Tuesday, 1 July 2025
Hard News Team

“ประวิตร”สั่ง ผลักดัน"มวยไทยสู่โอลิมปิก"โชว์ศิลปะต่อสู้คนไทย ไปทั่วโลก

ที่ห้องประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ 7รอบ พระชนมพรรษา กกท.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนกีฬามวยไทยสู่โอลิมปิก ครั้งที่ 1/2564 โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม เข้าร่วม

โดยที่ประชุมรับทราบกรณีที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล(ไอโอซี)รับรองมวยไทย และสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ(IFMA)ให้เป็นสมาชิกแบบถาวร และมีคำสั่งคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ 5/2564 วันที่ 23 มิ.ย.64 แต่งตั้งคณะอนุกรรมการอำนวยการ มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯเป็นประธานและคณะอนุกรรมการดำเนินการขับเคลื่อนกีฬามวยไทยสู่โอลิมปิก ซึ่งมีพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เป็นประธาน และรับทราบการจัดตั้งศูนย์อำนวยการประสานงานและประชาสัมพันธ์การขับเคลื่อน กีฬามวยไทยสู่โอลิมปิก และรับทราบแผนการดำเนินงานตามโรดแมป ประจำปี 2564 เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนกีฬามวยไทยสู่โอลิมปิก ให้สามารถดำเนินการได้ อย่างเป็นรูปธรรมและมีทิศทางเดียวกัน

“ราเมศ”เผย แม้ปชป.ไม่ส่งผู้สมัค อบต.ยันปฏิบัติตาม กม.เคร่งคัด  ย้ำส.ส.- ข้าราชการการเมือง ห้ามช่วยหาเสียง 

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกตั้งท้องถิ่น ในส่วนขององค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) ที่มีการเปิดรับสมัครวันนี้เป็นวันแรกว่า พรรคเป็นกำลังใจให้ผู้สมัครสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นทุกคน แม้พรรคฯไม่ได้ส่งผู้สมัครลงในนามพรรคก็ตาม แต่การปกครองส่วนท้องถิ่นมีความสำคัญต่อประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก พรรคฯให้ความสำคัญนับแต่วันที่ได้ก่อตั้งพรรค เพราะถือได้ว่าเป็นองค์กรที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชน รับรู้ถึงปัญหาต่างๆของแต่ละพื้นที่เป็นอย่างดี เป็นรากฐานและเป็นจุดเริ่มต้น ในการปกครองในระบอบประชาธิปไตย พรรคส่งเสริมการกระจายอำนาจ กระจายโอกาส กระจายงบประมาณ กระจายรายได้ ลดอำนาจรัฐเพิ่มอำนาจประชาชน เป็นสิ่งสำคัญของการกระจายอำนาจ ที่สำคัญประชาชนจะมีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่นอย่างแท้จริง และขอให้การหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม
         

รัฐบาลหนุนไมโคร-เอสเอ็มอีเข้าถึงสภาพคล่อง บสย.ปรับเกณฑ์ค้ำประกันเป็น 100% เพิ่มความมั่นใจให้ธนาคารปล่อยกู้พ.ร.ก.สินเชื้อฟื้นฟู อนุมัติแล้ว 1.08 แสนลบ.

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยตัวเลขการปล่อยสินเชื่อภายใต้พระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2564 หรือ ที่เรียกว่าพ.ร.ก.สินเชื้อฟื้นฟู ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ณ วันที่ 8 ตุลาคม 2564 แบ่งเป็น 1. โครงการสินเชื่อฟื้นฟู มีสินเชื่อได้อนุมัติแล้วจำนวน 1.08 แสนล้านบาท  ผู้ได้รับความช่วยเหลือจำนวน 3.5หมื่นราย (เดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 7.8 หมื่นล้านบาท 2.5 หมื่นราย) คิดเป็นวงเงินอนุมัติเฉลี่ยจำนวน 3.07 ล้านบาท/ราย โดยประมาณร้อยละ 45  ของผู้ได้รับความช่วยเหลือทั้งหมดเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และ 2. โครงการพักทรัพย์ พักหนี้  มีมูลค่าสินทรัพย์ที่ได้รับโอนแล้ว 1.5 หมื่นล้านบาท ช่วยเหลือไปแล้ว 112  ราย (เดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 1 พันล้านบาท มี 16 ราย) รวมทั้งยังมีผู้ประกอบการที่สนใจรายอื่น ๆ อยู่ระหว่างการเจรจาด้วย 

ขณะเดียวกัน การค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มอี ของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) คาดว่าจนถึงสิ้นปีนี้ ยอดการค้ำประกันจะเกิน 2 แสนล้านบาท โดยประมาณ 1 แสนล้านบาท มาจากการค้ำประกันสินเชื่อฟื้นฟูของ ธปท. และอีกประมาณ 8-9หมื่นล้านบาท มาจากการค้ำประกันตามปกติของบสย. ทั้งนี้บสย.เพิ่งได้ขยายกรอบวงเงินค้ำประกันสินเชื่อฟื้นฟูของ ธปท.ออกไปอีก 1 แสนล้านบาท และปรับหลักเกณฑ์ให้เปิดกว้างมากยิ่งขึ้นเพื่อช่วยผู้ประกอบการกลุ่มไมโคร และ กลุ่มเอสเอมอีที่เปราะบาง ได้ลดภาระต้นทุนค่าธรรมเนียม และเพิ่มโอกาสได้วงเงินสินเชื่อเพิ่ม ซึ่งรายละเอียดประกอบด้วย

1. ปรับลดค่าธรรมเนียมค้ำประกันทันทีตั้งแต่ปีแรก สำหรับผู้ประกอบการกลุ่มไมโคร และ กลุ่มเอาเอ็มอีเปราะบาง จ่ายเริ่มต้นเพียง 1% ต่อปีต่อเนื่อง 4 ปีแรก รวม 13% ตลอดระยะเวลา 10 ปี 
2. เพิ่มโอกาสผู้ประกอบการกลุ่มไมโคร และกลุ่มเอสเอ็มอีเปราะบาง ได้รับวงเงินสินเชื่อเพิ่มขึ้นสูงสุด 50 ล้านบาทต่อราย
3. เพิ่มความมั่นใจให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อโดย บสย. จ่ายค่าประกันชดเชยเต็ม 100% ในกลุ่มไมโครจากเดิม 90%  และ กลุ่มเอสเอ็มอีเปราะบาง จากเดิม 80%  

'ระบบสาธารณสุขไทย' ยืน 1 ในอาเซียน พร้อมพ่วง 'อันดับ 13 ของโลก'

ระบบสาธารณสุขไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ 

ล่าสุดจากการจัดอันดับประเทศที่มีระบบสาธารณสุขที่ดีเยี่ยมที่สุดในโลกประจำปี 2021 สำรวจโดยนิตยสาร CEOWORLD ที่ได้รวบรวมข้อมูลจาก 89 ประเทศทั่วโลกนั้น ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 13 ของโลก และเป็นที่ 1 ในภูมิภาคอาเซียน 

ซึ่งผลคะแนนที่นำมาใช้ในการจัดอันดับ มีเกณฑ์การประเมินคุณภาพของระบบสาธารณสุขในหลากหลายมิติ อาทิ โครงสร้างพื้นฐานโดยรวมของระบบสาธารณสุขในแต่ละประเทศ คุณภาพของทีมบุคลากรการแพทย์ ศักยภาพในการบริหารองค์กร คลังเวชภัณฑ์ที่มีอย่างเพียงพอ และความพร้อมของรัฐบาล 

นอกเหนือจากนี้ ยังมีปัจจัยปลีกย่อยอื่นๆ ที่นำมาใช้ประกอบการพิจารณาอีก เช่น สิ่งแวดล้อมที่ถูกสุขอนามัยภายในโรงพยาบาล การเข้าถึงน้ำสะอาด การบังคับใช้กฎหมายสำหรับสถานพยาบาล ซึ่งผลคะแนนเฉลี่ยรวมของประเทศไทยอยู่ที่ 59.52 ซึ่งสูงกว่าหลายประเทศชั้นนำอย่าง เยอรมนี, สวิตเซอร์แลนด์ หรือแม้แต่สหรัฐอเมริกาที่อยู่ในอันดับที่ 30 

ชมรมทหารพรานค่ายปักธงชัย กรุงเทพมหานคร ช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยน้ำท่วม

(10 ต.ค. 64)​ ทางชมรมทหารพรานค่ายปักธงชัย กรุงเทพมหานคร ได้เดินทางไปยัง ตำบลเริงราง อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี และ ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม นำถุงยังชีพมอบให้กับประชาชนเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน นำโดยนายกัมปนาท น้อยพุก รองประธานชมรมทหารพรานค่ายปักธงชัยกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยสมาชิกชมรมทหารพรานค่ายปักธงชัย กรุงเทพมหานคร

พระไม่ทิ้งโยม!! คณะสงฆ์จังหวัดนนทบุรี ผนึกกำลัง สถาบันพระปกเกล้า ล่องเรือมอบกล่องยังชีพ ช่วยบรรเทาทุกข์น้ำท่วมบ้าน

(10 ต.ค.​ 64)​ พระอุดมสิทธินายก รองเจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี พระปลัดสุรเชษฐ์ สุรเชฏฺโฐ เจ้าอาวาสวัดโตนด (หลวงพ่อสำเร็จ) อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พร้อมด้วย นายจิรชัย มูลทองโร่ย สมาชิกวุฒิสภา นางสาวรฌทร สงวนพงศ์ นายอำเภอบางกรวย อาจารย์ไตรรัตน์ ฉัตรแก้ว อาจารย์กำกับหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูง การเสริมสร้างสังคมสันติสุข นำทีมนักศึกษาสถาบันพระปกเกล้า หลักสูตรเสริมสร้างสังคมสันติสุข (สสสส.) รุ่น 11-12 หลักสูตรประกาศนียบัตรสิทธิมนุษยชนสำหรับนักบริหารระดับสูง (ปสม.) รุ่นที่ 1-2 

นำถุงยังชีพที่จัดแพคบรรจุในกล่อง ประกอบด้วย ข้าวสาร ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งเป็นสิ่งของที่จำเป็นใช้ในการดำรงชีพ ขึ้นเรือล่องไปตามคลองบางกอกน้อย ส่งมอบสิ่งของและตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากน้ำทะเลหนุนสูง และผู้ประสบภัยโควิด-19

พระปลัดสุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ถุงยังชีพที่นำไปปันสุขให้กับโยมที่พักอาศัยอยู่ริมคลอง ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลหนุนสูงส่งผลให้บ้านเรือนถูกน้ำท่วม ได้รับบริจาคมาจากญาติโยมหลายองค์ อาทิ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มูลนิธิมวยไทย สโมสรโรตารี บางกรวย พร้อมภาคีทุกภาคส่วน ร่วมงานบุญจิตอาสา นำมาถวาย โดยทางคณะสงฆ์จึงนำไปมอบต่อให้กับโยมที่ได้รับความเดือดร้อน เพื่อบรรเทาทุกข์ในยามที่ลำบาก 

'จิตอาสาตำรวจสอบสวนกลาง'​ ช่วยเหลือประชาชนจากวิกฤตอุทกภัย

สืบเนื่องมาจากกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศเรื่อง พายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” ฉบับที่ 3 (143/2564) ซึ่งพายุดังกล่าวได้ส่งผลทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนัก และเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ นอกจากนี้ยังส่งผลทำให้บ้านเรือน และทรัพย์สินของประชาชนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

ซึ่งตามนโยบายของ พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยบรรเทาทุกข์สุขของประชาชนในช่วงสถานการณ์ที่มีอุทกภัย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยกองบังคับการในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จึงได้จัดกิจกรรมจิตอาสาตำรวจสอบสวนกลางให้การช่วยเหลือประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากวิกฤตอุทกภัยในครั้งนี้ 

โดยตั้งเเต่วันที่ 29 กันยายน 2564 ถึงวันที่ 9 ตุลาคม 2564 พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และคุณรงรอง ภูริเดช ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมคณะแม่บ้านฯ, รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, ผู้บังคับการในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมกำลังพลจิตอาสาตำรวจสอบสวนกลาง ได้ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อนจากวิกฤตอุทกภัย เป็นจำนวนทั้งสิ้น 52 ครั้ง ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี, ชัยนาท, เพชรบูรณ์, ขอนเเก่น, สระบุรี, อ่างทอง, นครสวรรค์, สิงห์บุรี, ชัยภูมิ, พระนครศรีอยุธยา และสุโขทัย รวม 11 จังหวัด โดยมีการนำถุงยังชีพ พร้อมอาหารและเครื่องดื่มแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวนกว่า 7,000 ชุด 

นอกจาก 11 จังหวัด ที่ทางกองบัญชาตำรวจสอบสวนกลาง ได้ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือไปแล้วนั้น กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จะยังคงดำเนินการลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤตอุทกภัยในครั้งนี้อีกจำนวน 44 ครั้ง ในพื้นที่อื่นๆ อีก 15 จังหวัด ต่อไป

'อลงกรณ์-อรรถพร' ลุยเพชรบุรีแก้ปัญหาประชาชนนำทีมชลประทานพัฒนาคลองรับมือน้ำท่วม

(9​ ต.ค.64) นายอลงกรณ์  พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ​ ร่วมด้วยนายอรรถพร  พลบุตร คณะทำงานที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตร.และดร.ชิตชนก สมประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 14  พร้อมกำนันผู้ใหญ่บ้านนำเครื่องจักรกลหนัก รถขุดแขนยาว 4 คันของกรมชลประทานขุดลอกคลองสาย​ 'ดี.25'​ ช่วงตำบลบางแก้วถึงตำบลช่องสะแกในพื้นที่อำเภอบ้านแหลมและอำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรีโดยลอกคลองกำจัดผักตบชวาเตรียมพร้อมรับมือน้ำหลากฤดูฝนนี้และเป็นคลองส่งน้ำ-กักเก็บน้ำยามฤดูแล้ง

นอกจากนี้ยังได้รับงบสนับสนุนเพิ่มเติมในการพัฒนาคลอง ดี.9​ สามารถระบายน้ำในกรณีน้ำท่วมได้ถึง​ 100​ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

'เฉลิมชัย' นำทีมลงพื้นที่ อำนาจเจริญ ติดตามการพัฒนาแหล่งน้ำ ตั้งเป้าเพิ่มน้ำต้นทุน 35 ล้าน ลบ.ม. ครอบคุมการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรเพิ่มกว่า 4,000 ไร่

(9 ต.ค.​ 64)​ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามงานตามนโยบายสำคัญในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ 

โดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายว่าจากการติดตามการบริหารจัดการน้ำจังหวัดอำนาจเจริญ และแผนโครงการปรับปรุงพัฒนาแหล่งน้ำของจังหวัดอำนาจเจริญ ณ อ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน (บริเวณสวนพุทธอุทยาน อำนาจเจริญ) ตำบลบุ่ง อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ ตนได้รับรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ ที่มีอ่างเก็บน้ำ 5 แห่ง (อ่างฯพุทธอุทยาน, อ่างฯห้วยโพธิ์, อ่างฯร่องน้ำซับ, อ่างฯห้วยสีโท และเขื่อนลำเซบาย) มีความจุอ่างรวมกันประมาณ 49.98 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีปริมาณน้ำรวมกัน 49 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 99% ของความจุอ่างรวมกัน จะเห็นได้ว่าปริมาณน้ำต้นทุนดังกล่าวไม่เพียงพอต่อภาคการเกษตร และมีพื้นที่การเกษตรในเขตชลประทานเพียง 35,491 ไร่ ส่วนพื้นที่นอกเขตชลประทานจะไม่สามารถทำการเกษตรได้ในช่วงฤดูแล้ง และเมื่อถึงช่วงฤดูน้ำหลากจะเกิดท่วมซ้ำซากในเขตอำเภอหัวตะพานและอำเภอเมืองริมฝั่งลำเซบาย และลำห้วยปลาแดก

ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมชลประทานได้วางแผนดำเนินโครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพอ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน – อ่างเก็บน้ำห้วยโพธิ์ ประกอบด้วย งานปรับปรุงอ่างฯ พุทธอุทยาน ด้วยการขุดลอกอ่างฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำได้มากขึ้น 3.2 ล้าน ลบ.ม. งานปรับปรุงฝายพับได้ช่วยเพิ่มความจุได้อีก 2.6 ล้าน ลบ.ม. และอาคารประกอบ 26 แห่ง ในส่วนของงานปรับปรุงอ่างฯ ห้วยโพธิ์ จะขุดลอกอ่างฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำมากขึ้นอีก 1.3 ล้าน ลบ.ม. งานปรับปรุงฝายพับจะช่วยเพิ่มความจุได้อีก 1 ล้าน ลบ.ม. และอาคารประกอบ 9 แห่ง นอกจากนี้ ยังมีแผนดำเนินโครงการคลองผันน้ำพุทธ-โพธิ์ ความยาว 3,100 เมตร หากโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จจะทำให้มีน้ำต้นทุนเพิ่มขึ้นเป็น 35 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่ชลประทานเพิ่มขึ้นอีก 4,000 ไร่ และยังช่วยเพิ่มศักยภาพผลผลิตทางการเกษตรอีกด้วย

“ผมได้สั่งการให้กรมพัฒนาที่ดิน ขุดสระเก็บน้ำเพิ่มเติมในพื้นที่ โดยในปีนี้จะเร่งรัดอนุมัติงบประมาณให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่เตรียมการไว้ ขอให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อพัฒนาพื้นที่รับน้ำของอ่างเก็บน้ำพุทธอุทยานของกรมชลประทาน ไปด้วยกันเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่” นายเฉลิมชัย กล่าว

กรองความคิดเหล่า​ 'เจ้าสัว'​ จากการเลือกซื้อรถ เน้นใช้​ประโยชน์​ ไม่อิงราคาหรือความเท่นำ

พงศ์พรหม​ ยามะรัต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก​ หยิบมุมมองความร่ำรวยของเหล่าเจ้าสัวที่เกิดขึ้นจากมุมมองที่หลายคนอาจจะมองข้ามว่า...

บางทีหลักคิดง่ายๆ​ ก็ส่งคนให้กลายเป็นยอดคนได้ไม่ยาก​

ผมไปนั่งรถ Volvo ราคา 2.5 ล้านบาท ของเจ้าสัวหมื่นล้านมา

ถามเจ้าสัวว่ามีเงินมากมาย ทำไมซื้อรถราคา 2.5 ล้านบาทมานั่ง

เจ้าสัวตอบว่าซื้อรถ เอาฟังก์ชั่นนำ ไม่ใช่เอารถราคาแพงๆ หรือความเท่นำ

ซื้อ Volvo คันนี้ เพราะแข็งแรง ปลอดภัย นั่งสบาย กว้างขวางเพียงพอ ขนของได้เยอะ แถมประหยัดน้ำมันเพราะเป็น hybrid


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top