Friday, 27 June 2025
Hard News Team

'สน.บางขุนนนท์' ล็อกเป้า!! ส่อสั่งขัง 'โรม' หวังให้หลุดสถานะ ส.ส. เจ้าตัวเผย!! เป็นผลพวงจากอภิปราย 'ป่ารอยต่อ - ค้ามนุษย์'

(17 มี.ค.65) รังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่เพิ่งได้รับหมายจับจาก สน.บางขุนนนท์ ว่าหลังจากที่ตนได้อภิปรายทั่วไปเรื่องการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญาเป็นต้นมา ก็ได้มีความพยายามที่จะเร่งรัดกระบวนการของคดีต่างๆ ที่ยัดเยียดมาให้จากการปฏิบัติหน้าที่ผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะคดีที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ฟ้องตนในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อต้นปี 2563

"จากกรณีที่เกิดขึ้น ผลที่ฝ่ายรัฐบาลคาดหวังจากความพยายามเหล่านี้ ก็คงหนีไม่พ้นการให้ผมได้ถูกศาลสั่งขังโดยไม่ให้ประกันตัว แม้เพียง 1 วันก็พอ เพื่อให้หลุดพ้นจากความเป็น ส.ส. โดยล่าสุดผมทราบว่าทางตำรวจ สน.บางขุนนนท์ ถึงขั้นมีการออกหมายจับผมในคดีนี้ โดยอ้างว่าไม่ได้ไปเข้าพบตามหมายเรียกที่ออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งผมขอชี้แจงดังนี้..

“หมายเรียกแรกที่ออกมานั้น ออกเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งยังอยู่ในระหว่างสมัยประชุมของสภาผู้แทนราษฎร จึงได้โต้แย้งไปแล้วว่าเป็นการออกหมายเรียกโดยไม่ชอบ เนื่องจากในรัฐธรรมนูญมาตรา 125 ได้ห้ามไม่ให้มีการออกหมายเรียกตัว ส.ส. ในระหว่างสมัยประชุม

"ต่อมาเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ทาง สน.บางขุนนนท์ก็ได้ออกหมายเรียกอีกครั้งให้ไปพบในวันที่ 11 มีนาคม อย่างไรก็ตามตนติดภารกิจในฐานะ ส.ส. ในวันดังกล่าว จึงได้ทำหนังสือต่อ สน.บางขุนนนท์ เพื่อชี้แจงความไม่สะดวกและขอเลื่อนการเข้าพบออกไปเป็นวันอื่นที่ได้ระบุไว้ ทว่าทางตำรวจกลับมีคำสั่งไม่อนุญาตเลื่อนการนัดหมายดังกล่าว และอ้างเหตุนี้ในการขอศาลเพื่อออกหมายจับตน” รังสิมันต์ กล่าว

รังสิมันต์ กล่าวต่อไปว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 66 กำหนดว่าหมายจับจะออกได้ก็ต่อเมื่อ (1) มีหลักฐานการกระทำความผิดอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 3 ปี หรือ (2) มีหลักฐานการกระทำความผิดและมีเหตุควรเชื่อว่าจะหลบหนี (ซึ่งให้สันนิษฐานกรณีไม่มาตามหมายเรียกโดยไม่มีข้อแก้ตัวอันควรด้วย) กรณีของตนนั้นไม่ใช่ข้อ (1) แน่ๆ เพราะข้อหาหมิ่นประมาทมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ส่วนตามข้อ (2) นั้น เมื่อมีหมายเรียกมาตนก็ได้ยื่นหนังสือชี้แจงถึงความจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ไปแล้ว พร้อมทั้งระบุวันที่สะดวกเข้าพบอย่างชัดเจนด้วย ยังไม่นับว่าในอดีตที่ผ่านมาเมื่อมีการแจ้งข้อหาแก่ตนในคดีนี้ ซึ่งตนก็ได้ไปแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ อีกทั้งตลอดเวลาที่ผ่านมายังมาปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. อย่างสม่ำเสมอไม่หนีหายไปไหน จึงไม่มีเหตุสมควรที่จะต้องออกหมายจับผมแต่อย่างใดเลย

เด็กรัสเซีย' เครียด!! เริ่มตกเป็นเหยื่อการบูลลี่ในโรงเรียน ผลพวงแห่งความเกลียดชังในเชื้อชาติผู้บุกรุก

Save the Children กลุ่มสิทธิมนุษยชนสำหรับเด็กระบุว่าเด็กรัสเซียกำลังตกเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้งในโรงเรียนและบนโลกออนไลน์ เนื่องจากความเกลียดชังที่ถาโถมใส่สัญชาติของพวกเขา หลังจากที่รัสเซียเปิดปฏิบัติการทางทหารในยูเครน

RT สำนักข่าวรัสเซียรายงานว่า จอน คริสเตียน แลงจ์ ที่ปรึกษาอาวุโสของ Save the Children กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ TV2 ของเดนมาร์กเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมาว่า ผู้ปกครองหลายคนเล่าว่าเด็กๆ อ้างว่าปวดท้องเพราะพวกเขาไม่อยากไปโรงเรียน

แลงจ์ กล่าวว่า ตอนนี้เด็กรัสเซียต้องเจอกับการเลือกปฏิบัติคล้ายกับที่เด็กเอเชียเผชิญหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งทาง Save the Children ได้ลงพื้นที่ไปในโรงเรียนต่างๆ เพื่อปลูกจิตสำนึกเด็กๆ เกี่ยวกับการกลั่นแกล้ง และเสนอแนะวิธีการพูดคุยเกี่ยวกับสงครามในยูเครนโดยไม่ทำให้เด็กรัสเซียต้องรู้สึกอับอาย

ประเทศไหนก็กระทบ!! เปรียบเทียบราคาน้ำมัน ดีเซล/เบนซิน ในภูมิภาคอาเซียน

⛽️ประเทศไหนก็กระทบ!!
⛽️เปรียบเทียบราคาน้ำมัน ดีเซล/เบนซิน ในภูมิภาคอาเซียน

ข้อมูล: 14 มีนาคม 2565
ที่มา: กระทรวงพลังงาน (14 มีนาคม 2565)


ที่มา : https://www.facebook.com/100064362948184/posts/334004002088362/

'ปภ.เขต 3' จัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาและลดความเสี่ยงจากสาธารณภัย 

ปราจีนบุรี -​ ที่วัดเนินสูง ต.วังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ศูนย์ ปภ. เขต 3 ปราจีนบุรี ร่วมกับอบต.วังตะเคียน จัดกิจกรรม “จิตอาสาพัฒนาและลดความเสี่ยงจากสาธารณภัย" เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จะทรงเจริญพระชนมพรรษา 90 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2565 โดยมีนายพงษ์สิทธิ์ เนื่องจำนงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมฯ มีจิตอาสาพระราชทานจากส่วนราชการต่างๆ ประกอบด้วย กำลังพลจาก มทบ.12 กำลังพลจาก พล ร.2 รอ. อำภอกบินทร์บุรี อบต.วังตะเคียน และประชาชนทั่วไป จำนวน 200 คน ร่วมทำกิจกรรมช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภคในฤดูแล้ง ในพื้นที่ อบต.วังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี ประชาชนได้รับประโยชน์ 37 ครัวเรือน 922 คน

 

 

ตำรวจไทย​ คว้ารางวัล Smart Safety Zone 4.0 จากเวทีการประชุมสุดยอดตำรวจโลก (World Police Summit) ที่เมืองดูไบ

(17 มี.ค.2565)​ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับเกียรติเป็นส่วนหนึ่งในการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดตำรวจโลก (World Police Summit) ซึ่งจัดขึ้น ที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 14-17 มีนาคม 2565 โดยเป็นการประชุมที่จัดขึ้นทุกปี โดยมีองค์กรตำรวจดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นเจ้าภาพ เพื่อให้องค์กรตำรวจจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ได้นำนวัตกรรมที่นำไปใช้ในการบังคับใช้กฎหมายมาแบ่งปันและให้ความรู้ซึ่งกันและกัน รวมทั้งยังมีการจัดประกวดความเป็นเลิศในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานตำรวจ โดยมีผู้แทนตำรวจจาก 29 ประเทศ องค์กรระหว่างประเทศและองค์กรของรัฐ 19​ หน่วยงาน องค์กรทางวิชาการ 13 องค์กร และองค์กรเอกชนอีกกว่า 17 องค์กร เข้าร่วมการประชุมสุดยอดดังกล่าวในครั้งนี้ด้วย

การประชุมครั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.พร้อมทั้ง พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ และ ตนซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลโครงการ Smart Safety Zone 4.0 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งโครงการ Smart Safety Zone 4.0 เข้าประกวดในการประชุมสุดยอดดังกล่าว

ต่อมาเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2565 ได้มีการประกาศรางวัล ผลปรากฏว่า โครงการ Smart Safety Zone 4.0 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับรางวัลประเภทการป้องกันอาชญากรรม (Crime Prevention) จาก พล.ต.ท.Abdullah Khalifa Al Marri ผู้บัญชาการตำรวจเมืองดูไบ เจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดตำรวจโลก ในด้านการปฏิบัติการชุมชนสัมพันธ์ยอดเยี่ยม (The Best Experience in Community Policing) ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับองค์กรตำรวจที่มีผลงานในการพัฒนาแนวคิดตำรวจชุมชนไปสู่การปฏิบัติได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด 

โดยโครงการ Smart Safety Zone 4.0 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นโครงการที่ได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัลชนะเลิศในครั้งนี้โครงการ Smart Safety Zone 4.0 เป็นโครงการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ริเริ่มดำเนินการ โดยมีสาระสำคัญคือการป้องกันอาชญากรรมเชิงรุก โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง มุ่งหมายสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้เกิดขึ้นในชุมชน โดยการนำนวัตกรรมสมัยใหม่ ตามแนวคิดเรื่องเมืองอัจฉริยะ มาช่วยในการทำงานของตำรวจ เพื่อให้ชุมชนมีความปลอดภัยจากอาชญากรรม มีระดับความหวาดกลัวภัยอาชญากรรมลดลงและมีความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมตำรวจเพิ่มมากขึ้น 

โดยได้ดำเนินโครงการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดที่สามารถติดตามอัตลักษณ์ของผู้ที่อยู่ในข่ายที่จะเป็นภัยต่อประชาชนและยังให้การช่วยเหลือได้ไม่เกิน 15 นาทีจากจุดเกิดเหตุ ซึ่งมีการติดตั้งระบบไปแล้วกว่า 100 สถานีใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ

การได้รับรางวัล The Best Experience in Community Policing จากโครงการ Smart Safety Zone 4.0 บนเวทีการประชุมระดับโลกครั้งนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ขับเคลื่อนการทำงานตามวิสัยทัศน์ของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ที่ต้องให้การสำนักงานตำรวจแห่งชาติ "เป็นหลักประกันความยุติธรรมและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่มีมาตรฐานสากล" ได้อย่างแท้จริง

พสบ.28​ ​สร้างพลังเครือข่าย​ 'ป้องกัน-แก้ไข' ปัญหาภัยคุกคามด้านความมั่นคงของประเทศ

(17 มี.ค. 65) พิธีเปิดหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ ระดับผู้บริหาร รุ่นที่ 28 (พสบ.28) มีผู้เข้ารับการอบรม จำนวน 83 คน โดยมี พลเอกสันติพงศ์ ธรรมปิยะ เสนาธิการทหารบก เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมหลักสูตร พสบ. รุ่นที่ 28 ณ ห้องประชุม 221 ชั้น 2 กองบัญชาการกองทัพบก

สำหรับการอบรมหลักสูตร พสบ. มีวัตถุประสงค์ ดังนี้... 

1. เพื่อให้ข้าราชการทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน พนักงานรัฐวิสาหกิจและนักธุรกิจภาคเอกชนในระดับผู้บริหาร ได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น ทัศนคติและประสบการณ์ต่างๆ 

2. สามารถประยุกต์การทำงานให้ประสานสอดคล้องได้อย่างมีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนให้เกิดสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต

ทั้งนี้ กรมกิจการพลเรือนทหารบก มีความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่จะดำเนินการอบรมพัฒนาสัมพันธ์ ระดับผู้บริหารให้เป็นหลักสูตรที่หล่อหลอมข้าราชการทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน พนักงานรัฐวิสาหกิจและนักธุรกิจภาคเอกชน ในระดับผู้บริหารให้มีความรัก ความสามัคคี มีจิตสำนึกในสถาบันหลักของชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ เป็นพลังเครือข่ายของกองทัพบก ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยการเสียสละและมีจิตอาสา พร้อมที่จะมีส่วนร่วมสนับสนุนและขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติให้สมกับคำขวัญกองทัพบก ที่ว่า “เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน”

กรมบัญชีกลางออกหลักเกณฑ์และอัตราการเบิกค่ารักษาโควิด-19

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลาง ยกเลิกหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค 0416.4/ว 273 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2563 และกำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลสถานพยาบาลของเอกชน กรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
 
กรณีได้รับการประเมินเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (สีแดงและสีเหลือง) 
-สามารถเข้ารักษาได้ที่สถานพยาบาลเอกชนทุกแห่งทั่วประเทศ โดยอัตราการเบิกจ่ายเงินเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตฯ (UCEP Plus)
- การเบิกค่ารักษาพยาบาลครอบคลุมการรักษาตั้งแต่ต้นจนสิ้นสุดการรักษา 
- หากมีประกันภัย ต้องใช้สิทธิการเบิกจ่ายจากประกันภัยก่อน ส่วนที่เกินจากสิทธิจึงจะสามารถเบิกได้ 

รมว.เฮ้ง ยัน ค่าจ้างขั้นต่ำยังไม่ได้ข้อสรุป ขึ้นเท่าไหร่อยู่ที่ไตรภาคี 

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณี
ที่สื่อโซเซียลได้เผยแพร่ข่าวประกาศ!!! เตรียมขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจาก 300 บาท เป็น 492 บาท (รอการอนุมัติตัวเลข) นั้นว่า ข่าวดังกล่าวบิดเบือนไม่เป็นความจริง เนื่องจากข้อเท็จจริงในการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำแต่ละครั้งนั้น มีคณะกรรมการค่าจ้าง ซึ่งเป็นผู้แทนองค์กรไตรภาคีทั้ง 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายรัฐบาล นายจ้าง และลูกจ้าง พิจารณาและปรึกษาหารืออย่างรอบคอบก่อนจะได้ข้อยุติร่วมกัน แม้ว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในปัจจุบันมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 จนถึงปัจจุบันแล้ว ในปี 2565 คณะกรรมการค่าจ้างได้กำหนดแผนการทบทวนความเหมาะสมของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนการให้คณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดและคณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำกรุงเทพมหานคร ดำเนินการจัดประชุมเพื่อพิจารณาทบทวนความเหมาะสมของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดและกรุงเทพมหานครให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2565 ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใด จากนั้นคณะกรรมการค่าจ้างจะพิจารณาข้อมูลทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2565

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า โดยปกติข้อเท็จจริงในการขึ้นค่าจ้างนั้น มีระบบไตรภาคีเป็นผู้พิจารณา ถึงความเหมาะสมตามหลักเกณฑ์สากลของไอแอลโอ ซึ่งเป็นผู้กำหนด ดำเนินการด้วยหลักเกณฑ์ที่มีเหตุมีผลสามารถตอบสังคมได้ ปัจจุบันค่าแรงขั้นต่ำของไทยอยู่ในระดับต้น ๆ ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์ สูงกว่าเวียดนาม มาเลเซีย เมียนมา นักลงทุนหลายประเทศจึงเลือกที่จะย้ายฐานการผลิตเพื่อไปหาแหล่งค่าจ้างที่ถูกกว่า ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเคยให้สัมภาษณ์และตอบกระทู้สดในสภาไปแล้วว่า การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นเรื่องของภาวะเงินเฟ้อกี่เปอร์เซ็นต์ บวกกับค่าครองชีพแต่ละจังหวัดนั้น ๆ ถ้าจะขึ้นทั้ง 40% 30% ผมเชื่อว่าไม่มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และค่าแรงคนงานของประเทศไทยส่วนมากพี่น้องคนไทยมีทักษะความสามารถได้ค่าแรงสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว ค่าแรงขั้นต่ำที่เราใช้อยู่ในปัจจุบันส่วนมากกว่า 80% เป็นส่วนของคนต่างด้าว 3 สัญชาติที่เข้ามาทำงานเป็นกรรมกร

ถ้าเราจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจาก 300 กว่าเป็น 400 กว่าเกือบ 40% ผมเชื่อว่าไม่มีบริษัทไหนอยู่รอดในสถานการณ์เช่นนี้ เพราะบริษัทต่างๆ รักษาการจ้างงานมา 2 ปี ขาดทุนจ่ายเงินให้ค่าจ้างแรงงาน เพื่อรักษาการจ้างงาน เมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจะตัดทิ้ง 40% มันเป็นไปไม่ได้ ไม่มีเหตุผล การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำมีการปรับแน่นอน แต่จะต้องพิจารณาตามภาวะเงินเฟ้อกับค่าครองชีพแต่ละจังหวัดด้วย ขอให้ทุกคนรอฟังข่าวจากกระทรวงแรงงานเท่านั้น ส่วนข่าวที่ปรากฏออกมาตามสื่อโซเซียลนั้นมาจากกลุ่มเรียกร้องค่าแรง 

ซึ่งเป็นข่าวบิดเบือนไม่เป็นความจริง ผมได้เรียกกลุ่มที่เรียกร้องค่าแรงมาหารือแล้วและได้อธิบายเหตุผลไปทั้งหมดแล้วว่า นายจ้างเคยจ่ายค่าจ้างเดือนละ 1,000,000 บาท ขาดทุนมา 2 ปี พอเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวกลับต้องมาจ่ายค่าจ้างเพิ่มขึ้นเป็น 1.3 - 1.4 ล้านบาท

คนไทยซม! ค่าไฟขึ้น ส่วนเอ็นจีวีตรึงราคาต่อ 3 เดือน

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า จากการประชุม กกพ. เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2565 ได้มีมติให้ปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในรอบเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2565 โดยให้เรียกเก็บที่ 24.77 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 23.38 สตางค์ต่อหน่วย เป็น 4.00 บาทต่อหน่วย

ปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อค่าเอฟทีมาจากผลกระทบสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งส่งผลต่อวิกฤตราคาพลังงานโลกเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ทำให้ กกพ. ต้องปรับสมมุติฐานการประมาณการค่าเอฟทีใหม่ให้สะท้อนราคาเชื้อเพลิงในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งเป็นปัจจัยลบเพิ่มเติมจากสถานการณ์ที่ก๊าซธรรมชาติ (LNG) ในอ่าวไทยลดลงในช่วงปลายสัมปทาน

รู้ไหม? ชื่อเดิมของ 'มาม่า' คือ 'เพรซิเดนท์'

'ยำมาม่า, มาม่าผัด, ลาบมาม่า หรือแม้แต่การต้มมาม่า' นั้น คงเป็นเมนูติดใจของใครหลายคนมานานจากซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ 'มาม่า'

แต่ทราบหรือไม่ว่าเดิมที 'มาม่า' นั้นชื่อว่า 'เพรซิเดนท์' ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับบริษัทไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ในปัจจุบันที่เป็นผู้ผลิต 'มาม่า'

แล้วชื่อ 'มาม่า' เกิดขึ้นมาได้อย่างไร? 

ย้อนไปเมื่อ ช่วงปี 2500 – 2510 ซึ่งเป็นยุคที่สังคมไทยมีความเป็นเมืองมากขึ้น รสนิยมและวิถีชีวิตด้านการรับประทานอาหารของคนไทยเริ่มเปลี่ยนไปมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น

โดยในช่วงเริ่มต้น 'มาม่า' เป็นสินค้าที่มีราคาใกล้เคียงกันกับอาหารหรือก๋วยเตี๋ยวในช่วงเวลานั้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top