Thursday, 16 January 2025
Hard News Team

กมธ.สธ. ขอบคุณ ‘ลุงตู่’ หนุนใช้ ฟ้าทะลายโจร ควบคู่ ฟาวิพิราเวียร์ เล็งหารือต่อยอดสมุนไพรไทย ฝ่าวิกฤต พร้อมฝากประชาชน ใช้ฟ้าทะลายโจร ในปริมาณที่เหมาะสม ตามคำแนะนำของแพทย์

เมื่อวันที่ 27 พ.ค. น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) สาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร กล่าว ขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของสมุนไพรไทย อย่างฟ้าทะลายโจร มาสนับสนุนใช้ควบคู่กับยาฟาวิพิราเวียร์ ในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ในส่วนของกมธ.สาธารณสุข เตรียมเชิญ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และมหาวิทยาลัยมหิดล มาให้ข้อมูล เพื่อร่วมกันสนับสนุนแนวทางพัฒนาใช้สมุนไพรไทยในการรักษาโรค และฝ่าวิกฤตในครั้งนี้ เพราะยังมีสมุนไพรไทยอีกหลากหลายชนิดที่มีสรรพคุณทางยาต้านไวรัส ไข้หวัด และสรรพคุณที่หลากหลาย รวมทั้งยังสามารถต่อยอดให้เป็นพืชเศรษฐกิจ ในการกระตุ้นเม็ดเงิน สร้างรายได้เข้าประเทศได้ อย่างเช่น กระชายขาว ขิง พลูคาว เป็นต้น

น.ส.พัชรินทร์ กล่าววา แม้ฟ้าทะลายโจร จะมีสรรพคุณทางยาในการปรับระบบภูมิคุ้มกัน ตามที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำ แต่ในทางการแพทย์ เริ่มมีการกังวลเรื่องการใช้ฟ้าทะลายโจรเกินขนาด ตนจึงอยากรณรงค์ให้ประชาชน ใช้ฟ้าทะลายโจร ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะแม้จะมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการ แต่ปัจจุบันยังไม่มีงานศึกษารับรองว่าสามารถใช้ในทางป้องกันโรคโควิด-19 ได้ ส่วนผู้ติดเชื้อ ก็ขอให้ใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ ก็จะทำให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้ฟ้าทะลายโจร


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

“บิ๊กตู่” ถกลับ รมต.คาดหารือหลังปรับแผนกระจายวัคซีน และชะลอการใช้แอป “หมอพร้อม" รูดซิปปัดตอบสื่อ

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ร่วมบันทึกเทปกล่าวอาเศียรวาท นายกรัฐมนตรีได้หารือร่วมกับครม.บางส่วนนอกรอบ อาทิ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นางตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบรมว.คมนาคม โดยคาดว่าอาจเป็นการหารือในประเด็นการปรับแผนการกระจายวัคซีนเพื่อให้เหมาะสมกับการแพร่ระบาดในแต่ละพื้นที่ หลังนายกรัฐมนตรีสั่งชะลอการใช้แอปพลิเคชัน "หมอพร้อม"

อย่างไรก็ตามภายหลังการหารือนอกรอบกว่า 30 นาที นายกรัฐมนตรีได้เดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันทีโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์หรือตอบคำถามสื่อมวลชนแต่อย่างใด

“พลังท้องถิ่นไท” หนุนเงินกู้ 5 แสนล้าน แต่ต้องเร่งอนุมัติเบิกจ่ายช่วยเหลือปชช. จ่อ ยื่นร่าง พ.ร.บ.การพนัน ถูก กม. เข้าสภาฯ หวังเก็บภาษีใช้หนี้ ตั้งกองทุนช่วยเหลือเกษตรกร-นศ.

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 ที่รัฐสภา นายชัชวาลล์ คงอุดม พรรคพลังท้องถิ่นไท (พทท.) กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลกู้เงินมา 5 แสนล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาการรบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทางพรรคเห็นด้วยแต่ก็อยากเสนอแนะ คืออยากให้มีร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การพนันออกมาอย่างถูกต้อง เพื่อทำให้การพนันทุกประเภทสามารถเก็บภาษีเป็นฐานสร้างรายได้ใหม่ให้กับประเทศ เหมือนกับหลายประเทศที่ได้ดำเนินการแล้ว เช่นประเทศสิงคโปร์ มาเลเซียเป็นต้น หากรัฐบาลแก้ไขให้การพนันออนไลน์ที่มีการเล่นอย่างแพร่หลายมาอยู่ในระบบที่ถูกต้องตามกฎหมายของรัฐเป็นผู้ควบคุม คาดว่ารัฐจะมีรายได้ไม่น้อยกว่า 1 ล้านล้านบาทต่อปี ซึ่งเราเป็นหนี้อยู่ประมาณ 6 ล้านล้านบาท

หากมีรายได้ส่วนนี้เข้ามาเชื่อว่าก็จะไม่ต้องไปกู้ยืมใครมาอีก และในสถานการณ์โควิด-19 จะได้ไม่ต้องเก็บภาษีห้างร้าน ซึ่งไม่สามารถเก็บได้ตามเป้าหมายแน่นอน ซึ่งเมื่อใช้หนี้แล้วในอนาคตสามารถนำไปจัดเป็นกองทุนช่วยเหลือหนี้สินให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากผลผลิตเสียหายเพราะภัยธรรมชาติต่าง ๆ และใช้หนี้สินให้กับเงินกู้เพื่อการศึกษา (กยศ.) เงินกู้นอกระบบ ให้กับนักเรียนนักศึกษา 

ด้านนายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพทท. กล่าวว่า นอกจากนี้พรรคยังขอเสนอว่าเนื่องจากการอนุมัติและการเบิกจ่ายเงินของรัฐบาลทำได้ล่าช้า ทั้งยังจ่ายให้ประชาชนได้ไม่เต็มที่ ซึ่งไม่ถึงร้อยละ 50 ของวงเงินทั้งหมด แต่หากกู้มาใหม่ขอให้ดำเนินการอนุมัติและการเบิกจ่ายให้ทันท้วงทีเพื่อเยียวยาแก้ปัญหาให้ประชาชนในส่วนของพ.ร.บ.การพนัน แต่เดิมร่างพ.ร.บ.เก่ามากแล้วจึงควรมีการปัดฝุ่น โดยพรรคพลังท้องถิ่นไทจะยื่นเสนอร่างพ.ร.บ.การพนัน ในสมัยประชุมสภานี้

ศาลฝรั่งเศสพิพากษา 'นักศึกษา 4 คน' มีความผิดและสั่งลงโทษ ตามข้อกล่าวหาปลุกปั่นความเกลียดชังทางเชื้อชาติบนสื่อสังคมออนไลน์

เมื่อวันพุธ (26 พ.ค.) ศาลฝรั่งเศส พิพากษาว่า นักศึกษา 4 คน มีความผิดและสั่งลงโทษ ตามข้อกล่าวหาปลุกปั่นความเกลียดชังทางเชื้อชาติบนสื่อสังคมออนไลน์ ด้วยการโพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ต่อต้านคนเอเชีย กรณีกล่าวโทษคนจีนต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

นักศึกษา ทั้ง 4 คน ซึ่งอายุระหว่าง 19 ถึง 24 ปี และไม่มีประวัติอาชญากรรม ถูกศาลอาญากรุงปารีสสั่งลงโทษให้ร่วมศึกษาเพื่อเสริมสร้างความเป็นพลเมือง (Civic Education) เป็นเวลา 2 วัน และจ่ายเงินชดใช้แก่ฝ่ายโจทก์ 7 คน รายละ 250 ยูโร (ราว 9,500 บาท) และปรับเงินสูงสุด 1,000 ยูโร (ราว 38,000บาท)

อย่างไรก็ตามจำเลยอีกคน นักศึกษารายที่ 5 ถูกพบว่าไม่มีความผิด

นักศึกษาเหล่านี้โพสต์ข้อความเป็นทวิตเตอร์ หลังจากประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ประกาศบังคับใช้ข้อจำกัดหยุดอยู่บ้านอันเข้มงวดรอบที่ 2 เมื่อวันที่ 29 ตุลาคมปีก่อน

ไวรัสโควิด-19 อุบัติขึ้นครั้งแรกในจีน และมีความกังวลในบรรดาประเทศตะวันตกทั้งหลายเกี่ยวกับความรู้สึกต่อต้านคนเอเชียอันมีต้นตอจากโรคระบาดใหญ่

"เอาผมไปไว้ในกรงกับชาวจีนสักคน ผมต้องการเล่นสนุกกับเขา ขยี้เขา ผมต้องการเห็นทุกความหวังในดวงตาของเขาค่อย ๆ มอดลงต่อหน้าผม" หนึ่งในนักศึกษาเขียนบนทวิตเตอร์ ซึ่งข้อความดังกล่าวถูกหยิบยกขึ้นมาอ่านในศาลในช่วงต้นของการพิจารณาคดีเมื่อเดือนมีนาคม

คำพิพากษาของศาลระบุว่าทั้ง 4 คนถูกพบว่ามีความฐานปลุกปั่นประชาชนความเกลียดชังทางเชื้อชาติ

ซอค แลม ทนายความของสมาคมคนหนุ่มสาวจีนในฝรั่งเศส ระบุว่า คำพิพากษาดังกล่าวนับเป็นสัญญาณที่น่ายินดีที่ศาลจริงจังกับวาทกรรมแห่งความเกลียดชังบนสื่อสังคมออนไลน์

อย่างไรก็ตาม เขาเรียกบทลงโทษครั้งนี้ว่า ค่อนข้างเบาและเหมือนเป็นเพียงการลงโทษเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งเขาแสดงความกังวลว่ามันอาจกลายตัวสนับสนุนให้บางคนแสดงพฤติกรรมเยี่ยงนี้ต่อไป

ผลการศึกษาของสถาบันศึกษาภูมิประชากรศาสตร์แห่งชาติฝรั่งเศส (INED) พบว่าโรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นำมาซึ่งขอบเขตใหม่ของการเหยียดเชื้อชาติต่อต้านคนเอเชีย ขณะที่ผู้สันทัดกรณีกล่าวหาตำรวจเพิกเฉยไม่ยอมจัดการกับภัยคุกคามที่มีต่อประชาคมชาวจีนในฝรั่งเศส

 

(ที่มา:เอเอฟพี)
https://mgronline.com/around/detail/9640000050966


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

“ศิริกัญญา" ชี้ พ.ร.ก.แพ่งและพาณิชย์ ช่วยลูกหนี้เป็นธรรมมากขึ้น แม้ล่าช้ารอนานกว่า 100 ปี ด้าน "ธีรัจชัย" เปรียบเหมือนน้ำผึ้งอาบยาพิษ  จี้ ส่งศาลรธน.ตีความชอบด้วยรธน.หรือไม่

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ต้องขอชมเชยการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพราะเป็นการช่วยเหลือลูกหนี้ให้ได้รับความเป็นธรรมไม่ว่าจะเป็นการคำนวนดอกเบี้ยผิดนัดชำระหรือปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทั้งที่ไม่ได้กำหนดไว้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อัตราดอกเบี้ย เงินฝาก เงินกู้ ปรับลดลงแล้ว แต่ต้องบอกว่าเป็นความเป็นธรรมที่มาล่าช้า ประชาชนต้องรอเกือบ 100 ปี ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ไม่ได้บรรจุไว้ในสัญญาที่ 7.5 เปอร์เซ็นต์ ออกมาตั้งแต่ปี 2468 โดยเฉพาะการคำนวนดอกเบี้ยผิดนัดที่ผิดนัดงวดเดียว แต่ถูกคิดดอกเบี้ยผิดนัดจากเงินต้นที่เหลือทั้งหมด ถือว่าเอารัดเอาเปรียบลูกหนี้ ต้องมีลูกหนี้แบกรับภาระที่ไม่เป็นธรรม ความเสียหายที่เกิดขึ้นมาก่อนใครจะรับผิดชอบ

ขณะที่นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายเรียกร้องให้ประธานสภาฯ ส่งพ.ร.ก.ฉบับดังกล่าวส่งศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ตีความว่า การให้อำนาจกระทรวงการคลัง เพื่อขึ้นดอกเบี้ยโดยไม่ผ่านกระทรวงนั้น ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 หรือไม่ ซึ่งกรณีที่ให้อำนาจกระทรวงการคลังออกพระราชกฤษฎีกา ปรับเพิ่มดอกเบี้ยได้ นั้นประชาชนได้รับผลกระทบและตนมองว่าอาจเป็นการช่วยเหลือนายทุน

“พ.ร.ก.ฉบับนี้  เหมือนจะดี แต่ไม่ดี เหมือนน้ำผึ้งอาบยาพิษ เพราะการให้อำนาจกระทรวงการคลังพิจารณาปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ว่าจะลดลงหรือเพิ่มขึ้นให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจของประเทศ เป็นพระราชกฤษฎีกา ทุก ๆ 3 ปีเท่ากับสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ตามอำเภอใจ เช่น ร้อยละ 7 เท่ากับเขียนเช็คเปล่าให้กระทรวงการคลังไปดำเนินการ ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์ มีแต่โทษกับโทษ ทั้งกระบวนการออกกฎหมายของรัฐบาลชุดนี้ใช้วิธีปิดปากสภาฯ ไม่สามารถแก้ไขได้ในสภาฯเลย” นายธีรัจชัย กล่าว

ด้านนายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า การที่บอกว่าประชาชนได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง สะท้อนสภาพการณ์ปัจจุบัน เอสเอ็มอีจะได้ประโยชน์ลดการฟ้องร้อง เพราะภาระดอกเบี้ยลดลง โดยเฉพาะดอกเบี้ยผิดนัด ซึ่งตนสนับสนุนการดำเนินการเรื่องนี้ แต่ไม่สะเด็ดน้ำเพราะยังมีปัญหาอยู่มาก ซึ่งประชาชนตั้งความหวังสูงเพราะเห็นข้อความที่ยื่นเข้า ครม.ทำให้คนคาดหวังว่าดอกเบี้ยลงทันที เพราะมาตรการที่ใช้ออกเป็น พ.ร.ก.คือต้องรวดเร็ว เข้มข้น เป็นธรรมและทั่วถึง ถ้วนหน้า ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ดอกเบี้ยไม่ลดลงเลย ส่วนต่างดอกเบี้ย 3 เปอร์เซนต์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แนะนำ แต่จากตัวเลขเมื่อ 2 วันที่ผ่านมาพบว่าประเทศไทยมีส่วนต่างดอกเบี้ย 5.2 เปอร์เซนต์ และทุกประเทศในภูมิภาคนี้มีตั้งแต่ 1-4.6 เปอร์เซนต์ และในเอเชียแปซิฟิก เราแชมป์ แต่เป็นแชมป์ที่เป็นภาระแก่ประชาชน และค่าเฉลี่ยไม่สะท้อนปัญหาคนจน คนมีน้อยได้ดอกเบี้ยเงินฝากน้อย จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้สูง คนมีมากได้ดอกเบี้ยเงินฝากสูง จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้น้อยกว่า

นายเกียรติ กล่าวต่อว่า ฉะนั้นรัฐบาลต้องไม่หลงเอาค่าเฉลี่ยมาเป็นเกณฑ์ในการออกแบบนโยบายหรือมาตรการของรัฐ เพราะส่วนต่างดอกเบี้ยไม่ลงเลย ทั้งที่ชาวบ้านเข้าใจว่าดอกเบี้ยจะลง และคนที่ได้ประโยชน์จาก พ.ร.ก.ฉบับนี้มีน้อยมาก และแก้ปัญหาสินเชื่อในระบบได้เพียง 0.1 เปอร์เซนต์เท่านั้น แล้วอย่างนี้ถือว่าเร่งด่วนอย่างไร หากเป็นเช่นนั้นขอเสนอให้ออกพ.ร.ก.อีกฉบับหนึ่งได้ โดยให้ครอบคลุม หรือจะให้มีเวลาภายใน 3 ปีให้ลงมาเหลือ 3 เปอร์เซนต์ ตนก็ไม่ว่าและจะให้การสนับสนุน จึงขอให้คิดให้ดี เพราะวันนี้แก้ได้ไม่ถึง 1 เปอร์เซนต์ และกระทรวงการคลัง และธปท.รับปากได้หรือไม่ว่าจะไปแก้ประกาศที่ยกเว้น เปิดช่องให้เขาใช้เกินมาตรา 654 คือเพดานเงินกู้ที่สูงสุด

ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่าการออก พ.ร.ก.ฉบับนี้ไม่มีประโยชน์อะไรเลย การปรับวิธีการคิดดอกเบี้ยผิดนัด เหมือนกับว่าจะช่วยให้ลูกหนี้ขนาดใหญ่มีอำนาจต่อรองมากขึ้น จะทำให้มีผลกระทบต่อประเทศในเรื่องที่เขามีเงินแต่คิดดอกเบี้ยน้อย เมื่อผิดนัด แต่สถาบันการเงินทำอะไรเขาไม่ได้ ซึ่งจะมีผระกระทบต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจ ตนไม่อยากบอกว่า พ.ร.ก.ฉบับนี้ประชาชนจะได้ประโยชน์ขนาดไหน ถ้าจะกล่าวหากันแบบที่เขาชอบใช้กันตนมีความรู้สึกว่ากฎหมายฉบับนี้ไม่ได้เอื้อให้กับนายแบงค์  แต่เป็นการเอื้อให้บรรดานายทุนผู้เป็นลูกหนี้ของแบงค์ เอื้อประโยชน์ให้นายทุนที่กู้เงินธนาคาร ยิ่งกว่าประชาชนทั่วไป ดังนั้น ถ้าจะเป็นที่จะออก พ.ร.ก.อีกฉบับให้ชัดเจนก็น่าจะเป็นประโยชน์กว่า

แนะเพิ่มโทษอาญา-ฉ้อโกง สายรีวิวสินค้าโฆษณาเกินจริง

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกปี 64 มีสถิติการรับร้องเรียนเรื่องสินค้าและบริการเข้ามาจำนวนมาก โดยเฉพาะของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มีจํานวน 3,810 ราย เพิ่มขึ้น 48.9% ส่วนใหญ่เป็นการร้องเรียนด้านโฆษณา ถึง 1,1511 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 59.2% ส่วนมากมีลักษณะเป็นการกระทำผิดซ้ำ ๆ เช่น การโฆษณาเกินจริง ซึ่งค่าปรับตามกฎหมายในเรื่องนี้ ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับผลตอบแทนที่ได้รับจากการโฆษณา โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ หรืออินฟลูเอนเซอร์ ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก 

สศช.จึงเสนอว่า อาจต้องปรับบทลงโทษให้หนักขึ้น หรือนำกฎหมายอาญาฐานฉ้อโกงประชาชนมาปรับใช้ เนื่องจากเป็นบทลงโทษที่ค่อนข้างหนักและไม่สามารถยอมความได้ เพื่อลดแรงจูงใจและเกรงกลัวในการกระทำความผิด รวมถึงลดโอกาสในการกระทำความผิดซ้ำ เพราะปัจจุบันความผิดเกี่ยวกับการโฆษณาเกินจริงมีกฎหมายเกี่ยวข้องหลายฉบับ เช่น พ.ร.บ. อาหาร มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ในกรณีที่มีการโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

สศช. ยังได้รับทราบข้อมูลในช่วงเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า มีการก่ออาชญากรรมผ่านเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น เช่น แอปพลิเคชั่นกู้เงินนอกระบบหรือสินเชื่อเงินสดออนไลน์ ที่มีการหักค่าบริการตั้งแต่ต้น และต้องชำระเงินต้นคืน พร้อมดอกเบี้ยเต็มจำนวน เอสเอ็มเอสหลอกให้กู้เงินแต่ต้องโอนค่ามัดจำดอกเบี้ยล่วงหน้าเมื่อหลงเชื่อโอนเงินแล้วไม่สามารถติดต่อได้ และการหลอกลวงให้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิตอล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี่ เช่น บิตคอยน์ ซึ่งมีผู้เสียหายจำนวนมาก และสร้างมูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านบาท  

ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีผลการจับกุมคดีเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในทุกรูปแบบ เช่น หมิ่นประมาท ข่มขู่คุกคาม สื่อลามก เฟกนิวส์ ล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กและสตรี การพนัน ออนไลน์ หลอกลวงออนไลน์ด้านการเงิน การขายของผิดกฎหมาย การดักรับข้อมูล โรแมนซ์สแกม โดยตั้งแต่เดือนธ.ค.  63-ก.พ. 64 จับกุม 489 คดี มีผู้ต้องหา 613 คน  

Cineworld เครือโรงหนังชื่อดังสัญชาติอังกฤษ ประกาศเปิดประสบการณ์สุดเจ๋งสำหรับเหล่าเกมเมอร์ ที่จะได้สนุกไปกับเกมโปรดของตนบนจอภาพยนตร์ส่วนตัว

แน่นอนว่าในยุคโควิดระบาดแบบนี้ ก็อาจจะทำให้หลายคนไม่อยากออกไปไหน หรือบางสถานที่ก็มีการปิดไม่ให้บริการ

หลายธุรกิจกว่าจะกลับมาได้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องงัดทุกกลยุทธ์มาดึงลูกค้าทุกแนว

ล่าสุดธุรกิจโรงภาพยนตร์ในเครือ Cineworld โรงหนังชั้นนำระดับโลก ได้เปิดให้บริการใหม่ 'Experience Games On The Big Screen At Cineworld' ชวนคอเกมเล่นเกมโปรดผ่านหน้าจอผืนผ้าใบขนาดยักษ์

ทั้งนี้ โรงภาพยนตร์ในเครือ Cineworld กว่า 100 สาขาทั่วสหราชอาณาจักร จะเปิดให้ลูกค้าที่เป็นกลุ่มเกมเมอร์สามารถเข้ามาใช้บริการแบบเหมาโรง เพื่อนั่งเล่นเกมเก่าคลาสสิคและเกมที่เพิ่งออกใหม่กับคนสนิทรู้ใจในบรรยากาศแบบส่วนตัว สัมผัสดื่มด่ำไปกับภาพและเสียงเซอร์ราวด์ที่สมจริงของเกมที่คุณโปรดปราน ไม่ว่าจะเป็นเกมดังเอ็กคลูซีฟบนเครื่องคอนโซลหายากอย่าง Spider-Man: Miles Morales

หรือว่าจะเป็นเกมกีฬาปาร์ตี้เล่นพร้อมกันหลายคนอย่าง FIFA 21 และ Mario Kart ของเครื่องนินเทนโด ก็มีพร้อมให้บริการ

"เราได้เห็นความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากหมู่เกมเมอร์ที่พร้อมเข้ามาใช้บริการในโรงหนังของเรา หลังจากที่พวกเขากำลังมองหาประสบการณ์เล่นเกมโปรดที่เหนือกว่าเล่นผ่านจอโทรทัศน์ขนาดเล็ก ซึ่งตอนนี้โรงหนังในเครือทั่วสหราชอาณาจักรจะมอบประสบการณ์สุดสมจริงจากการใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดและเกมออกใหม่ล่าสุด รวมถึงขนมขบเคี้ยวในโรงหนังที่คุณชื่นชอบ สามารถสนุกไปกับเพื่อนและครอบครัวผ่านจอภาพยนตร์ส่วนตัวของคุณเอง" ตัวแทน Cineworld กล่าว

ประสบการณ์เล่นเกมผ่านจอโรงหนัง 'Experience Games On The Big Screen At Cineworld' นี้ มีราคาเริ่มต้นที่ 119 ปอนด์ (หรือประมาณ 5,240 บาท) สำหรับการเหมาจอภาพยนตร์เพื่อเล่นเกม 2 ชั่วโมงต่อกลุ่มปาร์ตี้ 20 คน พร้อมบริการน้ำดื่มและป๊อปคอร์น รวมถึงบริการอื่น ๆ ที่อาจชาร์จเพิ่ม 

หากใครสนใจวางแผนบินไปเที่ยว UK ในช่วงนี้  สามารถคลิกดูรายละเอียดการซื้อตั๋วจองรอบได้ที่หน้าเว็บไซต์ cineworld.co.uk


ที่มา: https://mgronline.com/game/detail/9640000049910


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

‘ปริญญ์ พานิชภักดิ์’ แนะเร่งทำความเข้าใจเรื่องวัคซีน ชี้ คนบางกลุ่มยังเข้าไม่ถึงโซเชียลมีเดีย พร้อมแนะทำ Vaccine Passport ในรูปแบบดิจิทัลให้คนฉีดครบ 2 เข็ม

นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย กล่าวว่าจากการที่ตนเองและทีมลงพื้นที่ในหลายชุมชนเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งเขตบางซื่อ คลองสามวา ป้อมปราบ คลองเตย หลักสี่ พบว่าพี่น้องประชาชนบางส่วนยังมีความเข้าใจผิด ทำให้ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปรวมถึงผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง 7 โรค ยังมีความกลัวที่จะฉีดวัคซีน ดังนั้นจำเป็นต้องมีการดำเนินการเชิงรุกในการสื่อสารเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในเรื่องวัคซีนมากขึ้นกว่าเดิม เพราะคนบางกลุ่มยังเข้าไม่ถึงโซเชียลมีเดีย

ทั้งนี้ นายปริญญ์ ได้กล่าวว่าการฉีดวัคซีนจะช่วยส่งผลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ยกตัวอย่างเช่น ยุทธศาสตร์ Phuket Tourism Sandbox ซึ่งจะเป็นการเปิดเมืองเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้ว 2 เข็ม ให้สามารถเข้ามาได้โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน ว่า อยากให้ทางกรุงเทพมหานคร และ ศบค. ได้พิจารณาถึงในพื้นที่หรือจังหวัดอื่น ๆ ด้วย โดยขณะนี้มีหลายประเทศจัดทำ Vaccine Holiday ที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาฉีดวัคซีนและอยู่ท่องเที่ยวในประเทศจนถึงระยะการรับวัคซีนเข็มที่ 2 ซึ่งหากไทยสามารถพิจารณาดำเนินการในอนาคตได้ ก็จะทำให้มีเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวเข้าประเทศได้ และจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ นายปริญญ์ ยังได้กล่าวถึงเรื่อง Vaccine Passport ที่ขณะนี้ยังต้องไปติดต่อที่สถาบันบำราศนราดูร ซึ่งอาจทำให้ไม่สะดวก อีกทั้งยังอยู่ในรูปแบบกระดาษ ดังนั้นจึงอยากเสนอให้พิจารณาจัดทำ Vaccine Passport ในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งก็น่าจะสร้างความสะดวกให้กับผู้ที่รับวัคซีนครบ 2 เข็มและต้องการเดินทางได้

“การสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน จะส่งผลให้เกิดความร่วมมือ ร่วมใจ ยืดอก ถลกแขนเสื้อ และไปฉีดวัคซีนได้ อันจะนำไปสู่การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ของคนในประเทศ” นายปริญญ์ กล่าวในที่สุด


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

กระทรวงการต่างประเทศประสานฝรั่งเศส ล่าตัว สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล

เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ กล่าวถึง กรณีที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) แจ้งความเอาผิด นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานดำเนินการอย่างไร ว่า...

"มีหน่วยงานที่รับผิดชอบกำลังประสานงานเรื่องนี้กับทางการฝรั่งเศสอยู่"


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit
LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32

'เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้' นักเขียน และคนไทยในอเมริกา ได้โพสต์ข้อความหัวข้อ “ถามมา ตอบไป การฉีดวัคซีนในอเมริกา” ระบุว่า...

ระหว่างที่ตอนนี้เริ่มมีคนไทยหลายคน ได้นำเสนอเรื่องราวการบินไปฉีดวัคซีนในสหรัฐอเมริกา และมีการโพสต์โชว์ให้เห็นถึงการเปิดรับฉีดฟรีให้คนต่างแดนอย่างง่าย ๆ และวัคซีนที่ควรได้รับต้องเป็นไฟเซอร์เท่านั้น

ล่าสุดนักเขียน และคนไทยในอเมริกา (ตัวจริง) ได้ออกมาชี้แจงเรื่องที่น่าตกใจ โดยเผยว่าการฉีดวัคซีนฟรีในอเมริกาไม่จริง เพราะมาจากภาษีพลเมืองอเมริกัน หนำซ้ำจะมีให้เลือกหรือไม่ขึ้นอยู่กับแต่ละรัฐ ชี้พวกที่มาแล้ว ได้ไปทิ้งผลกระทบไว้ให้คนไทยในอเมริกาเป็นที่เรียบร้อย ซ้ำร้ายกระแสเกลียดเอเชียตอนนี้ทวีจนน่ากลัวมาก คนไทยถูกทำร้ายในหลายรัฐ จนกงสุลไทยเริ่มออกมาประกาศเตือน

จากเฟซบุ๊ก 'เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้' ของคุณเจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้ นักเขียน และคนไทยในอเมริกา ได้โพสต์ข้อความหัวข้อ “ถามมา ตอบไป การฉีดวัคซีนในอเมริกา” ระบุว่า...

1.) เลือกวัคซีนได้จริงหรือ

ในช่วงแรกของการฉีดวัคซีนในอเมริกา มีให้เลือกแค่ 2 ยี่ห้อ คือไฟเซอร์ และโมเดอร์นา ซึ่งเป็นวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ชนิด mRNA แตกต่างไปจากแอสตร้าเซนเนก้าและซิโนแวค เรื่องนี้ทุกคนคงรู้อยู่แล้ว ต่อมามีจอห์นสันแอนด์จอห์นสันเพิ่มมาอีกตัว รวมทั้งหมดเป็น 3 ยี่ห้อ หากจะบอกว่าพลเมืองอเมริกันเลือกวัคซีนได้อย่างเสรี นี่เป็นแค่ความจริงครึ่งเดียว คือเราสามารถเลือกได้จาก 1 ใน 3 ถ้าอยากเลือกวัคซีนจากจีนหรือรัสเซียก็ไม่สามารถทำได้ เพราะไม่มีให้เลือก

ประเด็นคือ ตอนที่เริ่มฉีดให้พลเมืองอเมริกันในช่วงแรก องค์การอนามัยโลกยังไม่ได้อนุมัติไฟเซอร์กับโมเดอร์นา แต่เพิ่งมาอนุมัติภายหลังการฉีดไปแล้วทั้งสองตัวนับหลายล้านโดส รวมทั้งจอห์นสันแอนด์จอห์นสันด้วย ที่เพิ่งมาอนุมัติเมื่อไม่นานมานี้ เรียกว่าฉีดก่อน อนุมัติทีหลังทั้งสามยี่ห้อ

2.) การกระจายวัคซีนถึงประชาชน

รัฐบาลโจ ไบเดน ตั้งเป้าฉีดให้ได้ 100 ล้านโดสใน 100 วันแรก ช่วงแรกจะจำกัดสถานที่ฉีดแค่ไม่กี่แห่ง เช่น โบสถ์ มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล ต่อมาขยายวงเป็นร้านขายยา ซูเปอร์มาร์เกต มีแบบบริการในรถก็มี (แล้วแต่รัฐ)

ในตอนแรกใช้รูปแบบการลงทะเบียนจองฉีดแบบเดียวกับที่ใช้ในไทย กำหนดให้คนอายุ 60 ปี และคนที่มีโรคประจำตัวฉีดก่อน แต่เมื่อลงทะเบียนแล้วต้องรออีกนาน บางทีก็ไม่มีคำตอบจากเลขหมายที่ท่านเรียก จนต้องย้ายไปลงทะเบียนที่อื่น (เจอมากับตัวเอง)

ถามว่าเลือกวัคซีนได้ไหมตอนลงทะเบียน ขึ้นอยู่กับการจัดการแต่ละรัฐแต่ละเมือง กรณีเมืองที่อยู่ ด้วยความอยากรู้ เลยตรวจสอบว่าห้างไหนให้บริการยี่ห้ออะไร แล้วไปลงทะเบียนกับร้านนั้น บางรัฐไม่ให้เลือก ลงทะเบียนแล้วมีอะไรก็ฉีดไปตามที่ได้โควตามาบริการ กว่าจะเรียกฉีดก็รอประมาณหนึ่งอาทิตย์ การลงทะเบียนจะต้องกรอกที่อยู่ในอเมริกา และรายละเอียดส่วนตัว จากนั้นก็ประกาศให้อายุ 50 ปีไปลงทะเบียน ไล่ไปเรื่อยจนถึงอายุ 12 ที่ฉีดไฟเซอร์ ส่วนพวกอายุ 18-60 ปีก็เลือกเอาจากสามยี่ห้อนั่นแหละ

3.) จริงไหม...ที่ฉีดวัคซีนฟรีในอเมริกา

คนไทยหลายคนบินไปฉีดวัคซีน “ฟรี” ที่อเมริกา แต่วัคซีนที่ว่าฟรีนั้นเป็น “ฟรีทิพย์” เพราะไม่ได้ฟรีจริง เพราะวัคซีนทุกขวดมาจากภาษีพลเมืองอเมริกัน ค่าวัคซีนแต่ละเข็มมีราคาที่พลเมืองอเมริกันต้องจ่าย หากใครมีประกัน (ที่ต้องจ่ายเงินซื้อประกันแพงมาก ในกรณีที่ทำงานส่วนตัว) ร้านหรือห้างที่ฉีดวัคซีนจะไปเบิกกับบริษัทประกันที่เราซื้อประกัน ตอนฉีดพนักงานฉีดขอดูบัตรประกันรัว ๆ ขนาดกรอกฟอร์มออนไลน์ไปแล้วยังขอดูถึงสองหน หากไม่มีประกัน ซึ่งคนอเมริกันมากมายมหาศาลไม่มีประกันสุขภาพ เพราะไม่สามารถจ่ายได้ด้วยความแพงสาหัส

กรณีไม่มีประกัน ใบเสร็จค่าวัคซีนจะถูกส่งไปเรียกเก็บเงินกับรัฐบาลและ Medicare ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ ซึ่งคนทำงานมีรายได้อย่างพวกทำงานบริษัทจะต้องถูกหักรายเดือนเพื่อสมทบ Medicare ส่วนพวกที่ทำธุรกิจส่วนตัวก็ต้องควักเงินซื้อประกันอันแพงนรกแตกเอง โดยจ่ายรายเดือน ดังนั้นวัคซีนฟรีที่ชื่นชมกันนั้นจึงไม่ได้ฟรีจริง ที่โหดกว่านั้น นับจากนี้ไปพลเมืองอเมริกันจะต้องควักเงินจ่ายภาษีมากกว่าเดิมเพื่อแบกรับภาระส่วนนี้ในอนาคต

4.) ไปอเมริกาแล้วฉีดได้เสร็จในห้านาทีจริงเหรอ

การจะไปอเมริกาได้จะต้องมีวีซ่าอเมริกาในมือ ซึ่งขั้นตอนในการขอยุ่งยากมาก คนที่เคยขอคงรู้ มีค่าธรรมเนียมที่จ่ายแล้วไม่ได้คืนหากไม่ได้วีซ่า คนที่บินมาอเมริกาจะต้องมีวีซ่าอเมริกันในมืออยู่แล้ว ก่อนจะได้ฉีดวัคซีนจะต้องมีการลงทะเบียนจองก่อนไปฉีด ส่วนมากจะให้เพื่อนที่อยู่อเมริกาจัดการให้ นั่นคือระยะแรก แต่ระยะหลัง บางแห่ง บางรัฐ เริ่มมีการเปิดให้เดินไปขอฉีดได้เพราะยอดฉีดเริ่มไม่พุ่ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการจัดการแต่รัฐ บางรัฐไม่อนุญาตคนที่ไม่ใช่พลเมืองฉีด แต่บางรัฐก็เปิดเสรี การฉีดนั้นไม่นาน หากไม่ต้องรอคิว ช่วงนี้จะว่างเพราะคนฉีดกันไปเยอะแล้ว ทำให้ภาพที่ออกมาตามสื่อดูชีวิตดี๊..ดี แต่หากรวมขั้นตอนการลงทะเบียน คงบอกไม่ได้ว่าจบในห้านาที

5.) หลายคนอ้างว่าอเมริกันฉีดครบหมดทุกคนทุกรัฐแล้วจริงหรือ

มาดูข้อมูลวันนี้ 26 พ.ค. 2021 พลเมือง 50 เปอร์เซ็นต์ฉีดหนึ่งเข็ม ส่วนพลเมือง 39 เปอร์เซ็นต์ฉีดครบสองเข็ม เน็ตไอดอลบางคนบอกว่าคนอเมริกันฉีดครบหมดแล้วทุกคนทุกรัฐ ทางการอเมริกันถึงประกาศให้ชาติอื่น ๆ เข้ามาฉีดวัคซีนในอเมริกา เรื่องนี้ไม่มีการประกาศจากทางการแต่อย่างใด พวกที่มาคือจงใจจะเข้ามาฉวยประโยชน์จากอเมริกา อาศัยช่องโหว่ตรงนี้มาเอาประโยชน์

6.) บางคนบอกว่าต้องกล่าวโทษรัฐบาลไทยที่ทำคนตายเยอะมาก งั้นลองเทียบกับอเมริกาดูก็แล้วกัน แบบนี้ทรัมป์กับไบเดนต้องลาออกไหม

ยอดป่วยสะสมและยอดตายในอเมริกา วันที่ 26 พ.ค. 2021 ป่วยสะสม 33,967,669 ราย ตาย 606,126 ราย ยอดตายต่อพลเมืองหนึ่งล้านคือ 1,831 ราย ในขณะที่เมืองไทยยอดตาย 12 รายต่อพลเมืองหนึ่งล้าน รัฐที่ป่วย/ตายสูงสุดคือ แคลิฟอร์เนีย เทกซัส ฟลอริดา นิวยอร์ก และอิลลินอยส์

มาดูข้อมูลบางรัฐที่เปิดให้คนที่ไม่ใช่พลเมืองมาฉีดได้ อย่างรัฐแคลิฟอร์เนีย จัดเป็นรัฐที่มีการระบาดอันดับหนึ่งในอเมริกา ยอดตายต่อพลเมืองหนึ่งล้านคือ ตาย 1,595 ราย ยอดป่วยสะสม 3,780,845 ราย หลายคนเลือกบินมาฉีดวัคซีนที่รัฐนี้ บางคนบินมานิวยอร์ก มาดูยอดป่วยในนิวยอร์กกันว่าเท่าไหร่ ป่วยสะสม 2,148,986 ราย อัตราการตายต่อพลเมืองหนึ่งล้านคือ 2,750 ราย

7.) ยอดการฉีดวัคซีนในรัฐที่ฮิตไปฉีดกันคือนิวยอร์กกับแคลิฟอร์เนีย

- รัฐแคลิฟอร์เนีย - พลเมืองที่ฉีดครบสองโดสคิดเป็น 41 เปอร์เซ็นต์

- รัฐนิวยอร์ก - พลเมืองที่ฉีดครบสองโดสคือ 45 เปอร์เซ็นต์ สรุปว่ายังไม่ถึงครึ่งทั้งสองรัฐ

เห็นเน็ตไอดอลสายบิวตี้ที่บินไปฉีดบอกว่า ดูสิ ผู้คนในแคลิฟอร์เนียถอดหน้ากากใช้ชีวิตปกติกันแล้ว ที่พูดแบบนี้เพราะไม่รู้ว่าอเมริกันแทบจะไม่ยอมใส่หน้ากากกันเลย จนต้องออกกฎบังคับ ถึงมีกฎแล้วก็ยังไม่ค่อยยอมใส่นัก ไม่ต้องดูอื่นดูไกล ในเมืองที่ดิฉันอยู่นี่แหละ ช่วงระบาดแบบพีกๆ นายกเทศมนตรีออกกฎให้ใส่หน้ากากเข้าร้าน พอพนักงานเตือน ลูกค้าควักปืนออกมายิงพนักงานตาย

8.) มาแล้วไป...ทิ้งผลกระทบไว้ให้คนไทยในอเมริกา

การที่คนไทยบินมาฉีดวัคซีนที่คิดว่า "ฟรี" ส่งผลกระทบต่อคนไทยในอเมริกา ขณะนี้กระแสเกลียดเอเชียน่ากลัวมากถึงมากที่สุด พวกคุณมาฉีดแล้วจากไป แต่คนที่ต้องอยู่อย่างหวาดกลัวคือคนไทยที่นี่ คิดหรือว่าอเมริกันจะแฮปปี้ใจกว้างทุกคนที่รับรู้ว่ามีคนที่ไม่ใช่พลเมืองประเทศตนเข้ามาหาประโยชน์จากตรงนี้ คนไทยถูกทำร้ายในอเมริกาในหลายรัฐ จนกงสุลไทยออกมาประกาศเตือน ล่าสุดกงสุลชิคาโกออกประกาศว่ามีคนอเมริกันทำร้ายคนไทยในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีคนพลุกพล่านอย่างมิลเลนเนียมพาร์ค

นอกจากนี้ คุณเจริญขวัญ ยังได้แชร์ถึงบรรดาคอมเมนต์เกี่ยวกับการบินมาฉีดวัคซีนในอเมริกา ซึ่งมีอยู่คอมเมนต์หนึ่งที่เขียนอย่างสุภาพ แต่สะท้อนความจริงอย่างชัดเจน นั่นคือคอมเมนต์ของผู้ที่ใช้ชื่อว่า Alai Na ซึ่งเป็นคนไทยในแคลิฟอร์เนียว่า...

“ถ้าคุณคือคนที่นี่ (สหรัฐ) คุณคงทราบว่าสหรัฐนั้นเสียหายยับเยินแค่ไหนจากโควิดถึงตอนนี้คนตายกว่าหกแสนกว่า เจ็บกว่า 33 ล้าน เศรษฐกิจพัง คนว่างงานเพียบ ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่หนักหนามากในสหรัฐ กว่าจะมีวันนี้ที่แสนจะดี๊ดีแบบที่คุณว่า หากคุณเป็นคนไทยที่อยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะโดยถูกกฎหมายหรือไม่ก็ตามยินดีด้วยครับ ที่ได้วัคซีน ถือว่ากอดคอร่วมทุกข์มาด้วยกัน

"แต่หากคุณไม่ใช่คนที่นี่ ผมขอประนาม เพราะคุณฉวยโอกาส หาช่องโหว่ทางกฎเกณฑ์หาประโยชน์ใส่ตัวอย่างหน้าไม่อาย และที่คุณฉีดฟรีก็ภาษีผมด้วย

เคยได้ยินคำว่า Asian hate มั้ย คนที่นี่กำลังไม่ชอบคนเอเชีย บอกว่าคนจีนนำเชื้อโรคเข้าประเทศ แล้วพาลเกลียดคนเชื้อสายเอเชียไปหมด คนเอเชียโดนทำร้ายร่างกายทั่วประเทศ บางคนตาย คนที่โดนถึงตายคนแรกน่ะคนไทยนะครับ ถ้าการฉวยโอกาสแบบนี้ตีวงกว้างออกไป หรือสื่อสหรัฐเล่นข่าวนี้ คนเอเชียที่อยู่ที่นี่อย่างผมจะเดือดร้อนกันไปหมด”

ก่อนหน้านี้ คุณเจริญขวัญ ยังออกมาตั้งข้อสังเกตอินฟลูเอนเซอร์รายหนึ่งรีวิวฉีดวัคซีนที่สหรัฐฯ ระบุว่า "มีข้อสังเกตเล็กๆ ว่าทำไมคนไทยที่บินไปฉีดวัคซีนที่คิดว่าเป็นวัคซีนฟรีในอเมริกา ทั้งที่มาจากเงินภาษีพลเมืองอเมริกัน ถึงบินแบบชั้นบิสคลาส (ชั้นธุรกิจ) ทุกคน ทั้งที่ชั้นประหยัดว่างทั้งลำเวลานี้ แถมเป็นสายการบินเดียวกันทุกราย พอดีเพื่อนคนไทยในเมืองเพิ่งบินกลับมาจากเมืองไทยเลยรู้

อย่าบอกว่าเน็ตไอดอลพวกนี้รวยจัด ค่าที่นั่งชั้นประหยัดตอนนี้แพงมาก แพงกว่าปกติแบบโขกสับ แต่คนเหล่านี้บินบิสคลาสที่แพงกว่าเก่า เอาเงินมาจากไหน

ทำไมเน็ตไอดอลเหล่านี้เจาะจง “ไฟเซอร์” ทำไมไม่เลือกฉีดโมเดอร์นา ทั้งที่หากเทียบผลข้างเคียงคนฉีดโมเดอร์นามีผลข้างเคียงน้อยกว่าไฟเซอร์

มีการว่าจ้างคนเหล่านี้หรือเปล่า แน่นอนว่าพวกนี้พูดความจริงครึ่งเดียว และต้องมีวีซ่าอเมริกาอยู่ในมือก่อนแล้ว เน็ตไอดอลที่บินไปเป็นไอดอลกลุ่มวัยรุ่น หนุ่มสาววัยทำงานเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นวัยที่ยึดครองโลกโซเชียล ที่สำคัญคือเน็ตไอดอลเหล่านี้สนับสนุนม็อบทุกราย ทั้งเปิดเผยและแอบแฝง

จากนั้นก็รับลูกต่อด้วยการนำไปเผยแพร่ ในสื่อในเพจฝั่งสนับสนุนม็อบทุกสื่อ ทั้งสื่อหลักและสื่อออนไลน์

 

ที่มา: https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10219593881621109&id=1337643342

https://sondhitalk.com/detail/9640000050967

อ้างอิง: ข้อมูล-https://www.worldometers.info/coronavirus/country/us?fbclid=IwAR3GRDQaivRtHXyHF4ytj5zPm0g_SpXPir2CUImrZ9XpMwVYlv7m-ow4Fn0

https://usafacts.org/visualizations/covid-vaccine-tracker-states/?fbclid=IwAR0dbLc1d2wsS-GSSxvXYWVbO8eR-yYZFNVvf78am6tqLjrpGseodtDx-9U


แหล่งรวม "บทความและคอนเทนต์แปลกใหม่!!!" แบบไร้ Toxic ติดตามได้ที่ THE STATES TIMES Blockdit

LINK : https://www.blockdit.com/pages/60583e7ff90e240c3e7f1c32


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top