Friday, 27 June 2025
Hard News Team

“ยุทธพงศ์” แฉ 3ป. - 1 ช. คาดฮั้วประมูลโครงการท่อส่งน้ำฯ ในอีอีซี ให้บริษัทวงษ์สยามฯ แทนบริษัท East Water ยักษ์ใหญ่เรื่องท่อส่งน้ำฯ พร้อมจ่อ ยื่นญัตติซักฟอก 23 พ.ค.นี้ ย้ำ! ต้องทำทันทีกัน “บิ๊กตู่” ยุบสภาหนี พร้อมถามหายาฟาวิพิราเวียร์ หลังชาวบ้านติดโควิดได

ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงว่าการประมูลระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกของกรมธนารักษ์ ซึ่งเป็นท่อส่งน้ำในพื้นที่อีอีซี ที่มีอยู่ 3 เส้นหลักคือเส้นที่ 1 โครงการท่อส่งน้ำดอกกราย - มาบตาพุด - สัตหีบ ที่กรมธนารักษ์ได้จ้าง บริษัท East Water บริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ มาจัดทำบริการโดยสัญญาจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค.2566 เส้นที่ 2 คือโครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล - หนองค้อ และเส้นที่ 3 โครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ - แหลมฉบัง (ระยะที่สอง) ซึ่งทั้งหมดนี้มีความไม่โปร่งใสในการประมูลโครงการ

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า โดยบริษัทที่ชนะประมูลในครั้งนี้ คือ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ซึ่งเสนอส่วนแบ่งให้กับรัฐเป็นค่าแรกเข้าเพื่อทำสัญญา (ชำระปีแรก) 1,450 ล้านบาท และส่วนแบ่งรายได้รายปี 21,335 ล้านบาท รวมทั้งหมด 25,693 ล้านบาท ส่วนบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท East Water เสนอค่าแรกเข้าเพื่อทำสัญญา (ชำระปีแรก) 1,550 ล้านบาท และส่วนแบ่งรายได้รายปี 19,755 ล้านบาท รวมทั้งหมด 24,213 ล้านบาท หมายความว่าบริษัท วงษ์สยาม เสนอให้มากกว่า 1,480 ล้านบาท ความน่าเชื่อถือของบริษัท East Water ซึ่งเป็นบริษัทกึ่งของรัฐบาล เพราะการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ถือหุ้นอยู่ 40% และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยถือหุ้นอยู่ 5% รวม 2 หน่วยงานถือหุ้นกว่าประมาณ 46% เพราะหากถือเกิน 50% จะเรียกว่ารัฐวิสาหกิจ ซึ่งอาคารที่ทำการก็ใหญ่โต ส่วนบริษัท วงษ์สยาม อยู่ใน ซ.พหลโยธิน 8 อาคารเล็กๆ แต่ว่าประมูลชนะบริษัท East Water 

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับ 3 ป. คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานอีอีซี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในฐานะกำกับแล กปภ. และ 1 ช. คือนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และเลขาธิการพรรค พลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการที่ราชพัสดุ ซึ่งไม่ได้เป็นโดยตำแหน่ง เพราะคนที่เป็นจริงๆ คือนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ซึ่งทั้งหมดมีความเกี่ยวโยงกัน 

นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า หากบริษัท East Water ไม่ได้ชนะประมูลก็จะเจ๊ง และต้องปิดบริษัท ซึ่งหลังแพ้ประมูลราคาหุ้นตกจาก 8.05 บาท เหลือ 7.40 บาท โดยเมื่อวันที่ 14 มี.ค.2565 นายสันติ ประธานกรรมการที่ราชพัสดุให้บริษัทวงษ์สยามชนะประมูลด้วยมติ 6:3 โดยรายชื่อ 6 คนประกอบด้วย 1.นายสันติ 2.นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ 3.ตัวแทนปลัดกระทรวงการคลัง 4.ตัวแทนปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 5.ตัวแทนปลัดกระทรวงกลาโหม และ 6.ตัวแทนปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่วนรายชื่อ 3 คนที่ค้าน ประกอบด้วย 1.ปลัดกระทรวงมหาดไทย 2.อธิบดีกรมโยธา และ3.อธิบดีกรมที่ดิน ส่วนอีก 3 คนที่เหลือ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ลาเพื่อหนีการประชุม หมายความว่ามติไม่ได้เป็นเอกฉันท์ และมีปัญหา 

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ดังนั้นในวันพุธ ที่ 23 มี.ค.นี้ ตนจะยื่นเรื่องร้องเรียนต่อนายอาคม ถึงความไม่โปร่งใสของการประมูลโครงการท่อส่งน้ำฯ ที่เปลี่ยนมาให้บริษัท วงษ์สยาม ชนะประมูลแทน เพราะมีการเปลี่ยนทีโออาร์ ทำให้รัฐเสียประโยชน์ คือไปเอาคำว่าบริษัทจะต้องไม่เคยเป็นผู้ทิ้งงานของหน่วยงานของรัฐออก ทุนจดทะเบียนบริษัทจาก 600 ล้านบาท เหลือ 300 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังเปลี่ยนคุณสมบัติสำคัญคือจากเดิมกำหนดไว้ว่าผู้ยื่นข้อเสนอต้องเป็นนิติบุคคลที่มีอาชีพและประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจ และบริหารจัดการท่อส่งน้ำ 

โดยเอาคำว่าท่อส่งน้ำออกไป ทั้งที่เป็นสาระสำคัญ อีกทั้งบริษัท วงษ์สยาม ไม่เคยบริหารจัดการท่อส่งน้ำเลย ตรงข้ามกับ บริษัท East Water ที่มีประสบการณ์บริหารท่อส่งน้ำกว่า 30 ปี รายได้ปีละ 5 พันล้านบาท รวม 30 ปีรายได้ 1.5 แสนล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ บริษัทวงษ์สยาม ได้ยื่นประมูลโครงการโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์กับการประปานครหลวง มูลค่า 6.4 พันล้านบาท แต่ไม่ผ่านการคัดเลือกคุณสมบัติ แต่กลับมาชนะประมูลโครงการท่อส่งน้ำฯ ที่มีบริษัท East Water เป็นคู่แข่ง จึงเป็นเรื่องที่น่าสงสัย โดยหากมีความผิด นายอาคมต้องรับผิดชอบที่มอบหมายให้นายสันติดูแลเรื่องนี้

'กรณ์' ลงภูเก็ต ควงผู้สมัครทำงานต่อเนื่อง ย้ำยุทธศาสตร์ภูเก็ตจัดการตนเอง ชี้เป็นทางรอดด้านเศรษฐกิจและโอกาสทำกิน ยุคหลังโควิด

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2565 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อมด้วยนายเทมส์ ไกรทัศน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดภูเก็ต ได้เข้าร่วมงาน กับสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดอันดามัน เรื่องการใช้ Digital Hub พัฒนาการท่องเที่ยว จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ โดยย้ำถึง นโยบายสำคัญต่อภูเก็ตว่า พรรคกล้ามีความชัดเจนมาแต่แรกว่าสิ่งที่เราจะทำให้ภูเก็ต คือเรื่องของการสร้างโอกาสการทำมาหากิน เศรษฐกิจปากท้อง เป็นหลัก ที่ผ่านมาเราต้องยอมรับว่านโยบาย “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ที่ผ่านมา ถือเป็นนวัตกรรมทางนโยบายซึ่งเป็นตัวยืนยันว่าภูเก็ต มีโอกาส ศักยภาพ และความต้องการที่แตกต่างกว่าหลาย ๆ จังหวัด ซึ่งควรต้องกำหนดเป็นยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนในยุคหลังโควิด 

นายกรณ์ กล่าวว่า การเปิดโอกาสให้ภูเก็ตบริหารตัวเองได้ ก็จะสามารถกำหนดนโยบายได้อย่างแม่นยำ ทันต่อสถานการณ์และทันต่อความต้องการ คนภูเก็ตต้องได้บริหารงบประมาณของตนเอง ภาษีที่เก็บได้ต้องเข้าจังหวัดมากขึ้น สามารถกำหนดยุทธศาสตร์และนโยบายที่เป็นอนาคตที่เหมาะสมของตัวเองได้ และควรได้เลือกผู้ว่าฯ เลือกผู้บริหารเมืองได้เอง รวมถึงการปฏิรูประบบราชการล้าหลังด้วยเทคโนโลยีสามารถทำทุกอย่างได้บนมือถือจะสามารถลดขั้นตอนและเวลาในการติดต่อราชการที่ล่าช้า  ขณะเดียวกันภูเก็ตยังควรบริหารงานตำรวจเอง เวลาเกิดเหตุกับนักท่องเที่ยว สามารถจัดการกันได้ในพื้นที่ ไม่ต้องขึ้นกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคกล้า ยังมองถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังเกิดสงคราม ยูเครน รัสเซีย โดยมองว่า หลายอย่างจะเปลี่ยนไป ทั้งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความเป็นมิตรประเทศ ประเทศคู่ค้ากัน ผลของค่าของชีพ ซึ่งเราได้รับผลกระทบแล้วจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อราคาสินค้าหลายชนิด และมันจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกมากมาย สะท้อนถึงความสำคัญของความยืดหยุ่นที่ต้องมี ในการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมกับตัวเรา และนี่คืออีกสาเหตุที่ต้องให้ภูเก็ตมีการบริหารที่มีความยืดหยุ่นได้ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที และเมื่อเปลี่ยนแปลงไปแล้ว โอกาสที่จะทำให้ ประเทศไทย และภูเก็ต

หวั่นโชว์โง่รอบสอง! ‘โจ้ ยุทธพงศ์’ หวั่น ทร.เจ็บซ้ำ ปม ทุ่ม 4 พันล้านซื้อโดรนไร้คนขับ!

(19 มี.ค. 65) ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงว่างบประมาณรายจ่ายประจำปี 65 กองทัพเรือตั้งงบเพื่อซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำแต่ถูกกรรมาธิการ (กมธ.) ตัดงบประมาณไป 2.25 หมื่นล้านบาท แต่ยังมีการจัดงบซื้อ Hermers 900 อากาศยานไร้คนขับอีก 4.1 พันล้านบาท 

ซึ่งระหว่างที่มีการพิจารณางบประมาณปี 65 ตนได้ออกมาคัดค้านเรื่องนี้ เพราะไม่มีเหตุผลที่กองทัพเรือจะต้องซื้อโดรน โดยช่วงแรกกองทัพเรือได้ให้ใบเสนอราคาของ 2 บริษัท ส่งมาที่ กมธ. คือ บริษัทแรกคือ China National Aero-Technology Import & Export Corporation หรือ CATIC จากประเทศจีน ซึ่งเสนอ UAV แบบ Wing Loong ll จำนวน 3 ลำมาให้กองทัพเรือ แต่วันนี้กลับถอย และไม่กล้าซื้อ เพราะเคยซื้อเรือดำน้ำจากจีน 3 ลำแต่ไม่มีเครื่องยนต์ และกองทัพเรือก็ยังไม่ชี้แจงที่ให้ครูสอนภาษาจีนมาทำท่าจอดเรือดำน้ำ ทั้งนี้ตนยังได้ข้อมูลลับเกี่ยวกับท่าจอดเรือดำน้ำที่มีความผิดปกติมาด้วย 

 ลดความสูญเสียให้น้อยที่สุด! ‘หมอยง’ ย้ำ ‘วัคซีนยังจำเป็น’ โดยเฉพาะ ‘กลุ่มเสี่ยง-ผู้สูงอายุ’!

(19 มี.ค.65)  ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ระบุว่า...

“ โควิด 19 วัคซีน การลังเลในการรับวัคซีน

ยง ภู่วรวรรณ 19 มีนาคม 2565

การรับวัคซีน covid 19 เป็นไปโดยสมัครใจ จะเลือกวัคซีนชนิดใด ก็สามารถทำได้
การให้ความรู้ที่ถูกต้อง เกี่ยวกับวัคซีน ประโยชน์ในการได้รับวัคซีน และอาการไม่พึงประสงค์
การตัดสินใจ อยู่กับผู้รับ ไม่ได้มีการบังคับ โดยคำนึงถึง น้ำหนักของประโยชน์และความเสี่ยงมาเปรียบเทียบกัน

ผมจะข้ามถนนที่สีลม ความเสี่ยงที่เกิดขึ้น มีแน่นอน ความจำเป็นที่จะต้องข้ามถนน ก็ต้องตัดสินใจ ความเสี่ยงในการข้ามถนนที่สีลม อาจจะมีมากกว่าความเสี่ยงจากการได้รับวัคซีน เราจะเห็นได้จากอุบัติเหตุทางท้องถนน

กลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะที่เราเรียกว่า 608 คือผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เมื่อติดเชื้อโควิด 19 จะทำให้เกิดความรุนแรง ต้องนอนโรงพยาบาล หรืออาจจะเข้า ICU และอาจทำให้ถึงชีวิตได้

ดังที่เราเห็นยอดการเสียชีวิตทุกวันนี้ ส่วนใหญ่ เป็นผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัวเรื้อรัง
กลุ่มดังกล่าวจึงมีความจำเป็น ที่จะต้องได้รับการป้องกัน และดูแลเป็นพิเศษ สิ่งหนึ่งในการลดความรุนแรงคือ วัคซีน

ทั่วโลกขณะนี้ฉีดวัคซีนไปแล้ว 11,000 ล้านโดส วัคซีนขณะนี้มีเพียงพอ ให้เลือกชนิดของวัคซีนได้เลย
เราจะต้องอยู่กับ โควิด 19 จำเป็นที่จะต้องลดความสูญเสียให้น้อยที่สุด”

ที่มา :เฟซบุ๊ก Yong Poovorawn

https://siamrath.co.th/n/332426

ดักคอไว้ก่อน! ‘ไบเดน’ ปราม ‘จีน’ ห้ามหนุน ‘รัสเซียรบยูเครน' ด้านผู้นำจีน ‘ไม่รับปาก’ พร้อมซ้ำ ‘สหรัฐฯ’ ต้นตอวิกฤต!

วันนี้ (19 มี.ค. 65) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน หารือกันผ่านวิดีโอนาน 110 นาที ซึ่งเป็นการสนทนากันครั้งแรก ตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อปลายเดือนที่แล้ว

โฆษกทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ไบเดนใช้โอกาสนี้ แจ้งให้ผู้นำจีน ทราบถึงผลกระทบที่จะตามมาหากเลือกจะช่วยรัสเซีย ไม่ว่าจะเป็นความช่วยเหลือทางการทหาร หรือทางเศรษฐกิจ ถือเป็นการปราม ดักคอ เพราะก่อนหน้านี้ Financial Times และ New York Times รายงานว่า รัสเซียได้ร้องขอความช่วยเหลือในด้านการทหารและทางเศรษฐกิจจากจีน สร้างความไม่พอใจให้สหรัฐฯ อย่างมาก แม้ว่ารัสเซียกับจีนจะปฏิเสธ

'บิ๊กตู่' ย้ำ ให้รีบฉีดวัคซีน 'ลดป่วย ลดตาย' ขอให้ กลไก อสม. กระตุ้น พร้อม รองรับสงกรานต์

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในไทยแม้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องแต่ยังน้อยกว่าหลายประเทศในอาเซียนและของโลก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เสนอแนะให้ อสม. เป็นกลไกสำคัญในระดับพื้นที่เชิญชวนบุคคลใกล้ชิด คนในชุมชน รวมทั้งกลุ่ม 608 คือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีโรคประจำตัว  และหญิงตั้งครรภ์ เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ได้มากกว่าร้อยละ 70 เพื่อลดอาการรุนแรงและการเสียชีวิตหากติดเชื้อ รวมทั้งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่รองรับเทศกาลสงกรานต์ หรือปีใหม่ไทยที่กำลังจะมาถึง

นายธนกร กล่าวว่า ศบค. ย้ำมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ โดยเฉพาะการเตรียมตัวก่อนร่วมงานว่าประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา เข้าร่วมงานสงกรานต์ และกลุ่ม 608 ต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่กำหนด มีการประเมินความเสี่ยงของตนเอง ขอให้หลีกเลี่ยงการเข้าร่วมงาน หรือให้พิจารณาตรวจ ATK ก่อนเดินทาง หรือก่อนร่วมงานภายใน 72 ชั่วโมง ขณะเดินทางโดยขนส่งสาธารณะ ต้องเข้มงวดการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ และงดรับประทานอาหาร 

นายธนกร กล่าวว่า สำหรับผู้จัดงาน และกิจการกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับงานสงกรานต์ให้ลงทะเบียนบนระบบ TSC2+ และประเมินตนเองตามประเภทมาตรการ COVID Free Setting ได้แก่ การจัดกิจกรรมพิเศษ (แสดงคอนเสิร์ต แสดงดนตรี งานอีเวนต์ งานเทศกาล มหกรรม) การจัดกิจกรรมรวมกลุ่มในชุมชน ศาสนสถาน ร้านอาหาร ขนส่งมวลชนสาธารณะ ซึ่งการขออนุญาตจัดงานให้เป็นไปตามเขตพื้นที่สถานการณ์ หรือตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร กำหนด ระหว่างช่วงงานสงกรานต์ กรณีพื้นที่จัดงานสงกรานต์ที่มีการจัดเตรียมสถานที่และควบคุมกำกับนั้น อนุญาตให้เล่นน้ำ และจัดกิจกรรมตามประเพณี เช่น รดน้ำดำหัว สรงน้ำพระ การแสดงทางวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น ขบวนแห่ การแสดงดนตรีพื้นบ้าน โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting และมีการกำกับอย่างเคร่งครัด  ห้ามประแป้ง ปาร์ตี้โฟม จำหน่ายและบริโภคแอลกอฮอล์ในพื้นที่จัดงาน  พื้นที่สาธารณะไม่มีการควบคุม เช่น ท้องถนน ห้ามเล่นน้ำ ประแป้ง และปาร์ตี้โฟม 

ส่วนมาตรการหลังกลับจากสงกรานต์ว่า ให้สังเกตอาการตนเอง 7 วัน  หากพบว่ามีอาการสงสัยติดเชื้อให้ทำการตรวจ ATK และขอให้หลีกเลี่ยงการพบปะผู้คนจำนวนมากโดยไม่จำเป็นพิจารณามาตรการ WFH ให้เป็นไปตามความเหมาะสม

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีห่วงใยในกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่ม 608 และกลุ่มเด็ก (5 - 11 ปี) ที่พบว่ามีการเข้ารับการฉีดวัคซีนเข้มกระตุ้นน้อยอยู่ จึงขอความร่วมมือผู้ที่ยังไม่เข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นรีบเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นโดยเร็วด้วย เพราะจะ “ลดป่วย ลดตายได้ ต้องมารับวัคซีน” พร้อมขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนร่วมกันเร่งประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจ และการปฏิบัติตัวที่เหมาะสม ถูกต้องให้กับประชาชนเพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับโควิด-19 ได้อย่างปลอดภัย (Living with COVID-19) 

เรื่องนี้พี่ไม่พลาด! ‘ศรีสุวรรณ’ ร้อง มส.-พศ. สอบ ‘พระอุเทน’ ปม เลี่ยงบาลีบวช ‘โยคีปอ-เบิร์ต’ เป็นกิจของวงฆ์หรือไม่

(19 มี.ค. 65) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 19 มี.ค.นี้สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังมหาเถรสมาคม(มส.) ผ่านสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กรณีพระอุเทน สิริสาโร เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ ได้ทำการบวชพราหมณ์ให้กับ 2 ผู้ต้องหาในคดีอาญาที่เป็นข่าวครึกโครมอยู่ในขณะนี้ มีเจตนาที่จะเลี่ยงบาลี ที่จะไม่ปฏิบัติตามกฎมหาเถรสมาคม (มส.) ฉบับที่ 17 พ.ศ.2536 หรือไม่

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ข้ออ้างที่ว่ามิใช่เป็นการบวชพระแต่เป็นแค่การบวชพราหมณ์นั้น ไม่อาจรับฟังได้ เนื่องจากการบวชพราหมณ์เป็นกิจของศาสนาพราหมณ์ ที่กำหนดไว้ว่าการบวชสามารถกระทำได้ในวันเดียวในรอบปี คือวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 4 เท่านั้น และห้ามโกนผม โกนคิ้ว ที่สำคัญผู้บวชจะต้องมีเชื้อสายพราหมณ์ โดยบรรพบุรุษจะต้องบวชพราหมณ์สืบเนื่องอย่างไม่ขาดสายคือพ่อจะต้องบวชพราหมณ์ ลูกจึงจะบวชพราหมณ์ได้ โดยจะต้องเรียนท่องบทสวดคัมภีร์ของพราหมณ์ให้ได้ก่อนถึงวันบวช เมื่อบวชพราหมณ์แล้วจะต้องถือเพศเป็นพราหมณ์ ครองผ้าขาวตลอดชีวิต ลาสิกขาจากเพศพราหมณ์ไม่ได้จนสิ้นอายุขัย หรือเสียชีวิตก่อนวัยด้วยเหตุต่างๆ เท่านั้น

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การที่เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ แสร้งบวชพราหมณ์ให้กับ 2 ผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญา แต่กลับมีวัตรปฏิบัติดั่งเช่นนักบวชในพุทธศาสนา เช่น การปลงผม โกนคิ้ว นั่งกรรมฐาน เดินธุดงค์ ถือกรดสะพายบาตร แถมยังมีการนำไปทำพิธีแก้กรรมปลดปล่อยวิญญาณกลางสุสานอีกด้วยนั้น ไม่ใช่ลักษณะของนักบวชในศาสนาพราหมณ์ 100% หากแต่น่าจะเป็นเล่ห์ฉลหรือการเลี่ยงบาลี เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญา นำไปประกอบในการใช้ต่อสู้ในชั้นศาลเพื่อขอลดหย่อนโทษทางอาญาหากศาลพิพากษาว่ามีความผิดเท่านั้น

'รัฐบาล' เดินหน้า สื่อสารเชิงรุก-สร้างสรรค์ เป็นกลไก สู่การพัฒนาสร้างสันติสุขพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า การประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนกลไกการบริหารการสื่อสารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (อกส.จชต.) เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมสันติสุขและความมั่นคงในพื้นที่ รัฐบาลมีความเชื่อมั่นว่าการสร้างความเข้าใจ ความไว้เนื้อเชื่อใจ ความหวัง และสันติสุขจะเกิดขึ้นได้อย่างยั่งยืน จะต้องมาจากการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เป็นความจริง ทันต่อเวลา ตรงกับความสนใจของประชาชน และสื่อสารสองทาง 

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ที่ประชุมร่วมกันวางแผน และวิเคราะห์การทำแผนการสื่อสารแบบครบวงจร เพื่อยกระดับการประชาสัมพันธ์ เน้นการมีส่วนร่วมของเยาวชนและกลุ่มสตรีให้มากยิ่งขึ้น สร้างความเชื่อมั่น ความเข้าใจ ของประชาชนทั้งใน นอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และองค์กรต่างประเทศ เกี่ยวกับสถานการณ์ การดำเนินโครงการพัฒนา และชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน โดยกรมประชาสัมพันธ์ ในฐานะหน่วยงานหลักที่ดูแลด้านการสื่อสาร จะมุ่งเน้นการทำความเข้าใจและการชี้แจงด้วยความชัดเจน รวดเร็ว ผลิตสาระและเผยแพร่ผ่านช่องทางที่ให้ตรงกับกลุ่มเป้า 

'นายกฯ' ให้ ก.ท่องเที่ยว ดูแลความปลอดภัย-ช่วยเหลือ นทท.รัสเซียและยูเครนในไทยอย่างใกล้ชิด สุดความสามารถ

เมื่อวันที่ 19 มี.ค.นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ติดตามการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวรัสเซียและยูเครนในประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศอย่างใกล้ชิด ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประเมินว่ามีนักท่องเที่ยวที่ตกค้างในไทยประมาณ 8,000 คน เป็นชาวรัสเซียประมาณ 7,000 คน และยูเครนประมาณ 1,000 คน โดยส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดภูเก็ตและสุราษฎร์ธานี โดยได้ให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ อาทิ จัดหาระบบชำระเงินทางเลือกอื่นรองรับ จัดหาที่พักระหว่างนักท่องเที่ยวหาเที่ยวบินกลับประเทศ และจัดหาล่ามประจำโทรศัพท์สายด่วน 

นายธนกร กล่าวว่า การขอความช่วยเหลือส่วนมากเป็นการขอขยายเวลาพำนักในประเทศ ซึ่งทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ประสานความร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทยอย่างใกล้ชิด สำหรับการให้ความช่วยเหลือกรณีเที่ยวบินถูกยกเลิก นักท่องเที่ยวสามารถเปลี่ยนไปใช้สายการบินประเทศที่สาม อาทิ สายการบิน Qatar Airways และ Turkish Airlines ในการเดินทางได้ นอกจากนี้ หากจำเป็น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายังพร้อมสนับสนุนการจัดหาที่พัก อาหาร และความช่วยเหลืออื่น ๆ ให้แก่นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียและยูเครน

นายธนกร กล่าวว่า สำหรับผลกระทบเรื่องการชำระเงิน กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เร่งประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวที่ประสบปัญหาทราบว่าสามารถโอนเงินผ่านเครือข่ายอื่นนอกจาก Swift ได้ เช่น TransferWise, Western Union และ MoneyGram เป็นต้น ซึ่งมีการให้บริการผ่านทั้งธนาคารพาณิชย์ (ไทยพาณิชย์ กสิกรไทย และออมสิน) และช่องทางที่ไม่ใช่ธนาคาร (สวัสดีช้อป เซ็นทรัล และไปรษณีย์ไทย) 

นายธนกร กล่าวว่า หน่วยงานของไทยได้ประสานผ่าน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่ 1) ธนาคารพาณิชย์ โดยขอให้ช่วยดูแลนักท่องเที่ยวที่เข้ามาติดต่อ 2) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยขอให้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลไปยังเครือข่ายผู้ประกอบการท่องเที่ยว 3) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ตและสมาคมโรงแรมภาคใต้ เพื่อให้คำแนะนำนักท่องเที่ยวโดยตรง

“เทพไท” เชื่อ กมธ.ผ่านฉลุยให้เปิดคาสิโน เตือน ระวังขั้นทำประชามติ ไม่มั่นใจเสียงส่วนใหญ่เอาด้วยหรือไม่ 

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) การจัดเก็บรายได้ และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมาย และมาตรการในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย การแพร่ระบาดของตู้เกมพนันไฟฟ้า และการพนันออนไลน์ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง การพิจารณาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร ว่าได้เชิญ นายณัฐกร วิทิตานนท์ นักวิจัยศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน และอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มานำเสนอข้อมูลต่อ กมธ.ฯ

โดยมีข้อสรุปและข้อสังเกต ถึงสภาพปัญหาการจัดตั้งสถานบันเทิงแบบครบวงจร ใน 3 ประเด็น คือ 1.ข้อเท็จจริงปรากฏว่าในอาเซี่ยนมีคาสิโน จำนวนที่เยอะมาก รวมแล้วเกือบ 400 แห่ง ตั้งอยู่ใน8ประเทศ มีแค่3ประเทศเท่านั้น ที่ไม่มีคาสิโน คือ บรูไน อินโดนีเซีย และไทย จุดร่วมที่มีเหมือนกัน หนีไม่พ้นต้องการดูดเงินชาวต่างชาติ เสียยิ่งกว่าการป้องกันเงินไหลออกนอกประเทศ  มีเพียง 2 ประเทศเท่านั้น ที่ยอมให้คนสัญชาติตัวเอง เข้าเล่นได้โดยปราศจากเงื่อนไขควบคุม ได้แก่ ฟิลิปปินส์ ติมอร์เลสเต

2.แนวโน้มที่เห็นชัดเจน คือ จำนวนคาสิโน ทั้ง 7 ประเทศในอาเซี่ยน ที่ยอมรับให้คาสิโนถูกกฎหมายลดลง ทั้งจากมาตรการทางกฎหมายที่ต้องการจัดระเบียบธุรกิจพวกนี้ เช่น เมียนมา นโยบายจำกัดจำนวนโดยรัฐ ซึ่งมีอยู่แล้ว เช่น สิงคโปร์ รวมถึงผลกระทบด้านเศรษฐกิจ จากสถานการณ์โควิดโดยเฉพาะกัมพูชา

และ3.ต้นแบบการสร้างแหล่งบันเทิงครบวงจร ที่มีคาสิโนเป็นจุดขาย เพื่อดึงดูดนักพนันต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน อาจไม่ใช่สูตรสำเร็จในการแสวงหารายได้เข้าประเทศง่ายๆอีกแล้ว เนื่องด้วยปัจจัยจากจีน ประกอบกับในภูมิภาคมีภาวะการณ์แข่งขันกันเองของธุรกิจกลุ่มน้ีสูง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top