามชาติ ควบคู่ ป้องโควิด-19 รองรับ เปิดประเทศ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวชายแดน เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้ง ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวด  เฝ้าระวัง สกัดกั้นขบวนการขนย้าย ค้าแรงงานต่างด้าว ที่แอบลักลอบเข้าประเทศไทยตามแนวชายแดนโดยผิดกฎหมาย หลังพบการรายงานการจับกุมการลักลอบขนย้ายแรงงานเถื่อนผ่านชายแดนมีความถี่มากขึ้น โดยให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เพิ่มมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทุกประเภท

ทั้งการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย การค้าอาวุธเถื่อนและยาเสพติด  ควบคู่ไปกับมาตรการป้องกันและควบคุมโรค Covid-19  บริเวณชายแดน รวมทั้งใช้กลไก ศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านจังหวัด ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดบูรณาการการทำงาน ร่วมกันและนำเทคโนโลยีมาใช้เชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ และให้สถานที่กักกัน (OQ) ให้เพียงพอเพี่อรองรับการลักลอบข้ามแดนที่มากขึ้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ Covid-19 อย่างมีประสิทธิภาพ 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับการจับกุมการลักลอบขนย้ายแรงงานเถื่อนผ่านชายแดนหลายคดีในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เช่นวันที่ 3 พ.ย. 64  เจ้าหน้าที่จับกุมกลุ่มบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 17 คน ที่บริเวณจุดตรวจ ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ วันเดียวกันในพื้นที่อ่างเก็บน้ำห้วยงู บ.ห้วยหมากเลี่ยม ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ พบผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สัญชาติเมียนมา 19 คน  และเมี่อวันที่  31 ตุลาคมที่ผ่านมา  ได้จับกุมชาวเมียนมา บริเวณช่องทางธรรมชาติช่องสิบศพ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้ 45 คน  เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทำการตรวจคัดกรองโควิด -19 ตามมาตรการเฝ้าระวัง ก่อนนำตัวส่งเจ้าหน้าที่ ตม. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีสั่งขยายผลขบวนการนำพาแรงงานเถื่อนข้ามพรมแดน เร่งสืบสวนผู้อยู่เบื้องหลังเพื่อขยายผลจับกุมเครือข่ายแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย พร้อมกระทรวงแรงงาน เร่งหารือแนวทางแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานในภาพอุตสาหกรรมด้วย  เพื่อให้เกิดการนำเข้า แรงงานอย่างถูกกฏหมาย รองรับความต้องการของภาคการผลิตและบริการไทยที่ขยายตัวต่อเนื่อง จากความสำเร็จในการเดินหน้าการเปิดประเทศเพิ่มมากขึ้นของรัฐบาล