Friday, 4 July 2025
Hard News Team

ครม.เห็นชอบร่างเอกสารท่าทีไทย ในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 76

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ครม.เห็นชอบร่างเอกสารท่าทีไทยในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 76 จัดประชุมในวันที่ 14 ก.ย.นี้ ที่ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ เสนอ โดยร่างเอกสารท่าทีไทยในการประชุมครั้งนี้ เป็นการแสดงจุดยืนและท่าทีในประเด็นที่มีความสำคัญต่างๆ อาทิ สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม ความมั่นคง เป็นต้น ทั้งนี้สาระสำคัญของร่างดังนี้ 1.ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานเพื่อการพัฒนาและสนับสนุนแหล่งพลังงานใหม่และพลังงานหมุนเวียน การจัดการภัยพิบัติ และการรับมือการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงความมุ่งมั่นของไทยในการดำเนินการตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ.2030 และการพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 2.บทบาทไทยในการปฏิบัติการรักษาสันติภาพ และให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้านสันติภาพของสหประชาชาติ และการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยอย่างยั่งยืน 3.ส่งเสริมความร่วมมือของประเทศในภูมิภาคแอฟริกา ในฐานะหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและการพัฒนา โดยใช้หลักความเท่าเทียม ความไว้เนื้อเชื่อใจ และผลประโยชน์ร่วมกัน  4.ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิผู้เปราะบาง ทั้งเด็ก สตรี คนพิการ และผู้สูงอายุ การขจัดการเหยียดผิวและการเลือกปฏิบัติด้านเชื้อชาติ รวมถึงการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน สิทธิ และเสรีภาพในการแสดงออก 

น.ส.รัชดา กล่าวว่า5.สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและให้ความสำคัญกับประเด็นความร่วมมือและความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม อันเป็นผลมาจากภัยพิบัติทางธรรมชาติในภูมิภาค 6.ติดตามความคืบหน้าการทำงานคณะกรรมาธิการกฎหมายระหว่างประเทศในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงประเด็นอื่นๆ เช่น การคุ้มครองบุคคลในกรณีภัยพิบัติ และโครงการช่วยเหลือแห่ง UN ในการเรียนการสอน 7.สนับสนุนการลดและขจัดอาวุธนิวเคลียร์ รวมทั้งผลกระทบด้านมนุษยธรรมจากอาวุธนิวเคลียร์ การป้องกันมิให้ผู้ก่อการร้ายได้มาซึ่งอาวุธที่มีอานุภาพ 8.ให้ความสำคัญกับประเด็นร่วมมือระหว่างประเทศว่าด้วยการควบคุมสารเสพติดระหว่างประเทศ การป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา และมาตรการขจัดการก่อการร้ายสากล และ 9.ให้ความสนใจประเด็นสุขภาพโลกและนโยบายต่างประเทศ โดยเน้นบทบาทนำของไทยในด้านสาธารณสุขและด้านบริหารองค์กร

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดข้อความโฆษณาสินค้าที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค- ก่อให้เกิดผลเสีย

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี  แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดข้อความโฆษณาสินค้าหรือบริการที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม และ ร่างกฎกระทรวงยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยการโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีนในโรงภาพยนตร์และทางป้ายโฆษณา โดยได้กำหนดข้อความโฆษณาสินค้าหรือบริการที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม ได้แก่ ข้อความผู้ประกอบธุรกิจจะจัดให้มีการแถมพกหรือรางวัลด้วยการเสี่ยงโชค หรือจัดให้มีการให้ของแถมหรือให้สิทธิหรือประโยชน์โดยให้เปล่า

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ข้อความโฆษณาขายห้องชุดที่ยังไม่ได้จดทะเบียนเป็นอาคารชุดหรือจดทะเบียนเป็นอาคารชุดแล้ว ตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด โดยไม่ได้ระบุรายละเอียดตามเงื่อนไขที่กำหมายกำหนด  ข้อความโฆษณาขายที่ดินโดยการแบ่งขายเป็นแปลงย่อยไม่ว่าจะเป็นการขายเฉพาะที่ดิน หรือขายที่ดินพร้อมอาคารโดยไม่ได้ระบุรายละเอียดตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด รวมถึงข้อความที่ใช้หรืออ้างอิงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ พระราชินี  รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ซึ่งได้กระทำไปโดยไม่ได้รับพระบรมราชานุญาต พระราชานุญาต  หรืออนุญาต แล้วแต่กรณี เว้นแต่เป็นข้อความที่กฎหมายกำหนด

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ส่วนร่างกฎกระทรวงยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยการโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีนในโรงภาพยนตร์และทางป้ายโฆษณา  ซึ่งการยกเลิกกฎกระทรวงดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันมีกฎหมายที่มีบทบัญญัติในการคุ้มครองผู้บริโภคที่กำกับดูแลการโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีนไว้เป็นการเฉพาะแล้ว ได้แก่ พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 และพระราชบัญญัติอาหาร เพื่อให้มีกฎหมายเท่าที่จำเป็นและไม่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพ

ครม.อนุมัติ ร่างพ.ร.ฎ.วางเกณฑ์ให้ได้ที่ดิน และชดเชยผู้ถูกเวนคืน

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี  แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ครม.อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการให้ได้ที่ดินเพิ่มเติมและการจ่ายเงินค่าทดแทนเพื่อชดเชยให้แก่ผู้ถูกเวนคืน มีสาระสำคัญ คือกำหนดหลักเกณฑ์เจ้าของที่ดิน ที่ถูกเวนคืนที่จะได้รับการชดเชยเป็นที่ดิน ต้องเป็นเจ้าของที่ดินที่ถูกเวนคืน ที่มีการใช้ประโยชน์ในที่ดินเป็นที่อยู่อาศัยหรือประกอบการทำมาหาเลี้ยงชีพ ก่อนวันใช้บังคับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน และไม่มีที่ดินเหลืออยู่หรือมีเหลืออยู่ไม่เพียงพอที่จะใช้เป็นที่อยู่อาศัย หรือประกอบการทำมาหาเลี้ยงชีพได้ ในกรณีที่ดินส่วนที่เหลืออยู่ ติดต่อกับที่ดินแปลงอื่นของเจ้าของเดียวกัน ให้พิจารณาโดยรวมถึงที่ดินแปลงติดต่อที่เป็นเจ้าของเดียวกันด้วย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นอกจากนี้ยังกำหนดลักษณะที่ดินที่จะเวนคืนเพิ่มเติม เพื่อนำไปชดเชย ต้องเป็นที่ดินที่เจ้าของคนเดียวหรือ หลายคนมีกรรมสิทธิ์คนละไม่น้อยกว่า 25 ไร่ สำหรับที่ดินที่ใช้เพื่อเกษตรกรรม และไม่น้อยกว่า 5 ไร่ สำหรับที่ดินที่ใช้เพื่อการอื่น ถ้าที่ดินที่อยู่ติดต่อกันเป็นเจ้าของคนเดียวกันให้พิจารณาเสมือนหนึ่งว่าที่ดินนั้นเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน และการชดเชยเป็นที่ดินให้กับเจ้าของที่ดินที่ถูกเวนคืน ให้พิจารณาโดยคำนึงองค์ประกอบดังต่อไปนี้ เช่น ราคาค่าทดแทนที่ดินตามมติของคณะกรรมการกำหนดราคาอสังหาริมทรัพย์เบื้องต้นตามกฎหมายว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ จำนวนเนื้อที่ดินและสภาพและที่ตั้งของที่ดิน  เป็นต้น

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ส่วนการเวนคืนที่ดินเพิ่มเติม เพื่อนำไปชดเชย อาจเวนคืนเท่ากับหรือน้อยกว่าที่ดินที่ถูกเวนคืนก็ได้ แต่ต้องเพียงพอให้เจ้าของที่ดินสามารถอยู่อาศัยหรือประกอบการทำมาหาเลี้ยงชีพได้  ทั้งนี้หากเจ้าของที่ดินที่ถูกเวนคืนไม่พอใจเงินค่าทดแทนสำหรับส่วนต่างของราคามูลค่าที่ดิน ให้มีสิทธิอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับเงินจากเจ้าหน้าที่

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวง ขออนุญาต ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่ายกัญชา ส่งต่อ สธ.นำข้อสังเกตของกฤษฎีกาไปดำเนินการต่อ

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี  แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5  เฉพาะกัญชา ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ซึ่ง ครม.ได้เคยมีมติอนุมัติหลักการและส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยสาระสำคัญเป็นเรื่องการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้มีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า  การผลิตและจำหน่ายยาที่มีกัญชาปรุงผสมอยู่ ยังขาดขั้นตอนสำคัญของการรับรองตำรับยาที่จะต้องมีการวิจัยในมนุษย์เพื่อให้ทราบถึงประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และผลข้างเคียงจากยานั้นเสียก่อน การกำหนดให้นำยาดังกล่าวมาใช้กับประชาชนจึงอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในสุขภาพของประชาชนได้ แต่เมื่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)ประสงค์ให้กำหนดบทบัญญัติเรื่องนี้ไว้ เพื่อให้สามารถใช้ยาที่มีกัญชาปรุงผสมอยู่สำหรับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้ยาดังกล่าว จึงควรประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยาที่มีกัญชาปรุงผสมอยู่ในรูปแบบพิเศษสำหรับการเข้าถึงยา 

“ การใช้ยาดังกล่าวกับผู้ป่วยควรเป็นกรณีที่มีความจำเป็นและต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่ผู้ป่วยจะได้รับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และอันตรายจากการใช้ยานั้นร่วมกับยาอื่นที่ใช้อยู่แล้ว หรือที่จะมีการใช้ในอนาคต และแพทย์ซึ่งจะสั่งยานั้นกับผู้ป่วย ควรอธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจถึงความจำเป็น ประโยชน์ ความเสี่ยง หรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจด้วย โดยให้กระทรวงสาธารณสุขรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปดำเนินการต่อไปด้วย”น.ส.ไตรศุลี กล่าว

เปิดประวัติ ผู้อำนวยการ 'เผด็จ อุทุมสกุลรัตน์' โรงเรียนดอนเมืองทหารอากาศบำรุง กรุงเทพฯ ผอ. ควักเงินประกันลูกศิษย์บุกชิงทอง 

เปิดประวัติ ผู้อำนวยการ 'เผด็จ อุทุมสกุลรัตน์' โรงเรียนดอนเมืองทหารอากาศบำรุง กรุงเทพฯ ผอ. ควักเงินประกันลูกศิษย์บุกชิงทอง 

คติธรรมประจำใจ 
“ถ้าวันนี้ถูก ไม่ต้องกลัวพรุ่งนี้” ท่านพุทธทาสภิกขุ

ประวัติ ผอ.เผด็จ อุทุมสกุลรัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนดอนเมืองทหารอากาศบำรุง
.
ภูมิลำเนาบ้านเกิด อำเภอพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ประวัติการศึกษา
พ.ศ.2538 ครุศาสตรบัณฑิต วิชาเอกวิทยาศาสตร์ทั่วไป คณิตศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 
พ.ศ.2546 ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ประสบการณ์การทำงาน 
พ.ศ.2542 อาจารย์หนึ่งระดับ 3 โรงเรียนบัวปากท่าวิทยา จ.นครปฐม
พ.ศ.2547 ครูโรงเรียนพุทธจักรวิทยา กรุงเทพฯ
พ.ศ.2553 รองผู้อำนวยการชำนาญการ โรงเรียนกุนนทีรุทธารามวิทยาคม กรุงเทพฯ
พ.ศ.2556 รองผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา กรุงเทพฯ
พ.ศ.2558 ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ โรงเรียนสุขุมนวพันธ์อุปถัมภ์ กรุงเทพฯ

ผลการปฏิบัติงาน
รางวัลหนึ่งแสนครูดี 
ผู้อำนวยการสถานศึกษาดีเด่น ประจำปี พ.ศ.2560 จากสมาคมผู้บริหารมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย
อุปนายกสมาคมผู้ปกครองและครูดีเด่น ประจำปี พ.ศ.2560 จากสภาผู้ปกครองและครูแห่งประเทศไทย 
บุคคลผู้เสียสละตนทางการศึกษา ประจำปี พ.ศ.2562 จาก สํานักงานศึกษาธิการจังหวัดกรุงเทพฯ
ผู้จัดการทีมกีฬาฟุตซอลได้รับรางวัลชนะเลิศ ฟุตซอลระหว่างโรงเรียน ประจำปี พ.ศ.2562 รุ่น 14 ปี ประเภท ก กรมพลศึกษา 


ที่มา : ประวัติผู้อำนวยการโรงเรียนดอนเมืองทหารอากาศบำรุง ท่านเผด็จ อุทุมสกุลรัตน์
https://www.youtube.com/watch?v=PJNirRV460o

รพ.ทหารผ่านศึก วอนม็อบดินแดง ยึดแนวทางสันติ ลดรุนแรง ย้ำไม่เกี่ยวการเมือง ขอผู้ชุมนุมเปิดทางให้ผู้ป่วยฉุกเฉินและผู้ป่วยประจำได้สัญจรผ่านโรงพยาบาล ตามปกติ

วันที่ 14 ก.ย. 64 ที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึก นพ.กำพล เมืองแสน ผอ.รพ.ทหารผ่านศึก พร้อมด้วย นายสหรัฐ คล้ายเพชร หัวหน้ารักษาความปลอดภัย รพ.ทหารผ่านศึก และ น.ส.ศศิรินทร์ ชวพรธนานนท์ ผอ.กองการพยาบาล รพ. ทหารผ่านศึก ร่วมแถลงข่าวกรณี โรงพยาบาลผ่านศึก ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมบริเวณดินแดง ว่า ขอวิงวอนผู้ชุมนุมยึดแนวทางสันติ ไม่ใช้ความรุนแรง

เนื่องจากคนไข้ที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเมื่อรักษาเสร็จสิ้น จำเป็นต้องเดินทางกลับที่พัก รวมถึงเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่ปฏิบัติหน้าที่เข้าเวรดูแลผู้ป่วยก็ไม่สามารถเดินทางออกจากโรงพยาบาลได้เพราะมีการชุมนุมบริเวณโดยรอบ ทั้งนี้ขอให้ผู้ชุมนุมเปิดทางให้ผู้ป่วยฉุกเฉินและผู้ป่วยประจำได้สัญจรผ่านโรงพยาบาล ตามปกติ อีกทั้งโรงพยาบาลยังตั้งระหว่างกลางพื้นที่การชุมนุม จำเป็นต้องรับมือกับสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา

ส่วนด้านการรักษาความปลอดภัยอยากเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมอย่าเข้ามาในโรงพยาบาลเพราะเป็นสถานที่ทางราชการ เป็นสถานที่ที่ใช้รักษาผู้ป่วยไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใดที่ผ่านมาต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ไม่ได้เข้ามาภายในโรงพยาบาล ทำให้ไม่มีผลกระทบทางด้านความรุนแรงกับโรงพยาบาลแต่อย่างใด

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่ารพ.ทหารผ่านศึก จะได้รับผลกระทบจากการแถลงข่าวในวันนี้ เพราะชื่อโรงพยาบาล นพ.กำพล กล่าวว่า แม้จะชื่อโรงพยาบาลทหารผ่านศึก แต่เป็นโรงพยาบาลรัฐ ไม่ใช่ของเหล่าทัพ และเชื่อว่าผู้ชุมนุมเข้าใจในส่วนนี้

ด้าน นายสหรัฐ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเมื่อมีการชุมนุมจะมีสิ่งไม่พึงประสงค์หลุดเข้ามาในโรงพยาบาลบ้าง แต่ยังไม่มีระเบิด ทั้งนี้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในกรมดุริยางค์ทหารบก ขอให้ผู้ชุมนุมลดความรุนแรง เพราะทำให้ผู้อยู่อาศัยบริเวณที่ชุมนุมเดือดร้อนอย่างมาก

ครม.อนุมัติ บำเหน็จความชอบพิเศษ ให้จนท.ปฎิบัติงานด้านยาเสพติด พร้อมรับทราบ ผลโพล ปชช.ปรับตัว-เข้าถึงดิจิทัล ช่วงโควิด สะท้อนทำงานที่บ้านค่าใช้จ่ายเพิ่ม แนะรัฐลดภาระค่าสาธารณูปโภค พุ่งร้อยละ 67.3 ชี้ โครงการเยียวยา "เราชนะ" มีประโยชน์มากสุดถึงร้อยละ 76.2 

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี  แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ครม.อนุมัติให้พิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษ ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ปีงบประมาณ 2564 ไม่เกิน 12,041 อัตรา แบ่งเป็น ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรง จำนวน 337,713 อัตรา ปรับเพิ่มไม่เกินร้อยละ 2.5 คิดเป็นจำนวนไม่เกิน 8,443 อัตรา และผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด จำนวน 239,8861 อัตรา ปรับเพิ่มไม่เกินร้อยละ 1.5 คิดเป็นจำนวน 3,598 อัตรา โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของส่วนราชการต้นสังกัด เป็นลำดับแรกก่อน หากไม่สามารถดำเนินการได้ ให้เบิกจ่ายจากงบกลาง รายการเงินเลื่อน เงินเดือน และเงินปรับวุฒิข้าราชการ เป็นลำดับต่อไป โดยประมาณการค่าใช้จ่ายการจัดสรรบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษ ซึ่งงบประมาณให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดครั้งนี้ จำนวน 79,109,370 บาท หรือรายละประมาณ  6,570 บาทต่อปี

นอกจากนี้ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. รับทราบผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ด้านการปรับตัวและการเข้าถึงดิจิทัล โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 46,600 คน ระหว่างวันที่ 23 มิ.ย.-6ก.ค. 2564 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 81.5 ไม่ได้ทำงานที่บ้าน เพราะอาชีพไม่เหมาะสมกับการทำงานที่บ้าน ส่วนปัญหาที่ประชาชนประสบในการทำงานที่บ้าน เช่น ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น สภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย และสัญญาณอินเตอร์เน็ตไม่ดี  ส่วนการเรียนออนไลน์ พบว่าร้อยละ 42 มีบุตรหลานอยู่ในวัยที่เรียนออนไลน์  ร้อยละ 14.7 มีบุตรหลานอยู่ในวัยเรียน แต่ไม่ได้เรียนออนไลน์ โดยปัญหาที่ประสบจากการเรียนออนไลน์ 5 อันดับแรก ได้แก่ ไม่ค่อยเข้าใจในวิชาที่เรียน ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ไม่มีสมาธิ สัญญาณอินเตอร์เน็ตไม่ดี และอุปกรณ์ไม่ทันสมัย 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับแผนการปรับตัวเพื่อรับมือกับโควิด-19 พบว่า  3 อันดับแรกคือ ปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิต เช่น ใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกจากบ้านทุกครั้งและหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านหากไม่จำเป็นร้อยละ 95.4 นำเงินออมออกมาใช้จ่ายร้อยละ 32.6 โดยพบในกลุ่มอาชีพค้าขาย ธุรกิจส่วนตัวในสัดส่วนที่สูงกว่ากลุ่มอาชีพอื่น  และ กู้ยืมเงินหรือจำนำ ขายทรัพย์สินที่มีอยู่ร้อยละ 22.8 โดยพบในกลุ่มอาชีพรับจ้างทั่วไป ขับรถรับจ้าง กรรมกร ในสัดส่วนที่สูงกว่ากลุ่มอาชีพอื่น  สำหรับเรื่องที่รัฐบาลควรสนับสนุนให้ประชาชนปรับตัวเข้าสู่ดิจิทัลมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ จัดหาสัญญาณไวไฟ ฟรีให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ร้อยละ 66.7จัดหาอินเตอร์เน็ตให้ประชาชนในราคาถูก ร้อยละ 60 จัดหาอินเตอร์เน็ตให้นักเรียน นักศึกษาฟรี ร้อยละ 47.6 จัดหาอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์ ให้ประชาชนในราคาถูก ร้อยละ 42.2  และ จัดให้มีสถานที่กลางในการเรียนออนไลน์สำหรับเด็กนักเรียนที่ขาดแคลนร้อยละ 33  

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ส่วนเรื่องที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ใน 3 อันดับแรก ได้แก่ ลดภาระค่าสาธารณูปโภคร้อยละ 67.3  จ่ายเงินชดเชย เยียวยาร้อยละ 60.7 และช่วยเหลือด้านค่าครองชีพร้อยละ 58.7 ขณะที่โครงการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผล
กระทบจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ที่มีประโยชน์มากที่สุด ได้แก่ โครงการเราชนะ ร้อยละ 76.2 โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐร้อยละ 66.7 มาตรการลดค่าน้ำ-ค่าไฟฟ้าร้อยละ 65.4 โครงการคนละครึ่งร้อยละ 61.2  และโครงการม.33 เรารักกัน ร้อยละ 43.3

ครม. ต่ออายุ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน สามจังหวัดชายแดนใต้ อีก 3 เดือน

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในท้องที่ 1.จังหวัดนราธิวาส ยกเว้น อำเภอศรีสาคร อำเภอสุไหงโก-ลก และอำเภอสุคิริน 2.จังหวัดยะลา ยกเว้น อำเภอเบตง และอำเภอกาบัง 3.จังหวัดปัตตานี ยกเว้น อำเภอไม้แก่น และอำเภอแม่ลาน ออกไปอีก 3 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน-19 ธันวาคม 2564 

รัฐบาล เร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ ให้หญิงตั้งครรภ์ สร้างภูมิคุ้มกันแก่แม่เเละเด็ก ตั้งแต่ในครรภ์  พร้อมอนุมัติงบกลาง 946.31 ล้านบาท ให้สภากาชาดไทย ซื้อวัคซีนโมเดอร์น่า 1 ล้านโดส ฉีดกลุ่มเปราะบาง

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรมอนามัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดโครงการรณรงค์ให้หญิงตั้งครรภ์เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตั้งเป้า “1 เดือน 1 แสนราย” เริ่มตั้งแต่วันที่  13 กันยายน ถึง 13 ตุลาคม 2564  เร่งเพิ่มจำนวนฉีดวัคซีนให้กับหญิงตั้งครรภ์ จากปัจจุบันมีได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกเพียง 5 หมื่นกว่าราย จาก 5 แสนราย   ที่ผ่านมารัฐบาลได้เร่งระดมฉีดให้วัคซีนให้กับประชากรกลุ่มเสี่ยง “608” ประกอบไปด้วย กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว 7 โรค และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขพบว่า นับตั้งแต่เมษายนจนถึงปัจจุบัน กลุ่มหญิงตั้งครรภ์มีอัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ร้อยละ 2.26 หรือ เมื่อติดเชื้อแล้วพบว่ามีอาการรุนแรง ส่งผลให้ทารกคลอดก่อนกำหนดและเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 จากแม่ จึงถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า จะมีการเริ่มระดมฉีดวัคซีนเชิงรุกให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ ผ่านช่องทางศูนย์บริการฉีดวัคซีน โรงพยาบาลขนาดใหญ่ และในท้องถิ่น อาทิ รพ.สต. หรือ คลินิกฝากครรภ์ ที่จะได้รับการจัดสรรควัคซีนลงไปเพื่ออำนวยความสะดวกมากขึ้น จึงขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจถึงความสำคัญในการฉีดวัคซีนแก่กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ที่มีอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตและลดความรุนแรงจากการติดเชื้อโควิด-19 ทั้งยังเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่แม่และเด็กในครรภ์ รวมถึงภูมิคุ้มกันจะสามารถส่งผ่านการให้นมบุตรอีกด้วย

“นอกเหนือจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว ยังขอเชิญชวนให้กลุ่มหญิงตั้งครรภ์เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ซึ่งฉีดชนิดใดก่อนก็ได้แต่ต้องเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 สัปดาห์ และสามารถฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ระหว่างการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ได้ โดยสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ที่หน่วยบริการในระบบประกันสุขภาพแห่งชาติทุกแห่ง ทั้ง รพ.รัฐ รพ.สต. ศูนย์บริการสาธารณสุข (ศบส.) และคลินิกเอกชนที่เข้าร่วมฯ ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย” น.ส.รัชดากล่าว

นอกจากนี้ น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็น จำนวน  946.31 ล้านบาทให้กับสภากาชาดไทย สำหรับใช้ในโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 Moderna ให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมายจำนวน 1 ล้านโดส โดยไม่คิดมูลค่า ซึ่งทางบริษัท ชิลลิค ฟาร์มา จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนในการจัดหาและกระจายวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์น่าในประเทศไทย ได้เสนอขายราคา 28 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 940 บาทต่อโดส รวมค่าขนส่ง 26.75 บาทต่อโดส รวมเป็น 966.75 บาทต่อโดส ซึ่งกำหนดให้ชำระเงินล่วงหน้าร้อยละ 30 ของมูลค่าวัคซีนรวม ภายในเดือนกันยายน 2564  เพื่อให้สามารถส่งมอบวัคซีนงวดแรกได้ในต้นปี 2565

ทั้งนี้สภากาชาดไทยได้มีนโยบายในการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐ ด้วยการให้ความช่วยเหลือในทุกด้าน ทั้งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยชุดธารน้ำใจและชุดธารน้ำใจฝ่าวิกฤตโควิด-19  การจัดตั้งหน่วยครัวเคลื่อนที่สภากาชาดไทยในจังหวัดต่างๆ การสนับสนุนการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในแต่ละจังหวัดด้วยเครื่องอุปโภคบริโภค ผ้าห่ม หน้ากากผ้า แอลกอฮอล์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ร่วมกับภาครัฐในการจัดหน่วยบริการฉีดวัคซีน การจัดบริการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่บ้าน(Home Isolation) และการส่งเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานในสังกัดและอาสาสมัครไปช่วยสนับสนุนการฉีดวัคซีนทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและภูมิภาค รวมถึงการจัดทำโครงการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางโดยไม่คิดมูลค่า ด้วยการจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19  Moderna จำนวน 1 ล้านโดส โดยสภากาชาดไทยดำเนินการเองส่วนหนึ่ง และให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดร่วมดำเนินการด้วย โดยจะเริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2564 เป็นต้นไป

ครม. ไฟเขียวมาตรการภาษี เอกชนซื้อชุดตรวจ ATK ให้พนักงาน/ลูกจ้าง นำมาลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่า ตั้งแต่วันนี้ -31 มีนาคม 65

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบกำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีรายจ่ายค่าซื้อชุดตรวจโควิด-19 แบบเร่งด่วน (Antigen Test Kit) เพื่อใช้สำหรับพนักงานหรือลูกจ้าง สามารถนำมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้น ร้อยละ 50 หรือ 1.5 เท่า ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ถึง 31 มีนาคม 2565 นี้ โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่ หลังวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา ศบค. ได้ปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยให้ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านอาหาร ร้านเสริมสวย ร้านนวด (เฉพาะนวดเท้า) และสนามกีฬา สามารถเปิดให้บริการได้ ประกอบกับในที่ประชุม ศบค. ครั้งที่ 14/2564 เมื่อวันที่ 10 กันยายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณาแนวทางตามนโยบาย ศบค. ที่จะเพิ่มการตรวจ ATK ในประชากรโดยเฉพาะกลุ่มแรงงาน กระทรวงการคลังจึงได้ออกมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนรายจ่ายค่าซื้อชุดตรวจ โควิด-19 แบบเร่งด่วน (Antigen Test Kit) ซึ่งจะมีส่วนช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการได้มีส่วนร่วมกับมาตรการป้องกันควบคุมโควิด-19 ช่วยบรรเทาภาระภาษี สำหรับประชาชน ก็จะช่วยป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ช่วยลดผลกระทบต้องเศรษฐกิจและสังคมด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top