Wednesday, 3 July 2024
Hard News Team

ชง ศบศ. เปิดประเทศรับคนฉีดวัคซีนไม่ต้องกักตัว คาดนำร่อง ภูเก็ต-พัทยา-เชียงใหม่

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบศ. วันที่ 26 มีนาคมนี้ กระทรวงกหารท่องเที่ยวจะรายงาน แนวทางการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ สำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนมาจากประเทศต้นทางครบ 2 โดสแล้วสามารถมาเที่ยวไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว แต่จะทำเป็นแซนด์บ็อกซ์ หรือจำกัดพื้นที่เพื่อทำการทดสอบ เบื้องต้นมองว่ามี 3 พื้นที่ที่มีความพร้อม คือ จังหวัดภูเก็ต ชลบุรี (พัทยา) และเชียงใหม่ แต่มีข้อแม้ว่า ถ้าทดลองทำเรื่องนี้จะต้องมีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในจังหวัดให้ได้อย่างน้อย 70% ก่อนจึงจะเริ่มต้นทำได้

“ส่วนตัวมองว่าอยากให้เริ่มได้ในไตรมาสที่ 3 ปีนี้  ที่ผ่านมากระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้คุยกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แล้ว รวมไปถึงทางจังหวัดทั้ง 3 แล้ว โดยจะเริ่มต้นจังหวัดที่มีความพร้อมก่อน คือ ภูเก็ต จากนั้นจึงทำที่พัทยา โดยขอให้ทางจังหวัดนำเสนอมาว่าต้องการวัคซีนจำนวนเท่าใด ล่าสุดทางภูเก็ต แจ้งมาว่าต้องการ 9.25 แสนโดส และพัทยา 9.5 แสนโดส ส่วนเชียงใหม่ยังไม่ได้แจ้งตัวเลขมา โดยรูปแบบการทำแซนด์บ็อกซ์นั้น จะทำก่อนในจังหวัดที่มีสนามบิน และเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวได้ในพื้นที่ หรือเส้นทางที่กำหนดไว้ หากครบ 7 วันไม่มีการติดเชื้อแน่นอน ก็สามารถเดินทางได้ทั่วประเทศ”

ทั้งนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังได้รับหนังสือจาก 8 สมาคมท่องเที่ยว ประกอบด้วย สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว(แอตต้า) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ สมาคมสายการบินแห่งประเทศไทย สมาคมสปาไทย และสมาคมธุรกิจสายการบินประเทศไทย ซึ่งได้เสนอแผนการบริหารจัดการวัคซีนและแผนการเปิดประเทศโดยไม่ต้องกักตัว 1 กรกฎาคม เพื่อต่อลมหายใจให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว จากผลกระทบของโควิด-19 ที่ยาวนานกว่า 1 ปี

"บิ๊กป้อม" ยอมรับ สั่งถอด ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์จากวิป รบ. เป็นมาตรการลงโทษทางการเมือง ย้ำ ภท. พอใจแล้ว ฉุนสื่อฯ ถามให้ตีกัน

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบกรณี 6 ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์งดลงคะแนนให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่ผ่านมา ว่า เขาได้ลงโทษไปหมดแล้วและได้ขอโทษไปกับพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ไปบ้างแล้ว 

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลหรือวิปรัฐบาล โดยถอด ส.ส.บางคนในกลุ่มดาวฤกษ์ ออกไปเป็นการลงโทษอย่างหนึ่งของพรรคพปชร.ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ใช่และให้ออกทุกตำแหน่งที่เกี่ยวกับการเมือง เป็นเวลา 3 เดือน อีกทั้งดำเนินการลงโทษทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเมือง 

เมื่อถามว่าพรรคภท. ยอมรับกับผลการลงโทษของพรรคพลังประชารัฐใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “พรรคภท. โอเค” พร้อมกับหันไปตอบสื่อด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายว่า “สื่อจะถามทำไม ผมไม่เข้าใจเลย จะถามให้ตีกันให้ได้ แปลก  จะให้ตีกับใครล่ะ ให้ผมตีกับภท.หรือ"   จากนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวยืนยันว่า “จะไม่เกิดรอยร้าว กับภท.แล้ว ” 

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แนวทางการลงโทษนี้ จะทำให้ พรรคภท.และพรรคพปชร. เกิดความสมานฉันท์ใช่หรือไม่ พลเอกประวิตร กล่าวว่า มันเป็นแนวทางของพรรคการเมืองและส.ส. กลุ่มดาวฤกษ์ก็เป็นส.ส.สมัยแรก เขาอาจจะไม่เข้าใจ และการลงโทษก็ถือว่าเป็นกฎของพรรคการเมือง

“อนุทิน” ยัน! รมต.สลับกระทรวง “คมนาคม-พาณิชย์” ไม่มีอะไรซับซ้อน แค่ทำงานคล่องตัวขึ้น

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงข้อวิพากษ์วิจารณ์ถึงการปรับครม.ที่ผ่านมา ที่มีการแลกกระทรวงกันของรัฐมนตรีช่วยของพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ ในส่วนของกระทรวงคมนาคมและพาณิชย์ ที่มองกันว่าอาจทำให้ไม่มีการคานอำนาจกันว่า ถ้ามองอย่างนั้น แล้วรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ไม่มีรัฐมนตรีช่วยใครจะมาคาน มันไม่เกี่ยวกันเลย รัฐมนตรีทุกคนโดยพื้นฐาน โดยหน้าที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต การคานอำนาจคือสภาผู้แทนราษฎรที่คานอำนาจ ทำไม่ดีก็โดนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา ก็เห็นแล้วว่าไม่ใช่พวกมากจะลากไปได้ เห็นกันอยู่แล้วว่าผลโหวตออกมาเป็นอย่างไร ไม่เท่ากันสักคน

“หน้าที่ของรัฐมนตรีคือปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มันคานอำนาจกันเองในกระทรวงไม่ได้ รัฐมนตรีช่วยคนไหนกล้าคานรัฐมนตรีว่าการ เป็นไปได้หรือเปล่าล่ะ อำนาจทั้งหมดอยู่ที่รัฐมนตรีว่าการ ดังนั้นมันไม่มี รัฐมนตรีช่วยต้องทำงานตามที่รัฐมนตรีว่าการมอบหมาย ดังนั้นการที่พรรคเดียวกัน กลุ่มเดียวกัน เป็นหัวหน้าเป็นลูกน้องกัน การทำงานก็มีประสิทธิภาพได้ ทำให้กระชับยิ่งขึ้น มองในแง่ที่ว่าทำให้งานรวดเร็วยิ่งขึ้นบ้างซิ อย่าไปมองแค่ว่าจะมาทำอะไรกัน”

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าที่ผ่านมารัฐมนตรีคนละพรรคอยู่กระทรวงเดียวกันทำงานไม่เข้าขากันหรือ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกกระทรวงมีรัฐมนตรีว่าการเป็นเจ้ากระทรวงอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลหรอก ดีหรือไม่ดีอยู่ที่รัฐมนตรีว่าการ  เมื่อถามว่าการสลับกระทรวงกันครั้งนี้ไม่มีเหตุผลทางการเมืองใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เหตุผลทางการเมืองก็คือการทำให้การทำงานคล่องตัวขึ้นไม่ดีกว่าหรือ 

“สมมุตผมเป็นรัฐมนตรีว่าการและมีรัฐมนตรีช่วยต่างพรรค ก็อาจจะมีความรู้สึกบ้างได้ว่า แหม เกรงใจเขา เกรงอย่างโน้นอย่างนี้ แล้วอยู่ดี ๆ ก็มีคนมาออฟเฟอร์ว่า เอาไหม สลับกันไหม จะได้ทำงานได้เต็มที่ คล่องตัวขึ้น ผมก็เอา นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างกระทรวงคมนาคมและกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งไม่มีอะไรที่สลับซับซ้อนเลย อำนาจในความรับผิดชอบของกระทรวงแต่ละกระทรวงอยู่ที่รัฐมนตรีว่าการเท่านั้น รัฐมนตรีช่วยเซ็นอะไรไป รัฐมนตรีว่าการก็ยังต้องรับผิดชอบ”

“สุพัฒนพงษ์” เผย รัฐบาล เตรียมความพร้อม ​เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว​ไตรมาส​ 4 ด้านภูเก็ต นำร่องจังหวัดแรก​

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน​ กล่าวก่อนประชุม​คณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า ที่ประชุมจะพิจารณา​ความก้าวหน้า​ของคณะกรรมการและที​มงานปฏิบัติการเชิงรุกด้านเศรษฐกิจที่ลงพื้นที่สำรวจความต้องการของประชาชน​ และจากการติดตามข้อมูลผ่านเวทีเสวนา​ต่างๆ​ มองเห็นถึงโอกาสของประเทศไทยหลังโควิด-16 คลี่คลาย​ จะเป็นประเทศที่น่าสนใจของนักลงทุนต่างชาติ​ โดยเฉพาะการขยายฐานการผลิตรวมถึงยังมีกลุ่มผู้สูงอายุที่จะเดินทางมาพักอาศัยในประเทศไทยหลังเกษียณ​ที่จะสามารถทำประกันสุขภาพได้ด้วย ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยได้ประโยชน์ด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรม​ทางการแพทย์​ 

นายสุพัฒนพงษ์​ กล่าวว่า ส่วนแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวตามกำหนดการเดิมที่จะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในไตรมาส​ที่ 4​ ก็จะมีการพิจารณาจังหวัดท่องเที่ยวที่เป็นที่ยอมรับและเป็นที่รู้จักโดยเฉพาะพื้นที่แถบอันดามัน​มาเป็นจังหวัดนำร่อง​ แต่เนื่องจาก​ยังไม่ทราบจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาเนื่องจากทุกประเทศเพิ่งจะเริ่มฉีดวัคซีน​โควิด-19​ จึงต้องมีการประเมินสถานการณ์​ภาพรวมอีกครั้งว่า มีความคุ้มค่าหรือไม่ที่จะเปิดประเทศ​ เบื้องต้นมี จ.ภูเก็ตที่แสดงความจำนงเป็นจังหวัดนำร่อง​โดยเสนอขอ​เปิดจังหวัดก่อนไตรมาส​ 4​ และจะเสนอมายังภาครัฐว่าจะดำเนินการอย่างไรบ้าง​

สิ่งสำคัญที่สุดเมื่อดำเนินการแล้วจะต้องมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพื่อความคุ้มค่าและต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ด้วย​ ทั้งนี้ได้ให้ทุกฝ่ายไปทำการบ้านในทุกมิติ​ ทั้งเชิงรุก-เชิงรับ ​โดยเฉพาะความพร้อมรองรับหากเกิดการแพร่ระบาดขึ้น​ โดยถอดบทเรียนจากจังหวัดสมุทรสาคร​ได้​ นอกจากนี้จะมีการรายงานการใช้ประโยชน์​จากโครงการต่างๆของรัฐบาล​ที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อน​เศรษฐกิจ​และบรรเทาความเดือดร้อนด้วย​ 

มิงกาลาบาชีน สวัสดีค่ะ วันนี้ เอย่า ขอนำเสนอเรื่องราวนอกประเทศเมียนมาหน่อยนะคะ เพราะเมื่อเช้าเห็นข่าวพาดหัวตัวแรงว่า Facebook ได้ทำการแบนเพจของ 'Brian Berletic'

เขาคือใครนั่นหรือคะ ? เขาก็คือ Blogger ในช่อง Land Destroyer ที่ทำคลิปออกมาทั้งแฉเบื้องหลังม็อบทำลายสถาบันกษัตริย์ในประเทศไทย รวมถึงคลิปที่ชำแหละว่าเฟซบุ๊กเป็นเครื่องมือของอเมริกาในก่อความวุ่นวายในประเทศต่าง ๆ ตั้งแต่อาหรับสปริงมาจนถึงสถานการณ์ในเมียนมานั่นเอง

หลังจากที่เอย่าไปดูช่อง Land Destroyer แล้วเห็นได้ว่าไบรอันมีคลิปเยอะมาก และหลาย ๆ คลิปเป็นการแหกเบื้องลึก เบื้องหลังว่าตัวการใหญ่ในประเทศหลาย ๆ ประเทศนั้นมีสหรัฐอเมริกาหนุนหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย

ไบรอัน เป็นคนที่พยายามแสดงให้เห็นถึงเบื้องหลังความวุ่นวายในประเทศไทยที่มาจากม็อบก็ดี รวมถึงคลิปอีกหลาย ๆ คลิปที่มีการแฉว่าสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์วุ่นวายในหลาย ๆ ประเทศและเมียนมาก็เป็นหนึ่งในนั้น

ย้อนกลับไปเมื่อสักเดือนที่แล้วไบรอันมีการลงคลิปในช่องของเขาพูดถึง Facebook เป็นเครื่องมือในการเป็นเครื่องมือของฝ่ายที่ทางอเมริกาหนุนหลังอยู่ โดยปิดกั้นการเข้าถึงของอีกฝ่าย (ดูได้จาก : https://youtu.be/d0telN24-kM)

.

.

รวมถึงการเปิดโปงเรื่ององค์กรโอเพ่นโซไซตี้ของ จอร์จ โซรอส โดยชำแหละให้เห็นอย่างชัดเจนว่าจอร์จ โซรอสคือใคร

นอกจากนี้ยังฉีกหน้ารอยเตอร์ว่า เป็นสื่อสนับสนุนให้สหรัฐฯ กระทำผิดในต่างประเทศด้วย หากใครสนใจลองดูจากลิงค์นี้ได้ ซึ่งลิงค์นี้มีการบอกอย่างชัดเจนว่าทำไมกองทัพเมียนมาจึงจัดการอย่างเด็ดขาดกับ Mizzima Media รวมถึงการสมคบคิดครั้งใหญ่เพื่อบ่อนทำลายรัสเซียของรอยเตอร์และบีบีซี : 

.

.

ถึงจุดนี้ เรามาดูกันหน่อยว่าชายคนนี้เป็นใครกันแน่...

ไบรอัน เป็นอดีตนาวิกโยธินของสหรัฐอเมริกา ประจำการอยู่ที่ญี่ปุ่นอยู่หลายปี และในขณะที่เขาประจำการอยู่นั้น เขาได้มาซ้อมรบกับกองทัพไทยทุกปีในชื่อการฝึก Cobra Gold ทำให้เขาได้มีโอกาสได้สัมผัสกับความเป็นไทยและเริ่มสร้าง Blog ขึ้นในชื่อ Anthony Cartalucci และปิดบังหน้าตา

แต่ไม่นานมานี้เมื่อเขาได้เริ่มทำช่อง Land Destroyer เขาได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงและทำการเปิดโปงม็อบต่าง ๆ ที่มีนัยยะว่าใครอยู่เบื้องหลังม็อบเหล่านั้น จนล่าสุดเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนได้ทราบข่าวว่า ไบรอันได้เข้าร่วมทีมกับทางสถาบันทิศทางไทยก่อนที่จะถูก Facebook แบนในวันนี้

เอย่าขอกล่าวสั้น ๆ ว่าการกระทำของ Facebook ในครั้งนี้ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้มั่นใจได้ว่าสิ่งต่างๆที่ไบรอันได้นำเสนอออกมานั้น มีมูลความเป็นจริง

ใครจะไปรู้ว่าภายใต้หน้ากากของกัปตันอเมริกานั้น อาจจะเป็นผู้นำขององค์กรไฮดราอย่างไอ้กระโหลกแดงก็เป็นได้

.

ที่มา: AYA IRRAWADEE


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

สธ.เผยมีผู้เสียชีวิตจากเส้นเลือดในท้องโป่งพองแตก หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 เร่งสอบข้อเท็จจริง แต่คาดไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะป่วยโรคนี้อยู่ก่อนแล้ว มีโอกาสเส้นเลือดจะแตกได้ตลอดเวลา

นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการให้วัคซีนป้องกัน โควิด-19 กล่าวถึงกรณี น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีไข้หลังรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ต้องเข้าโรงพยาบาล 4 วัน ว่าตนไม่ทราบเรื่องนี้เลย

แต่ที่ผ่านมาตามระบบการรายงานติดตามอาการข้างเคียงหลังรับวัคซีนยังไม่พบว่ามีเคสที่มีอาการข้างเคียงรุนแรงแต่อย่างใด ส่วนรายงานอาการข้างเคียงส่วนใหญ่ที่พบเป็นอาการไม่มาก เช่น ปวด บวม แดงบริเวณที่ฉีด และอาการมีไข้หลังการรับวัคซีน ก็เป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ ส่วนใหญ่ประมาณ 1 วันหรือ 2 วันก็หายแล้ว

นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า ส่วนผลข้างเคียงรุนแรงที่พบ มี 2 ราย แพ้วัคซีนในลักษณะลมพิษขึ้น ส่วนอีก 1 ราย ที่กำลังนำเข้าพิจารณาในคณะกรรมการพิจารณาอาการข้างเคียงหลังรับวัคซีน คือ กรณีมีผู้ป่วยเส้นเลือดในท้องโป่งพอง แตกและเสียชีวิตหลังรับวัคซีน แต่คาดว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับวัคซีน

เนื่องจากว่าผู้ป่วยรายนี้ป่วยโรคเส้นเลือดโป่งพองในท้อง อยู่ระหว่างรับการรักษาอยู่แล้ว ซึ่งโรคนี้มีโอกาสที่เส้นเลือดจะแตกได้ตลอดเวลา ซึ่งก็เกิดขึ้นหลังรับวัคซีน ดังนั้น ตามหลักแล้วเมื่อมีอะไรที่เกิดขึ้นระหว่างการรับวัคซีนก็ต้องนำเข้าคณะกรรมการเพื่อสอบสวนต่อไป

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงรายละเอียดของผู้เสียชีวิต นพ.โสภณกล่าวว่า ขอให้สอบถามไปยังกรมควบคุมโรค เบื้องต้นคาดว่าอายุน่าจะไม่ถึง 60 ปี

.

ที่มา : https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000028891


สนับสนุนข่าวโดย : รับข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์ ในงาน Mazda Motor Show สัมผัสปิกอัพใหม่ All-New Mazda BT-50 และยนตรกรรมสกายแอคทีฟจากมาสด้า ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* รับประกันคุณภาพรถสูงสุด 5 ปี* และบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บ.* 24 มี.ค. 64 - 4 เม.ย. 64 ที่บูธและโชว์รูมทั่วประเทศ

“หมอหนู” ยัน คนเสียชีวิตไม่เกี่ยววัคซีน ชี้! “มนัญญา” มีผลข้างเคียงเป็นเรื่องปกติ กราบเท้าปชช.วัคซีนมาแล้วต้องฉีด ย้ำสธ.ไม่ปิดกันนำเข้าวัคซีน ไฟเขียว จอห์นสันให้โรโรงบาลเอกชน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีมีผู้ฉีดวัคซีนโควิดแล้วมีผลข้างเคียง บางคนถึงขั้นเสียชีวิตหลังได้รับวัคซีน จะสร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้อย่างไร ว่า ข่าวที่ออกมาว่าคนที่ฉีดแล้วเส้นเลือดในกระเพาะแตกเสียชีวิตนั้น ขอยืนยันว่าสาเหตุไม่ได้มาจากวัคซีน 100% เขาคงมีปัญหาในเรื่องของเส้นเลือดเป็นทุนอยู่ และอาจเป็นจังหวะพอดีกัน ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้หารือกับแพทย์อาวุโสด้านต่าง ๆ ทุกคนบอกว่าไม่ได้มีสาเหตุมาจากวัคซีน อธิบดีกรมควบคุมโรคจะมีการแถลงให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง ตามหลักการแพทย์ ขออย่าให้ตื่นตกใจ อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนทุกชนิดสามารถกิดขึ้นได้ มากบ้างน้อยบ้างเป็นเรื่องปกติ เป็นที่ยอมรับทางการแพทย์

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่มีผลข้างเคียง นายอนุทิน กล่าวว่า ตนได้โทรศัพท์สอบถามอาการตั้งแต่วันแรกแล้ว ซึ่งรมต.ทุกคนมีเรื่องอดนอนเข้ามาเกี่ยวแน่นอน เพราะพักผ่อนน้อย รมต.คนไหนนอน 2 ทุ่มตื่น 6 โมงเช้าก็คงถูกนายกฯ ถามแน่นอนว่าทำไมไม่ทำงาน ดังนั้นมีหลายปัจจัยซึ่งนางสาวมนัญญา ก็ไม่ใช่ว่าจะอายุน้อย ไม่ใช่สาวน้อยร้อยชั่ง เป็นสาวน้อยวัยใกล้เกษียณย่อมมีผลข้างเคียงได้อีกทั้งเดินทางก็มากรับงานรับความเครียดต่าง ๆ ย่อมมีโอกาสที่จะได้รับผลข้างเคียงแต่เมื่อมีไข้จึงเดินทางไปโรงพยาบาล 2 วันก็หาย ไม่ได้เป็นอะไรรุนแรง 

ดังนั้นปัจจัยหลายอย่างรวมกันไม่ใช่วัคซีนอย่างเดียว นายกฯ เองก็บอกว่าฉีดแล้วอารมณ์ดี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ก็ฉีดและยังแข็งแรงดีบางครั้งอาจจะเป็นจังหวะของเรื่องความเครียดอย่างตนในวันที่ฉีดเข็มที่ 2 ก็ความดันขึ้นทั้งที่เตรียมตัวมาอย่างดี แต่เมื่อฉีดแล้วก็รู้สึกกังวลลึก ๆ ว่าถ้าฉีดไปแล้ววูบไปตอนนี้จะทำอย่างไรเพราะมีนักข่าวมาทำข่าวอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะนั้นตนเองก็กลัวเหมือนกัน เมื่อยิ่งกลัวก็ยิ่งเครียดถึงขั้นจับชีพจรตัวเองรู้สึกว่าชีพจรเต้นเร็วแต่สุดท้ายก็ไม่เป็นอะไร 

ดังนั้นขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจด้วยเพราะเป็นวัคซีนใหม่แต่ขอยืนยันกับทุกคนจะต้องฉีดเพื่อป้องกันโควิด 19 และกรมควบคุมโรคก็ยืนยันอีกครั้งว่าการฉีดวัคซีนจะไม่ทำให้อาการของโรคปกติที่ประชาชนมีอยู่ทวีความรุนแรง และไม่เสียชีวิตจากโรคโควิด 19 เมื่อได้รับวัคซีน ซึ่ง 2 ปัจจัยนี้ก็เพียงพอแล้ว ยืนยันได้ว่าเมื่อได้รับวัคซีนแล้วผลข้างเคียงไม่รุนแรง100% ไม่ตาย100% เพราะผลการทดลองของผู้ผลิตวัคซีนและสถาบันทารงการแพทย์ชั้นนำของโลกเขาก็มีผลรับรองอยู่แล้ว 

นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ตนั้น ตนยังไม่ระบุว่าจะเริ่มต้นได้เมื่อไหร่เพราะต้องให้กรมควบคุมโรคและทีมแพทย์กระทรวงสาธารณสุขประเมินเป็นระยะ และวันนี้จะต้องทุ่มวัคซีนเข้าไปที่ จ.ภูเก็ต จะเริ่มทยอยฉีดได้ในสัปดาห์หน้าให้ภูเก็ต 1 แสนโดส เกาะสมุย 5 หมื่นโดส สมุทรสาคร 1 แสนโดส กทม. 1 แสนโดส ส่วนเดือนหน้าก็จะมาอีก 1-2 ล้านโดส ซึ่งจะมาตามคำสั่งซื้อเดิมจะได้กระจายไปพื้นที่ต่างๆปลายเดือนพฤษภาคม หรือ ต้นมิถุนายนทะยอยมาเรื่อย ๆ เริ่มฉีดไปเรื่อย ๆ 

“ต้องขอวิงวอนว่าเมื่อวัคซีนมาพร้อมแล้ว ผมต้องกราบเท้าพี่น้องประชาชนทุกคนว่าให้มารับการฉีด อย่ากลัวเพื่อรองรับวัคซีนที่มาในแต่ละเดือน ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้รับวัคซีนแล้วก็ได้อาสาสมัครไปเป็นคนที่บริจาคเลือกหลังได้รับวัคซีน 2 เข็มไปทดสอบว่าสามารถสร้างภูมิต้านทานได้หรือไม่ เพราะถ้าหลายคนที่ฉีดแล้วสามารถสร้างภูมิต้านทานได้แสดงว่าผู้ได้รับวัคซีนส่วนใหญ่สร้างภูมิคุ้มกันได้แล้วเราจึงค่อยมาพิจารณาเรื่องการผ่อนคลายกันเช่นเปิดเมือง การเดินทางสัญจรไปมา ซึ่งเมื่อฉีดวัคซีนไปได้ 5-10 ล้านคนสามารถทยอยเปิดประเทศได้ แต่ไม่ขอระบุว่าเป็นวันไหนเดือนไหน เพราะต้องให้ทางการแพทย์เป็นผู้ประเมิน” 

เมื่อถามถึงวัคซีนของบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ที่ผ่านการรับรองของ อย.แล้วจะสามารถฉีดให้ประชาชนได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับ บริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสันจะขายให้รัฐบาลหรือไม่ เพราะขณะนี้ยังเป็นเพียงการขึ้นทะเบียนให้กับจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าบริษัทใดก็ตามที่มาขึ้นทะเบียนเรารับเอาไว้เพื่อลบคำครหา ที่ว่าเราเลือกปฏิบัติ แต่รัฐบาลได้คุยกับบริษัทดังกล่าวว่าขอให้เป็นหลังจากที่ แอสตราเซนิกา ส่งได้หมดตามคำสั่งซื้อทั้ง 61 ล้านโดสแล้ว เพราะเราถือว่าแอสตราเซนิกา เป็นวัคซีนหลักที่ใช้กับคนไทยซึ่งจะทยอยส่งได้ในเดือนมิถุนายนดังนั้นไม่ว่ายี่ห้อใดที่จะมาหลังจากนั้น ถือว่าเป็นช่วงที่เราไม่ได้มีความต้องการมาก 

แต่ที่เราต้องการคือช่วงจากนี้ถึงมิถุนายนซึ่งนายกฯ ให้ความสนับสนุนเต็มที่เพราะมีความเป็นห่วงคนไทย โดยบอกว่า ถ้ามีใครมาก่อนในช่วงนี้ก็ให้ซื้อ ซึ่งเราก็มีกฎหมายรองรับว่าซื้อเพื่อมารองรับสถานการฉุกเฉินแต่ในช่วง 2 เดือนนี้ไม่มีบริษัทไหนส่งให้ได้แม้แต่ จอห์นสันแอนด์จอห์นสันที่มาพบตนก็บอกว่าจะได้ช่วง ตุลาคม - ธันวาคม ถ้าเป็นช่วงนั้นเราก็ได้วัคซีนหลักมาแล้ว แต่ถ้าวันหนึ่งจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน  มีความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ของตัวเอง แล้วไปถอนการใช้วัคซีนฉุกเฉินจากสหรัฐเขาก็สามารถนำมาขายภาคเอกชน ในภาวะปกติเพื่อฉีดให้กับคนที่ยอมเสียเงินนั้นก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขยืนยันจะให้การสนับสนุนให้นำเข้าได้เพื่อนำมาใช้กับภาคเอกชนได้ไม่ปิดกั้นเพราะจะเป็นประโยชน์กับภาครัฐ

“รัฐมนตรีป้ายแดง” เดินทางกลับหลังตรวจโควิด-19 “ตรีนุช-ชัยวุฒิ” กลับรถคันเดียวกัน

ภายหลังรัฐมนตรีใหม่ 4 คน เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และใช้เวลาบนตึกไทยคู่ฟ้าประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อพูดคุยและแนะนำตัวต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จากนั้นแยกย้ายเดินทางกลับ โดยนางสาวตรีนุช เทียนทอง รมช.ศึกษาธิการ และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ จากพรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางกลับโดยรถยนต์คันเดียวกัน โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน

“นิพนธ์” ถกคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่สาธารณประโยชน์-ที่ดินเอกชนทิ้งร้าง นัดแรกปี 64 สั่งเข้ม! ทุกจังหวัดเร่งประชุม ติดตาม รายงานความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาที่ดินฯให้อนุกรรมการฯ ทุกเดือน จนกว่าจะแก้ไขเสร็จสิ้น

ที่ห้องประชุมราชสีห์ กระทรวงมหาดไทย นายนิพนธ์  บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่สาธารณประโยชน์และที่ดินเอกชนปล่อยทิ้งร้าง ครั้งที่ 1/2564 ซึ่งได้รับมอบหมายจากพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในฐานะประธานอนุกรรมการฯ ขับเคลื่อนและติดตามผลการแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องของกลุ่มประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-move) โดยมีนายณรงค์ สืบตระกูล รองอธิบดีกรมที่ดิน  ผอ.สำนักจัดการที่ดินของรัฐ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ทั้งนี้เป็นการหารือต่อจากการประชุมคณะอนุกรรมการฯ ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 12 ก.พ.63  

รวม 4 กรณี คือ

1.) เร่งรัดให้คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อแก้ไขปัญหาที่สาธารณประโยชน์และที่ดินเอกชนปล่อยทิ้งร้างของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และระดับจังหวัด 14 จังหวัด  

2. ) กรณีที่สาธารณประโยชน์ “โคกภูพระ” ต.กุดแห่ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร  

3.) กรณีที่สาธารณประโยชน์ “โคกปออีกว้าง” ต.กุดเชียงหมี อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร  

4.) กรณีชุมชนทับยาง ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา

โดยที่ประชุมได้พิจารณาแก้ไขปัญหาข้อเรียกร้องของกลุ่มประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-move) ซึ่งสรุปได้ดังนี้คือ

1.) กรณีชุมชนมะลิแก้ว ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต  

2.) กรณีที่สาธารณประโยชน์ทุ่งทับใน ต.แหลม อ.หัวไทร  จ.นครศรีธรรมราช  

3.) กรณีชุมชนไทดำ หมู่ที่ 1 ต.ทรัพย์ทวี อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี  

4.) กรณีชุมชนโนนป่ายาง ต.หญ้าปล้อง ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  

5.) กรณีที่ทำเลเลี้ยงสัตว์ป่ายางชุมภูมิตำรวจ ต.ห้วยสำราญ อ.ขุขันธุ์ จ.ศรีสะเกษ  

6.) กรณีที่สาธารณประโยชน์โนนอีหง่อม โนนหนองห้าง โนนม่วง  ต.หัวช้าง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ

7.) กรณีที่สาธารณประโยชน์โนนสามพันตา ต.ขัวเรียง อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น

8.) เสนอให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงการแก้ไขปัญหาที่ดินสาธารณประโยชน์ และที่ดินเอกชนปล่อยทิ้งร้างของพี มูฟ ใน จ.เชียงราย และจ.เชียงใหม่ 

โดยนายนิพนธ์ กล่าวว่า “ขอสั่งการไปยังส่วนราชการที่รับผิดชอบในพื้นที่ให้เร่งประชุมติดตามความคืบหน้า และเร่งรัดคณะทำงานในทุกจังหวัดที่เกี่ยวข้องให้หาแนวทางแก้ไขปัญหา ให้เป็นไปตามข้อตกลง ทำความเข้าใจร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยต้องรายงานผลความคืบหน้าให้ฝ่ายเลขานุการของคณะอนุกรรมการชุดนี้รับทราบทุกเดือน จนกว่าจะพิจารณาปัญหาเหล่านี้แล้วเสร็จ"

“ราเมศ” ย้ำ! ร่าง กม. ประชามติ ส.ส. ส.ว.ต้องคำนึงถึงเสียงประชาชน

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีร่าง พรบ. ว่าด้วยการทำประชามติที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของรัฐสภาว่า 
ทุกฝ่ายต้องรับฟังซึ่งกันและกัน มุมมองของกรรมาธิการเสียงข้างน้อยก็มีเหตุมีผล 5 เงื่อนไข ที่ได้กำหนดขึ้นในมาตรา 9 ต่อการทําประชามติ ได้แก่

1.) การออกเสียงที่เกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามที่มีบทบัญญัติกําหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ

2.) การออกเสียงกรณีเมื่อ ครม. เห็นว่ามีเหตุอันสมควร

3.) การออกเสียงตามที่กฎหมายกําหนดให้ต้องมีการออกเสียง

4.) การออกเสียงในกรณีที่รัฐสภาได้พิจารณาและมีมติเห็นว่าเป็นเรื่องที่มีเหตุสมควรที่จะให้มี การออกเสียงและได้ชี้แจงเรื่องให้ ครม. ดําเนินการ

และ 5.) การออกเสียงกรณีประชาชนเข้าชื่อเสนอต่อ ครม. เพื่อให้ความเห็นชอบการออกเสียง ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่คณะกรรมการกําหนด ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาไปแล้วในมาตรา 9 

โดยส่วนตัวเชื่อว่าไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะยังมีอีก 4 มาตรา ที่ต้องปรับปรุงมาตรา 10 มาตรา 11 มาตรา 14 และมาตรา 15 ให้สอดคล้องต้องกัน รัฐสภาสั่งฝ่ายบริหารไม่ได้ แม้จะถูกหลักการแต่ฝ่ายบริหารเห็นควรกับเหตุผลที่จะทำประชามติในบางเรื่องได้ ประชาชนใช้สิทธิเข้าชื่อเพื่อขอให้ถามความเห็นประชาชนในบางเรื่อง ปชช. เป็นเจ้าของอำนาจ ขอรัฐบาลเพื่อให้พิจารณาจัดทำประชามติคงจะไม่มีอะไรร้ายแรงถึงขนาดเกิดความเสียหายใหญ่โต มีแต่เกิดประโยชน์ รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ 2 มาตราก็จริงอยู่คือ มาตรา 166 และ มาตรา 256(8) แต่ มาตรา 166 ก็ระบุไว้ชัดว่า ครม. ขอให้มีการออกเสียงประชามติได้ ทั้งนี้ตามที่กฎหมายบัญญัติ เปิดกว้างไว้ให้ออกกฎหมายกำหนดรายละเอียดได้ การกำหนดให้รัฐสภาและประชาชน ขอ ครม. ให้ทำประชามติจึงไม่ใช่การก้าวก่ายแทรกแซง เพราะท้ายที่สุดก็อยู่ที่ ครม. เห็นสมควร 

นายราเมศ กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นในความเป็นมืออาชีพของสำนักงานกฤษฎีกา และเชื่อว่าสมาชิกรัฐสภาจะได้พิจารณากันอย่างรอบด้านและยึดหลักการรับฟังเสียงของประชาชนเป็นหลักการสำคัญที่สุด พรรคจะได้มีการเรียกประชุม ส.ส. ก่อนการประชุมร่วมรัฐสภาต่อไป ร่างกฎหมายประชามติ ไม่อยากให้นำมาเป็นประเด็นผูกโยงเป็นเรื่องการเมือง แต่ถ้ามีใครตั้งใจดึงรั้ง หรือไม่ให้ผ่าน จะด้วยเหตุผลใดก็ดี ผู้นั้นก็ต้องรับผิดชอบ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top