Sunday, 11 May 2025
Hard News Team

ร่วมบริจาคสมทบทุนช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 กับกลุ่ม Up for Thai "ต้องรอด"

กลุ่ม Up for Thai "ต้องรอด" ยังคงส่งต่อความช่วยเหลือด้านอาหารปรุงสุกและสิ่งของอุปโภคบริโภคออกไปอย่างต่อเนื่องในสังคมไทยทุกวันโดยไม่มีวันหยุด เพื่อให้กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19​ สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ช่วยลดการเคลื่อนย้าย เพื่อลดความเสี่ยงและลดโอกาสการแพร่เชื้อ

เรายังไม่รู้ว่าวิกฤตนี้จะจบลงเมื่อไหร่ แต่สิ่งที่เรารับรู้ได้คือน้ำใจจากผู้บริจาคทุกท่านที่ทำให้เราช่วยเหลือพวกเขาได้

ขอขอบคุณทุก ๆ การบริจาคจากหัวใจ

_____________________________

ร่วมบริจาคกับ​ "ต้องรอด" โดยกลุ่ม​ Up​ for​ Thai

เพื่อส่งมอบความช่วยเหลือจนถึงมือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ต่อไป​ จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้นได้ที่

????สถานที่ปฎิบัติงานและรับบริจาค :

ศูนย์อาสาต้องรอด Up For Thai วัดเทวสุนทร https://goo.gl/maps/X6VJJXWgD7FxVM6X6

????ที่อยู่ในการจัดส่งสิ่งของบริจาค :

กองอำนวยการ Up For Thai ต้องรอด วัดเทวสุนทร

เลขที่ 1 ม.19 ถ.กำแพงเพชร 6 ลาดยาว จตุจักร กทม. 10900

????หากส่ง Delivery กรุณาติดต่อสอบถาม​ ????โทร : 080-000-4566 (ทีมงานต้องรอด) หรือที่ LINE @upforthai

สมทบทุนเป็นเงินสดที่ :

กสิกรไทย 096-3-23974-2

(ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล และนางสมใจ พุ่มสมบัติ)

เพราะเรา #ต้องรอด ไปด้วยกัน

“เฉลิมชัย” สั่งประชุมฟรุตบอร์ดด่วนศุกร์นี้เตรียมอัดฉีดมาตรการใหม่หวังดันราคามังคุดเพิ่มต่อเนื่อง พร้อมเปิดแคมเปญวันที่ 8 เดือน 8 จองซื้อมังคุดล่วงหน้าราคาโดนใจช่วยชาวสวนภาคใต้

“อลงกรณ์”เผยข่าวดีทั้งล้งตะวันออกและตู้คอนเทนเนอร์ไหลไปใต้มากขึ้นส่งผลการค้ากลับมาคึกคักราคามังคุดดีขึ้น

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยวันนี้ว่าแม้ราคามังคุดภาคใต้เริ่มขยับตัวสูงขึ้นจากผลของมาตรการต่างๆซึ่งตนต้องการเห็นการขึ้นราคาอย่างมีเสถียรภาพจึงได้เรียกประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้(Fruit Board)เป็นวาระพิเศษในวันศุกร์นี้เพื่อประเมินสถานการณ์ทั้งปริมาณและราคาของมังคุดในพื้นที่14จังหวัดภาคใต้รวมทั้งผลสัมฤทธิ์ของมาตรการต่างๆโดยเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตร ระดับจังหวัด (คพจ.) ซึ่งเป็นกลไกการทำงานระดับจังหวัดร่วมประชุมโดยจะมีการพิจารณาถึงมาตรการเพิ่มเติมใหม่ๆและการปรับงบประมาณโครงการให้สอดคล้องกับการบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นกรณีพิเศษรวมทั้งข้อเสนอของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรภาคใต้ของพรรคประชาธิปัตย์ในเรื่องการเยียวยาชาวสวนมังคุดที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19และแผนจัดการผลไม้ใน3จังหวัดชายแดนใต้เช่นลองกองเป็นต้นซึ่งกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้มีการหารือกับทีมเกษตรและพาณิชย์ตลอดจนเกษตรกร ผู้ประกอบการและศอบต.ไปแล้วโดยมีข้อเสนอให้ฟรุ้ทบอร์ดพิจารณา โดยตนย้ำเสมอว่าเราต้องดูแลชาวสวนทุกจังหวัดในภาคใต้พาฝ่าวิกฤตโควิดไปด้วยกัน

“แม้ว่าราคาของมังคุดทั้งหน้าแผงและหน้าล้งจะมีราคาขยับตัวขึ้น แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนของเสถียรภาพราคาจำเป็นต้องพิจารณามาตรการเสริมเพิ่มเติมเช่นการดึงซัพพลายไปแช่แข็งและแปรรูป เป็นต้น รวมทั้งการขอการสนับสนุนวัคซีนโควิดให้กับผู้ประกอบการค้าทั้งภายในประเทศและส่งออกซึ่งเป็นห่วงโซ่กลไกการค้าที่จะสะดุดขาดตอนไม่ได้”

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะหัวหน้าทีมฟรุ้ทบอร์ดเฉพาะกิจกล่าวว่าสมาคมผู้ส่งออกทุเรียนและมังคุดแห่งประเทศไทยแจ้งว่า ขณะนี้ผู้ส่งออกและล้งจากภาคตะวันออกได้ทะยอยย้ายลงไปรับซื้อมังคุดที่ภาคใต้โดยเฉพาะชุมพรและนครศรีธรรมราชซึ่งเป็นตลาดและแหล่งผลิตใหญ่เพิ่มมากขึ้นจากมาตรการผ่อนปรนที่ภาครัฐช่วยแก้ไขปัญหาและตู้คอนเทนเนอร์ก็หมุนเวียนกลับมาจากจีนและเวียดนามมากขึ้นโดยการหนุนช่วยของทีมทูตเกษตรไทยในจีน ทำให้ล้งเปิดการรับซื้อเพิ่มขึ้นส่งผลให้ราคามังคุดเริ่มปรับตัวสูงขึ้นถือเป็นสัญญาณที่ดี

นอกจากนี้โดยข้อสั่งการของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ขยายโครงการ “เกษตรกรแฮปปี้”โดยจัดแคมเปญใหญ่วันที่8เดือน8 (8สิงหาคม)ให้ทุกภาคส่วนทั่วประเทศสั่งซื้อมังคุดล่วงหน้าในราคา4โล100สำหรับมังคุดคละเกรดคุณภาพสดอร่อยภายใต้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเช่นบริษัทเซนทรัลพัฒนาของกลุ่มเซนทรัลกรุ๊ป บริษัทไปรษณีย์ไทย สมาคมขนส่งโลจิสติกส์ บริษัทแกร็บ ฯลฯโดยรัฐมนตรีเกษตรฯในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board )จะเป็นผู้นำในการคิกออฟแคมเปญด้วยตัวเองในวันอาทิตย์นี้เวลา08.08นาฬิกา และก่อนหน้านี้รัฐมนตรียังสั่งการล่วงหน้าให้ทุกส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรฯช่วยกันซื้อมังคุด เช่น กรมชลประทาน กรมส่งเสริมการเกษตรและกรมส่งเสริมสหกรณ์ทำให้ช่วยระบายมังคุดออกจากแหล่งผลิตหลายร้อยตันและขอให้ภาครัฐภาคเอกชนช่วยกันซื้อมังคุดให้มากที่สุดในขณะที่การขนส่งเพื่อส่งออกยังมีปัญหาติดขัดไม่คล่องตัว

โควิดระลอกใหม่ ซัดถล่ม’สหรัฐฯ-อังกฤษ’!! ดันยอดติดเชื้อพุ่ง เหตุคน ‘กังขารัฐ’ จน ‘ไม่รับวัคซีน’ !! I Knowledge Times EP.8

???? รอบรู้แบบรู้ลึก ในรายการ ‘Knowledge Times’
????โควิดระลอกใหม่ ซัดถล่ม’สหรัฐฯ-อังกฤษ’!! ดันยอดติดเชื้อพุ่ง เหตุคน ‘กังขารัฐ’ จน ‘ไม่รับวัคซีน’ !!

เมื่อพูดถึงสหรัฐฯและอังกฤษ นับว่าเป็นประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้ว แต่กลับกันต้องประสบปัญหายอดผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง เพราะยังคงมีประชากรอีกจำนวนหนึ่งที่เลือกไม่รับวัคซีนโควิด-19 

โดยด็อกเตอร์ แอนโธนี ฟาวซี หัวหน้าที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่า แม้สหรัฐฯเคยครองสถิติประเทศที่ฉีดวัคซีนได้เร็วที่สุดในโลกจนถึงเดือนเมษายน แต่ต้องกลับเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 อีกครั้ง เมื่อยอดผู้ติดเชื้อมีจำนวนที่พุ่งสูงขึ้นสวนทางกับจำนวนผู้เข้ารับวัคซีน

ซึ่งสถิติผู้ติดเชื้อรายวัน ยิ่งตอกย้ำว่าสหรัฐฯได้ก้าวเข้าสู่ภาวะวิกฤติ โดยในวันที่ 26 กรกฎาคม 2021 มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นถึง 88,696 คน เสียชีวิต 273 ราย แม้ว่าในสหรัฐฯจะมีผู้ที่ได้รับวัคซีนไปแล้วเกือบ 60% แต่ยังเหลืออีกกว่าร้อยล้านคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน

โดยข้อมูลจากรัฐฟลอริด้าที่เป็นหนึ่งในรัฐที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และกว่า 99% ของผู้ติดเชื้อยังไม่ได้รับวัคซีน ซึ่งผู้ติดเชื้อหลายคนก็ตำหนิตนเองว่าน่าจะรีบออกมาฉีดวัคซีนตามแคมเปญของรัฐบาล

ยิ่งแสดงให้เห็นว่าสาเหตุของจำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นมา ส่วนหนึ่งมาจากกลุ่มที่ไม่ยอมรับวัคซีน โดยเฉพาะกลุ่มรัฐทางตอนใต้ และกลุ่มต่อต้านการฉีดวัคซีน ที่เคยออกแคมเปญ My Body, My Choice ตามหลักสิทธิเสรีภาพในการเลือกไม่ฉีดวัคซีน

จากสถานการณ์ที่น่ากังวลขึ้นเรื่อยๆ ด็อกเตอร์ฟาวซี จึงได้เน้นย้ำว่า ประชาชนควรสวมหน้ากากอนามัย และรัฐควรประชาสัมพันธ์ถึงคนที่ยังลังเลจะมาฉีดวัคซีน ให้รีบมารับวัคซีนโดยไว พร้อมเร่งฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็ก และเยาวชนโดยด่วน ส่วนวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 นั้น รัฐบาลกำลังพิจารณาอยู่

สำหรับกระแสการต่อต้านการฉีดวัคซีนในสหรัฐฯ ด้านประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้กล่าวถึงปัญหานี้ และทฤษฎีสมคบคิดที่สร้างความเชื่อผิดๆ กับโครงการฉีดวัคซีนของรัฐบาลนั้น ซึ่งถือเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งที่ทำให้การฉีดวัคซีนล่าช้าและจะปราบปรามกลุ่มที่เผยแพร่ข่าวปลอมเหล่านี้อย่างเด็ดขาด

ในด้านของอังกฤษ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบความสำเร็จในโครงการวัคซีน แต่กลับพบยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 หมื่นรายต่อวันในเดือนกรกฎาคมนี้ จากการแพร่ระบาดอย่างหนักของสายพันธุ์เดลตา และมากกว่า 60% ของผู้ป่วยอาการรุนแรง ล้วนยังไม่ได้รับวัคซีนเช่นกัน จนถึงขั้นมีผู้ป่วยหลายคนพร่ำบ่นเสียใจ และเสียดายที่ไม่ยอมไปรับวัคซีนแต่แรก จนต้องมาใส่เครื่องช่วยหายใจในวันนี้

เรื่องนี้ ทางทีมแพทย์อังกฤษ ได้มีการฝากเคสตัวอย่าง และขอร้องให้ประชาชนที่ยังลังเล วิตก ไม่ยอมออกไปฉีดวัคซีน ให้ออกมาฉีดกันเถอะ 'หมอขอ' เพราะผลข้างเคียงจากวัคซีนถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่ต้องมาอยู่ที่โรงพยาบาลบนเตียงผู้ป่วยวิกฤติ

และนี่ก็คือการกลับมาของวิกฤติโควิด-19 ในประเทศที่ขึ้นชื่อว่าประสบความสำเร็จในการฉีดวัคซีน แต่เมื่อยังมีคนกังขาในประสิทธิภาพและผลข้างเคียงจากวัคซีนที่รัฐจัดหามาให้ จึงนำไปสู่การเลือกไม่รับวัคซีน และทำให้กลายเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทั้งสหรัฐและ อังกฤษ ต้องกลับมาเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 อีกครั้ง


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

องค์การอนามัยโลกเรียกร้องให้ชะลอการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 หรือบูสเตอร์ออกไปก่อน เพื่อเปิดทางให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกฉีดวัคซีนให้ประชากรได้อย่างน้อยร้อยละ 10 เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ

ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) กล่าวที่เจนีวาเมื่อวันพุธที่ 4 สิงหาคม เรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ พักการฉีดโดสกระตุ้นของวัคซีนโควิด-19 ไปถึงสิ้นเดือนกันยายนเป็นอย่างน้อย เพื่อช่วยบรรเทาความเหลื่อมล้ำอย่างมากในการกระจายวัคซีนระหว่างประเทศร่ำรวยและประเทศยากจน เขากล่าวว่า การระงับบูสเตอร์ชั่วคราวจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายของการฉีดวัคซีนประชากรอย่างน้อยร้อยละ 10 ของทุกประเทศได้

เดือนที่แล้ว อิสราเอลเริ่มฉีดวัคซีนโดสที่ 3 ให้แก่ประชากรอายุเกิน 60 ปี ส่วนเยอรมนีกล่าวเมื่อวันอังคารว่า จะเริ่มฉีดวัคซีนโดสที่ 3 ของไฟเซอร์-ไบออนเทค และโมเดอร์นา ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป

ทีโดรส กล่าวว่า เขาเข้าใจเหตุผลที่ประเทศต่าง ๆ ต้องการปกป้องพลเรือนของตนจากไวรัสสายพันธุ์เดลตา แต่เราไม่อาจยอมรับประเทศที่ใช้วัคซีนส่วนใหญ่ที่มีอยู่ในโลกไปแล้วและยังต้องการใช้เพิ่ม ในขณะที่คนในกลุ่มเปราะบางที่สุดในโลกยังไม่ได้รับการปกป้อง

จนถึงขณะนี้มีการฉีดวัคซีนให้ประชากรทั่วโลกแล้วมากกว่า 4,000 ล้านโดส และในจำนวนนี้มากกว่าร้อยละ 80 อยู่ในกลุ่มประเทศร่ำรวย และประเทศที่มีรายได้ปานกลางในระดับสูง

ข้อมูลจากเอเอฟพีระบุว่า นับแต่พบการระบาดครั้งแรกเมื่อปลายปี 2562 ถึงขณะนี้โรคโควิด-19 คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกแล้วไม่ต่ำกว่า 4,247,231 คน สหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด 614,295 คน ตามด้วยบราซิล 558,432 คน และอินเดีย 425,757 คน


ที่มา : https://www.naewna.com/inter/592799


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘ลุยด่านหน้าสะท้อนเรื่องจริง คอขวดการจัดการวิกฤตซ้อนวิกฤต ’กับ‘ คุณอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี’ | Click on Clear THE TOPIC EP.18

????HOT!! ลุยด่านหน้า!! สะท้อนเรื่องจริง คอขวดการจัดการวิกฤตซ้อนวิกฤต!!

????สะท้อนปัญหาจัดการวิกฤตโควิดแบบคอขวด!! รัฐไทยควรแก้แบบไหน?!

ในรายการ Click on Clear THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้ ที่จะพาไปร่วมเจาะลึกกับ...

'คุณอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี’ เลขาธิการ พรรคกล้า

ใน Topic : ลุยด่านหน้า!! สะท้อนเรื่องจริง คอขวดการจัดการวิกฤตซ้อนวิกฤต!!

???? เวลา 2 ทุ่มตรง รับชมไปพร้อมกัน !!

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

???? ช่องทางรับชม LIVE

Facebook: THE STATES TIMES

YouTube: THE STATES TIMES


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘สุวัจน์' หนุนปลูก ฟ้าทะลายโจร แจก 1.2 หมื่นกล้า สู้โควิด-19  จี้ รัฐ เร่งหา-กระจายวัคซีน โดยเร็ว ให้สอดรับสถานการณ์

ที่บ้านราชวิถี 20 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ในฐานะประธานที่ปรึกษาศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน เปิดเผยว่า ในวันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม นี้ ศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกันจะได้แจกจ่ายต้นกล้าฟ้าทะลายโจร จํานวน 12,000 ต้น ให้กับพี่น้องชาวโคราช เพื่อส่งเสริมการใช้สมุนไพรไทยในการสู้ภัยโควิด ที่ที่ทําการศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน พรรคชาติพัฒนา  

นายสุวัจน์ กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดนครราชสีมา ยังพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง ขณะนี้เทศบาลนคร นครราชสีมา ได้จัดตั้งสถานที่กักตัว (State Quarantine) สําหรับกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง เพื่อใช้เป็นที่พักคอยก่อนตรวจหาเชื้อโควิด หากพบว่าเป็นผู้ติดเชื้อก็จะส่งตัวเข้ารักษา ที่โรงพยาบาลต่อไป โดยใช้สถานที่โรงแรมฟอร์จูน อําเภอเมืองนครราชสีมา สามารถรองรับได้ 120 คน  โรงพยาบาลมหาราช ตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติมอีก 1 แห่ง โดยใช้หอพักพยาบาลของโรงพยาบาลมหาราช สามารถรับผู้ป่วยเพิ่มได้อีก 240 คน ซึ่งศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน ได้ช่วยกันสนับสนุนอุปกรณ์จําเป็นต่างๆ อาทิ เช่น ตู้เย็น พัดลม และ อ่างล้างมือ ให้กับโรงพยาบาลสนาม เพิ่มประสิทธิภาพในการให้การดูแลผู้ป่วยโควิด-19

นายสุวัจน์ กล่าวว่า ขณะนี้การแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเร่งด่วนคือ การจัดหาวัคซีนให้เร็วที่สุด และมีจำนวนเพียงพอกับประชากร และสถานการณ์การแพร่ระบาด จะต้องจัดลําดับการฉีดและกระจายจัดวัคซีนไปยังกลุ่มต่างๆ ให้สอดคล้องเหมาะสมกับสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสาร และให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องต่างๆ เกี่ยวกับวัคซีน สถานการณ์ของโรค ไปยังพี่น้องประชาชนอย่างรวดเร็ว เพื่อลดความวิตกกังวล และสร้างความเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19 ไปได้ เพื่อจะได้เกิดความร่วมมือจากทุกฝ่าย 

นายสุวัจน์ กล่าวว่า การส่งเสริมให้ใช้สมุนไพรไทยที่ประเทศเรามีอยู่ ไม่ต้องพึ่งพาการนําเข้าจากต่างชาติ เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19ได้ ตามที่ได้มีการประกาศให้ฟ้าทะลายโจร อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร และมีการส่งเสริมให้มีการนํามาใช้ เพราะมีสารสกัดแอนโดรกราโพไลด์ ซึ่งสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายและสามารถรักษาผู้ป่วย โควิด-19 ที่ไม่มีอาการหรือผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อย โดยได้มีการทดลองนํามาใช้กับผู้ป่วย และ เกิดผลสำเร็จในการรักษา ทำให้ขณะนี้ สมุนไพรไทย ฟ้าทะลายโจรจึงมีความต้องการสูงมาก เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้สมุนไพรไทยให้เกิดประโยชน์ในการต่อสู้กับโควิด-19 ศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน จึงได้จัดหาต้นกล้าฟ้าทะลายโจรไว้จํานวน 12,000 ต้น โดยได้รับการ สนับสนุนจากมูลนิธิเก้ายั่งยืน มูลนิธิรักษ์ดิน รักษ์น้ำ และออฟฟิศชาวนา ช่วยกันจัดหาเพิ่มเติมอีกด้วย  เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนจำนวน 5,600 ต้น และหน่วยงานราชการ เทศบาล อบต. ตําบล ชุมชนต่างๆ อีกจำนวน 6,400 ต้น เพื่อนําไปปลูกและใช้ประโยชน์ และเป็น ส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาโควิด-19 และสร้างขวัญกําลังใจให้กับพี่น้องประชาชน 

นายสุวัจน์ กล่าวว่า ศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน และพรรคชาติพัฒนา ได้ดำเนินการช่วยเหลือพี่น้อง ประชาชนทางโคราชมานับแต่เริ่มต้นของสถานการณ์ COVID-19 เมื่อต้นปี 2563 ด้วยการแจกจ่าย อาหาร  หน้ากากอนามัย  แอลกอฮอล์สเปรย์ฆ่าเชื้อ  ถุงน้ำใจ ข้าวกล่อง  อุปกรณ์ทางการแพทย์  และอื่นๆ เพื่อช่วยพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง และ ขอส่งกําลังใจมายังพี่น้องประชาชนทุกคน ขณะที่รอการฉีดวัคซีนนั้น ขอให้พวกเรามีกําลังใจ ร่วมกันฝ่าฟันโควิดไปด้วยกัน ให้ความร่วมมือ กับมาตรการต่างๆ ด้านสาธารณสุข และ ดูแลตนเองให้ดีที่สุด ในสถานการณ์ที่การฉีดวัคซีนยังไม่ทั่วถึง  ด้วยการใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ มีระยะห่าง อยู่ในสถานที่ที่เหมาะสมตลอดเวลา ก็สามารถที่จะสร้างความปลอดภัยจากโควิด-19 ได้

พาณิชย์จับตาเงินเฟ้อช่วงโควิด-ล็อกดาวน์ คาดทั้งปี 0.7 – 1.7%

นายวิชานัน  นิวาตจินดา รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรือ เงินเฟ้อประจำเดือนก.ค. 2564 ปรับตัวมาอยู่ที่ 0.45%  ชะลอตัวจาก 1.25% ในเดือนก่อนหน้า เป็นผลจากการขยายตัวต่อเนื่องของสินค้าในกลุ่มพลังงาน และอาหารสดบางประเภท อาทิ เนื้อสุกร ไข่ไก่และผลไม้สด ตามความต้องการในช่วงล็อกดาวน์ ประกอบกับเกิดโรคระบาดในสุกรส่งผลให้ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดน้อยลง นอกจากนี้ ไข่ไก่และผลไม้สด ฐานราคาของปีที่ผ่านมาอยู่ระดับต่ำ 

ขณะที่มาตรการลดภาระค่าครองชีพของภาครัฐ ทั้งการลดค่าไฟฟ้า น้ำประปา ในรอบเดือนก.ค. – ส.ค. 2564 และการลดค่าเล่าเรียน-ค่าธรรมเนียมการศึกษา รวมทั้ง การลดลงของอาหารสดบางประเภท (ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ผักสด) เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และเครื่องนุ่งห่ม เป็นปัจจัยที่ทำให้เงินเฟ้อในเดือนนี้ชะลอตัว ส่วนสินค้าในหมวดอื่น ๆ ยังเคลื่อนไหวในทิศทางปกติ 

ส่วนคาดการณ์แนวโน้มเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนส.ค. 2564 ยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในระดับที่ไม่สูงมากนัก โดยมีปัจจัยสำคัญจากมาตรการลดค่าครองชีพผู้บริโภคของภาครัฐ ทั้งการลดค่ากระแสไฟฟ้าและค่าน้ำประปา ในรอบเดือนก.ค. – ส.ค. 2564 สำหรับสินค้าในหมวดอื่น ๆ น่าจะยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางปกติ ตามปริมาณผลผลิตและความต้องการ ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรยังมีโอกาสผันผวนตามสภาพอากาศ 

“การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและการใช้จ่ายของประชาชน ซึ่งเป็นแรงกดดันสำคัญต่ออัตราเงินเฟ้อของประเทศ อย่างไรก็ตาม แผนการจัดหาและการกระจายวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและมีความชัดเจน รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ทยอยออกมาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดย สนค.ประเมินว่าเงินเฟ้อเฉลี่ยในปี 2564 จะอยู่ระหว่าง 0.7 – 1.7% ซึ่งเป็นอัตราที่น่าจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง”

นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความ ระบุ ม็อบ 7 สิงหา ที่จะไปที่พระบรมมหาราชวัง จบไม่สวย!!

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ม็อบ 7 สิงหา ที่จะไปที่พระบรมมหาราชวัง

ได้ทำลายการเคลื่อนคาร์ม็อบพินาศสิ้น!!!!

ทำลายโดยมีแผน หรือโดยมั่ว?

แต่ผลคือทั้งแกนนำและม็อบ 7 สิงหา จบไม่สวย!!


ที่มา : https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/photos/a.481669931931684/4134871973278110/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'ลี เซียนลุง' นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ กล่าวเตือนสหรัฐฯ ไม่ควรที่จะท้าทายอย่างก้าวร้าวใส่จีน ย้ำ “อันตรายมาก”

นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง ของสิงคโปร์ กล่าวเตือนในวันอังคาร (4 ส.ค.) ว่า สหรัฐฯ ไม่ควรที่จะท้าทายอย่างก้าวร้าวใส่จีน โดยเขาบอกว่า ทัศนะแบบแข็งกร้าวซึ่งกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ของวอชิงตัน สามารถที่จะกลายเป็นสิ่งที่มี “อันตรายมาก”

นายกฯ ลี กล่าวว่า สหรัฐฯ ได้เคลื่อนตัวออกจากแบบแผนวิธีการที่มุ่งแข่งขันกับจีนอย่างชนิดมุ่งสร้างผลดีโดยรวมขึ้นมา และหันไปสู่การมีความคิดเห็นที่ว่า อเมริกัน “ต้องชนะ ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง”

“พรรคการเมืองใหญ่ทั้งสอง (ของสหรัฐฯ) ในทุกวันนี้ มีฉันทามติเห็นพ้องต้องกันอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือเรื่องความสัมพันธ์กับจีน” เขากล่าวในเวทีการประชุมความมั่นคงแอสเพน (Aspen Security Forum)

“ทว่าจุดยืนของพวกเขาคือการใช้แนวทางแข็งกร้าว และผมไม่แน่ใจเลยว่านี่เป็นฉันทามติที่ถูกต้องแล้ว” ผู้นำของสิงคโปร์บอก

“ผมไม่ทราบว่าฝ่ายอเมริกันจะตระหนักถึงความเป็นจริงหรือไม่ว่า พวกเขา (จีน) จะกลายเป็นปรปักษ์ที่น่าเกรงขามถึงขนาดไหนในการที่จะต้องรับมือ ถ้าหากพวกเขา (อเมริกัน) ตัดสินใจลงไปว่า จีนคือศัตรูรายหนึ่ง”

“ในสถานการณ์เช่นนี้ ผมจะขอพูดกับทั้งสองฝ่ายว่า (กดปุ่ม) “พอซ” เถอะ คิดกันให้รอบคอบก่อนที่พวกคุณจะ (กดปุ่ม) “ฟาสต์-ฟอร์เวิร์ด” มันมีอันตรายมาก” เขากล่าว

“เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับสหรัฐฯ และจีน ที่จะต้องเพียรพยายามเข้ามีปฏิสัมพันธ์ต่อกันเอาไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกัน ซึ่งจะก่อให้เกิดความวิบัติหายนะแก่ทั้งสองฝ่าย และแก่โลกด้วย”

ลี ซึ่งมองเห็นกันว่าเป็นผู้หนึ่งที่มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในคณะผู้นำของทั้งสองประเทศ กล่าวว่า ทัศนะแบบแข็งกร้าวของวอชิงตันที่มีต่อจีนนั้น กำลังผสมโรงเข้ากันกับความเชื่อของฝ่ายจีนที่ว่า สหรัฐฯ นั้นไม่สามารถไว้วางใจได้และต้องการที่จะสกัดกั้นการก้าวขึ้นมาของตน

เขายังวิพากษ์วิจารณ์การที่คณะบริหารไบเดนแสดงความแข็งกร้าวในการพบปะหารือทวิภาคีระดับสูงครั้งแรกกับฝ่ายจีนที่เมืองแองเคอเรจ รัฐอะแลสกา ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

“ความเป็นจริงก็คือไม่ว่าฝ่ายไหนก็ไม่สามารถดูหมิ่นหมายบดขยี้อีกฝ่ายหนึ่งได้หรอก” เขากล่าว

แต่ ลี แสดงความยินดีในเรื่องที่คณะบริหารไบเดนหวนกลับมาสู่นโยบายการต่างประเทศ “ที่มีแบบแผนมากขึ้น” ภายหลังการใช้วิธีการที่ยุ่งเหยิงกระจัดกระจายของคณะบริหารโดนัลด์ ทรัมป์

“ประเทศต่าง ๆ กำลังเฝ้ามองหาความคงเส้นคงวาทางยุทธศาสตร์ระยะยาวจากสหรัฐฯ” เขาบอก และย้ำว่า มันหมายถึงนโยบายที่ “พึ่งพาอาศัยได้และคาดการณ์ทำนายล่วงหน้าได้”

เขากล่าวเน้นว่า ไต้หวันคือจุดที่มีศักยภาพจะกลายเป็นชนวนลุกลามได้มากเป็นพิเศษ

“ผมไม่คิดว่าพวกเขาต้องการที่จะเดินหมากตามอำเภอใจฝ่ายเดียว” อย่างเช่นการเข้ารุกรานไต้หวัน ลีพูดโดยหมายถึงฝ่ายปักกิ่ง

“แต่ผมคิดว่ามีอันตราย (เกี่ยวกับเรื่องนี้) อันตรายที่ว่าคือการคาดคำนวณผิดอย่างใหญ่โตมโหฬาร”

เขาแสดงความซาบซึ้งสำหรับการที่รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน แสดงความเห็นเอาไว้ระหว่างอยู่ที่สิงคโปร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยที่ออสตินกล่าวเตือนคัดค้านการเปลี่ยนแปลงสถานะเดิมของสถานการณ์ไต้หวัน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบใดก็ตาม

“ผมคิดว่าถ้าหากมีการระมัดระวังคอยประคับประคองจุดยืนกันเอาไว้อย่างชัดเจนและสม่ำเสมอแล้ว เราก็จะสามารถประคับประคองสันติภาพและเสถียรภาพของสองฟากช่องแคบไต้หวันเอาไว้ได้” ลี บอก

แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม “คุณกำลังอยู่ในระยะเวลาที่ยากลำบากอย่างมากทีเดียว” เขากล่าวเสริม


(ที่มา : เอเอฟพี)

https://mgronline.com/around/detail/9640000076530


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ระนอง-ประกอบพิธีส่งมอบกระบือเผือก ตามโครงการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตทูลเกล้าถวายกระบือเผือก "สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี"

ณ กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง  ตำบลบางริ้น  อำเภอเมือง  จังหวัดระนอง  "นายสมเกียรติ  ศรีษะเนตร" ผู้ว่าราชการจังหวัดระนองเป็นประธานในพิธีส่งมอบ"กระบือเผือก" น้อมเกล้า ฯ ถวายสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า  กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มี "พระระณังคมุนีวงศ์" เจ้าอาวาสวัดสุวรรณคีรีวิหาร  เป็นประธานพิธีสงฆ์  ส่วนคณะผู้รับ-ส่งมอบ ประกอบด้วย "พลเอก ปวริศ  แจ่มสว่าง" ประธานคณะฝ่ายสำนักพระราชวัง (ประธานรับมอบ)  นายสมจิตต์  เขียนด้วง  รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง  นายยุทธพงษ์  เอี้ยงอ้าย  เลขานุการ ในองค์หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา  ภาณุพันธ์  นางสาวหอมจันทร์  ซาฮาด  เลขานุการ รมต.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 นางสาวผกาพร  นิลพงษ์  ผู้มอบกระบือเผือก และปศุสัตว์จังหวัดระนอง  นอกจากนี้มีหัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี

สำหรับความเป็นมาของการมอบ "กระบือเผือก" ในครั้งนี้  เนื่องมาจากจังหวัดระนองได้รับแจ้งจาก "นางสาวผกาพร  นิลพงษ์"  อยู่บ้านเลขที่ 268 หมู่ 2 ตำบลบางนอน อำเภอเมือง ประสงค์จะทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายกระบือเผือก จำนวน 6 ตัว (ปัจจุบันเกิดเพิ่มอีก 2 ตัว รวม 8 ตัว)  และเมื่อวันที่  2  เมษายน  2564  สำนักพระราชวังแจ้งว่าได้นำความกราบบังคมทูลทราบฝ่าละอองพระบาทแล้ว ทรงรับ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานกระบือเผือกดังกล่าว แก่โรงเรียนทหารการสัตว์ กรมการสัตว์ทหารบก ตำบลพรหมณี อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก  จังหวัดระนองได้รับความกรุณาจาก "พลเอก ปวริศ  แจ่มสว่าง" และคณะได้เดินทางมาร่วมหารือและให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติส่ง-รับมอบกระบือ กันในวันนี้

ในส่วนของพิธีการส่ง-รับมอบ "กระบือเผือก" เริ่มพิธีโดยประธานในพิธี จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เปิดกรวยดอกไม้ถวายเครื่องราชสักการะ เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ "สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี" และกล่าวคำกราบบังคมทูล จากนั้นพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์  เจริญจิตภาวนา  ประธานในพิธีพร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ถวายเครื่องไทยธรรม  พระสงฆ์อนุโมทนา และกรวดน้ำรับพร  จากนั้น "พระระณังคมุนีวงศ์" ประธานฝ่ายสงฆ์ พรมน้ำมนต์แก่กระบือเผือกทั้ง 8 ตัว เพื่อความเป็นสิริมงคล  ประธานในพิธี ผู้ถวายกระบือ พร้อมคณะผู้มารับมอบร่วมกันคล้องพวงมาลัย ป้อนหญ้า พรมน้ำอบน้ำหอมไทย เพื่อเป็นสิริมงคล  จากนั้นประธานในพิธี มอบเอกสารการส่งมอบกระบือให้กับ ประธานผู้รับมอบ สุดท้ายเจ้าหน้าที่ทำการต้อนกระบือ ทั้ง 8  ตัว ขึ้นรถบรรทุก เพื่อเริ่มเดินทางนำกระบือไปส่งที่ "โรงเรียนทหารการสัตว์  กรมการสัตว์ทหารบก"  ต.พรหมณี  อำเภอเมือง  จังหวัดนครนายก ต่อไป

ทั้งนี้  ระหว่างที่ "กระบือ" อยู่ในความดูแลของจังหวัดระนอง  ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี  โดยได้รับการตรวจสุขภาพ  ฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อย  วัคซีนโรคลัมปีสกิน  ให้ยาบำรุงและยาถ่ายพยาธิ  ขึ้นทะเบียนสัตว์ พร้อมจัดทำบัตรประจำตัวสัตว์เป็นที่เรียบร้อย
เมื่อกระบือเผือกเดินทางมาถึง โรงเรียนทหารการสัตว์ กรมการสัตว์ทหารบกนครนายก โรงเรียนกศ.ทบ.นครนายกแล้ว "พลเอกปวริศ แจ่มสว่าง" ประธานคณะฝ่ายประสานงานขอพระราชทานพระราชานุญาตถวายกระบือเผือก และ "นายยุทธพงษ์ เอี้ยงอ้าย" เลขานุการในองค์หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ พร้อมด้วยคณะได้นำ"กระบือเผือก" พร้อมทะเบียนกระบือจากกรมปศุสัตว์จังหวัดระนอง มอบให้ "โรงเรียนทหารการสัตว์ กรมการสัตว์ทหารบกนครนายก" และต้อนกระบือเผือกเขาคอกที่จัดเตรียมไว้เป็นอันเสร็จพิธี


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top