Friday, 27 June 2025
Hard News Team

‘ผอ.ศอ.ปส.ตร.’ ผนึก ‘ผบช.ปส.’ เปิดปฏิบัติการ สยบไพรี 65/8 ‘ทลายแก๊ง Gerøge Häper’ ยึดทรัพย์กว่า 64 ล้านบาท

(17 มี..65) บ้านเลขที่ 26/416 .ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พล...รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล...สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล...พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมแถลงผลการปฏิบัติการสยบไพรี 65/8 ทลายแก๊ง Gerøge Häper’ (จอร์จ ฮาร์เพอร์)

โดยร่วมกับหน่วยงานด้านการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ ได้แก่ ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองทัพไทย, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด,กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย, กองบัญชาการตำรวจนครบาล, กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1, 6, 8 และ 9 ทำการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 20 จุดทั่วประเทศ

เพื่อจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติด โดยสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 6 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 16,800 เม็ด ยาอี 300 เม็ด เคตามีน 1.99 กรัม และตรวจยึดทรัพย์สิน ได้แก่ บ้านและที่ดินหลายรายการ, รถยนต์ 7 คัน, รถจักรยานยนต์ 6 คัน, เงินสด 900,000 บาท, บัญชีธนาคาร และบัตรเอทีเอ็มจำนวนมาก รวมมูลค่ากว่า 64 ล้านบาท

พล...รอย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ประมาณช่วงปี 2562-2564 ได้มีการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญที่ลักลอบจำหน่ายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ จำนวน 5 คดี จึงขยายผลต่อเนื่องเพื่อกวาดล้างผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ ที่ยังเหลืออยู่ กระทั่งพบมีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติด 2 เครือข่าย โดยเครือข่ายหนึ่งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ตอนเหนือ บริเวณ เขตสายไหม รอยต่อติดกับพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งอยู่ในพื้นที่กรุงธนบุรี บริเวณ เขตบางมด และ เขตจอมทอง โดยทั้งสองกลุ่มจะทำการซุกซ่อนยาเสพติดตามบ้านพักที่เปิดขึ้นมาโดยเฉพาะ หรือ ซุกซ่อนในรถยนต์ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจค้น จากนั้นก็จะกระจายยาเสพติดไปทั่วประเทศ

พล...รอย ยังกล่าวอีกว่า อยากฝากเตือนถึงบริษัทขนส่งและไรเดอร์แอปพลิเคชันต่างๆ ให้ตรวจสอบสินค้าที่นำส่งว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายหรือไม่ มิเช่นนั้นจะต้องถูกตรวจสอบด้วยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดหรือไม่

ปลัดแรงงาน เปิดงาน Open House โครงการการพัฒนาสุขสภาพขององค์กรเพื่อการสร้างชาติ พร้อมชื่นชมสถาบันการสร้างชาติ ร่วมพัฒนามาตรฐานการดูแลคุณภาพชีวิตของแรงงาน

วันที่ 17 มีนาคม 2565 เวลา 13.30 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงาน Open House โครงการการพัฒนาสุขสภาพขององค์กรเพื่อการสร้างชาติ หรือ Wellness Corporate Nation-Building (Wellness CNB) โดยมี ศ.ดรเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ (ดร.แดน) ประธานสถาบันสร้างชาติ บรรยาย เรื่อง "wellness  cnb award สร้างธุรกิจยั่งยืน ด้วยองค์กรต้นแบบ wellness"  ซึ่งมีองค์กรให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟัง ทั้ง onsite และ online กว่า 100 องค์กร ณ โชว์รูม Lexus สุขุมวิท

ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ขอชื่นชมสถาบันการสร้างชาติ และคณะนักศึกษาหลักสูตรผู้นำการประกอบการ Wellness เพื่อการสร้างชาติ ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างคนให้เป็นคนดี มีคุณภาพ มีอุดมการณ์ เพื่อทำหน้าที่ในการสร้างชาติ และเป็นตัวการในการลงไปขับเคลื่อนและสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคม และขอขอบคุณสถาบันการสร้างชาติและคณะนักศึกษา นสช. Wellness ที่ได้ริเริ่มโครงการที่มีประโยชน์ต่อประเทศชาติในหลายด้าน รวมทั้งโครงการ Wellness CNB นี้ ที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของแรงงานในองค์กรซึ่งเป็นภารกิจที่สำคัญของกระทรวงแรงงาน โครงการ Wellness CNB นี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับสถานการณ์ในปัจจุบัน การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา 

และได้ส่งผลกระทบถึงแรงงาน ทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ คือ คนตกงานจำนวนมาก ค่าจ้าง สวัสดิการ ลดลง รูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไป การพึ่งพาเครื่องมือดิจิทัล (Digital Tools) ในการทำงานเพิ่มขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ย่อมส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ความกินดีอยู่ดี ของแรงงานไทยอย่างมาก รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทรวงแรงงาน มีภารกิจในการดูแล ภาคแรงงานทั้งในระบบ 11.5 ล้านคน และนอกระบบ 16 ล้านคน กำลังแรงงานทั้งสิ้นเกือบ 38 ล้านคน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี 

'อี้ เจี่ยฟาง' คุณแม่ผู้สานต่อโลกสีเขียวจากลูกชายผู้ล่วงลับ ปลูกต้นไม้ 10 ล้านต้น แม้ต้องบาดเจ็บจนผ่าตัดร่วม 10 ครั้ง 

"ขอปลูกต้นไม้ จนกระทั่งเดินไม่ไหว" นี่คือคำกล่าวจาก 'อี้ เจี่ยฟ่าง' คุณแม่ผู้สูญเสียลูกชายที่มีความปรารถนาอยากปลูกต้นไม้พลิกฟื้นทะเลทรายให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวในเขตปกครองตนเองมองโกเลีย ภาคตะวันตกของจีน

ปีค.ศ. 2000 ลูกประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต นางอี้ เจี่ยฟ่างผู้เป็นแม่เศร้าเสียใจเป็นที่สุดจนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ แต่ด้วยเหตุที่ลูกเคยมีความปรารถนาที่จะ “ปลูกต้นไม้พลิกฟื้นทะเลทรายให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียว” นี่จึงเป็นพันธกรณีสำคัญที่ทำให้เธอต้องอยู่ต่อ   

ปี 2003 นางอี้ เจี่ยฟ่างกับสามีขายบ้านในเมือง นำเงินที่ได้พร้อมเงินประกันที่ได้จากการเสียชีวิตของลูกชายไปฝากไว้ที่ธนาคาร หลังจากนั้นพากันนั่งเครื่องบินแล้วต่อรถบัส รถม้าและเดินทางอีก 2 วัน จึงไปถึงเขตปกครองตนเองมองโกเลียในภาคตะวันตกของจีน เพื่อปลูกต้นไม้ที่ทะเลทราย 

เพื่อนบางคนบอกกับเธอว่า “คุณอายุมากแล้ว จ้างคนไปช่วยดีกว่า” แต่นางอี้ ตอบว่า “ฉันต้องทำเองจึงจะรู้สึกสบายใจ”

'พท.' ซัด 'ลุง' แก้ปัญหาตามเสียงด่า ปล่อยประชาสู้ตามยถากรรม แนะ 6 แนวมาตรการเก่า พปช.ไปใช้ ไม่คิดค่าลิขสิทธิ์

น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ขณะนี้คนไทยต้องเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจที่ซ้ำซ้อน ต่อเนื่องและยาวนาน จากความผิดพลาด บกพร่องและไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้คนไทยต้องตกอยู่ในภาวะวิกฤติโควิด-19 แบบโงหัวไม่ขึ้นเข้าปีที่ 3 ต่อเนื่อง วันนี้เมื่อเกิดความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันและสินค้าวัตถุดิบต่างๆ ที่ราคาพุ่งสูงขึ้น เศรษฐกิจไทยที่ย่ำแย่อยู่แล้วจากโรคระบาด ยิ่งวิกฤติหนักกว่าเดิมซ้ำเติมความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์กลับนิ่งเฉยต่อปัญหาความล่าช้า ไร้มาตรการที่ชัดเจน 7 ปีที่บริหารประเทศ ทำงานไล่ตามปัญหา แก้ปัญหาตามเสียงก่นด่าของประชาชน 

น.ส.อรุณี กล่าวต่อว่า ในช่วงปี 2551 ได้เกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ในสหรัฐฯ สร้างผลกระทบไปทั้งโลก ราคาน้ำมันในตลาดโลกยกระดับสูงขึ้น ก่อให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ สร้างผลกระทบกับค่าครองชีพพี่น้องประชาชน รัฐบาลพรรคพลังประชาชนได้เร่งรัดหาทางแก้ไขปัญหาในทันทีและรวดเร็ว โดยได้ประกาศ 6 มาตรการ 6 เดือนฝ่าวิกฤติเพื่อคนไทยทุกคน ที่ครอบคลุมและชัดเจนในการแก้ไขสถานการณ์บรรเทาปัญหาค่าครองชีพพี่น้องประชาชนเมื่อวันที่ 15 ก.ค.51 ประกอบด้วย... 

>> ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันทุกประเภท โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลเหลืออัตราการจัดเก็บเพียง 0.005 สตางค์ 
>> ชะลอการปรับราคาก๊าซหุ้งต้ม (แอลพีจี) ในภาคครัวเรือน 
>> ฟรีค่าน้ำประปาสำหรับผู้ใช้น้ำในประเภทที่อยู่อาศัยที่มีปริมาณการใช้น้ำตั้งแต่ 0-50 ลูกบาศก์เมตร (คิว) ต่อเดือน 
>> ไฟฟ้าฟรีสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 80 หน่วยต่อเดือน และจ่ายค่าไฟฟ้า 50% สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วย 
>> รถเมล์ฟรีในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 
>> รถไฟฟรีทุกขบวนเป็นเวลา 6 เดือน 

‘ไบเดน’ ตราหน้า ‘ปูติน’ เป็น 'อาชญากรสงคราม' ส่งอาวุธช่วยยูเครนเพิ่ม แม้คู่ขัดแย้งมีท่าทีรอมชอม

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เรียกประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียว่าเป็น "อาชญากรสงคราม" ต่อการโจมตียูเครน พร้อมแถลงมอบเงินช่วยเหลือด้านความมั่นคงแก่เคียฟเพิ่มเติมอีก 800 ล้านดอลลาร์ ในนั้นรวมถึงอาวุธที่ใช้สอยเครื่องบินและรถถังของรัสเซีย แม้การเจรจาสันติภาพของสองฝ่ายคู่ขัดแย้งมีสัญญาณความคืบหน้าและมีท่าทีประนีประนอม

ระหว่างพูดโต้ตอบกับผู้สื่อข่าวรายหนึ่งที่ทำเนียบขาว ไบเดน กล่าวว่า "โอ้ ผมคิดว่าเขาเป็นอาชญากรสงคราม" หลังจากตอนแรก ตอบกลับว่า "ไม่" เมื่อถูกถามว่าเขาพร้อมเรียก ปูติน ด้วยถ้อยคำดังกล่าวหรือเปล่า

ถือเป็นครั้งแรกที่ ไบเดน ตราหน้า ปูติน ต่อหน้าสาธารณะด้วยถ้อยคำดังกล่าว หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ พูดระหว่างเยือนโปแลนด์ ว่า รัสเซียควรถูกสืบสวนอย่างที่สุดในความเป็นไปได้ของการก่ออาชญากรรมสงคราม

โฆษกของวังเครมลิน รุดออกมาตอบโต้ โดยบอกว่าความเห็นของ ไบเดน ซึ่งกล่าวหาประธานาธิบดีรัสเซียก่ออาชญากรรมสงครามนั้น "เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้" และ "เป็นถ้อยคำที่ไม่สามารถอภัยได้"

อย่างไรก็ตาม เจน ซากิ เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของทำเนียบขาวระบุในเวลาต่อมา ว่า ไบเดน พูดออกมาจากใจ พร้อมเน้นย้ำว่ากำลังมีกระบวนการทางกฎหมายแยกกันเพื่อสรุปว่า ปูติน ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและก่ออาชญากรรมสงครามหรือไม่ ซึ่งกระบวนการนี้อยู่ระหว่างดำเนินการโดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ

ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ไบเดนเผยว่า สหรัฐฯ เสนอมอบความช่วยเหลือด้านความมั่นคงแก่ยูเครนเพิ่มอีก 800 ล้านดอลลาร์ หลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวปราศรัยต่อรัฐสภาสหรัฐฯ ผ่านวิดีโอลิงก์ ร้องขอความสนับสนุนด้านทหารอย่างเร่งด่วน เพื่อปัดเป่าการรุกรานของรัสเซีย

"สหรัฐฯ จะเดินหน้ามอบอาวุธแก่ยูเครน เพื่อต่อสู้และป้องกันตนเอง มอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและสนับสนุนเศรษฐกิจยูเครน ด้วยความช่วยเหลือทางการเงินเพิ่มเติม" ไบเดนกล่าว "แพกเกจใหม่นี้จะเป็นการมอบความช่วยเหลือยูเครนแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน และในนั้นรวมถึงขีปนาวุธต่อต้านรถถังและอากาศยาน" ที่ช่วยชะลอการบุกของรัสเซียตลอด 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ตามคำขอของเซเลนสกี วอชิงตันจะมอบระบบต่อต้านอากาศยานขีปนาวุธพิสัยไกลแก่ยูเครนเพิ่มเติม ไบเดนระบุ นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังจะมอบระบบต่อต้านยานเกราะ 9,000 กระบอก โดรนและอาวุธขนาดเล็ก เช่น ปืนกล ปืนสั้น และเครื่องยิงระเบิดอีก 7,000 กระบอก ซึ่งจะช่วยพลเรือนต่อสู้เพื่อปกป้องประเทศของตนเอง

เงินช่วยเหลือก้อนใหม่จะมาจากร่างงบประมาณฉบับหนึ่งซึ่ง ไบเดน ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายแล้ว ซึ่งในนั้นรวมไปถึงจัดสรรเงินช่วยเหลือรอบใหม่แก่ยูเครน 13,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ระหว่างการปราศรัยต่อสภาคองเกรส เซเลนสกีเปรียบเทียบการโจมตียูเครน กับเหตุการณ์ที่ญี่ปุ่นโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ ซึ่งลากสหรัฐฯ เข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 พร้อมอ้อนวอนสมาชิกสภาคองเกรสและไบเดนโดยตรง ยกระดับความช่วยเหลือมากกว่าที่เป็นอยู่

เคลื่อนสรีระ ‘สมเด็จพระวันรัต’ กลับวัดบวรฯ คณะสงฆ์-ศิษยานุศิษย์ ร่วมจัดพิธีบำเพ็ญกุศล

อัญเชิญสรีระร่างสมเด็จพระวันรัต จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เคลื่อนกลับวัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อจัดพิธีบำเพ็ญกุศล คณะสงฆ์-ศิษยานุศิษย์ ถวายน้ำสรงศพร่วมอาลัย

ตามที่ สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร อาพาธด้วยโรคมะเร็งถุงน้ำดี ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 จนถึงวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ.2565 เวลา 14.22 น. สมเด็จพระวันรัต ได้มรณภาพด้วยอาการสงบนั้น

วันนี้ (17 มี.ค.) เวลา 8.30 น. ที่วัดบวรนิเวศวิหาร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนทยอยเข้ามาถวายความอาลัย โดยทางวัดได้จัดถวายน้ำสรงสรีระสมเด็จพระวันรัต สำหรับประชาชนที่ ชั้น 1 อาคารสภาการศึกษามหามกุฎราชวิทยาลัย โดยก่อนเข้าภายในอาคาร มีการจัดจุดคัดกรอง ตามมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 อย่างเคร่งครัด

ต่อมาเวลา 08.55 น. ขบวนอัญเชิญสรีระร่างสมเด็จพระวันรัต จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เคลื่อนมาถึงวัดบวรนิเวศวิหาร ก่อนจะอัญเชิญขึ้นไปยังชั้น 2 อาคาร 100 ปี สมเด็จพระญาณสังวร ซึ่งเป็นสถานที่จัดบำเพ็ญกุศล ตลอด 2 ข้างทาง มีพระเถระ , พระลูกวัดบวรนิเวศวิหาร และศิษยานุศิษย์ ประชาชนที่ศรัทธายืนเรียงแถวพนมมือ เมื่อขบวนพระสรีระร่างสมเด็จพระวันรัตเคลื่อนผ่าน ต่างพร้อมกันพนมมือก้มกราบลงกับพื้นบางคนน้ำตาไหล ด้วยความอาลัยต่อการสูญเสียครั้งนี้

‘ไพร พัฒโน’ ลาออกสมาชิกพรรคปชป.อีกราย เผยแจ้ง 'อภิสิทธิ์' รู้เป็นคนแรกในการตัดสินใจ

นายไพร พัฒโน อดีตนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ และอดีตส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แถลงผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก ลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมแนบหนังสือลาออก ลงวันที่ 11 มีนาคม 2565 มีรายละเอียดดังนี้... 

“กราบเรียนสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทุกท่าน ผมได้ใช้เวลาในการตัดสินใจเรื่องนี้อยู่นานมาก ด้วยความรัก ความผูกพันที่มีต่อพรรคประชาธิปัตย์รวมตลอดถึงผู้ใหญ่ในพรรคหลายๆท่านที่ผมทั้งรัก ทั้งเคารพ และสุดแสนจะเกรงใจครอบครัวของผมอยู่กับประชาธิปัตย์มากว่า 53 ปี ตั้งแต่สมัยคุณพ่อคือนายไสว พัฒโน และผมเองก็เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรในนามพรรคประชาธิปัตย์มาแล้ว 2 สมัย คือปีพ.ศ.2539 ถึง พ.ศ.2546 จึงเป็นเรื่องยากและยิ่งใหญ่มากในชีวิตของผมต่อการตัดสินใจครั้งนี้….. พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ผมรัก และยังรักอยู่จนถึงตอนนี้ แต่เส้นทางทางการเมืองบางครั้งมันไม่มีทางเลือกให้แก่เรามากนัก”

'บิ๊กตู่' ห่วง เครือข่ายวิทยุชุมชน สั่ง อนุชา ประสาน กสทช. ขยายเวลาคงคลื่นความถี่ออกอากาศ 500 วัตต์ ถึงสิ้นปี 67 

วันที่ 17 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรี รับมอบหนังสือแสดงความขอบคุณจากเครือข่ายวิทยุชุมชน ประกอบด้วย องค์กรภาคีเครือข่ายผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชนแห่งประเทศไทย สมาคมสื่อช่อสะอาด สมาคมสภาวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ สำนักงานสมาคมผู้ประกอบการวิชาชีพวิทยุท้องถิ่นไทย โดยมี นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี นายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้แทนจากคณะทำงานนายกรัฐมนตรี ผู้แทนจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้แทนจากกรมประชาสัมพันธ์ ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ผู้แทนจากบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และกลุ่มเครือข่ายวิทยุชุมชน เข้าร่วม

นายอนุชา กล่าวว่า จากกรณีที่เครือข่ายวิทยุชุมชน เคยมีหนังสือถึงศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล เพื่อขอให้พิจารณาระงับ หรือชะลอการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกา ตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2562 มาบังคับใช้ ซึ่งเครือข่ายวิทยุชุมชนจำนวน 3,884 สถานี ทั่วประเทศ เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงให้ออกอากาศที่กำลังส่ง 500 วัตต์ ถึงวันที่ 3 เมษายน 2565 

นายอนุชา กล่าวว่า และจากนั้นให้ออกอากาศด้วยกำลังส่งต่ำเหลือเพียง 50 วัตต์ ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2565 จนถึงปี พ.ศ.2567 จากการลดกำลังส่งดังกล่าว ส่งผลต่อการนำข้อมูลข่าวสารภาคประชาชนออกอากาศในชุมชนต่างๆ ทำให้การสร้างการรับรู้ แก่ประชาชนไม่ทั่วถึง กลุ่มเครือข่ายจึงรวมตัวกัน และส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 

นายอนุชา กล่าวว่า จึงดำเนินการหารือ และประสานงานกับ กสทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อย ภายหลังทาง กสทช. ได้พิจารณาทบทวนเรื่องดังกล่าว จึงได้ออกประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เรื่อง หลักเกณฑ์ว่าด้วยการทดลองออกอากาศวิทยุกระจายเสียงในระบบเอฟเอ็ม โดยให้วิทยุชุมชนผู้ได้รับใบอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง ยังคงออกอากาศที่กำลังส่ง 500 วัตต์ ได้ต่อไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567  

“ประวิตร” ตรวจสถานการณ์น้ำ เมืองแปดริ้ว สั่ง ปรับปรุงเขื่อนทดน้ำบางปะกง ป้องน้ำเค็มรุก 

ที่ศาลากลาง จ.ฉะเชิงเทรา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ(กนช.)พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามและประเมินผล มาตรการรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำฤดูฝนปี2564/2565ในพื้นที่จ.ฉะเชิงเทรา และพื้นที่ภาคตะวันออก รวมถึงภาพรวมการบริหารจัดการน้ำของภาคตะวันออก และแนวทางการควบคุมค่าความเค็มในแม่น้ำบางปะกง 

โดยลุ่มน้ำบางปะกง มีปริมาณน้ำเก็บกัก 1,571 ล้านลบ.ม. ปริมาณน้ำปัจจุบัน 699 ล้าน ลบ.ม.ยังเพียงพอต่อการใช้ในพื้นที่ สำหรับปัญหาน้ำที่ผ่านมา มีทั้งน้ำท่วม และน้ำแล้ง  ซึ่งกำลังได้รับการแก้ไขแล้วตามแผนงาน อย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันมีปัญหาการรุกตัวของน้ำเค็ม ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำเพื่อการดำรงชีวิตของประชาชน และภาคการเกษตร ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไข ต่อไป

พล.อ.ประวิตร กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่ง ว่า เร่งรัดการดำเนินงาน บริหารจัดการน้ำในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา จากปัญหาการรุกตัวของน้ำเค็มในแม่น้ำบางปะกง ส่งผลกระทบต่อประชาชนในการใช้น้ำอุปโภคบริโภค และผลกระทบจากความต้องการใช้น้ำจืดมากขึ้น ทั้งภาคการเกษตร อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว รวมทั้งเตรียมความพร้อมสำหรับภาคการลงทุนอีอีซี โดยบูรณาการร่วมกับทุกส่วนราชการ เพื่อขับเคลื่อนแผนหลักการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก ทั้งในระยะเร่งด่วน และระยะยาว อย่างเป็นระบบให้เกิดเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งเร่งรัดซ่อมแซมเขื่อนทดน้ำบางประกง ให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อใช้เป็นกลไกหลักควบคุม การป้องกันน้ำเค็มรุกให้เต็มประสิทธิภาพ และพร้อมช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำและจากวิกฤตโควิด-19 ด้วย และพร้อมให้ความช่วยเหลือเยียวยาอย่างเต็มที่ 

'ศาลโลก' ตัดสิน!! ให้รัสเซียหยุดโจมตียูเครนทันที แต่จะหยุดหรือไม่ 'ศาล' ก็ไม่มีอำนาจในการบังคับ

วานนี้ (16 มี.ค.65) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก ซึ่งเป็นองค์กรด้านตุลาการของสหประชาชาติ หรือ UN ได้มีคำตัดสินให้รัสเซียหยุดการโจมตียูเครนโดยทันที

สำหรับคณะผู้พิพากษาชุดปัจจุบัน มีจำนวน 15 คน ประกอบด้วยผู้พิพากษาจากสหรัฐฯ รัสเซีย สโลวาเกีย ฝรั่งเศส โมร็อกโก บราซิล โซมาเลีย จีน ยูกันดา อินเดีย จาเมกา เลบานอน ญี่ปุ่น เยอรมนี และออสเตรเลีย โดย 2 เสียงที่โหวตไม่เห็นด้วยก็คือผู้พากษาจากรัสเซียและจีน

คำตัดสินดังกล่าว กำหนดให้มีมาตรการชั่วคราว คือ สั่งให้รัสเซียระงับปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ไม่ให้กองกำลังของรัสเซียดำเนินการทางทหารต่อไป และห้ามไม่ให้รัสเซียดำเนินการใดๆ ที่จะทำให้ความขัดแย้งรุนแรงยิ่งขึ้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top