Friday, 27 June 2025
Hard News Team

ศบค.ถกเคาะ ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2 เดือน เม.ย.-พ.ค. พร้อมปรับพื้นที่สีคุมโรคใหม่ สีส้ม 21 จังหวัดยังห้ามดื่มน้ำเมาในร้าน  ส่วนสีเหลือง 47 จังหวัด ก๊งได้ถึง 5 ทุ่ม สีฟ้า 9 จังหวัด   

เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 18 มี.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล รายงานข่าวจากที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด 19 (ศบค.) ระบุว่าในที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. มีการพิจาณาขยายระยะเวลา ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 17 ) เพื่อเอื้อต่อการบริหารจัดการด้านสาธารณสุข และควบคุมการติดเชื้อโรคโควิด 19 ไม่ให้เกินขีดความสามารถของระบบสาธารณสุข เพื่อเตรียมความพร้อมอยู่กับโรคโควิด 9 ในระยะยาว

รวมถึงการบริหารจัดการการเดินทางสัญจรข้ามจังหวัด และการรวมกลุ่มทางสังคมของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมถึงการบริหารจัดการชายแดน การป้องกันการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้านจึงมีการพิจารณาขยายระยะเวลาพ.ร.ก.ฉุกเฉิน คราวที่ 17 ออกไปอีก 2 เดือน จากวันที่ 1 เม.ย. -31 พ.ค. 2565 

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการพิจารณาปรับลดระดับพื้นที่โซนสีจากพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) เดิม 44 จังหวัด ปรับลดเหลือ 21 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) เดิม 25 จังหวัด เพิ่มเป็น 47 จังหวัด พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) จาก 8 จังหวัด เพิ่มเป็น 9 จังหวัด ทั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. เป็นต้นไป โดยพื้นที่สีส้มอนุญาตให้ร้านอาหารทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหารสามารถรังรับประทานในร้านได้ เปิดได้ตามปกติ แต่ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน ส่วนพื้นที่สีเหลือง สามารถรับประทานอาหารในร้านได้ เปิดได้ตามปกติ ส่วนการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านจำกัดเวลาไม่เกิน 23. 00 น.  

สำหรับพื้นที่ สีส้ม 21 จังหวัดได้แก่ เชียงใหม่ ตาก นครนายก นครปฐม นครราชสีมา  นครศรีธรรมราช บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ พระนครศรีอยุธยา พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก ระนอง ระยอง ราชบุรี  สงขลา สมุทรปราการ สมุทรสาคร สุราษฎร์ธานี อุดรธานี อุตรดิตถ์ 

'รองผบ.ทสส.' ตรวจเข้ม ฝึกอบรมนายทหารประทวนบรรจุ รุ่นที่ 3 พร้อมปลูกฝังอุดมการณ์ การเป็นนายทหารปกครอง

เมื่อวันที่ 18 มี.ค.พล.อ.นเรนทร์ สิริภูบาล รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด (รอง ผบ.ทสส.) เดินทางมาตรวจเยี่ยมการฝึกอบรมนายทหารประทวนบรรจุใหม่ของกองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) รุ่นที่ 3 จำนวน 200 นาย ณ. โรงเรียนเตรียมทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (รร.ตท. สปท.) จ. นครนายก 

รองปลัด ก.แรงงาน เปิดโครงการสัมมนาการยกระดับคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565    

วันที่ 18 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 น. นางบุปผา พันธุ์เพ็ง รองปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมโครงการสัมมนาการยกระดับคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565  เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงแรงงานให้สามารถปฏิบัติงานได้ตรงตามแนวทางการประเมิน ITA และสามารถนำข้อเสนอแนะจากผลการประเมินฯ มาปรับปรุงเพื่อยกระดับการประเมินด้านธรรมาภิบาล และการบริหารจัดการภาครัฐของสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงานอย่างต่อเนื่อง

‘เซเลนสกี’ จะขอปราศรัยต่อรัฐสภาญี่ปุ่น คาดขอใช้ภาพถ่ายดาวเทียมช่วยต้านรัสเซีย

ยูเครนร้องขอใช้ภาพถ่ายดาวเทียมของญี่ปุ่นเพื่อต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย และประธานาธิบดีจะขอกล่าวคำปราศรัยต่อที่ประชุมใหญ่รัฐสภาญี่ปุ่น เพื่อเรียกร้องการสนับสนุน

รัฐบาลยูเครนได้แจ้งต่อกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ขอให้นายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ปราศรัยต่อรัฐสภาญี่ปุ่นผ่านระบบวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ เพื่อขอการสนับสนุนยูเครนจากนานาชาติ หลังจากเขาได้ปราศรัยต่อรัฐสภาของสหรัฐฯ และหลายชาติยุโรปมาแล้วรัฐบาลญี่ปุ่นมีท่าทีตอบรับข้อเสนอของยูเครน คณะกรรมาธิการกิจการรัฐสภาจากทั้งพรรครัฐบาลและฝ่ายค้านกำลังดำเนินการเพื่อจัดเตรียมระบบออนไลน์ โดยแทบจะไม่เคยมีผู้นำต่างชาติที่ได้ปราศรัยต่อที่ประชุมใหญ่รัฐสภาญี่ปุ่น

คาดว่าเรื่องสำคัญที่ผู้นำยูเครนจะร้องขอต่อญี่ปุ่น คือ ขอใช้ภาพถ่ายความละเอียดสูงจากดาวเทียมญี่ปุ่น เพื่อจับตาความเคลื่อนไหวของกองทัพรัสเซีย

ญี่ปุ่นมีดาวเทียมหลายดวงที่ใช้เทคโนโลยี synthetic aperture radar (SAR) สามารถจับภาพได้ทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน ในทุกสภาพอากาศ และยังจับภาพได้แม้มีสิ่งบดบังในชั้นบรรยากาศ ดาวเทียมเหล่านี้มีทั้งที่ดำเนินการโดยหน่วยงานของรัฐและเอกชนญี่ปุ่น หน่วยงานของรัฐบาลญี่ปุ่นที่มีภาพถ่ายดาวเทียมความละเอียดสูง คือ สำนักงานสำรวจอวกาศแห่งญี่ปุ่น หรือ จั๊กซา

'เกษตรฯ' ดันแผนบริหารผลไม้ภาคตะวันออกรับฤดูกาลเก็บเกี่ยว

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในช่วงระหว่างนี้เรื่อยไปจนถึงประมาณเดือนกันยายน เป็นช่วงที่ผลไม้ภาคตะวันออกให้ผลผลิต ผลไม้สำคัญหลายชนิดโดยเฉพาะทุเรียน มังคุด และเงาะ ปีนี้ให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา คาดว่าผลผลิตทุเรียนปีนี้อยู่ที่ประมาณ 744,549 ตัน มังคุด 210,864 ตัน และเงาะ 210,646 ตัน 

มีสาเหตุเนื่องมาจากหลากหลายปัจจัย ทั้งสภาพอากาศที่เหมาะสม จำหน่ายได้ราคาดีตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา จูงใจให้เกษตรกรหันมาปลูกและบำรุงรักษาผลไม้ดังกล่าวกันมากขึ้นเพื่อให้ได้ผลผลิตดีมีคุณภาพ และเพื่อเป็นการรักษาคุณภาพมาตรฐานของผลผลิตไม้ผลภาคตะวันออกตลอดทั้งฤดูกาล โดยในปี 2564 ที่ผ่านมานั้นไทยสามารถส่งออกผลไม้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้จะเผชิญกับปัญหาการขนส่งโลจิสติกส์จากค่าระวางที่สูงขึ้น การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และการปิดด่านหลายครั้งจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 

ดังนั้นในปี 2565 นี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้กำหนดเป้าหมายในการส่งออกผลไม้ภาคตะวันออกเพื่อเพิ่มศักยภาพการส่งออก สร้างความเชื่อมั่นสู่ผู้บริโภคในประเทศและต่างประเทศและการส่งออกผลไม้ต้อง Zero COVID เท่านั้น โดยกรมส่งเสริมการเกษตร ได้ทำแนวทางและวิธีการปฏิบัติร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับสั่งการให้สำนักงานเกษตรจังหวัดตั้งชุดเฉพาะกิจร่วมกับฝ่ายปกครองในพื้นที่ เพื่อสกัดกั้นทุเรียนอ่อนในจังหวัดแหล่งผลิตที่สำคัญ 

หัวหน้าพรรคเล็ก เปิดเผยหลังร่วมดินเนอร์ 3 ป.บรรยากาศชื่นมื่น ใจถึงใจ ด้านหัวหน้าพรรคไทรักธรรม ระบุ นายกฯ เปรย "หากพวกเราร่วมมือกันทำงาน ก็ไม่มีเหตุผลต้องยุบสภา"

เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2565 นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เปิดเผยหลังร่วมดินเนอร์กับนายกรัฐมนตรีว่า เป็นการหารือแบบใจถึงใจ เป็นกันเอง นายกรัฐมนตรีเปิดโอกาสให้ทุกคนพูดคุย นายกรัฐมนตรียังย้ำว่า เมื่ออยู่ด้วยกันต้องมั่นใจกัน มีอะไรเสนอนายกรัฐมนตรีได้เลย ซึ่งก็ได้มีการเสนอไปแล้ว

ขณะที่ทุกคนที่ถูกเชิญร่วมวงรับประทานอาหารกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ก็มาร่วมดินเนอร์ด้วยและไม่มีสัญญาใจต่อกัน ยืนยันไม่มีการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี ขณะที่ไม่สามารถการันตีได้ 100% ว่า 30 เสียงพรรคเล็กจะสนับสนุนรัฐบาล แต่ทุกพรรคยังมีทิศทางเดียวกัน

ทั้งนี้ ไม่มีการวางตัวผู้ประสานงานระหว่างพรรคเล็กร่วมรัฐบาล แต่ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ดูแลพรรคเล็กมาโดยตลอด ทั้งนี้หากมีโอกาสได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีบ่อยขึ้นก็จะเป็นเรื่องดี

ด้านนายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท เปิดเผยว่า ยังคงให้ความมั่นใจหนุนรัฐบาลไปตลอดรอดฝั่ง ไม่มีการพูดเรื่องยุบสภา หรือโควตารัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีขอให้ร่วมทำงานเพื่อประเทศชาติ ส่วนตัวมองว่าเมื่อพูดคุยกันแล้วเข้าใจกันดี สถานการณ์ชื่นมื่น เป็นกันเอง

“นายกรัฐมนตรีบอกไม่อยากอยู่หรอก เหนื่อยจะตาย จะไปเที่ยวไหนก็ไม่ได้ ไม่อยากตายคาเก้าอี้ และไม่ส่งสัญญาณอยู่ต่อสมัยหน้า ย้ำว่า ไม่ได้หวงตำแหน่ง”

ด้านนายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ มองว่า นายกรัฐมนตรีมีความสามารถที่จะยังดูแลประเทศได้ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบัน

โฆษกรัฐบาลเผย 'นายกฯ' ยินดีที่ข้อตกลงด้าน 'แรงงานไทย-ซาอุดีฯ' เสร็จสมบูรณ์ พร้อมที่จะลงนามปลายเดือนมีนาคมนี้ ช่วยสร้างโอกาสและยกระดับการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานไทย

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ความร่วมมือทางด้านแรงงานระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย มีผลสำเร็จเป็นรูปธรรมมากขึ้น หลังจากกระทรวงแรงงานได้ขานรับนโยบายจากนายกรัฐมนตรี ผลักดันความร่วมมือแรงงานระหว่างทั้งสองประเทศมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนซาอุดีฯ อย่างเป็นทางการครั้งประวัติศาสตร์ จนนำไปสู่การบรรลุข้อตกลงด้านแรงงาน ซึ่งจะลงนามปลายเดือนนี้ 

โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า รัฐบาลโดยกระทรวงแรงงานได้ขับเคลื่อนและผลักดันความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย มาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ที่ทั้งสองประเทศฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยมีจุดประสงค์สำคัญเพื่อให้สามารถจัดส่งแรงงานไปทำงานในซาอุดีอาระเบียได้เร็วที่สุด โดยเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานของไทยได้หารือกับ ดร.อัฎนัน อับดุลลาห์ อัล–นาอีม (H.E. Dr. Adnan Abdullah Mohammed Al Naim) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมซาอุดีอาระเบีย และคณะ ณ โรงแรมอมารี วอเตอร์เกต กรุงเทพฯ ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่ได้กระชับความสัมพันธ์ด้านแรงงานให้แน่นแฟ้น พร้อมเชื่อว่าการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในซาอุดีอาระเบียจะสำเร็จโดยเร็ว โดยทั้งสองฝ่ายได้ข้อยุติด้านข้อตกลงเสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงขั้นตอนการลงนามเพียงอย่างเดียว ซึ่งฝ่ายไทยจะเร่งรัดให้มีการลงนามโดยเร็วที่สุดเพื่อประโยชน์ของพี่น้องคนไทยที่ต้องการไปทำงานที่ซาอุดีอาระเบีย 

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานยังระบุว่า มีแรงงานไทยแจ้งความประสงค์ไปทำงานประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่ลงทะเบียนผ่านระบบ E–service เว็บไซต์ https://toea.doe.go.th แล้วกว่า 1,000 คน ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติ การทดสอบฝีมือแรงงาน และการตรวจสอบตำแหน่งที่สมัคร ให้ตรงตามที่ทางซาอุดีฯ ต้องการ โดยไทยจะเดินทางไปลงนามข้อตกลงในวันที่ 28 มีนาคมนี้ และจะได้ไปเยี่ยมชมโรงงาน ดูสภาพการจ้าง เพื่อเป็นข้อมูลมาเผยแพร่ให้คนไทยได้เห็นสภาพการทำงานที่ซาอุดีฯ อีกด้วย

 “กอ.รมน.” โต้ ฝ่ายการเมือง แจง งบฯ เป็นไปตามระเบียบ เพื่อปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคง

เมื่อวันที่ 18 มี.ค.พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)  เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวการจัดกิจกรรมเสวนาของฝ่ายการเมือง ภายใต้ชื่อโครงการ “ฝ่ายค้านรับฟังปัญหาทั่วไทยเพื่อประชาชน” โดยเนื้อหาพบว่ามีผู้ร่วมเสวนาที่ได้กล่าวถึง เรื่องการใช้จ่ายงบประมาณของ กอ.รมน. ในลักษณะที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง อาทิ มีการกล่าวว่า “กอ.รมน. มีคนไม่ถึง 300 คน แต่มีงบประมาณไปเกือบหมื่นล้าน บางปีหมื่นกว่าล้าน พอเดินเข้าไปดูการใช้จ่ายเงินจะใช้เป็นงบลับ ปีละเกือบ 6,000 ล้าน แล้วงบลับตัวนี้ไม่มาเขียนในระบบงบประมาณแต่ไปซ่อนไว้ และคนใช้งบลับก้อนนี้ก็คือ นายกรัฐมนตรี เป็น ผอ.รมน. กับ ผบ.ทบ.”

พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า การกล่าวถึงตามเนื้อหาข้อความดังกล่าว มีความคลาดเคลื่อนมากจากความเป็นจริง สำหรับข้อมูลความจริงของ กอ.รมน. นั้น ในส่วนของข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงานอยู่กับ กอ.รมน. ในแต่ละปีจะมีอยู่ประมาณ 64,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่ จะเป็นเจ้าหน้าที่ทั้งพลเรือน ตำรวจและทหาร ที่ปฏิบัติงานเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ จชต. ประมาณ 54,000 อัตรา และส่วนที่เหลืออีกประมาณ 10,000 อัตรา จะปฏิบัติงานในพื้นที่ส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ สรุปได้ว่า กอ.รมน. ไม่ได้มีบุคลากรเพียงแค่ไม่ถึง 300 คน   

'น้องแรมโบ้' ซัด 'สุรทิน'  ไม่ไปกินข้าวร่วมนายกฯ ไม่มีใครว่า แต่อย่าหิวแสง เหน็บนายกฯให้เป็นประเด็นการเมือง ย้ำกินข้าวพรรคร่วมหารือแก้ปัญหาบ้านเมือง ส่วนนายสุรทินอยู่กับเจ้าของสวนกล้วยคนไหนใครก็รู้กันทั่วหมดแล้ว

นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายสุรทิน พิจารณ์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปไตยใหม่ ไม่ร่วมรับประทานอาหารกับนายกฯ พร้อมเหน็บว่าลงพื้นที่ช่วยชาวบ้านมีประโยชน์มากกว่า
โดยระบุว่าหากนายสุรทินไม่อยากร่วมรับประทานอาหารกับนายกฯก็ไม่เป็นไรและการลงพื้นที่ก็เป็นเรื่องที่ดี

แต่อยากให้นายสุรทินรู้เอาไว้ว่าการร่วมรับประทานอาหารของนายกฯก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่ได้มีการพูดคุยถึงการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนและประเทศชาติที่กำลังเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้เช่นเดียวกัน

นายชนะศักดิ์ยังระบุว่าไม่แน่ใจว่าตั้งแต่เป็น ส.ส.นายสุรทินได้ลงพื้นที่บ้างหรือไม่ หรือว่ามาลงแค่ช่วงนี้เท่านั้น ทั้งนี้ยังขออย่านำมาเป็นประเด็นทางการเมืองให้เกิดความขัดแย้ง เพราะขณะนี้ไม่ใช่เวลามาเล่นการเมือง

“อยากลงพื้นที่ก็ลงไป แต่ไม่ควรเอามาเหน็บนายกฯแบบนี้ เพราะนายกฯ หรือรัฐมนตรีทุกคนก็เป็นห่วงประชาชนลงพื้นที่ช่วยประชาชนกันทุกคน ซึ่งตนมองว่าน่าจะทำมากกว่านายสุรทินอีก 

'สภาอุตฯ' ชงรัฐ!! เปิดประเทศ ผ่อนปรนมาตรการรับนทท. เชื่อ!! เกี่ยวรายได้กว่า 6 แสนล้านถึง 1 ล้านล้านบาท

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจะเสนอต่อที่ประชุม ศบศ.ในวันพรุ่งนี้ (18 มี.ค. 65) เพื่อพิจารณามาตรการในการเปิดประเทศ เช่น ยกเลิกมาตรการ Test & Go รวมทั้ง การกักตัวและการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ด้วยวิธี RT-PCR (Real Time PCR) โดยปรับมาให้ผู้เดินทางเข้าประเทศแสดงวัคซีนพาสปอร์ต (Vaccine Passport) หรือหลักฐานการฉีดวิคซีน 2 เข็ม ก่อนเข้าประเทศเท่านั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ เสริมสร้างบรรยากาศด้านการท่องเที่ยวของไทย และช่วยดึงเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวเข้ามาประคองเศรษฐกิจในช่วงเวลาเราที่ได้รับผลกระทบทั้งจากการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ที่ผ่านมา และแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

อย่างไรก็ตามจากผลกระทบของการติดเชื่อโอมิครอนที่มีอาการรุนแรงไม่มากนัก ประกอบกับการปรับกลยุทธ์ของภาครัฐที่เตรียมจะปรับให้ COVID-19 เป็นโรคประจำถิ่น (Endemic) จึงคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2565 จะขยายฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปช่วงครึ่งปีหลัง โดยตลอดทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยอยู่ที่ 5.58 - 6 ล้านคน และหากคิดเร็วๆ จะพบว่า รายจ่ายเฉลี่ยต่อหัวที่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาใช้จ่ายในไทยนั้นอยู่ที่ประมาณ 100,000 บาทต่อหัว ซึ่งเท่ากับว่าเราจะมีรายได้เข้าประเทศถึง 558,000 – 600,000 ล้านบาท โดยเฉพาะระหว่างเดือนมีนาคมจนถึงเมษายนนั้น ถือเป็นช่วง High Season ที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเดินทางมาประเทศไทย หากเราเร่งปรับเงื่อนไขต่างๆ ให้สะดวกขึ้น รวมทั้ง การผ่อนปรนกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้กลับสู่ภาวะปกติไม่ว่าจะเป็น การประชุม, สัมมนา, การจัดนิทรรศการ และกิจกรรมสันทนาการต่างๆ ก็มีส่วนสำคัญที่จะเสริมสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top