Friday, 27 June 2025
Hard News Team

'บิ๊กตู่' ห่วง เครือข่ายวิทยุชุมชน สั่ง อนุชา ประสาน กสทช. ขยายเวลาคงคลื่นความถี่ออกอากาศ 500 วัตต์ ถึงสิ้นปี 67 

วันที่ 17 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรี รับมอบหนังสือแสดงความขอบคุณจากเครือข่ายวิทยุชุมชน ประกอบด้วย องค์กรภาคีเครือข่ายผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชนแห่งประเทศไทย สมาคมสื่อช่อสะอาด สมาคมสภาวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ สำนักงานสมาคมผู้ประกอบการวิชาชีพวิทยุท้องถิ่นไทย โดยมี นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี นายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้แทนจากคณะทำงานนายกรัฐมนตรี ผู้แทนจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้แทนจากกรมประชาสัมพันธ์ ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ผู้แทนจากบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และกลุ่มเครือข่ายวิทยุชุมชน เข้าร่วม

นายอนุชา กล่าวว่า จากกรณีที่เครือข่ายวิทยุชุมชน เคยมีหนังสือถึงศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล เพื่อขอให้พิจารณาระงับ หรือชะลอการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกา ตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2562 มาบังคับใช้ ซึ่งเครือข่ายวิทยุชุมชนจำนวน 3,884 สถานี ทั่วประเทศ เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงให้ออกอากาศที่กำลังส่ง 500 วัตต์ ถึงวันที่ 3 เมษายน 2565 

นายอนุชา กล่าวว่า และจากนั้นให้ออกอากาศด้วยกำลังส่งต่ำเหลือเพียง 50 วัตต์ ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2565 จนถึงปี พ.ศ.2567 จากการลดกำลังส่งดังกล่าว ส่งผลต่อการนำข้อมูลข่าวสารภาคประชาชนออกอากาศในชุมชนต่างๆ ทำให้การสร้างการรับรู้ แก่ประชาชนไม่ทั่วถึง กลุ่มเครือข่ายจึงรวมตัวกัน และส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 

นายอนุชา กล่าวว่า จึงดำเนินการหารือ และประสานงานกับ กสทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อย ภายหลังทาง กสทช. ได้พิจารณาทบทวนเรื่องดังกล่าว จึงได้ออกประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เรื่อง หลักเกณฑ์ว่าด้วยการทดลองออกอากาศวิทยุกระจายเสียงในระบบเอฟเอ็ม โดยให้วิทยุชุมชนผู้ได้รับใบอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง ยังคงออกอากาศที่กำลังส่ง 500 วัตต์ ได้ต่อไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567  

“ประวิตร” ตรวจสถานการณ์น้ำ เมืองแปดริ้ว สั่ง ปรับปรุงเขื่อนทดน้ำบางปะกง ป้องน้ำเค็มรุก 

ที่ศาลากลาง จ.ฉะเชิงเทรา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ(กนช.)พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามและประเมินผล มาตรการรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำฤดูฝนปี2564/2565ในพื้นที่จ.ฉะเชิงเทรา และพื้นที่ภาคตะวันออก รวมถึงภาพรวมการบริหารจัดการน้ำของภาคตะวันออก และแนวทางการควบคุมค่าความเค็มในแม่น้ำบางปะกง 

โดยลุ่มน้ำบางปะกง มีปริมาณน้ำเก็บกัก 1,571 ล้านลบ.ม. ปริมาณน้ำปัจจุบัน 699 ล้าน ลบ.ม.ยังเพียงพอต่อการใช้ในพื้นที่ สำหรับปัญหาน้ำที่ผ่านมา มีทั้งน้ำท่วม และน้ำแล้ง  ซึ่งกำลังได้รับการแก้ไขแล้วตามแผนงาน อย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันมีปัญหาการรุกตัวของน้ำเค็ม ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำเพื่อการดำรงชีวิตของประชาชน และภาคการเกษตร ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไข ต่อไป

พล.อ.ประวิตร กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่ง ว่า เร่งรัดการดำเนินงาน บริหารจัดการน้ำในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา จากปัญหาการรุกตัวของน้ำเค็มในแม่น้ำบางปะกง ส่งผลกระทบต่อประชาชนในการใช้น้ำอุปโภคบริโภค และผลกระทบจากความต้องการใช้น้ำจืดมากขึ้น ทั้งภาคการเกษตร อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว รวมทั้งเตรียมความพร้อมสำหรับภาคการลงทุนอีอีซี โดยบูรณาการร่วมกับทุกส่วนราชการ เพื่อขับเคลื่อนแผนหลักการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก ทั้งในระยะเร่งด่วน และระยะยาว อย่างเป็นระบบให้เกิดเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งเร่งรัดซ่อมแซมเขื่อนทดน้ำบางประกง ให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อใช้เป็นกลไกหลักควบคุม การป้องกันน้ำเค็มรุกให้เต็มประสิทธิภาพ และพร้อมช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำและจากวิกฤตโควิด-19 ด้วย และพร้อมให้ความช่วยเหลือเยียวยาอย่างเต็มที่ 

'ศาลโลก' ตัดสิน!! ให้รัสเซียหยุดโจมตียูเครนทันที แต่จะหยุดหรือไม่ 'ศาล' ก็ไม่มีอำนาจในการบังคับ

วานนี้ (16 มี.ค.65) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก ซึ่งเป็นองค์กรด้านตุลาการของสหประชาชาติ หรือ UN ได้มีคำตัดสินให้รัสเซียหยุดการโจมตียูเครนโดยทันที

สำหรับคณะผู้พิพากษาชุดปัจจุบัน มีจำนวน 15 คน ประกอบด้วยผู้พิพากษาจากสหรัฐฯ รัสเซีย สโลวาเกีย ฝรั่งเศส โมร็อกโก บราซิล โซมาเลีย จีน ยูกันดา อินเดีย จาเมกา เลบานอน ญี่ปุ่น เยอรมนี และออสเตรเลีย โดย 2 เสียงที่โหวตไม่เห็นด้วยก็คือผู้พากษาจากรัสเซียและจีน

คำตัดสินดังกล่าว กำหนดให้มีมาตรการชั่วคราว คือ สั่งให้รัสเซียระงับปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ไม่ให้กองกำลังของรัสเซียดำเนินการทางทหารต่อไป และห้ามไม่ให้รัสเซียดำเนินการใดๆ ที่จะทำให้ความขัดแย้งรุนแรงยิ่งขึ้น

12 หน่วยงานลงนามความเชื่อมโยงบริการสุขภาพคนไทย “บิ๊กตู่” ย้ำ คนไทยทุกคนต้องได้รับการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพทั่วถึงและเที่ยงธรรม “ลั่น” เจ็บป่วยที่ไหนแพทย์สามารถตรวจสอบประวัติและทำการรักษาได้ทันท่วงที

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 มี.ค. ที่ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการพัฒนาเพิ่มคุณภาพการบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล ผ่านระบบ Video Conference โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิจัยและนวัตกรรม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตัวแทนจากกรุงเทพมหานคร ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือ"โครงการพัฒนาเพิ่มคุณภาพการบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล" กับ 12 หน่วยงานภาคีเครือข่าย ไปยังศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีต่อการพัฒนาด้านสาธารณสุขไทย ขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ซึ่งจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคไวรัส โควิด-19 ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชน แต่ยังส่งผลกระทบและสังคมของประเทศ ซึ่งเป็นเหตุผลและแรงขับเคลื่อนที่สำคัญที่เราต้องเร่งพัฒนาระบบบริการและการบริหารจัดการของประเทศในทุกด้านให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะระบบการบริการสุขภาพประชาชนซึ่งถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของประเทศ สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบบบริการ จัดการ ระบบสาธารณสุขของประเทศคือเทคโนโลยีในการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ หรือบิ๊กเดต้า โดยการนำข้อมูลขนาดใหญ่ มาช่วยในการบริหารจัดการและการวิเคราะห์เพื่อพัฒนางานบริการจะต้องอาศัยการเชื่อมโยงกับข้อมูลและการแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ 

“ ขอขอบคุณกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการอุดมศึกษาฯ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงกลาโหมกระทรวงการคลังกระทรวงแรงงานและในทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้นำร่องการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพผ่านระบบ เฮลท์ลิ้งค์ (HealthLink)ซึ่งปัจจุบันมีโรงพยาบาลกว่า 100 แห่ง ที่เข้าร่วมและสามารถเชื่อมต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลได้สำเร็จ ทำให้ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการมีความสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้น เพราะไม่ว่าจะเจ็บป่วยไปรักษาที่ได้ แพทย์สามารถตรวจสอบประวัติการรักษาและให้การรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ ได้เพิ่มมากขึ้น ขอขอบคุณคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข ที่มีส่วนร่วมสำคัญในการผลักดันการปฏิรูประบบบริหารจัดการฐานข้อมูลและการสื่อสารของประเทศให้มีประสิทธิภาพสามารถรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาด ทั้งในปัจจุบันและอนาคต สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการบริการและความมั่นคงด้านสุขภาพของประชาชน ซึ่งหวังว่าระยะต่อไปทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันผลักดันให้เกิด แพลตฟอร์มกลางการเชื่อมโยงฐานข้อมูลสุขภาพของประเทศขึ้น ซึ่งจะสามารถสร้างรากฐานระบบสาธารณสุขของประเทศให้ก้าวหน้าต่อไป”นายกรัฐมนตรีกล่าว

"นายกฯ" ปฏิบัติตามมาตรการป้องโควิด ขั้นสูงสุด ชมหน่วยงานรัฐ-เอกชน จับมือ ฉีดวัคซีนฟรี ให้ปชช.

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกล่าวย้ำว่าภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้ระดับอาการไม่รุนแรงแต่ขอทุกคนให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข ส่วนบุคคลขั้นสูงสุดและเร่งเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์และวัคซีนเข้มกระตุ้นโดยเร็ว เพื่อลดอาการความรุนแรงจากการติดเชื้อและลดความเสี่ยงจากการเสียชีวิต พร้อมขอบคุณและชื่นชมขณะนี้หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันสนับสนุนและสร้างภูมิคุ้มกัน ด้วยบริการฉีดวัคซีนฟรี ให้แก่ประชาชนทั่วไปด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีในการที่จะร่วมกันสร้างภูมิคุ้มหมู่ของประเทศให้มากขึ้น เช่น บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ร่วมกับ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) (CK) ร่วมกันบริการฉีดวัคซีน “Moderna” ฟรี ให้แก่ประชาชนทั่วไป จำนวน 3,000 คน ภายใต้โครงการ “BEM ห่วงใย สู้ภัยโควิด-19”  

‘กรณ์’ ชี้!! คนรุ่นใหม่ อยากเห็นระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่น ไม่ทุ่มซื้อคุณภาพด้วยเงินล้าน - เรียนเรื่องไม่มีประโยชน์

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับเรื่องการเติมพลังคนรุ่นใหม่ ว่า เมื่อคืนนี้ล้อมวงคุยนิสิตจุฬาฯ สนุกมากครับ แว่บเดียวเวลาผ่านไป 3 ชั่วโมง หลายคนเป็นสายเทค แทบทุกคนเป็นนักกิจกรรม บางคนเคยร่วมงานกับพรรคการเมืองอื่น

เราคุยกันถึงความเป็นเสรีนิยมประชาธิปไตย ซึ่งเป็นปรัชญาหลักของ พรรคกล้า – KLA Party ที่เน้นการยอมรับความหลากหลาย และการเคารพสิทธิของทุกคนในการเลือกวิธีใช้ชีวิต โดยมีเงื่อนไขสำคัญว่าจะ ‘ต้องไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น’

ผมบอกกับน้องๆ ว่า แต่ละพรรคให้ความสำคัญกับเรื่องที่ต่างกัน เรามองว่าเรื่องที่ต้องมาก่อนคือเรื่อง #เศรษฐกิจปากท้อง โอกาสในการทำมาหากิน และโอกาสในการสร้างเนื้อสร้างตัว เรา #ลงมือทำ ด้วยหลัก #ปฏิบัตินิยม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้

และผมอธิบายอุดมการณ์ของพรรคที่ให้ความสำคัญกับ ชาติ ศาสนา และสถาบันกษัตริย์ ว่าหมายความว่าอย่างไร และเป็นเพราะอะไร

ประกาศเกียรติคุณ วิศวจุฬากิตติคุณอาวุโสดีเด่น ครั้งที่ 8 และวิศวจุฬาดีเด่น ครั้งที่ 17 ประจำปี 2564

ประกาศเกียรติคุณ วิศวจุฬากิตติคุณอาวุโสดีเด่น ครั้งที่ 8 และวิศวจุฬาดีเด่น ครั้งที่ 17  ประจำปี 2564 เชิดชูเกียรตินิสิตเก่าคณะวิศวฯ จุฬาฯ ที่มีคุณงามความดี สร้างคุโณปการต่อสังคมและประเทศชาติ

(16 มี.ค.65)​ ที่โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อค สมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดงานประกาศเกียรติคุณ วิศวจุฬากิตติคุณอาวุโสดีเด่น ครั้งที่ 8 และวิศวจุฬาดีเด่น ครั้งที่ 17 ประจำปี 2564 เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรตินิสิตเก่าคณะวิศวฯ จุฬาฯ ที่มีคุณงามความดี มีจริยธรรมอันดีงาม มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว สังคม ประสบความสำเร็จ และโดดเด่นด้านการงานเป็นที่ประจักษ์ สร้างคุณประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ โดยไม่จำกัดเพศ อายุ และสาขาอาชีพ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นราชการ รัฐวิสาหกิจ ธุรกิจเอกชน หรือองค์กรอิสระ

ซึ่งในปีนี้มีผู้ที่ได้รับ รางวัลวิศวจุฬากิตติคุณอาวุโส จำนวน 8 ท่าน และรางวัลวิศวจุฬาดีเด่น จำนวน 10 ท่าน อาทิ ศาสตราจารย์ ดร.ปกรณ์ อดุลพันธุ์ ราชบัณฑิตและอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย  นายสุวัฒน์ เชาว์ปรีชา ประธานกรรมการ บริษัท ฤทธา จำกัด นายวิวัฒน์ ทยานุวัฒน์ ประธานบริหารบริษัทในเครือบุญถาวร นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง  และนายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)  เป็นต้น

คอเหล้าเตรียมเฮ! รัฐจ่อปลดล็อกห้ามขายเหล้า-เบียร์ ช่วงเวลา 14.00-17.00 น. ตามข้อเสนอของ 16 องค์กรภาคบริการ รอชงให้ ครม.ไฟเขียว

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม นายธนากร คุปตจิตต์ อดีตนายกสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย และผู้บริหารบริษัทจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เปิดเผยว่า ประเด็นที่จะทำให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์กลับมาคึกคัก คือการที่รัฐเตรียมปลดล็อกระยะเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ช่วงเวลา 14.00-17.00 น. ตามที่ 16 องค์กรภาคบริการ อาทิ สมาคมเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สมาคมค้าปลีก สมาคมผู้ประกอบการถนนข้าวสาร สมาคมร้านอาหาร เป็นต้น ร้องขอให้รัฐยกเลิกประกาศช่วงเวลาห้ามขายดังกล่าวที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2515 ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาลเตรียมปรับปรุงและแก้กฎหมายที่ล้าสมัย ทางภาคเอกชนจึงเสนอเรื่องดังกล่าว ล่าสุด รับทราบว่ามีสัญญาณที่ดีที่จะยกเลิกประกาศห้ามขายดังกล่าว และคณะกรรมการพัฒนากฎหมายของรัฐจะเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป

“เรื่องการห้ามขายช่วงเวลาบ่ายสองถึงห้าโมงเย็นนี้เราใช้มาแล้ว 50 ปี ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนแปลง ความคิดเแบบเดิมทีเกรงว่าจะมีการสั่งซื้อสั่งกินกันในช่วงทำงานนั้นไม่น่าจะเป็นเรื่องที่สอดรับกับสภาพในวันนี้ ที่มีกฎระเบียบการห้ามดื่มในเวลาทำงานอยู่แล้ว” นายธนากรกล่าว

'ผู้ช่วย รมว.แรงงาน' รับฟังผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจของผู้ประกอบการญี่ปุ่นในประเทศไทย ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นผู้แทนให้การต้อนรับ Mr. TAKETANI Atsushi ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย (JETRO Bangkok) และคณะ เข้าเยี่ยมคารวะพร้อมหารือ เพื่อรายงานผลการสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจของผู้ประกอบการญี่ปุ่นในประเทศไทยช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564

“บิ๊กตู่” ห่วงสุขอนามัยประชาชนในช่วงฤดูร้อน แนะบริโภคน้ำแข็ง-น้ำดื่มอย่างระมัดระวังปฏิบัติตามคำเตือนกรมอนามัย พร้อมสั่งคุมเข้มการลักลอบขนสัตว์เข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ลดความเสี่ยงการเกิดโรคระบาดในสัตว์ 

วันที่ 18 มี.ค.นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าในช่วงหน้าร้อนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยประชาชนเนื่องจากสภาพอากาศร้อน เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่สามารถนำไปสู่โรคอาหารเป็นพิษได้หากบริโภคอย่างไม่ระมัดระวัง โดยแนะนำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมอนามัย บริโภคน้ำแข็งและน้ำดื่มที่สะอาดปลอดภัย ส่วนการรับประทานอาหารให้ยึดหลัก สุก ร้อน สะอาด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอาหารเป็นพิษ 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากสถิติการเฝ้าระวังโรคในปี 2564 ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยที่มีภาวะอาหารเป็นพิษจำนวนกว่า 53,540 ราย เสียชีวิต 1 ราย ชี้ให้เห็นถึงอัตราการเกิดโรคที่ยังสูง ขอแนะนำให้ประชาชนยึดหลัก สุก ร้อน สะอาด คือ รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ด้วยความร้อน เลือกซื้อวัตถุดิบที่สด และล้างให้สะอาดก่อนนำมาปรุงประกอบอาหาร ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ให้สะอาดทุกครั้ง ก่อนปรุงประกอบและรับประทานอาหาร ซึ่งอาการอาหารเป็นพิษยังเกิดได้กับผู้ที่นิยมบริโภคน้ำดื่มหรือน้ำแข็งที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนอีกด้วย โดยกรมอนามัยแนะนำให้เลือกน้ำแข็งหรือน้ำดื่ม จากแหล่งผลิตที่ถูกสุขลักษณะได้มาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) และน้ำแข็งที่มีคุณภาพ เมื่อละลายจะต้องใส ไม่มีตะกอนขาวขุ่น ๆ อยู่ก้นแก้ว สถานที่เก็บรักษาและภาชนะบรรจุภัณฑ์ต้องสะอาด ส่วนน้ำดื่ม ภาชนะบรรจุต้องปิดสนิท สะอาดทั้งภายในและภายนอก พลาสติกปิดรอบฝาปิดต้องอยู่ในสภาพดี ไม่ฉีกขาด มีชื่อผู้ผลิต และสถานที่ผลิตชัดเจน เป็นต้น ซึ่งขอแนะนำประชาชนให้ใส่ใจเรื่องความสะอาด ถูกสุขลักษณะเพื่อลด และควบคุมอัตราการเกิดโรค

นายธนกร กล่าวว่า นอกจากความกังวลด้านโรคติดต่อในคนแล้ว โรคในสัตว์ยังเป็นอีกหนึ่งโจทย์ที่รัฐบาลให้ความสำคัญวางมาตรการอย่างเข้มงวดรัดกุม โดยนายกรัฐมนตรีได้รับรายงานการลักลอบนำเข้าสินค้ามีชีวิตประเภทโค ผ่านเรือบรรทุกจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านสู่ประเทศไทยในเขตพื้นที่ชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอนอย่างผิดกฎหมาย รวมถึงการขนย้ายสัตว์ชนิดอื่นเข้า-ออกราชอาณาจักรแบบไม่มีใบอนุญาต ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ควบคุม บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ทั้งเพื่อดูแลพื้นที่ชายแดนให้ปลอดภัย เป็นไปตามกฎหมาย และเพื่อเป็นการปฏิบัติตามมาตรการกักกันสัตว์และโรคระบาดที่ส่งผลโดยตรงต่อผู้ประกอบการและเกษตรกรในภาคอุตสาหกรรมปศุสัตว์ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top