Tuesday, 1 July 2025
Hard News Team

แยกย้าย! 'รีล มาดริด' เตรียมแถลงอำลา 'รามอส' ปิดฉาก 16 ปี ในสีเสื้อราชันชุดขาว

คั่นบรรยากาศบอลยูโร ‘ราชันชุดขาว’ คอนเฟิร์ม เตรียมจัดงานแถลงข่าวอำลา เซร์คิโอ รามอส กองหลังกัปตันทีม ในวันพฤหัสบดีนี้ หลังดาวเตะวัย 35 ปี ตัดสินใจไม่ต่อสัญญาที่หมดลงหลังจบซีซั่นที่ผ่านมา

สำหรับสัญญาค้าแข้งของ รามอส วัย 35 ปี ซึ่งย้ายจาก เซบีญา มาอยู่กับ ‘ราชันชุดขาว’ ตั้งแต่ปี 2005 รวมระยะเวลาถึง 16 ปี และผ่านการลงสนามทั้งสิ้น 671 นัด ยิง 101 ประตูนั้น หมดลงหลังจบฤดูกาลที่ผ่านมา โดย รีล มาดริด เสนอสัญญาใหม่แค่ปีเดียวพร้อมขอให้เจ้าตัวลดค่าเหนื่อย ส่งผลให้ไม่สามารถตกลงกันได้ และนำมาสู่การแยกทางกันในที่สุด โดยการแถลงข่าวจะมีขึ้นในเวลาเที่ยงครึ่งของวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยมี ฟลอเรนติโน เปเรซ ประธานสโมสรร่วมพิธีด้วย

 

ที่มา : https://www.dailynews.co.th/sports/850413


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ความคืบหน้ากรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์เล่าเรื่องราวถูกล่อซื้อน้ำส้ม 500 ขวด ก่อนจะโดนถามหาใบอนุญาต พร้อมเรียกปรับเงิน 12,000 บาท

ความคืบหน้ากรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์เล่าเรื่องราวถูกล่อซื้อน้ำส้ม 500 ขวด ก่อนจะโดนถามหาใบอนุญาต พร้อมเรียกปรับเงิน 12,000 บาทนั้น

ล่าสุด นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นได้สั่งย้ายเจ้าหน้าที่ที่ปรากฏเป็นข่าวรวม 5 คน ออกนอกพื้นที่เกิดเหตุในกรุงเทพฯ เป็นที่เรียบร้อย พร้อมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นการด่วน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และให้ได้ข้อเท็จจริงเป็นที่กระจ่างแก่สังคม โดยขอยืนยันว่ากรมสรรพสามิต ไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ออกรังแกประชาชนไปล่อซื้อในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด

 

ที่มา: https://www.naewna.com/local/580844


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เศรษฐีปริศนาจ่ายหนักทัวร์นอกโลก หวังนั่งข้างเจ้าของ Amazon

แม้ใน 190 ประเทศทั่วโลกจะยังมีสถานที่มหัศจรรย์รอให้ค้นหามากมาย แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่สำหรับบุคคลปริศนารายหนึ่งที่กำเงินเกือบ 900 ล้านบาท ประมูลซื้อที่นั่งในเที่ยวบินท่องอวกาศของนายเจฟฟ์ เบซอส ซีอีโอของบริษัทแอมะซอน (Amazon) ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทสำรวจอวกาศ บลู ออริจิ้น (Blue Origin) ด้วย

เหตุการณ์ดังกล่าวเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อบุคคลปริศนารายนี้ได้ประมูลซื้อที่นั่งในเที่ยวบินดังกล่าวไปเป็นเงิน 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 870 ล้านบาท เพื่อนั่งข้างๆ นายเจฟฟ์ เบซอส และ นายมาร์ค เบซอส ผู้เป็นน้องชาย บนเที่ยวบินท่องอวกาศของ Blue Origin ซึ่งจะปล่อยยานออกจากทะเลทรายในรัฐเท็กซัสในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เพื่อท่องอวกาศเป็นเวลาเพียงไม่กี่นาที โดยวันที่ 20 ก.ค.นั้น ยังเป็นวันเดียวกับที่นีล อาร์มสตรอง และบัซ อัลดริน ได้กลายเป็นมนุษย์คนแรกที่ได้เดินบนดวงจันทร์เมื่อกว่า 50 ปีที่ผ่านมาด้วย

ผู้ชนะการประมูลดังกล่าวสามารถเอาชนะคู่แข่งคนอื่นๆ ประมาณ 20 รายในการประมูลที่เปิดฉากขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว ก่อนที่จะสิ้นสุดลงในการประมูลรอบสุดท้ายเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (12 มิ.ย.) ซึ่งมีผู้เสนอราคากันอย่างดุเดือดจนทำให้ราคาที่นั่งบนเที่ยวบินนี้พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง ทั้งๆ ที่เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้วมีราคาอยู่ที่เพียง 4.8 ล้านดอลลาร์

Blue Origin เปิดเผยว่า การประมูลครั้งนี้มีผู้ลงทะเบียนประมูลกว่า 7,500 รายจาก 150 ประเทศ แต่บรรยากาศการประมูลได้ดุเดือดขึ้นมาก หลังจากนายเจฟฟ์ เบซอส ประกาศว่าตนเองจะขึ้นบินด้วย พร้อมกับนายมาร์ค เบซอส ผู้เป็นน้องชาย จนทำให้จำนวนผู้เสนอราคาสูงสุดจากหลักหลายพันรายลดลงเหลือประมาณ 20 ราย

เที่ยวบินนี้จะมีผู้โดยสาร 4 รายด้วยกันได้แก่ สองพี่น้องตระกูลเบซอส บุคคลนิรนามผู้ชนะการประมูล และบุคคลที่ 4 ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยชื่อ โดย Blue Origin จะประกาศเปิดเผยตัวบุคคลนิรนามผู้ชนะการประมูลในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตามราคาตั๋วดังกล่าว เป็นราคาประมูลที่ผู้ซื้อเสนอราคาสูงสุดเท่านั้น และราคาบัตรเมื่อให้บริการจริงในอนาคต อาจจะปรับลดลลงมาให้อยู่ใกล้เคียงกับของ Virgin Galactic (อีกผู้เล่นหลัก) ที่ได้ขายบัตรโดยสารไปแล้วให้แก่ผู้โดยสารประมาณ 600 ราย ในราคาบัตรประมาณคนละ 200,000-250,000 ดอลลาร์ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ต่อไป

ทั้งนี้หากมองตลาดการท่องอวกาศ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นตลาดเล็กๆ แก่บรรดามหาเศรษฐีไม่กี่ราย แต่ผลสำรวจความคิดเห็นของคนรวยโดยบริษัทวิจัย Cowen ได้เปิดเผยให้เห็นว่า ตลาดการท่องอวกาศนี้อาจมีลูกค้าหลักล้านราย และน่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อราคาบัตรโดยสารถูกลง โดยปัจจุบันคาดว่าตลาดท่องเที่ยวอวกาศน่าจะมีผู้ที่สามารถเป็นลูกค้าได้ประมาณ 2.4 ล้านราย ซึ่งตัวเลขที่ว่านี้มาจากการประเมินความต้องการบินกับ Virgin Galactic เท่านั้น เพราะในช่วงเวลาที่ทำผลสำรวจดังกล่าวมีเพียง Virgin Galactic ที่เปิดขายบัตรแล้วจริงๆ แม้จะยังไม่มีการบินก็ตาม

ทว่าเมื่อดูจากตัวเลขที่ว่านี้แล้ว ปัญหาน่าจะอยู่ที่ซัพพลายมากกว่าดีมานด์ เนื่องจากยาน 1 ลำรองรับผู้โดยสารได้เพียง 6 คน ไม่ว่าจะเป็นยานของ Virgin Galactic หรือ Blue Origin และแม้จะเร่งสร้างยานเพิ่มแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะสร้างขึ้นได้ง่ายๆ โดย Cowen คาดการณ์ว่า หาก Virgin Galactic สร้างยานได้ 11 ลำภายในปี 2573 บริษัทก็น่าจะส่งผู้โดยสารขึ้นอวกาศได้ประมาณปีละ 3,400 ราย ซึ่งยังคงถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนว่าที่ลูกค้าหลักล้านราย

สำหรับอุตสาหกรรมท่องอวกาศนั้นคาดว่าได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เมื่อมีเศรษฐีรายหนึ่งจ่ายเงิน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐจ้างรัสเซียให้ส่งตัวเองขึ้นไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ ทำให้เขาเป็นนักท่องเที่ยวอวกาศคนแรกที่จ่ายเงินค่าเที่ยวบินเอง และนับตั้งแต่นั้นก็มีคนเดินตามรอยนี้เพียง 7 คน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผลงานของหน่วยงานที่รัฐบาลเป็นผู้สนับสนุน

แต่การเข้ามาของบริษัทเอกชน ไม่ว่าจะเป็น Blue Origin, Virgin Galactic หรือ SpaceX จะทำให้ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยในช่วงแรกๆ ลูกค้าน่าจะจำกัดอยู่ที่เพียงกลุ่มผู้ที่ร่ำรวยมากๆ เพราะราคาบัตรน่าจะอยู่ที่ระดับหลักหลายล้านบาทเพื่อท่องอวกาศในเวลาไม่กี่นาที แต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว ราคาบัตรอาจถูกลงจนเหลือหลักไม่กี่แสนบาท และเมื่อถึงวันนั้น เราอาจจะได้เห็นคนรู้จักโพสต์ภาพตัวเองบนยานอวกาศลงสื่อโซเชียลกันมากขึ้น

 

ที่มา: https://www.infoquest.co.th/2021/97137


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

โน้ส อุดม นักเดี่ยวไมโครโฟนชื่อดัง โพสต์บนเฟซบุ๊ก เดี่ยวไมโครโฟน FC แจ้งแฟนคลับขอเลื่อนการแสดงเดี่ยวไมโครโฟน ครั้งที่ 13

หลังจากที่ “โน้ส อุดม” หรือ อุดม แต้พานิช ศิลปินนักคิด นักเขียน นักพูด นักแสดง นักเดี่ยวไมโครโฟนชื่อดัง เพิ่งจะประกาศปิดร้านไอศกรีม Iberry Garden ในจังหวัดเชียงใหม่ ไปเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ล่าสุด โพสต์บนเฟซบุ๊ก เดี่ยวไมโครโฟน FC แจ้งแฟนคลับขอเลื่อนการแสดงเดี่ยวไมโครโฟน ครั้งที่ 13 ออกเป็นเป็น 22 เมษายน-1 พฤษภาคม 2565 ระบุว่า...

กระผม นายอุดม แต้พานิช ขอประกาศเลื่อนการแสดง SINGER proudly presents DEAW 13 ไปเป็นวันที่ 22 เมษายน-1 พฤษภาคม 2565

ผมรู้สึกซาบซึ้งมากที่ทุกคนยังถือบัตรอยู่ จึงอยากจะแสดงความขอบคุณ ด้วยการส่งของสมนาคุณพิเศษให้กับทุกท่าน นั่นก็คือผ้าห่มเดี่ยว 13 ไปห่มรอคอยเวลาที่เราจะได้กลับมาพบกัน และในโอกาสนี้ ผมยังมีของสมนาคุณพิเศษให้กับทุกๆ ท่าน ด้วยเหรียญ “ดมคอย” ที่เป็นสัญลักษณ์ของการรอคอยเดี่ยว 13 ระหว่างพวกเรานะครับ (ซึ่งเหรียญ ดมคอยนั้นจะเป็นเหรียญที่มีมูลค่าพิเศษในตัวเอง สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กเดี่ยว)

ขอบคุณทุกๆ ท่านที่คอยดม และแน่นอนว่าอุดมก็คอยที่จะได้พบทุกๆ ท่านเช่นกันครับ

หลังจากนั้นไม่นานเพจ Bitcoin Addict Thailand ได้โพสต์ว่า...

เฮียโน้สออกเหรียญ "ดมคอย" มาพร้อมสโลแกน "ถือดมคอยไม่ดอยแน่นอน" 5555

แต่ไม่ใช่โทเค็นคริปโตนะ เป็นเหรียญจริงๆ เอาไว้ให้แฟนคลับใช้งาน

ปล. มีเหรียญลิมิเต็ดด้วย ทำจากทองคำหนัก 5 บาทเลย

 

ที่มา: https://www.facebook.com/197729100755446/posts/1072682669926747/


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เพจ Environman ได้รายงานถึงการรับรองมหาสมุทรแห่งใหม่ของโลก ที่เรียกว่า ‘มหาสมุทรใต้’ ว่า...

เพจ Environman ได้รายงานถึงการรับรองมหาสมุทรแห่งใหม่ของโลก ที่เรียกว่า ‘มหาสมุทรใต้’ ว่า...

โลกเรานั้นประกอบด้วย 4 มหาสมุทรคือ มหาสมุทรแอตแลนติก มหาสมุทรแปซิฟิก มหาสมุทรอินเดีย และมหาสมุทรอาร์กติก แต่ล่าสุด...มหาสมุทรใต้ (แอนตาร์กติกา) ได้ถูกนับเป็นมหาสมุทรที่ 5 และถูกระบุไว้ในแผนที่โลกของโดย National Geographic แล้ว!

มหาสมุทรใต้ เป็นมหาสมุทรน้องใหม่ล่าสุดที่เข้ามาอยู่ในรายชื่อมหาสมุทรโลกในวันที่ 8 มิถุนายน ‘วันมหาสมุทรโลก’ ที่ผ่านมา

แน่นอน หลายคนอาจจะสงสัย? มหาสมุทรนี้ก็ถูกค้นพบมานานแล้ว ทำไมไม่ถูกรวมแต่แรก? และขอบเขตของมันคือที่ไหนบ้าง?

Alex Tait นักภูมิศาสตร์จาก National Geographic เผยว่า “มหาสมุทรใต้เป็นที่รู้จักสำหรับนักวิทยาศาสตร์มานานแล้ว แต่มันยังไม่มีการตกลงในระดับนานาชาติ และแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ”

แม้ในปี 1999 องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ NOAA ก็เคยรับรองมหาสมุทรนี้แล้ว และให้ขอบเขตว่า เป็นผืนน้ำที่ทอดยาวตั้งแต่ชายฝั่งรอบทวีปแอนตาร์กติกาไปจนถึงละติจูด 60 องศาใต้

แต่ก็ยังมีการถกเถียงกันอยู่ว่าผืนน้ำที่ล้อมรอบแอนตาร์กติกานี้มีลักษณะเด่นที่ทำให้มันควรถูกเรียกว่าเป็นมหาสมุทรหรือไม่ หรือว่าเป็นแค่น้ำเย็นๆ ที่ต่อออกมาจากมหาสมุทรแปซิฟิก แอตแลนติก และอินเดีย

อีกอย่าง มหาสมุทรใต้ก็ต่างจากมหาสมุทรอื่นตรงที่จะไม่ได้ถูกกำหนดขอบเขตจากพรมแดนทางแผ่นดิน หรือทวีปที่อยู่รอบๆ แต่ถูกกำหนดโดยละติจูด และกระแสน้ำหมุนเวียนแอนตาร์กติก (ACC)

กระแสน้ำหมุนเวียนแอนตาร์กติก (ACC) เป็นตัวแบ่งทวีปแอนตาร์กติกาออกจากทวีปอเมริกาใต้ เริ่มก่อตัวเมื่อ 34 ล้านปีที่แล้ว กระแสน้ำไหลจากตะวันตกไปตะวันออก มีน้ำที่เย็นกว่า แต่รสเค็มน้อยกว่ามหาสมุทรอื่นๆ ทางตอนเหนือ

ACC นี่เองก็เป็นกระแสน้ำที่ทำให้เกิดการหมุนเวียนของน้ำทางตอนใต้ และดึงน้ำจากมหาสมุทรแอตแลนติก แปซิฟิก และอินเดียออกมา ช่วยให้การไหลเวียนของกระแสน้ำอุ่นและน้ำเย็นหมุนเวียนไปทั่วโลกอยู่ตลอดเวลา

ดังนั้น การถูกรับรองในครั้งนี้ของมหาสมุทรใต้ ก็อาจจะช่วยให้คนเริ่มหวงแหน และอนุรักษ์มหาสมุทรนี้มากขึ้น เพราะเมื่อโลกร้อนขึ้น น้ำที่มาจากกระแส ACC ที่ไหลไปสู่ทางใต้จะอุ่นขึ้น ซึ่งตรงนี้ นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในมหาสมุทรใต้มากน้อยแค่ไหน

อีกอย่าง ที่นี่ก็เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำนานาชนิด ทั้งวาฬ เพนกวิน แมวน้ำ ที่ไม่สามารถพบได้ที่อื่นอีกด้วย

 

ที่มา: https://www.facebook.com/1523107561151019/posts/3782012455260507/

อ้างอิง: https://www.nationalgeographic.com/environment/article/theres-a-new-ocean-now-can-you-name-all-five-southern-ocean

https://www.nbcnews.com/now/video/national-geographic-recognizes-southern-sea-as-5th-ocean

https://ngthai.com/environment/36309/new-world-ocean/

https://www.nationalgeographic.com/environment/article/theres-a-new-ocean-now-can-you-name-all-five-southern-ocean

https://oceanservice.noaa.gov/facts/howmanyoceans.html


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

"กรณ์" ผนึกคนสายเทค กระตุก ก.ล.ต.ควบคุมคริปโต ชี้ ! ราชการควรส่งเสริม และกำกับดูแลอย่างเหมาะสม 

สืบเนื่องจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติเห็นชอบแนวทางการกำกับดูแลศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล โดยห้ามให้บริการโทเคนดิจิทัลพร้อมใช้ และคริปโทเคอร์เรนซีตามที่กำหนด พร้อมทั้งกำหนดให้ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ต้องจัดให้มีข้อกำหนดว่า ในกรณีของโทเคนดิจิทัลที่ออกโดยศูนย์ซื้อขายหรือเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ซื้อขาย หากผู้ออกโทเคนดิจิทัลนั้นไม่ทำตาม white paper และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องในสาระสำคัญ จะเป็นเหตุให้ถูกเพิกถอนออกจากศูนย์ซื้อขายได้ โดยระบุว่าเพื่อให้ความคุ้มครองแก่ผู้ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น 

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า อดีต รมว.คลัง กล่าวว่า ได้เห็นประกาศของ กลต. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากรณีห้ามศูนย์ซื้อขาย นำเหรียญ Utility Tokens พร้อมใช้ 4 ประเภท (Meme, FAN, NFT, Native coins) ขึ้นกระดานซื้อขาย ซึ่งพออ่านดูแล้วก็รู้สึกประหลาดใจว่าทำไม ก.ล.ต. ถึงมีแนวคิดปิดกั้นในเรื่องเหล่านี้ เลยพูดคุยกับทีม Tech ในพรรคกล้า และสอบถามความเห็นของพี่ๆ น้องๆ ในวงการ Fintech พอสรุปได้ว่าประกาศของ ก.ล.ต. มีความไม่ชัดเจน ปิดกั้นโอกาสของคนไทยในการใช้เทคโนโลยีบล็อคเชนในการสร้างนวัตกรรม 

“กฎที่ออกมาอย่างเร่งรีบไม่ได้ผ่านการทำประชาพิจารณ์จากผู้ประกอบการและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และข้อห้ามที่ออกมานั้น ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถในการแข่งขันของไทยในระดับนานาชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในขณะที่ประเทศกำลังมองหาธุรกิจ S-curve ใหม่ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ภาครัฐกลับปิดกั้นการเกิดขึ้นของอุตสาหกรรมใหม่ที่อาศัยเทคโนโลยีบล็อคเชน รวมถึงคริปโต แล้วอนาคตการพัฒนาเทคโนโลยีของประเทศจะเป็นอย่างไร” นายกรณ์ กล่าว 

อดีต รมว.คลัง กล่าวด้วยว่า ในมุมของ ก.ล.ต. เอง เข้าใจว่าต้องการป้องกันความเสี่ยงให้ผู้บริโภค แต่เชื่อหรือไม่ว่ากฏเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้ความเสี่ยงหมดไป เพราะธุรกรรมคริปโตเป็นธุรกรรมที่ไร้พรมแดน ซ้ำร้ายกลับทำให้ประเทศสูญเสียโอกาส คือ ลดโอกาสของการเกิดนวัตกรรมใหม่ๆในประเทศ ลดโอกาสของคนในการพัฒนาตนเองสู่ทักษะและเครื่องมือที่สำคัญ สำหรับยุคดิจิตอล ซึ่งเป็นตัวชี้วัดขีดความสามารถทางการแข่งขันกับต่างประเทศทั้งในปัจจุบันและอนาคต กฏข้อบังคับในครั้งนี้เป็นการผลักไสทรัพยากรคนที่มีความสามารถและนวัตกรรมออกนอกประเทศ ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถดึงดูดนวัตกรรมและการลงทุนจากต่างประเทศเข้าสู่ประเทศได้ ซึ่งถือเป็นผลเสียมากกว่าผลดีต่อประเทศไทยเอง 

นอกจากนี้ ยังมีความไม่ชัดเจนของกฎบางข้อเช่น  

1.การนิยาม Meme และ FAN tokens ยังขาดรายละเอียดตัวชี้วัดว่า เหรียญแบบไหนถือว่ามีสาระที่สมควรอนุญาตให้ซื้อขายในกระดานซื้อขายไทย

2.การกีดกัน NFT ซึ่งถือเป็น Softpower อีกหนึ่งเครื่องมือเศรษฐกิจยุคดิจิตอล  โดยถือว่าเป็นของเฉพาะกลุ่ม ถือเป็นการกีดกันการค้าของอุตสาหกรรมศิลปะ บันเทิง และเกมส์ ไม่ให้เกิดการพัฒนาและรับรู้อย่างแพร่หลาย

3.ห้ามศูนย์ซื้อขาย ทำ Native Coins ในระบบ Blockchain ด้วยความกลัวด้านข้อมูลภายใน (Inside Information) ถือเป็นการตระหนกเกินกว่าเหตุ เพราะเมื่อเทียบกับหลักปฏิบัติของตลาดหุ้นสากล ผมยังคงเห็นหุ้นของ NASDAQ, London Stock Exchange และ Singapore Stock Exchange (SGX) ซึ่งถือเป็นกระดานซื้อขายทำ self listing หุ้นตนเอง เมื่อเทียบกับผู้เล่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน คือ Binance (BNB) ผมจึงเสนอว่าสาระสำคัญไม่ได้อยู่ที่การห้ามให้มีหรือไม่มีการทำ self listing แต่อยู่ที่การควบคุมไม่ให้กระดานซื้อขายนำข้อมูลภายในมาใช้เพื่อผลประโยชน์ของตน

4. ข้อบังคับเหล่านี้ไม่มีผลย้อนหลังสำหรับเหรียญในจำนวนที่ถูกซื้อขายบนกระดานแล้วในปัจจุบัน แต่ห้ามการนำจำนวนเหรียญที่ยังไม่เข้าสู่ระบบมาทำการซื้อขายเพิ่ม ซึ่งเป็นเรื่องยากในการกำกับและติดตาม Exchange อื่นๆจะไม่สามารถทำ Self listing เหรียญของตัวเองที่ใช้ในระบบ Blockchain ได้อีกต่อไป ซึ่งแน่นอนว่าทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมในการแข่งขัน เป็นต้น 

นายกรณ์ กล่าวด้วยว่า หลักคิดของระบบราชการไทยไม่ควรเป็นเพียงแค่การกำกับควบคุม แต่ต้องเป็นการส่งเสริมและพัฒนา ผมจึงไม่เห็นด้วยกับ ก.ล.ต. ที่ออกกฏในลักษณะปิดกั้น แต่ควรส่งเสริมและมีบทบาทในการตรวจสอบ มีกติกาชัดเจน เช่น การกำหนดความละเอียดและความสมบูรณ์ของ Whitepaper โดยยังมีพื้นที่ให้กลไกตลาดทำงานได้ โดยไม่เป็นการปฏิเสธความรับผิดชอบ 

นอกจากความคิดเห็นของนายกรณ์แล้ว ทีม Tech ในพรรคกล้า อย่างนางสาวภรณี วัฒนโชติ CEO FinGas นักลงทุนคลิปโต ตั้งแต่ปี 2016 และรองโฆษกพรรคกล้า บอกว่า ไม่เห็นด้วย ด้วยเหตุผล 3 ข้อหลัก คือ

1.ทีมนักพัฒนาเหรียญคนไทย จะหนีไป ICO และซื้อขายเหรียญในต่างประเทศ ประเทศไทยสูญเสียนวัตกรรม และการได้รับการยอมรับว่าเป็นแหล่งบ่มเพาะนวัตกรรม

2.เป็นการกีดกันและลดความสามารถในการแข่งขันของศูนย์ซื้อขายสัญชาติไทย ให้ไม่สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ เพราะ ศูนย์ซื้อขายสัญชาติไทยจะ ‘เป็นศูนย์ ที่ไม่เป็น ศูนย์’ คือไม่สามารถเป็นศูนย์รวมของเหรียญที่หลากหลายให้คนได้ซื้อขายอย่างแท้จริง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการชนะคู่แข่งในตลาดโลก และ

3.เมื่อผู้พัฒนาไม่สามารถขึ้นกระดานซื้อขายที่ถูกกฏหมายได้ สุดท้ายจะเข้าซื้อขายในตลาด Defi ซึ่งอยู่นอกเหนือความสามารถในการกำกับของรัฐ และก.ล.ต.จะไม่สามารถป้องกันความเสี่ยงให้ผู้บริโภคคนไทยได้อยู่ดี เพราะจะไม่สามารถติดตามเหรียญจาการ scam คืนได้จากกระดานซื้อขายนอกการกำกับ เช่น กรณี FBI ตามเหรียญคืนได้จาก Coinbase กระดานซื้อขายภายใต้การกำกับ เป็นต้น การออกกติกาของ ก.ล.ต.ในครั้งนี้จึงมี ผลร้าย กับประเทศมากกว่า ผลดี 

นายยศ เลิศภิญโญภาพ IT Solution Architect และกรรมการนโยบายพรรคกล้า กล่าวว่า NFT คือโอกาสและช่องทางสำหรับการโปรโมตผลงานหรือสร้างรายได้ให้กับกลุ่มคนจำนวนมาก ทัศนคติในการกีดกัน NFT จะไม่ช่วยส่งเสริมให้เกิดการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ ออกมา เทคโนโลยีที่หมุนไปเร็ว กลไกตลาด Crypto currency  มันทำงานเร็วขึ้น ดังนั้นภาครัฐยุคใหม่ควรมีบทบาทในการส่งเสริมหาแนวทางป้องกันที่เหมาะสม มากกว่าการปิดกั้นโอกาสในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆของคนไทย 

เช่นเดียวกับ คณิต ศาตะมาน นักเทคโนโลยี ผู้อยู่ในวงการ Blockchain และ Digital Asset  ที่มองว่า ตั้งแต่ยุค ICO จนถึงปัจจุบัน Crypto Currency และ Digital Tokens นั้นทำให้เกิดระบบนิเวศน์ทางเศรษฐกิจดิจิทัลใหม่ๆ ที่สามารถสร้างโอกาสให้กับคนไทยได้หากสามารถสร้างนวัตกรรมที่มีประโยชน์จนคนเห็นคุณค่า แน่นอนว่าการเก็งกำไรย่อมมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหาย แต่รัฐก็ไม่ควรจะใช้วิธีขังทุกคนเอาไว้ในห้องด้วยเชื่อว่าพวกเขาจะปลอดภัยหากไม่ได้ออกไปไหน ดังนั้นจึงไม่ควรจะไปตั้งกำแพงกีดกัน Utility Token เหล่านั้นจาก Exchange และที่จริงแล้วควรจะสนับสนุนให้ทำธุรกรรมผ่าน Exchange ด้วยซ้ำ เพราะพวกเขามีกระบวนการยืนยันตัวตนที่ชัดเจนสามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดการหลอกลวงได้เป็นอย่างดี แตกต่างกับการสร้าง Market Place และ DeFi ที่ไม่มีกระบวนการตรวจสอบและควบคุมใด ๆ ได้เลย

‘บิ๊กป้อม’ นั่งหัวโต๊ะ ประชุมคณะกรรมการกีฬาโอลิมปิกแห่งประเทศไทย เคาะค่าตั๋วเครื่องบิน ส่งทีมชาติไปโอลิมปิกญี่ปุ่น

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมกรรมการบริหาร คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ครั้งที่ 2/2564 ผ่านระบบประชุมทางไกล Zoom Video Conference โดยที่ประชุมมีการรายงานความคืบหน้าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกโตเกียว 2020 ครั้งที่ 32 ณกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม-8 สิงหาคม 2564 การแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ยูธเกมส์ ครั้งที่ 3 ณ เมืองซัวเถา สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 25-28 พฤศจิกายน 2564 การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 31 ณสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามระหว่างวันที่ 21 พฤศจิกายน-3 ธันวาคม 2564

นอกจากนี้ นายธนาไชย ประสิทธิ์ เหรัญญิกคณะกรรมการโอลิมปิกฯ เสนอเพื่อพิจารณาและขออนุมัติส่งคณะนักกีฬาทีมชาติไทยไปร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก พร้อมกับขออนุมัติเบิกเงินยืมทดรองเป็นค่าบัตรโดยสารเครื่องบินสำหรับคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก

“เสรีพิศุทธ์” ลั่น ส.ว.มีไว้ทำไม หลัง “ประยุทธ์” ถามใครสนับสนุนผมบ้าง เงียบเป็นสากกะเบือ ชี้ บัตรเลือกตั้งกี่ใบก็รับได้ ขึ้นอยู่กับปชช.

ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของพรรคฝ่ายค้าน ว่า เมื่อวานนี้ที่ตนไม่ได้มาร่วมยื่นด้วยเนื่องจากตนทำหน้าที่ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) อยู่ ประชุมทั้งวัน ไม่ค่อยได้เข้าห้องประชุมใหญ่อยู่แล้ว แต่ได้ให้นายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย เป็นตัวแทนมายื่นร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งญัตติต่างๆ ที่พรรคฝ่ายค้านยื่นนั้น ไม่เหมือนกันทีเดียว ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลก็มีความแตกต่างกันเช่นกัน เพียงแต่ตนอยากจะเรียนทุกพรรคที่ยื่น ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่ ไม่ใช่แค่เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเท่านั้น แต่จะต้องคิดถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก อย่าคิดถึงผลประโยชน์ของตนเอง ประเทศไทยใครจะเป็นอะไรก็ได้ แต่ขอให้ได้คนที่ดีมีความสามารถมาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง 

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า แต่จะคิดแก้รัฐธรรมนูญเพื่อผลประโยชน์ของตนเองมันไม่ใช่ อย่างร่างที่พรรคพลังประชารัฐยื่น ถามว่าจะยื่นมาทำไม ตอนนั้นก็ขัดขวางไม่ยอมให้รัฐธรรมนูญผ่าน ต่อมามีการพิจารณาพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การออกเสียงประชามติ ซึ่งตอนนี้ยังพิจารณาไม่เสร็จ ก็ควรจะให้เป็นไปตามขั้นตอน ต้องพิจารณาพ.ร.บ.ประชามติให้เสร็จและให้มีการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นไปร่างรัฐธรรมนูญให้ถูกต้องเป็นธรรม ไม่ใช่รัฐธรรมนูญที่ออกแบบมาเพื่อคนคนเดียวเท่านั้น เมื่อ 2 วันก่อนที่มีการประชุมวุฒิสภา พล.อ.ประยุทธ์​ถามวุฒิสภาทำนองว่า “ใครสนับสนุนผมบ้าง” เงียบเป็นสากกะเบือ ไม่รู้จะมีไว้ทำไม พรรคพลังประชารัฐไม่แก้เอาไว้เอื้อประโยชน์ของตนเองรวมทั้งเรื่องบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แบบแบ่งเขต 400 กับแบบบัญชีรายชื่อ เพราะหากใช้แบบเดิม ผู้ใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐก็จะไม่ได้เข้าสภา ตนสงสารประชาชนที่มีผู้นำประเทศคิดแต่เอารัดเอาเปรียบประชาชนอยู่ตลอดเวลา 

เมื่อถามว่าพรรคเสรีรวมไทยพร้อมจะสนับสนุนกลับไปเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เราเป็นพรรคเล็ก เราต้องรู้ว่าเราไม่มีอำนาจที่จะไปต่อสู้กับเขา ประชาชนให้ความไว้วางใจเราเท่านี้ แต่ความจริงให้ความไว้วางใจมากกว่านี้แต่เราถูกโกงเหมือนพรรคอนาคตใหม่ พรรคที่ได้คะแนน 30,000 กว่าคะแนนก็เลยถูกปัดเศษขึ้นมาเพื่อให้ร่วมรัฐบาล ฉะนั้นถึงแม้ว่าพรรคเราจะเป็นพรรคเล็กเราก็มีจุดยืนที่เข้มแข็งและมั่นคง การแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ไม่ว่าจะมีกี่ร่างก็ตาม เราก็ต้องมาตัดสินกันว่าเมื่ออภิปรายแล้ว เราควรจะสนับสนุนร่างของฝ่ายไหนที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด พรรคเสรีรวมไทยไม่ได้ประโยชน์อะไรก็ไม่เป็นไร

เมื่อถามว่าเรื่องระบบการเลือกตั้ง เช่น พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย ก็เห็นตรงกันว่าควรจะกลับไปเป็นบัตร 2 ใบ พรรคเสรีรวมไทยมองประเด็นนี้อย่างไร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา อย่างที่บอกว่าขึ้นอยู่กับประชาชนจะ 2 ใบหรือใบเดียวคิดได้อย่างไรว่าอะไรจะเป็นประโยชน์ เราไม่รู้ว่าประชาชนจะเลือกใคร อย่างไรก็ตามพรรคพลังประชารัฐมีฐานข้อมูลว่าตอนเลือกตั้งซ่อมทีไร ส่งร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไปที่ไหนก็ชนะการเลือกตั้งครั้งนั้น พรรคพลังประชารัฐก็มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะมีส.ส.เขตมากขึ้น เราไม่มีฐานข้อมูลอย่างเขา รู้แค่เพียงว่าที่ผ่านมา 2 ปี คนรู้จักพรรคเสรีรวมไทยมากขึ้น ฉะนั้นในการเลือกตั้งครังหน้า หากยังเป็นบัตรใบเดียวเราก็เชื่อมั่นว่าเราจะมีส.ส.มากขึ้น แต่หากเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบเราก็ชั่งน้ำหนักไม่ได้ว่าจะมีส.ส.มากขึ้นหรือน้อยลง ซึ่งการที่ทำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมต่างๆ เหล่านี้มาเพื่อจะตัดพรรคเล็ก อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งขึ้นอยู่กับประชาชน 

อเล็กเซย์ มิรานชุก ซัดประตูสุดสวยตั้งแต่ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก เป็นประตูชัยพา ‘รัสเซีย’ เฉือนชนะ ‘ฟินแลนด์’ ไปแบบหืดจับ 1-0 คว้าสามคะแนน ลุ้นเข้ารอบน็อคเอาท์ต่อในเกมหน้า

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ‘ยูโร 2020’ วันพุธที่ 16 มิถุนายน 2564 คู่แรก เป็นเกมในกลุ่ม B ‘หมีขาว’ ทีมชาติรัสเซีย หนึ่งในทีมเจ้าภาพร่วม ลงเล่นที่เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก สเตเดียม พบกับ ทีมชาติฟินแลนด์

เกมแรก รัสเซีย ของกุนซือสตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ พ่ายแพ้ให้กับ เบลเยี่ยม แบบขาดลอย 0-3 เกมนี้ต้องเก็บชัยชนะให้ได้ เพื่อโอกาสในการเข้ารอบน็อคเอาท์ นำทัพมาโดยหัวหอกร่างโย่ง อย่าง อาร์เตม ซูบ้า, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน, โรมัน ซอบนิน, มาริโอ เฟร์นันเดซ

ขณะที่ ฟินแลนด์ ของกุนซือมาร์คคู คาเนร์ว่า เกมที่แล้วพลิกล็อกเอาชนะ เดนมาร์ก 1-0 อย่างเหนือความคาดหมาย เกมนี้ยังคงนำทัพมาโดย ติโม ปุ๊กกี กองหน้าตัวเก่ง, โจเอล โปห์ยานโปโล, ยัคค่า ไรตาย่า, เยเร่ อูโรเน่น

นาทีที่ 4 ฟินแลนด์ ฉกฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของแนวรับรัสเซีย ยัคค่า ไรตาย่า ตัดบอลไปได้ หลุดมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนเปิดบอลให้ โจเอล โปห์ยานโปโล โหม่งในกรอบเขตโทษหนีมือนายทวารเจ้าถิ่นเข้าไปตุงตาข่าย แต่เมื่อเช็คจาก VAR แล้ว เป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน

หลังเกือบเสียประตู รัสเซีย ดาหน้าบุกอย่างหนักเพื่อทำประตูขึ้นนำให้ได้ แต่จังหวะจบสกอร์นั้นยังทำได้ไม่ดีพอ ขณะที่ ฟินแลนด์ อาศัยเกมรับที่เหนียวแน่น รอโต้กลับได้น่ากลัวหลายครั้ง แต่ยังทำประตูไม่ได้

แต่แล้วช่วงทดเจ็บของครึ่งเวลาแรก รัสเซีย มาได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ อเล็กเซย์ มิรานชุก ทำชิ่ง 1-2 กับ อาร์เตม ซูบ้า ก่อนจะเป็น มิรานชุก ที่ปั่นด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษ หนีมือนายทวารฟินแลนด์เข้าไปอย่างสุดสวย และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง ฟินแลนด์ เป็นฝ่ายเปิดเกมบุกมากขึ้นเพื่อทวงประตูคืน แต่เกมรับของรัสเซีย ยังทำได้ดี หยุดเกมบุกของ 2 กองหน้าฟินแลนด์ได้อยู่หมัด โดยทีม ‘หมีขาว’ พยายามเปิดเกมแลกเหมือนกัน แต่จังหวะจบสกอร์ทำได้ไม่ดีพอ

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที รัสเซีย เอาชนะ ฟินแลนด์ 1-0 เก็บสามคะแนนสำคัญ ทำให้พวกเขามี 3 แต้ม จาก 2 นัด เท่ากับฟินแลนด์ ไปลุ้นเข้ารอบน็อคเอาท์ต่อในนัดสุดท้าย

โปรแกรมต่อไป ฟินแลนด์ จะพบกับ เบลเยียม ในคืนวันที่ 21 มิถุนายน เวลา 02.00น. (ตามเวลาประเทศไทย) ส่วน รัสเซีย จะพบกับ เดนมาร์ก ในวันและเวลาเดียวกัน

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

ฟินแลนด์ : ลูคัส ฮาราเด็คกี (GK), ยูน่า ตอยวิโอ, เปาลัส อารายูรี, ดาเนียล โอเชาเนสซี, ยัคค่า ไรตาล่า, โรบิน ลอด, ราสมุส ชูลเลอร์, เกล็น กามาร่า, เยเร่ อูโรเน่น, ติโม ปุ๊กกี, โจเอล โปห์ยานโปโล

รัสเซีย : มัตเวย์ ซาโฟนอฟ (GK), ดิมิทรี บารินอฟ, อีกอร์ ดีวีฟ, จอร์จีย์ ซิคีย่า, ดาเลอร์ คูซยาเยฟ, โรมัน ซอบนิน, มาโกเม็ด ออซโดเยฟ, มาริโอ เฟร์นันเดซ, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน, อเล็กเซย์ มิรานชุก, อาร์เตม ซูบ้า

 

ที่มา : https://mgronline.com/sport/detail/9640000058362


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เสรีพิศุทธ์" ซัด "สิระ" ไม่ฉลาด ชอบโหนคดีดัง หลังรู้ตัวไม่มีหน้าที่สอบคดีลุงพล พร้อมรับเผือกร้อนสอบต่อ

ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน มีมติส่งเรื่องที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ และนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ผู้ต้องหาคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ยื่นหนังสือร้องเรียนขอให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจปฎิบัติหน้าที่มิชอบในการออกหมายจับนายไชย์พล ว่า ตนบอกตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่ใช่งานของนายสิระ เพราะคนที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการ เมื่อได้รับฟังเรื่องตั้งแต่ต้นก็ควรจะรู้ว่าเรื่องนั้นอยู่ในหน้าที่ของตนเองหรือไม่ ความจริงถ้านายสิระฉลาด เมื่อประชุมแล้วรู้ว่าไม่ใช่หน้าที่ก็ทำหนังสือส่งมาให้ตนก็จบแล้ว ดีกว่าไปแถลงข่าวจนทำให้ประชาชนรู้ว่านายสิระไม่รู้เรื่อง เพราะอยากเป็นข่าว อยากออกทีวีทุกวันเพื่อหาเสียง เอาเรื่องการเมืองเป็นหลัก โดยไม่ได้ใส่ใจหน้าที่ตัวเอง อย่างไรก็ตาม หากมีการส่งเรื่องมาให้ตนพิจารณาก็จะรับไว้และดำเนินการตามหน้าที่ต่อไป

เมื่อถามว่าเป็นการโยนเรื่องร้อนให้พิจารณาหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ตนมองว่าไม่ได้เป็นการโยนงานมาให้ เพราะตอนนี้นายสิระคงสำนึกแล้วว่าไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง ก่อนหน้านี้ก็เที่ยวสอบเรื่องนั้นเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะกรณีที่เป็นเรื่องดังๆ เช่น คดีบอส อยู่วิทยา ซึ่งทุกคนก็ทราบดีว่า มีการทุจริตปฎิบัติหน้าที่มิชอบ และเป็นเรื่องอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการของตน ซึ่งตนดำเนินการอยู่ใกล้จะแล้วเสร็จ แต่นายสิระก็เอาบ้างทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ตัวเอง ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และพล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐกลับส่งคนที่ไม่มีความรู้มาทำหน้าที่ เพื่อเป็นการตอบแทนกัน จึงทำให้เกิดปัญหาเดือดร้อนไปถึงประชาชน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top